[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

53) [Episode 4 :: Friendly Lover] # Chapter 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 4 Friendly Lover

:: Chapter 13 ::

 

            ฉันค่อยๆ ดันเปลือกตาขึ้นเพราะความรู้สึกเย็นๆ ที่หน้าผาก เพดานสีครีมพร้อมไฟระย้าปรากฏอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบอโรม่าลอยคละคลุ้งอยู่รอบตัวทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกปวดหัวอย่างที่คิดเอาไว้เลย นี่ฉันเป็นลมไปหรอ? หรือว่า...ถูกวางยา O_O!

            ฉันรีบดันตัวลุกขึ้นนั่งก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์สีทอง รอบๆ ห้องถูกตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปอย่างหรูหรา ทั้งแจกันตั้งพื้น กรอบรูปห้อยผนังและโคมไฟข้างเตียงดูแล้วคงราคาไม่ใช่ถูกๆ แน่

            “คุณหนู ตื่นแล้วหรอคะ”  อยู่ๆ เสียงผู้หญิงวัยกลางคนก็ดังเข้ามาในการรับรู้ ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงนั้นอย่างตกใจเพราะฉันไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนอยู่ในห้องนี้กับฉันด้วย

            “คุณเป็นใครคะ? แล้ว...ที่นี่ที่ไหน?”  ฉันยิงคำถามไปให้คุณป้าคนนั้นทันที ดูท่าทางเหมือนเป็นแม่บ้านที่ถูกใช้ให้มาดูแลฉันยังไงยังงั้นเพราะดูเรียบร้อยและสุภาพกับฉันมาก

            “คือ...ดิฉันว่าคุณหนูรอถามคุณท่านดีกว่าค่ะ”  คุณป้าคนนั้นก้มหน้าก้มตาเก็บผ้าชุบน้ำวางไว้ในอ่างแล้วรีบลุกขึ้นจากข้างเตียงทันที

            “คุณท่านที่คุณพูดถึง คือคนที่มอมยาแล้วพาฉันมาที่นี่ใช่ไหม!”  ฉันคว้าข้อมือของคุณป้าคนนั้นไว้ ฉันไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ หรอกนะ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ ฉันจำได้ว่ายังนั่งคุยอยู่กับลีซาซาอยู่เลย...

            ลีซาซาหรอ?

            “โธ่...หนูพูดแรงไปนะ ‘มอมยา’ หรอ?”  ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยเมื่อว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็น...

            “คุณ...?”  ฉันส่งเสียงออกไปอย่างงงๆ เพราะฉันไม่คิดว่าคุณลุงโอวังซองที่แสนใจดี ที่มีรอยยิ้มอบอุ่นคนนั้นจะมอมยาฉัน...หรือฉันอาจจะเข้าไปผิดไปเองรึเปล่านะ? บางทีฉันอาจจะไม่ได้โดนมอมยาก็ได้ คุณลุงเขาท่าทางใจดี ไม่มีทางทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นหรอกมั้ง!

            “สวัสดีจ้ะหนูวิล ^_^”  คุณลุงคนนั้นเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ เตียง คุณป้าที่เช็ดตัวให้ฉันก่อนหน้านี้จึงลุกเดินออกไปนอกห้องเงียบๆ

            “ที่นี่ที่ไหนคะ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”  ฉันพยายามใจเย็นถามออกไปด้วยเสียงที่เรียบที่สุด ลุงคนนั้นยิ้มมุมปากก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆ ฉัน

            เอาแล้วไง =_=;

            “ที่นี่บ้านฉันเอง...สวยไหม?” 

            “แล้ว คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?”  ฉันเริ่มถามออกไปโดยไม่มีหางเสียง เพราะฉันรู้สึกว่าไม่ควรจะมีมารยาทกับคนแบบนี้ จริงอยู่ที่รอยยิ้มและท่าทางต่างๆ ดูอบอุ่นเหมือนกับครั้งก่อนที่เจอกัน แต่แววตามันเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน!

            “ก็ฉันต้องการอยู่กับหนูสองคนไง...ฉันเลยพาหนูมาที่นี่ ^_^”

            “ว่าไงนะ!!”  ฉันร้องออกมาดังๆ แล้วรีบถอยหลังรูดไปอยู่ที่ขอบเตียงอีกด้านเพราะคิดว่าน่าจะไกลจากตาลุงหื่นนี่มากที่สุดแล้ว!

            “อ้าว! ซาซ่าไม่ได้บอกหนูหรอกหรอว่าจะถูกส่งตัวให้ฉัน”  ตาลุงนั่นขมวดคิ้วนิดหน่อย

            “ลีซาซาหรอ...”  ฉันทวนคำแล้วนิ่งคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมาสดๆ ร้อนๆ

            “เรื่องนี้มันจบไม่ได้ง่ายๆ หรอก...เธอเห็นวงการนี้เป็นยังไง...เธอคิดว่ามันสวยงามมากนักหรอ?...” 

            “ฉันหมายความว่าวงการนี้ถ้าเธอคิดจะอยู่ให้ได้ เธอก็ต้องยอมแลกกับอะไรหลายๆ อย่างน่ะสิ...เธอจำข่าวดาราชื่อจางมุนอาฆ่าตัวตายได้ไหม...คนๆ นั้นเป็นรุ่นพี่ฉันเอง...เธอเครียดมากที่โดนกดดันจากพวกเบื้องบนให้ไปทำเรื่องที่เสียศักดิ์ศรี เธอทนไม่ไหวจนต้องฆ่าตัวตายหนีความจริงที่โหดร้าย...”

            “ถ้าอยากรู้นักก็ไปดูเองแล้วกัน...” 

          เรื่องที่เขาลงข่าวกันโครมๆ มันคือความจริงงั้นหรอ...ทำไม...ทำไมพี่นาบีไม่เห็นจะบอกเรื่องนี้กับฉันสักคำ ทำไมพี่นาบีถึงปล่อยให้ฉันต้องมาโดนทำลายศักดิ์ศรีแบบนี้ได้ล่ะ ทำไม!!!

            “โถ...หน้าซีดเชียว ซาซ่าไม่ได้บอกก็ไม่เป็นไร งั้นฉันบอกเองก็ได้...”  อยู่ๆ เสียงของตาลุงนั่นก็ดังอยู่ตรงหน้าฉัน ตอนนี้มันขึ้นมานั่งบนเตียงกับฉันแล้ว!

            “อย่าเข้ามานะ!!!” 

 

            [Son Dongwoon : Talk]

            “ว่าไงนะ วิลล่าออกไปกับลีซาซา!!”  ผมร้องลั่นห้องเมื่อพี่ยองกวางมาตามหาวิลล่าถึงห้องหอเพราะวิลล่าไม่ไปทำงานหลังจากที่มีคนเห็นออกไปกับลีซาซา

            ทำไม 2 คนนั้นถึงออกไปด้วยกันได้นะ!

            “เรื่องมันเป็นยังไงคะ ฉันงงไปหมดแล้ว”  พี่เภตราเข้าไปถามพี่ยองกวางอย่างร้อนใจ

            “คือตอนนั้นมันจะถึงเวลาเริ่มงานแล้วแต่วิลล่ายังไม่มาสักทีผมกับทีมงานเลยออกมาตาม รู้จากพนักงานในล็อบบี้ว่าวิลล่าไปคุยกับลีซาซาแล้วอยู่ดีๆ วิลล่าก็เป็นลม ลีซาซาเลยอาสาพาวิลล่ามาส่ง ผมรู้มาแค่นี้แหละครับ”  พี่ยองกวางอธิบาย

            “บ้าเอ้ย!”  พี่ณัชสบถออกมาดังๆ  “ฉันนึกว่าเรื่องยัยลีซาซามันจบแล้วนะ!! ถ้าเกิดวิลเป็นอะไรขึ้นมาฉันไม่ยกโทษให้นายแน่ดงอุน!!”  พี่ณัชหันมาชี้หน้าผมด้วยท่าทางโกรธจัด ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลีซาซาต้องการอะไร แต่เรื่องทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นเพราะผมคนเดียวจริงๆ นั่นแหละ...ถ้าเกิดวิลล่าเป็นอะไรไปผมก็คงไม่ยกโทษให้ตัวเองไปตลอดชีวิตเหมือนกัน!

            “ฉันรู้ว่าเธอห่วงวิลล่า แต่ใครๆ เขาก็ห่วงวิลล่ากันทั้งนั้นแหละ ฉันว่าเอาเวลาที่เธอมาโทษคนนั้นคนนี้ว่าผิด มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะหาตัววิลล่าเจอได้ยังไง”  พี่ฮยอนซึงพูดกับพี่ณัช ทำให้พี่เขาดูเย็นลงเล็กน้อย

            เรื่องมันเกิดขึ้นที่ใครก็ต้องตามหากับคนนั้นสินะ!

            ผมโทรออกไปหาลีซาซาทันทีที่คิดได้ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับเพราะลีซาซาปิดเครื่อง โธ่เว้ย! ทำยังไงล่ะ

            “โทรไม่ติดหรอ”  พี่ดูจุนถามทันทีที่ผมกดวางสายเพราะคงจะรู้ว่าผมกำลังพยายามโทรหาใคร

            “ครับ”  ผมตอบสั้นๆ ขณะที่พยายามควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ก่อนที่มันจะเตลิดไปมากกว่านี้

            ‘รู้ไหมว่านายทำกับฉันไว้แสบมาก!!’

            อยู่คำพูดของลีซาซาก็ดังก้องขึ้นมาอยู่ในหัว ที่ลีซาซาไม่ยอมจบเพราะวันนั้นสินะ...ผมทิ้งเธอไว้กับคุณมินนาแล้วพาวิลล่ากลับหอ ในวันที่เธอต้องไปเจรจาหรือจะเรียกให้ถูกก็คงเป็นการขอร้องโอวังซองสปอนเซอร์และหุ้นส่วนใหญ่ของค่ายที่ลีซาซาสังกัดอยู่ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสภาพ ผู้หญิงของโอวังซอง

            อ่านไม่ผิดหรอกครับ ลีซาซาเป็นคนที่น่าสงสารมากและเดินทางผิดในวงการนี้ตั้งแต่ต้น เธอมีความสามารถมากก็จริง แต่เธอเลือกที่จะดันตัวเองให้ดังเร็วๆ โดยการยอมเป็นผู้หญิงของคนใหญ่คนโตให้เขาควงเล่นๆ แต่พอวันที่อยากเลิกขึ้นมา มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เธอเลยต้องทนอยู่ในสภาพแบบนั้นมานาน ขนาดตอนนั้นที่เธอพยายามขัดคำสั่งไม่ยอมไปหาโอวังซอง เธอยังโดนคนของโอวังซองมามอมยาเพื่อที่จะพาตัวไปเลย (คงจำข่าวที่ผมกับลีซาซาถูกปาปารัสซี่ถ่ายได้ใช่ไหมครับ วันนั้นแหละ -_-!)

            “ผมว่าเราไปหาลีซาซาเลยดีกว่าครับ”  ผมพูดแล้วรีบเดินไปคว้ากุญแจรถทันที ถ้าผมคิดไม่ผิดเรื่องนี้โอวังซองต้องมีเอี่ยวด้วยแน่!

            เราทั้งหมดเดินทางมาถึงคอนโดของลีซาซา ก็พอดิบพอดีกับตอนที่เธอเปิดประตูพรวดออกมา ท่าทางของเธอดูรีบร้อนมาก ในมือถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่รูดซิบปิดไม่สนิทด้วยซ้ำ

            “เธอกำลังจะไปไหน!”  พี่ณัชเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของลีซาซาอย่างรวดเร็ว ดูจากสภาพห้องที่ถูกรื้อออกมาจากที่อย่างรีบร้อนนั้นแล้ว ผมยิ่งมั่นใจว่าการหายตัวไปของวิลล่าดูจะไม่ธรรมดาซะแล้ว

            “ฉัน...ฉันไม่รู้เรื่องยัยวิลล่านะ!”  ลีซาซาสะบัดหน้าไปมาแล้วร้อนรน เหงื่อเม็ดเล็กๆ เริ่มผุดขึ้นมาให้เห็นทั้งที่ยังไม่มีใครถามอะไรเกี่ยวกับวิลล่าเลย

            “ใจเย็นๆ”  พี่ดอกหลิวเข้าไปแยกพี่ณัชออกมาจากลีซาซา

            “บอกฉันมาเถอะซาซ่า”  ผมพูดกับลีซาซาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เธอช่วยบอกผมดีๆ

            “ใช่...ฉันขอร้องล่ะ ฉันจะไม่เอาผิดเธอก็ได้ แค่บอกมาว่าวิลล่าอยู่ที่ไหน”  พี่เภตราเข้าไปจับไหล่ของลีซาซาไว้ทั้ง 2 ข้าง ดวงตาแดงก่ำเพราะก้อนน้ำตาที่เริ่มรื้อขึ้นมา ผมหันไปมองหน้าลีซาซาอย่างคาดหวังว่าเธอจะยอมบอกแต่ลีซาซาก็ยังสะบัดหน้าไปมาเหมือนคนไม่มีสติ

            “ไม่นะ! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น อย่าคาดคั้นฉันเลย...ฉันไม่รู้!! ฉันไม่รู้!!”

            “ซาซ่า อย่าทำแบบนี้สิ บอกพวกเราเถอะ”  ผมขอร้องอีกแรง แต่ลีซาซาก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่รู้ไม่เห็น

            โธ่! อย่าทำแบบนี้สิ ผมจะบ้าตายอยู่แล้วนะ ขอร้องเถอะ! ช่วยบอกทีได้ไหม!!

            เพี๊ยะ!

            อยู่ๆ ใบหน้าของลีซาซาก็หันไปทางด้านขวาด้วยแรงตบจากมือพี่เภตรา ทุกอย่างเหมือนหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะก่อนที่จะมีเสียงตะโกนเคล้ากับเสียงสะอื้นของพี่เภตราดังขึ้น

            “เลิกบ้าสักทีได้ไหม!! ฉันไม่ได้จะมาฆ่าเธอหรือจะส่งเธอให้ใครทั้งนั้น ฉันแค่มาตามหาน้องฉัน! เอาน้องฉันคืนมา!!!”  พี่เภตราตะโกนลั่น จนท้ายๆ ประโยคมีเพียงเสียงตะโกนที่แหบพร่า ตัวสั่นเทิ้มไปกับก้อนสะอื้นที่ถูกปล่อยออกมา

            ผมหายใจถี่ๆ เพราะลุ้นกับลีซาซาว่าเธอจะยอมพูดไหม

            “ขอร้องล่ะซาซ่า...”  ผมขอร้องอีกครั้ง ลีซาซาหันมามองหน้าผมก่อนจะปล่อยโฮออกมาแล้วทรุดนั่งลงกับพื้น

            “ท่านบอกฉันว่า จะยอมปล่อยฉันถ้าเกิดฉันทำงานอย่างหนึ่งสำเร็จ...”  ลีซาซาพูดแล้วร้องไห้ออกมากับฝ่ามือของตัวเอง ใจผมกระตุกวูบไปทีหนึ่งกับคำพูดของเธอเพราะถึงเธอจะไม่ได้พูดต่อผมก็พอจะเข้าใจแล้วว่าวิลล่าหายไปไหน!

            “อย่าบอกนะว่า...”  พี่เฝ้าฝันพูดแล้วยกมือขึ้นปิดปากตัวเองก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอาบแก้ม ส่วนพี่ Lusty คนอื่นๆ ก็ถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกแม้กระทั่งคนที่เลือดร้อนอย่างพี่ณัชก็ตาม

            “ท่านสนใจวิลล่า...เลยบอกฉันว่าจะยอมปล่อยฉันไป ถ้าฉันพาวิลล่าไปพบท่านได้” 

            ฟุบ!

            ทันทีที่ลีซาซาพูดจบร่างของพี่เภตราก็ทรุดลงไปกองที่พื้นตรงหน้าลีซาซาทันที พี่เขาไม่ได้ร้องไห้หรือพูดอะไรเลยสักคำ ดูเหมือนพี่เขาจะช็อคจนพูดไม่ออกหรือแม้กระทั่งร้องไห้ออกมาก็ยังไม่ได้ ส่วนผมก็ช็อคไม่ต่างกัน ผมรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว เหมือนโลกลอยคว้างไปมาอย่างอิสระจนผมต้องใช้มือค้ำกำแพงที่อยู่ใกล้ๆ เอาไว้

            “เภ!! เภ!!!”  เสียงพี่ดูจุนเรียกพี่เภตราดังขึ้น ทำให้สติของผมกลับคืนมา

            “พา...พาเภไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”  พี่เฝ้าฝันที่ดูเหมือนตั้งสติได้ก่อนเพื่อนพูดขึ้นมา แล้วพี่ดูจุนก็อุ้มพี่เภตราออกไปตามไปด้วยพี่เฝ้าฝันและพี่โยซอบ

            “ตอนนี้โอวังซองอยู่ที่ไหน”  พี่ฮยอนซึงเข้าไปนั่งอยู่ข้างหน้าลีซาซา แต่เธอก็เอาแต่ร้องไห้แล้วส่ายหน้าแรงๆ แทนคำตอบ

            “นังนี่! เดี๋ยวฉันจะทำให้ร้องไห้ไม่หยุดเลยเอาไหม!!!”  พี่ณัชพูดแล้วทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ลีซาซาอีกครั้ง แต่ก็ถูกพี่ฮยอนซึงที่อยู่ตรงกลางขวางไว้ได้ก่อน

            “ฉันว่าพวกนายสองคนไปหาคุณนาบีก่อนดีกว่า ฉันคิดว่าเขาต้องช่วยได้แน่”  พี่จุนฮยองพูดกับพี่ฮยอนซึง พี่ฮยอนซึงพยักหน้ารับแล้วลากพี่ณัชออกไปด้วยกัน

            “ฉันว่าเราต้องรู้ก่อนว่านายโอวังซองอะไรนั่นมีที่อยู่ที่ไหนบ้าง พวกคอนโด บ้านพักอะไรงี้”  พี่ดอกหลิวเสนอ ผมรู้สึกว่าตัวเองพยักหน้าทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาคุยอะไรกัน

            “นี่ดงอุน! ตั้งสติหน่อยสิ วิลล่ายังตกอยู่ในอันตรายอยู่นะ!”  พี่กีกวังเข้ามาตบไหล่ผมแรงๆ เพื่อเรียกสติ

            จริงสินะ! ตอนนี้วิลล่าคงกำลังหาทางกลับมาอยู่ก็ได้ หรืออาจจะกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่ที่ไหนแน่ๆ เพราะฉะนั้นผมต้องตั้งสติและหาทางพาเธอออกมาจากอันตรายนั้นสิ!

            “ว่าไง เธอรู้ไหมว่าโอวังซองมีบ้านพักหรือว่าคอนโดที่ไหนบ้าง”  พี่กีกวังถามต่อ

            “ถ้าเธอไม่รู้ เอาที่ที่มันเคยพาเธอไปก็ได้”  พี่จุนฮยองเสริม

            “ฉัน...ฉันจำไม่ค่อยได้หรอก แต่เท่าที่รู้ในโซลมีอยู่สิบกว่าที่”  ลีซาซาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยายามอธิบาย ผมเลยนั่งลงข้างๆ เธอเพื่อที่จะฟังได้ถนัดๆ

            “สิบกว่าที่!”  พี่หยาสบถออกมาดังๆ แล้วท่าเหมือนลมจะจับ

            มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาใครสักคนหนึ่งในโซล ถึงจะรู้สถานที่แต่ถ้ามี 10 กว่าที่แบบนี้แถมมีเวลาแค่ระยะสั้นๆ ไม่มีทางหาเจอแน่

            “นี่ยังไม่รวมพวกโรงแรมที่ไปประจำนะ ถ้าเกิดรวมก็ประมาณเกือบยี่สิบ”  ลีซาซาพูดไปสะอื้นไป แต่ก็ไม่มากเท่าเมื่อกี๊

            “จดมาทั้งหมดนั่นแหละ เดี๋ยวพวกเราหาเอง!”  พี่จุนฮยองสรุปอย่างหัวเสีย

            หลังจากที่ลีซาซาจดรายชื่อคอนโด บ้านพักและโรงแรมที่โอวังซองไปเป็นประจำให้ รวมแล้วก็ประมาณ 17 ที่ ถ้าเกิดเราต้องหากันเองโดยไม่มีเป้าหมายแบบนี้หาทั้งคืนก็คงไม่เจอวิลล่าแน่ๆ ถึงจะแยกกันไปก็คงจะยาก ทำยังไงนะ!

            “เราจะไปกันยังไงดี แยกกันหาหรอ”  พี่ดอกหลิวถามอย่างหมดหวังหลังจากที่เราออกมาจากห้องของลีซาซาแล้ว

            “สงสัยต้องให้แฟนแกช่วยแล้วล่ะจุนฮยอง”  พี่กีกวังพูดพลางมองรายชื่อทั้ง 17 ที่นั้น

            “ห๊ะ! ยัยนั่นเนี่ยนะ จะช่วยได้หรอ” 

            “แฟนแกออกจะกว้างขวาง คุณหนูซอเชียวนะเว้ย!”  พี่กีกวังพูด  “แล้วอีกอย่าง วิลล่าก็เป็นเพื่อนของเขา เขาต้องช่วยเต็มที่แน่ ว่าแต่แกเหอะบอกของขวัญรึยังว่าวิลล่าหายไป”

            “เอ่อ...ยังเลย -_-;”

            “อ้าว!”  ทุกคนร้องออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายรวมทั้งผมที่ยืนฟังอยู่นานแล้วด้วย ทำไมพี่เขาไม่บอกเนี่ย ถ้าเกิดให้เพื่อนๆ ของของขวัญแล้วก็คนของประธานซอช่วยหาอีกแรงคงจะเจอไม่ยากแท้ๆ

            “ยัยนั่นสอบ เขาให้ปิดมือถือก่อนเข้าห้องสอบ”  พี่จุนฮยองอธิบายพร้อมสีหน้าสำนึกผิดนิดหน่อย “แต่เดี๋ยวฉันจะบอกให้ช่วยแล้วกัน ตอนนี้คงสอบเสร็จแล้วล่ะ”

            “ให้ไวเลย”  พี่กีกวังพูดอย่างรีบร้อน ตอนนั้นเองลิฟต์ที่เรายืนรอกันอยู่ก็มาถึง แต่เรายังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปในนั้น ก็มีคนมาขวางทางเราไว้!

            ชอนแอ...งั้นหรอ!!

            “ชอนแอ!”  ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน ชอนแอยิ้มให้พวกเราก่อนจะกดปิดลิฟต์ที่อยู่ด้านหลังตัวเองให้ลงไปชั้นล่างสุด

            “หลีกเดี๋ยวนี้นะ! เรากำลังรีบ”  พี่หยาวีนใส่ชอนแอทันทีที่ลิฟต์ปิดลง

            “ฉันไม่มีทางให้ไปแน่ จะไปช่วยยัยวิลล่านั่นใช่ไหม?”  ชอนแอถามเสียงกร้าว

            “ใช่...เพราะฉะนั้นช่วยหลีกทางด้วยนะ เรากำลังรีบมาก ขอร้องล่ะ...”  ผมพูดเสียงเรียบและพยายามไม่แสดงอารมณ์มากจนเกินไปเพราะเท่าที่รู้ฤทธิ์เดชมา คนๆ นี้ไม่น่าต่อกรด้วยในเวลานี้ ยิ่งต่อความยิ่งจะยาวไปกันใหญ่

            “ไม่ค่ะ ฉันไม่ยอมให้พี่ไปหรอก!!”

            “ขอร้องล่ะชอนแอ...”  พี่กีกวังขอร้องอีกคน

            “ไม่!!”

            “นี่! เรื่องคอขาดบาดตายนะ! ช่วยหลบด้วย!!!”  พี่หยาพูดอีกครั้ง แต่ดูเหมือนชอนแอจะไม่ยอมหลบให้เราไปง่ายๆ เลย

            “เดี๋ยวก่อนนะ เธอรู้ได้ยังไงว่าเรากำลังจะไปช่วยวิลล่า”  อยู่ๆ พี่จุนฮยองก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าชอนแอ ชอนแอมีท่าทีอึกอักทันที เธอหลบสายตาไปมองด้านล่างอย่างรวดเร็วเหมือนเธอไปรู้อะไรเกี่ยวกับวิลล่ามาอย่างนั้นแหละ

            “เธอรู้อะไรมา!”  พี่จุนฮยองถามต่อโดยเพิ่มน้ำเสียงให้เข้มขึ้นเล็กน้อย

            “คือ...ฉัน ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกค่ะ...แค่...แค่ได้ยินพวกพี่คุยกับพี่ลีซาซาเมื่อกี๊”  ชอนแอตอบตะกุกตะกักและพยายามหลบสายตาตลอดเวลา

            “จริงหรอ?”  พี่กีกวังถาม ชอนแอรีบพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

            “ถ้าไม่รู้อะไรจริงๆ ก็หลีกให้พวกเราไปเถอะ ถ้าเธอได้ยินตอนที่เราคุยกับลีซาซาล่ะก็ เธอก็น่าจะรู้ว่าวิลล่ากำลังตกอยู่ในอันตรายขนาดไหน”  ดอกหลิวอธิบายพร้อมกับสีหน้าอ้อนวอน

            “ยิ่งอันตรายน่ะสิดี ถ้าเกิดพี่วิลล่าเสียตัวให้กับไอ้เสี่ยนั่น พี่ดงอุนก็จะไม่มีทางสนใจแน่ เพราะฉะนั้นฉันไม่ให้ไปช่วยหรอก!”

            “นังชอนแอ!! พูดอะไรออกมาน่ะห๊ะ!!”  พี่หยาร้องออกมาทันทีที่ชอนแอพูดจบ แล้วเข้าไปกระชากคอเสื้อของชอนแอขึ้นมา ตาทั้งสองข้างเบิกโพลงด้วยความโกรธจัด

            “ถ้าเกิดเป็นเธอ เธอจะทำยังไง? เธอจะยอมนอนกับใครก็ไม่รู้ง่ายๆ เลยไหม!”  พี่หยาตะโกนใส่หน้าชอนแอ ชอนแอนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะยิ้มออกมา

            “ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงน่ะนะเพราะฉันยังไม่เคยโดนอุ้มไปแบบนั้น ไว้ค่อยไปถามยัยวิลล่านั่นเองก็แล้วกันว่าจะทำยังไง”

            “นังนี่!”  พี่หยาเงื้อมือขึ้นจะตบ แต่พี่จุนฮยองก็จับข้อมือของพี่หยาเอาไว้

            “เราเสียเวลามามากแล้ว ไปเถอะลิฟต์มาแล้ว” 

            พี่จุนฮยองพูด พวกเราเลยหันไปมองลิฟต์อีกตัวที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งพี่ดอกหลิวเข้าไปยืนรออยู่แล้ว พวกเรารีบผละออกจากชอนแอแล้ววิ่งเข้าไปในลิฟต์ แต่พอผมเดินพ้นประตูลิฟต์เข้ามาผมก็รู้สึกเหมือนถูกกอดขาเอาไว้

            “ชอนแอ!”  ผมหันไปเรียกชื่อชอนแอที่นั่งอยู่กับพื้นและกอดขาผมเอาไว้ ขณะที่ประตูลิฟต์ปิดลงและเปิดใหม่เมื่อเซ็นเซอร์ของประตูชนกับท่อนขาของชอนแอ

            “พี่อย่าไปนะ อย่าไปช่วยมัน!”  ชอนแอพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม

            “ไม่ได้หรอก ฉันต้องไปช่วยวิลล่า”

            “ทั้งที่มันอาจจะเป็นของคนอื่นไปแล้วงั้นหรอคะ!!”

            “ใช่!! ถึงแม้จะเป็นของคนอื่นไปแล้ว แต่พี่ก็ยังยืนยันว่าจะไปช่วยและจะยังรักวิลล่าอยู่!”

            “...”  ชอนแอไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก แต่ร่างของเธอกลับยิ่งกระตุกมากขึ้นเพราะก้อนสะอื้นที่ไหลรินออกมามากขึ้นกว่าเดิม ระหว่างที่ประตูลิฟต์ก็ยังคงปิดและเปิดออกอยู่อย่างนั้น

            “พี่รักมันมากหรอ...”  ชอนแอพูดด้วยเสียงที่แหบพร่าพร้อมกับเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมามองผม ใจผมหล่นตุบที่ตาตุ่มทันทีเพราะสีหน้าของชอนแอดูเหมือนจะเจ็บปวดมาก

            มีผู้หญิงกี่คนแล้วนะที่เสียใจเพราะผมแบบนี้...

            “ใช่...”  ผมตอบออกมาเบาๆ

            “แล้วฉันล่ะ ฉันเป็นแฟนคลับพี่นะ ฉันเป็นคนที่รักพี่มากที่สุดพี่ไม่รู้หรอ!!”  ชอนแอพูดพร้อมกับเขย่าขาผมแรงๆ ผมเลยต้องนั่งลงไปจับไหล่ของชอนแอเอาไว้เพื่อให้สงบสติอารมณ์ลง

            “มันไม่เหมือนกันนะชอนแอ...เธอเป็นแฟนคลับฉัน เธอรักฉันฉันรับรู้ได้และซาบซึ้งใจมากที่คอยสนับสนุนฉัน แต่กับวิลล่ามันไม่เหมือนกัน...ฉันอยู่ไม่ได้แน่ถ้าวิลล่าเป็นอะไรไป”  ผมพูดกับชอนแอเบาๆ เธอมองหน้าผมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาอาบแก้มไม่ขาดสายแล้วไม่พูดอะไรอีก ผมเลยพยุงเธอลุกขึ้นแล้วพาออกมาส่งนอกลิฟต์ แต่พอผมจะเดินกลับเข้าไปในลิฟต์ชอนแอกลับกอดผมไว้จากทางด้านหลัง เธอกอดผมแน่นมากจนผมกระดิกตัวไม่ได้

            “พี่ดงอุน...ฉันรักพี่นะ...แต่ทำไมพี่กลับรักยัยวิลล่ามากกว่า ทำไมคะ?....ทำไม?...”

            “ชอนแอ ปล่อยฉันเถอะ ขอร้อง...”  ผมเกลี้ยกล่อมและพยายามแกะมือเธอออกได้สำเร็จ

            “พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! ฉันรักพี่นะ!!”  ชอนแอร้องออกมาแล้วพยายามจะเข้ามารั้งผมไว้แต่พี่จุนฮยองกับพี่กีกวังออกมาจากลิฟต์เพื่อช่วยกันเธอออกจากผมอีกแรง

            “พี่รู้ไหมว่าพี่ทำผิดต่อฉัน ทำผิดต่อแฟนคลับทุกคนที่รักพี่ ถึงจะบอกว่ามีแฟนแล้วแฟนคลับเขาบอกว่ารับได้แต่จริงๆ แล้วเขาเจ็บมากนะที่คนที่เขารักไปรักคนอื่นน่ะ...”

            ฟุบ!

            อยู่ๆ ผมไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป แต่มารู้ตัวอีกทีผมก็คุกเข่าลงต่อหน้าชอนแอซะแล้ว เรื่องนี้ถ้าเกิดเขาบอกว่าผมผิด ผมก็พร้อมจะยอมรับผิดทุกอย่างโดยไม่โต้แย้งอะไร...ขอแค่ให้เรื่องมันจบและไปช่วยวิลล่าได้ทันเวลาก็พอ

            “พี่...”  เสียงของชอนแอดังขึ้นเบาๆ แต่ผมไม่ได้เงยหน้าไปมองหรอกว่าเธอมีสีหน้ายังไงเพราะผมก้มหน้าให้เธออยู่

            “ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษที่ทำให้พวกเธอต้องเจ็บปวด แต่ถ้าคนๆ นี้เป็นอะไรไป ฉันคงอยู่ไม่ได้ คงยิ้มให้ใครไม่ได้และคงร้องเพลงให้ใครฟังไม่ได้อีกแล้ว เพราะเขาคือคนที่สำคัญสำหรับฉัน...เขาคือทุกอย่างของฉัน...”

            “ตั้งแต่ฉันมาก่อกวนยัยวิลล่าที่โรงรถ พวกพี่ก็ตัวติดกันตลอดจนฉันเข้าใกล้ยัยนั่นไม่ได้เลยแต่ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการมาเฝ้ายัยวิลล่ามันได้เจอพี่ทุกวัน”  ชอนแอพูดเสียงเรียบ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองชอนแอที่ยังถูกพี่กีกวังกับพี่จุนฮยองจับเอาไว้อย่างงงๆ ผมไม่รู้ว่าเธอพยายามจะพูดอะไรกันแน่

            “ฉันจ้องเล่นงานยัยวิลล่าอยู่ทุกวัน จนวันหนึ่งฉันก็เจอของดีเข้า...”  ชอนแอยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ มาตรงหน้าผมอย่างทุลักทุเลเพราะถูกล็อกแขนเอาไว้ ผมรับมันมาดูก็เห็นทะเบียนรถและบ้านเลขที่ที่ไหนสักแห่งที่อยู่แถวชานเมือง

            “ทะเบียนรถของคนที่พาวิลล่าไป แล้วก็...ที่อยู่ที่ยัยนั่นถูกขังเอาไว้ ไปให้ทันแล้วกันนะ”  ชอนแอพูดแล้วสะบัดแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมก่อนจะนั่งลงตรงหน้าผม

            “ฉันไม่รู้ว่าความรักของพี่เป็นยังไง...แต่นี่...คือความรักของฉัน”  ชอนแอพูดแล้วดันตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินแยกไป

            “เดี๋ยว!”  ผมร้องเรียกชอนแอเอาไว้ ก่อนจะดึงร่างเล็กๆ นั้นเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความดีใจและเป็นการขอบคุณที่เธอช่วยผม

            “ขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ ฉันจะไม่ลืมวันนี้เลยน้องสาวของฉัน”  ผมพูดก่อนจะผละออกจากชอนแอแล้วรีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดรออยู่นานแล้ว

            รอก่อนนะวิลล่า...ฉันกำลังจะไปช่วยเธอ!!

 

 

 

 

 

****************************

เพิ่มอีกตอนค่ะ Chapter ต่อไปก็จะจบ Ep.4 แล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ ^_^

****************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา