[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

54) [Episode 4 :: Friendly Lover]# Chapter 14<THE END>

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 4 Friendly Lover

:: Chapter 14 ::

THE END

 

            [Villa: Talk]

            ฉันนิ่งมองจานสเต็กราคาแพงตรงหน้าโดยไม่ได้รู้สึกหิวเลย เพราะเจ้าของของมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าสัตว์! แต่ถึงรังเกียจขนาดไหนฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งอยู่เงียบๆ พยายามไม่กระโตกกระตากและทำใจเย็นๆ เอาไว้ เพราะหลังจากที่ฉันปฏิเสธโอวังซอง มันก็พาฉันมานั่งกินข้าวในห้องอาหารสุดหรูของบ้าน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นกับความอลังการและความหรูหราของมันเลยสักนิด

            “หนูวิลล่า กินอะไรหน่อยเถอะ”  โอวังซองพูดด้วยแววตาอ้อนวอนแต่ฉันไม่ตอบ ฉันไม่อยากจะคุยกับคนแบบนี้ให้เสียปาก!

            “เฮ้อ...หนูคิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกนานงั้นหรอ ถึงวันนี้หนูไม่ยอมฉัน...วันพรุ่งนี้ยังไงหนูก็ต้องยอม!”

            ฉันเบือนหน้าออกไปมองนอกระเบียงแทนที่จะพูดหรือตอบคำถามใดๆ จริงสินะ...ถึงวันนี้ฉันจะปฏิเสธและเลี่ยงได้ แต่วันต่อๆ ไปฉันจะทำยังไงถ้าไม่มีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดไอ้แก่หื่นนี่มันใช้กำลังบังคับฉันขึ้นมา ฉันคงไม่รอดมานั่งดินเนอร์อยู่แบบนี้แน่!!

            ...แล้วดงอุนเขาจะคิดยังไงนะ เขาจะคิดว่าฉันเป็นของคนอื่นไปแล้วรึเปล่า! เขาจะเกลียดฉันไหม!

            “ดูหนูวุ่นวายใจจังเลยนะวิลล่า”  โอวังซองถาม ฉันเลยถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างตั้งใจเพื่อให้คู่สนทนารู้ว่าฉันเบื่อที่จะนั่งฟังแล้ว

            “ฮึ! มาแรกๆ ก็แบบนี้แหละ อย่างซาซ่าทีแรกก็ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนแต่พอฉันยื่นข้อเสนอให้เท่านั้นแหละ ยอมฉันซะราบคาบ”  โอวังซองพูดด้วยน้ำเสียงภูมิอกภูมิใจ จนฉันถึงกับต้องหันไปมองหน้าของโอวังซองเพราะว่าเรื่องที่ฉันได้ฟังเมื่อกี๊มันไม่เห็นจะน่าภูมิใจและน่าอวดตรงไหนเลย คนแบบนี้ก็มีในโลกด้วยหรอเนี่ย!!

            “คุณนี่มัน!”       

            “หนูไม่อยากดังเหมือนซาซ่าบ้างหรอ มีงานเข้ามาให้ทำตลอด มีเงิน มีชื่อเสียง...”

            “ไม่! ถ้าต้องแลกกับอะไรทุเรศๆ แบบนี้ฉันขอเป็นคนธรรมดาเดินดิน ใช้ชีวิตปกติๆ ยังจะดีกว่า!”

            “ไม่เอาน่าอย่าขึ้นเสียงแบบนั้นสิ ฉันเป็นคนขี้ตกใจง่ายนะ...ฉันแค่อยากบอกหนูเฉยๆ ว่ามันไม่ได้ยาก แล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่หนูพูดเลย”

            “เห๊อะ!!”  ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เพราะฉันเอือมกับความเห็นแก่ตัวของไอ้แก่หัวงูนี่จริงๆ

            “วิลล่า...อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังบังคับหนูเลย ฉันจะให้เวลาหนูคิดคืนนี้คืนเดียว ว่าจะยอมดีๆ หรือจะให้ฉันต้องใช้กำลัง”

            “ทางเลือกฉันมีแค่นี้น่ะหรอ? ไม่ต้องให้ฉันเลือกเลยดีกว่าไหม!!!”  ฉันตะโกนลั่นจนบอร์ดี้การ์ดที่ยืนคุ้มกันอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องอาหารเดินเข้ามาในห้องเตรียมจู่โจมใส่ฉันเต็มที่ แต่โอวังซองยกมือห้ามเอาไว้ก่อน

            “ใจเย็นๆ คิดให้ดีเพราะว่าผลดีจะเกิดขึ้นกับหนูเอง”

            “ดีกับผีน่ะสิ! พูดแบบนี้มันเห็นแก่ตัวชัดๆ”

            “โอวังซอง! อยู่ไหน! โอวังซอง!!!”  อยู่ๆ เสียงเสียงหนึ่งที่ฉันไม่นึกว่าจะได้ยินก็ดังขึ้น

            ...พี่นาบีหรอ?

            “อยู่นี่นี่เอง”  พี่นาบียิ้มมุมปากเมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร แต่ก็ถูกขวางไว้โดยบอร์ดี้การ์ดของโอวังซองที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู

            “ว่าไงนาบี”  โอวังซองลุกจากที่นั่งหันไปหาพี่นาบีแล้วพยักหน้าให้บอร์ดี้การ์ด 2 คนนั้นหลีกทางให้

และที่ตามพี่นาบีมาด้วยคือพี่ณัชและพี่ฮยอนซึง

            ทุกคนมาช่วยฉันแล้วสินะ T^T

            “ทำไมพานักร้องของฉันมาที่นี่ ใครอนุญาตห๊ะ!!”  พี่นาบีกอดอกถามด้วยท่าทางโกรธจัด

            “เก่งเหมือนกันนี่ รู้ได้ยังไงว่าฉันพาวิลล่ามาที่นี่”

            “อย่างแกน่ะ มันหาตัวไม่ยากหรอก ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่ายุ่งกับศิลปินค่ายฉัน!!”  พี่นาบีตะคอก

            “ฮึ! ก็แค่นิดหน่อยจะเป็นไรไป ฉันเป็นสปอร์นเซอร์หลักๆ ของงานสาขาบันเทิงเชียวนะ”

            “ถึงค่ายฉันจะไม่ได้เงินสนับสนุนจากแก ค่ายฉันก็อยู่ได้! ไม่จำเป็นต้องขายศิลปินกินหรอก!”

            “มั่นใจหรอฮันนาบี!!” 

            ทั้งสองคนนิ่งมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร พี่นาบีกำหมัดจ้องโอวังซองเขม็ง ส่วนโอวังซองก็ขบกรามแน่นจนฉันที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงฟันขบกระทบกันดังกรอดๆ พวกเขาเหมือนคนที่ไม่ถูกกันมาเป็นชาติแล้วยังไงยังงั้นเลย

            “เอาตัวออกไป!”  สิ้นเสียงโอวังซองพี่นาบีก็ถูกบอร์ดี้การ์ด 2 คนล็อกแขนเอาไว้แล้วพาออกไปพร้อมกับพี่ณัชและพี่ฮยอนซึง แต่ออกไปยังไม่พ้นประตูห้องก็...

            ตุบ!

            พลัก!

            พี่นาบีหลุดรอดออกจากการจับกุมโดยผู้ชาย 5 คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร พร้อมๆ กับของขวัญที่เดินอาดๆ เข้ามาด้วยอารมณ์ที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าพร้อมจะกระทืบทุกคนที่เข้ามาขวาง -_-;

            “ทำตัวไม่สุภาพกับสุภาพสตรีแบบนี้ ไม่ดีนะลุง!”  ของขวัญพูดขณะเดินเข้ามาหาฉัน

            ส่วนผู้ชาย 5 คนนั้นก็คือบีสท์ที่เหลือ พวกเขายืนอยู่หน้าห้องเพราะถูกการ์ดกันเอาไว้ ยกเว้นของขวัญคนเดียวที่พวกเขาไม่กล้าเข้ามาขวาง

            “วิลล่า!”  ดงอุนทำท่าจะฝ่าเข้ามาแต่ก็ถูกจับล็อกไว้

            ดงอุน...อย่าพยายามเข้ามาเลย ฉันไม่อยากให้นายต้องเจ็บตัวเพราะฉัน T^T

            “ป่ะวิล ฉันมารับแก”  ของขวัญเดินมาจับมือฉัน ฉันเลยรีบลุกจากเก้าอี้ทันทีแต่โอวังซองรีบคว้าข้อมืออีกข้างของฉันทันที

            “คุณหนูซอ...ทำแบบนี้ไม่ดีมั้ง” 

            “แล้วที่ลักพาตัวคนอื่นมาแบบนี้คิดว่าดีนักหรอ!”  ของขวัญพูดกับโอวังซองเสียงเรียบ แล้วแกะมือของโอวังซองออก

            “ไม่เอาน่า ลักพาตัวอะไรกัน”  โอวังซองหัวเราะแล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ อย่างขบขัน...ฮึ! ขบขันเข้าไปไอ้แก่! อีกหน่อยก็ไม่มีฟันไว้เคี้ยวข้าวแล้ว -_+

            “ไอ้ทุเรศเอ้ย!”  พี่ณัชโพลงออกมาดังๆ ตอนนั้นเองที่มีการ์ดชุดดำอีกประมาณ 10 คนเดินเข้ามาล้อมพวกเราไว้ อีกชั้น

            “สั่งให้คนของลุงหลีกทางด้วย ฉันจะพาเพื่อนฉันกลับบ้าน”  ของขวัญพูดด้วยอารมณ์ที่เบื่อหน่ายเต็มที

            เฮ้ๆ แกสั่งยังกะเขาเป็นลูกหนี้แกยังงั้นแหละขวัญ =_=;

            “เพื่อน? ล้อเล่นน่า วิลล่าเพิ่งมาอยู่เกาหลีปีครึ่งเองนะ จะรู้จักคุณหนูซอได้ยังไง” 

            “ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฟังหรอกจริงไหม? ยังไงนักสืบของลุงก็คงสืบมาหมดแล้ว แต่อาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ แบบนี้ต้องเรียกเงินคืนนะ”  ของขวัญเหน็บก่อนจะพาฉันเดินออกไปแต่ก็ถูกการ์ดขวางทางไว้

            “ขวัญ!”  ฉันเกาะแขนของขวัญเอาไว้อย่างหวั่นๆ ฉันเริ่มคิดถึงหน้าคุณพ่อกับคุณแม่อันเป็นที่รักขึ้นมาแล้วน่ะสิ พ่อขาแม่ขาช่วยวิลด้วย T^T

            “เรื่องนี้ยังไม่รู้ถึงพ่อฉันนะ ถ้าเกิดพ่อฉันรู้ว่าวิลล่าเป็นอะไรไป...คงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าลุงจะเป็นยังไง”  ของขวัญพูดอย่างเป็นต่อ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกันยังไงและถ้าเรื่องนี้รู้ถึงประธานซอตาแก่หื่นนี่จะเป็นยังไง แต่ฉันก็ภาวนาขอให้โอวังซองยอมทำตามที่ของขวัญพูด

            “หรือถ้าอยากลองก็ให้การ์ดมาขวางฉันไว้เยอะๆ ฉันจะได้ไม่ลังเลโทรไปหาพ่อ”  ของขวัญพูดแล้วล้วงมือถือออกมา

            “หนึ่ง!”  ของขวัญเริ่มนับแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ตัวแรก

            “สอง!” 

            “ฉันว่าไม่ต้องนับหรอก โทรหาประธานซอเลยดีกว่า”  พี่จุนฮยองตะโกนเข้ามาหาของขวัญ

            “นั่นสิ”  ของขวัญเห็นด้วย ก่อนจะลงมือกดหมายเลขโทรศัพท์จนครบทุกตัว

            “จะถอยไหม!!”  ของขวัญร้องขึ้นมาดังๆ แต่โอวังซองก็ยังมีท่าทางลังเลอยู่

            “ฮึ! เตรียมล้มละลายได้เลยท่าประธานโอวังกรุ๊ป!”  พูดจบของขวัญก็ทำท่าจะกด แต่..

            “เดี๋ยวๆๆๆ อย่าๆๆ...อย่าเพิ่ง!”  โอวังซองร้องเสียงหลง ของขวัญจึงลดมือถือลง

            “ว่าไงคะ?”  ของขวัญเอียงคอถาม

            “โอเค ฉันจะปล่อยคุณหนูไปก็ได้”

            “พูดง่ายๆ แบบนี้ก็สิ้นเรื่อง ไม่เห็นต้องใช้กำลังอะไรกันเลย”  ของขวัญพูดแล้วพาฉันเดินออกมาจากห้องอาหารอย่างง่ายดาย

            “อ้อ...แล้วก็อย่ามายุ่งกับเพื่อนของฉันอีกนะลุง ไม่ว่าจะเป็นวิลล่าหรือพี่คนอื่นๆ ถ้าเกิดอะไรทำนองนี้อีก เตรียมบอกลาชื่อโอวังกรุ๊ปได้เลย”

            หลังจากนั้นฉันก็ถูกพากลับมาที่หอพักอย่างปลอดภัย พี่มะนาวเล่าให้ฟังว่า พี่นาบีกับโอวังซองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานตั้งแต่พี่นาบีขึ้นเป็นสมาชิกผู้บริหารของค่ายก็คอยขัดขวางวงจรอุบาทว์นี้มาตลอด จนช่วงหนึ่งพี่นาบีถูกจ้องเล่นงานหนักเลยหลบไปอยู่เมืองไทยสักพัก ประกอบกับไปดูแลโรงเรียนคังยูด้วยเลยห่างหายจากการบริหารบริษัทไปหลายปี

            ส่วนโอวังซองกับของขวัญก็เกี่ยวข้องกันทางธุรกิจ เพราะบริษัทของโอวังซองเป็นบริษัทลูกที่แยกออกมาจากบริษัทของพ่อของขวัญ แต่เพราะการบริหารที่ดีของโอวังซองทำให้บริษัทเติบโตเร็วกว่าบริษัทลูกอื่นๆ ไม่นานมานี้โอวังซองอยากจะขอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทจากประธานซอแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นพิจารณา ของขวัญจึงยังสามารถเอาเรื่องธุรกิจมาขู่ได้อยู่ ครั้งนี้ก็ถือว่าโชคดีกันไปและต้องยกความดีความชอบให้คุณหนูซอของเราเต็มๆ เลยนะงานนี้ ^_^

           

            เรื่องราวต่างๆ เหมือนจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีเรื่องให้เข้ามาปวดหัว(ใจ) อยู่เรื่อยๆ สิน่า U_U (จะจบก็ไม่ได้จบสักทีนะ Ep. นี้ =_=;)

            “ตอนนี้วิลล่าไม่ว่าง...แค่นี้นะ”  ดงอุนพูดกับปลายสาย ก่อนจะตัดสายทันทีแล้วหันมาจ้องหน้าฉันเขม็ง

            “ไอ้เด็กคนนี้มันกล้าดียังไงโทรมาหาเธอ +_+”  ดงอุนจ้องฉันจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า

            “ฉันก็ไม่รู้ สงสัยพี่ทีมงานเอาให้ล่ะมั้ง”

            “บล็อกเบอร์มันไว้เลย อย่าให้มันโทรมาอีก เข้าใจไหม!”  ดงอุนพูดหน้ามุ่ยๆ แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้ฉัน

            “โอเค บล็อกก็บล็อก แต่ต้องรอให้ซีรี่ย์เรื่องนี้จบก่อนนะ ตอนนี้ยังต้องทำงานด้วยกัน เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด”

            “-_-!”

            “น้าาา...”  ฉันเกาะแขนดงอุนแล้วลากเสียงยาวๆ เพราะฉันใช้วิธีนี้อ้อนทีไร ได้ผลทุกที ^_^

            “ได้! แต่ฉันจะไปเฝ้าเธอที่กองถ่ายทุกวัน”

            “ช่วงนี้นายต้องโปรโมทซิงเกิลใหม่ นายจะว่างไปเฝ้าหรอ”

            “ก็ทุกวันที่ฉันว่างนั่นแหละ ฉันไม่ยอมปล่อยให้ใครมาเกาะแกะเธอแน่!”

            “เฮ้อ...ก็ได้ๆ”  ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างอ่อนใจ =_=

            หลังจากที่เราคบกันมา ดงอุนก็ถอดเขี้ยวเล็บจนหมดแต่เปลี่ยนโหมดมาเป็นแฟนที่ขี้หึงที่สุดในโลกแทน ส่วนชอนแอก็เลิกส่งจดหมายมาหาดงอุนแล้ว แต่ส่งมาหาฉันแทน พรรณนาในจดหมายประมาณว่า ให้ดูแลหัวใจนางดีๆ =_=

            โอเค! ฉันจะดูแลหัวใจอสูรน้อยตนนี้ดีๆ แล้วกัน แต่ไม่ใช่เพื่อเธอนะชอนแอ...เพื่อความรักของฉันและดงอุนต่างหาก ^_^

            ฉันรักนาย...เจ้าชายอสูรของฉัน

 

 

 

 

 

THE END

 

01/12/2556

23:04 น.

 

 

 

 

********************************

Ep. 4 จบแล้วค่ะ >O<

ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อๆ ไปด้วยนะคะ

เหลืออีก 2 Episode นิยายซีรี่ย์ Dream story ก็จะจบบริบูรณ์แล้ว 

หวังว่าทุกคนจะติดตามกันจนจบนะคะ ^_^

********************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา