[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

49) [Episode 4 :: Friendly Lover] # Chapter 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 4 Friendly Lover

:: Chapter 9 ::

 

            พอฉันกลับมาถึงแค้มป์ ดงอุนก็มาบอกว่าน้องเขาหนีกลับบ้านไปแล้วเลยยังไม่ได้คุยอะไร งั้นงานนี้ก็คว้าน้ำเหลวสินะ แบบนี้ฉันก็โดนยัยโรคจิตนั่นลากไปทิ้งกลางป่าฟรีๆ เลยน่ะสิไม่น่าเป็นห่วงคนแบบนั้นเลย U_U;

            หลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ ไปแล้ว ฉันกับลีซาซาก็ได้กลับมาก่อนเพราะไม่สบาย ที่แค้มป์เลยต้องแบ่งทีมกันใหม่ ฉันจะคิดว่าเกิดเรื่องคราวนี้มันก็มีข้อดีอยู่บ้างแล้วกัน

           

            วันถัดมา พี่ณัชและพี่เภตราก็กลับมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระโหยโรยแรงเหมือนไปรบมาก็ไม่ปาน แต่แทนที่พีๆ จะได้พักกลับต้องตกใจตื่นเพราะเสียงยัยโอฮานึลเข้าผิดห้อง

            “อ้าว! เธอมาอยู่ห้องดงอุนได้ไงเนี่ย!”  โอฮานึลขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่พอใจนัก

            จะบ้าหรอ! นี่มันห้องฉันต่างหากล่ะ -*-!

            “นี่มันห้องฉัน”  ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

            “อะไรกัน! ฉันเข้าห้องผิดหรอกหรอ”  โอฮานึลทำตาโตพร้อมกับพยายามส่องเข้ามาในห้องของฉันให้ได้

            “ใช่ ดงอุนอยู่ห้องนั้น”  ฉันพูดพร้อมกับชี้ไปที่ประตูห้องข้างๆ

            “รีบๆ ไปได้แล้วไป!”  พี่ณัชเดินมาสมทบที่ประตูพร้อมกับเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง

            “ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอก”  ยัยนั่นเบ้ปากใส่ฉันกับพี่ณัชแล้วเดินไปเคาะห้องข้างๆ ก่อนที่พี่ณัชจะเอื้อมมือไปปิดประตูห้องดังปัง!

            “ไปยืนคุยอะไรกับมันให้ยืดยาวเนี่ย -_-*”  พี่ณัชพูดกับฉันแล้วเดินกลับเข้าไปนอนในห้อง

            ฉันเดินตามเข้าไปเงียบๆ แล้วนั่งเล่นคอมข้างๆ พี่เฝ้าฝันที่นั่งเขียนรายงานอยู่ ยัยโอฮานึลมาหาดงอุนทำไมนะ?

            “สงสัยขนาดไหนก็ห้ามตามไปดูไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ”  อยู่ๆ พี่เฝ้าฝันก็เงยหน้าขึ้นมาจากรายงาน

            เฮ้ย! เป็นหมอต้องเรียนการอ่านใจคนด้วยหรอ ทำไมอ่านได้แม่นจัง o_o?

            “สงสัยอะไรกันคะ! ไม่ได้สงสัยอะไรสักหน่อย”  ฉันทำไขสือไม่รู้เรื่อง

            “ก็ดี เพราะเมื่อกี๊เหมือนเขาจงใจจะมาให้เธอเห็นว่าเขามาหาดงอุนนะ”  พี่เฝ้าฝันพูดพร้อมกับก้มเขียนรายงานไปด้วย

            “ก็มันไม่ใช่เรื่องของวิลนี่คะ วิลไม่ยุ่งหรอก”  ฉันบอก

            “หรอ”  พี่เฝ้าฝันเงยหน้าขึ้นมาพูดคำนี้โดยเฉพาะแล้วก้มลงไปเขียนรายงานของตัวเอง เฮ้อ...สงสัยความรู้สึกของฉันมันจะปิดไม่มิดแล้วจริงๆ สินะ Y_Y

            “...แต่จะดีได้กว่านี้อยู่นะ ถ้า...” 

            “ถ้าอะไร...?” 

            “ถ้า...เธอยอมยกโทษให้ แล้วลองมาคบกับฉันดู ^_^” 

            อยู่ๆ เสียงของดงอุนในวันที่เราอยู่ในถ้ำด้วยกันมันลอยเข้ามาในหัวของฉัน ฉันไม่น่าไปเชื่อคำโกหกของนายเลยดงอุน วันหนึ่งก็ลีซาซา อีกวันหนึ่งก็โอฮานึล แล้ววันต่อๆ ไปจะมีใครมาหานายถึงห้องอีกล่ะ >_<!

            “เฮ้อ...ลืมเอาหนังสือมาจากรถโยซอบหรอเนี่ย”  พี่เฝ้าฝันพึมพำออกมาพร้อมกับควานค้นหาหนังสือทั้งในกระเป๋าและบนชั้น

            “ไปเอาเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ” 

            “เอ๋ มันเยอะขนาดนั้นเลยหรอคะ”  ฉันถามเพราะฉันไม่อยากไปไหนเลย มันรู้สึกเหนื่อยๆ ที่ใจยังไงบอกไม่ถูก =_=;

            “เยอะสิ พี่ยืมมาทำรายงานตั้งห้าหกเล่ม ไปยกช่วยพี่หน่อยนะ”

            “...ก็ได้ค่ะ U_U”  ฉันรับคำ แล้วพี่เฝ้าฝันก็พาฉันมาที่ห้องข้างๆ เพื่อมาขอกุญแจรถจากพี่โยซอบ พอพี่โยซอบเปิดประตูออกมาเหตุการณ์ข้างในกลับปกติเกินคาด เพราะโอฮานึลไม่ได้อยู่ในห้องนั้นแล้ว

            ฉันลงมาที่โรงจอดรถกับพี่เฝ้าฝันเงียบๆ ทิ้งให้เสียงของดงอุนดังซ้ำๆ อยู่ในหัวจนรู้สึกมึนไปหมด แต่ระหว่างที่เดินเกือบถึงรถของพี่โยซอบพี่เฝ้าฝันก็หันมากันฉันไว้

            “ชู่~”  พี่เฝ้าฝันทำท่าจุ๊ปากประมาณว่าให้เงียบๆ พร้อมกับดันไหล่ฉันให้นั่งลงข้างๆ รถคันหนึ่งระหว่างที่เสียงการสนทนาของชายหญิงคู่หนึ่งลอยมาให้ได้ยิน ถึงแม้ว่าเสียงมันจะเบาแต่ฉันก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของดงอุนและโอฮานึล!

            “ในเมื่อเธอมาเห็นแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรมากก็กลับได้แล้ว”  ดงอุนพูดเสียงเรียบอย่างน่ากลัว มันฟังดูไร้เยื่อใยดีจริงๆ =_=

            “โธ่ คนอุตส่าห์เป็นห่วง พูดแบบนี้ฉันก็น้อยใจสิ”  ฉันไม่ได้มองว่า 2 คนนั้นทำหน้ายังไงกันอยู่ แต่ตอนนี้ฉันเดาได้เลยว่ายัยฮานึลต้องกำลังแอ๊บแบ๊วทำหน้ามุ่ยใส่ดงอุนอยู่แน่ๆ

            “เธอต้องการอะไรกันแน่ ที่ทำเป็นเข้าห้องผิดนั่นอีก เธอตั้งใจจะทำอะไร”  ดงอุนถามห้วนๆ การพูดคุยแบบนี้ฉันไม่ค่อยได้ยินจากดงอุนเลย รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะ

            “ฮึ! แสดงว่าที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เนี่ย เพราะฉันไปยุ่งกับยัยวิลล่านั่นใช่ไหม!”  ฮานึลถามเสียงแข็งขึ้น  “ทำไม? กลัวยัยนั่นเข้าใจผิดหรอ!”

            “เลิกเรียกวิลล่าว่า ‘ยัยนั่น’ ได้แล้ว”  ดงอุนออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด จนฉันเผลอใจเต้นไปกับอาการห่วงใยที่เขามอบให้ฉัน แม้ว่าเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะรับรู้มันไหม แต่เขาก็ยัง...ห่วง

            “แหม! สูงส่งจริงๆ เลยนะ คบกับยัยนั่นแล้วหรอถึงได้ห่วงใยกันนัก เฮ้อ...ง่ายๆ แบบนั้นคงจีบไม่ยากหรอก” 

            เฮ้อ...ฉันชักจะอดทนกับคำเสียดสีของยัยนี่ไม่ได้แล้วสิ มาหาว่าฉันง่ายแล้วที่วิ่งโร่มาหาผู้ชายถึงห้องอย่างเธอเขาเรียกว่าอะไรล่ะยะ!!-_+!

            “ฮานึล!!”

            “ทำไมเวลาที่นายคบกับฉันไม่เห็นจะแคร์ฉันแบบนี้บ้างล่ะ”  เสียงของยัยฮานึลอ่อนลงและสั่นนิดๆ จนฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาเฉยๆ เพราะฉันรู้สึกว่าที่ยัยนั่นพูดไม่ใช่การเสแสร้งแต่เป็นความรู้สึกจริงๆ

            “ฉันพยายามทำตัวให้ใจกว้างยอมรับนายในแบบที่นายเป็น ถึงแม้ว่านายจะชอบผิดนัดฉันเพราะซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงตอนเป็นศิลปินฝึกหัด หรือแม้กระทั่งเรื่องที่นายลืมวันเกิดของฉันทั้งที่เราคบกันมาตั้ง 3 ปีฉันอุตส่าห์ทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วยอมคบกับนายต่อ...แต่ทำไมฉันไม่เคยได้รับความรู้สึกแบบนี้จากนายเลยล่ะ...นายเคยรักฉันบ้างรึเปล่า”  โอฮานึลถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เสียงสะอื้นลอยมาเบาๆ ทำให้รู้ว่ายัยนั่นกำลังร้องไห้ O_O!

            “ฉัน...ฉันขอโทษ”  ดงอุนพูดออกมาเบาๆ

            “ฉันไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากนาย ฉันต้องการให้นายบอกฉัน...ว่านายเคยรักฉันบ้างไหม?”

            “ที่ฉันทำไปทั้งหมดยังบอกเธอไม่ได้เลยหรอฮานึล...”  ดงอุนพูดขึ้นบ้าง ใจฉันกระตุกวูบลงไปทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ดงอุนพูด ถึงแม้พี่เฝ้าฝันจะเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้แน่นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาได้เลย

            “ฉันพยายามฝึกหนัก พยายามจะประสบความสำเร็จเพื่อใครเธอไม่รู้หรอ...แล้วหลังจากที่เราเลิกกันฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะใคร...เธอไม่รู้จริงๆ หรอฮานึล”  ดงอุนพูด น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนเจ็บปวดมากกับสิ่งที่ฮานึลเคยทำไว้ ทั้งที่เขา...เคยรักผู้หญิงคนนั้นมาก

            “แล้ววันที่เธอบอกเลิกฉัน เธอรู้ไหมว่าวันนั้นวันอะไร...”  ดงอุนถาม ทำให้ความเงียบเริ่มเข้ามาครอบงำ ไม่มีเสียงตอบกลับจากฮานึลเลยดงอุนเลยช่วยตอบแทน...

            “วันนั้น...เป็นวันที่ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เดบิวต์ ฉันตั้งใจจะบอกเธอคนแรก แต่เธอกลับบอกเลิกฉันก่อน ฉันเลย...ไม่รู้จะบอกเธอทำไม” 

            “ดงอุน...”

            “เฮ้อ...ฉันว่าเธอกลับไปเถอะ”

            “จะเป็นไปได้ไหม ถ้าเรา...จะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่...”  เหมือนประโยคนี้มันทำให้โลกทั้งโลกหมุน ร่างกายของฉันเหมือนกับไร้แรงโน้มถ่วง ไร้การควบคุม...

            “เธอว่าไงนะ...”  ดงอุนถามย้ำ

            “ในเมื่อฉันก็รักนายและนายรักฉัน...ทำไมเราไม่ลองกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ล่ะ ลืมเรื่องที่เราเข้าใจผิดกันให้หมด เรามาเริ่มต้นใหม่นะ...”

            ไม่มีเสียงตอบกลับจากดงอุน แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินออกมาจากตรงที่พวกเขาคุยกันแทน...ดงอุนเดินไปขึ้นลิฟต์เงียบๆ โดยไม่ตอบอะไรโอฮานึลเลย...แบบนี้หมายความว่ายังไง ที่เขาไม่ยอมตัดขาดหรือว่าตกลงไปเลยแบบนี้มันคืออะไร!

            “ฉันจะรอวันที่นายพร้อมนะดงอุน...ฉันจะรอ!!”  โอฮานึลตะโกนตามดงอุนไป สักพักก็มีเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนที่รถคันหนึ่งจะแล่นออกจากโรงจอดรถ

            “ขอโทษนะที่พี่ให้มาฟังเรื่องแบบนี้”  พี่เฝ้าฝันพูดขึ้นมาในที่สุด  “แต่พี่คิดว่าวิลควรจะต้องรู้เรื่องนี้ได้แล้ว”

            “พี่ฝัน...”  ฉันเรียกชื่อพี่เฝ้าฝันเบาๆ แล้วหันไปมองหน้าที่เขา ม่านน้ำตาเริ่มก่อตัวเป็นม่านหนาขึ้นทำให้ใบหน้าของพี่เฝ้าฝันพร่ามัวไป

            “เข้าใจแล้วใช่ไหม ว่าทำไมพวกพี่ถึงพยายามบอกวิลว่าให้ระวังหัวใจตัวเองเอาไว้เพราะว่าพวกพี่กลัว...กลัวว่าดงอุนจะยังลืมแฟนเก่าไม่ได้แล้ววิลจะต้องเจ็บปวด”  พี่เฝ้าฝันเงียยบไป ก่อนจะพูดต่อ

            “โยซอบเคยเล่าให้พี่ฟังว่าโอฮานึลคือรักแรกของดงอุนและที่ดงอุนเป็นเพลย์บอยอยู่แบบนี้เพราะว่าโอฮานึลทิ้ง...”  ยิ่งพี่เฝ้าฝันพูดแบบนั้น ฉันยิ่งสะอึก จุกจนพูดอะไรไม่ออก งั้นที่ผ่านมาที่ฉันคิดว่าเขาก็รักฉันเหมือนกัน...ฉันคิดไปเองทั้งนั้นใช่ไหม!

            “วิลจะทำยังไงดีคะพี่ฝัน...วิลสับสนไปหมดแล้ว”  ฉันพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาหยดแรกที่หล่นลงมาอาบแก้ม เสียงของดงอุนตอนที่อยู่ในถ้ำและเสียงการพูดคุยเมื่อกี๊มันดังวนเวียนอยู่ในหัวจนฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า!

            ไม่สิ! ฉันเป็นบ้าไปแล้วต่างหาก...บ้าที่คิดว่าเขารักฉัน! บ้าที่คิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษและเป็นคนที่เขาห่วงใย...ทั้งหมดมันเป็นเพราะว่าฉันบ้าไปเองฝ่ายเดียวทั้งนั้น!!!

 

            ฉันหลับตาลงเพื่อรับลมหนาวยามค่ำที่พัดมาแรงๆ ฉันอยากให้มันพัดความเจ็บที่อยู่ในใจฉันไปให้หมด ฉันไม่อยากคิดถึงมันอีก ไม่อยากเอามันมาใส่ใจ...แต่ยิ่งไม่อยากลืมมันมากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้ใจฉันเจ็บมากขึ้นเท่านั้น

            ฉันลืมตาขึ้นมองวิวของตึกต่างๆ ที่เปิดไฟส่องสว่างจากมุมสูงของดาดฟ้าคอนโด พี่เภตราอนุญาตให้ฉันขึ้นมาหลบทำใจบนนี้ได้ทั้งคืนโดยที่จะไม่ให้ใครขึ้นมากวน...แต่ยิ่งอยู่คนเดียวเงียบๆ แบบนี้ เสียงของดงอุนและฮานึลมันกลับยิ่งดังชัดเจนมากขึ้น

            “ทำไมไม่เหมือนวิลล่าที่ฉันเคยรู้จักเลยนะ”  อยู่ๆ เสียงของออสตินก็ดังขึ้น ฉันค่อยๆ หันไปมองก็เจอออสตินยืนมองฉันอยู่

            “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”  ฉันถามขณะที่ออสตินเดินมายืนอยู่ข้างๆ ฉัน

            “มาได้สักพักแล้วล่ะ พายัยขวัญมาหาแฟนมัน” 

            “นี่นายเป็นคนขับรถให้คุณหนูซอตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”  ฉันหันไปยิ้มให้ออสติน แต่ออสตินไม่ยิ้มไปกับฉันเลย

            “เหนื่อยรึเปล่าที่ยิ้มอยู่น่ะ...ถ้าเหนื่อยที่จะยิ้ม...ร้องไห้ออกมาก็ได้นะ” 

            “นาย...” 

            “ฉันยังไม่รู้หรอกว่าทำไมเธอขึ้นมาหลบอยู่บนนี้ แต่ฉันมั่นใจว่าต้องเกี่ยวกับไอ้ดงอุนนั่นแน่”

            “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมอนั่นหรอกน่า...”

            “โกหกไม่เนียนตามเคยนะวิล”  ออสตินพูดอย่างรู้ทัน  “ทำไมเธอไม่ลองมองคนอื่นบ้าง คนที่จะทำให้เธอมีความสุข คนที่ไม่ทำให้เธอไม่ต้องมาแอบร้องไห้แบบนี้”

            “วันนี้นายเป็นอะไรไป ทำไมดูโกรธๆ ไปเจอใครต่อยมารึไง”

            “ไม่ตลกนะวิล”  ออสตินหันมามองหน้าฉันด้วยท่าทางจริงจัง ฉันก็เหนื่อยที่จะเสแสร้งว่าตัวเองไม่เป็นไรเต็มทีแล้วล่ะ

            “เฮ้อ...ขอบใจมากนะที่นายพยายามหาทางออกให้ฉัน แต่ฉันคงทำไม่ได้...”

            “ทำไม! เธอชอบมันมากหรอ?”

            “เฮ้อ...”  ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ...ใช่! ฉันรักเขามาก ฉันรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วพอใจไหมออสติน!!

            “ทำไมไม่ตอบล่ะวิล ปกติเธอเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมาไม่ใช่หรอ...มันทำให้เธอเปลี่ยนไปมากเลยนะ!”

            “ใช่...เขาทำให้ฉันเปลี่ยนไป ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มารู้ตัวอีกทีฉันก็...”

            “ชอบมันไปแล้ว?...งั้นหรอ”  ออสตินช่วยต่อตอนท้ายให้ ฉันเลยใช้ความเงียบแทนคำตอบ

            “ทำไมเธอ...ไม่ชอบฉันบ้างนะ”  ออสตินบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ฉันได้ยินมันทุกคำ...เมื่อกี๊ฉันได้ยินถูกแล้วใช่ไหม?

            “นาย...ว่าไงนะ?”  ฉันหันไปถามออสตินให้แน่ใจ เพราะฉันไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากของเขา เขาเป็นเพื่อนฉันมานานถึงจะไม่ได้นานเท่าของขวัญแต่ก็ถือว่าเราสนิทกันมาก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าออสตินจะมีความคิดแบบนี้

            “พูดอะไร...ไม่ได้พูดอะไรนี่”  ออสตินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกจากดาดฟ้าไป ทิ้งให้ฉันงงกับเหตุการณ์เมื่อกี๊คนเดียว ฉันว่าฉันไม่ได้หูฝาดหรือหูเพี้ยนไปแน่ๆ ฉันได้ยินออสตินพูดว่า ‘ทำไมเธอไม่ชอบฉันบ้าง’ จริงๆ นะ!

            ฉันทิ้งความสงสัยไว้ไม่ได้เลยตัดสินใจเดินกลับห้องเพื่อไปถามออสตินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าเป็นไงมาไง จะได้เคลียร์ให้จบๆ แต่พอฉันเปิดประตูดาดฟ้าเข้าไปในตึก ก็เจอดงอุนยืนพิงกำแพงอยู่

            “ดูมีความสุขจังเลยนะ ไอ้ออสนตินนั่นตอนเดินออกมาก็ยิ้มน้องยิ้มใหญ่เชียว”  ดงอุนเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางแปลกๆ ฉันเลยต้องถอยหลังโดยอัตโนมัติแต่ถอยไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ชนเข้ากับประตูดาดฟ้าซะแล้ว

            “ทำไมเพื่อนเขาจะคุยเรื่องตลกๆ กันมันแปลกตรงไหนหรอ”

            “มันไม่แปลกหรอกถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ”  ดงอุนพูดพร้อมกับยกมือขึ้นดันประตูดาดฟ้าไว้ทั้ง 2 ข้าง

            “นายหมายความว่ายังไง พูดให้มันดีๆ นะ!”  ฉันขบกรามพูด เขาไม่เคยพูดจาไม่ให้เกียรติฉันแบบนี้เลยนะ

            “ก็มันออสตินมันไม่บริสุทธิ์ใจไง มันชอบเธอเธอดูไม่ออกหรอ...หรือว่าจงใจทำเป็นไม่รู้”  ดงอุนก้มลงมาพูดใกล้ๆ ฉันเลยออกแรงฟาดเข้าที่หน้าของเขาเต็มๆ มือ

            เพี๊ยะ!!!

            “พูดแรงเกินไปแล้วนะดงอุน แบบนี้มันดูถูกฉันชัดๆ นายเอาความคิดบ้าๆ แบบนี้มาจากไหนห๊ะ!”

            “หรือไม่จริง...มันแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเธอดูไม่ออกหรอ หรือว่าเธอชอบให้ความหวังผู้ชายอยู่แล้ว เลยไม่คิดอะไร!”

            “ดงอุน!!!”  ฉันแผดเสียงลั่น น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้มด้วยความโกรธที่มันล้นทะลักออกมา ฉันไม่นึกเลยว่าดงอุนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาพูดเหมือนเขาไม่รู้จักฉันเลย!!

            “ทำไม! ฉันรู้ทันเข้าหน่อยทำเป็นโวยวายหรอ รู้ว่าออสตินชอบแบบนี้จะทำยังไงล่ะวิลล่า ไหนจะพี่ยองกวางของเธออีก อ้อ! จริงสิในสต๊อกของเธอมีฉันรวมด้วยอยู่รึเปล่า แบบนี้คงเลือกยากสินะ!!” 

            “นาย..!!”

            “ทำไม?...คราวนี้เลือกไม่ถูกเลยหรอ”  ดงอุนพูดพร้อมกับมองฉันอย่างเย้ยหยัน ฉันไม่รู้ว่าเขาโกรธมาจากไหน แต่ฉันพอเขาพูดมาแบบนี้ฉันก็คงต้องตอบโต้เขาซะบ้าง!

            “แล้วนายล่ะ ทำไมต้องมาโวยวายใส่ฉันด้วย ถึงฉันจะไปชอบคนอื่นแล้วแต่ตัวเลือกของนายก็ยังเหลืออีกตั้ง 2 คนไม่ใช่หรอ!...จะเอาอะไรกับตัวเลือกเล็กๆ ไร้ค่าอย่างฉันล่ะ!”  ฉันขบกรามพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากแก้มอย่างลวกๆ แต่ทำไมยิ่งเช็ดมันยังไหลออกมานะ...

            “วิลล่า!!”  คราวนี้เป็นฝ่ายเขาที่แผดเสียงใส่ฉันบ้าง

            “ทำไม? ฉันรู้ทันเข้าหน่อยทำเป็นโวยวายหรอ!”  ฉันเอาคำพูดที่เขาพูดกับฉันมาใช้บ้าง ให้มันรู้ไปเลยว่าถ้าโดนพูดแบบนี้บ้างจะรู้สึกแย่ขนาดไหน!

            “เมื่อกี๊เธอบอกว่าไง...เธอชอบใครไปแล้วงั้นหรอ มันเป็นใคร!!”

            “ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย! ถอยออกไปได้แล้ว ฉันจะกลับห้อง!!”  ฉันออกแรงผลักหน้าอกดงอุนแรงๆ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆ

            “ไม่! จนกว่าเธอจะบอกว่าเธอชอบใคร...ที่เธอไม่ยอมตอบฉันตอนที่อยู่ในถ้ำเพราะเธอชอบใครไปแล้วใช่ไหม มันเป็นใครวิล!!!”  ดงอุนเปลี่ยนมือจากที่ใช้ดันประตูดาดฟ้ามาจับไหล่ฉันทั้ง 2 ข้างพร้อมเขย่าตัวฉันแรงๆ

            “ฉันเจ็บนะ!!”  ฉันร้องพร้อมกับพยายามแกะมือของเขาออก

            “เธอชอบใครวิลล่า!”

            “นายจะสนใจอะไรล่ะ นายชอบโอฮานึลไม่ใช่หรอ!!”  ฉันร้องออกไปในที่สุด ดงอุนหยุดเขย่าตัวฉันทันที แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยไหล่ของฉันเป็นอิสระ

            “ฉันไม่รู้ว่านายไปโกรธใครมาหรือว่าไปได้ยินอะไรมา...แต่สำหรับฉัน สิ่งที่ได้ยินวันนี้มันทำให้ฉันเห็นอะไรมากขึ้น รู้อะไรกระจ่างขึ้น...ฉันตาสว่างขึ้นแล้ว นายอย่ามาทำให้ตาฉันบอดอีกเลย”  ฉันพูด น้ำตาหล่นแหม่ะลงมาหลังจากที่เหือดแห้งไปได้สักพักเพราะความโกรธก่อนหน้านี้

            “เธอ...ได้ยินอะไร”

            “ไม่มีอะไรสำคัญหรอก...มันเป็นแค่ความจริงที่ฉันควรรับรู้มานานแล้วเท่านั้นเอง”

            ครืด~ ครืด~ ครืด~

            มือถือของฉันสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงเบาๆ เพราะทางเดินตรงนี้มันเงียบมาก เลยได้ยินเสียงมือสั่นได้ชัดเจน ฉันสะบัดมือของดงอุนออกแล้วก้มลงไปล้วงมือถือขึ้นมาดู เบอร์แปลกนี่...สถานการณ์แบบนี้ไม่รับแล้วกัน =_=

            “กิ๊กล่ะสิ!!”  ดงอุนพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ

            “ฉันยังไม่มีแฟน จะมีกิ๊กได้ไง!”  ฉันสวนกลับไปทันที

            “จริงสินะ เธอยังเลือกใครไม่ได้นี่!!”

            “ฉันไม่อยากทะเลาะกับนายแล้วนะ”  ฉันพูดแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ก็โดนดงอุนรั้งข้อมือเอาไว้ ฉันหยุดเดินแต่ไม่คิดจะหันไปหาเขาเพราะฉันไม่อยากทะเลาะกับเขาแล้วจริงๆ วันนี้ฉันเหนื่อยเกินจะรับอะไรแล้ว...

            อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกหนักๆ ที่ไหล่ข้างซ้าย ความรู้สึกอุ่นๆ ที่ด้านหลังทำให้ฉันต้องหันไปมองดงอุนที่เงียบไปตั้งแต่เมื่อกี๊ ตอนนี้เขากำลังก้มหน้าใช้ศีรษะหนุนไหล่ของฉันจากด้านหลังเงียบๆ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มของเขาคลอเคลียอยู่ที่ใบหน้าและซอกคอของฉันเบาๆ ตามจังหวะการหายใจ

            “ดะ ดงอุน...”  ฉันพูดกับเส้นผมสีน้ำตาลนั้น ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือทำอะไรกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขาดี...

 

 

 

 

 

*****************************

อัพแล้วจ้า ^O^

ฝากติดตามด้วยนะคะ

*****************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา