[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

34) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 3 Dangerous Lover

:: Chapter 9 ::

 

            หลังจากที่พี่จุนเจพามาส่งที่หาพักวิลล่าแล้ว เราทั้ง 3 คนก็เดินขึ้นไปบนหอ ยัยยูรีทำท่าดี๊ด๊าใหญ่เมื่อรู้ว่าบีสท์ก็จะมาฉลองด้วย ฉันเป็นเพื่อนกับวิลล่ามานานเพิ่งมาเจอบีสท์ก็ตอนช่วงนี้เอง ก่อนหน้านี้ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะสนิทกันขนาดนี้ ฉันรู้แค่ว่าวิลล่าเคยเต้น Cover เพลงของบีสท์เท่านั้นเอง

            เมื่อเรามาถึง งานฉลองเล็กๆ ก็เริ่มขึ้น วันนี้มีเครื่องดื่ม ‘เบาๆ’ และอาหารหลายอย่างที่พี่ๆ ในวงของวิลล่าช่วยกันทำ เป็นอาหารไทยทั้งนั้นเลย ไม่ได้กินอาหารไทยแท้ๆ แบบนี้มานานมากแล้วนะเนี่ย บอกให้คุณป้ามันจาลองทำให้กินก็ไม่กล้าของทำสักที >.<

            ภายในห้องนั่งเล่นรวม มีโต๊ะญี่ปุ่นวางเรียงกันประมาณ 4 ตัว มีอาหารและเครื่องดื่มวางพร้อมไว้แล้ว ทุกคนนั่งลงประจำที่ซึ่งฉันนั่งติดกับยูรี ส่วนอีกด้านที่ว่าง ยังไม่มีใครมานั่ง เหลือใครอีกล่ะ -_-?

            “อ้าว จุนฮยองมันยังอาบน้ำไม่เสร็จอีกหรอ”  กีกวังถามขณะที่ทุกคนเริ่มแจกจานชามกันแล้ว

            “มันเพิ่งมาเมื่อกี๊เอง”  ฮยอนซึงบอก

            “ได้ยินว่าแสดงพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วสิ”  วิลล่าที่นั่งถัดจากยูรีพูดขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ฉัน เอาแล้วไง ยัยนี่ต้องขออะไรฉันแน่เลย -_-;

            “ขวัญ ฉันอยากได้บัตรไปดูละครของพี่จุนฮยองจังเลย ^O^” 

            “จริงสินะ ฉันก็ยังไม่ได้ไปดูเลย”  ยูรีพูดเสริม พี่ๆ คนอื่นๆ ก็หยุดฟังกันเงียบทั้งห้อง

            “เอ่อ...ฉันไม่มั่นใจว่าละครรอบสุดท้ายบัตรถูกจองไว้เต็มรึยังน่ะ U_U” 

            “โหย...แกเป็นทายาทของโรงละคร Seo Ha จริงรึเปล่าเนี่ย”  วิลล่าร้องออกมาหน้ามุ่ย

            “โอเคๆ เดี๋ยวจัดการให้...พี่ๆ ไปดูด้วยกันไหมคะ เดี๋ยวถ้าจองได้ ขวัญจะจองให้”  ฉันถามพี่ๆ ร่วมวงของวิลล่า และผลก็คือฉันต้องจองบัตรเข้าชมละครเวทีของจุนฮยองรอบสุดท้ายถึง 13 ใบ Y_Y

            “เอ้อ เป็นไงบ้างจ้ะคู่หมั้นสุดหล่อคอยดูแลเนี่ย หายเร็วกว่ายัยฝันดูแลอีกนะ ^^”  พี่หยาเข้ามาแซวฉันขณะที่กำลังเริ่มกินอาหารบนโต๊ะ

            “ที่รีบหายเพราะไม่อยากให้ดูแลนานมากกว่าค่ะพี่”  ฉันบอก พี่หยาหัวเราะขำๆ แล้วหันไปกินอาหารต่อ

            “ได้ข่าวว่าคู่หมั้นมาตามถึงหอเลยหรอ รักกันจังเลยนะ ไม่เห็นบอกฉันสักคำว่ามีคู่หมั้นแล้ว T^T”  ดงอุนพูดกับฉันแล้วท่าเหมือนจะร้องไห้ ทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ โห่เขาเป็นเสียงเดียว

            “กินๆ ไปเลยนายน่ะ ถึงยัยขวัญจะไม่มีคู่หมั้น ฉันก็ไม่ปล่อยให้นายมาจีบเพื่อนฉันหรอก”  วิลล่าพูดพร้อมกับยัดข้าวผัดคำใหญ่ใส่ปากดงอุนอย่างเคืองๆ

            “แหมๆ เค้าไม่นอกใจตัวเองหรอกน่า อิอิ ^///^”  ดงอุนเอาไหล่ไปแซะๆ ที่ต้นแขนของวิลล่าอย่างอ้อนๆ เอ่อ...2 คนนี้เป็นแฟนกันรึไง ฉันเห็นทำตัวออดอ้อนกันแบบนี้ตลอดเลยเวลาที่อยู่ด้วยกัน จะเหมือนคู่ของดูจุนกับพี่เภตรา , โยซอบกับพี่เฝ้าฝันไหมนะ =_=?

            “พวกเธอสองคนเนี่ย เล่นอย่างกับเป็นแฟนกันจริงๆ เลยนะ ระวังไว้เถอะ”  พี่ดอกหลิวพูด วิลล่าเลยถลึงตาให้ดงอุนเพื่อให้เขาหยุดเล่น แต่ดงอุนกลับยิ่งเอนตัวไปซบไหล่วิลล่าเฉยเลย เอ่อ...เล่นกันมากไปรึเปล่า ขนาดฉันเป็นคนนอกยังคิดเลย -///-;

            “จุนฮยอง มาเร็วๆ กำลังเริ่มเลย”  อยู่ๆ กีกวังก็เรียกจุนฮยองที่เพิ่งเข้ามาไปนั่งๆ ข้างๆ ตัว ซึ่งข้างๆ กีกวัง มันก็ข้างๆ ฉันด้วย ทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยนะ -_-;

            กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวของเขามันลอยมาเตะจมูกจนฉันอดใจไม่ไหวที่จะหันไปมองจุนฮยองอย่างลืมตัวและพบว่าเขาก็มองฉันอยู่เหมือนกัน เอ...? หรือว่าเขาอยากได้ไอโฟนคืน -_-? ฉันเอามาอยู่นะ ไปไหนแล้ว?

            ฉันล้วงมือเข้าไปค้นของในกระเป๋าถือก็พบไอโฟนที่มีรอยถลอกนิดหน่อยของจุนฮยองติดมือออกมา

            “เอ่อ...นี่”  ฉันกระซิบเรียกจุนฮยอง เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

            “วันนั้นฉันลืมเอาคืนให้นายน่ะ”  ฉันบอก พร้อมกับยื่นมันออกไปข้างหน้าอีกนิดหน่อย

            “ฉันบอกแล้วว่าให้เธอเอาไปทิ้งให้ หรือ พอคู่หมั้นมารับก็ลืมที่คุยกันแล้ว”  จุนฮยองเหน็บกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วหันกลับไปตักอาหารจานนั้นจานนี้มาชิม

            เอ่อ...วันนี้ทำไมเสียงของเขาราบเรียบเป็นโทนเดียวแบบนี้ล่ะเนี่ย หรือว่าจะแสดงละครเวทีมากไป U_U;

            “ฉันจะทิ้งได้ไง มันยังไม่เสียเลยนะ”

            “...”  เงียบ จุนฮยองยังคงเคี้ยวผัดผักกรุบๆ โดยไม่สนใจฉัน

            ยูรีสะกิดที่ต้นแขนฉันเบาๆ

            “ยัยขวัญ ถ้าเขายืนยันว่ายังไงก็จะไม่เอา ให้ฉันก็ได้นะเพื่อน ^///^” 

            “ยัยยูรี ใช่เวลาไหมเนี่ย!”  ฉันพูดขมุบขมิบเบาๆ กับยูรี แล้วหันไปคุยกันจุนฮยองต่อ

            “ไม่เอาใช่ไหม?”  ฉันถามเพื่อความมันใจ

            “...”

            “โอเค๊!”  ฉันพูด แล้วตัดสินใจยัดไอโฟนเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของจุนฮยองทันที แต่ด้วยความฟิตของกางเกง -.,- ฉันเลยงัดกระเป๋าให้มันอ้าออกมาได้ลำบากนิดหน่อย            

            “เฮ้ย! เธอทำอะไรเนี่ย!!”  จุนฮยองรีบจับกระเป๋ากางเกงตัวเองไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งมาจับมือฉันไว้

            “ก็เอาคืนให้นายไง!” 

            แล้วเราก็ยื้อยุดกันต่อ ฉันพยายามจะยัด ส่วนจุนฮยองพยายามจะผลัก แรงหมอนี่มันเยอะชะมัด

            “เฮ้ยๆ พวกเธอทำอะไรกันน่ะ”  ฮยอนซึงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจปนตกใจ แต่ฉันไม่มีเวลาไปตอบเขาหรอกนะ ตอนนี้ขอยัดก่อนล่ะ -..-!!

            ระหว่างที่ฉันพยายามจะยัดมือถือเข้ากระเป๋าจุนฮยอง ก็มีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้รับเชิญมาเพิ่มอีก 1 คน ฉันให้ทายว่าเป็นใคร?

            “ฮยอนอิน! ทำอะไรกันคะ?”  เสียงของพี่จุนเจดังขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องหันไปสนใจพี่จุนเจแทน รวมถึงฉันกับจุนฮยองก็หันไปมองโดยค้างท่าที่กำลังยื้อยุดกันเต็มที่กลางอากาศ

            “พะ...พี่จุนเจ”  ฉันเปลี่ยนสีหน้าเป็นสาวหวานเรียบร้อยทันที พี่จุนเจละสายตาจากใบหน้าของฉันไปมองที่มือของฉันแทน

            “เฮ้ย!!”  ฉันกับจุนฮยองร้องขึ้นพร้อมกันแล้วรีบปล่อยมือของอีกฝ่ายทันที ส่วนไอโฟนเจ้าปัญหานั่นก็หล่นตุบอยู่กึ่งกลางระหว่างฉันกับจุนฮยอง

            “เอ่อ...พี่จุนเจ ทำธุระเสร็จแล้วหรอคะ ^^;”  ฉันถามพี่จุนเจที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมคือทางเข้าห้องนั่งเล่น

            “พี่เป็นห่วงฮยอนอินน่ะค่ะ พี่เลยเลื่อนการคุยงานไปก่อน พี่ไม่นึกว่า...”  พี่จุนเจพูดละไว้แค่นั้น แล้วหันไปมองจุนฮยอง

            จริงสินะ! พี่จุเจรู้แค่ว่านักร้องที่เป็นข่าวกับฉันคราวก่อนคือจุนฮยอง แต่เขาไม่รู้ว่าจุนฮยองอยู่หอดียวกับวิลล่า!

            “ไม่นึกว่าอะไรหรอครับ”  จุนฮยองถามเสียงเรียบ เขาคงรู้ว่าพี่จุนเจกำลังเพ่งเล็งเขาอยู่

            “ก็ไม่นึกว่าฮยอนอินจะอยู่กับคุณน่ะสิครับ คุณจุนฮยอง”  พี่จุนเจตอบกลับมาเสียงเรียบไม่ต่างกัน ทำไมโทนเสียงของแต่ละคนมันคีย์เดียวกันเลยล่ะ =_=

            “ถ้าคุณรู้ว่าอยู่กับผม คุณจะทำยังไงหรอครับ”

            “ผมก็คงจะกันฮยอนอินออกให้ห่างจากคุณมากๆ ไงครับ เพราะว่าที่ฮยอนอินถูกทำร้ายคราวก่อน ก็เพราะคุณไม่ใช่หรอ”  พี่จุนเจมองจุนฮยองอย่างเอาเรื่อง จุนฮยองกับดงอุนหันควับมามองฉันเป็นตาเดียว นี่พวกเขากำลังคิดว่าฉันเป็นคนบอกพี่จุนเจอย่างนั้นหรือไง ฉันไม่ได้พูดเรื่องที่โดนทำร้ายกับพี่จุนเจเลยนะ

            “ผมว่า มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับ”  ดงอุนหันไปบอกพี่จุนเจบ้าง

            “นั่นสิคะ ครั้งก่อนที่ฉันถูกทำร้าย ไม่ใช่เพราะพี่จุนฮยองหรอกค่ะ”  ฉันยืนยันด้วยอีกคน

            “แล้วทำไมแฟนคลับของจุนฮยองถึงไปดักทำร้ายฮยอนอินแบบนั้นด้วยล่ะคะ”  พี่จุนเจถามฉัน นั่นมันคนละเรื่องแล้วพี่ ยัยซอนบีนั่นมันชอบ EXO ต่างหากไม่ใช่จุนฮยอง U_U;

            “นั่นไม่ใช่แฟนคลับของพี่จุนฮยองนะคะ เขาเป็นเพื่อนที่มหา’ลัยของฉัน แล้วเราก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”  ฉันอธิบาย แต่ดูเหมือนพี่จุนเจจะไม่เชื่อ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าใครกันที่มันไปเป่าหูพี่จุนเจ -*-

            “ฮยอนอินออกจะเรียบร้อยขนาดนั้น ทำไมพวกเขาถึงได้มามีเรื่องกับฮยอนอินได้ล่ะคะ มันไม่สมเหตุสมผลเลยพี่ไม่เชื่อหรอกว่าไม่เกี่ยว”

            “เชื่อเถอะค่ะ เรื่องที่ฉันถูกทำร้ายมันเป็นเพราะฉันคนเดียวค่ะ พี่จุนฮยองด้วยซ้ำที่มาช่วยฉันไว้” 

            “แก้ตัวแทนเขาขนาดนี้ ฮยอนอินเป็นอะไรกับเขารึเปล่าเนี่ย”  อยู่ๆ พี่จุนเจก็ถามเหมือนว่าจะโกรธขึ้นมาแล้ว

            “ปละ!...”  ฉันกำลังจะปฏิเสธ แต่พอมาคิดๆ ดูอีกที ถ้าเกิดฉันใช้ความเข้าใจผิดคราวนี้ให้เป็นประโยชน์ พี่จุนเจก็อาจจะเชื่อและเลิกยุ่งกับฉันโดยที่ไม่ถามเหตุผลหรือเซ้าซี้อะไรอีก

            “คือ...ฉันปิดบังมานานแล้วน่ะค่ะ...เรื่องนี้แม้แต่คุณพ่อก็ยังไม่รู้เลย”  ฉันก้มหน้างุดๆ เพื่อหลบตาพี่จุนเจอย่างสำนึกผิด จริงๆ แล้วที่ไม่อยากสบตาตรงๆ เพราะกลัวเขาจะจับโกหกได้ต่างหาก -_-;

            หัวใจฉันเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเพราะแผนการคราวนี้ฉันไม่ได้ตระเตรียมอะไรกับผองเพื่อนเลย ตอนนี้เล่นมุขสดค่ะท่านผู้อ่าน >_<!!

            “ปิดบัง? เรื่องอะไรคะ?”  พี่จุนเจถามพร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะมาหาฉัน

            “คะ...คือ...ฉัน...”

            “เรื่องอะไรอีกล่ะขวัญ >.<”  ยูรีเขย่าแขนฉันเบาๆ โอ้ย! ยัยยูรี แล้วค่อยถามได้ไหม!

            “ฉันกับพี่จุนฮยองเรา...เป็นแฟนกันค่ะ >_<!!” 

            “เฮ้ย! O_O!”  << จุนฮยอง

            “ห๊ะ! =[]=!”  << ทุกคน

            และ

            “ไม่จริงใช่ไหมคะ?”  << พี่จุนเจ

            “จะ...จริงค่ะ”  ฉันบอก แล้วเหลือบไปมองจุนฮยองแฟน (กำมะลอ) สดๆ ร้อนๆ ของฉัน

            +_+! (ชิ้ง!)

            ฉันหลุบตาลงมามองมือตัวเองทันที นี่ฉันขุดหลุมฝังตัวเองรึเปล่าเนี่ย ฉันน่าจะโกหกว่าเป็นแฟนกับดงอุนดีกว่า หมอนั่นคงจะยอมเล่นบทนี้กับฉันอย่างเต็มใจแน่ๆ แต่ติดที่ความสัมพันธ์ของดงอุนกับวิลล่ามันไม่ชัดเจนนี่สิ เลยไม่กล้าเล่น Y_Y

            “พี่ไม่เชื่อ!”  พี่จุนเจยืดตัวขึ้น

            “เชื่อเถอะค่ะ คือ...ทางต้นสังกัดของ...ของบีสท์เขาไม่อยากให้ศิลปิน...เอ่อ กระแสความนิยมตกเพราะมีแฟนแล้วพวกเราเลย...เลยต้องปิดข่าวน่ะค่ะ ^^;”  ฉันบอกแล้วรีบคล้องแขนจุนฮยองหมับทันที แต่แปลกที่เขากลับไปดึงมันออก ขอบใจมากนะจุนฮยอง TOT

            “ฮยอนอินอย่ามาโกหกพี่เลยค่ะ พี่ไม่เชื่อหรอก”  พี่จุนเจพูดแล้วเดินออกไปจากห้องทันที

            ทุกคนละสายตาจากพี่จุนเจกลับมาที่ฉัน รวมทั้งจุนฮยองที่มองฉันอย่างอาฆาต เอ่อ...ถ้าจะมองกันขนาดนั้นล่ะก็ เอาบร็อกโคลีในจานผัดผักมาอุดจมูกฉันให้ตายเลยดีกว่าไหม (_ _;)

            “ว่าไง?...”  พี่เภตราถามขึ้นมาเป็นคนแรก ฉันเลยจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมาจากตักของตัวเอง

            “คือ...ขอโทษนะคะที่ทำให้วุ่นวายกัน...”  ฉันยิ้มแหยๆ ให้ทุกๆ คนในห้อง ยกเว้นจุนฮยอง ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาจริงๆ ให้ตาย!

            “ฉันว่าแกไปบอกพ่อแกดีๆ ดีกว่าว่าไม่อยากหมั้น ดีกว่าใช้วิธีนี้นะ”  วิลล่าแสดงความเห็น

            “ฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นคนยังไง ถึงต้องใช้แผนนี้ไง T^T” 

            “แล้วทีนี้จะเอาไงจุนฮยอง”  ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อดูจุนถามจุนฮยองที่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆ แล้ว

            ฉันนั่งรอลุ้นคำตอบของจุนฮยองด้วยใจระทึก ถึงแม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็เถอะนะ -_-;

            “ปัญหาของใครก็ให้คนนั้นแก้เอง ฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก”  จุนฮยองพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปจากห้องเลย อ้าว! กลับห้องแล้วหรอ สรุปเขาจะไม่ช่วยฉันจริงๆ ใช่ไหม TOT!

            ฉันรีบตามจุนฮยองออกไป แต่ก็ช้ากว่าเขา (เพราะขาสั้นกว่า -_-;) พอเขาเข้าไปในห้องได้ปุ๊บเขาก็ล็อกกลอนปั๊บ เฮ้ย! นายช่วยฉันมาตลอดแล้วจะช่วยอีกหน่อยไม่ได้รึไงเล่า

            “จุนฮยอง! จุนฮยอง!! เปิดประตูหน่อยสิ ฉันอยากคุยด้วย”  ฉันตะโกน แต่ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเลย นี่เขาจะทิ้งฉันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย!!

            ตุบ! ตุบ! ตุบ!

            ฉันออกแรงทุบประตูแรงๆ จนรู้สึกปวดมือขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่เปิดฉันก็จะทุบมันอยู่นี่แหละ -_+!

            “จะทุบให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะขวัญ”  วิลล่าเข้ามาห้ามฉัน

            “ก็ให้จุนฮยองออกมาคุยกับฉันไง”

            “โนเวย์ ไม่มีทางซะหรอก ถ้าพี่จุนฮยองบอกว่าไม่อยากคุย แม้แต่พี่นาบีมาขอคุยด้วยยังไม่ได้คุยเลยนะยะ แล้วแกเป็นใครจะสั่งพี่เขาได้”  วิลล่าถาม เออ...จริงของแกนะวิลล่า แล้วฉันเป็นใคร? Y_Y

            “ฉันว่าแกใจเย็นๆ ก่อนดีกว่านะ”  ยูรีที่ตามวิลล่าออกมา ตบบ่าฉันเบาๆ  “ฉันว่าพี่เขาคงช็อกที่แกติ๊ต่างเอาเขามาเป็นแฟนอ่ะ”

            “นั่นสิ ทำไมถึงเลือกที่จุนฮยองล่ะ...เขาพูดง่ายเหมือนคนอื่นที่ไหน”  ประโยคสุดท้ายวิลล่าเข้ามากระซิบกับฉันเบาๆ

            “ก็ตอนนั้นมันคิดไม่ออกจริงๆ นี่”

            “ก็นายดงอุนไง ฉันมั่นใจว่าหมอนั่นจะช่วยแกสุดกำลังเลย” 

            โถวิลล่า...ไม่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีขนาดนั้นก็ได้นะ ฉันเห็นแววตาแกฉันก็รู้แล้วว่าที่พูดออกมามันฝืนใจขนาดไหน U_U;

            “เอาล่ะๆ ฉันว่าแกกลับไปกินข้าวต่อดีกว่า แกยังไม่ค่อยได้กินอะไรเลยนี่”  วิลล่าถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วพาฉันเดินออกมาจากประตูห้องบีสท์ จะมีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้ไหมนะ ขอให้มีเถอะ TOT

 

            วันรุ่งขึ้น การแสดงละครเวทีรอบสุดท้ายของจุนฮยองก็ถูกจัดขึ้นตามเวลาที่กำหนดไว้ และบริเวณหน้าโรงละคร Seo Ha ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้ชมมากมายยิ่งกว่าทุกๆ วัน หนึ่งในนั้นก็คือวิลล่าและเพื่อนร่วมวงอีก 6 ชีวิต ส่วนบีสท์ฉันไม่ต้องหาบัตรเข้าชมละครให้พวกเขาเลย เพราะทางต้นสังกัดเขาจองบัตรไว้ให้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วเพื่อล็อกเอาไว้ว่าวันนี้พวกเขาต้องมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมวง และด้วยเหตุนี้เอง นักข่าวสาขาบันเทิงจากทุกช่องทุกสำนักจึงมารวมตัวกันที่นี่เพื่อมาทำข่าวบีสท์

            พ่อพยายามจับคู่ให้ฉันอย่างที่คาดเอาไว้ และให้พี่จุนเจเดินประกบฉันตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหนจนฉันกระดิกตัวไม่ได้เลยสักนิด อยากจะคุยกับเพื่อนก็ต้องใช้การกระซิบเอา เพราะคุณเธอจะได้ยิน =_=; แต่ถึงจะกระซิบขนาดนี้ก็ไม่วายเอียงหัวมาฟังอีกแน่ะ!

            “พี่ยังไม่ได้บอกเรื่องพี่จุนฮยองกับคุณพ่ออีกหรอคะ”  ฉันถามพี่จุนเจ ระหว่างที่รอนักข่าวถ่ายรูปพ่อกับบีสท์อยู่ในห้องรับรองหลังจากที่ออกไปส่งเพื่อนๆ ขึ้นรถกลับหอแล้ว

            “ถ้าบอก แผนของฮยอนอินก็สำเร็จน่ะสิคะ”  พี่จุนเจพูดแล้วมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับฉัน

            “พี่หมายความว่ายังไง?”  ฉันหรี่ตามองพี่จุนเจ น้ำเสียงที่ดัดให้ดูหวานๆ ตลอดเวลา ตอนนี้ฉันกลับควบคุมให้มันไม่ห้วนไม่ได้

            “ฮึๆๆ นั่นไง หลุดจนได้ ^_^”  พี่จุนเจยิ้มให้ฉันอย่างขำๆ อะไรหลุด? ชุดเดรสที่ฉันใส่อยู่รึไง ก็ไม่นะ =_=?

            “ขนาดเรื่องเพื่อนของฮยอนอินพี่ยังรู้เลยว่ามีกี่คน ทำไมแค่อุปนิสัยคร่าวๆ ของคู่หมั้นพี่จะไม่รู้ล่ะ”

            ใจฉันหล่นตุบลงกองกับพื้น ห้องปรับอากาศที่ฉันนั่งอยู่ตอนนี้กลับลดอุณหภูมิลงได้โดยที่ไม่ต้องมีใครไปปรับ

            “พี่...รู้หรอ...คะ”  ฉันส่งเสียงออกไปอย่างยากลำบาก เขาจะรู้ละเอียดขนาดนี้ได้ยังไง ขนาดเรื่องยัยซอนบียังให้คนเป่าหูได้ง่ายๆ เลย เขาต้องแกล้งให้ฉันคายความจริงออกมาเองแน่ๆ ฉันต้องไม่หลงกลเขาเด็ดขาด!

            “ไม่ต้องพยายามพูดให้อ่อนหวานขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่ไม่ถือหรอกว่าฮยอนอินจะเป็นคนอ่อนหวานไหม พี่อยากให้ฮยอนอินเป็นตัวของตัวเอง ทำตัวเหมือนอยู่กับเพื่อนๆ ได้รึเปล่า”  พี่จุนเจเปลี่ยนหางเสียงจาก ‘ค่ะ’ เป็น ‘ครับ’ ตามปกติชนที่เขาใช้คุยกัน ทำตัวแปลกๆ นะเนี่ย ฉันชักกลัวเขาขึ้นมาแล้วล่ะ -_-?

            “พี่แค่อยากให้ฮยอนอินรีแร็กน่ะ ไม่ต้องแสดงในสิ่งที่มันไม่ใช่ตัวเอง แล้วลองเปิดใจรับพี่ในแบบที่พี่เป็นและในแบบที่ตัวเองเป็น ครั้งแรกที่เจอกันพี่คิดว่าฮยอนอินเรียบร้อยพี่เลยพูด คะ ขา ด้วย เพราะคิดว่าฮยอนอินคงจะชอบ แต่พอมารู้ว่าฮยอนอินเป็นแบบนี้พี่ก็โล่งใจ เพราะถ้าเรียบร้อยขนาดนั้นเราคงเข้ากันได้ยาก ^_^”

            “แบบนี้? แบบไหนคะ”  ฉันขมวดคิ้วถาม

            “ก็...แบบนี้ไง”  พี่จุนเจชี้มาที่ฉัน แล้วฉันก็เพิ่งสังเกตุว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาเซ็งๆ กอดอก และนั่งไขว่ห้างมองพี่เขาอยู่

            อ้าว! ซวยล่ะ เผยธาตุแท้อย่างลืมตัว -_-!

            “พี่รู้มาสักพักแล้วล่ะ พี่เห็นบางทีสายตาฮยอนอินก็ดูแข็งๆ ไป พี่เลยลอง เอ่อ...ตามดู”  พี่จุนเจหลบตาฉันทันทีที่พูดถึงพยางค์สุดท้าย

            “พี่สะกดรอยตามฉันหรอ!”  ฉันตบโต๊ะกระจกที่คั่นระหว่างฉันกับพี่จุนเจแรงๆ นี่เขาสะกดรอยตามฉันเลยหรอ! มันเรื่องส่วนตัวฉันทั้งนั้น!!

            “พี่ขอโทษ”  พี่จุนเจพูดพร้อมแววตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสำนึกผิดแล้วจริงๆ

            “พี่สืบมาได้ขนาดนี้ แล้วพี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าฉันโดนรุมทำร้ายเพราะอะไร” 

            “เรื่องนั้น...พี่ไม่รู้จริงๆ พี่แค่รู้ว่าฮยอนอินมักมีเรื่องกับเพื่อนที่มหา’ลัยกลุ่มหนึ่งบ่อยๆ แต่พี่ก็รู้ไม่ลึกเท่าไหร่ เพราะฝ่ายนั้นระวังตัวมาก ดูเหมือนจะมีอิทธิพลบางอย่างที่คอยเก็บกวาดให้ด้วย”  พี่จุนเจพูดพร้อมกับแสดงความเห็น ก็สาเหตุของเรื่องมันเป็นลูกชายของนักการเมืองใหญ่นี่คะพี่ =_=;

            “เฮ้อ...ช่างมันเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องแอ๊บเรียบร้อยให้เหนื่อย”  ฉันพูด พี่จุนเจพยักหน้ารับเงียบๆ

            “แล้วนี่ พี่ไม่รู้หรอว่าฉันไม่ชอบให้เรียกฮยอนอิน”  ฉันถาม เพราะรู้สึกว่าห้องมันเงียบนานเกินไปแล้ว

            “รู้ แต่พี่ไม่อยากเรียก ‘ของขวัญ’ นี่”

            “ทำไม?”

            “ก็พี่ไม่อยากให้ฮยอนอินติดอยู่กับอดีตไง”

            “อดีตที่พี่พูดถึงน่ะแม่ฉันนะ”  ฉันเน้นคำว่า ‘แม่’ ให้พี่จุนเจฟังชัดๆ จะให้ฉันลืมแม่ตัวเองไปง่ายๆ ได้ไง!

            “พี่หมายถึง ไม่อยากให้ติดกับอดีตมากจนเกินไป คุณแม่ของอยอนอินเองก็คงไม่สบายใจหรอกที่เห็นฮยอนอินมัวแต่ทำตัวแบบนี้ เราควรเดินไปข้างหน้าและอยู่เพื่อคนที่ยังอยู่เคียงข้างเราไม่ใช่หรอ ส่วนคนที่จากไปแล้วเราก็แค่เก็บเขาไว้ในใจก็คงพอแล้ว...พี่อยากให้ฮยอนอินมองไปรอบๆ ตัวว่ามีคนที่รักฮยอนอินมากมายแค่ไหน”

            “พี่พูดจบแล้วใช่ไหม”  ฉันถาม แล้วออกไปจากห้องทันที จะไม่ให้ฉันคิดถึงแม่ได้ยังไง เวลาที่ท่านจากไปท่านก็จากไปอย่างโดดเดี่ยว ฉันกลับจากโรงเรียนไปดูใจท่านไม่ทันด้วยซ้ำ แล้วยังต้องมาอยู่กับพ่อที่เกาหลีหลังจากที่ท่านจากไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ ฉันทำผิดกับท่านขนาดนี้ยังจะให้ฉันลืมอีกหรอ...

            ฉันเดินออกมาเรื่อยๆ ก็เจอพ่อกับคุณอินโจเดินผ่านมา พ่อถามหาพี่จุนเจแล้วเดินเข้าไปในห้องรับรองนั่นดูเหมือนมีธุระต้องคุยกัน ก็ดีเหมือนกันพี่จุ้นจ้านนั่นจะได้ไม่ตามฉันมา

            ฉันมองตามพ่อไป ก่อนจะเดินออกมาเพื่อกลับคอนโด แต่ก็เจอจุนฮยองกำลังเดินไปที่ห้องรังรองศิลปิน ห้องเดิมกับตอนที่ฉันเข้าไปหลบกีอุนนั่นแหละ ฉันต้องไปตกลงกับเขาหน่อยแล้ว

            ฉันรีบเดินตามจุนฮยองไปแต่ก็โดนทีมงานของเขากักตัวไว้ โชคดีที่พนักงานของโรงละครมาเจอเข้า เขาเลยอนุญาตให้ฉันเข้าไปหาจุนฮยองได้ในฐานะที่ฉันเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงละคร เพิ่งรู้สึกว่ามีอำนาจอยู่ในมือก็วันนี้แหละ ฮุฮุ ^^

            “จุนฮยอง!”  ฉันร้องเรียกเขาทันทีที่ผลักประตูเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจเพราะเห็นโฮยอนกำลังนั่งคร่อมร่างของจุนฮยองอยู่บนโซฟา ={ }=!

 

 

 

 

 

*************************************

อัพแล้วนะคะ ฝากติดตามด้วยนะรีดเดอร์ >.<

*************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา