[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
34) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 9
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 3 Dangerous Lover
:: Chapter 9 ::
หลังจากที่พี่จุนเจพามาส่งที่หาพักวิลล่าแล้ว เราทั้ง 3 คนก็เดินขึ้นไปบนหอ ยัยยูรีทำท่าดี๊ด๊าใหญ่เมื่อรู้ว่าบีสท์ก็จะมาฉลองด้วย ฉันเป็นเพื่อนกับวิลล่ามานานเพิ่งมาเจอบีสท์ก็ตอนช่วงนี้เอง ก่อนหน้านี้ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะสนิทกันขนาดนี้ ฉันรู้แค่ว่าวิลล่าเคยเต้น Cover เพลงของบีสท์เท่านั้นเอง
เมื่อเรามาถึง งานฉลองเล็กๆ ก็เริ่มขึ้น วันนี้มีเครื่องดื่ม ‘เบาๆ’ และอาหารหลายอย่างที่พี่ๆ ในวงของวิลล่าช่วยกันทำ เป็นอาหารไทยทั้งนั้นเลย ไม่ได้กินอาหารไทยแท้ๆ แบบนี้มานานมากแล้วนะเนี่ย บอกให้คุณป้ามันจาลองทำให้กินก็ไม่กล้าของทำสักที >.<
ภายในห้องนั่งเล่นรวม มีโต๊ะญี่ปุ่นวางเรียงกันประมาณ 4 ตัว มีอาหารและเครื่องดื่มวางพร้อมไว้แล้ว ทุกคนนั่งลงประจำที่ซึ่งฉันนั่งติดกับยูรี ส่วนอีกด้านที่ว่าง ยังไม่มีใครมานั่ง เหลือใครอีกล่ะ -_-?
“อ้าว จุนฮยองมันยังอาบน้ำไม่เสร็จอีกหรอ” กีกวังถามขณะที่ทุกคนเริ่มแจกจานชามกันแล้ว
“มันเพิ่งมาเมื่อกี๊เอง” ฮยอนซึงบอก
“ได้ยินว่าแสดงพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วสิ” วิลล่าที่นั่งถัดจากยูรีพูดขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ฉัน เอาแล้วไง ยัยนี่ต้องขออะไรฉันแน่เลย -_-;
“ขวัญ ฉันอยากได้บัตรไปดูละครของพี่จุนฮยองจังเลย ^O^”
“จริงสินะ ฉันก็ยังไม่ได้ไปดูเลย” ยูรีพูดเสริม พี่ๆ คนอื่นๆ ก็หยุดฟังกันเงียบทั้งห้อง
“เอ่อ...ฉันไม่มั่นใจว่าละครรอบสุดท้ายบัตรถูกจองไว้เต็มรึยังน่ะ U_U”
“โหย...แกเป็นทายาทของโรงละคร Seo Ha จริงรึเปล่าเนี่ย” วิลล่าร้องออกมาหน้ามุ่ย
“โอเคๆ เดี๋ยวจัดการให้...พี่ๆ ไปดูด้วยกันไหมคะ เดี๋ยวถ้าจองได้ ขวัญจะจองให้” ฉันถามพี่ๆ ร่วมวงของวิลล่า และผลก็คือฉันต้องจองบัตรเข้าชมละครเวทีของจุนฮยองรอบสุดท้ายถึง 13 ใบ Y_Y
“เอ้อ เป็นไงบ้างจ้ะคู่หมั้นสุดหล่อคอยดูแลเนี่ย หายเร็วกว่ายัยฝันดูแลอีกนะ ^^” พี่หยาเข้ามาแซวฉันขณะที่กำลังเริ่มกินอาหารบนโต๊ะ
“ที่รีบหายเพราะไม่อยากให้ดูแลนานมากกว่าค่ะพี่” ฉันบอก พี่หยาหัวเราะขำๆ แล้วหันไปกินอาหารต่อ
“ได้ข่าวว่าคู่หมั้นมาตามถึงหอเลยหรอ รักกันจังเลยนะ ไม่เห็นบอกฉันสักคำว่ามีคู่หมั้นแล้ว T^T” ดงอุนพูดกับฉันแล้วท่าเหมือนจะร้องไห้ ทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ โห่เขาเป็นเสียงเดียว
“กินๆ ไปเลยนายน่ะ ถึงยัยขวัญจะไม่มีคู่หมั้น ฉันก็ไม่ปล่อยให้นายมาจีบเพื่อนฉันหรอก” วิลล่าพูดพร้อมกับยัดข้าวผัดคำใหญ่ใส่ปากดงอุนอย่างเคืองๆ
“แหมๆ เค้าไม่นอกใจตัวเองหรอกน่า อิอิ ^///^” ดงอุนเอาไหล่ไปแซะๆ ที่ต้นแขนของวิลล่าอย่างอ้อนๆ เอ่อ...2 คนนี้เป็นแฟนกันรึไง ฉันเห็นทำตัวออดอ้อนกันแบบนี้ตลอดเลยเวลาที่อยู่ด้วยกัน จะเหมือนคู่ของดูจุนกับพี่เภตรา , โยซอบกับพี่เฝ้าฝันไหมนะ =_=?
“พวกเธอสองคนเนี่ย เล่นอย่างกับเป็นแฟนกันจริงๆ เลยนะ ระวังไว้เถอะ” พี่ดอกหลิวพูด วิลล่าเลยถลึงตาให้ดงอุนเพื่อให้เขาหยุดเล่น แต่ดงอุนกลับยิ่งเอนตัวไปซบไหล่วิลล่าเฉยเลย เอ่อ...เล่นกันมากไปรึเปล่า ขนาดฉันเป็นคนนอกยังคิดเลย -///-;
“จุนฮยอง มาเร็วๆ กำลังเริ่มเลย” อยู่ๆ กีกวังก็เรียกจุนฮยองที่เพิ่งเข้ามาไปนั่งๆ ข้างๆ ตัว ซึ่งข้างๆ กีกวัง มันก็ข้างๆ ฉันด้วย ทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยนะ -_-;
กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวของเขามันลอยมาเตะจมูกจนฉันอดใจไม่ไหวที่จะหันไปมองจุนฮยองอย่างลืมตัวและพบว่าเขาก็มองฉันอยู่เหมือนกัน เอ...? หรือว่าเขาอยากได้ไอโฟนคืน -_-? ฉันเอามาอยู่นะ ไปไหนแล้ว?
ฉันล้วงมือเข้าไปค้นของในกระเป๋าถือก็พบไอโฟนที่มีรอยถลอกนิดหน่อยของจุนฮยองติดมือออกมา
“เอ่อ...นี่” ฉันกระซิบเรียกจุนฮยอง เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“วันนั้นฉันลืมเอาคืนให้นายน่ะ” ฉันบอก พร้อมกับยื่นมันออกไปข้างหน้าอีกนิดหน่อย
“ฉันบอกแล้วว่าให้เธอเอาไปทิ้งให้ หรือ พอคู่หมั้นมารับก็ลืมที่คุยกันแล้ว” จุนฮยองเหน็บกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วหันกลับไปตักอาหารจานนั้นจานนี้มาชิม
เอ่อ...วันนี้ทำไมเสียงของเขาราบเรียบเป็นโทนเดียวแบบนี้ล่ะเนี่ย หรือว่าจะแสดงละครเวทีมากไป U_U;
“ฉันจะทิ้งได้ไง มันยังไม่เสียเลยนะ”
“...” เงียบ จุนฮยองยังคงเคี้ยวผัดผักกรุบๆ โดยไม่สนใจฉัน
ยูรีสะกิดที่ต้นแขนฉันเบาๆ
“ยัยขวัญ ถ้าเขายืนยันว่ายังไงก็จะไม่เอา ให้ฉันก็ได้นะเพื่อน ^///^”
“ยัยยูรี ใช่เวลาไหมเนี่ย!” ฉันพูดขมุบขมิบเบาๆ กับยูรี แล้วหันไปคุยกันจุนฮยองต่อ
“ไม่เอาใช่ไหม?” ฉันถามเพื่อความมันใจ
“...”
“โอเค๊!” ฉันพูด แล้วตัดสินใจยัดไอโฟนเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของจุนฮยองทันที แต่ด้วยความฟิตของกางเกง -.,- ฉันเลยงัดกระเป๋าให้มันอ้าออกมาได้ลำบากนิดหน่อย
“เฮ้ย! เธอทำอะไรเนี่ย!!” จุนฮยองรีบจับกระเป๋ากางเกงตัวเองไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งมาจับมือฉันไว้
“ก็เอาคืนให้นายไง!”
แล้วเราก็ยื้อยุดกันต่อ ฉันพยายามจะยัด ส่วนจุนฮยองพยายามจะผลัก แรงหมอนี่มันเยอะชะมัด
“เฮ้ยๆ พวกเธอทำอะไรกันน่ะ” ฮยอนซึงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจปนตกใจ แต่ฉันไม่มีเวลาไปตอบเขาหรอกนะ ตอนนี้ขอยัดก่อนล่ะ -..-!!
ระหว่างที่ฉันพยายามจะยัดมือถือเข้ากระเป๋าจุนฮยอง ก็มีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้รับเชิญมาเพิ่มอีก 1 คน ฉันให้ทายว่าเป็นใคร?
“ฮยอนอิน! ทำอะไรกันคะ?” เสียงของพี่จุนเจดังขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องหันไปสนใจพี่จุนเจแทน รวมถึงฉันกับจุนฮยองก็หันไปมองโดยค้างท่าที่กำลังยื้อยุดกันเต็มที่กลางอากาศ
“พะ...พี่จุนเจ” ฉันเปลี่ยนสีหน้าเป็นสาวหวานเรียบร้อยทันที พี่จุนเจละสายตาจากใบหน้าของฉันไปมองที่มือของฉันแทน
“เฮ้ย!!” ฉันกับจุนฮยองร้องขึ้นพร้อมกันแล้วรีบปล่อยมือของอีกฝ่ายทันที ส่วนไอโฟนเจ้าปัญหานั่นก็หล่นตุบอยู่กึ่งกลางระหว่างฉันกับจุนฮยอง
“เอ่อ...พี่จุนเจ ทำธุระเสร็จแล้วหรอคะ ^^;” ฉันถามพี่จุนเจที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมคือทางเข้าห้องนั่งเล่น
“พี่เป็นห่วงฮยอนอินน่ะค่ะ พี่เลยเลื่อนการคุยงานไปก่อน พี่ไม่นึกว่า...” พี่จุนเจพูดละไว้แค่นั้น แล้วหันไปมองจุนฮยอง
จริงสินะ! พี่จุเจรู้แค่ว่านักร้องที่เป็นข่าวกับฉันคราวก่อนคือจุนฮยอง แต่เขาไม่รู้ว่าจุนฮยองอยู่หอดียวกับวิลล่า!
“ไม่นึกว่าอะไรหรอครับ” จุนฮยองถามเสียงเรียบ เขาคงรู้ว่าพี่จุนเจกำลังเพ่งเล็งเขาอยู่
“ก็ไม่นึกว่าฮยอนอินจะอยู่กับคุณน่ะสิครับ คุณจุนฮยอง” พี่จุนเจตอบกลับมาเสียงเรียบไม่ต่างกัน ทำไมโทนเสียงของแต่ละคนมันคีย์เดียวกันเลยล่ะ =_=
“ถ้าคุณรู้ว่าอยู่กับผม คุณจะทำยังไงหรอครับ”
“ผมก็คงจะกันฮยอนอินออกให้ห่างจากคุณมากๆ ไงครับ เพราะว่าที่ฮยอนอินถูกทำร้ายคราวก่อน ก็เพราะคุณไม่ใช่หรอ” พี่จุนเจมองจุนฮยองอย่างเอาเรื่อง จุนฮยองกับดงอุนหันควับมามองฉันเป็นตาเดียว นี่พวกเขากำลังคิดว่าฉันเป็นคนบอกพี่จุนเจอย่างนั้นหรือไง ฉันไม่ได้พูดเรื่องที่โดนทำร้ายกับพี่จุนเจเลยนะ
“ผมว่า มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับ” ดงอุนหันไปบอกพี่จุนเจบ้าง
“นั่นสิคะ ครั้งก่อนที่ฉันถูกทำร้าย ไม่ใช่เพราะพี่จุนฮยองหรอกค่ะ” ฉันยืนยันด้วยอีกคน
“แล้วทำไมแฟนคลับของจุนฮยองถึงไปดักทำร้ายฮยอนอินแบบนั้นด้วยล่ะคะ” พี่จุนเจถามฉัน นั่นมันคนละเรื่องแล้วพี่ ยัยซอนบีนั่นมันชอบ EXO ต่างหากไม่ใช่จุนฮยอง U_U;
“นั่นไม่ใช่แฟนคลับของพี่จุนฮยองนะคะ เขาเป็นเพื่อนที่มหา’ลัยของฉัน แล้วเราก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ฉันอธิบาย แต่ดูเหมือนพี่จุนเจจะไม่เชื่อ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าใครกันที่มันไปเป่าหูพี่จุนเจ -*-
“ฮยอนอินออกจะเรียบร้อยขนาดนั้น ทำไมพวกเขาถึงได้มามีเรื่องกับฮยอนอินได้ล่ะคะ มันไม่สมเหตุสมผลเลยพี่ไม่เชื่อหรอกว่าไม่เกี่ยว”
“เชื่อเถอะค่ะ เรื่องที่ฉันถูกทำร้ายมันเป็นเพราะฉันคนเดียวค่ะ พี่จุนฮยองด้วยซ้ำที่มาช่วยฉันไว้”
“แก้ตัวแทนเขาขนาดนี้ ฮยอนอินเป็นอะไรกับเขารึเปล่าเนี่ย” อยู่ๆ พี่จุนเจก็ถามเหมือนว่าจะโกรธขึ้นมาแล้ว
“ปละ!...” ฉันกำลังจะปฏิเสธ แต่พอมาคิดๆ ดูอีกที ถ้าเกิดฉันใช้ความเข้าใจผิดคราวนี้ให้เป็นประโยชน์ พี่จุนเจก็อาจจะเชื่อและเลิกยุ่งกับฉันโดยที่ไม่ถามเหตุผลหรือเซ้าซี้อะไรอีก
“คือ...ฉันปิดบังมานานแล้วน่ะค่ะ...เรื่องนี้แม้แต่คุณพ่อก็ยังไม่รู้เลย” ฉันก้มหน้างุดๆ เพื่อหลบตาพี่จุนเจอย่างสำนึกผิด จริงๆ แล้วที่ไม่อยากสบตาตรงๆ เพราะกลัวเขาจะจับโกหกได้ต่างหาก -_-;
หัวใจฉันเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเพราะแผนการคราวนี้ฉันไม่ได้ตระเตรียมอะไรกับผองเพื่อนเลย ตอนนี้เล่นมุขสดค่ะท่านผู้อ่าน >_<!!
“ปิดบัง? เรื่องอะไรคะ?” พี่จุนเจถามพร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะมาหาฉัน
“คะ...คือ...ฉัน...”
“เรื่องอะไรอีกล่ะขวัญ >.<” ยูรีเขย่าแขนฉันเบาๆ โอ้ย! ยัยยูรี แล้วค่อยถามได้ไหม!
“ฉันกับพี่จุนฮยองเรา...เป็นแฟนกันค่ะ >_<!!”
“เฮ้ย! O_O!” << จุนฮยอง
“ห๊ะ! =[]=!” << ทุกคน
และ
“ไม่จริงใช่ไหมคะ?” << พี่จุนเจ
“จะ...จริงค่ะ” ฉันบอก แล้วเหลือบไปมองจุนฮยองแฟน (กำมะลอ) สดๆ ร้อนๆ ของฉัน
+_+! (ชิ้ง!)
ฉันหลุบตาลงมามองมือตัวเองทันที นี่ฉันขุดหลุมฝังตัวเองรึเปล่าเนี่ย ฉันน่าจะโกหกว่าเป็นแฟนกับดงอุนดีกว่า หมอนั่นคงจะยอมเล่นบทนี้กับฉันอย่างเต็มใจแน่ๆ แต่ติดที่ความสัมพันธ์ของดงอุนกับวิลล่ามันไม่ชัดเจนนี่สิ เลยไม่กล้าเล่น Y_Y
“พี่ไม่เชื่อ!” พี่จุนเจยืดตัวขึ้น
“เชื่อเถอะค่ะ คือ...ทางต้นสังกัดของ...ของบีสท์เขาไม่อยากให้ศิลปิน...เอ่อ กระแสความนิยมตกเพราะมีแฟนแล้วพวกเราเลย...เลยต้องปิดข่าวน่ะค่ะ ^^;” ฉันบอกแล้วรีบคล้องแขนจุนฮยองหมับทันที แต่แปลกที่เขากลับไปดึงมันออก ขอบใจมากนะจุนฮยอง TOT
“ฮยอนอินอย่ามาโกหกพี่เลยค่ะ พี่ไม่เชื่อหรอก” พี่จุนเจพูดแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
ทุกคนละสายตาจากพี่จุนเจกลับมาที่ฉัน รวมทั้งจุนฮยองที่มองฉันอย่างอาฆาต เอ่อ...ถ้าจะมองกันขนาดนั้นล่ะก็ เอาบร็อกโคลีในจานผัดผักมาอุดจมูกฉันให้ตายเลยดีกว่าไหม (_ _;)
“ว่าไง?...” พี่เภตราถามขึ้นมาเป็นคนแรก ฉันเลยจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมาจากตักของตัวเอง
“คือ...ขอโทษนะคะที่ทำให้วุ่นวายกัน...” ฉันยิ้มแหยๆ ให้ทุกๆ คนในห้อง ยกเว้นจุนฮยอง ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาจริงๆ ให้ตาย!
“ฉันว่าแกไปบอกพ่อแกดีๆ ดีกว่าว่าไม่อยากหมั้น ดีกว่าใช้วิธีนี้นะ” วิลล่าแสดงความเห็น
“ฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นคนยังไง ถึงต้องใช้แผนนี้ไง T^T”
“แล้วทีนี้จะเอาไงจุนฮยอง” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อดูจุนถามจุนฮยองที่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆ แล้ว
ฉันนั่งรอลุ้นคำตอบของจุนฮยองด้วยใจระทึก ถึงแม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็เถอะนะ -_-;
“ปัญหาของใครก็ให้คนนั้นแก้เอง ฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก” จุนฮยองพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปจากห้องเลย อ้าว! กลับห้องแล้วหรอ สรุปเขาจะไม่ช่วยฉันจริงๆ ใช่ไหม TOT!
ฉันรีบตามจุนฮยองออกไป แต่ก็ช้ากว่าเขา (เพราะขาสั้นกว่า -_-;) พอเขาเข้าไปในห้องได้ปุ๊บเขาก็ล็อกกลอนปั๊บ เฮ้ย! นายช่วยฉันมาตลอดแล้วจะช่วยอีกหน่อยไม่ได้รึไงเล่า
“จุนฮยอง! จุนฮยอง!! เปิดประตูหน่อยสิ ฉันอยากคุยด้วย” ฉันตะโกน แต่ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเลย นี่เขาจะทิ้งฉันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย!!
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ฉันออกแรงทุบประตูแรงๆ จนรู้สึกปวดมือขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่เปิดฉันก็จะทุบมันอยู่นี่แหละ -_+!
“จะทุบให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะขวัญ” วิลล่าเข้ามาห้ามฉัน
“ก็ให้จุนฮยองออกมาคุยกับฉันไง”
“โนเวย์ ไม่มีทางซะหรอก ถ้าพี่จุนฮยองบอกว่าไม่อยากคุย แม้แต่พี่นาบีมาขอคุยด้วยยังไม่ได้คุยเลยนะยะ แล้วแกเป็นใครจะสั่งพี่เขาได้” วิลล่าถาม เออ...จริงของแกนะวิลล่า แล้วฉันเป็นใคร? Y_Y
“ฉันว่าแกใจเย็นๆ ก่อนดีกว่านะ” ยูรีที่ตามวิลล่าออกมา ตบบ่าฉันเบาๆ “ฉันว่าพี่เขาคงช็อกที่แกติ๊ต่างเอาเขามาเป็นแฟนอ่ะ”
“นั่นสิ ทำไมถึงเลือกที่จุนฮยองล่ะ...เขาพูดง่ายเหมือนคนอื่นที่ไหน” ประโยคสุดท้ายวิลล่าเข้ามากระซิบกับฉันเบาๆ
“ก็ตอนนั้นมันคิดไม่ออกจริงๆ นี่”
“ก็นายดงอุนไง ฉันมั่นใจว่าหมอนั่นจะช่วยแกสุดกำลังเลย”
โถวิลล่า...ไม่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีขนาดนั้นก็ได้นะ ฉันเห็นแววตาแกฉันก็รู้แล้วว่าที่พูดออกมามันฝืนใจขนาดไหน U_U;
“เอาล่ะๆ ฉันว่าแกกลับไปกินข้าวต่อดีกว่า แกยังไม่ค่อยได้กินอะไรเลยนี่” วิลล่าถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วพาฉันเดินออกมาจากประตูห้องบีสท์ จะมีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้ไหมนะ ขอให้มีเถอะ TOT
วันรุ่งขึ้น การแสดงละครเวทีรอบสุดท้ายของจุนฮยองก็ถูกจัดขึ้นตามเวลาที่กำหนดไว้ และบริเวณหน้าโรงละคร Seo Ha ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้ชมมากมายยิ่งกว่าทุกๆ วัน หนึ่งในนั้นก็คือวิลล่าและเพื่อนร่วมวงอีก 6 ชีวิต ส่วนบีสท์ฉันไม่ต้องหาบัตรเข้าชมละครให้พวกเขาเลย เพราะทางต้นสังกัดเขาจองบัตรไว้ให้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วเพื่อล็อกเอาไว้ว่าวันนี้พวกเขาต้องมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมวง และด้วยเหตุนี้เอง นักข่าวสาขาบันเทิงจากทุกช่องทุกสำนักจึงมารวมตัวกันที่นี่เพื่อมาทำข่าวบีสท์
พ่อพยายามจับคู่ให้ฉันอย่างที่คาดเอาไว้ และให้พี่จุนเจเดินประกบฉันตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหนจนฉันกระดิกตัวไม่ได้เลยสักนิด อยากจะคุยกับเพื่อนก็ต้องใช้การกระซิบเอา เพราะคุณเธอจะได้ยิน =_=; แต่ถึงจะกระซิบขนาดนี้ก็ไม่วายเอียงหัวมาฟังอีกแน่ะ!
“พี่ยังไม่ได้บอกเรื่องพี่จุนฮยองกับคุณพ่ออีกหรอคะ” ฉันถามพี่จุนเจ ระหว่างที่รอนักข่าวถ่ายรูปพ่อกับบีสท์อยู่ในห้องรับรองหลังจากที่ออกไปส่งเพื่อนๆ ขึ้นรถกลับหอแล้ว
“ถ้าบอก แผนของฮยอนอินก็สำเร็จน่ะสิคะ” พี่จุนเจพูดแล้วมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับฉัน
“พี่หมายความว่ายังไง?” ฉันหรี่ตามองพี่จุนเจ น้ำเสียงที่ดัดให้ดูหวานๆ ตลอดเวลา ตอนนี้ฉันกลับควบคุมให้มันไม่ห้วนไม่ได้
“ฮึๆๆ นั่นไง หลุดจนได้ ^_^” พี่จุนเจยิ้มให้ฉันอย่างขำๆ อะไรหลุด? ชุดเดรสที่ฉันใส่อยู่รึไง ก็ไม่นะ =_=?
“ขนาดเรื่องเพื่อนของฮยอนอินพี่ยังรู้เลยว่ามีกี่คน ทำไมแค่อุปนิสัยคร่าวๆ ของคู่หมั้นพี่จะไม่รู้ล่ะ”
ใจฉันหล่นตุบลงกองกับพื้น ห้องปรับอากาศที่ฉันนั่งอยู่ตอนนี้กลับลดอุณหภูมิลงได้โดยที่ไม่ต้องมีใครไปปรับ
“พี่...รู้หรอ...คะ” ฉันส่งเสียงออกไปอย่างยากลำบาก เขาจะรู้ละเอียดขนาดนี้ได้ยังไง ขนาดเรื่องยัยซอนบียังให้คนเป่าหูได้ง่ายๆ เลย เขาต้องแกล้งให้ฉันคายความจริงออกมาเองแน่ๆ ฉันต้องไม่หลงกลเขาเด็ดขาด!
“ไม่ต้องพยายามพูดให้อ่อนหวานขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่ไม่ถือหรอกว่าฮยอนอินจะเป็นคนอ่อนหวานไหม พี่อยากให้ฮยอนอินเป็นตัวของตัวเอง ทำตัวเหมือนอยู่กับเพื่อนๆ ได้รึเปล่า” พี่จุนเจเปลี่ยนหางเสียงจาก ‘ค่ะ’ เป็น ‘ครับ’ ตามปกติชนที่เขาใช้คุยกัน ทำตัวแปลกๆ นะเนี่ย ฉันชักกลัวเขาขึ้นมาแล้วล่ะ -_-?
“พี่แค่อยากให้ฮยอนอินรีแร็กน่ะ ไม่ต้องแสดงในสิ่งที่มันไม่ใช่ตัวเอง แล้วลองเปิดใจรับพี่ในแบบที่พี่เป็นและในแบบที่ตัวเองเป็น ครั้งแรกที่เจอกันพี่คิดว่าฮยอนอินเรียบร้อยพี่เลยพูด คะ ขา ด้วย เพราะคิดว่าฮยอนอินคงจะชอบ แต่พอมารู้ว่าฮยอนอินเป็นแบบนี้พี่ก็โล่งใจ เพราะถ้าเรียบร้อยขนาดนั้นเราคงเข้ากันได้ยาก ^_^”
“แบบนี้? แบบไหนคะ” ฉันขมวดคิ้วถาม
“ก็...แบบนี้ไง” พี่จุนเจชี้มาที่ฉัน แล้วฉันก็เพิ่งสังเกตุว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาเซ็งๆ กอดอก และนั่งไขว่ห้างมองพี่เขาอยู่
อ้าว! ซวยล่ะ เผยธาตุแท้อย่างลืมตัว -_-!
“พี่รู้มาสักพักแล้วล่ะ พี่เห็นบางทีสายตาฮยอนอินก็ดูแข็งๆ ไป พี่เลยลอง เอ่อ...ตามดู” พี่จุนเจหลบตาฉันทันทีที่พูดถึงพยางค์สุดท้าย
“พี่สะกดรอยตามฉันหรอ!” ฉันตบโต๊ะกระจกที่คั่นระหว่างฉันกับพี่จุนเจแรงๆ นี่เขาสะกดรอยตามฉันเลยหรอ! มันเรื่องส่วนตัวฉันทั้งนั้น!!
“พี่ขอโทษ” พี่จุนเจพูดพร้อมแววตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสำนึกผิดแล้วจริงๆ
“พี่สืบมาได้ขนาดนี้ แล้วพี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าฉันโดนรุมทำร้ายเพราะอะไร”
“เรื่องนั้น...พี่ไม่รู้จริงๆ พี่แค่รู้ว่าฮยอนอินมักมีเรื่องกับเพื่อนที่มหา’ลัยกลุ่มหนึ่งบ่อยๆ แต่พี่ก็รู้ไม่ลึกเท่าไหร่ เพราะฝ่ายนั้นระวังตัวมาก ดูเหมือนจะมีอิทธิพลบางอย่างที่คอยเก็บกวาดให้ด้วย” พี่จุนเจพูดพร้อมกับแสดงความเห็น ก็สาเหตุของเรื่องมันเป็นลูกชายของนักการเมืองใหญ่นี่คะพี่ =_=;
“เฮ้อ...ช่างมันเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องแอ๊บเรียบร้อยให้เหนื่อย” ฉันพูด พี่จุนเจพยักหน้ารับเงียบๆ
“แล้วนี่ พี่ไม่รู้หรอว่าฉันไม่ชอบให้เรียกฮยอนอิน” ฉันถาม เพราะรู้สึกว่าห้องมันเงียบนานเกินไปแล้ว
“รู้ แต่พี่ไม่อยากเรียก ‘ของขวัญ’ นี่”
“ทำไม?”
“ก็พี่ไม่อยากให้ฮยอนอินติดอยู่กับอดีตไง”
“อดีตที่พี่พูดถึงน่ะแม่ฉันนะ” ฉันเน้นคำว่า ‘แม่’ ให้พี่จุนเจฟังชัดๆ จะให้ฉันลืมแม่ตัวเองไปง่ายๆ ได้ไง!
“พี่หมายถึง ไม่อยากให้ติดกับอดีตมากจนเกินไป คุณแม่ของอยอนอินเองก็คงไม่สบายใจหรอกที่เห็นฮยอนอินมัวแต่ทำตัวแบบนี้ เราควรเดินไปข้างหน้าและอยู่เพื่อคนที่ยังอยู่เคียงข้างเราไม่ใช่หรอ ส่วนคนที่จากไปแล้วเราก็แค่เก็บเขาไว้ในใจก็คงพอแล้ว...พี่อยากให้ฮยอนอินมองไปรอบๆ ตัวว่ามีคนที่รักฮยอนอินมากมายแค่ไหน”
“พี่พูดจบแล้วใช่ไหม” ฉันถาม แล้วออกไปจากห้องทันที จะไม่ให้ฉันคิดถึงแม่ได้ยังไง เวลาที่ท่านจากไปท่านก็จากไปอย่างโดดเดี่ยว ฉันกลับจากโรงเรียนไปดูใจท่านไม่ทันด้วยซ้ำ แล้วยังต้องมาอยู่กับพ่อที่เกาหลีหลังจากที่ท่านจากไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ ฉันทำผิดกับท่านขนาดนี้ยังจะให้ฉันลืมอีกหรอ...
ฉันเดินออกมาเรื่อยๆ ก็เจอพ่อกับคุณอินโจเดินผ่านมา พ่อถามหาพี่จุนเจแล้วเดินเข้าไปในห้องรับรองนั่นดูเหมือนมีธุระต้องคุยกัน ก็ดีเหมือนกันพี่จุ้นจ้านนั่นจะได้ไม่ตามฉันมา
ฉันมองตามพ่อไป ก่อนจะเดินออกมาเพื่อกลับคอนโด แต่ก็เจอจุนฮยองกำลังเดินไปที่ห้องรังรองศิลปิน ห้องเดิมกับตอนที่ฉันเข้าไปหลบกีอุนนั่นแหละ ฉันต้องไปตกลงกับเขาหน่อยแล้ว
ฉันรีบเดินตามจุนฮยองไปแต่ก็โดนทีมงานของเขากักตัวไว้ โชคดีที่พนักงานของโรงละครมาเจอเข้า เขาเลยอนุญาตให้ฉันเข้าไปหาจุนฮยองได้ในฐานะที่ฉันเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงละคร เพิ่งรู้สึกว่ามีอำนาจอยู่ในมือก็วันนี้แหละ ฮุฮุ ^^
“จุนฮยอง!” ฉันร้องเรียกเขาทันทีที่ผลักประตูเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจเพราะเห็นโฮยอนกำลังนั่งคร่อมร่างของจุนฮยองอยู่บนโซฟา ={ }=!
*************************************
อัพแล้วนะคะ ฝากติดตามด้วยนะรีดเดอร์ >.<
*************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ