[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
33) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 3 Dangerous Lover
:: Chapter 8 ::
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ ประตูหนีไฟที่ปิดไว้อย่างมิดชิด ฉันหยุดอยู่หน้าประตูนั้นพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ข้างในนั้นฉันเจอกับบันไดหนีไฟโล่งๆ ที่มีบันไดทั้งทางขึ้นและลงจากตึก แสงสว่างจากหลอดไฟนีออนช่วยส่องสว่างให้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง แต่ทำไมฉันถึงไม่เห็นจุนฮยองล่ะ เขาอยู่ในนี้จริงๆ น่ะหรอ?
กร็อบ!
พอฉันก้าวเท้าเข้าไปในนั้นก็เหยียบอะไรบางอย่างเข้าเต็มๆ ฉันเลยรีบชักเท้ากลับแทบจะทันที อึ๋ย! เหยียบอะไรล่ะเนี่ย ?_?
ฉันก้มลงมองใต้เท้าก็เจอกับไอโฟน 5 เครื่องหนึ่งแตกกระจายอยู่ โห...ไอโฟน =_=; ถึงฉันจะรวยแต่ฉันก็ไม่ได้ใช้ไอโฟนทิ้งขว้างขนาดนี้นะ ฉันก้มลงไปเก็บไอโฟนเจ้าปัญหาขึ้นมาทั้งตัวเครื่อง แบตเตอร์รี่ ฝาครอบหลัง และเคสโทรศัพท์ลายเสือ เอ่อ...ขนาดใส่เคสอยู่ยังแตกกระจายขนาดนี้ เจ้าของเครื่องคงจะมีพลังช้างสารเป็นแม่นมั่นแล้ว (เอ๊ะ! นี่มันนิยายรักแนวเกาหลีหรือว่านิยายย้อนยุคสมัยพี่มากเนี่ย -_-?)
“จุนฮยอง...” ฉันส่งเสียงออกไปเบาๆ เพื่อหยั่งเชิงดูว่าเขาอยู่ในนี้รึเปล่า เพราะฉันมองหาทั่วแล้วแต่ก็ยังไม่เจอ
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ฉันจึงค่อยๆ ก้าวเข้าไปในนั้นก้าวหนึ่งอย่างช้าๆ แล้วกระเดิ๊บเข้าไปอีกก้าวและอีกก้าว...
“เฮ้ย!” ฉันอุทานอย่างตกใจเมื่อฉันมองลงไปที่บันไดหนีไฟประมาณ 4-5 ขั้นก็เจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ ฉันหรี่ตามองผู้ชายคนนั้นเพื่อให้มองได้ถนัดๆ เพราะแสงจากหลอดไฟตรงที่มีผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่มันไม่ค่อยสว่าง
“นายไปทำอะไรตรงนั้น” ฉันถาม แล้วค่อยๆ เดินลงไปหาจุนฮยองอย่างยากลำบากเพราะตอนนี้ฉันเริ่มปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้ว ตอนโดนตีทำไมมันไม่ปวดขนาดนี้นะ -_-;
“เธอมาทำอะไรที่นี่ กลับห้องไปซะ” จุนฮยองพูดกับฉันทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ ฉันค่อยๆ ทรงตัวนั่งลงข้างๆ จุนฮยองบนขั้นที่สูงกว่าเขาขั้นหนึ่ง เพราะเขาตัวสูงกว่าฉันเลยต้องทำตัวให้เท่าเทียมนิดหน่อย
“ฉันได้ยินเสียงแปลกๆ ฉันเลยเดินมาดู นี่นายขว้างไอโฟนทิ้งเลยหรอ เป็นอะไรกับมันมากป่ะเนี่ย” ฉันถามพร้อมกับยื่นไอโฟนที่พังยับเยินในมือไปให้เจ้าของของมัน แต่เขาไม่เงยขึ้นมามองมันด้วยซ้ำ
“ฉันว่าห่วงตัวเองก่อนเถอะ เดินจะไม่ไหวอยู่แล้วน่ะ” จุนฮยองหันมามองฉันนิดหน่อยก่อนจะกลับไปนั่งก้มหน้าแบบเดิม
“นี่ มีอะไรรึเปล่า เก็บไว้คนเดียวเก็บกดแย่ เล่าให้ฉันฟังได้นะ ฉันรับรองว่าจะเก็บเป็นความลับ” ฉันเสนอ เพราะฉันไม่เคยเห็นเขานิ่งขนาดนี้ ปกติจะด่าแล้วก็โวยวายตลอดเวลาที่มีอะไรไม่ถูกใจ
“ไม่มีหรอก เธอกลับไปเถอะ” จุนฮยองยังคงยืนยันคำเดิม
“งั้นก็เอาไปสิ มือถือของนาย” ฉันยื่นไอโฟนไปจ่อตรงหน้าจุนฮยอง เขาหันมาด้วยสีหน้าเซ็งๆ แล้วหยิบไปจากมือฉันก่อนจะ…
แกร็ง!
เขาทิ้งมันลงพื้นแหละ =_=;
“นี่! ฉันอุตส่าห์เก็บมานะ!” ฉันตวาดลั่น ก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บมันขึ้นมา แต่เกิดปวดแปล๊บขึ้นมาที่ขาทำให้ฉันต้องทิ้งตัวลงนั่งอย่างกระทันหัน ฉันเลยต้องรีบหาอะไรยึดเกาะเพื่อย้ำยันไม่ให้ตัวเองล้มซึ่งไหล่ของจุนฮยองใกล้ที่สุดแล้ว -///- ฉันรีบคว้าหมับที่ไล่ของจุนฮยองทันที เขาก็ดูเหมือนจะตกใจมากเพราะเขารีบยกมือขึ้นมาพยุงฉันไว้เหมือนกัน แต่ทำไมต้องจับเอวฉันด้วยล่ะ -///-!
“ระวังหน่อยสิ เพิ่งโดนกระทืบไม่ใช่หรอ!” จุนฮยองพูด ก่อนจะพยุงฉันให้นั่งลงที่บันไดขั้นเดิม แล้วก้มลงไปเก็บไอโฟนที่เพิ่งทิ้งขึ้นมาโยนลงบนตักฉัน
“เอาไปสิ เธอเก็บมาก็เป็นของเธอ” จุนฮยองบอกอย่างไม่สนใจ
“โอเค!! ฉันจะเอาไปทิ้งให้แล้วกัน ไอโฟนเละๆ แบบนี้ฉันไม่เอาหรอก” ฉันบอกแล้วพยายามดันฝาผนังเพื่อพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืนได้
“เธอจะไปไหน” จุนฮยองเงยหน้ามาถามฉันพร้อมกับจับข้อมือฉันไว้
“ก็กลับห้องไง นายอยากอยู่คนเดียวไม่ใช่หรอ”
ดูเหมือนมือของจุนฮยองจะสั่นๆ นะ ฉันก้มลงไปมองมือที่เขาจับฉันอยู่ก็เห็นมีเลือดซึมออกมาที่หลังมือ เฮ้ย! เลือด =[]=!
“จุนฮยอง นาย...เลือดออก” ฉันพูดแล้วนั่งลงที่เดิม พร้อมกับจับมือเขาขึ้นมาดูแทน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เห็นแค่นี้ทำเป็นตกอกตกใจ ทำยังกะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ไปได้ แผลแบบนี้เต็มตัวเธอไปหมด”
“เฮ้ย! แต่นายเป็นศิลปินนะ จะบาดเจ็บได้ไง” ฉันถาม แล้วเรื่องแสดงละครเวทีล่ะ มันยิ่งออกแนวย้อนยุคต้องถือดาบต่อสู้ตลอดเวลาไม่ใช่หรอ แล้วเขามาเป็นแผลที่มือขวาแบบนี้ งานของเขาจะเป็นยังไงล่ะ o_o?
“ช่างเถอะ เธอนี่น่ารำคาญจัง ทีตัวเองยังมีเรื่องชกต่อยได้ไม่เว้นแต่ละวัน”
นั่นไง เข้าตัวจนได้นะเรา =_=;; ฉันตัดปัญหาไม่เถียงกับเขาด้วยการตั้งอกตั้งใจประกอบไอโฟนเละๆ ในมือให้กลับมาคืนรูปได้อีกครั้ง เอ...ชิ้นนี้ประกอบแบบนี้รึเปล่านะ? เอ๋? ประกอบแบบนี้มั้ง -_-;
“นี่! เงียบทำไม แทงใจดำรึไง” จุนฮยองถามกลั้วหัวเราะ “เธอไม่อยากรู้แล้วหรอว่าฉันเป็นอะไร”
“ไม่หรอก ถึงฉันถามนายก็ไม่ตอบอยู่ดี เปลืองน้ำลายเปล่าๆ”
“นั่นสินะ ใครๆ ก็เบื่อจะคุยกับฉันกันหมด...” เขาพูดแล้วเงียบไป ฉันหันไปมองจุนฮยอง ก็เห็นเขาลูบหลังมือของตัวเองเบาๆ คงเริ่มรู้สึกเจ็บแล้วสิ โด่! ทำเป็นอวดเก่ง -_-!
“ก็นายเล่นอารมณ์แปรปรวนแบบนี้ใครมันจะอยากไปคุยด้วย หัดใจเย็นหน่อยสิ” ฉันพูด จุนฮยองหันมามองหน้าฉันนิ่งๆ ชะอุ้ย! นี่ฉันพูดไม่ดูสถานการณ์เลยใช่ไหมเนี่ย -_-;
“ก็ถูกของเธอ เพราะฉันเองนี่แหละที่เรื่องมันเป็นแบบนี้...เขาถึงไปหาคนที่เอาใจใส่ มีเวลาให้ แล้วก็ใจดีกว่าฉัน” จุนฮยองบ่นเสียงเรียบพร้อมกับเหม่อมองไปที่ผนังสีขาวที่มืดสลัวตรงหน้า
“ทำไมนายไม่ไปง้อเขาล่ะ ถ้าเกิดเขาเห็นว่านายเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เขาอาจจะกลับมาก็ได้นะ” ฉันพยายามช่วยคิดหาทางออก แต่เขากลับพ่นหัวเราะออกมาแรงๆ แล้วส่ายหน้าไปมา
“มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะเพราะฉันไม่เหมาะกับเขาตั้งแต่แรก...ฉันคิดว่าเราเหมือนกันมากจนไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย แต่ฉันกลับคิดผิด ยิ่งเราอยู่ใกล้กันก็เหมือนไฟกับไฟ ที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันและกัน มันมีแต่จะเผาไหม้ทั้งสองฝ่ายจนไม่เหลืออะไรเลยต่างหาก”
“แล้วทำไมเขาถึงยังมาตามหึงนายอยู่อย่างนี้ล่ะ เลิกกันแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าเขาไม่มีเยื่อใยให้นายบ้าง คงไม่ทำแบบนี้หรอก”
“เขาคงเหงาหรือแค่รู้สึกหวงในตัวของฉันเท่านั้นแหละ พอตัวจริงเขามาฉันก็ต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าเหมือนทุกๆ ครั้ง ฉันพยายามแล้ว...ฉันพยายามฝืนยิ้มครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้คนอื่นคิดว่าฉันไม่เป็นไร...แต่ครั้งนี้ ฉันทำไม่ได้แล้วจริงๆ”
ฉันได้แต่มองหน้าจุนฮยองเงียบๆ เพราะฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาคงจะรักโฮยอนมากจริงๆ สินะ ถึงได้มีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาขนาดนี้ พอนึกถึงเรื่องแบบนี้ในใจก็เกิดความรู้สึกวูบแปลกๆ =///=?
“เฮ้อ...เหนื่อยจัง” จุนฮยองบ่นออกมาเบาๆ และ...
ฟุบ!
อยู่ๆ เขาก็เอนศีรษะมาพิงที่ไหล่ของฉันด้วยท่าทางเหนื่อยๆ -////-
“นี่! นะ...นายทำไรอ่ะ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ >///<” ฉันพยายามผลักศีรษะของจุนฮยองออกจากไหล่ของฉัน แต่พอผลักออกไปได้เขาก็ล้มตัวลงมา ผลักออกเขาก็ล้มลงมาอีก จนฉันขี้เกียจจะผลัก เลยปล่อยให้หมอนั่นหนุนไหล่ฉันไป -////-
“อ้าว เลิกผลักแล้วหรอ” จุนฮยองถามด้วยรอยยิ้มทะเล้นๆ ที่ฉันไม่เคยเห็นพร้อมกับผละออกจากฉัน
“อื้ม เหนื่อยละ -////-”
“เอ้อ! ลืมไป เธอโดนรุมกระทืบมานี่นา” จุนฮยองหัวเราะชอบใจก่อนจะลุกขึ้นยืน เอาเข้าไป! ตอกย้ำกันเข้าไป -_-!!
“มาเถอะ กลับห้องกัน” จุนฮยองยื่นมืออกมาข้างหน้า ฉันเชิ่ดใส่เขาก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นด้วยลำแข้งของตัวเอง ฮึบ!!
“เก่งให้ได้ตลอดแล้วกัน” จุนฮยองมองฉันที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น และยังไม่ได้เดินไปไหน เขายังยืนรอฉันอยู่ที่เดิม จากนั้นเราก็เดินออกมาพร้อมกันโดยจุนฮยองเดินรั้งท้าย สงสัยจะรอหัวเราะเวลาฉันล้มแหงๆ =_=;
จุนฮยองเดินมาส่งฉันที่หน้าห้อง แล้วเดินกลับไปห้องของตัวเองโดยไม่พูดอะไร พอฉันนึกขึ้นได้ว่ามือถือของเขาอยู่กับฉัน เขาก็เข้าไปในห้องซะแล้ว
แล้วค่อยคืนแล้วกันนะ =_=;
แอ๊ด...
ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากให้วิลล่าตื่น แสงสว่างจากห้องนั่งเล่นรวมเปิดอยู่ทำให้ฉันไม่ต้องคลำทางกลับให้มันยุ่งยาก...เอ๊ะ! ฉันจำได้ว่าปิดไฟให้วิลล่านอนแล้วนะ หรือว่าลืม -_-?
“ฮยอนอิน!!” อยู่ๆ พี่จุนเจก็พุ่งเข้ามาหาฉันทันทีที่ถอดรองเท้าเสร็จ ฉันมองเข้าไปในห้องก็เจอวิลล่าและพี่ๆ คนอื่นๆ นั่งล้อมวงกันเต็มไปหมด และมีอีกคนที่เพิ่มมาคือ ชเวอึนพา
“พี่จุนเจ...มา...มาได้ยังไงคะ?” ฉันถามพร้อมกับลอบมองไปที่วิลล่าอย่างงงๆ วิลล่าพยักพเยิดไปที่อึนพา หมายความว่าไงน่ะ -_-?
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ ใครทำร้ายฮยอนอิน!! บอกพี่มาสิ” พี่จุนเจไม่สนใจจะตอบคำถามฉัน เขาพยายามกวาดตามองไปทั่วตัวฉันอย่างลนลานเพื่อมองหาว่าฉันบาดเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า
“เอ่อ...เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ วิลล่าเลยช่วยไว้...ว่าแต่พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันถามพี่จุนเจที่ยังคงมองฉันอย่างห่วงๆ
“พี่รู้เรื่องฮยอนอินหมดแล้วล่ะค่ะ ว่าเกิดอะไรบ้าง อีกอย่างเพื่อนของฮยอนอินก็มีไม่กี่คน จะตามหาฮยอนอินแค่นี้สบายมากสำหรับพี่” พี่จุนเจพูด ทำเอาฉันงงจนเส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ แรงกว่าเดิม นี่มันละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของฉันเกินไปแล้วนะ =_=!!
“แต่ฮยอนอินไม่ต้องห่วง พี่ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณลุง”
แน่ะ! ยังแสดงความเป็นพ่อพระ บอกว่าจะไม่บอกพ่อฉันอีก -_-;
“ขอบคุณมากนะคะที่ไม่บอกเรื่องนี้กับคุณพ่อ” ฉันขอบคุณไปตามมารยาท และตามบทบาทสาวน้อยอ่อนหวานที่กำลังสวมบทบาท -_-;
“ขอบคุณมากๆ นะครับที่ช่วยฮยอนอินเอาไว้...งั้นเรากลับกันเถอะค่ะ” พี่จุนเจหันไปพูดกับคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้องโดยเฉพาะกับอึนพา -_-? และในประโยคสุดท้ายก็หันมาพูดกับฉันแล้วทำท่าจะพาฉันออกจากห้อง
“เอ่อ...พี่จุนเจคะ ฉันกลับบ้านในสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันรั้งข้อมือไว้ก่อนที่จะโดนลากออกไป ทำให้พี่ๆ ลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นฉันขัดขืน
ทุกคนช่วยฉันด้วย T^T
“ไม่ค่ะ พี่เป็นห่วงฮยอนอิน ไม่อยากกลับบ้านก็กลับคอนโดก็ได้ พี่จะได้ดูแลฮยอนอินเอง พี่ต้องมั่นใจว่าฮยอนอินปลอดภัย” พี่จุ้นจ้าน (พี่จุนเจ =_=) ยืนยันหนักแน่น เยอะใหญ่แล้วเพ่! -*-
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายแล้ว เรื่องดูแลของขวัญ...เอ่อ ฮยอนอิน ฉันมั่นใจว่าดูแลได้ค่ะ” พี่เฝ้าฝันออกรับพร้อมกับเดินมาจับมือฉันไว้อีกข้าง ขอบคุณมากนะคะพี่เฝ้าฝัน T^T
“ผมไม่อยากรบกวนน่ะครับ ได้ข่าวว่าฮยอนอินมาที่นี่บ่อยมากแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฮยอนอินก็เป็นเพื่อนของวิลล่าเอง วิลล่าไม่ถือหรอกค่ะ” วิลล่าออกรับอีกคน
“คือ...ผมต้องดูแลฮยอนอินให้ดีที่สุดน่ะครับ เพราะคุณลุง...ผมหมายถึงคุณพ่อของฮยอนอินฝากให้ผมดูแลเธอในช่วง 2-3 วันนี้เพราะท่านมีประชุมด่วนที่เกาะเชจู”
“แล้วเราจะไว้ใจคุณได้ยังไงล่ะ คุณเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้” พี่ณัชกอดอกถามอย่างเอาเรื่อง เฮ้ย! คำถามนี้มันฆ่าฉันชัดๆ เลยนะพี่ณัช O_O!
อย่าบอกเขาเชียวนะพี่จุ้นจ้านนนน >[]<!!
“อ๋อ...เป็นคู่หมั้นของพี่ฮยอนอินค่ะ ถ้าไม่สนิทกันขนาดนี้อึนพาไม่พาเขาขึ้นมาบนหอหรอก” อึนพาพูดแทรกขึ้นมาทันที
กรรม =[ ]=!
ทุกคนมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวโดยเฉพาะวิลล่า ถึงกับส่งสายตามาบอกฉันว่า ‘ไว้เราค่อยคุยกัน -_+’ อะไรประมาณนี้ ยัยเด็กอึนพาทำไมต้องรีบบอกขนาดนี้ด้วยนะ! กลัวใครแย่งพูดรึยังไงยัยเด็กบ้า >_<!
“ใช่ครับ เรากำลังจะหมั้นกัน แล้วแบบนี้ พวกคุณจะให้ผมพาฮยอนอินกลับไปได้รึยังครับ” พี่จุนเจถาม ไม่มีใครพูดอะไร พี่จุนเจจึงโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการลา
“ขอโทษนะครับที่มารบกวน” ว่าแล้วพี่เขาก็จูงมือฉันออกมาจากห้อง เฮ้ๆ โชว์สนิทมากไปแล้วเพ่! +_+!
ฉันถูกพามาที่รถสปร์อตสุดเฉี่ยวของพี่จุนเจอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พี่เขาจะพาฉันเดินทางกลับคอนโดอย่างด่วน ระหว่างทางพี่เขาไม่พูดอะไรกับฉันเลย นอกจากตั้งอกตั้งใจมองดูถนนและขับรถไปเงียบๆ คงจะโกรธที่ฉันหนีเขามาจากร้านอาหารสินะ U_U;
“พี่จะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณลุงนะคะ” อยู่ๆ พี่จุนเจก็พูดขึ้น
“ค่ะ U_U” ฉันก้มหน้ารับคำนิ่งๆ
“แต่พี่ไม่อยากเห็นฮยอนอินต้องเจ็บตัวแบบนี้อีก เพราะฉะนั้นพี่จะมาดูแลฮยอนอินด้วยตัวเอง และฮยอนอินห้ามดื้อ ห้ามหนีพี่ไปแบบวันนี้อีก เข้าใจไหมคะ”
“ค่ะ U_U” ฉันก้มหน้ารับอย่างจำใจ ถ้าฉันต้องติดแหง็กกับพี่จุ้นจ้านคนนี้ ฉันคงเฉาตายแน่ T^T เขาทำเหมือนฉันเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของเขาทั้งที่ยังไม่ได้หมั้นกันเลย ถ้าเกิดหมั้นกันไปจริงๆ เขาคงล่ามโซ่ฉันไว้กับเสาเอกของบ้านแหงมๆ =_=;
หลังจากจบการสนทนาพี่จุนเจก็เงียบไปอีก จนกระทั่งมาถึงคอนโด พี่จุนเจก็เดินมาส่งฉันถึงประตูห้อง ดูแลแบบไม่ให้คลาดสายตาเลยหรอเนี่ย -_-*
“ขอบคุณมากนะคะ” ฉันบอก แล้วหมุนตัวไปเปิดประตูห้อง แต่พี่จุนเจกลับกระตุกต้นแขนฉันเบาๆ เพื่อให้หันกลับไปหาเขา พี่จุนเจมองลึกเข้ามาในดวงตาก่อนจะรวบตัวของฉันเข้าไปกอดไว้แน่น ความอบอุ่นจากแผงอกกว้างของพี่จุนเจและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ลอยมาเตะจมูก มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ มันอบอุ่นอย่างน่าประหลาด...
ห๊ะ! ไม่นะยัยของขวัญ เธอคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย เธอกำลังจะเคลิ้มกับนายจุ้นจ้านนี่น่ะหรอ >////<
“พี่เป็นห่วงฮยอนอินมากรู้ไหมคะ ทันทีที่พี่รู้ว่าฮยอนอินมีเรื่องกับใครก็ไม่รู้ แถมยังหาตัวฮยอนอินไม่เจอพี่แทบคลั่ง พี่บอกกับตัวเองว่าถ้าฮยอนอินเป็นอะไรไป พี่จะไม่ให้อภัยตัวเองเลย...” พี่จุนเจกระซิบที่ข้างหูของฉันแผ่วเบา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ฉันเชื่อคำพูดของเขาทุกคำ
“ฉัน...ขอโทษค่ะ” ฉันพูดออกไปเบาๆ
“ฮยอนอินไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ มันเป็นความผิดของพี่ต่างหากที่ดูแลฮยอนอินไม่ได้ พี่ขอโทษนะคะ” พี่จุนเจกระชับวงแขนแน่นเข้าไปอีกเหมือนพยายามส่งผ่านความรักความจริงใจมาให้...แต่ทำไมฉันถึงเปิดรับความรักและความจริงใจจากเขาไม่ได้นะ...
“เอ่อ...พี่จุนเจคะ ฉันปวดแผลน่ะค่ะ” ฉันพูด พี่จุนเจรีบผละออกจากฉันทันที
“ขอโทษนะคะ เจ็บมากไหม” พี่จุนเจถามอย่างห่วงๆ
“ก็...ค่ะ” ฉันตอบตามความจริง
“งั้นเข้าไปพักเถอะค่ะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ พี่อยู่ห้องข้างๆ นี่เอง”
“อะไรนะคะ? ห้องข้างๆ o_o?”
“ใช่ค่ะ พี่ซื้อห้องข้างๆ ไว้สักพักแล้ว แต่ยังไม่ได้มาอยู่สักที คราวนี้คงจะได้ใช้แล้วล่ะ”
“งั้น...ฉันเข้าห้องก่อนนะคะพี่” ฉันบอกแล้วรีบเข้าห้องด้วยความรวดเร็ว ชักจะรุกเกินไปแล้วนะคะพี่จุนเจ ถึงขนาดซื้อคอนโดอยู่ด้วยเลยหรอ พ่อฉันต้องรู้เห็นเป็นใจแน่ๆ >_<//
ตลอด 2 วันที่ผ่านมาฉันถูกพี่จุนเจดูแลเอาใจใส่อย่างดี หรือจะพูดให้เห็นภาพก็คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว =_=; เพราะเขาไม่ยอมให้ฉันออกไปไหนเลย อยากออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ก็ยืนคุมซะยังกับเป็นบอดี้การ์ดประจำ ทำไมพี่ไม่ใส่สูท ผูกไท สวมแว่นดำมาซะเลยล่ะจะได้ดูสมบทบาทหน่อย -_-;;
จนกระทั่งวันนี้วิลล่ากับยูรีมาหาฉันถึงคอนโด คงทนความสงสัยในใจตัวเองไม่ได้น่ะสิเลยต้องมาถามด้วยตัวเอง เพราะนอกจากกักขังหน่วงเหนี่ยวแล้ว พี่เขายังยึดโทรศัพท์ฉันด้วยง่า TOT
“นะคะพี่จุนเจ งานฉลองเล็กๆ เองค่ะ มีแค่วิลล่ากับเพื่อนๆ” วิลล่าก้มหน้างุดๆ ขณะที่กำลังขอร้องให้ฉันไปร่วมงานฉลองที่พวกเขาจะได้เดบิวต์เดือนหน้านี้แล้ว ฉันอยากจะกรี๊ดดีใจกับความสำเร็จของเพื่อนดังๆ แต่ทำไม่ได้เพราะบอดี้การ์ดยืนคุมอยู่ ต้องรักษาภาพพจน์ไว้ U_U
“รับรองเลยค่ะว่าไม่มีอันตรายอะไรแน่ๆ เชื่อยูรีได้” ยูรีช่วยยืนยัน
พี่จุนเจมองหน้าพวกเรา 3 คนสลับกันไปมาอย่างลังเล จะอะไรนักหนายัยซอนบีคงไม่บุกไปกระทืบฉันซ้ำที่หาของบีสท์หรอก (มั้ง) -_-*
“งั้น พี่ทำธุระเสร็จแล้ว เย็นๆ เดี๋ยวพี่ไปรับแล้วกัน” พี่จุนเจพูดออกมาในที่สุด ยิปปี้! อิสรภาพที่ฉันโหยหากำลังมองเห็นอยู่รำไรๆ แล้ว ^O^
“แต่พี่จะไปส่งฮยอนอินกับเพื่อนก่อนไปทำธุระนะคะ” พี่จุนเจพูดกับฉัน
“ค่ะ” ฉันรับคำเสียงหวาน ไม่ได้รู้สึกกระชุ่มกระชวยแบบนี้มา 2 วันเต็มๆ มันนานเหมือน 2 ปีเลยล่ะ ^O^
“เดี๋ยวเตรียมตัวเสร็จแล้วจะไปเรียกนะคะ ฉันว่าจะอาบน้ำสักหน่อยน่ะค่ะ” ฉันบอก
“ค่ะ” พี่จุนเจรับคำ ก่อนจะดินออกไปนอกห้อง
แล้วก็เป็นไปตามคาด ยัย 2 คนนี้ไม่ได้มาชวนฉันไปฉลองอย่างเดียว แต่จะมาซักฟอกฉันเรื่องพี่จุนเจจริงๆ ด้วย =_=; ฉันมองเห็นตาที่มีประกายวิบวับด้วยความอยากรู้ของเพื่อนรักทั้ง 2 ก็เลยต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“โหย! ฉันอยากโดนจับหมั้นแบบนี้บ้างจัง *O*” ยูรีร้องออกมาก่อนใครเพื่อนทันทีที่ฉันเล่าจบ
“มันไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่แกคิดหรอกยูรี -_-“ ฉันบอก การที่โดนบังคับจิตใจก็ทำให้รู้สึกแย่พออยู่แล้ว ยิ่งโดนจับคู่กับคนที่ตัวเองไม่ได้รักเนี่ย มันรู้สึกแย่ยิ่งกว่าอีก T_T
“แล้วแกจะยอมหมั้นกับพี่จุนเจจริงๆ หรอ” วิลล่าถามอย่างห่วงๆ
“ไม่มีทาง! ฉันกำลังหาทางปฏิเสธพ่ออยู่ แต่ก็ยังคิดไม่ออกเลย”
“แต่ดูพี่เขาห่วงแกมากเลยนะ ดั้นด้นไปหาแกถึงหอยัยวิลล่า น่ารักชะมัด >///<” ยูรีวี๊ดว๊ายด้วยความเขินประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่กำลังพูดถึงอยู่ๆ
เฮ้ๆ ที่เธอพูดถึงน่ะฉันต่างหากย่ะ -_-;
“เอ้อ! ฉันว่าจะถามตั้งแต่วันนั้นแล้ว ทำไมพี่จุนเจไปรู้จักอึนพาได้ล่ะ” ฉันถามสิ่งที่ข้องใจมาตลอด 2 วัน แต่ฉันก็ไม่กล้าถามพี่จุนเจเพราะกลัวเขาจะสำคัญตัวผิดว่าฉันหึงเขา =_=
“อึนพาเล่าว่า วันนั้นน่ะว่าจะมาค้างที่หอเพราะวันรุ่นขึ้นต้องซ้อมแต่เช้า พอดีเจอกับพี่จุนเจของแกเดินกลับไปกลับมาหน้าคอนโด เลยเข้าไปถาม พอดีได้เรื่องเลย” วิลล่าเล่า
“อ้าว อึนพาไม่ได้พักกับพวกแกหรอกหรอ จะเดบิวต์อยู่แล้ว” ยูรีถามแทรกขึ้น
“ยัง กำลังเริ่มทยอยเก็บของย้ายมาแล้วล่ะ” วิลล่าตอบ
“โลกนี่ก็กล๊มกลมนะ เจอใครไม่เจอ เจอคนในวงแกซะงั้น =_=” ฉันบ่น
จะว่าไปเด็กอึนพาคนนั้นหน้าคุ้นชะมัด เหมือนเคยเจอที่ไหน -_-?
“ฉันไม่ค่อยชอบยัยอึนพานั่นเลยอ่ะ เหมือนมาเสียบเข้าวงแกหน้าตาเฉยเลย วงแก 6 คนก็ดีอยู่แล้ว” อยู่ๆ ยูรีก็พูดขึ้นมา
เออ...จริงสินะ ฉันก็เคยเห็นบล็อกแอนตี้ชเวอึนพาผ่านๆ ตามาบ้างเหมือนกัน รู้สึกว่าจะแอนตี้หนักมากด้วย ส่วนมากจะเป็นแฟนคลับเก่าๆ ของวง Beast Girl Band ที่ปกติมีกันอยู่ 6 คน
“อึนพาเป็นเด็กดีมากเลยนะ เขาช่วยพวกฉันไว้ก็ตั้งหลายครั้ง” วิลล่าพูด ฉันเลยนึกถึงเรื่องที่วิลล่าเคยเล่าให้ฟัง อึนพาเป็นคนดีจริงๆ แหละ แต่คงต้องลำบากหน่อยกับการรับมือแฟนคลับที่แอนตี้ขนาดนั้น น่าสงสารจัง U_U
************************************
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ^_^
************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ