[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
8.9
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
87 ตอน
86 วิจารณ์
113.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
31) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEpisode 3 Dangerous Lover
:: Chapter 6 ::
ปึก!
พ่อทิ้งหนังสือพิมพ์ลงต่อหน้าฉันดังปึก! ภาพที่ปรากฏอยู่หน้า 1 ของทุกเป็นภาพของจุนฮยองกำลังประคองผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ ส่วนอีกภาพที่อยู่ติดกันเป็นภาพที่จุนฮยองประคองผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะคาดแถบสีดำไว้ที่ตาฉันก็จำได้แม่นว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉันเอง! และคอนโดที่อยู่ในภาพก็คือคอนโดฉันอีกนั่นแหละ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นภาพเมื่อคืนนี้นะ
“ลูกรู้ไหม ถ้าคนของพ่อไม่ไปเจอไอ้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เข้าลูกจะเป็นยังไง!!” พ่อท้าวสะเอวมองฉันด้วยอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นขั้นรุนแรง
“ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง พ่ออุตส่าห์ไว้ใจให้ออกไปอยู่คอนโดคนเดียว แต่ลูกกลับ...ให้ผู้ชายไปค้างด้วยแบบนั้น!!!”
“ขวัญกับผู้ชายคนนี้ เราไม่ได้มีอะไรกันนะคะ! เขาแค่ไปส่งเฉยๆ” ฉันเถียงทันควัน ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ข่าวที่พาดหัวมันแรงเกินจริงต่างหาก! พาดหัวมาได้ไง ‘ยงจุนฮยองหิ้วสาวขึ้นคอนโด’ =_=
“ตอนนี้ทางเราทำการปิดข่าวกับสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วครับ รวมถึงทางสถานีที่มีข่าวนี้ด้วย” คุณอินโจเดินเข้ามารายงานพ่อ
“ขอบใจอินโจ” พ่อหันไปพูดกับคุณอินโจ แล้วหันมาฉ่ะฉันต่อ ส่วนคุณอินโจก็เดินออกไปเงียบๆ
“ถ้าพ่อปิดข่าวลูกไม่ทันจะเป็นยังไงห๊ะฮยอนอิน!!”
“ขวัญขอโทษค่ะ ขวัญสร้างปัญหาอีกแล้ว Y_Y” ฉันก้มหน้ารับชะตากรรมเต็มที่เพราะฉันก็ไม่มีสติจริงๆ นั่นแหละถึงปล่อยให้มันมีภาพอะไรแบบนี้ออกมาได้ ถ้าเมื่อคืนฉันไม่เมาก็คง...
“ยิ่งเป็นข่าวกับนักร้องดังแบบนี้พวกนักข่าวยิ่งตีข่าวกันมันส์เลย ดีนะที่มีแค่สำนักพิมพ์เดียวที่ได้รูปนี้ไป” พ่อพูดพร้อมกับเดินกลับไปกลับมารอบห้องอย่างหัวเสีย
“งั้นก็ดีแล้วสิคะที่ข่าวยังไม่รั่ว” ฉันพูด
“ไม่รั่วก็จริง แต่ก่อนที่คนของพ่อจะไปเห็นไม่รู้ว่ามีใครซื้อหนังสือพิมพ์ไปแล้วบ้าง” พ่อพูดอย่างร้อนรน แต่ก็ยังคงใจเย็นอยู่มาก เพราะปกติถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้พ่อฉันด่าแหลกจนฉันเถียงไม่ได้แล้ว Y_Y
“ทำไมไอ้นักร้องนั่นมันไปส่งลูกที่คอนโดได้ เป็นแฟนกับมันหรอ” อยู่ๆ พ่อก็พูดจนฉันสะดุ้งสุดตัว ฉันไม่เคยคิดคำแก้ตัวเรื่องนี้ไว้เลย T_T
“เอ่อ...คือ เขารู้จักกับวิลล่าน่ะค่ะ แล้ว...วิลล่ายุ่งๆ ก็เลยให้เขามาส่งขวัญแทน” ฉันตอบ พ่อหรี่ตามองฉันนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ ฉันมั่นใจว่าพ่อไม่เชื่อที่ฉันพูดเลย เขาแค่พยักหน้ารับไปส่งๆ เท่านั้นเอง
“ดีแล้วล่ะ พ่อจะได้ไม่เสียคำพูดกับตระกูลโอเขา” พ่อพูดแล้วทิ้งตัวลงนั่งโซฟาอีกตัวที่อยู่ข้างๆ กัน
“ตระกูลโอ? เสียคำพูด? อะไรคะขวัญงงไปหมดแล้ว -_-?” ฉันถามงงๆ ผิดคำพูดอะไรกัน =_=;
“วันนั้นพอดียุ่งๆ พ่อเลยยังไม่ได้บอก พอดีพ่อกับพ่อของจุนเจคุยกันว่าจะให้ลูกๆ แต่งงานกัน” พ่อบอกออกมาในที่สุด
“เฮ้ย!!” ฉันอุทานออกมาอย่างลืมตัว จะบ้าไปแล้วแค่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนกันทำไมต้องให้ลูกแต่งงานกันด้วย!!
“ก็ไม่ได้แต่งตอนนี้หรอกน่า ลูกก็ยังเรียนอยู่พ่อเข้าใจ แต่พ่อก็อย่างให้หมั้นๆ กันไว้ก่อน” พ่อพูดเหมือนจะเข้าใจฉัน แต่ไม่เลย!! พ่อไม่เข้าใจฉัน ทำไมไม่ถามความสมัครใจของฉันบ้างล่ะ T^T
“แต่พ่อคะ!...”
“ฮยอนอิน! ที่ผ่านมาพ่อตามใจลูกมาเยอะแล้วนะ เรื่องนี้อย่าขัดพ่อเลย มาคบกับจุนเจดีกว่า เขาเป็นคนดีมากรู้ไหมพ่อให้อินโจสืบมาหมดแล้ว ดีกว่านักร้องนั่นเป็นไหนๆ” พ่อยิ้มออกมาอย่างภูมิใจที่หาคู่ให้ลูกสาวได้สักที =_=!!
“ไม่ค่ะ ยังไงขวัญก็ไม่แต่ง ไม่หมั้นอะไรทั้งนั้น! การแต่งงานต้องให้ขวัญเป็นคนตัดสินใจสิ”
“แต่พ่อก็ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นไอ้นักร้องนั่นเหมือนกัน!!” พ่อถียงขึ้นมาทันที “อารมณ์ร้าย ใจร้อน ขี้บ่นแบบนั้น พ่อไม่อยากให้แม่ของลูกตำหนิพ่อที่ทำให้ลูกต้องคบกับคนแบบนั้น”
“นี่อย่าบอกนะว่าพ่อ...สืบเรื่องของจุนฮยองมาหมดแล้ว” ฉันมองพ่ออย่างทึ่งๆ
“ใช่ พอรู้ข่าวพ่อก็ให้คนสืบเดี๋ยวนั้นเลย” พ่อบอก แต่หนูกับหมอนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนะคะ T///T
“เอาล่ะ ช่วงนี้พ่อจะลงโทษลูกโดยการกักบริเวณจนกว่าข่าวจะซาและพ่อมั่นใจว่าปิดข่าวได้เงียบสนิทแล้ว ระหว่างนี้ลูกต้องอยู่ที่บ้านนี้ห้ามไปไหน! ตอนไปเรียนก็ต้องให้จุนเจคอยรับส่งเท่านั้น!!”
“ไม่ค่ะ ขวัญจะกลับคอนโด!” ฉันยืนยันหนักแน่น “ไหนพ่อบอกว่าปิดข่าวแล้วไงคะ”
“แต่ก็มีทีวีบางช่องที่ยังออกข่าวลูกอยู่ แค่เขาไม่มีรูปเพราะพ่อทำลายทิ้งไปหมดแล้ว”
“ไม่มีรูปเขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นขวัญ”
“ถ้าลูกยังดื้ออยู่แบบนี้ งั้นพ่อคงต้องเลื่อนงานหมั้นให้เร็วขึ้นหน่อยแล้วล่ะ”
“พ่อ!!” ฉันตะโกนลั่นอย่างขัดใจ -*-!
“เอาไง จะกลับคอนโดไหม เดี๋ยวพ่อจะให้อินโจขับรถไปส่ง” พ่อพูดพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างผู้มีชัย
พ่อนะพ่อ -*-!
“อ้าว จะกลับคอนโดหรอ” พ่อตะโกนตามมาเมื่อฉันเดินกระฟัดกระเฟือดออกมาจากห้องนั่งเล่น
“ขึ้นห้องค่ะ -_-!!” ฉันหันไปมองพ่อตาขวางก่อนจะเดินจ้ำๆ ขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงหัวเราะชอบใจของพ่อ คงคิดหาทางบีบฉันเรื่องงานหมั้นนานแล้วสิคุณพ่อ มิน่าล่ะแทนที่จะด่าฉันกลับทำตัวใจเย็นเฉยเลย ได้ทีล่ะเอาใหญ่เลยนะ -_+!!
[แกกับวิลล่าทะเลาะกันหนักเลย เป็นไงบ้างอ่ะ วันนี้แกไม่มาเรียนฉันเป็นห่วงแกแทบแย่] ยูรีโทรมาที่โทรศัพท์บ้านหลังจากที่ฉันนอนพักไปตื่นหนึ่ง
“ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” ฉันตอบ ปฏิกิริยาของยูรียังปกติอยู่แสดงว่าพ่อปิดข่าวได้มิดจริงๆ
[ฉันโทรไปแกก็ไม่รับ ตัดสายแล้วปิดเครื่องเฉยเลย มือถือหายรึไง]
“เปล่าหรอก ฉันลืมที่หอวิล ยังไม่ได้ไปเอาเลย”
[ให้ฉันไปเอาให้ม๊ะ? อิอิ] เสียงหัวเราะคิกคักลอดมาจากปลายสาย ดูเหมือนเธอจะอยากไปหอนั้นมากเลยนะ ฉันเข็ดแล้วล่ะ สร้างวีรกรรมไว้เยอะเกิน U_U
“เออ ว่าแต่วันนี้มีงานอะไรไหม” ฉันพาเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวจะเข้าโหมดดราม่าอีกครั้ง
[ไม่มี แกโชคดีมากนะรู้ป่ะ วันนี้อาจารย์ไม่ว่างมาสอน ฉันล่ะนั่งรอเก้อเลย]
“หรอ...อืม”
[แล้วพ่อแกจะกักบริเวณไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย]
“พ่อบอกว่าจนกว่าข่าว...เอ่อ จนกว่าพ่อจะหายโกรธ -_-!” ฉันแอบตบปากตัวเองเพราะเกือบจะหลุดปากเรื่องข่าวซะแล้ว
[แกโอเคแน่นะ ทำไมเสียงแปลกๆ มีไรรึเปล่า เล่าให้ฟังได้นะ]
“ไม่มีหรอกน่า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ปวดหัว” ฉันบอก ก่อนจะตัดสายแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ ฉันจะเล่าได้ไงว่าฉันกับอีตาจุนเจนั่นเป็นคู่หมั้นกัน ถึงจะหล่อ รวย นิสัยดี แต่เขาก็ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของฉันเลย ถ้าเกิดวันหนึ่งเขาไม่ชอบตัวตนของฉัน แล้วชีวิตหลังจากนี้ของฉันจะเป็นยังไง =_=;; (คิดการไกลนะเรา -_-)
ก็อก! ก็อก! ก็อก!
“คุณหนูคะ ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแล้วค่ะ” คุณแม่บ้านมันจาร้องบอกผ่านบานประตูห้องนอนเข้ามา
“ช่วยไปบอกคุณพ่อด้วยนะคะว่าขวัญไม่กิน เชิญกินไปคนเดียวเลย!!” ฉันตะโกนกลับไป ถึงแม้ว่ากระเพาะจะร้องประท้วงอยู่ก็เถอะ T^T
“คุณหนูคะ คุณท่านไม่อยู่ค่ะไม่ต้องประชดหรอก” คุณมันจาพูด น้ำเสียงเหมือนกำลังยิ้มอยู่ คุณมันจาเนี่ยรู้ใจฉันเสมอเลยนะ
“ท่านไปไหนคะ” ฉันเดินไปถามใกล้ๆ ประตู
“คุณท่านออกไปทำธุระด่วนกับคุณอินโจค่ะ”
“งั้นคุณมันจาเปิดประตูให้ขวัญหน่อยได้ไหมคะ ขวัญรู้นะว่าคุณมันจามีกุญแจทุกดอกของบ้าน” ฉันออดอ้อน เพราะตั้งแต่ฉันขึ้นมาอยู่บนห้อง พ่อก็ให้คนล็อกกลอนไว้จากด้านนอก เดินมาเข้ากับดักเองแท้ๆ เลยฉัน =_=
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเกิดคุณหนูเล่นตุกติกดิฉันก็แย่น่ะสิคะ ถึงดิฉันจะเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ แต่ถ้าปล่อยให้คุณหนูหนีไป คุณท่านคงไล่ดิฉันออกแน่”
“โธ่...นี่คุณมันจาก็จะไม่ช่วยฉันอีกคนแล้วหรอคะ T^T” ฉันทำเสียงให้เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ สักพักคุณมันจาก็เปิดประตูออก
“คุณท่านบอกว่าให้คุณหนูรับประทานอาหารบนห้องนอนนะคะ ไม่ให้ลงไป” คุณมันจาพูดแล้วแม่บ้านอีก 2 คนก็ค้อมตัวเดินผ่านฉันเข้ามาในห้องนอน และจัดอาหารให้ฉัน
“เชิญรับประทานให้อร่อยนะคะคุณหนู หากรับประทานเสร็จแล้วกดอินเตอร์คอมเรียกได้เลย ดิฉันจะขึ้นมาทันที ^^” คุณมันจายิ้มก่อนจะปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา
แงๆ นี่พ่อเอาจริงหรอ TOT
ฉันเดินกลับไปกลับมาในห้องอย่างครุ่นคิด มีใครบ้างนะที่พ่อจะไว้ใจและสามารถพาฉันออกไปจากที่นี่ได้ อืม ยัยยูรี!...ก็ไม่ได้อีก พ่อต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันวางแผนจะหนีออกจากบ้าน
“พี่จุนเจ O_O!” ฉันสบถออกมาทันทีที่คิดได้ ถ้าเป็นพี่จุนเจมารับฉันพ่อต้องอนุญาตแน่ๆ ส่วนทางหนีแล้วค่อยหาวิธีแล้วกันขอให้ออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน >.<
ฉันรีบเดินไปค้นของในลิ้นชักหัวเตียงทันที ฉันจำได้ว่าฉันเอามันไว้ในนี้นะ หวังว่าคงยังไม่ได้ทิ้งไปหรอกนะ นามบัตรที่พี่เขาให้ไว้ตอนนั้น
“เจอแล้ว ^O^” ฉันร้องกับตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะกดโทรออกอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่รอสายฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่จุนเจกำลังจะเป็นคู่หมั้น ใจมันก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาแปลกๆ -_-//
[ฮัลโหล] เสียงของพี่จุนเจลอดมาจากปลายสาย ฉันหยุดหายใจไปพักใหญ่ก่อนจะรวบรวมความกล้าส่งเสียงออกไป ทำไมฉันต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาสักหน่อย U_U//
“เอ่อ...พี่จุนเจใช่ไหมคะ?” ฉันถามทั้งที่จำได้แม่นว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพี่เขาแน่ๆ
[ใช่ครับ นี่...ใครครับเนี่ย?] พี่จุนเจถามกลับมาอย่างสุภาพ
“ขวัญ...เอ่อ ฮยอนอินเองค่ะ ซอฮยอนอิน” ฉันแนะนำตัว พี่เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา
[ฮยอนอินจริงๆ หรอคะเนี่ย!....พี่นึกว่าจะไม่โทรมาหาพี่ซะแล้ว]
“ขอโทษนะคะที่ตอนนั้นไม่ได้โทรหาพี่เลย ทั้งที่พี่บอกว่า...จะไปรับ” ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำเอาไว้ซะก่อนเพื่อให้ตายใจ -_+
[ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่โกรธ ว่าแต่วันนี้มีอะไรรึเปล่าคะ]
“คือว่าฉันอยากให้พี่ช่วยอะไรหน่อยน่ะค่ะ”
[ช่วยอะไรหรอคะ?]
“คือ...วันนี้ฉันไม่ได้ไปเรียนน่ะค่ะ..แล้ว...เอ่อ วันนี้มีการบ้าน ต้องออกไปซื้อของมาทำรายงาน...”
[เลยอยากให้พี่พาไป?] พี่จุนเจถามแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูดจบประโยค
“ใช่ค่ะใช่! พอดีตอนนี้พ่อไม่อยู่น่ะค่ะ ขวัญ อุ้ย! ฉันเลยอยากให้พี่มารับออกไปซื้อของหน่อย ขวัญโดนทำโทษอยู่น่ะค่ะเลยออกไปไหนคนเดียวไม่ได้ U_U”
[อ๋อ เรื่องข่าวน่ะหรอคะ] พี่จุนเจพูด อ้าว! ไหนว่าพ่อปิดข่าวไปแล้ว ทำไมพี่จุนเจยังรู้อีกล่ะ =_=;
“พี่รู้?”
[ใช่ค่ะ เมื่อวานพี่ผ่านไปทางคอนโดของฮยอนอิน แล้วเห็นนักร้องคนนั้นไปส่งฮยอนอินที่คอนโด พี่คิดว่าต้องมีข่าวแน่ๆ พี่เลยบอกคุณลุงให้เตรียมรับมือเอาไว้ แล้วก็มีข่าวออกมาจริงๆ]
“ระ...หรอคะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักกับมือถือ ฉันต้องขอบคุณเขาไหมเนี่ยที่ช่วยเตือนพ่อให้เตรียมปิดข่าว =_=;
[งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะคะ]
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^_^” ฉันยิ้มหวานให้โทรศัพท์ก่อนจะกดตัดสายไป พี่เขาคงรู้ตั้งแต่วันแสดงละครรอบปฐมทัศน์แล้วน่ะสิว่าฉันจะเป็นคู่หมั้น ไม่งั้นคงไม่ตามติดฉันแจขนาดนี้ -_-;;
เมื่อพี่จุนเจมาถึงและโทรบอกพ่อก็ได้บัตรผ่านอย่างง่ายดายตามคาด ฉันบอกพี่จุนเจว่าฉันหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่จุนเจจึงพาฉันไปกินข้าวโดยให้ฉันเลือกร้านอาหารเอง ฉันเลยเลือกร้านที่ใกล้ๆ กับคอนโดที่สุดเพื่อจะได้หนีกลับได้ง่ายๆ
“เอ่อ...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ^_^” ฉันพูดระหว่างที่นั่งรออาหาร ก่อนจะลุกเดินไปห้องน้ำทันที พี่จุนเจเหมือนจะรู้ทันว่าฉันคิดจะหนี พี่เขาเลยเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับประตูทางออกซึ่งถ้าจะออกจากร้านนี้ได้ต้องผ่านโต๊ะนั้นเท่านั้น
ฉันค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งไปทางหนีไฟของร้านซึ่งมันก็คือประตูหลังนี่เอง พอฉันเดินออกมาจากประตูหลังได้สำเร็จ ฉันก็มาเจออุปสรรคอีกอย่างนั่นก็คือ ซอยหลังร้านทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่หนีออกมาทางนี้ =_=
ฉันกวาดตามองไปรอบๆ ซอยอย่างระแวดระวังก่อนจะรีบวิ่งฝ่าความมืดออกมาจากซอยนั้น
“เฮ้อ...” เมื่อวิ่งออกมาถึงถนนใหญ่แล้ว ฉันก็หยุดและใช้มือค้ำหัวเข่าตัวเองเอาไว้และหายใจทางปากด้วยความเหน็ดเหนื่อย การจราจรที่คับคั่งตรงหน้ามันทำให้ฉันอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ฉันเริ่มเดินลัดเลาะไปตามริมฟุตบาทเพื่อกลับคอนโดที่อยู่ถัดไปอีก 1 แยก แต่พอฉันเดินมาถึงคอนโด ฉันก็เห็นพี่จุนเจนั่งรออยู่ในลอบบี้แล้ว อะไรกัน! เขารู้ได้ยังไงว่าฉันหนีออกมาจากร้านแล้ว จะฉลาดเกินไปแล้วนะ -*-!
ฉันเดินไปแอบอยู่ในซอยข้างๆ คอนโดแล้วคิดแผนใหม่ ถ้าฉันไม่เข้าไปในคอนโดฉันก็ไม่มีที่ไปแล้ว หอวิลล่าก็คงไปไม่ได้ Y_Y
“เฮ้อ...วันนี้นี่มันโชคดีจังเลยนะ!” อยู่ๆ ก็มีเสียงแหลมๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง มันเป็นเสียงของชเวซอนบี ศัตรูตัวฉกาจของฉันอีกคน!!
“ซอนบี!!” ฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเงาของคนกลุ่มหนึ่งตะคุ่มๆ อยู่ แต่ถึงแม้จะเห็นแค่เงาฉันก็จำได้แม่นว่าเป็นซอนบีแน่ๆ
ยัยซอนบียืนกอดอกมองฉันอยู่พร้อมลูกสมุนอีกประมาณ 7-8 คน ในนั้นมีผู้ชายอยู่ด้วยประมาณ 4 คน ถ้าเกิดได้ตีกันขึ้นมาฉันมั่นใจว่าสู้ไม่ได้แน่ U_U
“ดีใจมากเลยหรอที่เจอฉันที่นี่!” ซอนบีถามพร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหาฉันช้าๆ
“เธอมาที่นี่ทำไม” ฉันถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ายัยซอนบีต้องมาดักรอเล่นงานฉันแน่ๆ เพราะที่ผ่านมายัยคนนี้คอยลอบกัดฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว
“มาหาเธอไง วันนั้นเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ!” ซอนบีบอกและหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าฉัน แต่ก็ห่างพอที่ฉันจะยกเท้าถีบยัยนั่นไม่ถึง =_=
“ฉันมาดักรอเธอตั้งแต่เมื่อวาน แต่เธอก็ดันมีผู้ชายมาส่งฉันเลยทำอะไรเธอไม่ได้ แต่วันนี้เธอกลับเดินมาหาฉันเอง โชคดีชะมัด”
“ฉันนึกว่าเราคุยรู้เรื่องกันแล้วนะ แล้วเธอไปบอกกีอุนสุดที่รักของเธอรึยังว่าอย่ามายุ่งกับฉัน” ฉันพูดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะทำให้ยัยนั่นโกรธ สมุนที่มากับยัยซอนบีทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องฉัน แต่ก็โดนยัยซอนบีห้ามเอาไว้
“ฮึ!! ผู้ชายที่มาตอมเธอก็มีออกยอะแยะ เมื่อไหร่จะเลิกให้ท่ากีอุนสักที!!” ยัยซอนบียังคงพยายามใส่ร้ายว่าฉันไปให้ท่าฮันกีอุนอย่างไม่ลดละ =_=
“ฉันก็บอกเธอแล้วว่าฉันไม่ได้ให้ท่าใคร แต่นายนั่นมาหาฉันเอง”
“แก!!” ยัยซอนบีชี้หน้าฉันด้วยมือที่สั่นเทา ฉันไม่สนใจหรอกว่ายัยนี่จะโกรธมากไหม ที่ฉันสนใจตอนนี้คือพี่จุนเจกลับไปรึยัง =_=?
“นี่! เธอคุยกับฉันอยู่นะ!!” ยัยซอนบีร้องแว๊ดๆ เมื่อเห็นฉันหันไปมองนอกซอยโดยไม่สนใจสิ่งที่ยัยนั่นพูด
“ก็ฉันเบื่อที่จะพูดแล้ว เพราะต้นเหตุของเรื่องมันไม่ใช่ฉัน มันเป็นเพราะฮันกีอุนต่างหาก” ฉันบอก เพราะฉันไม่อยากพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาบ่อยนัก
“งั้นหรอ...” ยัยซอนบีทำท่าเหมือนจะอ่อนลงบ้าง แต่...
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าดังสนั่นไปทั่วซอย หน้าฉันหันไปอีกทางตามแรงตบ ความรู้สึกเค็มแปลกๆ ออกมาจากปากของฉัน ฉันยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปากด้วยความโกรธที่เริ่มพุ่งพล่าน
“นี่เธอตบฉันหรอ!!” ฉันหันไปมองซอนบีที่ยิ้มเยาะฉันอย่างสะใจ
“ใช่! จะทำไม!!” ยัยนั่นลอยหน้าลอยตาตอบ
“หนอยนังซอนบี!!!” ฉันตะคอกออกไปสุดเสียงแล้วตรงเข้าไปถีบยัยซอนบีหงายหลังลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปกะจะกระทืบยอดอกมันสักที แต่ก็โดนสมุนของยัยซอนบีล็อกแขนทั้ง 2 ข้างเอาไว้แน่น
“ฤทธิ์เยอะจริงๆ นะนังเนี่ย” ผู้ชายที่ล็อกแขนฉันไว้ทางด้านขวาบ่นกับยัยซอนบีที่กำลังยันตัวลุกขึ้นยืนโดยมีสมุนช่วยพยุงขึ้น
“ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากที่แกโดนอุ้มไปนอนกับเพื่อนฉันคืนนี้ฤทธิ์จะยังเยอะอยู่ไหม” ยัยซอนบีพูด กระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“ว่าไงนะ!” ฉันสบถออกมา เมื่อกี๊ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
“ได้ยินไม่ผิดหรอกนังฮยอนอิน คืนนี้คงต้องรับศึกหนักหน่อยนะ เพราะเพื่อนฉันหลายคนมันอยากใจจะขาดอยู่แล้ว” ยัยซอนบีเข้ามาลูบคางฉันเล่นอย่างสะใจ สมุนที่มันพามาต่างพากันหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจ
“แกนี่มัน!!...” ฉันคิดคำด่าไม่ออกจริงๆ ยัยนี่เกิดเป็นคนได้ยังไง! แค่ผู้ชายคนเดียวถึงกับทำร้ายเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน ทุเรศที่สุด!!!
“ทำไม...ด่าฉันสิ ด่าให้สาแก่ใจแกเลยนะ เพราะคืนนี้แกคงไม่มีเวลาได้ร้องด่าใครแน่ๆ” ยัยซอนบียิ้มเยาะฉันอย่างชั่วร้าย
“เลวที่สุด! ฉันขอให้แกเจอหนักกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!...” ฉันตะคอกใส่หน้าซอนบี แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ด่าต่อ ฝ่ามือของคนที่ถูกตะคอกใส่ก็ลอยเข้ามาตบที่หน้าของฉันอีกครั้ง
เพี๊ยะ!!!
“ด่าอีกสิ ด่าให้หนำใจแกเลยฮยอนอิน!!” ซอนบียังคงยิ้มให้ฉันอย่างโหดเหี้ยม
“...ถ้าแกมีลูกสาว ฉันก็ขอให้เจอแบบเดียวกับที่แกทำไว้กับฉันในวันนี้!...” ฉันตะคอกต่อ ถึงแม้จะรู้ว่าต้องโดนอะไร
เพี๊ยะ!!!
“พูดพอรึยัง? ห๊ะ!!!” ซอนบีเข้ามาบีบคางฉันแรงๆ ด้วยความโกรธที่พุ่งพรวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันทีที่โดนบีบบริเวณใกล้ๆ กับปากที่แตก
“นี่! พอแล้วน่า เดี๋ยวก็ช้ำหมด” ผู้ชายที่ล็อกตัวฉันไว้พูดขึ้น ซอนบีเลยชักมือกลับแรงๆ
“ขอให้สนุกกับเพื่อนฉันนะ” ซอนบีบอกก่อนทำท่าจะเดินไป ไม่นะ!! นังซอนบี จะทิ้งฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะนังสาระเลว!!
“เดี๋ยว!!” ฉันร้องเรียกยัยซอนบีเอาไว้เพื่อถ่วงเวลา และใช้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดคิดหาทางหนีทีไล่
“อะไร...จะสั่งเสียอะไรอีก!!” ซอนบีหันกลับมาหาฉัน
“ฮึ!” ฉันแสยะยิ้มกลับไป ก่อนจะกระโดดถีบขาคู่เข้าที่ยอดอกของยัยซอนบีทันที โดยที่ผู้ชาย 2 คนที่ล็อกตัวฉันไว้เป็นฐาน ทำให้ฉันไปล้มลงกับพื้น
“นังฮยอนอิน!!” ซอนบีตะคอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับพยายามข่มความเจ็บปวดย่างสามขุ่มเข้ามาหาฉันแล้วชกฉันจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเข้ามาพร้อมสมุนที่เป็นผู้หญิงอีก 2-3 คนกระหน่ำเตะและถีบฉันจากทุกทิศ ฉันได้แค่โค้งตัวรองรับเท้าจากพวกชั่วที่รุมฉันอย่างไม่คิดจะไว้ชีวิต ความเจ็บปวดจากส่วนต่างๆ ทั้งแขน ขา สะโพก เอว กระดูกสันหลังทำให้น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้พวกมันได้เลย!!
“เฮ้ย!! จะกระทืบให้ตายเลยรึไง ไหนแกยกให้ฉันแล้วไงซอนบี” ผู้ชายที่ยัยซอนบีพามาด้วยถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดพร้อมกับแหวกดงทรีนเข้ามาพยุงฉันขึ้น แต่ขอฉันอ่อนจนไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้เลย หมอนั่นเลยอุ้มตัวฉันขึ้นไปพาดไว้บนบ่าทำให้ฉันยิ่งจุกเข้าไปใหญ่
ใครก็ได้ ช่วยฉันทีเถอะ! นี่ฉันต้องโดนไอ้พวกสวะสังคมทำมิดีมิร้ายจริงๆ น่ะหรอ!!!
“จัดการให้เรียบร้อย!!” สิ้นเสียงสั่งการ ซอนบีก็เดินหายเข้าไปในซอยที่มืดมิดนั้นอย่างไร้ร่องรอย โดยทิ้งฉันไว้กับสมุนผู้ชาย 4 คนนั้นอย่างไม่ใยดี อย่าให้ฉันรอดไปได้นะนังซอนบี!!!
“ไปกันเถอะสาวน้อย เราไปสนุกกันดีกว่า” ผู้ชายที่อุ้มฉันไว้บนบ่ากระซิบก่อนจะเดินออกมาจากซอยคนละทางกับซอนบี
“เฮ้ย!! ทำอะไรน่ะ!!” อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังเข้ามาในประสาทการรับรู้ที่เริ่มจะเลือนลาง
“มึงเป็นใครวะ!!” ผู้ชายที่ไม่ได้อุ้มฉันเอ่ยถามด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น
“มึงจะพาผู้หญิงไปไหน” ผู้ชายคนนั้นถาม
“แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย นี่มันผู้หญิงของฉันเว้ย!!” ผู้ชายที่อุ้มฉันตะโกนขึ้น
“ช่วย...ช่วยด้วย...” ฉันพยายามส่งเสียงที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมา แต่มันไม่ดังพอที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ยินเลย
“เงียบๆ น่า” ผู้ชายที่อุ้มฉันบนบ่ากระซิบบอกเบาๆ
เงียบก็โง่น่ะสิ ฉันไม่ยอมให้พวกแกได้แอ้มฉันง่ายๆ หรอกนะไอ้พวกสาระเลว!!
*******************************************
ของขวัญแย่แล้ว T^T
ฝากติดตามด้วยนะคะ >.<!
*******************************************
:: Chapter 6 ::
ปึก!
พ่อทิ้งหนังสือพิมพ์ลงต่อหน้าฉันดังปึก! ภาพที่ปรากฏอยู่หน้า 1 ของทุกเป็นภาพของจุนฮยองกำลังประคองผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ ส่วนอีกภาพที่อยู่ติดกันเป็นภาพที่จุนฮยองประคองผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะคาดแถบสีดำไว้ที่ตาฉันก็จำได้แม่นว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉันเอง! และคอนโดที่อยู่ในภาพก็คือคอนโดฉันอีกนั่นแหละ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นภาพเมื่อคืนนี้นะ
“ลูกรู้ไหม ถ้าคนของพ่อไม่ไปเจอไอ้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เข้าลูกจะเป็นยังไง!!” พ่อท้าวสะเอวมองฉันด้วยอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นขั้นรุนแรง
“ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง พ่ออุตส่าห์ไว้ใจให้ออกไปอยู่คอนโดคนเดียว แต่ลูกกลับ...ให้ผู้ชายไปค้างด้วยแบบนั้น!!!”
“ขวัญกับผู้ชายคนนี้ เราไม่ได้มีอะไรกันนะคะ! เขาแค่ไปส่งเฉยๆ” ฉันเถียงทันควัน ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ข่าวที่พาดหัวมันแรงเกินจริงต่างหาก! พาดหัวมาได้ไง ‘ยงจุนฮยองหิ้วสาวขึ้นคอนโด’ =_=
“ตอนนี้ทางเราทำการปิดข่าวกับสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วครับ รวมถึงทางสถานีที่มีข่าวนี้ด้วย” คุณอินโจเดินเข้ามารายงานพ่อ
“ขอบใจอินโจ” พ่อหันไปพูดกับคุณอินโจ แล้วหันมาฉ่ะฉันต่อ ส่วนคุณอินโจก็เดินออกไปเงียบๆ
“ถ้าพ่อปิดข่าวลูกไม่ทันจะเป็นยังไงห๊ะฮยอนอิน!!”
“ขวัญขอโทษค่ะ ขวัญสร้างปัญหาอีกแล้ว Y_Y” ฉันก้มหน้ารับชะตากรรมเต็มที่เพราะฉันก็ไม่มีสติจริงๆ นั่นแหละถึงปล่อยให้มันมีภาพอะไรแบบนี้ออกมาได้ ถ้าเมื่อคืนฉันไม่เมาก็คง...
“ยิ่งเป็นข่าวกับนักร้องดังแบบนี้พวกนักข่าวยิ่งตีข่าวกันมันส์เลย ดีนะที่มีแค่สำนักพิมพ์เดียวที่ได้รูปนี้ไป” พ่อพูดพร้อมกับเดินกลับไปกลับมารอบห้องอย่างหัวเสีย
“งั้นก็ดีแล้วสิคะที่ข่าวยังไม่รั่ว” ฉันพูด
“ไม่รั่วก็จริง แต่ก่อนที่คนของพ่อจะไปเห็นไม่รู้ว่ามีใครซื้อหนังสือพิมพ์ไปแล้วบ้าง” พ่อพูดอย่างร้อนรน แต่ก็ยังคงใจเย็นอยู่มาก เพราะปกติถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้พ่อฉันด่าแหลกจนฉันเถียงไม่ได้แล้ว Y_Y
“ทำไมไอ้นักร้องนั่นมันไปส่งลูกที่คอนโดได้ เป็นแฟนกับมันหรอ” อยู่ๆ พ่อก็พูดจนฉันสะดุ้งสุดตัว ฉันไม่เคยคิดคำแก้ตัวเรื่องนี้ไว้เลย T_T
“เอ่อ...คือ เขารู้จักกับวิลล่าน่ะค่ะ แล้ว...วิลล่ายุ่งๆ ก็เลยให้เขามาส่งขวัญแทน” ฉันตอบ พ่อหรี่ตามองฉันนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ ฉันมั่นใจว่าพ่อไม่เชื่อที่ฉันพูดเลย เขาแค่พยักหน้ารับไปส่งๆ เท่านั้นเอง
“ดีแล้วล่ะ พ่อจะได้ไม่เสียคำพูดกับตระกูลโอเขา” พ่อพูดแล้วทิ้งตัวลงนั่งโซฟาอีกตัวที่อยู่ข้างๆ กัน
“ตระกูลโอ? เสียคำพูด? อะไรคะขวัญงงไปหมดแล้ว -_-?” ฉันถามงงๆ ผิดคำพูดอะไรกัน =_=;
“วันนั้นพอดียุ่งๆ พ่อเลยยังไม่ได้บอก พอดีพ่อกับพ่อของจุนเจคุยกันว่าจะให้ลูกๆ แต่งงานกัน” พ่อบอกออกมาในที่สุด
“เฮ้ย!!” ฉันอุทานออกมาอย่างลืมตัว จะบ้าไปแล้วแค่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนกันทำไมต้องให้ลูกแต่งงานกันด้วย!!
“ก็ไม่ได้แต่งตอนนี้หรอกน่า ลูกก็ยังเรียนอยู่พ่อเข้าใจ แต่พ่อก็อย่างให้หมั้นๆ กันไว้ก่อน” พ่อพูดเหมือนจะเข้าใจฉัน แต่ไม่เลย!! พ่อไม่เข้าใจฉัน ทำไมไม่ถามความสมัครใจของฉันบ้างล่ะ T^T
“แต่พ่อคะ!...”
“ฮยอนอิน! ที่ผ่านมาพ่อตามใจลูกมาเยอะแล้วนะ เรื่องนี้อย่าขัดพ่อเลย มาคบกับจุนเจดีกว่า เขาเป็นคนดีมากรู้ไหมพ่อให้อินโจสืบมาหมดแล้ว ดีกว่านักร้องนั่นเป็นไหนๆ” พ่อยิ้มออกมาอย่างภูมิใจที่หาคู่ให้ลูกสาวได้สักที =_=!!
“ไม่ค่ะ ยังไงขวัญก็ไม่แต่ง ไม่หมั้นอะไรทั้งนั้น! การแต่งงานต้องให้ขวัญเป็นคนตัดสินใจสิ”
“แต่พ่อก็ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นไอ้นักร้องนั่นเหมือนกัน!!” พ่อถียงขึ้นมาทันที “อารมณ์ร้าย ใจร้อน ขี้บ่นแบบนั้น พ่อไม่อยากให้แม่ของลูกตำหนิพ่อที่ทำให้ลูกต้องคบกับคนแบบนั้น”
“นี่อย่าบอกนะว่าพ่อ...สืบเรื่องของจุนฮยองมาหมดแล้ว” ฉันมองพ่ออย่างทึ่งๆ
“ใช่ พอรู้ข่าวพ่อก็ให้คนสืบเดี๋ยวนั้นเลย” พ่อบอก แต่หนูกับหมอนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนะคะ T///T
“เอาล่ะ ช่วงนี้พ่อจะลงโทษลูกโดยการกักบริเวณจนกว่าข่าวจะซาและพ่อมั่นใจว่าปิดข่าวได้เงียบสนิทแล้ว ระหว่างนี้ลูกต้องอยู่ที่บ้านนี้ห้ามไปไหน! ตอนไปเรียนก็ต้องให้จุนเจคอยรับส่งเท่านั้น!!”
“ไม่ค่ะ ขวัญจะกลับคอนโด!” ฉันยืนยันหนักแน่น “ไหนพ่อบอกว่าปิดข่าวแล้วไงคะ”
“แต่ก็มีทีวีบางช่องที่ยังออกข่าวลูกอยู่ แค่เขาไม่มีรูปเพราะพ่อทำลายทิ้งไปหมดแล้ว”
“ไม่มีรูปเขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นขวัญ”
“ถ้าลูกยังดื้ออยู่แบบนี้ งั้นพ่อคงต้องเลื่อนงานหมั้นให้เร็วขึ้นหน่อยแล้วล่ะ”
“พ่อ!!” ฉันตะโกนลั่นอย่างขัดใจ -*-!
“เอาไง จะกลับคอนโดไหม เดี๋ยวพ่อจะให้อินโจขับรถไปส่ง” พ่อพูดพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างผู้มีชัย
พ่อนะพ่อ -*-!
“อ้าว จะกลับคอนโดหรอ” พ่อตะโกนตามมาเมื่อฉันเดินกระฟัดกระเฟือดออกมาจากห้องนั่งเล่น
“ขึ้นห้องค่ะ -_-!!” ฉันหันไปมองพ่อตาขวางก่อนจะเดินจ้ำๆ ขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงหัวเราะชอบใจของพ่อ คงคิดหาทางบีบฉันเรื่องงานหมั้นนานแล้วสิคุณพ่อ มิน่าล่ะแทนที่จะด่าฉันกลับทำตัวใจเย็นเฉยเลย ได้ทีล่ะเอาใหญ่เลยนะ -_+!!
[แกกับวิลล่าทะเลาะกันหนักเลย เป็นไงบ้างอ่ะ วันนี้แกไม่มาเรียนฉันเป็นห่วงแกแทบแย่] ยูรีโทรมาที่โทรศัพท์บ้านหลังจากที่ฉันนอนพักไปตื่นหนึ่ง
“ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” ฉันตอบ ปฏิกิริยาของยูรียังปกติอยู่แสดงว่าพ่อปิดข่าวได้มิดจริงๆ
[ฉันโทรไปแกก็ไม่รับ ตัดสายแล้วปิดเครื่องเฉยเลย มือถือหายรึไง]
“เปล่าหรอก ฉันลืมที่หอวิล ยังไม่ได้ไปเอาเลย”
[ให้ฉันไปเอาให้ม๊ะ? อิอิ] เสียงหัวเราะคิกคักลอดมาจากปลายสาย ดูเหมือนเธอจะอยากไปหอนั้นมากเลยนะ ฉันเข็ดแล้วล่ะ สร้างวีรกรรมไว้เยอะเกิน U_U
“เออ ว่าแต่วันนี้มีงานอะไรไหม” ฉันพาเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวจะเข้าโหมดดราม่าอีกครั้ง
[ไม่มี แกโชคดีมากนะรู้ป่ะ วันนี้อาจารย์ไม่ว่างมาสอน ฉันล่ะนั่งรอเก้อเลย]
“หรอ...อืม”
[แล้วพ่อแกจะกักบริเวณไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย]
“พ่อบอกว่าจนกว่าข่าว...เอ่อ จนกว่าพ่อจะหายโกรธ -_-!” ฉันแอบตบปากตัวเองเพราะเกือบจะหลุดปากเรื่องข่าวซะแล้ว
[แกโอเคแน่นะ ทำไมเสียงแปลกๆ มีไรรึเปล่า เล่าให้ฟังได้นะ]
“ไม่มีหรอกน่า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ปวดหัว” ฉันบอก ก่อนจะตัดสายแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ ฉันจะเล่าได้ไงว่าฉันกับอีตาจุนเจนั่นเป็นคู่หมั้นกัน ถึงจะหล่อ รวย นิสัยดี แต่เขาก็ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของฉันเลย ถ้าเกิดวันหนึ่งเขาไม่ชอบตัวตนของฉัน แล้วชีวิตหลังจากนี้ของฉันจะเป็นยังไง =_=;; (คิดการไกลนะเรา -_-)
ก็อก! ก็อก! ก็อก!
“คุณหนูคะ ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแล้วค่ะ” คุณแม่บ้านมันจาร้องบอกผ่านบานประตูห้องนอนเข้ามา
“ช่วยไปบอกคุณพ่อด้วยนะคะว่าขวัญไม่กิน เชิญกินไปคนเดียวเลย!!” ฉันตะโกนกลับไป ถึงแม้ว่ากระเพาะจะร้องประท้วงอยู่ก็เถอะ T^T
“คุณหนูคะ คุณท่านไม่อยู่ค่ะไม่ต้องประชดหรอก” คุณมันจาพูด น้ำเสียงเหมือนกำลังยิ้มอยู่ คุณมันจาเนี่ยรู้ใจฉันเสมอเลยนะ
“ท่านไปไหนคะ” ฉันเดินไปถามใกล้ๆ ประตู
“คุณท่านออกไปทำธุระด่วนกับคุณอินโจค่ะ”
“งั้นคุณมันจาเปิดประตูให้ขวัญหน่อยได้ไหมคะ ขวัญรู้นะว่าคุณมันจามีกุญแจทุกดอกของบ้าน” ฉันออดอ้อน เพราะตั้งแต่ฉันขึ้นมาอยู่บนห้อง พ่อก็ให้คนล็อกกลอนไว้จากด้านนอก เดินมาเข้ากับดักเองแท้ๆ เลยฉัน =_=
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเกิดคุณหนูเล่นตุกติกดิฉันก็แย่น่ะสิคะ ถึงดิฉันจะเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ แต่ถ้าปล่อยให้คุณหนูหนีไป คุณท่านคงไล่ดิฉันออกแน่”
“โธ่...นี่คุณมันจาก็จะไม่ช่วยฉันอีกคนแล้วหรอคะ T^T” ฉันทำเสียงให้เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ สักพักคุณมันจาก็เปิดประตูออก
“คุณท่านบอกว่าให้คุณหนูรับประทานอาหารบนห้องนอนนะคะ ไม่ให้ลงไป” คุณมันจาพูดแล้วแม่บ้านอีก 2 คนก็ค้อมตัวเดินผ่านฉันเข้ามาในห้องนอน และจัดอาหารให้ฉัน
“เชิญรับประทานให้อร่อยนะคะคุณหนู หากรับประทานเสร็จแล้วกดอินเตอร์คอมเรียกได้เลย ดิฉันจะขึ้นมาทันที ^^” คุณมันจายิ้มก่อนจะปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา
แงๆ นี่พ่อเอาจริงหรอ TOT
ฉันเดินกลับไปกลับมาในห้องอย่างครุ่นคิด มีใครบ้างนะที่พ่อจะไว้ใจและสามารถพาฉันออกไปจากที่นี่ได้ อืม ยัยยูรี!...ก็ไม่ได้อีก พ่อต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันวางแผนจะหนีออกจากบ้าน
“พี่จุนเจ O_O!” ฉันสบถออกมาทันทีที่คิดได้ ถ้าเป็นพี่จุนเจมารับฉันพ่อต้องอนุญาตแน่ๆ ส่วนทางหนีแล้วค่อยหาวิธีแล้วกันขอให้ออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน >.<
ฉันรีบเดินไปค้นของในลิ้นชักหัวเตียงทันที ฉันจำได้ว่าฉันเอามันไว้ในนี้นะ หวังว่าคงยังไม่ได้ทิ้งไปหรอกนะ นามบัตรที่พี่เขาให้ไว้ตอนนั้น
“เจอแล้ว ^O^” ฉันร้องกับตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะกดโทรออกอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่รอสายฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่จุนเจกำลังจะเป็นคู่หมั้น ใจมันก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาแปลกๆ -_-//
[ฮัลโหล] เสียงของพี่จุนเจลอดมาจากปลายสาย ฉันหยุดหายใจไปพักใหญ่ก่อนจะรวบรวมความกล้าส่งเสียงออกไป ทำไมฉันต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาสักหน่อย U_U//
“เอ่อ...พี่จุนเจใช่ไหมคะ?” ฉันถามทั้งที่จำได้แม่นว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพี่เขาแน่ๆ
[ใช่ครับ นี่...ใครครับเนี่ย?] พี่จุนเจถามกลับมาอย่างสุภาพ
“ขวัญ...เอ่อ ฮยอนอินเองค่ะ ซอฮยอนอิน” ฉันแนะนำตัว พี่เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา
[ฮยอนอินจริงๆ หรอคะเนี่ย!....พี่นึกว่าจะไม่โทรมาหาพี่ซะแล้ว]
“ขอโทษนะคะที่ตอนนั้นไม่ได้โทรหาพี่เลย ทั้งที่พี่บอกว่า...จะไปรับ” ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำเอาไว้ซะก่อนเพื่อให้ตายใจ -_+
[ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่โกรธ ว่าแต่วันนี้มีอะไรรึเปล่าคะ]
“คือว่าฉันอยากให้พี่ช่วยอะไรหน่อยน่ะค่ะ”
[ช่วยอะไรหรอคะ?]
“คือ...วันนี้ฉันไม่ได้ไปเรียนน่ะค่ะ..แล้ว...เอ่อ วันนี้มีการบ้าน ต้องออกไปซื้อของมาทำรายงาน...”
[เลยอยากให้พี่พาไป?] พี่จุนเจถามแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูดจบประโยค
“ใช่ค่ะใช่! พอดีตอนนี้พ่อไม่อยู่น่ะค่ะ ขวัญ อุ้ย! ฉันเลยอยากให้พี่มารับออกไปซื้อของหน่อย ขวัญโดนทำโทษอยู่น่ะค่ะเลยออกไปไหนคนเดียวไม่ได้ U_U”
[อ๋อ เรื่องข่าวน่ะหรอคะ] พี่จุนเจพูด อ้าว! ไหนว่าพ่อปิดข่าวไปแล้ว ทำไมพี่จุนเจยังรู้อีกล่ะ =_=;
“พี่รู้?”
[ใช่ค่ะ เมื่อวานพี่ผ่านไปทางคอนโดของฮยอนอิน แล้วเห็นนักร้องคนนั้นไปส่งฮยอนอินที่คอนโด พี่คิดว่าต้องมีข่าวแน่ๆ พี่เลยบอกคุณลุงให้เตรียมรับมือเอาไว้ แล้วก็มีข่าวออกมาจริงๆ]
“ระ...หรอคะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักกับมือถือ ฉันต้องขอบคุณเขาไหมเนี่ยที่ช่วยเตือนพ่อให้เตรียมปิดข่าว =_=;
[งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะคะ]
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^_^” ฉันยิ้มหวานให้โทรศัพท์ก่อนจะกดตัดสายไป พี่เขาคงรู้ตั้งแต่วันแสดงละครรอบปฐมทัศน์แล้วน่ะสิว่าฉันจะเป็นคู่หมั้น ไม่งั้นคงไม่ตามติดฉันแจขนาดนี้ -_-;;
เมื่อพี่จุนเจมาถึงและโทรบอกพ่อก็ได้บัตรผ่านอย่างง่ายดายตามคาด ฉันบอกพี่จุนเจว่าฉันหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่จุนเจจึงพาฉันไปกินข้าวโดยให้ฉันเลือกร้านอาหารเอง ฉันเลยเลือกร้านที่ใกล้ๆ กับคอนโดที่สุดเพื่อจะได้หนีกลับได้ง่ายๆ
“เอ่อ...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ^_^” ฉันพูดระหว่างที่นั่งรออาหาร ก่อนจะลุกเดินไปห้องน้ำทันที พี่จุนเจเหมือนจะรู้ทันว่าฉันคิดจะหนี พี่เขาเลยเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับประตูทางออกซึ่งถ้าจะออกจากร้านนี้ได้ต้องผ่านโต๊ะนั้นเท่านั้น
ฉันค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งไปทางหนีไฟของร้านซึ่งมันก็คือประตูหลังนี่เอง พอฉันเดินออกมาจากประตูหลังได้สำเร็จ ฉันก็มาเจออุปสรรคอีกอย่างนั่นก็คือ ซอยหลังร้านทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่หนีออกมาทางนี้ =_=
ฉันกวาดตามองไปรอบๆ ซอยอย่างระแวดระวังก่อนจะรีบวิ่งฝ่าความมืดออกมาจากซอยนั้น
“เฮ้อ...” เมื่อวิ่งออกมาถึงถนนใหญ่แล้ว ฉันก็หยุดและใช้มือค้ำหัวเข่าตัวเองเอาไว้และหายใจทางปากด้วยความเหน็ดเหนื่อย การจราจรที่คับคั่งตรงหน้ามันทำให้ฉันอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ฉันเริ่มเดินลัดเลาะไปตามริมฟุตบาทเพื่อกลับคอนโดที่อยู่ถัดไปอีก 1 แยก แต่พอฉันเดินมาถึงคอนโด ฉันก็เห็นพี่จุนเจนั่งรออยู่ในลอบบี้แล้ว อะไรกัน! เขารู้ได้ยังไงว่าฉันหนีออกมาจากร้านแล้ว จะฉลาดเกินไปแล้วนะ -*-!
ฉันเดินไปแอบอยู่ในซอยข้างๆ คอนโดแล้วคิดแผนใหม่ ถ้าฉันไม่เข้าไปในคอนโดฉันก็ไม่มีที่ไปแล้ว หอวิลล่าก็คงไปไม่ได้ Y_Y
“เฮ้อ...วันนี้นี่มันโชคดีจังเลยนะ!” อยู่ๆ ก็มีเสียงแหลมๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง มันเป็นเสียงของชเวซอนบี ศัตรูตัวฉกาจของฉันอีกคน!!
“ซอนบี!!” ฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเงาของคนกลุ่มหนึ่งตะคุ่มๆ อยู่ แต่ถึงแม้จะเห็นแค่เงาฉันก็จำได้แม่นว่าเป็นซอนบีแน่ๆ
ยัยซอนบียืนกอดอกมองฉันอยู่พร้อมลูกสมุนอีกประมาณ 7-8 คน ในนั้นมีผู้ชายอยู่ด้วยประมาณ 4 คน ถ้าเกิดได้ตีกันขึ้นมาฉันมั่นใจว่าสู้ไม่ได้แน่ U_U
“ดีใจมากเลยหรอที่เจอฉันที่นี่!” ซอนบีถามพร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหาฉันช้าๆ
“เธอมาที่นี่ทำไม” ฉันถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ายัยซอนบีต้องมาดักรอเล่นงานฉันแน่ๆ เพราะที่ผ่านมายัยคนนี้คอยลอบกัดฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว
“มาหาเธอไง วันนั้นเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ!” ซอนบีบอกและหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าฉัน แต่ก็ห่างพอที่ฉันจะยกเท้าถีบยัยนั่นไม่ถึง =_=
“ฉันมาดักรอเธอตั้งแต่เมื่อวาน แต่เธอก็ดันมีผู้ชายมาส่งฉันเลยทำอะไรเธอไม่ได้ แต่วันนี้เธอกลับเดินมาหาฉันเอง โชคดีชะมัด”
“ฉันนึกว่าเราคุยรู้เรื่องกันแล้วนะ แล้วเธอไปบอกกีอุนสุดที่รักของเธอรึยังว่าอย่ามายุ่งกับฉัน” ฉันพูดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะทำให้ยัยนั่นโกรธ สมุนที่มากับยัยซอนบีทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องฉัน แต่ก็โดนยัยซอนบีห้ามเอาไว้
“ฮึ!! ผู้ชายที่มาตอมเธอก็มีออกยอะแยะ เมื่อไหร่จะเลิกให้ท่ากีอุนสักที!!” ยัยซอนบียังคงพยายามใส่ร้ายว่าฉันไปให้ท่าฮันกีอุนอย่างไม่ลดละ =_=
“ฉันก็บอกเธอแล้วว่าฉันไม่ได้ให้ท่าใคร แต่นายนั่นมาหาฉันเอง”
“แก!!” ยัยซอนบีชี้หน้าฉันด้วยมือที่สั่นเทา ฉันไม่สนใจหรอกว่ายัยนี่จะโกรธมากไหม ที่ฉันสนใจตอนนี้คือพี่จุนเจกลับไปรึยัง =_=?
“นี่! เธอคุยกับฉันอยู่นะ!!” ยัยซอนบีร้องแว๊ดๆ เมื่อเห็นฉันหันไปมองนอกซอยโดยไม่สนใจสิ่งที่ยัยนั่นพูด
“ก็ฉันเบื่อที่จะพูดแล้ว เพราะต้นเหตุของเรื่องมันไม่ใช่ฉัน มันเป็นเพราะฮันกีอุนต่างหาก” ฉันบอก เพราะฉันไม่อยากพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาบ่อยนัก
“งั้นหรอ...” ยัยซอนบีทำท่าเหมือนจะอ่อนลงบ้าง แต่...
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าดังสนั่นไปทั่วซอย หน้าฉันหันไปอีกทางตามแรงตบ ความรู้สึกเค็มแปลกๆ ออกมาจากปากของฉัน ฉันยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปากด้วยความโกรธที่เริ่มพุ่งพล่าน
“นี่เธอตบฉันหรอ!!” ฉันหันไปมองซอนบีที่ยิ้มเยาะฉันอย่างสะใจ
“ใช่! จะทำไม!!” ยัยนั่นลอยหน้าลอยตาตอบ
“หนอยนังซอนบี!!!” ฉันตะคอกออกไปสุดเสียงแล้วตรงเข้าไปถีบยัยซอนบีหงายหลังลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปกะจะกระทืบยอดอกมันสักที แต่ก็โดนสมุนของยัยซอนบีล็อกแขนทั้ง 2 ข้างเอาไว้แน่น
“ฤทธิ์เยอะจริงๆ นะนังเนี่ย” ผู้ชายที่ล็อกแขนฉันไว้ทางด้านขวาบ่นกับยัยซอนบีที่กำลังยันตัวลุกขึ้นยืนโดยมีสมุนช่วยพยุงขึ้น
“ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากที่แกโดนอุ้มไปนอนกับเพื่อนฉันคืนนี้ฤทธิ์จะยังเยอะอยู่ไหม” ยัยซอนบีพูด กระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“ว่าไงนะ!” ฉันสบถออกมา เมื่อกี๊ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
“ได้ยินไม่ผิดหรอกนังฮยอนอิน คืนนี้คงต้องรับศึกหนักหน่อยนะ เพราะเพื่อนฉันหลายคนมันอยากใจจะขาดอยู่แล้ว” ยัยซอนบีเข้ามาลูบคางฉันเล่นอย่างสะใจ สมุนที่มันพามาต่างพากันหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจ
“แกนี่มัน!!...” ฉันคิดคำด่าไม่ออกจริงๆ ยัยนี่เกิดเป็นคนได้ยังไง! แค่ผู้ชายคนเดียวถึงกับทำร้ายเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน ทุเรศที่สุด!!!
“ทำไม...ด่าฉันสิ ด่าให้สาแก่ใจแกเลยนะ เพราะคืนนี้แกคงไม่มีเวลาได้ร้องด่าใครแน่ๆ” ยัยซอนบียิ้มเยาะฉันอย่างชั่วร้าย
“เลวที่สุด! ฉันขอให้แกเจอหนักกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!...” ฉันตะคอกใส่หน้าซอนบี แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ด่าต่อ ฝ่ามือของคนที่ถูกตะคอกใส่ก็ลอยเข้ามาตบที่หน้าของฉันอีกครั้ง
เพี๊ยะ!!!
“ด่าอีกสิ ด่าให้หนำใจแกเลยฮยอนอิน!!” ซอนบียังคงยิ้มให้ฉันอย่างโหดเหี้ยม
“...ถ้าแกมีลูกสาว ฉันก็ขอให้เจอแบบเดียวกับที่แกทำไว้กับฉันในวันนี้!...” ฉันตะคอกต่อ ถึงแม้จะรู้ว่าต้องโดนอะไร
เพี๊ยะ!!!
“พูดพอรึยัง? ห๊ะ!!!” ซอนบีเข้ามาบีบคางฉันแรงๆ ด้วยความโกรธที่พุ่งพรวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันทีที่โดนบีบบริเวณใกล้ๆ กับปากที่แตก
“นี่! พอแล้วน่า เดี๋ยวก็ช้ำหมด” ผู้ชายที่ล็อกตัวฉันไว้พูดขึ้น ซอนบีเลยชักมือกลับแรงๆ
“ขอให้สนุกกับเพื่อนฉันนะ” ซอนบีบอกก่อนทำท่าจะเดินไป ไม่นะ!! นังซอนบี จะทิ้งฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะนังสาระเลว!!
“เดี๋ยว!!” ฉันร้องเรียกยัยซอนบีเอาไว้เพื่อถ่วงเวลา และใช้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดคิดหาทางหนีทีไล่
“อะไร...จะสั่งเสียอะไรอีก!!” ซอนบีหันกลับมาหาฉัน
“ฮึ!” ฉันแสยะยิ้มกลับไป ก่อนจะกระโดดถีบขาคู่เข้าที่ยอดอกของยัยซอนบีทันที โดยที่ผู้ชาย 2 คนที่ล็อกตัวฉันไว้เป็นฐาน ทำให้ฉันไปล้มลงกับพื้น
“นังฮยอนอิน!!” ซอนบีตะคอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับพยายามข่มความเจ็บปวดย่างสามขุ่มเข้ามาหาฉันแล้วชกฉันจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเข้ามาพร้อมสมุนที่เป็นผู้หญิงอีก 2-3 คนกระหน่ำเตะและถีบฉันจากทุกทิศ ฉันได้แค่โค้งตัวรองรับเท้าจากพวกชั่วที่รุมฉันอย่างไม่คิดจะไว้ชีวิต ความเจ็บปวดจากส่วนต่างๆ ทั้งแขน ขา สะโพก เอว กระดูกสันหลังทำให้น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้พวกมันได้เลย!!
“เฮ้ย!! จะกระทืบให้ตายเลยรึไง ไหนแกยกให้ฉันแล้วไงซอนบี” ผู้ชายที่ยัยซอนบีพามาด้วยถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดพร้อมกับแหวกดงทรีนเข้ามาพยุงฉันขึ้น แต่ขอฉันอ่อนจนไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้เลย หมอนั่นเลยอุ้มตัวฉันขึ้นไปพาดไว้บนบ่าทำให้ฉันยิ่งจุกเข้าไปใหญ่
ใครก็ได้ ช่วยฉันทีเถอะ! นี่ฉันต้องโดนไอ้พวกสวะสังคมทำมิดีมิร้ายจริงๆ น่ะหรอ!!!
“จัดการให้เรียบร้อย!!” สิ้นเสียงสั่งการ ซอนบีก็เดินหายเข้าไปในซอยที่มืดมิดนั้นอย่างไร้ร่องรอย โดยทิ้งฉันไว้กับสมุนผู้ชาย 4 คนนั้นอย่างไม่ใยดี อย่าให้ฉันรอดไปได้นะนังซอนบี!!!
“ไปกันเถอะสาวน้อย เราไปสนุกกันดีกว่า” ผู้ชายที่อุ้มฉันไว้บนบ่ากระซิบก่อนจะเดินออกมาจากซอยคนละทางกับซอนบี
“เฮ้ย!! ทำอะไรน่ะ!!” อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังเข้ามาในประสาทการรับรู้ที่เริ่มจะเลือนลาง
“มึงเป็นใครวะ!!” ผู้ชายที่ไม่ได้อุ้มฉันเอ่ยถามด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น
“มึงจะพาผู้หญิงไปไหน” ผู้ชายคนนั้นถาม
“แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย นี่มันผู้หญิงของฉันเว้ย!!” ผู้ชายที่อุ้มฉันตะโกนขึ้น
“ช่วย...ช่วยด้วย...” ฉันพยายามส่งเสียงที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมา แต่มันไม่ดังพอที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ยินเลย
“เงียบๆ น่า” ผู้ชายที่อุ้มฉันบนบ่ากระซิบบอกเบาๆ
เงียบก็โง่น่ะสิ ฉันไม่ยอมให้พวกแกได้แอ้มฉันง่ายๆ หรอกนะไอ้พวกสาระเลว!!
*******************************************
ของขวัญแย่แล้ว T^T
ฝากติดตามด้วยนะคะ >.<!
*******************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ