[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  110.81K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

31) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Episode 3 Dangerous Lover

:: Chapter 6 ::

 

            ปึก!

            พ่อทิ้งหนังสือพิมพ์ลงต่อหน้าฉันดังปึก! ภาพที่ปรากฏอยู่หน้า 1 ของทุกเป็นภาพของจุนฮยองกำลังประคองผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ ส่วนอีกภาพที่อยู่ติดกันเป็นภาพที่จุนฮยองประคองผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะคาดแถบสีดำไว้ที่ตาฉันก็จำได้แม่นว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉันเอง! และคอนโดที่อยู่ในภาพก็คือคอนโดฉันอีกนั่นแหละ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นภาพเมื่อคืนนี้นะ

            “ลูกรู้ไหม ถ้าคนของพ่อไม่ไปเจอไอ้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เข้าลูกจะเป็นยังไง!!”  พ่อท้าวสะเอวมองฉันด้วยอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นขั้นรุนแรง

            “ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง พ่ออุตส่าห์ไว้ใจให้ออกไปอยู่คอนโดคนเดียว แต่ลูกกลับ...ให้ผู้ชายไปค้างด้วยแบบนั้น!!!”

            “ขวัญกับผู้ชายคนนี้ เราไม่ได้มีอะไรกันนะคะ! เขาแค่ไปส่งเฉยๆ”  ฉันเถียงทันควัน ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ข่าวที่พาดหัวมันแรงเกินจริงต่างหาก! พาดหัวมาได้ไง ‘ยงจุนฮยองหิ้วสาวขึ้นคอนโด’ =_=

            “ตอนนี้ทางเราทำการปิดข่าวกับสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วครับ รวมถึงทางสถานีที่มีข่าวนี้ด้วย”  คุณอินโจเดินเข้ามารายงานพ่อ

            “ขอบใจอินโจ”  พ่อหันไปพูดกับคุณอินโจ แล้วหันมาฉ่ะฉันต่อ ส่วนคุณอินโจก็เดินออกไปเงียบๆ

            “ถ้าพ่อปิดข่าวลูกไม่ทันจะเป็นยังไงห๊ะฮยอนอิน!!”

            “ขวัญขอโทษค่ะ ขวัญสร้างปัญหาอีกแล้ว Y_Y”  ฉันก้มหน้ารับชะตากรรมเต็มที่เพราะฉันก็ไม่มีสติจริงๆ นั่นแหละถึงปล่อยให้มันมีภาพอะไรแบบนี้ออกมาได้ ถ้าเมื่อคืนฉันไม่เมาก็คง...

            “ยิ่งเป็นข่าวกับนักร้องดังแบบนี้พวกนักข่าวยิ่งตีข่าวกันมันส์เลย ดีนะที่มีแค่สำนักพิมพ์เดียวที่ได้รูปนี้ไป”  พ่อพูดพร้อมกับเดินกลับไปกลับมารอบห้องอย่างหัวเสีย

            “งั้นก็ดีแล้วสิคะที่ข่าวยังไม่รั่ว”  ฉันพูด

            “ไม่รั่วก็จริง แต่ก่อนที่คนของพ่อจะไปเห็นไม่รู้ว่ามีใครซื้อหนังสือพิมพ์ไปแล้วบ้าง”  พ่อพูดอย่างร้อนรน แต่ก็ยังคงใจเย็นอยู่มาก เพราะปกติถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้พ่อฉันด่าแหลกจนฉันเถียงไม่ได้แล้ว Y_Y

            “ทำไมไอ้นักร้องนั่นมันไปส่งลูกที่คอนโดได้ เป็นแฟนกับมันหรอ”  อยู่ๆ พ่อก็พูดจนฉันสะดุ้งสุดตัว ฉันไม่เคยคิดคำแก้ตัวเรื่องนี้ไว้เลย T_T

            “เอ่อ...คือ เขารู้จักกับวิลล่าน่ะค่ะ แล้ว...วิลล่ายุ่งๆ ก็เลยให้เขามาส่งขวัญแทน”  ฉันตอบ พ่อหรี่ตามองฉันนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ ฉันมั่นใจว่าพ่อไม่เชื่อที่ฉันพูดเลย เขาแค่พยักหน้ารับไปส่งๆ เท่านั้นเอง

            “ดีแล้วล่ะ พ่อจะได้ไม่เสียคำพูดกับตระกูลโอเขา”  พ่อพูดแล้วทิ้งตัวลงนั่งโซฟาอีกตัวที่อยู่ข้างๆ กัน

            “ตระกูลโอ? เสียคำพูด? อะไรคะขวัญงงไปหมดแล้ว -_-?”  ฉันถามงงๆ ผิดคำพูดอะไรกัน =_=;

            “วันนั้นพอดียุ่งๆ พ่อเลยยังไม่ได้บอก พอดีพ่อกับพ่อของจุนเจคุยกันว่าจะให้ลูกๆ แต่งงานกัน”  พ่อบอกออกมาในที่สุด

            “เฮ้ย!!”  ฉันอุทานออกมาอย่างลืมตัว จะบ้าไปแล้วแค่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนกันทำไมต้องให้ลูกแต่งงานกันด้วย!!

            “ก็ไม่ได้แต่งตอนนี้หรอกน่า ลูกก็ยังเรียนอยู่พ่อเข้าใจ แต่พ่อก็อย่างให้หมั้นๆ กันไว้ก่อน”  พ่อพูดเหมือนจะเข้าใจฉัน แต่ไม่เลย!! พ่อไม่เข้าใจฉัน ทำไมไม่ถามความสมัครใจของฉันบ้างล่ะ T^T

            “แต่พ่อคะ!...”

            “ฮยอนอิน! ที่ผ่านมาพ่อตามใจลูกมาเยอะแล้วนะ เรื่องนี้อย่าขัดพ่อเลย มาคบกับจุนเจดีกว่า เขาเป็นคนดีมากรู้ไหมพ่อให้อินโจสืบมาหมดแล้ว ดีกว่านักร้องนั่นเป็นไหนๆ”  พ่อยิ้มออกมาอย่างภูมิใจที่หาคู่ให้ลูกสาวได้สักที =_=!!

            “ไม่ค่ะ ยังไงขวัญก็ไม่แต่ง ไม่หมั้นอะไรทั้งนั้น! การแต่งงานต้องให้ขวัญเป็นคนตัดสินใจสิ”

            “แต่พ่อก็ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นไอ้นักร้องนั่นเหมือนกัน!!”  พ่อถียงขึ้นมาทันที  “อารมณ์ร้าย ใจร้อน ขี้บ่นแบบนั้น พ่อไม่อยากให้แม่ของลูกตำหนิพ่อที่ทำให้ลูกต้องคบกับคนแบบนั้น”

            “นี่อย่าบอกนะว่าพ่อ...สืบเรื่องของจุนฮยองมาหมดแล้ว”  ฉันมองพ่ออย่างทึ่งๆ

            “ใช่ พอรู้ข่าวพ่อก็ให้คนสืบเดี๋ยวนั้นเลย”  พ่อบอก แต่หนูกับหมอนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนะคะ T///T

            “เอาล่ะ ช่วงนี้พ่อจะลงโทษลูกโดยการกักบริเวณจนกว่าข่าวจะซาและพ่อมั่นใจว่าปิดข่าวได้เงียบสนิทแล้ว ระหว่างนี้ลูกต้องอยู่ที่บ้านนี้ห้ามไปไหน! ตอนไปเรียนก็ต้องให้จุนเจคอยรับส่งเท่านั้น!!”

            “ไม่ค่ะ ขวัญจะกลับคอนโด!”  ฉันยืนยันหนักแน่น  “ไหนพ่อบอกว่าปิดข่าวแล้วไงคะ”

            “แต่ก็มีทีวีบางช่องที่ยังออกข่าวลูกอยู่ แค่เขาไม่มีรูปเพราะพ่อทำลายทิ้งไปหมดแล้ว”

            “ไม่มีรูปเขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นขวัญ”

            “ถ้าลูกยังดื้ออยู่แบบนี้ งั้นพ่อคงต้องเลื่อนงานหมั้นให้เร็วขึ้นหน่อยแล้วล่ะ”

            “พ่อ!!”  ฉันตะโกนลั่นอย่างขัดใจ -*-!

            “เอาไง จะกลับคอนโดไหม เดี๋ยวพ่อจะให้อินโจขับรถไปส่ง”  พ่อพูดพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างผู้มีชัย

            พ่อนะพ่อ -*-!

            “อ้าว จะกลับคอนโดหรอ”  พ่อตะโกนตามมาเมื่อฉันเดินกระฟัดกระเฟือดออกมาจากห้องนั่งเล่น

            “ขึ้นห้องค่ะ -_-!!”  ฉันหันไปมองพ่อตาขวางก่อนจะเดินจ้ำๆ ขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงหัวเราะชอบใจของพ่อ คงคิดหาทางบีบฉันเรื่องงานหมั้นนานแล้วสิคุณพ่อ มิน่าล่ะแทนที่จะด่าฉันกลับทำตัวใจเย็นเฉยเลย ได้ทีล่ะเอาใหญ่เลยนะ -_+!!

           

            [แกกับวิลล่าทะเลาะกันหนักเลย เป็นไงบ้างอ่ะ วันนี้แกไม่มาเรียนฉันเป็นห่วงแกแทบแย่]  ยูรีโทรมาที่โทรศัพท์บ้านหลังจากที่ฉันนอนพักไปตื่นหนึ่ง

            “ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”  ฉันตอบ ปฏิกิริยาของยูรียังปกติอยู่แสดงว่าพ่อปิดข่าวได้มิดจริงๆ

            [ฉันโทรไปแกก็ไม่รับ ตัดสายแล้วปิดเครื่องเฉยเลย มือถือหายรึไง]

            “เปล่าหรอก ฉันลืมที่หอวิล ยังไม่ได้ไปเอาเลย” 

            [ให้ฉันไปเอาให้ม๊ะ? อิอิ]  เสียงหัวเราะคิกคักลอดมาจากปลายสาย ดูเหมือนเธอจะอยากไปหอนั้นมากเลยนะ ฉันเข็ดแล้วล่ะ สร้างวีรกรรมไว้เยอะเกิน U_U

            “เออ ว่าแต่วันนี้มีงานอะไรไหม”  ฉันพาเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวจะเข้าโหมดดราม่าอีกครั้ง

            [ไม่มี แกโชคดีมากนะรู้ป่ะ วันนี้อาจารย์ไม่ว่างมาสอน ฉันล่ะนั่งรอเก้อเลย]

            “หรอ...อืม” 

            [แล้วพ่อแกจะกักบริเวณไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย]

            “พ่อบอกว่าจนกว่าข่าว...เอ่อ จนกว่าพ่อจะหายโกรธ -_-!”  ฉันแอบตบปากตัวเองเพราะเกือบจะหลุดปากเรื่องข่าวซะแล้ว

            [แกโอเคแน่นะ ทำไมเสียงแปลกๆ มีไรรึเปล่า เล่าให้ฟังได้นะ]

            “ไม่มีหรอกน่า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ปวดหัว”  ฉันบอก ก่อนจะตัดสายแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ ฉันจะเล่าได้ไงว่าฉันกับอีตาจุนเจนั่นเป็นคู่หมั้นกัน ถึงจะหล่อ รวย นิสัยดี แต่เขาก็ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของฉันเลย ถ้าเกิดวันหนึ่งเขาไม่ชอบตัวตนของฉัน แล้วชีวิตหลังจากนี้ของฉันจะเป็นยังไง =_=;; (คิดการไกลนะเรา -_-)

            ก็อก! ก็อก! ก็อก!

            “คุณหนูคะ ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแล้วค่ะ”  คุณแม่บ้านมันจาร้องบอกผ่านบานประตูห้องนอนเข้ามา

            “ช่วยไปบอกคุณพ่อด้วยนะคะว่าขวัญไม่กิน เชิญกินไปคนเดียวเลย!!”  ฉันตะโกนกลับไป ถึงแม้ว่ากระเพาะจะร้องประท้วงอยู่ก็เถอะ T^T

            “คุณหนูคะ คุณท่านไม่อยู่ค่ะไม่ต้องประชดหรอก”  คุณมันจาพูด น้ำเสียงเหมือนกำลังยิ้มอยู่ คุณมันจาเนี่ยรู้ใจฉันเสมอเลยนะ

            “ท่านไปไหนคะ”  ฉันเดินไปถามใกล้ๆ ประตู

            “คุณท่านออกไปทำธุระด่วนกับคุณอินโจค่ะ” 

            “งั้นคุณมันจาเปิดประตูให้ขวัญหน่อยได้ไหมคะ ขวัญรู้นะว่าคุณมันจามีกุญแจทุกดอกของบ้าน”  ฉันออดอ้อน เพราะตั้งแต่ฉันขึ้นมาอยู่บนห้อง พ่อก็ให้คนล็อกกลอนไว้จากด้านนอก เดินมาเข้ากับดักเองแท้ๆ เลยฉัน =_=

            “ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเกิดคุณหนูเล่นตุกติกดิฉันก็แย่น่ะสิคะ ถึงดิฉันจะเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ แต่ถ้าปล่อยให้คุณหนูหนีไป คุณท่านคงไล่ดิฉันออกแน่” 

            “โธ่...นี่คุณมันจาก็จะไม่ช่วยฉันอีกคนแล้วหรอคะ T^T”  ฉันทำเสียงให้เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ สักพักคุณมันจาก็เปิดประตูออก

            “คุณท่านบอกว่าให้คุณหนูรับประทานอาหารบนห้องนอนนะคะ ไม่ให้ลงไป”  คุณมันจาพูดแล้วแม่บ้านอีก 2 คนก็ค้อมตัวเดินผ่านฉันเข้ามาในห้องนอน และจัดอาหารให้ฉัน

            “เชิญรับประทานให้อร่อยนะคะคุณหนู หากรับประทานเสร็จแล้วกดอินเตอร์คอมเรียกได้เลย ดิฉันจะขึ้นมาทันที ^^”  คุณมันจายิ้มก่อนจะปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา

            แงๆ นี่พ่อเอาจริงหรอ TOT

            ฉันเดินกลับไปกลับมาในห้องอย่างครุ่นคิด มีใครบ้างนะที่พ่อจะไว้ใจและสามารถพาฉันออกไปจากที่นี่ได้ อืม ยัยยูรี!...ก็ไม่ได้อีก พ่อต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันวางแผนจะหนีออกจากบ้าน

            “พี่จุนเจ O_O!”  ฉันสบถออกมาทันทีที่คิดได้ ถ้าเป็นพี่จุนเจมารับฉันพ่อต้องอนุญาตแน่ๆ ส่วนทางหนีแล้วค่อยหาวิธีแล้วกันขอให้ออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน >.<

            ฉันรีบเดินไปค้นของในลิ้นชักหัวเตียงทันที ฉันจำได้ว่าฉันเอามันไว้ในนี้นะ หวังว่าคงยังไม่ได้ทิ้งไปหรอกนะ นามบัตรที่พี่เขาให้ไว้ตอนนั้น

            “เจอแล้ว ^O^”  ฉันร้องกับตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะกดโทรออกอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่รอสายฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่จุนเจกำลังจะเป็นคู่หมั้น ใจมันก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาแปลกๆ -_-//

            [ฮัลโหล]  เสียงของพี่จุนเจลอดมาจากปลายสาย ฉันหยุดหายใจไปพักใหญ่ก่อนจะรวบรวมความกล้าส่งเสียงออกไป ทำไมฉันต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาสักหน่อย U_U//

            “เอ่อ...พี่จุนเจใช่ไหมคะ?”  ฉันถามทั้งที่จำได้แม่นว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพี่เขาแน่ๆ

            [ใช่ครับ นี่...ใครครับเนี่ย?]  พี่จุนเจถามกลับมาอย่างสุภาพ

            “ขวัญ...เอ่อ ฮยอนอินเองค่ะ ซอฮยอนอิน”  ฉันแนะนำตัว พี่เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา

            [ฮยอนอินจริงๆ หรอคะเนี่ย!....พี่นึกว่าจะไม่โทรมาหาพี่ซะแล้ว] 

            “ขอโทษนะคะที่ตอนนั้นไม่ได้โทรหาพี่เลย ทั้งที่พี่บอกว่า...จะไปรับ”  ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำเอาไว้ซะก่อนเพื่อให้ตายใจ -_+

            [ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่โกรธ ว่าแต่วันนี้มีอะไรรึเปล่าคะ]

            “คือว่าฉันอยากให้พี่ช่วยอะไรหน่อยน่ะค่ะ” 

            [ช่วยอะไรหรอคะ?]

            “คือ...วันนี้ฉันไม่ได้ไปเรียนน่ะค่ะ..แล้ว...เอ่อ วันนี้มีการบ้าน ต้องออกไปซื้อของมาทำรายงาน...”

            [เลยอยากให้พี่พาไป?]  พี่จุนเจถามแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูดจบประโยค

            “ใช่ค่ะใช่! พอดีตอนนี้พ่อไม่อยู่น่ะค่ะ ขวัญ อุ้ย! ฉันเลยอยากให้พี่มารับออกไปซื้อของหน่อย ขวัญโดนทำโทษอยู่น่ะค่ะเลยออกไปไหนคนเดียวไม่ได้ U_U” 

            [อ๋อ เรื่องข่าวน่ะหรอคะ]  พี่จุนเจพูด อ้าว! ไหนว่าพ่อปิดข่าวไปแล้ว ทำไมพี่จุนเจยังรู้อีกล่ะ =_=;

            “พี่รู้?”

            [ใช่ค่ะ เมื่อวานพี่ผ่านไปทางคอนโดของฮยอนอิน แล้วเห็นนักร้องคนนั้นไปส่งฮยอนอินที่คอนโด พี่คิดว่าต้องมีข่าวแน่ๆ พี่เลยบอกคุณลุงให้เตรียมรับมือเอาไว้ แล้วก็มีข่าวออกมาจริงๆ]

            “ระ...หรอคะ”  ฉันพยักหน้าหงึกหงักกับมือถือ ฉันต้องขอบคุณเขาไหมเนี่ยที่ช่วยเตือนพ่อให้เตรียมปิดข่าว =_=;

            [งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะคะ]

            “ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^_^”  ฉันยิ้มหวานให้โทรศัพท์ก่อนจะกดตัดสายไป พี่เขาคงรู้ตั้งแต่วันแสดงละครรอบปฐมทัศน์แล้วน่ะสิว่าฉันจะเป็นคู่หมั้น ไม่งั้นคงไม่ตามติดฉันแจขนาดนี้ -_-;;

            เมื่อพี่จุนเจมาถึงและโทรบอกพ่อก็ได้บัตรผ่านอย่างง่ายดายตามคาด ฉันบอกพี่จุนเจว่าฉันหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่จุนเจจึงพาฉันไปกินข้าวโดยให้ฉันเลือกร้านอาหารเอง ฉันเลยเลือกร้านที่ใกล้ๆ กับคอนโดที่สุดเพื่อจะได้หนีกลับได้ง่ายๆ

            “เอ่อ...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ^_^”  ฉันพูดระหว่างที่นั่งรออาหาร ก่อนจะลุกเดินไปห้องน้ำทันที พี่จุนเจเหมือนจะรู้ทันว่าฉันคิดจะหนี พี่เขาเลยเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับประตูทางออกซึ่งถ้าจะออกจากร้านนี้ได้ต้องผ่านโต๊ะนั้นเท่านั้น

            ฉันค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งไปทางหนีไฟของร้านซึ่งมันก็คือประตูหลังนี่เอง พอฉันเดินออกมาจากประตูหลังได้สำเร็จ ฉันก็มาเจออุปสรรคอีกอย่างนั่นก็คือ ซอยหลังร้านทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่หนีออกมาทางนี้ =_=

            ฉันกวาดตามองไปรอบๆ ซอยอย่างระแวดระวังก่อนจะรีบวิ่งฝ่าความมืดออกมาจากซอยนั้น

            “เฮ้อ...”  เมื่อวิ่งออกมาถึงถนนใหญ่แล้ว ฉันก็หยุดและใช้มือค้ำหัวเข่าตัวเองเอาไว้และหายใจทางปากด้วยความเหน็ดเหนื่อย การจราจรที่คับคั่งตรงหน้ามันทำให้ฉันอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

            ฉันเริ่มเดินลัดเลาะไปตามริมฟุตบาทเพื่อกลับคอนโดที่อยู่ถัดไปอีก 1 แยก แต่พอฉันเดินมาถึงคอนโด ฉันก็เห็นพี่จุนเจนั่งรออยู่ในลอบบี้แล้ว อะไรกัน! เขารู้ได้ยังไงว่าฉันหนีออกมาจากร้านแล้ว จะฉลาดเกินไปแล้วนะ -*-!

            ฉันเดินไปแอบอยู่ในซอยข้างๆ คอนโดแล้วคิดแผนใหม่ ถ้าฉันไม่เข้าไปในคอนโดฉันก็ไม่มีที่ไปแล้ว หอวิลล่าก็คงไปไม่ได้ Y_Y

            “เฮ้อ...วันนี้นี่มันโชคดีจังเลยนะ!”  อยู่ๆ ก็มีเสียงแหลมๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง มันเป็นเสียงของชเวซอนบี ศัตรูตัวฉกาจของฉันอีกคน!!

            “ซอนบี!!”  ฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเงาของคนกลุ่มหนึ่งตะคุ่มๆ อยู่ แต่ถึงแม้จะเห็นแค่เงาฉันก็จำได้แม่นว่าเป็นซอนบีแน่ๆ

            ยัยซอนบียืนกอดอกมองฉันอยู่พร้อมลูกสมุนอีกประมาณ 7-8 คน ในนั้นมีผู้ชายอยู่ด้วยประมาณ 4 คน ถ้าเกิดได้ตีกันขึ้นมาฉันมั่นใจว่าสู้ไม่ได้แน่ U_U

            “ดีใจมากเลยหรอที่เจอฉันที่นี่!”  ซอนบีถามพร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหาฉันช้าๆ

            “เธอมาที่นี่ทำไม”  ฉันถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ายัยซอนบีต้องมาดักรอเล่นงานฉันแน่ๆ เพราะที่ผ่านมายัยคนนี้คอยลอบกัดฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว

            “มาหาเธอไง วันนั้นเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ!”  ซอนบีบอกและหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าฉัน แต่ก็ห่างพอที่ฉันจะยกเท้าถีบยัยนั่นไม่ถึง =_=

            “ฉันมาดักรอเธอตั้งแต่เมื่อวาน แต่เธอก็ดันมีผู้ชายมาส่งฉันเลยทำอะไรเธอไม่ได้ แต่วันนี้เธอกลับเดินมาหาฉันเอง โชคดีชะมัด”

            “ฉันนึกว่าเราคุยรู้เรื่องกันแล้วนะ แล้วเธอไปบอกกีอุนสุดที่รักของเธอรึยังว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”  ฉันพูดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะทำให้ยัยนั่นโกรธ สมุนที่มากับยัยซอนบีทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องฉัน แต่ก็โดนยัยซอนบีห้ามเอาไว้

            “ฮึ!! ผู้ชายที่มาตอมเธอก็มีออกยอะแยะ เมื่อไหร่จะเลิกให้ท่ากีอุนสักที!!”  ยัยซอนบียังคงพยายามใส่ร้ายว่าฉันไปให้ท่าฮันกีอุนอย่างไม่ลดละ =_=

            “ฉันก็บอกเธอแล้วว่าฉันไม่ได้ให้ท่าใคร แต่นายนั่นมาหาฉันเอง”

            “แก!!”  ยัยซอนบีชี้หน้าฉันด้วยมือที่สั่นเทา ฉันไม่สนใจหรอกว่ายัยนี่จะโกรธมากไหม ที่ฉันสนใจตอนนี้คือพี่จุนเจกลับไปรึยัง =_=?

            “นี่! เธอคุยกับฉันอยู่นะ!!”  ยัยซอนบีร้องแว๊ดๆ เมื่อเห็นฉันหันไปมองนอกซอยโดยไม่สนใจสิ่งที่ยัยนั่นพูด

            “ก็ฉันเบื่อที่จะพูดแล้ว เพราะต้นเหตุของเรื่องมันไม่ใช่ฉัน มันเป็นเพราะฮันกีอุนต่างหาก”  ฉันบอก เพราะฉันไม่อยากพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาบ่อยนัก

            “งั้นหรอ...”  ยัยซอนบีทำท่าเหมือนจะอ่อนลงบ้าง แต่...

            เพี๊ยะ!!!

            เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าดังสนั่นไปทั่วซอย หน้าฉันหันไปอีกทางตามแรงตบ ความรู้สึกเค็มแปลกๆ ออกมาจากปากของฉัน ฉันยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปากด้วยความโกรธที่เริ่มพุ่งพล่าน

            “นี่เธอตบฉันหรอ!!”  ฉันหันไปมองซอนบีที่ยิ้มเยาะฉันอย่างสะใจ

            “ใช่! จะทำไม!!”  ยัยนั่นลอยหน้าลอยตาตอบ

            “หนอยนังซอนบี!!!”  ฉันตะคอกออกไปสุดเสียงแล้วตรงเข้าไปถีบยัยซอนบีหงายหลังลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปกะจะกระทืบยอดอกมันสักที แต่ก็โดนสมุนของยัยซอนบีล็อกแขนทั้ง 2 ข้างเอาไว้แน่น

            “ฤทธิ์เยอะจริงๆ นะนังเนี่ย”  ผู้ชายที่ล็อกแขนฉันไว้ทางด้านขวาบ่นกับยัยซอนบีที่กำลังยันตัวลุกขึ้นยืนโดยมีสมุนช่วยพยุงขึ้น

            “ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากที่แกโดนอุ้มไปนอนกับเพื่อนฉันคืนนี้ฤทธิ์จะยังเยอะอยู่ไหม”  ยัยซอนบีพูด กระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ

            “ว่าไงนะ!”  ฉันสบถออกมา เมื่อกี๊ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?

            “ได้ยินไม่ผิดหรอกนังฮยอนอิน คืนนี้คงต้องรับศึกหนักหน่อยนะ เพราะเพื่อนฉันหลายคนมันอยากใจจะขาดอยู่แล้ว”  ยัยซอนบีเข้ามาลูบคางฉันเล่นอย่างสะใจ สมุนที่มันพามาต่างพากันหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจ

            “แกนี่มัน!!...”  ฉันคิดคำด่าไม่ออกจริงๆ ยัยนี่เกิดเป็นคนได้ยังไง! แค่ผู้ชายคนเดียวถึงกับทำร้ายเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน ทุเรศที่สุด!!!

            “ทำไม...ด่าฉันสิ ด่าให้สาแก่ใจแกเลยนะ เพราะคืนนี้แกคงไม่มีเวลาได้ร้องด่าใครแน่ๆ”  ยัยซอนบียิ้มเยาะฉันอย่างชั่วร้าย

            “เลวที่สุด! ฉันขอให้แกเจอหนักกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!...”  ฉันตะคอกใส่หน้าซอนบี แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ด่าต่อ ฝ่ามือของคนที่ถูกตะคอกใส่ก็ลอยเข้ามาตบที่หน้าของฉันอีกครั้ง

            เพี๊ยะ!!!

            “ด่าอีกสิ ด่าให้หนำใจแกเลยฮยอนอิน!!”  ซอนบียังคงยิ้มให้ฉันอย่างโหดเหี้ยม

            “...ถ้าแกมีลูกสาว ฉันก็ขอให้เจอแบบเดียวกับที่แกทำไว้กับฉันในวันนี้!...”  ฉันตะคอกต่อ ถึงแม้จะรู้ว่าต้องโดนอะไร

            เพี๊ยะ!!!

            “พูดพอรึยัง? ห๊ะ!!!”  ซอนบีเข้ามาบีบคางฉันแรงๆ ด้วยความโกรธที่พุ่งพรวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันทีที่โดนบีบบริเวณใกล้ๆ กับปากที่แตก

            “นี่! พอแล้วน่า เดี๋ยวก็ช้ำหมด”  ผู้ชายที่ล็อกตัวฉันไว้พูดขึ้น ซอนบีเลยชักมือกลับแรงๆ

            “ขอให้สนุกกับเพื่อนฉันนะ”  ซอนบีบอกก่อนทำท่าจะเดินไป ไม่นะ!! นังซอนบี จะทิ้งฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะนังสาระเลว!!

            “เดี๋ยว!!”  ฉันร้องเรียกยัยซอนบีเอาไว้เพื่อถ่วงเวลา และใช้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดคิดหาทางหนีทีไล่

            “อะไร...จะสั่งเสียอะไรอีก!!”  ซอนบีหันกลับมาหาฉัน

            “ฮึ!”  ฉันแสยะยิ้มกลับไป ก่อนจะกระโดดถีบขาคู่เข้าที่ยอดอกของยัยซอนบีทันที โดยที่ผู้ชาย 2 คนที่ล็อกตัวฉันไว้เป็นฐาน ทำให้ฉันไปล้มลงกับพื้น

            “นังฮยอนอิน!!”  ซอนบีตะคอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับพยายามข่มความเจ็บปวดย่างสามขุ่มเข้ามาหาฉันแล้วชกฉันจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเข้ามาพร้อมสมุนที่เป็นผู้หญิงอีก 2-3 คนกระหน่ำเตะและถีบฉันจากทุกทิศ ฉันได้แค่โค้งตัวรองรับเท้าจากพวกชั่วที่รุมฉันอย่างไม่คิดจะไว้ชีวิต ความเจ็บปวดจากส่วนต่างๆ ทั้งแขน ขา สะโพก เอว กระดูกสันหลังทำให้น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้พวกมันได้เลย!!

            “เฮ้ย!! จะกระทืบให้ตายเลยรึไง ไหนแกยกให้ฉันแล้วไงซอนบี”  ผู้ชายที่ยัยซอนบีพามาด้วยถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดพร้อมกับแหวกดงทรีนเข้ามาพยุงฉันขึ้น แต่ขอฉันอ่อนจนไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้เลย หมอนั่นเลยอุ้มตัวฉันขึ้นไปพาดไว้บนบ่าทำให้ฉันยิ่งจุกเข้าไปใหญ่

            ใครก็ได้ ช่วยฉันทีเถอะ! นี่ฉันต้องโดนไอ้พวกสวะสังคมทำมิดีมิร้ายจริงๆ น่ะหรอ!!!

            “จัดการให้เรียบร้อย!!”  สิ้นเสียงสั่งการ ซอนบีก็เดินหายเข้าไปในซอยที่มืดมิดนั้นอย่างไร้ร่องรอย โดยทิ้งฉันไว้กับสมุนผู้ชาย 4 คนนั้นอย่างไม่ใยดี อย่าให้ฉันรอดไปได้นะนังซอนบี!!!

            “ไปกันเถอะสาวน้อย เราไปสนุกกันดีกว่า”  ผู้ชายที่อุ้มฉันไว้บนบ่ากระซิบก่อนจะเดินออกมาจากซอยคนละทางกับซอนบี

            “เฮ้ย!! ทำอะไรน่ะ!!”  อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังเข้ามาในประสาทการรับรู้ที่เริ่มจะเลือนลาง

            “มึงเป็นใครวะ!!”  ผู้ชายที่ไม่ได้อุ้มฉันเอ่ยถามด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น

            “มึงจะพาผู้หญิงไปไหน”  ผู้ชายคนนั้นถาม

            “แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย นี่มันผู้หญิงของฉันเว้ย!!”  ผู้ชายที่อุ้มฉันตะโกนขึ้น

            “ช่วย...ช่วยด้วย...”  ฉันพยายามส่งเสียงที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมา แต่มันไม่ดังพอที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ยินเลย

            “เงียบๆ น่า”  ผู้ชายที่อุ้มฉันบนบ่ากระซิบบอกเบาๆ

            เงียบก็โง่น่ะสิ ฉันไม่ยอมให้พวกแกได้แอ้มฉันง่ายๆ หรอกนะไอ้พวกสาระเลว!!

 

 

 

 

*******************************************

ของขวัญแย่แล้ว T^T

ฝากติดตามด้วยนะคะ >.<!

*******************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา