[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  110.93K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19) [Episode 2 :: Brighter Lover] # Chapter 7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 2 Brighter Lover

:: Chapter 7 ::

 

            “นายดื่มหมดเลยหรอ!! นายจะบ้าไปแล้วหรือไง”  ฉันถามโยซอบที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ดูจุนที่สงสัยจะตกใจเสียงของฉัน ก็รีบเดินเข้ามาหาฉันกับโยซอบทันที

            “เป็นไรกัน!”

            “ก็โยซอบเพิ่งจะดื่ม...”

            “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่”  โยซอบหันมามองฉันด้วยแววตาแปลกๆ เขาทำท่าทางเหมือนกำลังโกรธที่ฉันใส่ความซังฮุนเลย ฉันไม่ได้ใส่ความสักหน่อย นายซังฮุนนั่นมันคนร้ายชัดๆ

            “เป็นไร?...อะไร?...ยังไง? พวกนายช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมเนี่ย”  ดูจุนขมวดคิ้วมองฉันกับโยซอบสลับกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาจะไปอธิบายดูจุนหรอก ตอนนี้ฉันกำลังงงว่าทำไมโยซอบถึงไม่เป็นอะไร ฉันได้ยินมากับหูว่าพวกนั้นจะทำลายเสียงของบีสท์

            “ฉันบอกเธอแล้ว ว่าไม่มีอะไรหรอก เธอน่ะซีเรียส คิดมากไปเอง”  โยซอบพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินไปทันที ทิ้งให้ฉันยืนงงกับขวดน้ำอยู่อย่างนั้น หรือว่าฉันจะคิดมากไปเองจริงๆ บางที แดอุนอาจจะเกลี้ยกล่อมซังฮุนสำเร็จแล้วก็ได้มั้ง แล้วที่ฉันได้ยินซังฮุนคุยโทรศัพท์ล่ะ แต่จะยังไงก็ช่างเถอะกำจัดน้ำนี่ไปก่อนแล้วกัน กันไว้ดีกว่ามาแก้ทีหลังนะ

            “ฝัน ขนอะไรมาน่ะ มานี่ เดี๋ยวช่วย”  เภตราเดินเข้ามาช่วยฉันถือขวดน้ำ

            “ช่วยฉันเอาไปทิ้งหน่อยสิ” 

            “ทำไม ทำยังกะมีคนวางยาบีสท์ยังงั้นแหละ”  เภตราพูดติดตลก แต่เมื่อเห็นฉันไม่ขำ ยัยเภถึงกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

            “หรือว่า...”  เภตราก้มลงมองขวดน้ำในมืออย่างเหลือเชื่อ

            “ไหนว่าคุยกับแดอุนรู้เรื่องแล้วไง”

            “คุยกับแดอุนรู้เรื่อง แต่นายซังฮุนจะไปรู้เรื่องด้วยรู้เปล่าล่ะ”

            “เออ จริง! แล้วทำไงอ่ะ” 

            “คงต้องรีบกำจัดทิ้งให้เร็วที่สุด ก่อนที่นายโยซอบจะมาซดกินทั้งหมดนี่”  ฉันพูดไปก็นึกแค้นโยซอบไม่หาย อยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้นายซังฮุนถึงขนาดต้องเสี่ยงดื่มยาพิษอีก ฉันเชื่อเขาเลย -_-!

            “เฮ้ย! แล้วโยซอบเป็นไรไหม”

            “ไม่ ฉันก็สงสัยอยู่เนี่ยว่าทำไมไม่เป็นไร”  ฉันพูดไปก็ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา

            “ฉันสงสัยจริงๆ ว่าทำไมต้องเจอเธอในสถานการณ์แบบนี้ตลอดเลยนะ...เภตรา เฝ้าฝัน...” 

            อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาระหว่างบทสนทนา ฉันกับเภตราหันไปสบตากันอย่างรู้ทันทีว่าอันตรายกำลังมาเยือน!!

 

            [Yang Yo Seob : Talk]

            “พวกนายเป็นไรกัน”  ดูจุนเดินตามผมออกมาหลังจากที่ผมเพิ่งจะเสี่ยงดื่มยาพิษเพื่อให้เฝ้าฝันสบายใจ และไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องอันตรายแบบนี้อีก จะว่าไปผมก็ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนกันนะ ดีที่ผมดวงดีที่ไม่หยิบโดนขวดที่มียาพิษ ทำไมผมถึงรู้ว่าขวดนั้นไม่มียาพิษน่ะหรอ? เพราะว่าขวดนั้นเป็นชื่อของกีกวังไงล่ะ ผมมั่นใจมากว่า พวกเขาไม่ทำลายเสียงของกีกวังแน่นอน อย่างกีกวังเนี่ยผมว่าต้องหักขาจะดีกว่าการวางยา ผมเลยเลือกที่จะดื่มขวดนั้น

            “ไม่มีอะไรหรอก ยัยนั่นโวยวายเพราะว่าฉันดื่มน้ำที่มันมีฝุ่น”

            “แบบนี้แหละ คนเป็นหมอก็ต้องอนามัยเป็นธรรมดา อ่ะ ฉันเอามาเผื่อ”  ดูจุนยื่นขวดน้ำในมือมาให้ผมขวดหนึ่ง

            “ขอบใจ”  ผมรับมาแล้วเปิดขวดดื่มรวดเดียวหมดเพื่อล้างคอที่แห้งผาดของตัวเอง รู้สึกเสียวๆ เหมือนกันนะที่ต้องเสี่ยงดื่มน้ำที่รู้อยู่แล้วว่าอาจจะมียาพิษอยู่เนี่ย =_=;

            “ถ้าหนักใจนักก็บอกเพื่อนบอกฝูงซะบ้าง ไม่ใช่ว่าเก็บไว้คนเดียว อกแตกตายไม่รู้ด้วยนะเว้ย ไปล่ะ แล้วรีบไปซ้อมต่อแล้วกัน”  ดูจุนพูดพร้อมกับตบไหล่ผมแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเดินแยกไป

            พูดยังกะแกรู้ว่าฉันหนักใจเรื่องอะไรนะดุจุน =_=; อันที่จริงฉันก็อยากเล่าให้พวกแกฟังอยู่หรอกนะ แต่...ฉันไม่อยากให้พวกแกต้องผิดหวังเหมือนกับฉัน ฉันอยากให้มันถึงเวลาที่เหมาะสมและเรื่องทุกอย่างมันจบลงด้วยดีฉันถึงจะกล้าบอก ขอโทษนะเพื่อน...

            เวลาที่ ‘เหมาะสม’ ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นเมื่อไหร่ แต่ผมรู้สึกว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว...และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าจะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม เพื่อที่จะปกป้องผู้บริสุทธิ์และเพื่อให้เพื่อนของผมกลับตัวกลับใจ

            “โยซอบ นายเห็นเภตราไหม”  ณัช เดินเข้ามาถามผมด้วยท่าทางรีบร้อน

            “เปล่า ไม่เห็นนี่”

            “ไปไหนนะยัยนี่”  ณัชสบถคนเดียวอย่างหัวเสีย

            “มีอะไรหรอ”

            “พี่นาบีให้เรียกไปคุยน่ะสิ พี่นาบียิ่งรีบไปเปิดงานที่โรงเรียนคังยูอยู่”

            โรงเรียนคังยูที่ณัชพูดถึงคือโรงเรียนดนตรีของคุณนาบี โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนดนตรีครบวงจรที่ใหญ่มากโรงเรียนหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว

            “ไม่เห็นผ่านตาบ้างสักนิดเลยหรอโยซอบ”  ณัชถามย้ำอีกครั้ง ผมเลยส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบก่อนที่เธอจะวิ่งแยกไปอีกทาง ก็ผมไม่เจอเภตราจริงๆ นี่

            “โยซอบ เห็นเฝ้าฝันไหม มือถือดังตั้งหลายรอบแล้ว ที่โรงพยาบาลโทรมารึเปล่าไม่รู้”  คุณมะนาวเดินเข้ามาถามผมอีกคน แต่ความนี้ถามหาเฝ้าฝัน วันนี้ทำไมตามหาคนกันให้ควักเลยนะ =_=

            “อ๋อ เพิ่งแยกกันตรงหน้าโถงกลางหลังเวทีน่ะครับ”  ผมชี้ไปที่ห้องที่ผมเพิ่งจะเดินออกมา

            “ขอบใจจ้ะ”  คุณมะนาววิ่งเข้าไปตามทางที่ผมบอกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งกลับออกมาหลังจากที่เพิ่งเข้าไปไม่นาน

                “ไม่เห็นมีเลยโยซอบ แน่ใจหรอว่าเฝ้าฝันอยู่ในนั้น”

                “ก็ตอนแยกกันมาเฝ้าฝันยังอยู่ในนั้นอยู่เลยนะครับ”

                “เฮ้อ...หายไปไหนของเขานะ”  คุณมะนาวทำท่าทางกังวลใจ จนผมเริ่มจะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว

                “อยู่ไหนวะเภ!”  ณัชเดินกลับมาทางเดิมพร้อมกับสบถออกมาตลอดทาง

                “อะไร...พี่ให้มาตามเภตราตั้งนานแล้วยังไม่เจอกันอีกหรอ นาบีรอจนโทรตามพี่หลายรอบแล้วเนี่ย”  คุณมะนาวพูดออกมาอย่างงงๆ  “หายไปไหนกัน”

                มันชักจะเริ่มแปลกๆ แล้วนะ หายไปทั้ง 2 คนแบบนี้...ที่สำคัญทั้ง 2 คนนี้ เป็นคนที่รู้เรื่องของซังฮุนซะด้วยนี่!!

                “เอ่อ...ผมว่าเราแยกย้ายกันตามหาดีกว่านะครับ!”  ผมพูดออกมาทันทีที่คิดได้ ใช่...เราต้องรีบก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

                “เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วย ทำยังกะสองคนนั้นจะโดนจับไปเรียกค่าไถ่ยังงั้นแหละ”  ณัชถามผมด้วยท่าทางงงๆ ถ้าเกิดโดนจับไปเรียกค่าไถ่เฉยๆ ก็คงจะดีน่ะสิณัช -_-!

                “เฮ้ย! โยซอบ จะถึงคิวเราขึ้นเวทีแล้วนะ มัวทำไรอยุ่เนี่ย”  ดูจุนเดินมาตามผมด้วยท่าทางเซ็งๆ

                “แฟนแกหายตัวไปพร้อมกับเฝ้าฝัน แกยังจะขึ้นไปซ้อมอยู่อีกไหม”  ผมรีบบอก ดูจุนถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที

                “เดี๋ยวๆ นี่มันอะไรกัน แค่สองคนนั้นหายตัวไปเองนะ อาจจะไปเข้าห้องน้ำหรือไปทำธุระก็ได้ พวกนั้นไม่ได้มีศัตรูที่ไหนซะหน่อย”  คุณมะนาวตั้งข้อสันนิฐาน

                “ผมไม่สะดวกจะเล่าอะไรให้ฟังตอนนี้ ให้รู้แค่ว่าตอนนี้สองคนนั้นอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้...เพราะฉะนั้น...”

                “รีบตามหาเถอะ!!”  ดูจุนพูดแทรกขึ้นมาอย่างร้อนใจก่อนที่ผมจะพูดจบประโยคก่อนจะรีบออกวิ่งไปก่อนผมซะอีก ผมว่าไอ้นี่มันก็คงตงิดๆ เรื่อง Troy เหมือนผมแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่รีบร้อนขนาดนี้หรอก!

                พวกเราแบ่งกันออกตามหาทั่วทั้งฮอลที่จะใช้ทำการแสดงคอนเสิร์ตแต่ก็ไม่วี่แววของ 2 คนนั้นเลย! ผมค้นหาทุกซอกทุกมุมที่คิดว่าคนน่าจะอยู่ได้...แต่ก็เปล่าประโยชน์ ผมคิดไม่ออกแล้วว่าพวกนั้นมันจะพา 2 คนนั้นไปที่ไหนได้โดยที่ไม่มีใครเห็น ใครก็ได้...ช่วยบอกผมที ว่า 2 คนนั้นยังปลอดภัยอยู่!!

                เฝ้าฝัน...เธออยู่ที่ไหน ฉันพยายามทำให้เธอสบายใจไม่ให้คิดเรื่องนี้และไม่ยุ่งกับเรื่องอันตรายแบบนี้แล้ว...ทำไมเธอไม่ฟังฉันบ้างเลย!! ถ้าเธอเป็นอะไรไป...ฉันจะไม่ยอมยกโทษให้ตัวเองเลย!!

                เคร้ง!

                อยู่ๆ เสียโลหะหนักๆ ที่ตกกระทบพื้นแรงๆ ก็ทำให้ผมหยุดฝีเท้าลง...มันดังมาจากห้องเก็บอุปกรณ์ต่อเติมเวทีนี่! จริงสิ...ผมยังไม่ได้เข้าไปดูในนั้นเลยเพราะมันมีแม่กุญแจอันใหญ่ล็อคอยู่

                ผมรีบวิ่งไปตามเสียงนั้นทันที พอไปถึงแม่กุญแจตัวนั้นผมแทบอยากจะเอาหัวโขกกับผนังซะให้รู้แล้วรู้รอด เพราะมันไม่ได้ล็อคอยู่แค่คล้องเอาไว้เฉยๆ ผมค่อยๆ ปลดแม่กุญแจดอกนั้นออกอย่างเบามือ แต่ผมดันพลาดทำกุญแจดอกนั้นหลุดมือหล่นลงไป เฮ้ย! ไม่นะ!!!

                ฟึบ!

                มีมือมือหนึ่งเอื้อมเข้ามารับกุญแจไว้ก่อนที่จะตกกระทบพื้น

                “ชู่~”  จุนฮยองทำท่าจุ๊ปากก่อนจะวางแม่กุญแจเจ้าปัญหาดอกนั้นลงบนพื้นเบาๆ ผมมองเพื่อนร่วมวงอย่างแปลกใจ อย่าบอกนะว่าพวกนายก็สงสัย Troy ตั้งแต่ต้นแล้วเหมือนกัน...

                “ปล่อยฝันนะไอ้หน้าตัวเมีย!!!”  เสียงด่าด้วยความเคียดแค้นดังลอยออกมาจากห้อง มันเป็นสียงของเภตราที่ตะโกนขึ้นมาสุดเสียงด้วยความเกลียดชังอย่างถึงที่สุด!!

 

                [Faofan : Talk]

                แรงกระชากที่ผมทำให้ตัวฉันโอนเอนไปมาตามแรงดึงและแรงกระชาก โยซอบ...นายอยู่ที่ไหน นายรู้ไหมว่าตอนนี้คนที่นายไว้ใจนักหนามันกำลังจะทำร้ายฉันกับเภตราอยู่

                “ปล่อยฝันนะไอ้หน้าตัวเมีย!!!”  เภตราตะโกนออกมาทั้งๆ ที่โดนจับมัดไว้บนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งโดยมีนายมยองมุน เพื่อนร่วมวง Troy อีกคนยืนคุมอยู่

                “ฮึๆๆ ปากเก่งไปเถอะ...ไหน มาดูสิว่าบีสท์จะช่วยคนที่ปกป้องพวกมันได้ยังไง เฮ้อ...ฉันเสียดายพวกเธอจริงๆ นะ ทั้งสวย ทั้งเก่ง ไม่น่าอายุสั้นเลย”  ซังฮุนกระชากผมฉันให้เงยหน้าขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปมาบนหน้าฉัน ฉันสะบัดหน้าออกจากมือของมันแรงๆ อย่างขยะแขยง

                “อย่าเอามือสกปรกๆ ของแกมาแตะต้องฉัน”  ฉันขบกรามพูด

                “ไม่แตะก็ได้ เพราะฉันทำได้ใกกว่านั้น!!”  ซังฮุนพูดพร้อมกับกระตุกผมฉันแรงๆ อีก 1 ครั้ง

                “อย่างแก มันก็ทำได้แค่ทำร้ายคนลับหลังแล้วก็ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้นั่นแหละ...ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตราบใดที่นายยังทำตัวเป็นหมาลอบกัดแบบนี้อยู่ ถึงนายจะวิ่งตายบีสท์แบบไม่ยอมหยุดพักเลย นายก็ไม่มีวันตามพวกเขาทัน!!”  ฉันขบกรามพูดอย่างโกรธจัด ถึงแม้ว่าคำพูดของฉันที่เพิ่งจะพูดออกไปอาจจะทำให้ฉันเจ็บหนักกว่าเดิมหรืออาจจะถูกฆ่าเร็วขึ้น แต่ฉันก็อยากจะสั่งสอนให้หมอนี่มันรู้สักทีว่ากระทำของมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย

                “ฮึ! พูดดีนี่ พูดไปเถอะก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูด!!”  ซังฮุนตะโกนใส่หน้าฉันก่อนจะผลักศีรษะฉันแรงๆ แล้วเดินไปจับขวดน้ำที่ติดข้างขวดว่า ‘ยังโยซอบ’ เป็นภาษาเกาหลีขึ้นมา

                “โยซอบมันโชคดีที่ดื่มขวดของไอ้กีกวัง เพราะขวดนั้นมันไม่มี...เธออยากรู้ไหมว่าถ้ามียาพิษจริงๆ คนที่ดื่มมันเข้าไปจะเป็นยังไง”  ซังฮุนยื่นหน้าเข้ามาพูดกับฉันใกล้ๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มอย่างชั่วร้ายมาให้

                “แกจะทำอะไร?”  ฉันถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าต่อจากนี้ไอ้ซังฮุนมันจะทำอะไร มันค่อยๆ เปิดฝาขวดออก แล้วโยนฝามาใส่ตัวฉันแรงๆ

                “แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ ไม่อยากให้ไอ้โยซอบมันดื่มดีนัก งั้นเธอช่วยดื่มแทนมันหน่อยแล้วกัน เททิ้งมันน่าเสียดาย ฮ่าๆๆๆ”  เสียงหัวเราะของซังฮุนดังก้องไปทั่วทั้งห้องเก็บของ มันเป็นเสียงที่ชวนให้ขนลุกจริงๆ

                “ไม่นะฝัน!! หยุดเดี๋ยวนะไอ้ชั่ว!!”  เภตราตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม เภพยายามจะแกะเชือกและตะเกียกตะกายมาหาฉัน แต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะนายมยองมุนยืนจับตัวไว้อย่างแน่นหนา...

                น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอาบแก้มเมื่อมองเห็นเพื่อนดิ้นทุรนทุรายเพื่อพยายามมาช่วยฉัน...เธออยู่ตรงนั้นแหละเภ เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเองที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง และดันพาเธอมาลำบากแบบนี้ ฉันขอโทษเธอจริงๆ...

                “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะเด็กดี”  ซังฮุนเอื้อมมือมาลูบผมฉันเบาๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นกระชากผมของฉันให้เงยหน้าขึ้นไปหามัน

                “โอ้ย!”  ฉันร้องอกมาเพราะแรงกระชากที่รู้สึกว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม หัวใจฉันกระตุกวูบทีหนึ่งเมื่อมองเห็นขวดน้ำขวดนั้นอยุ๋ใกล้ๆ

                “ได้ข่าวว่าเธอก็เสียงหลักของวงเหมือนกันนี่นา...ก็ลองดูกันว่ายาสูตรนี้จะทำอะไรกับเสียงของเธอบ้าง”  ซังฮุนพูดแล้วเปลี่ยนมือจากที่กระชากผมฉันอยู่มาบีบปากของฉันแทน...

                “ไม่นะ!!! ฝัน!!!...ช่วยด้วย ใครก็ได้...ช่วยที!!! ฝัน!!!!”  เภตราตะโกนจนเสียงแหบพร่าไปหมด พร้อมกับดิ้นไปดิ้นมาจนเก้าอี้ไม้ที่นั่งอยู่ล้มลงกับพื้น

                “เก็บแรงไว้ทุรนทุรายตอนที่กินยานี่ดีกว่านะเภตรา เพราะคนต่อไปก็คือเธอ...”  มยองมุนพูดเสียงเย็นๆ

                โครม!!

                อยู่ๆ ประตูเหล็กหนาๆ ก็ถูกเปิดอกโดยผู้ชาย 7-8 คนที่ฉันคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะหาที่นี่เจอ...บีสท์! และ troy (ที่เหลือ)

                “คนต่อไป คือนายมากกว่านะมยองมุน...ซังฮุน”  ดูจุนพูดเสียงเย็นพร้อมกับจ้องหน้ามยองมุนอย่างเอาเรื่อง

                “ฮึ! ในเมื่อมากันครบขนาดนี้แสดงว่ารู้เรื่องหมดแล้วสินะ”  ซังฮุนพูดพลางหัวเราะในลำคออย่างร้ายกาจ

                “พอซะเถอะซังฮุน ปล่อย 2 คนนั้นมาซะ เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”  แดอุน ลีดเดอร์วง troy พูด

                “มั่นใจหรอว่าพวกมันไม่รู้เรื่อง!”  ซังฮุนไม่พูดเปล่าแต่กระชากผมฉันแรงๆ จนฉันเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

                “โอ๊ย!!”

                “เฮ้ย! ไอ้ซังฮุน!!”  โยซอบสบถออกมาดังๆ พร้อมกับทำท่าจะก้าวเข้ามา แต่ก็ถูกห้ามไว้โดยซังฮุน

                “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละโยซอบ ถ้าแกก้าวเข้ามาอีกก้าวล่ะก็ ฉันอาจจะเผลอทำน้ำขวดนี้หกเข้าปากยัยคนนี่ก็ได้นะ”

                “แกต้องการอะไร!”  โยซอบถาม

                “ลาออกจากวงการซะ”

                “ว่าไงนะ!”  แดอุนถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจกับความคิดของเพื่อนร่วมวงของเขา

                “ฟังไม่ผิดหรอกแดอุน ฉันต้องการให้พวกมันลาออกจากวงการซะ อ้อ! แล้วก็ต้องออกไปแบบคาวๆ ด้วยนะ ส่วนเรื่องคาวๆ ไม่ต้องห่วง เพราะฉันเตรียมไว้ให้หมดแล้ว”

                “นายคิดหรอ ว่าไม่มีบีสท์สักวง พวกนายจะดังได้...คนดูเขาดูที่ความสามารถ!!”

                “หุบปาก!”

                “โอ้ย!”  ฉันร้องออกมาเมื่อมันกระชากผมฉันอีก

                “ฉันว่าอย่าทำให้เรื่องบาดปลายเลยนะ ตอนนี้คุณมะนาวตกใจมากที่เด็กของเขาหายตัวไป แล้วตอนนี้เรื่องก็ถึงตำรวจแล้วด้วย ทางที่ดี นายควรหยุดซะตั้งแต่ตอนนี้จะดีที่สุด”  ฮยอนซึงพูด

                “งั้นหรอ...ว๊า น่ากลัวจัง”  ซังฮุนลอยหน้าลอยตาอย่างไม่สนใจ

                “แกไม่รู้สึกอะไรเลยรึไงวะซังฮุน ตอนนี้แกถลำลึกเกินไปแล้วนะเว้ย”  แดอุนพยายามเกลี้ยกล่อมซังฮุนอย่างไม่ลดละ ฉันก็เข้าใจนะ ถ้าเกิดคนๆ นี้เป็นเพื่อนฉัน ฉันก็คงไม่อยากทำร้ายเพื่อนโดยการส่งตัวตำรวจหรอก

                “ในเมื่อมาไกลขนาดนี้แล้ว...ก็ไม่มีเวลามาเดินกลับทางเดิมแล้ว” 

                ซังฮุนบีบปากฉันแรงๆ ก่อนจะยกขวดน้ำขวดนั้นขึ้นเหลือใบหน้าของฉัน ฉันมองเห็นแต่ปากขวดที่กำลังจ่อมาที่ปาก พร้อมกับของเหลวใสๆ ที่กำลังไหลลงมาเรื่อยๆ

                นายมันร้ายกาจเกินไปแล้วซังฮุน!!! ฉันหลับตาเพื่อรับชะตากรรมที่กำลังมาจะมาถึงพร้อมกับร่างกายที่สั่นระริกด้วยความกลัว เสียงของฉัน...มันเป็นทั้งชีวิตและความฝันของฉัน มันคือสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตที่จืดชืดของฉันรู้สึกมีคุณค่า มันมีคุณค่ากับฉันยิ่งกว่าการได้ช่วยเหลือคนเป็นร้อยซะอีก! แต่วันนี้!! ตอนนี้!! ฉันกำลังจะไม่มีมันแล้ว ความฝันของฉันกำลังจะจบลงงั้นหรอ!!!

                “พี่ทำร้ายพวกผมยังไม่พออีกหรอครับ”  อยู่ๆ เสียงเรียบๆ ของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในโสตประสาทการได้ยินของฉัน ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นปากขวดเลื่อนออกห่างจากฉันพอสมควรแล้ว

                “นอกจากทำร้ายพวกผมแล้ว ยังจะทำลายอนาคต ทำลายความฝันของคนอื่นอีกหรอ...”  ดงอุนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ถึงแม้ว่าฉันจะมองไม่เห็นดงอุนเพราะม่านน้ำตามันบดบังไปหมด แต่ฉันก็เดาออกว่าสีหน้าของดงอุนเป็นยังไง ความรู้สึกที่โดนหักหลังมันก็เจ็บมากพออยู่แล้ว ยังต้องมาทนเห็นคนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตัวเองอีก มันยิ่งทำให้รู้สึกแย่ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

                “พี่รู้ไหมว่าผมดูพวกพี่เป็นต้นแบบนะ โดยเฉพาะพี่ พี่ซังฮุน...พี่ทั้งเรียน ทั้งเดบิวต์ในเวลาเดียวกันทั้งๆ ที่ไม่เคยมีใครทำ ตอนนั้นผมคิดอยู่ในใจว่า พี่นี่โคตรเท่ห์เลย ทำได้ยังไงนะ...แล้วในวินาทีที่ผมรู้ว่าพี่เป็นตัวการของเรื่องเลวร้ายพวกนี้ พี่รู้ไหมว่าผมคิดยังไง...ผมคิดและพูดประโยคเดิมซ้ำๆ กับตัวเองว่า ไม่จริง! มันเป็นไปไม่ได้!...แต่พอผมเริ่มหาเหตุผลและหลักฐานต่างๆ เพื่อทำให้พี่กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ มันกลับยิ่งตอกย้ำให้ผมได้รู้ว่าพี่นี่แหละ คือคนทำเรื่องทั้งหมด!!!”  เสียงของดงอุนขาดห้วงไป ทิ้งไว้แค่เสียงสะอื้น เบาๆ จากลูกผู้ชายคนหนึ่ง นี่แสดงว่าคนอื่นๆ ก็คงสงสัยมานานแล้วสิว่าซังฮุนเป็นคนทำ!

                “ยอมซะเถอะซังฮุน”  จุนฮยองพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                ฟุบ!

                มือที่ถือขวดน้ำของซังฮุนเลื่อนไปอยู่ข้างตัว ทำให้ฉันหายใจได้ทั่วท้องขึ้นมาหน่อย แต่อยู่ดีๆ มยองมุนก็ร้องลั่นขึ้นมา

                “เฮ้ย! ซังฮุน แกจะยอมแพ้ด้วยคำพูดสองสามประโยคแบบนี้น่ะหรอ ลองคิดดูสิ ถ้าเราล้มเลิกตอนนี้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดมันเพื่ออะไรกัน!”

                “มยองมุน...ฉัน”  ซังฮุนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

                “แกเป็นคนชวนฉันให้ทำเรื่องนี้นะ แล้วแกจะเป็นคนล้มเลิกมันหรอซังฮุน!!”

                “...”  ซังฮุนไม่ตอบอะไร เขาแค่ก้มหน้ามองพื้นที่อยู่ใต้เท้าตัวเองเท่านั้น มือที่บีบปากฉันอยู่ก็ค่อยๆ คลายออกจนกระทั่งเขายอมปล่อยมือโดยดี

                “เฮ้ย!! แกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!!!”  มยองมุนพุ่งตัวเข้ามาแย่งน้ำขวดนั้นจากมือของซังฮุนแล้วเข้ามาบีบปากฉันก่อนจะกรอกมันลงมาอย่างรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน! O_O!

                ความรู้สึกร้อนเหมือนน้ำเดือดๆ ไหลผ่านลำคอของฉันอย่างรวดเร็ว แต่ในความรู้สึกฉันมันเนิ่นนานจนฉันอยากจะกรี๊ดร้องออกมาแต่มันเป็นเพียงเสียงที่แหบพร่าเท่านั้นที่สามารถเล็ดรอดออกมาจากลำคอของฉันได้ ความรู้สึกแสบร้อนซึมลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อและกล่องเสียง คอแห้งผากจนไม่สามารถกลืนน้ำลายลงคอของตัวเองได้! ความรู้สึกแบบนี้มันทรมานเกินไป!!

                “ฝัน!!!”  เสียงของเภตราดังเข้ามาในห้วงการรับรู้พร้อมกับที่ร่างของฉันถูกพาลงมาจากเก้าอี้ที่ถูกมัดไว้ ฉันรู้สึกถึงความวุ่นวายภายในห้องเก็บของหลังจากวินาทีนั้นซึ่งฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันรู้แค่เพียงว่าเหมือนมีอะไรร้อนๆ มันทาบอยู่ที่คอของฉันตลอดเวลา แสบร้อนขึ้นมาถึงจมูกและตาจนต้องหลับตาไว้แต่ถึงจะหลับตายังไงมันก็ไม่มีแววว่าจะหายหรือลดลงเลย น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาที่เหมือนจะบอดสนิทไปแล้ว มือเท้าเกร็งไปหมดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันยกมือขึ้นมากุมคอตัวเองไว้แน่นจนเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกถึงจะอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถเอามือออกจากคอได้จริงๆ เพราะมันทรมานเกินที่จะบรรยายได้แล้วตอนนี้

                “เฝ้าฝัน ทำใจดีๆ ไว้นะ”  เสียงของโยซอบดังเข้ามาในหู ฉันค่อยๆ เงยหน้ามองเขาแล้วร้องไห้ออกมา ฉันกำชายเสื้อของเขาไว้แน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากเหลือเกิน นี่ฉันกำลังจะตายรึเปล่า?...ถ้าหากฉันจะต้องตาย ฉันขอตายไปเลยตอนนี้ได้ไหม!!! ฉันทนทรมานแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว!! ไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้ฉันตายไปเลยเถอะ!!! ขอร้อง!!!...

                “ฝัน! เฝ้าฝัน! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที ช่วยด้วย!!!”  เภตราตะโกนลั่นพร้อมกับตบหน้าฉันเพื่อเรียกสติ อย่าพยายามเรียกฉันเลยเภ ปล่อยให้ฉันตายดีกว่า!! ได้โปรด!!!

                “เฮ้ย! เลือด!!”  โยซอบใช้มือมาอังที่ใต้จมูกของฉันแล้วรีบยกชายเสื้อขึ้นมาซับเลือดกำเดาให้ฉันอย่างรีบร้อน 

                “รถพยาบาล!!! มารึยัง!!!”  โยซอบตะโกนออกมาบ้าง รอบๆ ตัวฉันมีแต่ความวุ่นวายเต็มไปหมด ภาพความวุ่นวายมัวๆ ที่ฉันมองผ่านม่านน้ำตาออกไปมันทำให้ฉันยิ่งปวดหัวและสับสน ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือ พี่นาบีกับพี่มะนาวเดินเข้ามานั่งคุกเข่าลงข้างๆ ฉัน ก่อนที่ทุกอย่างบนโลกจะมืดลง...

 

 

 

*********************************

อัพเดตค่ะ 

วิจารณ์ ติชมได้นะคะ ^_^

*********************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา