[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

15) [Episode 2 :: Brighter Lover] # Chapter 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 2 Brighter Lover

:: Chapter 3 ::

 

            ช่วงเย็นของวันนี้ ฉันและโยซอบจดจ่ออยู่ที่หน้าจอทีวีเพื่อรอดูการแถลงข่าวของ KB Entertainment จนกระทั่งจบช่วงข่าวบันเทิงฉันก็ขอกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ฉันต้องอยู่เฝ้าโยซอบทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่เวร ถือซะว่าช่วยดูแลเพื่อนมนุษย์แล้วกันนะเฝ้าฝัน =_=

            “เอ๊ะ! โทรศัพท์!!”  ฉันควานหาโทรศัพท์ตามกระเป๋าเสื้อกราวด์และกระเป๋าถือก็ไม่เจอ สงสัยต้องลืมในห้องโยซอบแน่ๆ เลย เซ็งจริงๆ -_-

            ฉันเดินย้อนกลับไปที่ห้องพักของโยซอบอีกครั้ง ระหว่างที่เดินมาถึงระเบียงฉันก็เห็นผู้ชายสวมชุดบุรุษพยาบาลเดินเข้าไปในห้องพักของโยซอบ

            เอ...ตอนนี้ได้เวลาฉีดยาพอดีนี่นาคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ฉันคิดหลังจากละสายตาจากนาฬิกาข้อมือ ฉันเดินมาที่ห้องพักของโยซอบด้วยอาการปกติเพราะแค่ฉีดยาฉันคงไม่ต้องไปดูหรอก

            “...เขายอมให้ฉีดยาไหมคะพี่”  ฉันเอ่ยถามพี่บุรุษพยาบาลอย่างเป็นกันเอง เพราะนายโยซอบจะงอแงตลอดเวลาที่ต้องฉีดยา =_=;

            “...”  ไม่มีเสียงตอบรับจากบุรุษพยาบาลที่ท่านเรียก =_=; ส่วนมือที่จับเข็มฉีดยาก็ชะงักอยู่กลางอากาศ ฉันเลยเริ่มเอ่ะใจขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมตอบคำถามฉัน

            “เป็นอะไรหรอคะ”  ฉันถามพร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นใกล้ๆ ตอนนี้โยซอบหลับไปแล้ว คงเหลือแค่ฉันกับบุรุษพยาบาลลึกลับคนนี้สินะ -_-;;

            “...”  เงียบ เขาไม่ยอมตอบฉันอีกครั้ง

            “ที่ไม่ตอบ...เพราะพูดภาษาไทยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”  ฉันแกล้งคุยเป็นภาษาไทยต่อ เพราะตอนนี้ฉันมั่นใจมากว่าผู้ชายที่หันหลังให้ฉันอยู่นี้ พูดภาษาไทยไม่ได้...

            “ฮึ!”  ผู้ชายคนนั้นพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ ก่อนจะตั้งท่าฉีดยาที่อยู่ในมือเข้าไปในเส้นเลือดของโยซอบอย่างชำนาญไม่มีอาการลังเลหรือหยุดชั่งใจเลย

            “หยุดนะ!!”  ฉันร้องออกมาเป็นภาษาเกาหลี หมอนั่นชะงักไปแค่อึดใจเดียวก่อนจะเริ่มแทงเข็มเข้าไปในแขนของโยซอบ

            ตุบ!

            “ไปเร็ว!”  โยซอบกระโดดลงจากเตียงหลังจากที่เพิ่งโยนตะกร้าผลไม้ของฝากของพี่นาบีเข้าไปกระแทกหน้าของผู้ชายคนนั้นเต็มๆ

            ฉันถูกโยซอบลากออกมาจากห้องพักโดยมีบุรุษพยาบาลคนนั้นวิ่งตามมาติดๆ และด้วยขาของโยซอบยังไม่หายดี ผู้ชายคนนั้นเลยวิ่งตามมาประชิดเราทั้งคู่อย่างง่ายดาย

            “นายไหวไหมเนี่ย”  ฉันพาเลี้ยวเข้ามาหลบอยู่ข้างทางเพราะสังเกตเห็นสีหน้าโยซอบเหมือนจะปวดขามากแล้ว

            “ไหวๆ รีบไปเถอะ มันตามมาใกล้มากแล้วนะ”  โยซอบหายใจหอบแล้วลากฉันออกจากมุมมืด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ชายสวมฮู๊ทอีกคน ชี้ปลายมีดมาจ่ออยู่ที่หน้าของโยซอบ ฉันจำผู้ชายคนนี้ได้!...มันเป็นคนเดียวกับที่จะใช้มีดแทงดงอุนเมื่อคืนวาน O_O!!

            “ฮึ!”  เสียงพ่นลมหายใจแรงๆ ของผู้ชายที่สวมชุดบุรุษพยาบาลดังขึ้นจากด้านหลัง ตอนนี้เราโดนล้อมไว้แล้ว >_<!!

            “จัดการมันเลย!”  เสียงผู้ชายสวมชุดบุรุษพยาบาลร้องสั่งผู้ชายที่ใช้มีดจี้หน้าโยซอบอยู่

            “ก่อนจะฆ่าฉัน...ฉันขอดูหน้าเป็นขวัญตาก่อนไม่ได้หรอ?”  โยซอบถาม

            “จะตายแล้วยังปากเก่งอีกนะโยซอบ”  ผู้ชายที่ถือมีดพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

            เสียงของผู้ชายทั้ง 2 คนที่ล้อมเราไว้มันเป็นเสียงแปลกๆ ไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย เหมือนพวกมันพยายามดัดเสียงพูดของตัวเองอยู่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้น...ฉันก็ไม่รู้ -_-;;

            “เฮ้ย!! ไม่ต้องไปคุยกับมัน ฆ่ามันเร็ว!!!”  ผู้ชายสวมชุดบุรุษพยาบาลร้องเสียงดังอย่างเหลืออด แต่ฉันก็ยังเห็นโยซอบกระตุกยิ้มมุมปากให้กับปลายมีดเงาวับตรงหน้าอย่างหน้าตาเฉย

            “ยิ่งฉันโดนฆ่าตายบีสท์จะไม่ยิ่งดังหรอกหรอ นักข่าวจะต้องมารุมทำข่าวพวกเรา ถ้าบีสท์ยิ่งดังสิ่งที่พวกแกทำมันก็สูญเปล่า...ที่แกทำๆ กันอยู่เนี่ย เพื่อไม่อยากให้พวกฉันดังไม่ใช่หรอ?”

            “แก!...”  ผู้ชายสวมชุดบุรุษพยาบาลขบกรามกรอดๆ ส่วนผู้ชายที่ชี้ปลายมีดขู่โยซอบอยู่ก็ดูมีท่าทางกังวลและเริ่มจะวอกแวกขึ้นมาบ้างแล้ว

            “ขอโทษครับ เมื่อได้ยินเสียงเอะอะอยู่แถวๆ นี้ มีอะไรรึเปล่า?”  เสียงผู้ชายอีกคนดังขึ้นมาพร้อมแสงสว่างวาบที่ถูกส่องมาที่มุมมืดที่พวกเราถูกจี้อยู่ ทำให้ผู้ชายที่ถือมีดไว้ลดมีดลง

            ลุงยามประจำตึกนี่เอง!...

            “อ๋อ...คือ”  ฉันพูดออกไปอย่างยากลำบาก เพราะมีดที่ถูกลดลงมาตอนนี้มันจ่ออยู่ที่หน้าท้องของฉันแทน ถ้าเกิดถูกแทงขึ้นมาล่ะก็ ไส้แตกแน่ยัยฝัน >.<!!

            “ไม่มีอะไรค่ะ พอดีเจอเพื่อนเลยทักทายกันดังไปหน่อย”  ฉันตะโกนกลับออกไป

            “อ๋อหรอครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วล่ะครับ”  ลุงยามคนนั้นเดินจากไปพร้อมไฟฉายกระบอกโต ฉันมัวแต่สนใจกับมีดที่มันจ่ออยู่ที่พุงจนลืมมองหน้าโจรสองคนนี้ซะสนิท...ถ้าเกิดสังเกตสักนิดล่ะก็ต้องเห็นอะไรบ้างแหละ ไฟฉายกระบอกใหญ่ขนาดนั้น -_-;;

            “ดีมาก”  จอมโจรบุรุษพยาบาลพูดอย่างชอบใจ

            “เอาล่ะ ใครจะตายก่อนดี เฝ้าฝันเสียงหลักของบีสท์เกิร์ล...”  ไอ้คนที่ถือมีด ใช้มีดเชยคางฉันขึ้น ฉันเลยเผลอบีบมือโยซอบแรงๆ อย่างลืมตัว ใจตกไปถึงตาตุ่มแล้วตู -_-!

            “หรือว่า...ยังโยซอบ เสียงหลักของบีสท์บอยดี”  มันย้ายปลายมีดออกจากคางฉัน ไปเชยคางของโยซอบแทน

            “ฉันว่าแกอย่ายุ่งกับผู้หญิงดีกว่า...เขาไม่ได้เป็นศิลปินฝึกหัดแล้วนะ เพราะฉะนั้นเสียงลงเสียงหลักอะไรนั่นน่ะ...มันไม่เกี่ยวกันแล้ว”  โยซอบพูด

            “แต่มันรู้เรื่องมากเกินไป!! เพราะฉะนั้น...ต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย”  บุรุษพยาบาลร้องขึ้นมาแทรก เอาล่ะสิพี่น้องที่เคารพ สรุปคือ...ยังไงฉันก็ต้องตายใช่ไหม T.T;

            “ฮึ!! งั้นหรอ...แต่ก่อนที่พวกแกจะฆ่าใคร ฉันว่าหาทางหนีตำรวจที่ยืนเล็งปืนอยู่ตรงนั้นก่อนเถอะ”  โยซอบยิ้มมุมปากอย่างมีชัยพร้อมกับมองไปที่ระเบียงอีกด้าน ฉันและไอ้โจรทั้ง 2 คนจึงหันควับไปมองตามโดยอัตโนมัติ...แต่ฉันไม่เห็นจะมีแมวสักตัวยืนอยู่ตรงนั้นเลย =_=?

            “เฮ้ย!!!”  ฉันร้องระหว่างที่สมองกำลังประมวลผลสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เพราะอยู่ๆ ตัวฉันก็โดนกระชากไปตามระเบียงอย่างไม่ทันตั้งตัว

            “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”  เสียงหนึ่งในจอมโจรดังตามเรามา แต่โยซอบก็ลากฉันวิ่งหนีอย่างไม่ลดละ

            “ฉันว่า เข้ามาในนี้ดีกว่า!!”  ฉันร้องแข่งกับเสียงฝีเท้ากระทบพื้นถี่ๆ ของตัวเองและโยซอบ ก่อนจะเป็นฝ่ายลากโยซอบเข้าไปในหอผู้ป่วยชายซึ่งเป็นตึกรวม...คนเยอะแยะแบบนี้รับรองว่าไม่มีโจรหน้าไหนกล้ามาฆ่าพวกเราแน่

            พรึบ!

            สายตาของทุกคนบนหอผู้ป่วยหันควับมามองฉันกับโยซอบเป็นตาเดียว ฉันได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วพาโยซอบเดินเข้าไปใน nurse station เพื่อหลบสายตาพวกนั้น -_-;;

            หลังจากนั้นฉันก็โทรเรียกพี่มะนาวให้มารับพวกเราที่หอผู้ป่วย...เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที พี่มะนาวก็มารับพวกฉันพร้อมกับการ์ดชุดดำอีกประมาณ 5 คน มันดีตรงที่ตึกนี้ไม่ค่อยมีวัยรุ่นมากเท่าไหร่...จะมีก็แต่วัยรุ่นผู้ชายที่ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ โยซอบเลยไม่ค่อยโดนรุมทึ้งมากเท่าไหร่ =_=

            พอกลับมาที่ห้องพัก ก็เห็นเข็มฉีดยาที่โจรบุรุษพยาบาลคนนั้นทำตกไว้ หลังจากตรวจสอบก็รู้ว่ามันเป็นยาชนิดหนึ่ง ที่เมื่อฉีดเข้าเส้นเลือดตรงๆ โดยไม่เจือจางจะทำให้ผู้ที่ถูกฉีดเสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่ถอดเข็มออกด้วยซ้ำ ทำไมโจรมันรู้จักยาอันตรายแบบนี้ได้นะ -_-!

 

            [Yang Yo Seob : Talk]

            หลังจากเรื่องสงบลง คุณมะนาวและการ์ด 5 คนที่คอยคุ้มกันผมก็พากลับมาที่ห้องพัก โดยมีเพื่อนร่วมวงของผมนั่งรออยู่ในห้องแล้ว ส่วนเฝ้าฝันก็กลับไปหลังจากที่ตรวจสอบยาในเข็มที่ตกอยู่บนพื้นเสร็จ

            ผมไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้ถึงตกอยู่บนทางเดินตรงมุมมืดที่พวกเราโดนจี้...ต่างหูรูปตัว T ที่สะลักตรงปลายด้วยตัวอักษร H ถ้ามันเป็นต่างหูอันเดียวกับที่พวกผมวงบีสท์ซื้อให้วง Troy เป็นของขวัญในวันที่ได้เดบิวต์ล่ะก็...H จะย่อมาจาก ยูซังฮุน...หนึ่งในสมาชิกวง Troy

            “เห็นหน้ามันไหม”  เสียงจุนฮยองแว่วเข้ามาในความคิด ผมเลยละสายตาจากต่างหูรูปตัว T ไปมองต้นเสียงที่เพิ่งถามผมมา

            “...ห๊ะ! ว่าไงนะ...”  ผมถามย้ำอีกครั้ง เพราะเมื่อกี๊ผมได้ยินไม่ถนัด

            “แกดูอะไรอยู่น่ะ”  ดูจุนขมวดคิ้วถาม แล้วเดินมาแกะมือที่ผมกำต่างหูเอาไว้ออกมาดู

            “เก็บได้แถวนี้น่ะ สงสัยพี่ซังฮุนทำตกไว้”  ผมตอบจากหน้าเครื่องหมายคำถามที่ดูจุนส่งมา

            “อ๋อ...”  ดูจุนพยักหน้าเข้าใจ

            ผมยังไม่อยากบอกเพื่อนร่วมวงของผมว่าผมเจอมันที่ไหน เพราะผมยังไม่มั่นใจว่ามันเกี่ยวกับเรื่องโจรนั่นรึเปล่า...มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ที่พี่ซังฮุนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันต้องมีอะไรผิดพลาด!

            “ตกลงว่าเห็นหน้ามันไหม?”  จุนฮยองถามซ้ำอีกครั้ง

            “ฉันไม่เห็นหรอก...แต่เท่าที่รู้ มันเป็นคนเดียวกับที่มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้บ่อยๆ”

            “มีการ์ดแบบนี้คงจะเบาใจได้เปราะหนึ่ง ฉันว่าแยกย้ายกันไปพักก่อนดีกว่า ดูหน้าโยซอบมันเหมือนจะไม่ไหวแล้ว”  กีกวังเสนอ ก็ดีเหมือนกันนะ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะตอบคำถามใครตอนนี้...เพราะตั้งแต่ผมเจอต่างหูนี่ระหว่างทางเดินกลับมา สติผมก็หลุดอย่างไม่มีสาเหตุ!

            “เออเน๊อะ นี่ฉันเพิ่งจะรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดนี่หว่า ฮ่าๆๆ”  ผมหัวเราะกลบเกลื่อน...จริงๆ แล้วผมมอยากจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่านี้ต่างหาก -_-

            หลังจากทุกคนกลับไปหมดแล้ว ก็เหลือแค่ผมที่อยู่ในห้อง...ผมนั่งมองต่างหูรูปตัว T นั้นอย่างไม่เข้าใจ มันมีความคิดต่างๆ นาๆ ผุดขึ้นมาในหัวผม ภาพต่างๆ ในอดีตเริ่มย้อนกลับเข้ามา

            ...ภาพตอนที่พวกผมกับ Troy ฝึกซ้อมด้วยกัน ภาพที่พวกเรายิ้มให้กัน ให้กำลังใจกัน ปลอบโยนซึ่งกันและกัน...ภาพต่างๆ เหล่านั้นมันทำให้ความสงสัยที่อยู่ในใจผมยิ่งบาดลึกลงไปมากขึ้น...

                 ……….

          “อ้าว! พี่ซังฮุน”  ผมทักพี่ซังฮุนที่ยืนพิงรถสปอร์ตสีขาวติดฟิล์มดำคู่ใจมาจอดอยู่ข้างๆ หอพักของผม พี่ซังฮุนหันมามองผมก่อนจะพูดกับปลายสายต่อ...

          “เออๆ จัดการมันไปก่อน!! แค่นี้นะ...พอดีรถเสียน่ะ รอไอ้แดอุนมารับอยู่ ^^”  ประโยคสุดท้ายพี่ซังฮุนพูดพร้อมกับผม แล้วมองนาฬิกาอย่างลุกลี๊ลุกลน

          “ให้ผมไปส่งไหม ดูท่าทางพี่รีบๆ”  ผมเสนอ

          “ขอบใจนะ แต่ไม่เป็นไร ไอ้แดอุนมันออกมาแล้วเดี๋ยวจะเสียเที่ยว”

          “อ๋อ ครับ”  ฉันพยักหน้ารับ โทรศัพท์ผมดังขึ้นระหว่างบทสนทนา ผมเลยเดินออกมาจากพี่ซังฮุนเพื่อรับโทรศัพท์ดูจุน

          [เฮ้ย! อยู่ไหน รีบไปที่หลังหอเร็ว! เภตราอยู่ในอันตราย!!!]  เสียงของดูจุนดังมาจากปลายสายทันทีที่ผมกดรับ

          “เออๆ รู้แล้ว!!”  ผมรับคำก่อนจะตัดสาย แต่พอหันไปหาพี่ซังฮุนอีกทีก็ไม่เจอ...ทั้งรถ ทั้งคน!

            ผมเก็บความสงสัยไว้ในใจว่าทำไมพี่ซังฮุนมารถเสียเอาตอนที่พวกผมเกิดเรื่อง...ทำไมพี่ซังฮุนถึงหายตัวไปตอนที่พวกผมเริ่มรู้ตัว...

                 ……….

          “เฮ้ย! หยุดนะ!!”  ผมตะโกนสุดเสียงเพื่อให้โจรที่กำลังจะแทงดูจุนหยุดการกระทำเลวร้ายนั้น พร้อมกับพุ่งเข้าไปฟาดเข้าที่กลางหลังของมันด้วยไม้ค้ำเต็มแรง

          “โธ่เว้ย!!”  เสียงของโจรคนนั้นสบถออกมาดังๆ ก่อนจะผลักผมล้มลงกับพื้น ระหว่างที่มันหันมาผลักผม ผมสังเกตเห็นแววตาของมัน...แววตาแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด

                 ……….

            “จริงสิ!”  เฝ้าฝันร้องอย่างคิดได้

          “อะไร?”

          “ฉันเห็นต่างหูไม้กางเขนสีเงินน่ะ...แต่มันแปลกๆ”

          “แปลก?...แปลกยังไง”

          “ตรงปลายไม้กางเขนน่ะสิ มันมีตัวอะไรสักอย่างสลักไว้ด้วย แต่ฉันเห็นไม่ค่อยชัด...”

            เสียงที่เฝ้าฝันถามผมมันดังก้องอยู่ในหัว ในขณะที่ผมภาวนาในใจว่า...ขอให้มันเป็นไม้กางเขนจริงๆ เถอะนะ

                 ……….

          ผมหลับตาลงเพราะฤทธิ์ยาที่เฝ้าฝันเพิ่งจะฉีดให้...แต่เพราะอะไรบางอย่างมันปลุกให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

          แอ๊ด...

          เสียงเปิดประตูเบาๆ อย่างระมัดระวังดังขึ้นมาในความมืดของห้องพักที่ถูกปิดไฟสนิท เฝ้าฝันบอกว่าจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้านี่นา เพิ่งออกไปทำไมกลับมาไวจัง...

          ด้วยความที่คิดว่าเป็นเฝ้าฝัน ผมเลยไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง เพราะถ้าเกิดผมลืมตาขึ้นมายัยนั่นต้องฉ่ะผมเละแน่ๆ เพราะมีคำสั่งมาว่าให้ผมพักผ่อนมากๆ -_-;

          ตึก...ตึก...ตึก

          เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังใกล้เข้ามาในห้อง ตอนนี้ผมเริ่มแอบเงี่ยหูฟังเสียงแปลกๆ นี้อย่างตั้งใจมากขึ้น เพราะผมเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ ที่มือด้านขวา มันเหมือนมีมือใหญ่ๆ (ซึ่งไม่ใช่ของเฝ้าฝันแน่ๆ =_=) เอื้อมลงมาจับแขนผมไว้แน่น และมีอะไรแหลมๆ มาชิดที่ผิวหนังของผม แต่เพราะมันยังไม่ออกแรงกดลงมาผมเลยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร

          “ฉันขอโทษนะที่ต้องทำแบบนี้โยซอบ...แต่ไม่ต้องห่วง แกจะไม่ทรมานเลย”  เสียงของใครคนหนึ่งดังอยู่ใกล้ๆ ตัว ซึ่งผมจำได้ติดหูว่าเป็นเสียงของ...พี่ซังฮุน!!

          “...เขายอมให้ฉีดยาไหมคะพี่”  อยู่ๆ เสียงของเฝ้าฝันก็ดังขึ้นมาจากที่ที่ไกลกว่า แต่ผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกเพราะยัยนั่นพูดภาษาไทย =_=

          “...”  ไม่ตอบ...ผู้ชายที่จับแขนผมอยู่ยังไม่ยอมตอบอะไรเฝ้าฝัน ผมเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาแล้วล่ะ จากที่ฟังเฝ้าฝันพูด แสดงว่าผู้ชายคนนี้มันกำลังจะฉีดยาให้ผม...ถ้าเกิดไอ้นี่มันเป็นโจรขึ้นมา มันจะเอายาอะไรฉีดให้ผมล่ะ -_-!!

          “เป็นอะไรหรอคะ”  เฝ้าฝันยังคงถามไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วยภาษาไทย...เธอช่วยพูดอะไรที่ฉันเข้าใจด้วยได้ไหม =_=

          “ที่ไม่ตอบเพราะพูดภาษาไทยไม่ได้ใช่ไหมละ”  ประโยคนี้ก็ยังคงเป็นภาษาไทย (_ _;;)

          “ฮึ!”  ไอ้ผู้ชายคนนี้พ่นลมออกทางจมูกแรงๆ ก่อนที่ผมจะเริ่มรู้สึกปวดที่แขนเพราะถูกของแหลมทิ่มเข้ามา

          “หยุดนะ!!”  เสียงของเฝ้าฝันตะโกน ผมเลยใช้จังหวะนี้คว้าตะกร้าผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงฟาดเข้าไปที่หน้าของมัน ก่อนจะรีบกระโดดลงจากเตียงแล้วลากเฝ้าฝันให้วิ่งออกมาด้วยกัน...

 

            “เป็นไปได้ยังไง...”  ผมพูดกับภาพความคิดในหัว

            ผมกำต่างหูรูปตัว T ไว้แน่น จนรู้สึกปวดไปหมดทั้งมือ ยิ่งคิดย้อนกลับไปเท่าไหร่ ผมยิ่งเจ็บ...เจ็บยิ่งกว่าต่างหูนี่ทิ่มมือซะอีก

            ...ผมอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความฝัน ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ซังฮุน รุ่นพี่ที่พวกผมเคารพ และรักเหมือนพี่ชาย...รักเหมือนครอบครัว...จะทำกับพวกเราได้

            “ไม่จริงใช่ไหม?...”  ผมก้มลงพูดกับต่างหูรูปตัว T...

 

            [Faofan : Talk]

            ฉันมาโรงพยาบาลด้วยอาการหวาดระแวง เพราะช่วงนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินเท่าไหร่ -_- โชคดีหน่อยที่วันนี้โยซอบถึงกำหนดกลับบ้านได้แล้วไม่งั้นฉันคงต้องทนระแวงแบบนี้ต่อไป =_=

            วันนี้ฉันได้รับมอบหมายให้มาทำเรื่องกลับบ้านให้โยซอบ และมาให้คำแนะนำต่างๆ นาๆ ในการดูแลตัวเองหลังจากกลับบ้านแทนพี่เอื้อง วันนี้ฉันเลยถือโอกาสไปเจอเพื่อนๆ ของฉันซะเลย >.<

            “พักอยู่ที่นี่กันหรอคะ”  ฉันถามขณะที่รถตู้ของบริษัทเลี้ยวเข้ามาจอดในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง

            “ใช่จ้ะ วิลล่ากรี๊ดลั่นเลย ตอนพี่โทรไปบอกว่าฝันจะมาหา ^^”  พี่มะนาวหันมายิ้มอย่างมีความสุข และฉันก็ยิ้มรับอย่างมีความสุขเช่นกัน...นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันไม่ได้เจอพวกเธอ ‘Beast Girl Band’ ...เพื่อนเก่าที่ร่วมความฝันเดียวกับฉัน

            “ตื่นเต้นป่ะ”  โยซอบที่นั่งอยู่ข้างๆ เอาไหล่ของตัวเองมากระทุ้งไหล่ฉันเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่ดูจะไม่ค่อยสดใสเหมือนอย่างเคย เมื่อคืนเขาบ่นว่านอนไม่ค่อยหลับนี่นา =_=

            “ตื่นเต้นอะไร? -_-!”

            “ก็จะได้เจอเพื่อนไง...อย่าใจอ่อนกลับไปร้องเพลงอีกล่ะ ฉันกลัวมีคู่แข่ง ^^”  โยซอบพูดยิ้มๆ

            “แหมๆ ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสินะ ^O^”  พี่มะนาวทำท่าดี๊ด๊า

            เห้อๆ ฝันคงไม่กลับไปร้องเพลงอีกหรอกค่ะพี่มะนาว พ่อแม่ได้ฆ่าฝันตายคาที่แน่ๆ เรียนหมอเกือบจะจบแล้ว ดันลาออกไปร้องเพลงแบบนั้น -_-;;

            พวกเราเดินลงมาจากรถโดยมีแฟนคลับจำนวนมากวิ่งกรูเข้ามา แต่ด้วยการ์ดจำนวนนับสิบที่พี่นาบีส่งมาคุ้มกัน โยซอบเลยรอดจากเงื้อมมือแฟนคลับมาได้โดยไม่ต้องส่งกลับไปแอดมิทที่โรงพยาบาลใหม่อีกรอบ U.U;

            “เข้ามาในนี้ยังกะคนละโลกเลยนะคะ”  ฉันพูด เพราะข้างในนี้สงบมากต่างจากข้างนอกที่เต็มไปด้วยแฟนคลับเกือบครึ่งพันยืนออกันอยู่อย่างลิบลับ

            “น่าจะให้พวกเขาเข้ามาส่งผมนะครับ คงจะสนุกน่าดู ^^”  โยซอบยังคงยิ้มอย่างสดใส -_-

            “โห...งั้นเตรียมจองห้องพักโรงพยาบาลไว้ก่อนเลยแล้วกันโยซอบ”  พี่มะนาวหันไปแขวะโยซอบที่ยังคงยิ้มสดใส

            ครืด~

            โทรศัพท์ของฉันสั่นเบาๆ ในกระเป๋ากางเกง ฉันเลยหยิบขึ้นมาดู พี่เอื้อง หมอเจ้าของไข้โยซอบนั่นเอง ฉันเลยขอตัวไปเดินแยกออกมารับสายอีกทาง

            “ค่ะ พี่เอื้อง”  ฉันกดรับสาย

            [ถึงรึยังจ้ะ]

            “เพิ่งจะถึงนี่เองค่ะ พี่เอื้องมีอะไรหรอคะ”  ฉันถาม

            [เปล่าหรอกจ้ะ พอดียัยฟินเป็นห่วงโยซอบเลยขู่เข็ญให้พี่โทรถามน้องฝันเท่านั้นเอง]

            “อ๋อ หรอคะ”  ฉันหัวเราะแฮะๆ ให้กับโทรศัพท์ เฮ้อ...เป็นเอามากนะพี่ฟินเนี่ย =_=

            [ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะจ้ะ พี่กลัวแต่ว่าแฟนคลับมาเข้ามารุมจนขาได้รับบาดเจ็บอีก]

            “ไม่หรอกค่ะพี่เอื้อง พอดีวันนี้มีการ์ดเยอะ ปลอดภัยหายห่วงค่ะ...”  ฉันยิ้มกับโทรศัพท์ ระหว่างนั้นเอง ฉันก็ได้ยินเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกคุ้นหู ฉันเลยชะงักนิดหน่อย

            “...ฉันบอกแกแล้วไงว่าให้เลิกทำอะไรบ้าๆ ได้แล้ว!!”

            “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแก แดอุน!”  เสียงเย็บเยียบของอีกคนดังขึ้น เสียนี้มัน...คุ้นๆ แต่ไม่รู้ว่าฉันเคยได้ยินมาจากที่ไหน

            “จะไม่เกี่ยวกับฉันได้ไง...ในเมื่อเราเป็นทีมเดียวกัน เราเป็นเพื่อนกันนะ!”

            “ฮึ! ทีมเดียวกันงั้นหรอ...ทีมที่มันไม่ดังแบบนี้ฉันไม่ได้รู้สึกดีนักหรอกนะ!...แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเอง ฉันไม่ยอมให้พวกแกเดือดร้อนแน่”

            “ซังฮุน!! ที่ฉันเตือนแกไม่ใช่เพราะฉันหลัวว่าจะเดือดร้อนหรอกนะ...แต่ฉันเป็นห่วงพวกแกเข้าใจไหม สิ่งที่พวกแกทำมันเกินไปแล้ว!!"

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา