[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14) [Episode 2 :: Brighter Lover] # Chapter 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 2 Brighter Lover

:: Chapter 2 ::

 

            “ฉันว่าพวกนายควรย้ายไปโรงพยาบาลอื่นนะ แอบย้ายไปแบบไม่ให้ใครรู้อ่ะ ยิ่งพวกนายบาดเจ็บอยู่แบบนี้ เหมือนเป็นเป้านิ่งให้พวกมันเลยนะ”  ฉันออกความเห็น เท่าที่สังเกตฉันเห็นนายผิวออร่านั่นเดินลับๆ ล่อๆ อยู่ชั้นนี้บ่อยเหมือนกัน

            “เธอนี่พูดเหมือนง่ายนะ โยซอบมันนอนอยู่แบบนี้ จะพามันไปยังไงไม่ให้คนอื่นจับได้”  จุนฮยองมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ จนฉันต้องแอบส่งค้อนให้สายตานิสัยเสียของหมอนั่นแรงๆ ทีนึง

            “เอาล่ะๆ งั้นช่วงนี้ก็ให้แกกับดงอุนคอยผลัดกันมาเฝ้าโยซอบมันหน่อยแล้วกัน”  ดูจุนบอก

            “อืม”  จุนฮยองเลยพยักหน้ารับ

            “พี่ครับ ไปเลยไหมครับคุณมินนารออยู่หน้าลิฟต์แล้ว”  ดงอุนเดินเข้ามาในห้องด้วยชุดธรรมดาเช่นเดียวกับจุนฮยอง

            “แล้วเจอกันนะครับ ^^”  ดงอุนส่งยิ้มมาให้ฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับจุนฮยองและดูจุนที่ขอตัวกลับห้องพักของตัวเอง

          

            หลังจากวันนั้น ทั้งฉันและบีสท์คนอื่นๆ ที่เริ่มทยอยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ช่วยผลัดกันมาเฝ้าโยซอบและคอยเฝ้าระวังผู้ก่อการร้ายไปด้วย แต่ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งไร้วี่แววของผู้ชายผิวออร่าคนนั้น จนคุณมินนาชักจะถอดใจ

            “แน่ใจนะว่าใช่คนนั้นจริงๆ”  คุณมินนาพูดด้วยสีหน้ากังวล

            “พวกเราคิดว่าใช่แน่ๆ ครับ”  ดูจุนบอก

            “แล้ววันนี้ใครจะเฝ้าฉันล่ะเนี่ย ^^”  โยซอบถามสวนกระแสขึ้นมาท่ามกลางความตึงเครียด

            “เวรผมเอง ^^”  ดงอุนยกมือขึ้นบอก

            “เฮ้อ...พวกนายนี่นะ น่าสิ่วน่าขวานขนาดนี้ยังจะยิ้มได้อยู่อีก”  คุณมินนาพูดไปก็กุมขมับไป  “ถ้าพวกนายกลับเกาหลีไม่ครบสามสิบสองล่ะก็ มีหวังนาบีเอาฉันตายเลย”

            “แล้วนี่บีทส์มาไทยทำไมหรอคะ ไม่เห็นมีข่าวว่าจะแสดงคอนเสิร์ตนี่นา”  ฉันถาม อยู่กันมาเป็นอาทิตย์ฉันเพิ่งจะนึกออกนี่แหละ =_=

            “มาถ่ายรายการน่ะน้องฝัน แต่เพราะพวกนี้นึกพิเรนอยากหนีเที่ยวเมืองไทยต่อ เลยให้ทีมงานกลับกันไปก่อน มันก็เลยเกิดเรื่องขึ้นนี่แหละ”  คุณมินนาพูดแล้วเหมือนจะร้องไห้

            “เอาล่ะๆ ฉันว่ากลับกันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวแถลงข่าวนะ นาบีก็จะมาด้วย”  คุณมินนาเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนก่อนเพื่อน

            “ได้ยินว่าวันนี้น้องฝันอยู่เวรถึงเช้าใช่ไหม ฝากโยซอบด้วยนะจ้ะ ^^”  คุณมินนายิ้มให้ฉันอย่างมีความหวัง

            “ได้ค่ะ ^_^”  ฉันยิ้มให้คุณมินนาก่อนที่ทุกคนจะขอลากลับโรงแรม ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉัน ดงอุน แล้วก็โยซอบ 3 คนที่ยังอยู่ในห้อง

            “โห...ดูลี่เต็มเลย”  ดงอุนร้องพร้อมกับเดินไปจับๆ ดูตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเขียวเกือบๆ 50 ตัวที่วางกองกันอยู่บนโซฟา มีอยู่ตัวหนึ่งตัวโตเท่าฉันเลยล่ะ =_=

            “แฟนคลับของโยซอบเขามาฝากไว้กับพยาบาลตึกนี้น่ะ รู้สึกว่าจะมีมาทุกวันนะ”  ฉันบอก ขณะที่ดงอุนกำลังอุ้มตุ๊กตาตัวที่ใหญ่ที่สุดเดินไปเดินมารอบห้อง

            ตุ๊กตา ‘ดูลี่’ ที่ว่าเนี่ย ทีแรกฉันก็นึกสงสัยว่าเป็นตัวเดียวกับ Rex ที่อยู่ในเรื่อง Toy Story รึเปล่า แต่พอเห็นทุกวันๆ ฉันเลยทนกับความสงสัยไม่ได้เลยลองไปเซิร์ทหาใน google ดู ก็เลยรู้มาว่า Dooly หรือดูลี่ ตัวนี้ คือตัวการ์ตูนของเกาหลี ในเรื่อง ‘The Little Dinosaur Dooly’ และที่สำคัญไปกว่านั้น แฟนคลับเขาว่ากันว่าโยซอบชอบไอ้ตัวเขียวๆ นี่มากๆ เลย

            “เฮ้ย! วางลงเลยนะ อุ้มก่อนฉันได้ไง!”  โยซอบดิ้นพล่านๆ ขณะที่ดงอุนกำลังอุ้มเจ้าดูลี่เดินอยู่รอบๆ เตียง เฮ้อ...ทำไมพวกนายทำตัวยังกะเด็กแบบนี้ล่ะ กำลังอยู่ในสถานการณ์อันตรายขนาดนี้ =_=

            ฉันมองพวกเขาเล่นกันจนเบื่อแทน เลยขอออกมาจากห้อง พอเห็นรอยยิ้มของโยซอบวันนี้ ฉันแทบจะลืมไปแล้วว่าเขาเคยป่วยหนักจนไม่รู้สึกตัวมา 1 วันเต็มๆ ฉันอิจฉาคนแบบนี้จัง สดใสได้ตลอดเวลา เหมือนไม่มีอะไรต้องคิดมาก...เห็นคนแบบนี้บ่อยๆ ก็สบายใจดีนะ

            ฟึบ!ๆ

            อยู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้ามาหาฉันขณะที่กำลังปิดประตูห้อง ฉันค่อยๆ หันไปทางขวาซึ่งเป็นต้นตอของเสียง ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสมส่วน ใส่เสื้อกันหนาวสีดำและใช้ฮูทคลุมหน้าเอาไว้ ฉันพยายามมองเข้าไปในฮูทนั้น แต่ไฟตรงระเบียงทางเดินมันสว่างไม่พอที่จะเห็นว่าเขารูปร่างหน้าตายังไง แต่รู้สึกว่าจะเป็นคนละคนกับที่ฉันเห็นเมื่อวันก่อนนะ ใครกันอีกล่ะเนี่ย!

            “แกเป็นใคร?”  ฉันถามผู้ชายใส่ฮูทคนนั้นด้วยภาษาเกาหลี เพราะในนาทีนี้ฉันคิดว่าต้องเป็นพวกเดียวกันแน่...‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่บีทส์กำลังตามตัวอยู่!

            ผู้ชายคนนั้นชะงักฝีเท้าทันทีที่ฉันถามออกไป ก่อนจะล้วงมือเข้าไปด้านในเสื้อกันหนาว และตอนนั้นเองที่ฉันเห็นประกายสีเงินสะท้อนออกมาจากด้านในเสื้อ

            มีด O_O!

            “แกจะทำอะไรน่ะ!!”  ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ...ฉันไม่ปฏิเสธว่าตอนนี้ฉันกลัวมาก กลัวจนทำอะไรไม่ถูก จะเคาะประตูให้ดงอุนเปิดมาเห็นก็ไม่กล้าเพราะกว่าดงอุนจะมาถึงฉันคงโดนเชือดคอไปแล้ว จะรีบวิ่งไป nurse station ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ฉันคงวิ่งไม่ไวพอ -_-;;

            “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆ”  ฉันขู่พร้อมกับขาที่เริ่มก้าวถอยหลังช้าๆ ไอ้ฮูทนี่ก็ไม่ยอมถอย แถมยิ่งเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนจะถึงตัวอยู่แล้ว >_<

            “น้องเฝ้าฝันคะ! น้องเฝ้าฝันรึเปล่า?”  แล้วระฆังใบเบ้อเร่อก็ดังขึ้น ช่วยชีวิตฉันไว้อย่างหวุดหวิด ฉันเลยรีบตะโกนกลับไป

            “ใช่ค่ะ! ฝันเอง”  ไอ้โจรฮูทมันใช้จังหวะที่ฉันหันไปขานรับพี่ฟินรีบวิ่งหนีไปทางระเบียงอีกด้านอย่างรวดเร็ว ฉันลอบถอนหายใจออกมาแรงๆ ขณะที่พี่ฟินเดินมาหาฉัน

            “เมื่อกี๊ใครหรอคะน้องฝัน”

            “เขามาถามทางน่ะค่ะ”  ฉันบอกพร้อมกับพยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด แต่หัวใจฉันตอนนี้เต้นเร็วจนไม่รู้จะเร็วยังไงแล้ว

            “หรอจ้ะ แล้วทำไมหน้าซีดจังล่ะ ไม่สบายรึเปล่า”  พี่ฟินพูดพลางยกมือขึ้นมาอังหน้าผากฉันดู

            “ไม่เป็นไรค่ะพี่ สงสัยขึ้นเวรต่อกันเกินไปน่ะค่ะ เลยซีดๆ”  ฉันบอก แล้วเดินกลับ nurse station ไปพร้อมกับพี่ฟิน บางทีมีพี่ฟินตามติดตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ =_=;

            ขากลับจากฟังพี่ฟินโม้ ก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งตัดผมบอบเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับตุ๊กตา Dooly ตัวเท่าๆ กับคนที่แบกมา

            “พี่คะ...พี่เฝ้าฝันใช่ไหม?”  หนูน้อยคนนั้นโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังตุ๊กตาไดโนเสาร์ รู้จักชื่อพี่ได้ไงคะน้อง =_=?

            “อ๋อ...ใช่ค่ะ มีอะไรหรอ?”  ที่จริงฉันก็ถามไปงั้นแหละเพราะว่าเห็นไอ้ตัวเขียวๆ เนี่ยก็รู้แล้วว่ามาทำไม

            “คือ...พอดีว่า...หนูมาถึงเขาก็งดเยี่ยมแล้ว หนูก็เลยอยากจะฝากตุ๊กตาไปให้โยซอบหน่อย เพราะว่าถ้าฝากพี่เฝ้าฝันหนูมั่นใจว่าต้องถึงมือโยซอบแน่ๆ ฝากด้วยนะคะ”  น้องคนนั้นพูดจบก็ยัดตุ๊กตาตัวนั่นใส่มือฉันทันที

            “แล้วทำไมมาดึกดื่นขนาดนี้ล่ะคะ?”

            “หนูมาจากต่างจังหวัดน่ะค่ะ กว่ารถจะมาถึงก็เลยค่ำ หนูต้องไปแล้วเดี๋ยวไม่ทันรถเที่ยวสุดท้าย...ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะพี่ ^O^”  น้องคนนั้นพูดแล้วยกมือไหว้ฉันยกใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งออกไป เฮ้อ...แฟนคลับพวกนายเนี่ย ทุ่มเทจริงๆ นะ -_-;

            ด้วยเหตุนี้ ฉันเลยต้องเดินกลับมาที่ห้องโยซอบด้วยสภาพที่เรียกว่า ‘คลำทางเดิน’ เพราะไดโนเสาร์นี่มันใหญ่มากจริงๆ =_= ถ้าเกิดไอ้โจรใส่ฮูทนั่นเห็น มันคงรีบมาฆ่ารัดคอฉันตอนนี้เลย เพราะฉันคงไม่ทันได้วิ่งหนีหรือตะโกนเรียกใครมาช่วยเพราะมัวแต่อุ้มไอ้เจ้านี่อยู่ U_U;

            “เฮ้ย! โอ๊ย!!”  อยู่ๆ พุงของไดโนเสาร์ที่ฉันอุ้มมาก็เหมือนชนเข้ากับใครสักคน ฉันเลยเอี้ยวตัวโผล่หน้าออกไปดู ก็เห็นโยซอบนั่งคลำก้นตัวเองป้อยๆ อยู่กับพื้น

            “อ้าว! นายมาเดินทำอะไรตรงนี้เนี่ย!”  ฉันเอ็ดโยซอบพลางวาง Dooly ลงพื้น ก่อนจะเข้าไปพยุงโยซอบให้ยืนขึ้นพิงกับผนังแถวนั้น แล้วหยิบไม้ค้ำ 2 อันขึ้นที่กระจายอยู่บนพื้นไปให้

            “ขอบใจนะ...พอดีฉันมาหันเดินน่ะ ^^”

            “แต่นี่มันดึกแล้วนะ เดินที่มืดๆ แบบนี้ เกิดหกล้ม ตกบันได กระดูกมันทิ่มออกมาอีกจะว่ายังไง!”

            “ก็เพราะมันดึกนี่ไงฉันถึงออกมา ถ้าออกมาตอนกลางวันมีหวังเละแน่”  โยซอบพูดแล้วทำหน้าตาเหมือนกำลังดูหนังสยองขวัญ  “แต่ก็ขอบใจนะที่เป็นห่วง ^^”

            “ฉันแค่กลัวว่าถ้าอาการนายหนักขึ้นมาอีก หมอเจ้าของไข้นายจะไม่ให้ฉันหลับฉันนอนน่ะสิ”  ฉันพูด แล้วหันไปอุ้มไอ้เจ้าตัวเขียวๆ นั้นขึ้นมาอุ้ม ทำไมระเบียงแถวนี้มันร้อนจังนะ -_-//

            “โห ดูลี่ตัวโตเชียวนะ เธอเอามาจากไหนอ่ะ ^o^”  โยซอบเข้ามาลูบหัวมันแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

            “แฟนคลับนายฝากมาให้ เขามาถึงดึกเลยเข้ามาเยี่ยมไม่ได้”

            “โห บิวตี้น่ารักจังเลย ^O^//”  โยซอบร้องเหมือนเด็กๆ

            “ฉันว่านายกลับห้องดีกว่า ออกมาแบบนี้มันอันตรายนะ”

            “ทำไมอ่ะ เรื่องผู้ชายใส่ฮูทนั่นน่ะหรอ...ไม่เห็นมันเป็นอาทิตย์แล้วนี่”

            “เฮ้อ...ก็ตอนที่ฉันออกมาจากห้องนาย...”

            “เอ๊ะ! สงสัยหมอมาตรวจฉันล่ะ”  อยู่ๆ โยซอบก็หันไปมองที่ประตูห้องของตัวเองแล้วพูดออกมา ฉันเลยหันไปมองตาม เอ๊ะ! วันนี้พี่เอื้องบอกว่าไม่เข้ามานี่นา

            “กลับห้องกันเถอะ เดี๋ยวหมอหาฉันไม่เจอ”  โยซอบพูดแล้วทำท่าจะเดินไป แต่ฉันรู้สึกตะหงิดๆ เลยรีบคว้าต้นแขนโยซอบไว้เพื่อให้เขาหยุด

            “อะไร?”  โยซอบหันมาเลิกคิ้วถาม ฉันรีบพาโยซอบเข้าไปหลบในมุมมืดใกล้ๆ (ฉันไม่ได้คิดจะกระทำชำเรานายโยซอบนี่หรอกนะ -_-;)

            “ฉันคิดว่าคนที่เข้าไปในห้องนายไม่ใช่หมอ”  ฉันบอก

            “อ้าว ทำไมอ่ะ”

            “ก็หมอเจ้าของไข้นายบอกว่าวันนี้ไม่มาน่ะสิ”

            “เผื่อหมอเขาให้คนอื่นมาดูแทนไง”

            “ถ้าฝากใครมาดูแทนฉันต้องรู้สิ อีกอย่างหมอผู้ชายหน้าตาแบบนั้นฉันไม่เคยเห็น”

            “งั้นก็แสดงว่า...”  โยซอบพูดแค่นั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป จากปกติที่แวววาวเต็มไปด้วยความร่าเริง สนุกสนาน ตอนนี้กลับกลายเป็นความโกรธแค้น ดุดันผิดหูผิดตา

            “เฮ้ย! จะไปไหน กลับมานะ!!”  ฉันร้อง เมื่ออยู่ๆ โยซอบก็ลุกพรวดออกไปจากที่กบดาน

            “ฉันจะจับมันให้ได้คาหนังคาเขา!”  โยซอบขบกรามพูด พอมาถึงเขาก็เปิดประตูพรวดเข้าไปข้างในห้องพักของตัวเอง ก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดบุรุษพยาบาลและใส่แมสปิดบังหน้าตาเอาไว้ กำลังเงื้อมีดที่อยู่ในมือขึ้นเพื่อจะแทงดงอุนที่หลับอยู่บนโซฟา

            “เฮ้ย! หยุดนะ!!”  โยซอบร้องออกไปสุดเสียงพร้อมกับยกไม้ย้ำขึ้นฟาดเข้าที่กลางหลังของผู้ชายคนนั้นเต็มแรง

            “โธ่เว้ย!!”  เสียงผู้ชายในชุดบุรุษพยาบาลสบถออกมาเป็นภาษาเกาหลีดังๆ ก่อนจะผลักโยซอบล้มลงแล้ววิ่งสวนออกมา และชนกับฉันที่ยืนขวางประตูไว้ทำให้เราล้มลงไปที่ระเบียงด้านนอกด้วยกัน ฉันเลยอาศัยจังหวะที่มันเผลอดึงแมสปิดหน้าออก แต่อย่างที่ฉันบอกว่าระเบียงตรงนี้มันไม่ค่อยจะมีแสงมากนัก ฉันเลยเห็นหน้าไม่ชัด บวกกับทรงผมปิดหน้าปิดตาของเกาหลีด้วยแล้วยิ่งไม่เห็นอะไรไปกันใหญ่ จะเห็นก็แต่...ต่างหูรูปไม่กางเขนสีเงินที่ดาราเกาหลีเขาชอบใส่กันเท่านั้นเอง

            “เกะกะจริง!!”  มันสบถใส่หน้าฉันแล้วรีบวิ่งไปทันที

            “อ้าว! พี่เป็นไรอ่ะ นอนดิ้นหรอ?”  ดงอุนที่เพิ่งจะสะดุ้งตื่นรีบเข้าไปพยุงโยซอบที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นเตียง

            “ขานายเป็นไงบ้าง ปวดมากไหม”  ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาคนไข้ของฉันทันทีที่ลุกได้

            “ไม่เป็นไร พอทนได้”  โยซอบบอก

            “ถ้าเกิดนานแล้วมันไม่หายปวดรีบบอกฉันเลยนะ เข้าใจไหม...วันนี้ยิ่งล้มบ่อยๆ อยู่”  ฉันบอก

            “โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้าตาซีเรียสขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ^^”  โยซอบยิ้ม ยังยิ้มได้อีกหรอเนี่ย เพิ่งผ่านช่วงเวลาน่าสิ่วหน้าขวานมาได้แท้ๆ ฉันนับถือนายจริงๆ นะ

            “พวกพี่เป็นไรกันเนี่ย =_=?”  ดงอุนทำหน้างงๆ แล้วมองพวกฉันสลับกันไปมา

            จะโดนสับหน้าขนาดนั้นยังไม่รู้เรื่องอีกหรอเนี่ย -_-*

 

            เช้าวันรุ่งขึ้น พี่นาบี รองกรรมการบริหารค่าย KB Entertainment ก็มาเยี่ยมโยซอบพร้อมกับวง Troy วงเกาหลีที่สนิทกับบีทส์วงหนึ่ง แต่ฉันไม่เห็นรู้จักวงนี้เลยอ่ะ -_-?

            “อ้าว ซังฮุนกับมยองมุนไปไหนล่ะครับ”  โยซอบถามถึงเพื่อนๆ วง Troy อีก 2 คนที่หายไป ถ้าหายไป 2 งั้นก็แสดงว่าวงนี้มี 7 คนสินะ (กำลังพยายามทำความรู้จัก -_-;;)

            “อ๋อ เห็นว่ามยองมุนไม่ค่อยสบายเลยขอแวะไปหาหมอก่อน เดี๋ยวก็ตามขึ้นมาแล้วล่ะ”  แดอุนที่ดูท่าทางเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในวงเป็นคนบอก สงสัยเป็นลีดเดอร์นั่นแหละฉันว่า

            “เป็นไงบ้างเฝ้าฝัน ฝึกงานสนุกไหม”  พี่นาบีเดินมาตบบ่าฉันเบาๆ ฉันเลยยิ้มให้

            “ก็...สนุกดีค่ะ”

            “หรอ ^_^”

            “คิดถึงจังเลย”  พี่มะนาวเข้ามากอดฉันไว้แน่น พร้อมกับน้ำตาซึมๆ ทั้งๆ ที่พี่มะนาวก็มาเฝ้าโยซอบเหมือนกับคุณมินนา แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้เจอกัน

            “โอ๊ยๆ พี่มะนาวคะ ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้”

            “ก็คนมันคิดถึงนี่ T^T”

            “เฮ้อ...ว่าไงเราน่ะ เป็นไงบ้าง”  พี่นาบีหันไปถามโยซอบที่นอนอยู่บนเตียงบ้าง

            “ดีขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณมากครับ ^_^”  โยซอบยิ้มสดใสมาให้เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นไรมากแล้ว

            “งั้นก็ดี รีบรักษาตัวให้หายเร็วๆ จะได้ไม่พลาดคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายเรา”

            “งานเริ่มวันไหนหรอครับ”  โยซอบถาม พี่มะนาวเลยขมวดคิ้วทันที

            “อะไรกัน เพื่อนร่วมวงของเธอไม่ได้บอกอะไรเลยหรอ”  พี่มะนาวถามถึงบีทส์อีก 5 คนที่เตรียมตัวแถลงข่าวอยู่ที่โรงแรม

            “เอ่อ...ยังเลยค่ะ ส่วนมากตอนที่พวกเขามาก็ตอนที่โยซอบหลับน่ะค่ะ”  ฉันแก้ตัวให้เพราะอันที่จริงพวกเรามัวแต่ปรึกษาเรื่องผู้ก่อการร้ายนั่นจนไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลยต่างหาก =_=

            “คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นปลายเดือนนี้...แล้วโยซอบจะหายทันไหมฝัน”  พี่นาบีหันมาถามฉันในประโยคสุดท้าย

            “ก็...หายค่ะ แต่ว่าขายังเคลื่อนไหวมากๆ ไม่ได้ เช่นเรื่องเต้นเนี่ย คงต้องให้งดไว้ก่อน”

            “ว๊า...แย่จัง งั้นงานนี้บิวตี้คงอดดูบีทส์เต้นซะแล้วล่ะ”  พี่มะนาวสบถอย่างน่าเสียดาย

            “เอ้อ...พวกเภตราก็มานะฝัน”  พี่มะนาวบอกฉันอย่างคิดได้

            “จริงหรอคะ!”

            “ใช่ พอดีได้เต้นเป็นแบ็คอัพให้บีสท์ในซิงเกิ้ลใหม่น่ะ เลยได้มาด้วย”  พี่มะนาวบอกอย่างสดใส แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหน่อยๆ ก่อนจะพูดต่อ

            “แต่ว่าเท่าที่เห็น บีสท์คงเต้นไม่ได้แล้ว เลยกะจะเปลี่ยนการแสดง เพราะฉะนั้น Beast Girl คงจะอดขึ้นคอนเสิร์ตครั้งนี้น่ะ”

            “อ้าว...แล้วตอนนี้พวกนั้นอยู่ไหนหรอคะ?”

            “อยู่โรงแรมจ้ะ ที่เดียวกับบีสท์นั่นแหละ”

            “เอ่อ...แล้วฝันไปหาพวกนั้นได้ไหมคะ”

            “ได้สิ เดี๋ยวพี่พาไป”

            “ขอบคุณค่ะ ^^”  แล้วพวกเราก็คุยกันต่ออีก ส่วน Troy ก็คุยกับโยซอบไป จนกระทั่ง 2 คนที่ว่าไปหาหมอเดินเข้ามาในห้อง

            “มาแล้วนั่นไง”  แดอุนชี้ไปที่ผู้ชายผิวขาว 2 คน คนแรกที่เดินเข้ามาจะผิวขาวกว่า ขาวแบบออร่าเลยอ่ะ ตัดผมรองทรงเปิดข้าง รวมๆ แล้วก็หล่อใช้ได้ ส่วนอีกคนที่เดินตามมาจะขาวน้อยกว่าหน่อย รูปร่างสมส่วนหรือเรียกง่ายๆ คือหุ่นดี (-..-) ทรงผมยาวระต้นคอ คนนี้ก็เท่ดีนะ

            “พี่มยองมุนเป็นอะไรหรอครับ”  โยซอบถามผู้ชายหุ่นดีคนนั้นทันทีที่มาถึง

            “อ๋อ มยองมุนมันซ้อมตีลังกา เลยพลาดหลังกระแทกพื้นน่ะ”  คนที่ผิวขาวออร่าเป็นคนบอกแทน

            “เฮ้อ...อุตส่าห์ว่าจะตีลังหลังโชว์ซะหน่อย ดีนะเนี่ยที่ซังฮุนมันจบหมอมา มันเลยช่วยปฐมพยาบาลให้ถูกวิธี เลยไม่เป็นไรมาก ^^”  มยองมุนพูดพลางพยักพเยิดไปที่ผู้ชายผิวขาวออร่าคนนั้น โห...นายซังฮุนนั่นเรียนหมอด้วยหรอเนี่ย ไม่ค่อยเห็นนักร้องเกาหลีจบหมอเลยแฮะ o_o

            “ก็ดีแล้วล่ะครับที่ไม่เป็นไรมาก”  โยซอบพูดด้วยสีหน้าห่วงใย ดูพวกเขารักกันดีจังนะ ขนาดดูแค่ตอนพวกเขาคุยกัน ยังรู้เลยว่าพวกเขาผูกพันกันขนาดไหน..

            หลังจากคุยกันพอหอมปากหอมคอ พี่นาบีก็ขอกลับเพราะต้องเตรียมแถลงข่าวเย็นนี้ เรื่องอุบัติเหตุของบีทส์และคอนเสิร์ต ‘KB Entertainment Live in Bangkok’            ซึ่งเป็นการรวมเอาศิลปินทุกคนในค่ายมาขึ้นเวทีเดียวกัน คอนเสิร์ตใหญ่นะเนี่ย

            “เฮ้อ...กลับกันหมดละ”  โยซอบถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากด

            “เมื่อคืนนี้นายเห็นหน้าคนร้ายไหม”  ฉันเดินไปนั่งข้างเตียงโยซอบ

            “ไม่ ฉันว่าจะถามเธอพอดีเลยว่าเธอเห็นไหม แมสปิดหน้ามันหลุดตอนอยู่กับเธอไม่ใช่หรอ”

            “ก็ใช่ แต่ผมมันปรกหน้าอ่ะ เลยไม่เห็น”  ฉันขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสมเพชตัวเอง ทั้งๆ ที่มีโอกาสแล้วแท้ๆ กลับไม่ตั้งใจมองให้มันดีๆ โง่จริงๆ เลยยัยฝัน -*-!

            “เอาน่าๆ อย่าเครียดสิ ทำไมเธอชอบทำหน้าเครียดจัง ^^”  โยซอบหันมายิ้มให้ และเพราะอะไรไม่รู้ จู่ๆ พอฉันเห็นรอยยิ้มของโยซอบฉันก็คิดอะไรอย่างหนึ่งออก

            “จริงสิ!”  ฉันร้องขึ้นมาอย่างคิดได้

            “อะไร?”  โยซอบละสายตาจากจอมือถือมาหาฉันทันที

            “ฉันเห็นต่างหูไม้กางเขนสีเงินน่ะ...แต่มันแปลกๆ”  ฉันเอียงคอหรี่ตานึกภาพย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

            “แปลก?...แปลกยังไง”  โยซอบดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างสนใจ

            “ตรงปลายไม้กางเขนน่ะสิ มันมีตัวอะไรสักอย่างสลักไว้ด้วย แต่ฉันเห็นไม่ค่อยชัด...”

            “ต่างหูรูปไม้กางเขนแน่นะ...ไม่ใช่ตัวอื่นใช่ไหม อย่างเช่น ตัวอักษรภาษาอังกฤษ...”  โยซอบถามแทรกขึ้นมาโดยที่ฉันยังไม่ทันพูดจบประโยคดี ตาของเขาลอยออกไปมองหน้าต่าง

            “แน่สิ...นายเป็นอะไรเปล่า?”  ฉันเอนตัวไปมองโยซอบที่สะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอีกครั้ง

            “เปล่า ฉันแค่กำลังคิดว่าตอนเย็นจะกินอะไรดีน่ะ ^_^”

            “ห๊า! นี่เรากำลังพูดเรื่องซีเรียสกันอยู่นะ!!”

            “เธอคุยแต่เรื่องเครียดๆ มาทั้งวันแล้วนะ ฉันว่าผ่อนคลายบ้างเถอะ คิ้วเธอจะได้เลิกเป็นปมสักที อิอิ ^^”

            “ฮึ่ย! นายนี่นะ!!”  อยากจะคุยอะไรเป็นการเป็นงานหน่อยก็ไม่ได้ ชวนนอกเรื่องอยู่เรื่อย =_=;

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา