ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอย ช่วยให้หน้าอ่อนกว่าวัยได้จริงหรือ
ปัญหาถุงใต้ตา ขอบตาลึก ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาบนใบหน้าที่เลี่ยงได้ยาก และพบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้หน้าดูไม่สดใส ขาดความมั่นใจ มีวิธีที่สามารถแก้ไขได้ตรงจุด เห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
อีกหลายคนที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังขาดความรู้ ไม่แน่ใจว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอันตรายไหม ข้อดีในการฉีดและผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง วิธีดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังฉีดต้องทำอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องใช้กี่ cc บทความนี้ได้รวมเรื่องน่ารู้ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจมาฝากทุกคน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปบริเวณใต้ตาที่ต้องการแก้ไข เพื่อให้สารเติมเต็มเข้าฟื้นฟูบริเวณรอบดวงตา หรือบริเวณที่มีริ้วรอยหมองคล้ำให้จางลง ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีความอุ้มน้ำ หลังฉีดทำให้บริเวณใต้ตามีความเรียบเนียนอวบอิ่มดูสดใสขึ้น
ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า หรือริ้วรอยใต้ตาให้ดูดีขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับบุคคลที่
- มีรอยคล้ำ ร่องลึก หรือหลุมใต้ตา มีถุงใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึก มีริ้วรอยใต้ตา ทำให้ดูไม่สดใส
- ต้องการยกกระชับบางจุดบนใบหน้า หรือบริเวณใต้ตา ให้ดูเป็นธรรมชาติ
- มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม หรืออาการภูมิแพ้
- ผู้ที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากมีแผล เห็นผลลัพธ์เร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องการพักฟื้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้ผลลัพธ์อย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under eye filler) ให้ผลลัพธ์ได้ดีมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และบริเวณเฉพาะที่ทำ ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ
- รอยหมองคล้ำใต้ดวงตาจางลง ฟิลเลอร์เข้าช่วยให้บริเวณที่ฉีดอวบอิ่มขึ้น ทำให้ผิวดูสดใส
- ปรับสมดุลในชั้นพื้นผิวใต้ตาให้แข็งแรง ช่วยให้ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นเรียบเนียนขึ้น
- ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ลดลง ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมไขมัน และร้อยไหมแตกต่างกันอย่างไร
ในหัวข้อนี้มาดูความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ใต้ตา เติมไขมัน และร้อยไหม แตกต่างกันอย่างไร ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การเติมไขมัน และการร้อยไหม ทั้ง 3 วิธีสามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับบริเวณใต้ตาได้ แต่มีวิธีการและเทคนิคที่แตกต่างกันไป ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกเข้าบริเวณใต้ตา เพื่อเพิ่มความอิ่มเอิบ ลดร่องรอย เห็นผลทันทีหลังฉีดทำให้ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ผลลัพธ์มักอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยสูง
การเติมไขมันใต้ตา จะใช้ไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายตัวเอง เช่น หน้าท้องหรือต้นขา ฉีดเข้าไปที่บริเวณใต้ตาแทน เพื่อเติมเต็มร่องรอย วิธีเติมเต็มไขมันใช้เวลามากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะมีขั้นตอนต้องตรวจไขมัน ดูดไขมัน และนำมาปั่นแยกก่อนที่จะฉีดเข้าไป และใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์
การร้อยไหม เป็นการร้อยไหมละลายเข้าไปในผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา การร้อยไหมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยปรับความยืดหยุ่น ช่วยยกกระชับผิวหน้าขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี
ข้อดี และ ข้อจำกัด ของฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ได้ตา มีข้อดี และข้อจำกัดอะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยมาดูรายละเอียดกันเลย
ข้อดีของฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นวิธีไม่ต้องผ่าตัด ปรับลักษณะบริเวณใต้ตา เห็นผลเร็ว ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ
- หลังฉีดเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 15 นาทีและเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 2 สัปดาห์ แก้ปัญหาบริเวณใต้ตา ขอบตาดำ ลดรอยคล้ำ ร่องลึก และริ้วรอยใต้ตา ให้ดูจางลงเป็นธรรมชาติ
- อยู่ได้นาน 6 เดือน -2 ปี ขึ้นอยู่กับดูแลตัวเอง ยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์แท้ (HA) สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก
- ฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย.
- ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่พอใจกับผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้ย้อนกลับได้เหมือนเดิม เพิ่มความอุ่นใจให้กับคนไข้
ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ใต้ตา
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการปรับผิวบริเวณใต้ตา แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ส่วนผสมในฟิลเลอร์
- ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้ชั่วคราว ไม่ถาวร สลายได้ไวเมื่อเจอความร้อน
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดใต้ตา เช่น มีรอยช้ำ บวม แดง และคัน หรือผลข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้น เช่น การติดเชื้อ อาการแพ้ และเนื้อเยื่อถูกทำลาย
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ฟิลเลอร์มากเกินไปอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือดูแก่ได้เช่นกัน
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้สาร HA เป็นสารที่อยู่ได้ชั่วคราว เพราะสลายเองได้ ทำให้บริเวณที่ฉีดกลับสู่สภาพเดิม อาจต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องเตรียมตัวอย่างไร
ในหัวข้อนี้จะอธิบายการเตรียมตัวในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความปลอดภัยในการทำและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเตรียมตัวดังนี้
- นัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อปรึกษารายละเอียดและวางแผนในการรักษา
- หลีกเลี่ยงการทานแอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- งดดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดองอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บริเวณใต้ตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา
เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นคำแนะนำสำหรับวิธีดูแลหลังฉีด Filler ใต้ตา และมีข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังต่อไปนี้
- ประคบเย็นบริเวณที่ทำครั้งละ 10-15 นาที เพื่อช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้
- งดการถู แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- งดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยฟกช้ำ
- นอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำ
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง และรับประทานยา แอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ
- ใช้ครีมกันแดดทาบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ ป้องกันแสงแดด โดยใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า
- ดื่มน้ำปริมาณมากๆ จะทำให้ฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นานและเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดดีขึ้น
- งดการอบซาวน์หน้า เลเซอร์ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
ผลข้างเคียงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปจะปลอดภัยมากที่สุด แต่อาจมีผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังนี้
- มีอาการบวม รอยแดง หรือรอยช้ำที่เกิดจากเข็ม และจากเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ เป็นอาการปกติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ภายใน 2 สัปดาห์อาการนี้จะหายไปเอง
- บางคนอาจรู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย หรือมีอาการแพ้ต่อสารตัวเติม อาการแพ้อาจรวมถึงอาการคัน ลมพิษ หรือหายใจลำบาก หรือรู้สึกไม่สบายตัวหลังทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- การติดเชื้อถึงแม้จะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังนั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากพบภาวะการติดเชื้อ เช่น มีไข้ มีรอยแดง หรือบวม รีบเข้าพบแพทย์ทันที
วิธีเลือกปริมาณ CC ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่เหมาะสมในการฉีดเป็นสิ่งสำคัญ แล้วฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ cc ในหัวข้อนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกปริมาณ cc ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยมีวิธีเลือกดังต่อไปนี้
- ให้แพทย์ประเมินจากปัญหาของแต่ละเคส ความลึกของร่องใต้ตา ช่วยกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการได้ ถ้าร่องลึกมากต้องใช้ฟิลเลอร์มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ และลดความเสี่ยงของการใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป
- โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 cc แต่ถ้าเป็นมากใช้ 2-4 cc ขึ้นอยู่กับปัญหาที่แก้ หรือบางคนที่มีปัญหาน้อยก็แบ่งฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 cc ฉีดใต้ตาทั้งสองข้างได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องพิถีพิถันในการเลือกคลินิก ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเรามาดูหลักเกณฑ์ในการเลือกคลินิกที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- มีใบเปิดกิจการที่ถูกต้องติดใบอนุญาตประกอบกิจการเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
- มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
- ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้รับรองมาตราฐาน FDA และ อย. ตรวจสอบได้
- สะอาด อุปกรณ์เครื่องมือทันสมัย และมีห้องหัตถการที่พร้อม เดินทางสะดวก
- มีช่องทางการติดต่อ สะดวก รวดเร็ว เช่น เบอร์โทร Line @ ที่ชัดเจน
- มีรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหลังการทำจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook, Pantip ที่คลินิกไม่สามารถแก้ไขโพสต์รีวิวได้ เป็นข้อมูลจริงเชื่อถือได้
หากใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ขอแนะนำรมย์รวินท์คลินิก ซึ่งเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานสากล มีสาขาหลายแห่ง ได้รับความไว้วางใจจากคนหลากหลายอาชีพ รมย์รวินท์คลินิก มีดีดังนี้
- ทีมแพทย์มีการพัฒนาศักยภาพ ประสบการณ์ ความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์
- ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ทุกตัว เป็นแบรนด์ระดับโลกของแท้ทุกกล่อง สามารถตรวจสอบจากอย.ได้ คนไข้วางใจได้ในด้านคุณภาพและความปลอดภัย
- มีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเฉพาะที่คิดค้นโดยรมย์รวินท์คลินิกเท่านั้น
- มีการติดตามผล และแนะนำข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทร 080-1539000 และ 080-1549000, Line@ : @Romrawinclinic, Facebook : Romrawin Clinic Website : Romrawin Clinic หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์เจ้าของเคสได้ทันที
- รมย์รวินท์คลินิกได้รับรางวัลการันตีในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาติดต่อกันทุกปี
หากคุณสนใจอย่ารอช้าติดต่อเข้ามาตามช่องทางด้านบนนี้ เพื่อทำการปรึกษา นัดเวลา และสอบถามโปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาดี ๆ สุดคุ้มมากมาย พร้อมห้องส่วนตัว, Wi-Fi ฟรี, มีที่จอดรถไว้อำนวยความสะดวก มาจองคิวกันได้เลย
อ่านเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี เป็นคำถามมักเกิดขึ้นได้บ่อยกับบุคคลที่กำลังสนใจและต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา วันนี้เรามาศึกษารายละเอียดของฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อต่าง ๆ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดยบริษัท Galderma ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฟิลเลอร์ Restylane ทำให้คุณสมบัติมีความหลากหลาย ฉีดแก้ไขปัญหาและเติมเต็มได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Juvedermเป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา มีความโดดเด่นในเรื่องการยกกระชับ มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น ทำให้ฟิลเลอร์มีเนื้อแน่น หลังฉีดยังคงให้ความเป็นธรรมชาติ ดูเรียบเนียนไม่เป็นก้อน มีค่าความอุ้มน้ำสูง ทำให้อยู่ได้นาน สลายช้า มีความเรียบเนียน ความยืดหยุ่นสูง และขยับเขยื้อนได้ดี
- ฟิลเลอร์ Belotero นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายของเนื้อฟิลเลอร์ มีความยืดหยุ่นและคงตัว แก้ปัญหาใต้ตา ใบหน้าแก้มตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึกได้ดี ปรับสัดส่วนโครงสร้างใบหน้าได้ ทำให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
เมื่อทราบถึงความแตกต่างของทั้ง 3 แบรนด์กันแล้ว ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี เราต้องศึกษาข้อมูลและจุดสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ ที่ได้มาตรฐาน ดูจาก
- ต้องมีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย
- มีเลข lot ที่กล่อง ซองและสติ๊กเกอร์ ตรงกัน
- สามารถโทรเช็กเลข lot. กับบริษัทที่จัดส่งได้
คำถามที่พบบ่อย
หลายคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ยังไม่มั่นใจ และยังมีคำถามที่ยังข้องใจอยู่ ในหัวข้อนี้เรามาหาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันเลย
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์สลายได้เองไม่ตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ต้องเป็นของแท้ ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาหรือ อย. นอกจากนี้ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะหากแพทย์ไม่มีความชำนาญฉีดผิดจุดทำให้ฟิลเลอร์ไปอุดตันในเส้นเลือดใต้ตา อาจส่งผลกระทบทำให้ตาพร่ามัวหรือตาบอดได้
2. ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ จะช่วยรักษาอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น
3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนทำอย่างไรดี?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน อันดับแรกต้องดูก่อนว่าเป็นก้อนแบบไหน ถ้าก้อนบวมไม่มาก ไม่เจ็บ ไม่อันตรายก้อนจะยุบไปเอง หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ แต่ถ้าผ่านไป 2 สัปดาห์แล้วยังเป็นก้อนบวมแดง มีอาการอักเสบ ให้รีบพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาต่อไป
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้