ปลูกผม FUE แก้ปัญหาผมร่วง ผมบางอย่างถาวร และไร้รอยแผลเป็น!!

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (556)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:995
เมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2566 15.13 น.

ปลูกผม FUE

 

ถ้าคุณกำลังประสบปัญหา ผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน แล้วทำให้ขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิต และต้องการปลูกผมอย่างถาวร ไม่ต้องการทำซ้ำหลายครั้ง ดังนั้น วิธีปลูกที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ก็คือ การปลูกผม FUE เพราะวิธีนี้ เป็นการแก้ปัญหาบนศีรษะได้อย่างถาวร ทำให้ได้เส้นผมที่ดูสวยงาม เป็นธรรมชาติ ปลอดภัยและไร้รอยแผลเป็นอีกต่างหาก


 

แล้วการปลูกผม FUE มันคืออะไร? 

 

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการปลูกผมถาวรแบบไร้รอยต่อ หรือการปลูกผมไร้แผลเป็น (SFET) เป็นการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมาก (เล็กกว่า 0.8 มิลลิเมตร) เจาะเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย แล้วนำเอารากผมดังกล่าวย้ายมาปลูกบริเวณที่มีศีรษะล้าน นอกจากนี้ วิธีปลูกผมแบบ FUE ยังสามารถย้ายเซลล์เส้นขนจากบริเวณอื่นๆ เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ย้ายมาปลูกบริเวณศีรษะได้ด้วย

สรุปได้ว่า การปลูกผม FUE คือ การปลูกผม โดยการย้ายตำแหน่งเส้นผม โดยเลือกเอาส่วนที่แข็งแรงหรือร่วงยากมาใช้ในการปลูก ทำให้เส้นผมที่ได้จะหลุดร่วงได้ยาก แต่อาจจะมีผมร่วงบ้างเล็กน้อยตามวงจรปกติ คุณภาพของเส้นผมก็ยังคงเหมือนเดิมเพียงแค่ย้ายตำแหน่งเท่านั้น ดังนั้น เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะเป็นเส้นผมที่แข็งแรงเหมือนเดิม สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต 

ปลูกผม FUE อยู่ได้ถาวรไหม

 

โดยทั่วไปแล้วการปลูกผม FUE วิธีนี้ เป็นการปลูกผมแบบถาวร แต่ต้องทำการปลูกผมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการปลูกผม ผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ไปได้ตลอดชีวิต เพราะเป็นการใช้เซลล์รากผมของผู้ที่รับบริการเองมาทำการปลูกผม สบายใจได้ว่า ไม่ต้องกลับมาปลูกผมซ้ำในบริเวณเดิม

ปลูกผม FUE ต้องปลูกกี่กราฟต์

 

เรามาทำความรู้จักกับคำว่า กราฟต์ กันก่อน กราฟต์ (graft) คือ กอผมที่แพทย์ปลูกผมเจาะออกมาในการผ่าตัดปลูกผม FUE จากบริเวณด้านหลัง โดยในหนึ่งกอผมอาจจะมีเส้นผมตั้งแต่ 1-4 เส้นในกอเดียว หากเราจะทำการผ่าตัดปลูกผม จำนวนกราฟต์ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการจะทำการปลูกผมของคนไข้เอง 

โดยในพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร จะสามารถทำการปลูกผมได้ประมาณ 50 กราฟต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะสร้างความหนาแน่นให้เส้นผมดูธรรมชาติ และยังมีความเหมาะสมในการปลูกอีกด้วย และการประเมินจำนวนกราฟต์ผม จะทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะปัจจัยที่ต้องพิจารณาค่อนข้างเยอะ และต้องทำอย่างละเอียด


 

ใครที่ควรปลูกผมแบบ FUE

 

คนที่ควรปลูกผมแบบ FUE

 

การปลูกผมเป็นทั้งการแก้ปัญหาเกี่ยวกับผมและเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ทำให้เกิดความมั่นใจ ผู้ที่เหมาะจะใช้วิธีการปลูกผม FUE มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน 
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าใหม่ เพื่อเสริมความงามให้กับใบหน้าดูเรียวลง
  • ผู้ที่แนวผมร่นขึ้นสูง หน้าผากกว้าง หรือหน้าผากมี Hairline ไม่สวย 
  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนที่ค่อนข้างหนัก ไม่มีเซลล์รากผมเหลืออยู่
  • ผู้ที่ไม่สามารถรักษาผมร่วงผมบาง ได้ด้วยวิธีการอื่น
  • ผู้ที่ต้องการปกปิดรอยแผลเป็นที่ศีรษะจากการได้รับบาดเจ็บหรือหลังการผ่าตัด
  • ผู้ที่มีเวลาในการรักษาน้อย ไม่ต้องการพักฟื้นนาน


 

วิธีปลูกผม FUE มีกระบวนการอย่างไร

 

วิธีปลูกผม FUE

 

เราลองมาดูว่า กระบวนการการปลูกผม FUE เป็นอย่างไร มาดูกัน

  1. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะออกแบบและวาดแนวผมที่จะปลูกในบริเวณที่มีปัญหาหรือตามต้องการของคนไข้ แพทย์จะแนะนำเรื่องทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า และความต้องการของคนไข้ หลังจากนั้นจะมีการคำนวณจำนวนกอผมที่จะใช้และจำนวนกราฟต์ที่ต้องการปลูก
  2. เมื่อได้จำนวนกราฟต์ที่ต้องการใช้ จะเป็นขั้นตอนการย้ายรากผม แพทย์จะทำการโกนผมบริเวณที่จะเจาะเอาเซลล์รากผมออกมา เพื่อความสะดวกในการปลูกผม แพทย์จะฉีดยาชา เฉพาะที่ ตลอดแนวหนังศีรษะที่วาดไว้ และรอยาชาออกฤทธิ์ หรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน 
  3. หลังยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มใช้เครื่องมือพิเศษทางการแพทย์ที่เรียกว่า Trivellini ซึ่งเป็นเครื่องมือเฉพาะที่สามารถปรับค่าต่างๆ ตามความเหมาะสมของสภาพหนังศีรษะและเส้นผมของแต่ละคน เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ร่วมกับหัวเจาะรูปคล้ายปากแตร (Trivellini’s Flared Rim Punch) ขนาดเล็กประมาณ 0.8 - 1.0 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดจุดแผลเป็น ขนาดเล็กที่สุด สามารถเจาะได้ 1,000 - 1,500 กราฟต์ต่อชั่วโมง 
  4. แพทย์จะทำการเจาะผ่านผิวหนังตามแนวขนานกับเซลล์รากผม ดึงเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมาจากหนังศีรษะให้ได้มากที่สุด และนำไปเก็บไว้ในน้ำยาเลี้ยงเซลล์ รวมถึงควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 4 - 8 องศาเซลเซียส เพื่อให้เซลล์รากผมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ก่อนจะปลูกถ่ายกลับเข้าไปในร่างกาย
  5. หลังจากนั้น เป็นขั้นตอนการปลูกผม แพทย์จะเริ่มการฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อนบริเวณที่จะปลูกผม พร้อมทั้งฉีดยาห้ามเลือดที่ผสมในน้ำเกลือ เพื่อให้หนังศีรษะโป่งและพองตัวขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการใส่รากผมเข้าไป จากนั้นแพทย์ จะทำการเจาะรู เพื่อกำหนดตำแหน่ง ความหนาแน่น และทิศทางของแนวผมให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
  6. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของเซลล์รากผม จากนั้นแพทย์จะปลูกผมกลับไปด้วยเทคนิค First out- First in ปลูกกราฟต์ที่เจาะออกมาก่อนกลับเข้าไปในร่างกายก่อน เพื่อให้เซลล์อยู่นอกร่ายกายเป็นเวลาสั้นที่สุด จนครบทั้งหมด แพทย์จะปิดผ้าพันแผลที่บริเวณปลูกผมอย่างน้อย 1 - 2 วัน หลังจากนั้นสามารถกลับบ้านได้เลย

หลังจากการปลูกผม FUE แล้ว คุณก็ควรจะต้องดูแลตัวเองให้ดี โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

  • หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง ไม่ควรจับ ซับเลือด แกะ เกา หรือทำให้แผลบริเวณที่ปลูกผมถูกกระทบกระเทือน เนื่องจากเซลล์รากผมยังไม่เชื่อมติดกับกับผิวหนังส่วนใหม่ที่ปลูกผมลงไป หากสัมผัสแผลอาจทำให้รากผมหลุดออกได้
  • การใช้ชีวิตประจำวันต้องระมัดระวังไม่ให้ศีรษะกระทบกระแทกกับของแข็ง รวมทั้งไม่ควรก้มศีรษะ ให้เปลี่ยนเป็นการย่อตัวลงแทน เพื่อป้องกันอาการบวมไม่ให้เลือดออกที่แผลปลูกผม ควรงดอยู่ในที่ชุมชนแออัดหรือมีฝุ่นควันมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • อาบน้ำ สระผมตามปกติห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ปลูกผม ใช้น้ำอุณหภูมิปกติให้ใช้ยาสระผมชนิดอ่อนประมาณ 2 สัปดาห์ วิธีทำให้ผมแห้งแค่ซับเบา ๆ ก็พอ ห้ามใช้ลมร้อนจากเครื่องเป่าผมประมาณ 1 เดือน
  • สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลังจากปลูกผม 1 สัปดาห์ โดยไม่ให้โดนแผล
  • หลังจากการปลูกผม 1 เดือน สามารถทำสีผม ดัดผมได้ตามปกติ
  • หลังการผ่าตัดควรนอนหงายหรือนอนตะแคง เพื่อไม่ให้ผมที่ปลูกถูกับหมอนป้องกัน ไม่ให้กราฟต์หลุดออก และลดอาการบวมปวดที่แผล ใช้ผ้าหรือที่คาดผม คาดศีรษะไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กอผมที่ปลูกหลุดออก และใช้หมอนรองคอรูปตัวยู เพื่อ ป้องกันการกดทับของแผลบริเวณด้านหลังศีรษะ นอกจากนี้ควรนอนหมอนที่หนุนศีรษะให้สูงและไม่นอนคว่ำ เพื่อลดอาการบวมและปวดแผล
  • หลังการผ่าตัด ไม่ควรออกกำลังกาย หากร่างกายกระเทือนมาจากการออกกำลังกายอาจทำให้รากผมที่ปลูกหลุดออกได้ ดังนั้นหลังการผ่าตัดควรงดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ 
  • งดว่ายน้ำอย่างน้อย 1 เดือน เพราะแผลจากการปลูกผมเป็นแผลเปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ 
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ตากแดด ควรงดการซาวน่า เนื่องจากความร้อนมีผลต่อเซลล์รากผม ใส่หมวกป้องกันได้ แต่อย่าใส่ให้แน่นจนเกินไป
  • งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหลังการผ่าตัด 48 ชั่วโมง งดทานอาหารหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากมีผลต่อการบวมของแผลที่ปลูกผมได้
  • หลังการผ่าตัดปลูกผมอาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ ควรทานอาหารอ่อน ๆ และถ้ายังมีอาการอยู่ ให้งดอาหารไปก่อน


 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผม FUE

 

ผลลัพธ์หลังจากการปลูกผมเสร็จ รากผมที่ถูกปลูกจะอ่อนแออยู่และยังไม่ฝังตัวดี ควรดูแลตามที่แพทย์แนะนำเป็นอย่างดี โดยระยะที่เห็นผลหลังจากการปลูกผม FUE มีดังต่อไปนี้

  • 2 สัปดาห์หลังจากการปลูกผม แผลที่ตกสะเก็ดจะเริ่มลอกและหลุดออกมา 
  • 1 - 2 เดือน เส้นผมที่ปลูกเริ่มมีการหลุดร่วง ซึ่งเป็นเรื่องปกติรากผมฝังตัวเรียบร้อยแล้ว
  • 3 - 4 เดือน เส้นผมที่ร่วงก่อนหน้านี้ จะเริ่มกลับมาขึ้น ในตำแหน่งที่ปลุก อาจจะไม่ได้ขึ้นทั่ว ๆ ในตอนแรก และเส้นผมจะมีลักษณะเส้นเล็ก ขึ้นประมาณ 70 %
  • 6 - 7 เดือน เส้นผมเริ่มยาวและแข็งแรงขึ้น
  • 8 เดือน - 1 ปี เส้นผมขึ้นแข็งแรงทั่วบริเวณที่ปลูก โดยผลลัพธ์คิดเป็นประมาณ 90%
  • 1 - 2 ปี นี่คือระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์สูงสุด เส้นผมขึ้นอย่างต่อเนื่องที่บาง ๆ จะหนาขึ้นเหมือนเส้นผมทั่วบริเวณหนังศีรษะ

เมื่อปลูกผลเป็นที่เรียบร้อย ครบตามระยะในการดูแล คนไข้จะได้รับผลลัพธ์ที่ดี ผมที่ปลูกจะอยู่บนหนังศีรษะไปตลอด ไม่ร่วงง่ายจนทำให้ผมบางอีก สามารถทำซ้ำได้ ถ้าอยากให้ผมหนาขึ้นอีก หรืออยากเปลี่ยนรูปแบบแนวผมด้านหน้าก็สามารถทำได้ จะได้มีผมสวยงามเป็นธรรมชาติ 

ส่วนอาการหลังปลูกผม FUE ที่ต้องเจอทุกคนหลังปลูกผมเสร็จใหม่ ๆ มีดังนี้

  • เลือดซึมบริเวณที่ปลูกผม เลือดจะหยุดซึมไปเองไม่เกิน 4 - 5 นาที คนไข้สามารถใช้ผ้าก็อสกดเบา ๆ เพื่อห้ามเลือดได้ ถ้าเลือดซึมไหลไม่ยอมหยุดให้ติดต่อแพทย์ทันที
  • อาการเสียวหรือชาบริเวณที่ทำการปลูกผมถาวรไป อาการเหล่านี้ ทุกคนที่ปลูกผมถาวรไปใหม่ ๆ อาจเจอได้ เพราะการปลูกผมถาวรต้องมีการฉีดยาชาลงในบริเวณที่แพทย์ทำการย้ายรากผมไม่ว่าจะเป็นการปลูกผม FUE หรือแบบ FUT ก็แล้วแต่ อาการเหล่านี้เป็นอาการชั่วคราวและจะค่อย ๆ หายไปเองไม่เกิน 1 - 3 เดือน หรือมากกว่านั้นแล้วแต่ตัวบุคคล
  • อาการบวมบริเวณหน้าผาก ทุกคนต้องเจออาการบวมลงมาที่หน้าผากและอาจลามมาถึงบริเวณรอบดวงตา หรือเป็นรอยช้ำบริเวณรอบดวงตา จะเริ่มเห็นชัดเจนคือในช่วง 2-3 วันหลังปลูกผมเป็นต้นไป แล้วอาการบวมเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เองภายใน 7 วัน
  • สิวและรอยแดง สิวอันนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนแล้วก็จะหายไปเองตามปกติ ไม่ได้น่ากลัว แต่ถ้าคนไข้กังวล สามารถเข้ามาให้แพทย์กดสิวออกให้ได้ รอยแดงที่เกิดจากการปลูกผมจะเห็นชัดเจนกับคนที่ผิวขาว รอยแดงจะอยู่กับคนไข้นานไม่เกิน 3 - 6 เดือน แต่สำหรับคนที่อยากจะให้รอยแดงหายไว ๆ สามารถซื้อครีมลดรอยแดงมาได้
  • ผมร่วงบริเวณที่ปลูก ผมที่ปลูกไปจะเริ่มร่วงไปก่อนในช่วง 1 - 3 เดือนแรก นี่คืออาการปกติและผมที่ร่วงไปจะเริ่มขึ้นใหม่ในหลังเดือนที่ 3 แล้วผมก็จะค่อย ๆ ขึ้นจนเต็มพื้นที่ในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไป
  • ผมที่ไม่ได้ปลูกร่วง (SHOCK LOSS) อาการของผมร่วงแบบนี้ จะมีลักษณะร่วงเป็นวงกลมในบริเวณที่นำผมออกมาหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่ปลูก ผมที่ร่วงไปจะเริ่มขึ้นมาใหม่ในช่วงหลัง 3 เดือนเป็นต้นไปและจะขึ้นเต็มบริเวณแบบปกติในที่สุด แต่ถ้าหากเวลาผ่านไปแล้ว ผมยังไม่ขึ้นหรือมีอาการอักเสบ อาการติดเชื้อเกิดรุนแรงขึ้นควรจะรีบไปพบแพทย์


 

ใครไม่ควรปลูกผมแบบ FUE

 

คนที่ไม่ควรปลูกผมแบบ FUE

 

ถึงแม้ว่าการปลูกผม FUE จะทำให้มีผมสวยงามเป็นธรรมชาติ และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สร้างความมั่นใจให้กับคนที่ได้รับการปลูกผม แต่ก็ไม่ใช่เป็นคำตอบที่ดีเสมอไป การปลูกผมด้วยวิธีศัลยกรรม หรือการผ่าตัด เป็นข้อห้ามของคนบางกลุ่มดังต่อไปนี้

  • ผู้หญิงมีลักษณะศีรษะล้านแบบกระจัดกระจาย หรือมีการล้านของศีรษะที่กว้าง
  • ผู้ที่มีภาวศีรษะล้านรุนแรงในระดับที่ 6 - 7 เพราะขนาดของส่วนที่ล้านนั้นกว้างเกินไป ทำให้ปริมาณผมที่ใช้ในการปลูกไม่เพียงพอ
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องคีลอยด์ หรือแผลเป็นง่าย เมื่อผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บ
  • ผู้ที่มีสาเหตุของศีรษะล้านอันเนื่องมาจากการรักษาทางการแพทย์ เช่น เคมีบำบัด
  • ผู้ที่ไม่เหมาะกับการปลูกผมนั้น สามารถเกิดได้จากทั้งความผิดปกติของฮอร์โมนหรือพันธุกรรมที่ทำให้คนไข้เกิดมาโดยไม่มีเส้นผมตั้งแต่เกิด
  • ในคนที่แพ้ยาชารุนแรง ก็อาจเป็นปัญหาในการปลูกผมได้เช่นกัน
  • ในส่วนของคนที่มีโรคภัยที่ไม่เอื้ออำนวยให้ทำการปลูกผมเลย ได้แก่ โรคฮีโมฟีเลีย หรือโรคเลือดออกง่าย โรคติดต่อทางเลือดต่าง ๆ และโรคผิวหนังบางชนิด ซึ่งคนไข้ต้องทำการรักษาโรคเหล่านี้ให้หายขาดหรืออยู่ในระยะคงที่ที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีก จึงจะสามารถทำการปลูกผมได้


 

สรุป

 

สรุปการปลูกผม FUE

 

การปลูกผม FUE คือ การปลูกผม โดยการย้ายตำแหน่งเส้นผม โดยเลือกเอาส่วนที่แข็งแรงหรือร่วงยากมาใช้ในการปลูก ซึ่งเป็นการปลูกผมแบบไร้แผลเป็น ซึ่งมีกระบวนการขั้นตอนและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยคุณจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ ว่า คุณเข้าข่ายที่จะปลูกผม FUE ไม่ขึ้นหรือไม่ เพื่อป้องกันการเจ็บตัวฟรีและเสียเวลา

 

 

 
แก้ไขครั้งที่ 2 โดย GUEST1649747579 เมื่อ20 มิถุนายน พ.ศ. 2566 13.21 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา