ซอมบี้ วันที่ 1

-

เขียนโดย Domewriter

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 01.21 น.

  10 บทที่
  2 วิจารณ์
  6,073 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2566 15.15 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) ซอมบี้ วันที่ 1 ตอนที่ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

             ผมใส่กุญแจประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านและปิดล็อคประตูบ้านกลับมานั่งดูข่าวซอมบี้ในโทรทัศน์ ภาพการต่อสู้ของตำรวจและทหารหลายกองพันกันกำแพงรั้วที่มีสัญญาณหลอดไฟส่องแสงวับๆ และเสียงไซเรนดังไม่ต่างจากที่สี่แยกถนนอนุเสาวรีย์ส่งเสียงให้ผมได้ยินตั้งแต่ตื่นนอนมาจนถึงในตอนนี้ 
             กองทัพตำรวจกับทหารร่วมกันใช้อาวุธสงครามจัดการกับผู้ติดเชื้อชีวภาพที่เดินและวิ่งช้าๆ อย่างซอมบี้ เข้ามาหาทหารกับตำรวจที่อยู่ในเขตกำแพงรั้วกั้นอย่างไม่เกรงกลัว ภาพฝูงซอมบี้โดนกระสุนปืนยิงและปืน RPG ระเบิดกระจุยยังหนังซอมบี้  สิ่งที่ไม่มีใครคิดว่ามันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง
             ในขณะนั้นก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงเครื่องบินไอพ่นบินผ่านบนท้องฟ้า จากนั้นสักครู่ก็มีเสียงปืนดัง ปัง ปัง ปัง จากที่ไกลๆ เสียงปืนดังเว้นระยะและมีเสียงปืนให้ได้ยินอีกและเงียบหายไป
              เสียงพวกนี้ผมได้ยินมันแทรกเข้าในหูฟังในขณะผมเล่มเกมฆ่าซอมบี้ในคอมพิวเตอร์ทั้งเมื่อเช้าและเมื่อคืน แต่ในตอนนั้นผมคิดว่าเป็นเสียงเอ๊ฟเฟ๊กส์ในเกมคอมพิวเตอร์ที่เล่น
             นักข่าวใน TV  บรรยายภาพเหตุการณ์ซอมบี้ที่มีทวีความรุนแรงมีผู้ติดมากขึ้น และผู้คนที่ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของหน่วยความมั่นคงคือให้อยู่แต่ภายในบ้านพักอาศัย แม้คนเหล่านั่นใช้อาวุธมีคมและอาวุธปืนต่อสู้กับซอมบี้ แต่ด้วยจำนวนซอมบี้ที่มีมาก คนเหล่านั้นก็ถูกซอมบี้เข้ารุมทึ้งกินเป็นอาหาร
            ผู้สื่อข่าวบอกว่าเชื้อชีวภาพได้แพร่ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้วและสถานะการณ์เป็นแบบเดียวกันทั่วทวีป ขณะนี้ทางหน่วยความมั่นคงเตรียมเครื่องบินรบทิ้งระเบิดใส่กลุ่มซอมบี้ที่มีจำนวนมากในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคให้อยู่ในวงจำกัด ตามคำสั่งหน่วยความมั่นคงของชาติ พื้นที่ที่มีการทิ้งระเบิดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยอพยพผู้คนออกมาก่อน ขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านรอเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลืออพยพออกจากพื้นทีทิ้งระเบิดเมื่อมีคำสั่งให้อพยพให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่ได้แจ้งให้ทราบ
             ผมนึกถึงพนักงานส่งอาหารที่ผมพบเมื่อครู่ เขาบอกผมว่าเกิดการแพร่เชื้อและติดเชื้อขึ้นในบ้างจังหวัด ข่าวใน TV เป็นข่าวเกินจริงเพื่อขายข่าวให้คนดูมากๆ 
            ผมเอามือถือมาทดลองกดเบอร์ติดต่อพ่อกับแม่  และคนที่รู้จักผม แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้เช่นเดิม ระบบ internet ก็ยังปิดให้บริการ
            ผมคิดในใจ เหตุการณ์เชื้อชีวภาพซอมบี้แพร่ระบาดที่รุนแรงมากๆ มันเกิดขึ้นแค่บ้างจังหวัด แล้วหน่วยความมั่นคงของชาติ มันประกาสสภาวะฉุกเฉินให้ชาวบ้านอยู่แต่ในบ้านและปิดบริการระบบโทรศัพท์มือถือและ internet  ทั่วประเทศไปทำไมมันว๊ะ แล้วประชาชนจะติดต่อหากันยังไง ผู้ก่อการร้ายในประเทศคีจาร์สมันยิงระเบิดขีปนาวุธชีวภาพหลุดเข้ามาในประเทศ มันไม่ได้ใช้สัญญาณมือถือ กับ internet  ในประเทศติดต่อสั่งการก่อการร้ายในประเทศของเราสักหน่อย ถ้ากลัวผู้ก่อการร้ายข้ามชาติใช้มือถือและ internet ในประเทศ ทำไมไม่ปิดบริการ ททท. สายโทรศัพท์บ้านในท้องถิ่นไปด้วย แล้วบ้านกูไม่ติดตั้งโทรศัพท์ของ ททท. ด้วย
            ผมนึกถึงเพื่อนในมหาวิทยาลัยและเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่อยู่ในหมู่บ้านว่าจะไปที่บ้านมันที่อยู่ถัดไปสองซอยดีหรือไม่  แต่ภาพซอมบี้ใน TV ก็ทำให้ผมตัดสินใจอยู่ในบ้าน เพื่อดูสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านและปรับสภาพจิตใจอีกสักพักในวันที่จู่ๆ ตื่นขึ้นมาก็มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด ซอมบี้ยึดเมืองเหมือนกับในหนังซอมบี้จริงๆ
            ผมดูข่าวซอมบี้สักพักผมก็ปิดโทรทัศน์ เดินไปเอามีดในครัว ผมหยิบมีดอีโต้กับมีดหันผักพกไว้กับตัวเพื่อความอุ่นใจ ซึ่งมันคล้ายกับที่ผมเคยเล่นในเกมคอมพิวเตอร์
            ผมกลับขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน ผมวางมีดอีโต้และมีดหันผักไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์แล้วเปิดคอมพิวเตอร์เปิดเพลงฟังแล้วเปิดสปีกเกอร์ให้เสียงเพลงดังกลบเสียงไซเรนจากถนนอนุเสาวร์ยังดังแว่วไม่หยุดให้ได้ยินไปทั่วตลอดเวลา
            ผมนอนบนเตียงฟังเพลงอยู่ในห้องนอน ในใจก็นึกถึงพ่อแม่และคนรู้จัก นึกไปต่างนานาๆ ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายลงอีกหรือดีขึ้น และนานแค่ไหนกว่าเหตุการณ์จะเป็นปกติ ผมอยากคุยกับใครสักคน นึกคิดอยู่คนเดียวแบบนี้ทำให้ผมฟุ้งซ่าน พนักงานส่งอาหารบอกว่าจะมาส่งอาหารที่ผมสั่งในตอนเย็นหรือไม่ก็หัวค่ำ เขาจะถูกซอมบี้กินไปก่อนหรือเปล่า
             เพล้งงง เสียงกระจกแตกเสียงดัง ผมตกใจสะดุ้งลุกจากเตียงนอน เสียงกระจกแตกดังจากหน้าต่างชั้นสองที่บ้านหลังตรงข้ามห้องนอนของผม
            ผมรีบไปหยิบมีดอีโต้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ แล้วไปเปิดม่านหน้าต่างในห้องนอน ผมมองไปที่หน้าต่างชั้นสองของบ้านตรงข้ามที่หลังบ้านติดกัน
           พระช่วย ซอมบี้ ชายคนหนึ่งที่ติดเชื้อซอมบี้ใบหน้ามีเศษกระจกหน้าต่างบาดเลือดอาบที่แขนสองข้างของเขาถูกมัดเชือกแน่นไว้กับลำตัวผ่านม่านหน้าต่างมาที่หน้าต่างที่กระจกแตกเพราะถูกเขาชนใส่จนหน้าต่างกระจกแตก ชายที่เป็นซอมบี้และถูกเชือกมัดไว้พยายายามดันร่างผ่านหน้าต่างที่มีมุ้งลวดเหล็กดัดกั้นขวางหน้าต่างไว้มาหาผมที่อยู่ในห้องชั้นบนบ้านฝั่งตรงข้าม แต่ไม่สามารถทำได้

            ผมมองดูอย่างตะลึงลาน ดวงตาที่เป็นสีขาวของเขามองมาที่ผม  ชายที่ติดเชื้อชีวภาพกลายเป็นซอมบี้ส่งเสียงร้องโหยหวนแบบซอมบี้ที่อยากกินเนื้อมนุษย์ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามาารถผ่านเหล็กดัดกั้นหน้าต่างมาได้และหากว่ามีซอมบี้เดินบนหลังคากระเบื้องห้องครัวที่หลังบ้านแฝดสองชั้นติดกันเป็นทางยาวแต่ที่หน้าต่างบ้านของผมก็มีมุ้งเหล็กดัดกั้นหน้าต่างเช่นกัน             ผมตั้งสติแล้วถอยห่างจากหน้าต่างก้าวหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปปิดม่านหน้าต่าง ชายคนนั้นคงเป็นผู้ติดเชื้อชีวภาพที่อยู่ในหมู่บ้าน เขาได้กลายสภาพกลายเป็นซอมบี้ สถานการณ์เชื้อซอมบี้ระบาดเหมือนจะร้ายแรงกว่าที่พนักงานส่งอาหารคนนั้นบอกกับผม
           ผมปิดโปรแกรมเล่นเพลงในคอมพิวเตอร์ มือซ้ายหยิบมีดหันผักบนโต๊ะคอมพิวเตอร์อีกเล่มมาถือไว้ มือขวาถือมีดอีโต้ นั่งลงที่ริมเตียงนอน เสียงโหยหวยของชายที่ติดเชื้อซอมบี้ที่บ้านตรงข้ามบ้านผมที่เหมือนอยากกินเนื้อผมมากๆ นั้น ก็ค่อยๆ เงียบไป
            ชายที่ติดเชื้อซอมบี้นั้นคงติดเชื้อมาจากที่อื่นแล้วรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ครอบครัวของเขาจึงใช้เชือกมัดตัวของเขาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ผมพยายามคิดในด้านดีว่าการที่ผมพบเห็นผู้ติดเชื้อที่บ้านตรงข้ามหลังบ้านผมที่ติดกันในหมู่บ้านนั้น สาธารณะสุขโลกคงมียารักษาหายได้ และผู้ติดเชื้อในจังหวัดที่ผมอยู่แท้จริงคงมีจำนวนไม่มาก แต่การได้เห็นชายติดเชื้อซอมบี้ที่บ้านตรงข้ามเมื่อกี้ทำให้ผมรู้สึกกลัวจนไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน ความกล้าหาญแบบตอนที่ผมเผชิญกับซอมบี้ในเกมคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีเลยสักนิด
            ตอนนี้ 16.39 pm ตกเย็นแล้ว ผมรอพนักงานงานส่งอาหารมาส่งอาหารที่บ้าน ผมจะได้ถามเรื่องสถานการณ์เชื้อซอมบี้ระบาดในจังหวัดและให้เขาช่วยผมเรียกเพื่อนบ้านที่รู้จักกันที่อยู่บ้านติดกันและบ้านใกล้ๆกันในหมู่บ้าน เผื่อจะมีเพื่อนบ้านยอมออกมาพูดคุยกับผม เพราะมีพนักงานส่งอาหารอยู่กับผมด้วย

            ผมถือมีดทั้งสองเล่มลงไปชั้นล่างแล้วเปิดโทรทัศน์ดูข่าวคืบหน้าของสถานการณ์ซอมบี้แล้วไปหยิบขวดน้ำดื่มในตู้เย็นมาดื่มพลางดูข่าวซอมบี้ใน TV  มีดทั้งสองเล่มวางไว้ใกล้ตัวบนโซฟา ในใจก็นึกกลัวไปต่างๆ นาๆ ว่าพ่อแม่ผม เพื่อนผม ร่วมทั้งพนักงานส่งอาหารคนนั้น ตอนนี้ได้ติดเชื้อชีวภาพที่ทำให้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้วหรือไม่ 

            พอผมนึกวนเวียนกลับมาถึงชายที่กลายเป็นซอมบี้ที่หน้าต่างห้องชั้นบนบ้านฝั่งตรงข้ามหลังบ้านแล้ว ผมต้องหันหน้ามองไปทางประตูบ้านที่ปิดม่าน พลางคิดในใจว่าต้องมีผู้ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้คลุ้มคลั่งกินเนื้อคนเดินอยู่ด้านนอกในหมู่บ้านแน่ๆ โชคดีที่เมื่อตอนบ่ายผมไม่เจอพวกซอมบี้ที่นอกบ้าน
             ผมนั่งดูข่าวซอมบี้ในโทรทัศน์ได้ไม่นานก็มีเสียงสุนัขเห่ากระโชกเหมือนวิ่งไล่กัดคนมาทางซอยบ้านผม ผมรีบหยิบมีดอีโต้และมีดหันผักทั้งสองเล่มแล้วลุกขึ้นไปแง้มม่านประตูเปิดออกแอบมองดูที่นอกบ้าน สภาพการณ์และพฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผมอดนึกถึงหนังซอมบี้ที่เคยดูและเกมซอมบี้ที่ผมเล่นไม่ได้

             พนักงานส่งอาหารที่เป็นคนเดียวกับที่ผมสั่งอาหารเมื่อตอนบ่าย เขาถือชแลงเหล็กในมือวิ่งมาถึงที่หน้าบ้านของผมแล้วกระโดดข้ามรั้วกำแพงเข้ามาในบ้านของผมแล้วพุ่งตรงมาที่ประตูบ้านทันที พร้อมกับร้องเรียกผมเสียงดัง "น้องโก้เปิดประตูบ้านด้วย ๆ "

             พนักงานส่งอาหารเห็นผมที่แง้มม่านประตูแอบดูอยู่ในบ้านแล้วแต่เหมือนว่าเขาจะวิ่งพุ่งชนบานประตูกระจกพังเข้ามาในบ้าน ถ้าหากผมไม่เปิดประตูให้เขา ผมใช้มือซ้ายที่ถือมีดหันผักถือมีดอีโต้อีกเล่มแล้วรีบเปิดล็อคบานประตูเลื่อนเปิดประตูหน้าบ้านให้พนักงานส่งอาหารคนนั้นเข้ามาก่อนที่เขาจะทำให้ประตูบ้านที่เป็นกระจกแตกพัง ในทันทีที่ผมเปิดล็อคประตูเปิดประตูให้เขา พนักงานส่งอาหารรีบพุ่งผ่านประตูเข้ามา ร่างของเขาเฉียวชนขอบประตู เสียงดังปึง บานประตูกระจกสั่นสะเทือน ขณะเดียวกันสุนัขขนปุยสีขาวโตเต็มวัยที่ไล่กัดพนักงานส่งอาหารก็มาถึงประตูเหล็กหน้าบ้านของผม มันกระโดดข้ามรั้วประตูเหล็กที่สูงเพียง 150 เซนติเมตร เข้ามาในบ้าน สุนัขขนปุยสีขาวส่งเสียงเห่าอย่างดุร้ายพร้อมวิ่งตามพนักงานส่งอาหารเข้ามาที่ประตูเช่นกัน ผมรีบเลื่อนประตูปิดด้วยความตระหนกตกใจ
            เพล้งงง ประตูกระจกหน้าบ้านผมแตก วินาทีนั้น ผมกระโดดถอยออกห่างประตูด้วยความตกใจสุดๆ มีดอีโต้หล่นเหลือแต่มีดหันผักในมือซ้าย และถอยหลังทันทีอีกสามก้าวไปยืนอยู่ข้างพนักงานส่งอาหารที่เข้ามาในบ้านแล้ว สุนัขขนปุยสีขาวที่พุ่งผ่านม่านประตูกระจกที่แตกเข้ามาได้ครึ่งตัวแล้วมันก็ล้มลงนอนคะแคงร่างกับพื้น 
             ผมและพนักงานส่งอาหารมองดูสุนัขขนปุยที่ล้มลงนอนบนพื้นเบื้องหน้าอย่างไม่คาดคิด มันส่งเสียงเห่าด้วยความดุร้ายพร้อมขยับสองขาหน้าแต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวขึ้นมาไล่กัดผมกับพนักงานส่งอาหาร จากนั้นปรากฏย่อมโลหิตบนพื้นกระเบื้องบริเวณหน้าประตูขยายวงกว้างบริเวณตัวสุนัขขนปุยที่ล้มตะแคงนอนพื้น ผมกับพนักงานส่งอาหารมองดูสุนัขขนปุยส่งเสียงเห่าอย่างดุร้ายอยู่บนพื้นที่นองไปด้วยโลหิต
            พนักงานส่งอาหารที่มือขวาถือชแลงเหล็กค่อยๆก้าวเท้าไปที่ประตูอย่างช้าๆ เบี่ยงตัวหลบสุนัขขนปุยตัวนั้นไปทางด้านข้างอย่างระมัดระวัง พลางก้มมองดูสุนัขขนปุยที่นอนอยู่บนพื้น มันหันศรีษะไปเห่าใส่พนักงานส่งอาหารที่เคลื่อนผ่านข้างตัว สองขาหน้าตะกุยพยายามจะเคลื่อนร่างไปกัดพนักงานส่งอาหารคนนั้น
           พนักงานส่งอาหารคนนั้นยื่นมือซ้ายแหวกม่านประตูออก ผมกับพนักงานส่งอาหารจึงเห็นบานกระจกประตูที่แตกที่ล่วงหล่นลงมาเฉือนตัดร่างสุนัขขนปุยออกเป็นครึ่งซีกร่างขณะที่มันวิ่งพุ่งชนประตูกระจกเมื่อตะกี้นี้  ทำให้ครึ่งตัวซีกบนของมันอยู่ในบ้านของผม ส่วนครึ่งซีกสองขาท่อนหลังถูกบานกระจกประตูตัดขาดอยู่นอกประตูบ้าน
            ผมมองดูสุนัขขนปุยสีขาวตัวขาดครึ่งซีกจมกองเลือดที่พื้นประตูหน้าบ้าน มันส่งเสียงเห่าและขยับสองขาหน้าของมันด้วยความสยองขวัญ พนักงานส่งอาหารใช้สองมือกุมชแลงเหล็กขยับตัวตั้งท่าแล้วฟาดชแลงเหล็กใส่ศรีษะของสุนัข พนักงานส่งอาหารฟาดชแลงเหล็กลงไปที่ศรีษะของสุนัขอีกสามสี่ครั้งอย่างสยดสยองต่อหน้าผม จนมันสมองของมันกระจายออกมา สุนัขขนปุยสีขาวตัวขาดครึ่งตัวนั้นก็ตายสนิทอยู่บนกองเลือดของมันบนพื้น ไม่มีเสียงเห่าของสุนัขตัวนี้แล้วก็เหลือแต่เสียงสัญญาณไซเรนเตือนภัยจากสี่แยกอนุเสาวรีย์ที่ยังส่งเสียงแว่วมาถึงหมู่บ้านให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา

To be continue ซอมบี้ วันที่ 1 ตอนที่ 4 


            

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องสั้นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา