ฤดูร้อนแต่มีฤดูฝนบนใบหน้า
-
เขียนโดย อันตัง
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.25 น.
1 ตอน
0 วิจารณ์
3,000 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 16.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ความสงสัย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ใครบางคนกำลังนั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามเย็นที่บัดนี้แสงแดดค่อยๆอ่อนลง ทางทิศตะวันตกมองไปเห็นสีท้องฟ้าเป็นสีส้มอ่อน สายลมเย็นพัดผ่านกระทบร่างกายทำให้คนที่นั่งเหม่อลอยขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น
ผู้คนต่างผ่านไปผ่านมาเพียงมองเลยผ่านไม่ได้สนใจ อาจเพราะผู้คนเล่านั้นไม่รู้จักก็เป็นไปได้ แต่มันเป็นเรื่องปกติของคนที่ย่อมไม่สนใจถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเองหรือคนรู้จักกัน มันเป็นธรรมชาติ
หากแต่ผมคงเป็นคนผิดธรรมชาติล่ะมั้ง ที่สนใจใครบางคนนั้นอาจเพราะเมื่อผ่านเข้าไปใกล้อีกนิดก็พบว่าเธอเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่นั่งเหม่ออยู่เพียงลำพังมันกระตุ้นตุมความสนใจของผม ผมจึงเดินเลยไปแล้วหามุมนั่งมองเธออยู่ห่างๆ
ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ผมก็ยังเห็นเธอนั่งอยู่อย่างนั้น จนฟ้าเริ่มมืดจากแสงแดดเริ่มกลายเป็นแสงไฟ เสาไฟบริเวณรอบๆถูกเปิดขึ้น ผมก็ยังเห็นเธอนั่งเฉยอยู่แบบนั้น
"เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ" ผมคิดในใจพลางมองเธออยู่ตลอด ผมกำลังคิดมากหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะอาการของเธอบวกกับข้างหน้าที่เธอนั่งนั่นมันเป็นสระน้ำ ผมส่ายหัวเลิกคิดเพราะดูเหมือนผมกำลังจะคิดไปในทางที่ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านไปอีกชั่วโมงหนึ่ง ผมมองเห็นเธอเริ่มขยับตัว ผมจึงขยับตัวตามไปห่างๆ จนกระทั่งถึงป้ายรถเมย์เห็นเธอขึ้นรถเมย์ที่จอดพอดี มองจนรถแล่นหายไปผมถึงกลับบ้าน
ก่อนจะนอนผมยังคงคิดถึงภาพเธอคนนั้น พร้อมความสงสัยที่อยากจะถามเธอ ทำไมเธอถึงเหม่อลอยคล้ายกลับชีวิตนี้ไม่เหลืออะไร ก่อนที่จะสบัดความสงสัยแล้วหลับในเวลาไม่นาน
เสียงไก่ขันทำให้ผมตื่นโดยอัตโมัติ ผมรีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไว เพื่อจะพาเจ้าบิ๊กสุนัขคู่ใจไปเดินเล่นเหมือนทุกวัน หากแต่วันนี้รู้สึกจะร้อนๆ คงเพราะนี้เข้าเดือนเมษายนแล้ว เดือนที่อากาศร้อนที่สุดๆ ผมจึงมองหาที่นั่งเพื่อหลบร้อน พลันสายตาก็ไปเจอกับเธอคนนั่น ใช่ครับ คนที่เมื่อวานผมเห็นนั่งเหม่อคนเดียว ผมจึงพาเจ้าบิ๊กไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอแล้วผูกเจ้าบิ๊กกับม้านั่ง มันก็แสนรู้นอนนิ่งไม่ซน
ผมแอบมองเธอ แต่เธอไม่ได้สนใจรอบข้างจริงๆ เธอนั่งเหม่ออยู่แบบนั้น ถ้าผมเป็นเพื่อนเธอคงดี ผมรู้สึกอยากให้เธอระบายความในใจ อยากให้เธอผ่อนคลายแทนการนั่งเหม่อเหมือนคนไม่มีชีวิตแบบนี้ แต่นั่นและครับผมไม่ใช่เพื่อนเธอและแน่นอนไม่รู้จักเธอเลยสักนิด
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมรู้สึกร้อนมาก ทั้งๆที่มีเงาต้นไม้ หากแต่ยังคงนั่งมองเธอ นี่ถ้าเพื่อนมาเห็นคงว่าผมเป็นคนบ้าแน่ๆ แต่ก็นะวันนี้วันอาทิตย์เพื่อนผมอยู่กับครอบครัวกันหมด
จู่ๆผมก็มองเห็นว่าเธอขยับตัวเล็กน้อย สายตามองไปทางหนึ่ง ผมมองตามสายตานั้นไป ก็พบชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินหยอกล้อกันอยู่ดูสนิทสนมทั้งคู่คงเป็นแฟนกัน ผมเห็นว่าเธอมองตาไม่กระพริบจนกระทั่งทั้งคู่มาถึงตรงหน้าของเธอ ผมเห็นเธอมองโดยไม่พูดอะไร หากแต่ผู้ชายดูตกใจไม่น้อย
"บอลค่าเป็นอะไร ไปต่อกันเถอะแนนหิวแล้ว" เสียงอ้อนพร้อมกับขยับอ้อมแขนดึงชายหนุ่ม ผู้ชายหันมาพยักหน้าก่อนพากันเดินออกไป ผมเห็นเธอมองทั้งคู่ไปจนสุดสายตา พอเธอหันมาผมก็อึ้ง
เพราะเธอยังคงนั่งเฉยๆแต่ผมกับรู้สึกว่าอากาศร้อนหรือเปล่าที่ทำให้มีฝน เหมือนฝนกำลังตกหนัก น้ำไหลไปตามทาง จนรู้สึกว่ามันจะท่วม ผมรู้สึกแย่มาก ไม่รู้จะทำยังไง แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงเธอพูดเบาๆ
"ฤดูร้อนแท้ๆแต่ดันมีฤดูฝนบนใบหน้า"
จะมีใครรู้บ้างไหมว่าที่เธอพูดมีความหมายว่าอะไรแต่ที่แน่ๆผมรู้ซึ้งเลยทีเดียว
ผู้คนต่างผ่านไปผ่านมาเพียงมองเลยผ่านไม่ได้สนใจ อาจเพราะผู้คนเล่านั้นไม่รู้จักก็เป็นไปได้ แต่มันเป็นเรื่องปกติของคนที่ย่อมไม่สนใจถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเองหรือคนรู้จักกัน มันเป็นธรรมชาติ
หากแต่ผมคงเป็นคนผิดธรรมชาติล่ะมั้ง ที่สนใจใครบางคนนั้นอาจเพราะเมื่อผ่านเข้าไปใกล้อีกนิดก็พบว่าเธอเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่นั่งเหม่ออยู่เพียงลำพังมันกระตุ้นตุมความสนใจของผม ผมจึงเดินเลยไปแล้วหามุมนั่งมองเธออยู่ห่างๆ
ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ผมก็ยังเห็นเธอนั่งอยู่อย่างนั้น จนฟ้าเริ่มมืดจากแสงแดดเริ่มกลายเป็นแสงไฟ เสาไฟบริเวณรอบๆถูกเปิดขึ้น ผมก็ยังเห็นเธอนั่งเฉยอยู่แบบนั้น
"เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ" ผมคิดในใจพลางมองเธออยู่ตลอด ผมกำลังคิดมากหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะอาการของเธอบวกกับข้างหน้าที่เธอนั่งนั่นมันเป็นสระน้ำ ผมส่ายหัวเลิกคิดเพราะดูเหมือนผมกำลังจะคิดไปในทางที่ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านไปอีกชั่วโมงหนึ่ง ผมมองเห็นเธอเริ่มขยับตัว ผมจึงขยับตัวตามไปห่างๆ จนกระทั่งถึงป้ายรถเมย์เห็นเธอขึ้นรถเมย์ที่จอดพอดี มองจนรถแล่นหายไปผมถึงกลับบ้าน
ก่อนจะนอนผมยังคงคิดถึงภาพเธอคนนั้น พร้อมความสงสัยที่อยากจะถามเธอ ทำไมเธอถึงเหม่อลอยคล้ายกลับชีวิตนี้ไม่เหลืออะไร ก่อนที่จะสบัดความสงสัยแล้วหลับในเวลาไม่นาน
เสียงไก่ขันทำให้ผมตื่นโดยอัตโมัติ ผมรีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไว เพื่อจะพาเจ้าบิ๊กสุนัขคู่ใจไปเดินเล่นเหมือนทุกวัน หากแต่วันนี้รู้สึกจะร้อนๆ คงเพราะนี้เข้าเดือนเมษายนแล้ว เดือนที่อากาศร้อนที่สุดๆ ผมจึงมองหาที่นั่งเพื่อหลบร้อน พลันสายตาก็ไปเจอกับเธอคนนั่น ใช่ครับ คนที่เมื่อวานผมเห็นนั่งเหม่อคนเดียว ผมจึงพาเจ้าบิ๊กไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอแล้วผูกเจ้าบิ๊กกับม้านั่ง มันก็แสนรู้นอนนิ่งไม่ซน
ผมแอบมองเธอ แต่เธอไม่ได้สนใจรอบข้างจริงๆ เธอนั่งเหม่ออยู่แบบนั้น ถ้าผมเป็นเพื่อนเธอคงดี ผมรู้สึกอยากให้เธอระบายความในใจ อยากให้เธอผ่อนคลายแทนการนั่งเหม่อเหมือนคนไม่มีชีวิตแบบนี้ แต่นั่นและครับผมไม่ใช่เพื่อนเธอและแน่นอนไม่รู้จักเธอเลยสักนิด
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมรู้สึกร้อนมาก ทั้งๆที่มีเงาต้นไม้ หากแต่ยังคงนั่งมองเธอ นี่ถ้าเพื่อนมาเห็นคงว่าผมเป็นคนบ้าแน่ๆ แต่ก็นะวันนี้วันอาทิตย์เพื่อนผมอยู่กับครอบครัวกันหมด
จู่ๆผมก็มองเห็นว่าเธอขยับตัวเล็กน้อย สายตามองไปทางหนึ่ง ผมมองตามสายตานั้นไป ก็พบชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินหยอกล้อกันอยู่ดูสนิทสนมทั้งคู่คงเป็นแฟนกัน ผมเห็นว่าเธอมองตาไม่กระพริบจนกระทั่งทั้งคู่มาถึงตรงหน้าของเธอ ผมเห็นเธอมองโดยไม่พูดอะไร หากแต่ผู้ชายดูตกใจไม่น้อย
"บอลค่าเป็นอะไร ไปต่อกันเถอะแนนหิวแล้ว" เสียงอ้อนพร้อมกับขยับอ้อมแขนดึงชายหนุ่ม ผู้ชายหันมาพยักหน้าก่อนพากันเดินออกไป ผมเห็นเธอมองทั้งคู่ไปจนสุดสายตา พอเธอหันมาผมก็อึ้ง
เพราะเธอยังคงนั่งเฉยๆแต่ผมกับรู้สึกว่าอากาศร้อนหรือเปล่าที่ทำให้มีฝน เหมือนฝนกำลังตกหนัก น้ำไหลไปตามทาง จนรู้สึกว่ามันจะท่วม ผมรู้สึกแย่มาก ไม่รู้จะทำยังไง แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงเธอพูดเบาๆ
"ฤดูร้อนแท้ๆแต่ดันมีฤดูฝนบนใบหน้า"
จะมีใครรู้บ้างไหมว่าที่เธอพูดมีความหมายว่าอะไรแต่ที่แน่ๆผมรู้ซึ้งเลยทีเดียว
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ