มิจฉาชีพผ้าเหลือง

-

เขียนโดย ปั้นปึ่งยิ้ม

วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 16.40 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,820 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 17.03 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) -

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ห่มผ้าเหลือง ใช่ว่าจะเรียกพระได้เสมอไป
          ตรืด...ตรืด...!
          ฉันควานหาโทรศัพท์ขณะกำลังดูซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องโปรด...มาสค์ไรเดอร์จีโอ (Kamen Rider Zi-O) เพราะได้ยินเสียงมันดิ้นไม่หยุด อุตส่าห์ตั้งค่าเสียงเรียกเข้ากับเสียงข้อความด้วยริงโทนเพลงโปรด...ไม่มีประโยชน์! สุดท้าย ฉันก็ตั้งให้อยู่ในโหมดสั่น เพื่อไม่ต้องการให้มันมารบกวนชีวิตส่วนของตัวเองอยู่ดี ฉันกดหยุดภาพยนตร์ไว้เพียงแค่นั้น
          รอฉันก่อนนะโซโกะ เกสต์ สึคุโยมิ ว็อซ
          ฉันเปิดโทรศัพท์มือถือ เช็คที่มาอาการไข้จับสั่นของเพื่อนเครื่องจิ๋ว ก็เห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน ทั้งข้อความมือถือ ข้อความไลน์ และข้อความจากเฟซบุ๊กที่เพิ่งส่งเข้ามาไม่นานเท่าไร ซึ่งเป็นข้อความจากเพื่อนใหม่ที่ฉันเพิ่งกดยอมรับเพื่อนไปเมื่อวานนี้
          “พระอาจารย์ ธีรทัศน์”
          เห็นว่าเป็นพระและฉันก็ชอบทำบุญ บริจาคทาน จึงรับเป็นเพื่อน เผื่อว่ามีโครงการสร้างบุญเสริมบารมีน่าสนใจชวนให้บริจาค อันที่จริง ไม่ใช่แค่ตัดสินจากรูปประจำตัวว่าเป็นพระแล้วฉันจะรับเพื่อนทันทีหรอก ฉันตรวจสอบทามไลน์ของเจ้าของซึ่งอ้างตนว่าเป็นพระอาจารย์ธีรทัศน์ด้วย ฉันจับพิรุธอะไรไม่ได้เลย ฉันจึงเชื่อสนิทใจเลยว่าน่าจะเป็นพระจริง ๆ
          พระอาจารย์ธีรทัศน์ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กมาหาฉัน...ทำไมนะ?
          ฉันเปิดดูข้อความจากพระอาจารย์ด้วยความฉงน
 
พระอาจารย์ ธีรทัศน์ :   คุณโยมเป็นเจ้าภาพโรงทานให้กับภิกษุสามเณรได้ไหม เจ้าภาพละ 500 บาท
 
          พระอาจารย์มาบอกบุญนี่เอง
          ฉันเลิกคิ้วสูงกว่าปกติ รู้สึกแปลกใจที่พระอาจารย์ทักแชทข้อความส่วนตัวเพื่อบอกบุญ เพราะฉันสังเกตเห็นช่องแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์บอกบุญเรื่องเป็นเจ้าภาพโรงทานภิกษุสามเณรก็มีผู้บริจาคเงินจำนวนมาก ยังไม่พอต่อบุญโรงทานอีกหรือ
          ด้วยความที่ไม่ใช่คนคิดอะไรมากขนาดนั้น ฉันละเลยต้นอ่อนแห่งความสงสัยในใจ เปิดการสนทนากับพระอาจารย์ธีรทัศน์
 
Chalitaa Ms.P : ยังขาดเจ้าภาพอยู่หรือคะ
พระอาจารย์ ธีรทัศน์ : ใช่โยม ขาด 2 เจ้าภาพ
Chalitaa Ms.P : งั้นหนูขอเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 รูปเลยนะเจ้าคะ สักครู่นะเจ้าคะ
พระอาจารย์ ธีรทัศน์ : เจริญพร
 
          พระอาจารย์ธีรทัศน์แชร์โพสต์บอกบุญซึ่งท่านพิมพ์ประกาศให้ญาติธรรมรับทราบไว้ก่อนแล้ว ฉันกดเข้าไปดูรายละเอียดก็จำได้ว่า มันคือโครงการโรงทานที่จะจัดขึ้นในวันแม่แห่งชาติที่กำลังจะมาถึง โพสต์ข้อความนี้ฉันเห็นท่านประกาศบอกบุญได้เกือบสองถึงสามสัปดาห์แล้ว
          ฉันแลเห็นว่าพระอาจารย์กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินทุนสำหรับจัดงานโรงทานและอุปสมบทบรรพชาภิกษุสามเณรใหม่เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ฉันจึงอยากเป็นกำลังบุญให้ท่าน ฉันโอนเงินตามรายละเอียดการโอนเงินที่พระอาจารย์ส่งมา และส่งใบเสร็จหลักฐานการโอนให้ท่าน ทั้งทางข้อความและใต้โพสต์ พอท่านอ่านข้อความ ท่านก็อวยพรให้ จากนั้น ฉันจึงกลับมาที่โลกของมาสค์ไรเดอร์จีโอ ติดตามเรื่องราวเส้นทางการเป็นราชาของโทคิวะ โซโกะต่อ
          ฉันยังคงยืนอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง
          ฉันหมายถึง...ชีวิตประจำวันของฉันหลังเรียนจบและมีงานทำ ฉันขายสินค้าเป็นจำนวนมากให้กับน้อง ๆ นักศึกษาที่ต้องการชุดสัญลักษณ์ตรามหาวิทยาลัย ลงสต็อกสินค้า และดูแลความเรียบร้อยภายในสหกรณ์ร้านค้า ครั้นลูกค้าที่น่ารักทั้งหลายไปเรียนหนังสือกันหมด ก็เป็นเวลาที่ฉันได้พักสมอง พักแขนขา แต่ฉันอยู่เฉย ๆ เป็นที่ไหนล่ะ
          ฉันเปิดเว็บไซต์ดูภาพยนตร์ออนไลน์ เพื่อรับชมมาสค์ไรเดอร์จีโอ เพลงเปิดยังไม่ทันจบ ลูกค้าก็เดินเข้ามา ฉันหยุดเวลาของผู้คนที่อยู่ในซีรีส์ เพราะเกรงตัวเองจะตามเรื่องราวไม่ทัน ลุกไปที่เคาน์เตอร์ร้านทันใด
           “เชิญจ้า ซื้ออะไรจ๊ะ” ฉันทักรุ่นน้อง
           “กระดุมค่ะ”
           “เลือกเลยจ้า”
           ฉันยืนรอครู่หนึ่ง น้องสาวก็เลือกสินค้าเสร็จและเดินมาหาฉัน ฉันคิดเงินให้น้อง รับเงินเธอแล้วส่งเงินทอนคืนให้ ขณะนั้นเอง เสียงแชทก็ดังขึ้น
           ใครกัน...กล้าทักมาในเวลางาน หรือจะเป็นอาจารย์พิส่งไฟล์ลงสต็อกกลับมาให้ หรือจะเป็นแชทเกมที่ฉันเล่นส่งข้อความมาให้ฉันเล่นเกมต่อให้จบ รึจะเป็นน้องสาวแชทมาขอค่าขนม รึไอ้เจ้ทักมาเพื่อระบายความทุกข์ที่ตัวพบในสถานที่ทำงานใหม่
           ใครก็ช่าง...
           สิ่งที่ฉันอยากรู้ที่สุด คือ ทักมาเพื่อ?
           ปลอดลูกค้าแล้ว ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เปิดแท็บเฟซบุ๊กตรวจหาผู้ส่งสาร พบการสนทนาที่ยังไม่ได้เปิดสองการสนทนา ได้แก่ เกมออนไลน์ส่งข้อความมาว่า...กรุณาเล่นเกมต่อให้จบ มีโบนัสสำหรับคุณแล้ววันนี้ และอีกการสนทนา คือ ข้อความที่ยังไม่ได้อ่านจากพระอาจารย์ธีรทัศน์
 
‘พระอาจารย์ ธีรทัศน์: คุณโยมเป็นเจ้าภาพผ้าไตรจีวรให้อาตมาได้ไหมโยม เจ้าภาพละ 350 บาท’
 
          ฉันนิ่งคิด ประมวลผลการใช้เงินประจำเดือนนี้ นอกจากบริจาคเงินที่สถานปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์ธีรทัศน์ ยังมีวัดอื่นที่ฉันชอบบริจาคเงิน แต่ก็ยังต้องเหลือเงินไว้ใช้ให้ถึงสิ้นเดือนด้วย ดังนั้น จะบริจาคเงินหรือใช้เงินทำเรื่องอื่นฉันต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิด จู่ ๆ เสียงแชทเฟซบุ๊กก็ดังขึ้น เป็นชื่อที่ฉันไม่คุ้นเลย ฉันคลิกแชทดูด้วยความแปลกใจ
 
‘น้ำฟ้า นฤมน: ทักค่ะ น้องรู้จักพระอาจารย์ธีรทัศน์มั้ยคะ’  
 
           ฉันพิมพ์ทักตอบ
 
Chalitaa Ms.P : หนูไม่รู้จักเลยค่ะ เห็นทักมาบอกบุญ หนูเลยร่วมบริจาคด้วยค่ะ
น้ำฟ้า นฤมน : ท่านก็ทักพี่มาเหมือนกันค่ะ แต่พี่ไม่มีโอกาสได้ร่วมทำบุญเลย จะโอนเงินให้ก็มีอุปสรรคตลอด พี่คิดว่าจะไปทำบุญกับท่านที่วัด คิดว่าแบบนี้น่าจะสะดวกกว่าการโอนเงิน แต่ว่า... ท่านไม่ยอมให้ที่อยู่ของท่านน่ะ คิดว่าน้องน่าจะรู้จักท่าน
Chalitaa Ms.P : ขอโทษนะคะ หนูไม่รู้จักท่านหรอกค่ะ
น้ำฟ้า นฤมน : พี่หาพิกัดตามที่อยู่ในโพสต์ แต่ไม่มีสถานปฏิบัติธรรมสุภัทรวดีในแผนที่เลย
Chalitaa Ms.P : หนูก็หาไม่เจอค่ะ แต่หนูเคยถามชื่อวัดนะคะ ท่านบอกว่าท่านอยู่วัดเนินสูงค่ะ แต่หนูก็หาเส้นทางไปวัดไม่เจออยู่ดีค่ะ ฮ่ะ ๆ
น้ำฟ้า นฤมน : เว้นแต่ว่าวัดนั้นไม่มีอยู่จริง พี่จะเลิกทำบุญกับท่านละ เสียศรัทธากับพระท่านนี้มากเลย
Chalitaa Ms.P : ค่ะ
 น้ำฟ้า นฤมน : ถ้าน้องยังมีศรัทธาที่จะทำบุญ น้องก็ทำไปเถอะนะ เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นพระจริงหรือไม่ แต่ตอนนี้พี่หมดความเชื่อในตัวท่านแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้น้องเสียเวลา
Chalitaa Ms.P : ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล
 
           การสนทนาสิ้นสุดลง  คำพูดของพี่น้ำฟ้าทำให้ฉันฉุกคิด ฉันจึงไหว้วานให้พี่ชวินทร์ตรวจสอบพระอาจารย์ธีรทัศน์ ณ วัดเนินสูง จังหวัดอุบลราชธานี ฉันอยากรู้ว่าใครพูดจริงใครพูดโกหก ขณะเดียวกัน ฉันก็ลอบเค้นถามพระอาจารย์อีกครั้ง...
           ยังไม่ทันได้คำตอบที่ต้องการ (และไม่ต้องการ) ฟีดข่าวก็โชว์ข่าวมิจฉาชีพหน้าตาคุ้นเคย ชวนให้กดเข้าไปอ่านรายละเอียดยิ่งนัก ไวกว่าความคิด นิ้วชี้ก็กดเข้าปอ่านบทความข่าวอย่างรวดเร็ว และแล้ว...สิ่งที่ฉันกลัวก็เกิดขึ้นจนได้
           ‘พระอาจารย์เป็นแก๊งต้มตุ๋น!!!’
           หากเป็นฉันเมื่อห้าปีหรือเจ็ดปีที่แล้ว ฉันคงเดือดดาลกับข่าวที่ได้รับยิ่งนัก แต่เพราะรู้จากพระอาจารย์สิรภัทร์ก่อนแล้วว่าอะไรเป็นอะไร
           ฉันโง่เองแล้วจะโทษใครได้ ถือว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนแล้วกัน
            “หากพระสงฆ์เรี่ยไรรับบริจาคเพื่อการใด ๆ ก็ตาม ให้ถือเป็นอาบัติ เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่พึงกระทำ” ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ฟะ?!?!
            หลังจากนั้น ฉันก็ใคร่ครวญทุกครั้งก่อนจะบริจาคเงินทำบุญ หากโครงการทำบุญไม่มีที่มาแน่นอน ไม่มีวันปิดรับบริจาค ฉันคงไม่ใจดีสมทบทุนร่วมสร้างกองบารมีด้วยแล้ว เพราะเสี่ยงต่อการถูกหลอกตบทรัพย์ได้ง่ายมาก
            แควก!!!!
            คิดว่าฉันจะจบแค่ยอมรับบทเรียนราคาแพงอย่างนั้นหรือ?
            ไม่มีทางงงงงงงงงงงงงงงง!!!
            ฉันเลิกสนใจหน้าจอคอมฯตรงหน้า และหันมาสนใจโทรศัพท์มือถือแทน
            “ฮัลโหลพี่ ตาขอแจ้งความ...”    
        

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องสั้นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา