คนรัก...ที่เราไม่คาดคิด
-
เขียนโดย jiranun
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 18.10 น.
1 ตอน
0 วิจารณ์
3,553 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 18.50 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) คนรัก ที่เราไม่คาดคิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“นั่งเหม่ออะไรอยู่ครับ?”
อยู่ๆคนที่กำลังพูดถึงอยู่ก็มาพี่ภูแฟนของฉัน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคิดอะไรนิดหน่อยค่ะ”
งั้นเราไปกันเถอะฉันหิวแล้ว พี่ภูพูดแล้วจับมือฉันเดินออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่วันนี้ฉันมีเดทกับพี่เขาพี่เขาบอกจะพาไปกินไอติมที่พึ่งเปิดใหม่นานๆทีจะได้เจอกันเพราะพี่เค้าก็อยู่ปี 3 แล้วเห็นบ่นว่างานเยอะมากน่าสงสารจัง
วิศวะต้องเรียนตั้ง 5 ปีหันกลับมาดูตัวเองเรียนนิเทศ 4 ปีเองแต่จริงๆมันไม่เองนะตั้ง 4 ปีแต่ถ้าเทียบกับที่พี่เขาเรียนอะนะพี่ภูเปิดประตูรถให้ฉันแล้วเดินไปนั่งที่ฝั่งคนขับพอพี่เค้าออกรถเราก็คุยกันนิดหน่อยเพราะไม่ได้เจอกันนานแต่ด้วยการขับรถต้องใช้สมาธิฉันก็ไม่ได้จะรบกวนพี่เค้ามากขับรถมาประมาณครั่งชั่วโมงก็ถึงมันเป็นร้านน่ารักๆที่ตกแต่งด้วยโทนหวานๆมีที่ถ่ายรูปสวยๆเหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก
“ชอบไหมครับ?”
พี่เขาหันมาถามฉันเมื่อเราทั้ง 2 คนเข้ามานั่งในร้านและสั่งของหวานกับพนักงานเสร็จแล้ว
“ชอบมากเลยค่ะ พี่รู้จักร้านน่ารักๆแบบนี้ได้ไงคะ?”
“พี่เห็นเค้าแชร์ๆกันอะเห็นเค้าบอกผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบฉันว่าเธอน่าจะชอบเลยพอมา”
ใช่ร้านนี้เป็นร้านที่พึ่งเปิดได้ไม่นานแต่ก็มีรีวิวมากมายในอินเตอร์เน็ตซึ่งฉันก็เคยมาแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่ได้มากับพี่ภูนะแต่มากับพี่ภัคเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองแต่คงไม่บอกพี่ภูหรอกว่าเคยมาแล้ว
“น่ารักดีนะคะพริ้มก็พึ่งจะเคยมากับพี่ภูเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ”
ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้พี่เขาไปพอของหวานมาเสิร์ฟฉันยื่นโทรศัพท์ให้พี่ภูเหมือนพี่เค้าจะรู้หน้าที่นะเขาหัวเราะในลำคอแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉันและเตรียมถ่ายรูปให้ฉัน
“1 2 3”
พี่ภูยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน ฉันรับโทรศัพท์มารูปที่พี่เค้าถ่ายให้ฝีมือการถ่ายรูปของพี่เค้าถือว่าดีอยู่เลยนะแบบมุมได้ฉันลงรูปในไอจีและแท็กพี่เค้าจากนั้นก็วางโทรศัพท์และเริ่มลงมือทานของหวานที่พี่เขาพามากินพี่เขาเองก็กินด้วยผู้ชายกับของหวานน่ารักจังฉันมองพี่เค้าไปกินไปยิ้มไปจนพี่เค้าน่าจะรู้ตัวแหละเลยเงยหน้ามาจากไอติมที่กำลังกินอยู่
“มีอะไรรึเปล่ามองหน้าพี่แล้วยิ้มนี่คือ..”
ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่ทานไอติมของตัวต่อพอฉันทานเสร็จเราทั้งสองคนก็ออกจากร้านและพี่ภูก็ไปส่งฉันที่คอนโดแถวๆมหาลัยและพอถึงคอนโดของฉันเราทั้งคู่บอกลากันจากนั้นฉันก็รีบเดินขึ้นคอนโดและไปหาพี่ภัคที่อยู่องตรงข้ามกันฉันรีบเปิดประตูห้องของพี่ภัคไปก็เจอพี่ภัคนั่งอยู่ที่โซฟาอยู่หน้าทีวีเหมือนกำลังรอใครอยู่ฉันเดินเบาๆไม่ให้รู้ว่าฉันมาแล้วพอใกล้ไปถึงฉันก็แกล้งทำให้เขาตกใจแต่เขาไม่ตกใจเลย
”ทำไมพี่ไม่ตกใจเลย หนูอุส่าห์ทำตัวเงียบๆแล้วนะ”
“พี่อ่านหนังสืออยู่ครับ”
พี่ภัคพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆฉันจึงโงกหน้าไปดูก็เจอกับกองหนังสือมากมายวางอยู่ตรงหน้าเราทั้งสองคนก็เข้าใจแหละว่าพี่เค้าเป็นหมอต้องอ่านหนังสือต้องศึกษาเคสอีกมากมายเพราะแค่เวลา 6 ปีที่เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคงไม่พอหรอกเพราะทุกๆอาชีพไม่มีใครเก่งเป็นตั้งแต่เริ่มต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ “สู้ๆนะคะ”
ฉันพูดแล้วยิ้มให้พี่เค้าไปฉันช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอกเรียนก็เรียนกันคนละสายจะให้มานั่งอ่านด้วยกันหรือช่วยพี่เขาฉันไม่ถนัดจริงๆขอให้กำลังใจอย่างนี้แล้วกัน
“กินอะไรมายังครับ หิวไหมพี่ทำอะไรให้กินไหม?”
พี่ภัคหันมาถามฉันหลังจากที่พี่เขาอ่านหนังสืออยู่
“ไม่หิวค่ะ”
“ทำไมไม่หิวครับไปกินอะไรกับใครมา?”
ตอบว่าอะไรดีอะบอกความจริงไปเลยแล้วกัน
“ไปกินไอติมกับพี่ภูมาค่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆเพราะจริงๆก็เกรงใจเขาแหละพี่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนนินะถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกใครก็เหอะ
“หรอครับ”
พี่เขาพูดน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้ได้เลยว่าแอบน้อยใจแน่ๆงอนแล้วแน่ๆ
“งอนหรอคะ?”
“พี่ไม่มีสิทธิ์ไปงอนหรอกครับเพราะพี่ไม่ใช่แฟนจริงๆของเรานิ”แนะมีแอบแซะกันด้วย
“โอ๋อย่าน้อยใจไปเลยค่ะยังไงหนูก็รักพี่นะ”
“เมื่อไร่จะเลิกกับมันแล้วมาคบพี่คนเดียวครับเราแอบคบกันมานานแล้วนะ”
คำถามของพี่เขาทำฉันชะล่าใจเล็กน้อยแต่ก็จริงเราก็คบกันมานานแล้วถึงจะน้อยกว่าพี่ภูก็เถอะแต่ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างพี่ภูหรือพี่ภัคฉันก็เลือกไม่ได้อยู่ดีฉันเป็นผู้หญิงแบบนี้ไม่สามารถเลือกอะไรได้ขนาดมีแฟนยังต้องมี 2 คนเลย...
“พี่ล้อเล่นครับอย่าเครียดนะ พี่รอน้องได้ครับ”
พี่ภูหันมาพูแล้วหันกลับไปสนใจหนังสือกองโตของพี่เขาต่อ
“แล้วพี่ทานอะไรหรือยังคะ?”
“ยังเลยครับรอคนมาถามแล้วให้คนถามเป็นทำให้อยู่ครับ” ไม่น่าถามเลยพริ้ม
“อยากให้หนูทำให้ก็บอกกันดีๆสิคะ แหม”
“ครับอยากให้ทำอาหารให้ทานครับแล้วน้องพริ้มจะทำให้พี่ได้ไหมคะ?”
มาพูดคะขาฉันก็เขินนะเนี่ยถึงแม้ว่าพี่เขาจะเป็นหมอแต่พี่เขาก็มีมุมหวานๆน่ารักๆเหมือนคนอื่นๆเหมือนกันตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนที่เงียบๆนะเนี่ยฉันลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่มาทำอะไรให้พี่เขาทาน....ทำอะไรดีคำถามแรกพุดออกมาจากความคิดจริงๆพี่เขาก็ทานอะไรก็ได้เพราะพี่เขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมากในการทานอาหารอยู่แล้วงั้นทำอะไรง่ายๆดีกว่าเช่น ข้าวพัดไก่ พี่เขาก็ชอบสั่งเวลาไปทานข้าวอยู่บ่อยๆทำค่อยๆทำข้าวพัดไปเรื่อยๆผ่านไปครึ่งชั่วโมงฉันก็ทำเสร็จพอออกมายังเห็นพี่เค้านั่งจมกองหน้าหนังสืออยู่เลยฉันเลยเดินไปจัดโต๊ะเตรียมของให้เรียบร้อยว่าจะมาเรียกพี่เขาทีหลังพอฉันจัดโต๊ะเสร็จฉันก็ยังเห็นพี่เขานั่งอ่านหนังสืออยู่จะเรียกดีไหมเนี่ยแต่ถ้าไม่เรียกอาหารที่ทำมาร้อนๆมันจะเย็นซะก่อนเรียกก็ได้ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆพี่เขาพูดเริ่มเข้าไปใกล้ๆฉันว่าพี่เขาไม่ได้อ่านหนังสือแล้แหละพี่เขาหลับอยู่ตั้งหากตอนหลับยิ่งน่ารักฉันหยิกแก้มพี่เขาเบาๆแต่พี่เขากลับลืมตาแล้วใช้มือของพี่เขาจับมือฉันเอาไว้
“ไม่ได้หลับอยู่หรอคะ?”
ฉันก็ถามอะไรโง่ๆถ้าพี่เขาหลับอยู่พี่เขาคงไม่มาจับมือฉันแบบนี้หรอก
“ยังครับพี่แค่พักสายตาเฉยๆพี่ได้กลิ่นข้าวพัดหอมๆพี่ก็ตื่นแล้วครับ”
เห็นไหมว่าพี่เขาชอบข้าวพัดแค่ไหนนี่ยังไม่ได้บอกว่าทำอะไรให้ทานนะแค่ได้กลิ่นยังรู้เลย
“งั้นพี่ก็ลุกสิคะจะได้ไปทานข้าวกันค่ะ”
พี่เขาไม่ตอบอะไรแต่หลับตาอยู่แล้วเอามือฉันไปรองแทนหมอนแทนวะงั้นอ้าวงงไหนบอกจะทานข้างทำไมถึงมานอนทับมือคนอื่นเขาแบบนี้นะ
“พี่ตื่นมาเลยค่ะเดี๋ยวข้าวพัดที่หนูทำมันจะเย็นแล้วไม่อร่อยนะคะ”
“ครับๆลุกก็ได้ครับพี่”
เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วหัวเราะในลำคอก่อนจะจูงมือฉันให้เดินตามเขาเข้าไปในส่วนของห้องครัวก่อนที่เขากะนั่งตรงเก้าอี้แล้วเริ่มทานอาหารที่ฉันเป็นคนทำให้อยู่ในระหว่างนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆงสิ้นเพราะพี่ภัคเป็นคนที่ชอบทานอาหารเงียบๆมากกว่านั่งคุยกันตอนแรกๆฉันก็ยังไม่ชินแต่ตอนนี้ฉันชินแล้วแหละพี่เขานั่งกิน 15 นาทีก็หมดแล้วจึงหันมาบอกฉันว่า
“อร่อยมากครับ”
พูดแล้วยิ้มให้หนึ่งที
“ค่ะ” “พี่จะทำอะไรต่อคะ”
“เดี๋ยวพี่อ่านหนังสือต่อครับ”
“งั้นหนูกลับห้องไปทำรายงานของหนูก่อนนะคะ”
ฉันพูดแล้วเตรียมจะเดินออกมาจากห้องพี่ภัคเพื่อกลับห้องของตัวเองแต่พี่ภัคถึงชายเสื้อนักศึกษาของฉันเอาไว้ “คะ”
“เอามันมาทำในห้องพี่ได้ไหม? พี่คิดถึงน้อง”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่พยักหน้าให้พี่เขาแทนพี่เขาจึงปล่อยมือจากชายเสื้อนักศึกษาของฉัน ฉันเอารายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้มาทำในห้องพี่ภัคถึงแม้จะไม่มีการคุยกันเพราะต่างคนต่างสนใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ ฉันชอบนะอาจไม่ได้เป็นความรักที่หวานเหมือนคู่รักทั่วไปเพราะพี่ภัคเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันหลายปีอยู่ฉันเข้าใจเขาแหละมันเป็นอย่างงี้มานานแล้วซึ่งฉันก็ไม่ได้รึ้กขาดหายไปชอบจังความรู้สึกในตอนที่เรามีกันละกันหวังว่าพรุ่งนี้และในทุกๆวันฉันก็ยังมีพี่ภัคอยู่กับฉันตลอดไปนะ
ภาคภู
วินวิ่งเข้ามาแบบหน้าตาตื่นมันทำให้ผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือตกใจไปกับมันด้วย
“มึงกูได้ข่าวมาว่าพริ้มมันคบอีกคนอยู่”
ช็อกครับบอกเลยตอนนี้ผมช็อกมากทำไมพริ้มทำกับผมแบบนี้ตอนนี้เกิดคำถามมากมายเข้ามาในหัวเราเช่นตลอดเวลาที่คบกันมาเธอเคยรักผมจริงๆบ้างไหมเคยจริงจังกับผมจริงๆไหมเธอเห็นผมเป็นตัวแทนของไอ้คนนั้นไหมมันทำให้ผมโคตรเสียใจ
“เฮ้ยยมึงอย่าร้อง”
ผมไม่รู้ตัวเลยอยู่ๆไอ้วินมันก็พูดขึ้นมาผมจับที่หางตาตัวเองมันมีน้ำใสๆไหลออกมาจากตาผมนี่ผมร้องไห้หรอทำไมล่ะ
“มึงรู้ได้ไง”
ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเอาข่าวว่าพริ้มคบชู้มาจากไหน
“กูไปเห็นมากับตาว่าพริ้มอยู่กับผู้ชายอีกคนแล้วประเด่นคือไรรู้ปะผู้ชายคนนั้นแม่งใส่ชุดกาวเป็นหมอเลยครับมึง”
“เชี่ยยยยรุ่นหมอเลยหรอวะ“
“ใจเย็นอย่าคิดไกลหน้ายังไม่แก่ยังแบบดูโตกว่าพวกเราประมาณ 4-5 ปีเอง
อ๋อผมรู้แหละไอ้ภัคแน่ๆผมเคยเห็นเบอร์มันโทรมาหาพริ้มอยู่แต่ตอนนั้นพริ้มบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักเฉยๆไม่ได้อะไรกันตอนนั้นผมก็เชื่อใจน้องเขานะแบบไม่คิดว่าน้องเขาจะมีชู้วะผมว่าผมไปหาไอ้ภัคที่คอนโดมันดีกว่าผมรู้ว่าคอนโดมันอยู่ไหนแต่ถ้าไปแล้วเจอพริ้มไม่ดีแน่ๆโทรถามพริ้มก่อนดีกว่าว่าพริ้มอยู่ไหนโทรไม่นานพริ้มก็รับสาย
“พริ้มน้องอยู่ไหน?”
“อยู่ซุปเปอร์นัองมาซื้อของเข้าหอค่ะ”
เข้าหอหรือเข้าคอนโดวะ
“พี่มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“เปล่าๆจะกลับกี่โมง”
“น่าจะเย็นๆๆนะพี่คือน้องยังไม่ถึงเลยตอนนี้รถติดอยู่เลย”
“ครับ”
จบผมวางสายจากเธอแล้วรีบไปออกรถไปคอนโดที่ไอ้ภัคมันอยู่ผมจะไปยำมันผมจะไม่ถามว่าพริ้มไปคบมันทำไมหรือไปทำร้ายพริ้มเพราะพริ้มผมรักเธอมากเกินกว่าที่ผมจะทำร้ายเธอได้ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการทำร้ายร่างกายเผลอเเปปเดียวผมมาถึงคอนโดที่ไอภัคมันอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่คอนไหมถ้ามันไม่อยู่ผมคงมาเสียเที่ยวขอให้มันอยู่เถอะผมเข้าไปถามพนักงานว่าคนชื่อภัคที่เป็นหมออยู่ห้องอะไรพนักงานเขาคงเห็นว่าผมหล่อมั้งเลยบอกผมมาตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องของไอ้ภัคแล้วผมเคาะประตูห้องมันไม่นานมันก็เปิดประตูออกมาหล่อดีแต่ไม่เท่าผมหน้าหวานเกินพริ้มชอบไปได้ไงวะ
“คุณเป็นใครครับมีธุระอะไรกับผมครับ?”
“ถามเรื่องพริ้ม”
ไอ้ภัคหน้าเสียทันทีเมื่อผมพูดชื่อพริ้มออกมา
“พริ้มทำไมหรอครับ?”
มันตอบออกมาอย่างหน้าด้านๆจึงทำให้ผมทนไม่ไหว ผมกระชากคอเสื้อมันแล้วต่อยไปทีนึงจนมันเซล้มลง
“มึงจะเอาไงว่ะ!!!”
ผมตระโกนพูดอย่างรุนแรง
“อะไรว่ะแล้วมึงจะเอาไงอยู่ๆก็เข้าห้องคนอื่นมาแบบนี้แล้วยังมาหาเรื่องกันอีก” มันพูดตอบกลับผม
“มึงอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยเหอะวะ มึงใช่ไหมที่แอบคบกับพริ้ม!!”ผมตะคอกใส่มัน
“แล้วไงหรอ?ก็พริ้มเค้ารักกูไง” มันตอบกวนผม
“มึง!!!”
ผมโมโหและโกรธจัดและจึงเห็นมีดที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆและหยิบมันขึ้นมาด้วยความโกรธมากผมจึงเผลอแทงมันเข้าไปที่ท้องจากนั้นมันทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น
“เฮ้ย!!”
ผมทำตัวไม่ถูกเห็นเลือดมันไหลกองเต็มกับพื้นผมรีบวิ่งออกมาจากห้องของมันและวิ่งไปที่รถของผมและรีบออกรถขับกลับคอนโดตัวเอง
ภาคพริ้ม
หลังจากที่ฉันกลับมาจากซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตฉันว่าจะไปหาพี่ภัคที่คอนโดพอมาถึงคอนโดพี่ภัคฉันจะเคราะห์ประตูแต่พี่ภัคไม่มาเปิดฉันจึงจะเปิดประตูแต่ประตูไม่ได้ล็อคฉันเลยสงสัยแต่ก็เปิดเข้าไปแล้วเจอกับพี่ภัคที่นอนอยู่บนพื้นตรงนั้นมีเลือดเต็มไปหมดฉันตกใจมากและรีบวิ่งเข้าไปหาพี่ภัค
“พี่ภัค!!!!”
ฉันเรียกสะกิดพี่ภัคแต่ก็ไร้วี่แววในการตอบฉันรนมากและทำอะไรไม่ถูกจึงรีบโทรแจ้งตำรวจหลังจากที่ฉันโทรแจ้งตำรวจตำรวจมาถึงก็พบมีดที่วางอยู่ข้างๆพี่ภัคตำรวจจึงมาบอกกับฉัน
“ผมพบมีดนี้ที่ข้างๆศพแล้วจะเก็บไว้เป็นหลักฐานพิสูจน์กับการตายของเขานะครับ”
ฉันฟังที่ตำรวจพูดแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างโศรกเศร้า จากนั้นฉันกลับมาที่ห้องแล้วก็นึกได้ว่าที่คอนโดมีกล้องวงจรปิดจึงวิ่งไปหาคนที่ดูแลคอนโดและขอดูกล้องวงจรปิด ฉันวิ่งมาถึงและถาม
“ฉันขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยได้ไหมคะ”
พอหลังจากที่ฉันพูดเสร็จคนที่ดูแลคอนโดนั้นก็พาฉันมาที่ห้องที่มีกล้องวงจรปิดของคอนโดฉันให้เขาย้อนดูไปถึงตอนที่เกิดเหตุและฉันก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่คาดคิดและคนคนนั้นก็คือ
“พี่ภู!!!!!”
ฉันช็อกไปและตกใจมากๆและฉันก็ไม่คิดว่าพี่ภูจะทำถึงขนาดนี้ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะฆ่าคนได้ลงขนาดนี้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาแต่มันก็ร้องไม่ออกฉันเหมือนคนเหม่อลอยและจากนั้นฉันก็ดับลงและทุกอย่างมืดไปหมด ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตอนนี้อยู่ที่ห้องแล้วฉันมองไปรอบๆก็ไม่พบกับใครอีกเลยฉันพยายามจะไม่นึกถึงเรื่อง ตอนนี้ฉันเหมือนไม่เหลือใครทั้งพี่ภัคและพี่ภู
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
ฉันโทรหาพี่ภูแต่ปลายสายนั้นติดต่อไม่ได้เลยฉันทักไปหาทั้ง เฟสบุ๊คไลน์อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ แต่พี่เขาก็ไม่ตอบอีกทั้งยังปิดบัญชีไปแล้วและฉันไม่รู้จะทำยังไงฉันจึงตัดสินใจปล่อยทุกอย่างและลืมเรื่องราวในวันนี้และเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นอดีตของฉันตลอดไป….
หลังจากวันนั้นวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นได้ผ่านมาร่วมนับปีกว่าๆได้ฉันได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่และเรื่องราวในวันนั้นที่ฉันตัดสินใจเลิกลากับพี่ภูและเราทั้งสองไม่ได้ติดต่อหากันอีกเลยหลังจากเหตุการณ์วันนั้นฉันก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับพี่ภูอีกเลยแต่ฉันก็พอได้ข่าวพี่ภูมาบ้างว่าพี่เขาติดคุกจากเหตุการณ์ในเรื่องวันนั้น ฉันรู้สึกผิดในทุกๆเรื่องเช่นเดียวกันทั้งเรื่องที่ฉันแอบคบกับพี่ภัคทั้งๆที่ยังเป็นแฟนพี่ภูอยู่ฉันก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เหมือนกันแต่หลังจากนี้ฉันก็ได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งฉันพยายามทิ้งทุกอย่างและมาเริ่มต้นใหม่เป็นคนใหม่และฉันคิดว่าการที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวมันน่าจะดีกว่าที่มีความรักเช่นกัน…
อยู่ๆคนที่กำลังพูดถึงอยู่ก็มาพี่ภูแฟนของฉัน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคิดอะไรนิดหน่อยค่ะ”
งั้นเราไปกันเถอะฉันหิวแล้ว พี่ภูพูดแล้วจับมือฉันเดินออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่วันนี้ฉันมีเดทกับพี่เขาพี่เขาบอกจะพาไปกินไอติมที่พึ่งเปิดใหม่นานๆทีจะได้เจอกันเพราะพี่เค้าก็อยู่ปี 3 แล้วเห็นบ่นว่างานเยอะมากน่าสงสารจัง
วิศวะต้องเรียนตั้ง 5 ปีหันกลับมาดูตัวเองเรียนนิเทศ 4 ปีเองแต่จริงๆมันไม่เองนะตั้ง 4 ปีแต่ถ้าเทียบกับที่พี่เขาเรียนอะนะพี่ภูเปิดประตูรถให้ฉันแล้วเดินไปนั่งที่ฝั่งคนขับพอพี่เค้าออกรถเราก็คุยกันนิดหน่อยเพราะไม่ได้เจอกันนานแต่ด้วยการขับรถต้องใช้สมาธิฉันก็ไม่ได้จะรบกวนพี่เค้ามากขับรถมาประมาณครั่งชั่วโมงก็ถึงมันเป็นร้านน่ารักๆที่ตกแต่งด้วยโทนหวานๆมีที่ถ่ายรูปสวยๆเหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก
“ชอบไหมครับ?”
พี่เขาหันมาถามฉันเมื่อเราทั้ง 2 คนเข้ามานั่งในร้านและสั่งของหวานกับพนักงานเสร็จแล้ว
“ชอบมากเลยค่ะ พี่รู้จักร้านน่ารักๆแบบนี้ได้ไงคะ?”
“พี่เห็นเค้าแชร์ๆกันอะเห็นเค้าบอกผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบฉันว่าเธอน่าจะชอบเลยพอมา”
ใช่ร้านนี้เป็นร้านที่พึ่งเปิดได้ไม่นานแต่ก็มีรีวิวมากมายในอินเตอร์เน็ตซึ่งฉันก็เคยมาแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่ได้มากับพี่ภูนะแต่มากับพี่ภัคเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองแต่คงไม่บอกพี่ภูหรอกว่าเคยมาแล้ว
“น่ารักดีนะคะพริ้มก็พึ่งจะเคยมากับพี่ภูเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ”
ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้พี่เขาไปพอของหวานมาเสิร์ฟฉันยื่นโทรศัพท์ให้พี่ภูเหมือนพี่เค้าจะรู้หน้าที่นะเขาหัวเราะในลำคอแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉันและเตรียมถ่ายรูปให้ฉัน
“1 2 3”
พี่ภูยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน ฉันรับโทรศัพท์มารูปที่พี่เค้าถ่ายให้ฝีมือการถ่ายรูปของพี่เค้าถือว่าดีอยู่เลยนะแบบมุมได้ฉันลงรูปในไอจีและแท็กพี่เค้าจากนั้นก็วางโทรศัพท์และเริ่มลงมือทานของหวานที่พี่เขาพามากินพี่เขาเองก็กินด้วยผู้ชายกับของหวานน่ารักจังฉันมองพี่เค้าไปกินไปยิ้มไปจนพี่เค้าน่าจะรู้ตัวแหละเลยเงยหน้ามาจากไอติมที่กำลังกินอยู่
“มีอะไรรึเปล่ามองหน้าพี่แล้วยิ้มนี่คือ..”
ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่ทานไอติมของตัวต่อพอฉันทานเสร็จเราทั้งสองคนก็ออกจากร้านและพี่ภูก็ไปส่งฉันที่คอนโดแถวๆมหาลัยและพอถึงคอนโดของฉันเราทั้งคู่บอกลากันจากนั้นฉันก็รีบเดินขึ้นคอนโดและไปหาพี่ภัคที่อยู่องตรงข้ามกันฉันรีบเปิดประตูห้องของพี่ภัคไปก็เจอพี่ภัคนั่งอยู่ที่โซฟาอยู่หน้าทีวีเหมือนกำลังรอใครอยู่ฉันเดินเบาๆไม่ให้รู้ว่าฉันมาแล้วพอใกล้ไปถึงฉันก็แกล้งทำให้เขาตกใจแต่เขาไม่ตกใจเลย
”ทำไมพี่ไม่ตกใจเลย หนูอุส่าห์ทำตัวเงียบๆแล้วนะ”
“พี่อ่านหนังสืออยู่ครับ”
พี่ภัคพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆฉันจึงโงกหน้าไปดูก็เจอกับกองหนังสือมากมายวางอยู่ตรงหน้าเราทั้งสองคนก็เข้าใจแหละว่าพี่เค้าเป็นหมอต้องอ่านหนังสือต้องศึกษาเคสอีกมากมายเพราะแค่เวลา 6 ปีที่เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคงไม่พอหรอกเพราะทุกๆอาชีพไม่มีใครเก่งเป็นตั้งแต่เริ่มต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ “สู้ๆนะคะ”
ฉันพูดแล้วยิ้มให้พี่เค้าไปฉันช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอกเรียนก็เรียนกันคนละสายจะให้มานั่งอ่านด้วยกันหรือช่วยพี่เขาฉันไม่ถนัดจริงๆขอให้กำลังใจอย่างนี้แล้วกัน
“กินอะไรมายังครับ หิวไหมพี่ทำอะไรให้กินไหม?”
พี่ภัคหันมาถามฉันหลังจากที่พี่เขาอ่านหนังสืออยู่
“ไม่หิวค่ะ”
“ทำไมไม่หิวครับไปกินอะไรกับใครมา?”
ตอบว่าอะไรดีอะบอกความจริงไปเลยแล้วกัน
“ไปกินไอติมกับพี่ภูมาค่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆเพราะจริงๆก็เกรงใจเขาแหละพี่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนนินะถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกใครก็เหอะ
“หรอครับ”
พี่เขาพูดน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้ได้เลยว่าแอบน้อยใจแน่ๆงอนแล้วแน่ๆ
“งอนหรอคะ?”
“พี่ไม่มีสิทธิ์ไปงอนหรอกครับเพราะพี่ไม่ใช่แฟนจริงๆของเรานิ”แนะมีแอบแซะกันด้วย
“โอ๋อย่าน้อยใจไปเลยค่ะยังไงหนูก็รักพี่นะ”
“เมื่อไร่จะเลิกกับมันแล้วมาคบพี่คนเดียวครับเราแอบคบกันมานานแล้วนะ”
คำถามของพี่เขาทำฉันชะล่าใจเล็กน้อยแต่ก็จริงเราก็คบกันมานานแล้วถึงจะน้อยกว่าพี่ภูก็เถอะแต่ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างพี่ภูหรือพี่ภัคฉันก็เลือกไม่ได้อยู่ดีฉันเป็นผู้หญิงแบบนี้ไม่สามารถเลือกอะไรได้ขนาดมีแฟนยังต้องมี 2 คนเลย...
“พี่ล้อเล่นครับอย่าเครียดนะ พี่รอน้องได้ครับ”
พี่ภูหันมาพูแล้วหันกลับไปสนใจหนังสือกองโตของพี่เขาต่อ
“แล้วพี่ทานอะไรหรือยังคะ?”
“ยังเลยครับรอคนมาถามแล้วให้คนถามเป็นทำให้อยู่ครับ” ไม่น่าถามเลยพริ้ม
“อยากให้หนูทำให้ก็บอกกันดีๆสิคะ แหม”
“ครับอยากให้ทำอาหารให้ทานครับแล้วน้องพริ้มจะทำให้พี่ได้ไหมคะ?”
มาพูดคะขาฉันก็เขินนะเนี่ยถึงแม้ว่าพี่เขาจะเป็นหมอแต่พี่เขาก็มีมุมหวานๆน่ารักๆเหมือนคนอื่นๆเหมือนกันตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนที่เงียบๆนะเนี่ยฉันลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่มาทำอะไรให้พี่เขาทาน....ทำอะไรดีคำถามแรกพุดออกมาจากความคิดจริงๆพี่เขาก็ทานอะไรก็ได้เพราะพี่เขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมากในการทานอาหารอยู่แล้วงั้นทำอะไรง่ายๆดีกว่าเช่น ข้าวพัดไก่ พี่เขาก็ชอบสั่งเวลาไปทานข้าวอยู่บ่อยๆทำค่อยๆทำข้าวพัดไปเรื่อยๆผ่านไปครึ่งชั่วโมงฉันก็ทำเสร็จพอออกมายังเห็นพี่เค้านั่งจมกองหน้าหนังสืออยู่เลยฉันเลยเดินไปจัดโต๊ะเตรียมของให้เรียบร้อยว่าจะมาเรียกพี่เขาทีหลังพอฉันจัดโต๊ะเสร็จฉันก็ยังเห็นพี่เขานั่งอ่านหนังสืออยู่จะเรียกดีไหมเนี่ยแต่ถ้าไม่เรียกอาหารที่ทำมาร้อนๆมันจะเย็นซะก่อนเรียกก็ได้ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆพี่เขาพูดเริ่มเข้าไปใกล้ๆฉันว่าพี่เขาไม่ได้อ่านหนังสือแล้แหละพี่เขาหลับอยู่ตั้งหากตอนหลับยิ่งน่ารักฉันหยิกแก้มพี่เขาเบาๆแต่พี่เขากลับลืมตาแล้วใช้มือของพี่เขาจับมือฉันเอาไว้
“ไม่ได้หลับอยู่หรอคะ?”
ฉันก็ถามอะไรโง่ๆถ้าพี่เขาหลับอยู่พี่เขาคงไม่มาจับมือฉันแบบนี้หรอก
“ยังครับพี่แค่พักสายตาเฉยๆพี่ได้กลิ่นข้าวพัดหอมๆพี่ก็ตื่นแล้วครับ”
เห็นไหมว่าพี่เขาชอบข้าวพัดแค่ไหนนี่ยังไม่ได้บอกว่าทำอะไรให้ทานนะแค่ได้กลิ่นยังรู้เลย
“งั้นพี่ก็ลุกสิคะจะได้ไปทานข้าวกันค่ะ”
พี่เขาไม่ตอบอะไรแต่หลับตาอยู่แล้วเอามือฉันไปรองแทนหมอนแทนวะงั้นอ้าวงงไหนบอกจะทานข้างทำไมถึงมานอนทับมือคนอื่นเขาแบบนี้นะ
“พี่ตื่นมาเลยค่ะเดี๋ยวข้าวพัดที่หนูทำมันจะเย็นแล้วไม่อร่อยนะคะ”
“ครับๆลุกก็ได้ครับพี่”
เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วหัวเราะในลำคอก่อนจะจูงมือฉันให้เดินตามเขาเข้าไปในส่วนของห้องครัวก่อนที่เขากะนั่งตรงเก้าอี้แล้วเริ่มทานอาหารที่ฉันเป็นคนทำให้อยู่ในระหว่างนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆงสิ้นเพราะพี่ภัคเป็นคนที่ชอบทานอาหารเงียบๆมากกว่านั่งคุยกันตอนแรกๆฉันก็ยังไม่ชินแต่ตอนนี้ฉันชินแล้วแหละพี่เขานั่งกิน 15 นาทีก็หมดแล้วจึงหันมาบอกฉันว่า
“อร่อยมากครับ”
พูดแล้วยิ้มให้หนึ่งที
“ค่ะ” “พี่จะทำอะไรต่อคะ”
“เดี๋ยวพี่อ่านหนังสือต่อครับ”
“งั้นหนูกลับห้องไปทำรายงานของหนูก่อนนะคะ”
ฉันพูดแล้วเตรียมจะเดินออกมาจากห้องพี่ภัคเพื่อกลับห้องของตัวเองแต่พี่ภัคถึงชายเสื้อนักศึกษาของฉันเอาไว้ “คะ”
“เอามันมาทำในห้องพี่ได้ไหม? พี่คิดถึงน้อง”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่พยักหน้าให้พี่เขาแทนพี่เขาจึงปล่อยมือจากชายเสื้อนักศึกษาของฉัน ฉันเอารายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้มาทำในห้องพี่ภัคถึงแม้จะไม่มีการคุยกันเพราะต่างคนต่างสนใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ ฉันชอบนะอาจไม่ได้เป็นความรักที่หวานเหมือนคู่รักทั่วไปเพราะพี่ภัคเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันหลายปีอยู่ฉันเข้าใจเขาแหละมันเป็นอย่างงี้มานานแล้วซึ่งฉันก็ไม่ได้รึ้กขาดหายไปชอบจังความรู้สึกในตอนที่เรามีกันละกันหวังว่าพรุ่งนี้และในทุกๆวันฉันก็ยังมีพี่ภัคอยู่กับฉันตลอดไปนะ
ภาคภู
วินวิ่งเข้ามาแบบหน้าตาตื่นมันทำให้ผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือตกใจไปกับมันด้วย
“มึงกูได้ข่าวมาว่าพริ้มมันคบอีกคนอยู่”
ช็อกครับบอกเลยตอนนี้ผมช็อกมากทำไมพริ้มทำกับผมแบบนี้ตอนนี้เกิดคำถามมากมายเข้ามาในหัวเราเช่นตลอดเวลาที่คบกันมาเธอเคยรักผมจริงๆบ้างไหมเคยจริงจังกับผมจริงๆไหมเธอเห็นผมเป็นตัวแทนของไอ้คนนั้นไหมมันทำให้ผมโคตรเสียใจ
“เฮ้ยยมึงอย่าร้อง”
ผมไม่รู้ตัวเลยอยู่ๆไอ้วินมันก็พูดขึ้นมาผมจับที่หางตาตัวเองมันมีน้ำใสๆไหลออกมาจากตาผมนี่ผมร้องไห้หรอทำไมล่ะ
“มึงรู้ได้ไง”
ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเอาข่าวว่าพริ้มคบชู้มาจากไหน
“กูไปเห็นมากับตาว่าพริ้มอยู่กับผู้ชายอีกคนแล้วประเด่นคือไรรู้ปะผู้ชายคนนั้นแม่งใส่ชุดกาวเป็นหมอเลยครับมึง”
“เชี่ยยยยรุ่นหมอเลยหรอวะ“
“ใจเย็นอย่าคิดไกลหน้ายังไม่แก่ยังแบบดูโตกว่าพวกเราประมาณ 4-5 ปีเอง
อ๋อผมรู้แหละไอ้ภัคแน่ๆผมเคยเห็นเบอร์มันโทรมาหาพริ้มอยู่แต่ตอนนั้นพริ้มบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักเฉยๆไม่ได้อะไรกันตอนนั้นผมก็เชื่อใจน้องเขานะแบบไม่คิดว่าน้องเขาจะมีชู้วะผมว่าผมไปหาไอ้ภัคที่คอนโดมันดีกว่าผมรู้ว่าคอนโดมันอยู่ไหนแต่ถ้าไปแล้วเจอพริ้มไม่ดีแน่ๆโทรถามพริ้มก่อนดีกว่าว่าพริ้มอยู่ไหนโทรไม่นานพริ้มก็รับสาย
“พริ้มน้องอยู่ไหน?”
“อยู่ซุปเปอร์นัองมาซื้อของเข้าหอค่ะ”
เข้าหอหรือเข้าคอนโดวะ
“พี่มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“เปล่าๆจะกลับกี่โมง”
“น่าจะเย็นๆๆนะพี่คือน้องยังไม่ถึงเลยตอนนี้รถติดอยู่เลย”
“ครับ”
จบผมวางสายจากเธอแล้วรีบไปออกรถไปคอนโดที่ไอ้ภัคมันอยู่ผมจะไปยำมันผมจะไม่ถามว่าพริ้มไปคบมันทำไมหรือไปทำร้ายพริ้มเพราะพริ้มผมรักเธอมากเกินกว่าที่ผมจะทำร้ายเธอได้ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการทำร้ายร่างกายเผลอเเปปเดียวผมมาถึงคอนโดที่ไอภัคมันอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่คอนไหมถ้ามันไม่อยู่ผมคงมาเสียเที่ยวขอให้มันอยู่เถอะผมเข้าไปถามพนักงานว่าคนชื่อภัคที่เป็นหมออยู่ห้องอะไรพนักงานเขาคงเห็นว่าผมหล่อมั้งเลยบอกผมมาตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องของไอ้ภัคแล้วผมเคาะประตูห้องมันไม่นานมันก็เปิดประตูออกมาหล่อดีแต่ไม่เท่าผมหน้าหวานเกินพริ้มชอบไปได้ไงวะ
“คุณเป็นใครครับมีธุระอะไรกับผมครับ?”
“ถามเรื่องพริ้ม”
ไอ้ภัคหน้าเสียทันทีเมื่อผมพูดชื่อพริ้มออกมา
“พริ้มทำไมหรอครับ?”
มันตอบออกมาอย่างหน้าด้านๆจึงทำให้ผมทนไม่ไหว ผมกระชากคอเสื้อมันแล้วต่อยไปทีนึงจนมันเซล้มลง
“มึงจะเอาไงว่ะ!!!”
ผมตระโกนพูดอย่างรุนแรง
“อะไรว่ะแล้วมึงจะเอาไงอยู่ๆก็เข้าห้องคนอื่นมาแบบนี้แล้วยังมาหาเรื่องกันอีก” มันพูดตอบกลับผม
“มึงอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยเหอะวะ มึงใช่ไหมที่แอบคบกับพริ้ม!!”ผมตะคอกใส่มัน
“แล้วไงหรอ?ก็พริ้มเค้ารักกูไง” มันตอบกวนผม
“มึง!!!”
ผมโมโหและโกรธจัดและจึงเห็นมีดที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆและหยิบมันขึ้นมาด้วยความโกรธมากผมจึงเผลอแทงมันเข้าไปที่ท้องจากนั้นมันทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น
“เฮ้ย!!”
ผมทำตัวไม่ถูกเห็นเลือดมันไหลกองเต็มกับพื้นผมรีบวิ่งออกมาจากห้องของมันและวิ่งไปที่รถของผมและรีบออกรถขับกลับคอนโดตัวเอง
ภาคพริ้ม
หลังจากที่ฉันกลับมาจากซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตฉันว่าจะไปหาพี่ภัคที่คอนโดพอมาถึงคอนโดพี่ภัคฉันจะเคราะห์ประตูแต่พี่ภัคไม่มาเปิดฉันจึงจะเปิดประตูแต่ประตูไม่ได้ล็อคฉันเลยสงสัยแต่ก็เปิดเข้าไปแล้วเจอกับพี่ภัคที่นอนอยู่บนพื้นตรงนั้นมีเลือดเต็มไปหมดฉันตกใจมากและรีบวิ่งเข้าไปหาพี่ภัค
“พี่ภัค!!!!”
ฉันเรียกสะกิดพี่ภัคแต่ก็ไร้วี่แววในการตอบฉันรนมากและทำอะไรไม่ถูกจึงรีบโทรแจ้งตำรวจหลังจากที่ฉันโทรแจ้งตำรวจตำรวจมาถึงก็พบมีดที่วางอยู่ข้างๆพี่ภัคตำรวจจึงมาบอกกับฉัน
“ผมพบมีดนี้ที่ข้างๆศพแล้วจะเก็บไว้เป็นหลักฐานพิสูจน์กับการตายของเขานะครับ”
ฉันฟังที่ตำรวจพูดแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างโศรกเศร้า จากนั้นฉันกลับมาที่ห้องแล้วก็นึกได้ว่าที่คอนโดมีกล้องวงจรปิดจึงวิ่งไปหาคนที่ดูแลคอนโดและขอดูกล้องวงจรปิด ฉันวิ่งมาถึงและถาม
“ฉันขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยได้ไหมคะ”
พอหลังจากที่ฉันพูดเสร็จคนที่ดูแลคอนโดนั้นก็พาฉันมาที่ห้องที่มีกล้องวงจรปิดของคอนโดฉันให้เขาย้อนดูไปถึงตอนที่เกิดเหตุและฉันก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่คาดคิดและคนคนนั้นก็คือ
“พี่ภู!!!!!”
ฉันช็อกไปและตกใจมากๆและฉันก็ไม่คิดว่าพี่ภูจะทำถึงขนาดนี้ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะฆ่าคนได้ลงขนาดนี้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาแต่มันก็ร้องไม่ออกฉันเหมือนคนเหม่อลอยและจากนั้นฉันก็ดับลงและทุกอย่างมืดไปหมด ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตอนนี้อยู่ที่ห้องแล้วฉันมองไปรอบๆก็ไม่พบกับใครอีกเลยฉันพยายามจะไม่นึกถึงเรื่อง ตอนนี้ฉันเหมือนไม่เหลือใครทั้งพี่ภัคและพี่ภู
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
ฉันโทรหาพี่ภูแต่ปลายสายนั้นติดต่อไม่ได้เลยฉันทักไปหาทั้ง เฟสบุ๊คไลน์อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ แต่พี่เขาก็ไม่ตอบอีกทั้งยังปิดบัญชีไปแล้วและฉันไม่รู้จะทำยังไงฉันจึงตัดสินใจปล่อยทุกอย่างและลืมเรื่องราวในวันนี้และเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นอดีตของฉันตลอดไป….
หลังจากวันนั้นวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นได้ผ่านมาร่วมนับปีกว่าๆได้ฉันได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่และเรื่องราวในวันนั้นที่ฉันตัดสินใจเลิกลากับพี่ภูและเราทั้งสองไม่ได้ติดต่อหากันอีกเลยหลังจากเหตุการณ์วันนั้นฉันก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับพี่ภูอีกเลยแต่ฉันก็พอได้ข่าวพี่ภูมาบ้างว่าพี่เขาติดคุกจากเหตุการณ์ในเรื่องวันนั้น ฉันรู้สึกผิดในทุกๆเรื่องเช่นเดียวกันทั้งเรื่องที่ฉันแอบคบกับพี่ภัคทั้งๆที่ยังเป็นแฟนพี่ภูอยู่ฉันก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เหมือนกันแต่หลังจากนี้ฉันก็ได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งฉันพยายามทิ้งทุกอย่างและมาเริ่มต้นใหม่เป็นคนใหม่และฉันคิดว่าการที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวมันน่าจะดีกว่าที่มีความรักเช่นกัน…
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ