เซ้นส์สัมผัสพิศวง
-
เขียนโดย nooannza
วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.05 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,779 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 10.37 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ละครเร่มรณะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ กานต์เป็นพนักงานออฟฟิตที่หนึ่งในกรุงเทพฯ ใครๆก็มองว่าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแต่ความไม่ธรรมดาของเธอคือเธอสามารถเห็นวิญญาณและสื่อสารกันได้เหมือนกับที่มนุษย์สื่อสารกัน แต่มีอย่างหนึ่งที่เหนือความคาดหมายคือทุกครั้งที่วิญญาณเหล่านั้นมาแสดงตัวให้เธอเห็นเธอไม่ได้แค่พูดคุยแต่สถานที่ๆเธออยู่กับเป็นสถานที่สุดท้ายที่เหล่าวิญญาณพวกนั้นสิงสถิตย์อยู่ไม่สามารถไปไหนได้ ซึ่งเธอเริ่มเห็นวิญญาณและสิ่งเร้นลับนี้มาตั้งแต่ตอนพ่อเธอเสีย บางครั้งเธอจะได้ยินเสียงแว่วมาเหมือนคนกระซิบบอกอะไรบางอย่าง บางครั้งเมื่อเธอสัมผัสกับสิ่งของเธอก็จะเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เหล่าวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือจะเสียชีวิตลง ราวกับว่าเบื้องบนได้กำหนดมาแล้วว่าเธอคือคนพิเศษ และความพิเศษของเธอทำให้ผู้ชายที่คบเธอขอเลิกเธอทันทีเพราะคิดว่าเธอสติไม่ดี แต่แล้วซันชายหนุ่มที่ขี้เล่นชอบแกล้งก็มาขอคบกับเธอ แต่กานต์ก็ขอปฏิเสธเพราะกลัวว่าประวัติจะซ้ำรอย แต่ซันไม่ใช่คนแบบนั้นเขายังคงรักกานต์ทั้งๆที่รู้ว่าทุกครั้งที่กานต์เข้าช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้น เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอดแทบทุกครั้ง กานต์เห็นถึงความรักของซันจึงตกลงใจแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน วันหนึ่งกานต์ได้พบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนเล่นน้ำอยู่หน้าบ้านของเธอ เธอจึงร้องทักเด็กคนนั้นไปด้วยความสงสัยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้มาเล่นอยู่ในบ้านของเธอได้
“หนูจ๊ะ หนูเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ในบ้านของน้าได้หละ หนูมาหาใครหรอจ๊ะ”
“แม่จ้า หนูขอมาอยู่ด้วยคนนะ” เด็กชายคนนั้นเอ่ยทักขึ้น กานต์ตกใจทำไมเด็กคนนั้นถึงเรียกเธอว่าแม่ แล้วจะมาขออยู่กับเธอได้ยังไง
“หนูน้าคงให้หนูมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอก พ่อแม่หนูอยู่ไหนเดี๋ยวน้าพาไปส่งไหม” กานต์ตอบปฏิเสธเด็กชายคนนั้นไป เธอเพิ่งสังเกตุเห็นว่าเด็กชายคนนั้นตัวซีดมีน้ำไหลตามตัวไปหมดราวกับว่าเด็กคนนี้ตกน้ำหรือเล่นน้ำหน้าบ้านจนเปียกปอน
“แม่จ้าถ้าตอนนี้หนูมาอยู่ด้วยไม่ได้ หนูของเล่นกับแม่ก่อนได้ไหมจ๊ะ หนูเหงา” เด็กชายคนนี้เอ๋ยขึ้นพร้อมจับที่มือกานต์ กานต์สัมผัสได้ทันทีว่านี้ไม่ใช่คนแต่เป็นวิญญาณเด็กที่มาขออยู่ด้วย
“น้าขอโทษนะลูกแต่น้ารีบไปทำงาน” กานต์ตอบเสียงสั่นๆ เธอทั้งกลัวทั้งสงสารเด็กชายคนนี้เป็นอย่างมาก
“ไม่เอา หนูไม่ให้ไป” เด็กชายตะโกนเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
“หนูน้ารู้นะว่าหนูไม่ใช่คน หนูต้องการอะไรบอกน้าดีๆนะอย่าทำแบบนี้เลย” กานต์ปลอบเด็กชายคนนั้น มือทั้งสองข้างของเธอจับที่ไหลแล้วเธอก็ลูบหัวเด็กชายคนนั้นด้วยความอ่อนโยน จนเด็กชายคนนั้นอารมณ์สงบลง
“หนูบอกน้าได้ไหมว่าหนูเป็นอะไรถึงได้ตายสภาพเปียกปอนไปแบบนี้”
เมื่อกานต์พูดจบเด็กชายคนนี้ก็ได้นำตัวเธอไปยังอีกมิติหนึ่ง จากที่ดำมืดสนิดก็ค่อยๆสว่างเป็นเรื่องราวผ่านภาพโดยไร้ซึ่งเสียงสนทนาจากเด็กชายคนนั้น ซึ่งสิ่งที่เธอเห็นคือเด็กชายคนนี้เป็นนักแสดงเร่ที่มากับโรงละครเร่ที่จะตระเวนไปยังที่ต่างๆ โดยหน้าม่านเด็กชายคนนี้ได้สร้างความสุขให้กับผู้คนมากๆ แต่เบื้องหลังเด็กชายคนนี้ได้ถูกผู้ชายที่มีหนวดแบบ Handlebar ทรมานทั้งทุบ ตี บังคับสารพัด บางทีก็โดยไฟจากเทียนไขลนไปตามแขน ขา บางทีก็ไม่ได้กินข้าวเป็นวันๆ จนเด็กชายคนนี้เริ่มล้มป่วยไปแสดงไม่ไหวทำให้ผู้ชายที่มีหนวดคนนี้ทำโทษอย่างหนัก นั้นคือกดหัวเด็กคนนั้นจุ่มลงน้ำ เด็กชายดิ้นทุรนทุรายเพื่อหวังให้มีชีวิตรอด แต่แล้วลมหายใจสุดท้ายของเด็กชายก็หมดลง และเรื่องราวของเด็กชายก็ได้จบลง และกานต์ก็กลับมายังบ้านเธอเหมือนเดิม
“แม่จ้าช่วยหนูด้วยหนูทรมานเหลือเกิน เอาคนที่ทำร้ายหนูมาลงโทษให้ได้นะจ๊ะแม่ ตอนนี้แม่ยังไม่ต้องการหนูไม่เป็นไร หนูจะคอยแม่นะจ๊ะ” เด็กชายคนนั้นได้บอกกานต์ก่อนที่จะหายไป กานต์สะดุ้งตื่นขึ้น ตัวของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“นี้เราฝันไปหรอเนี่ย ทำไมถึงได้เหมือนจริงแบบนี้” กานต์หยิกแขนตัวเองว่าเพื่อเช็คดูว่าเธอกำลังฝันหรือตื่นอยู่
“คุณ เป็นอะไร ฝันร้ายหรอที่รักของผม” ซันตื่นขึ้นมาเห็นกานต์มีแต่เหงื่อและดูกลัวๆปนตกใจเล็กน้อย
“คะคุณ ฉันฝันว่ามีเด็กผู้ชายมาขออยู่ด้วย เด็กคนนี้เนื้อตัวเปียกปอนไปหมด เขาพาฉันไปดูเหตุการณ์ที่เขาถูกฆาตกรรมและขอให้ฉันช่วยเขา เพื่อหาคนที่ทำให้เขาตายมาลงโทษให้ได้” กานต์เล่าเหตุการณ์ต่างๆตามที่เธอเห็นมาให้สามีเธอฟัง
“ตามปกติคุณก็ช่วยเหลือพวกเขาอยู่แล้วนิ แล้วครั้งนี้ทำไมจะช่วยไม่ได้อีกหละ ผมว่านะมันก็ดีเหมือนกันจะได้หาคนผิดมาลงโทษไง ว่าแต่ที่เด็กคนนั้นมาขออยู่ด้วยคนตอบไปว่าอย่างไรหรอ” ซันต้องการให้กานต์ช่วยเหลือวิญญาณเด็กชายคนนั้นและอยากที่จะรู้คำตอบที่กานต์ได้ตอบเด็กชายคนนั้นไป
“ฉันตอบว่าไม่ได้คะ เด็กคนนั้นเลยตอบกลับมาว่าเขาจะคอยเมื่อฉันพร้อม” กานต์เล่าให้ซันฟัง ซันจึงยิ้มแล้วจับมือกานต์
“แสดงว่าเด็กคนนี้อยากเป็นลูกของเราจริงๆสินะ ผมว่าเรามาสืบกันดีกว่าว่าโรงละครเร่นี้เป็นของใครและไปแสดงที่ไหนบ้าง อย่างน้อยก็ถือซะว่าได้ช่วยเด็กคนนี้ในระดับหนึ่งนะ ว่าแต่คุณเห็นอะไรบ้างในความฝันนอกจากเด็กชายที่อยู่โรงละครเร่”
“อ๋อฉันนึกออกอย่างหนึ่งคะ ตั๋วเข้าชมละครเร่เป็นสีทองสวยเลยคะและถ้าจำไม่ผิดชื่อโรงละครเร่นี้ชื่อว่า มิสเตอร์โชว์ ค่ะและผู้ชายที่หนวดแบบ Handlebar ทารุณทุบตีสารพัดเลยคะ” กานต์เล่าให้ซันฟัง ทำให้ซันฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าโรงละครเร่ที่ว่านั้นเคยได้มาเปิดการแสดงเมื่อสองปีก่อนแถวบ้านเพื่อนซัน และซันก็ได้ไปดูการแสดงนี้ด้วย
ทั้งคู่ค้นหาข้อมูลต่างๆทางเน็ตและสิ่งที่ซันพบนั้นคือ โรงละครเร่นี้ได้ปิดการแสดงลงไปแล้วหลังจากที่ซันได้ไปชมการแสดงเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และข่าวในเน็ตยังแชร์กันให้ทั่วว่าชายไว้หนวดคนนี้ชื่อ จอร์นนี่ บลาว เป็นเจ้าของโรงละครเร่แห่งนี้และได้ทำการจับเด็กผู้ชายหน้าตาดีมาใช้แรงงานเยี่ยงสัตว์ตามโรงละครสัตว์ทั่วไป และหนึ่งในนั้นคือ เภา เด็กชายที่กานต์ฝันถึง กานต์และซันได้ออกเดินทางไปยังโรงละครเร่แห่งนี้ทันที ซึ่งโรงละครที่ว่านั้นได้เสื่อมโทรมลงเพราะขาดคนดูแล กานต์เดินไปที่กลางเต้นที่เป็นเวทีการแสดง มือของเธอสัมผัสไปโดนเสาเหล็กที่มีเชือกขึงอยู่กับเสาเหล็กอีกต้นทำให้เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้โรงละครเร่นี้เป็นโรงละครร้าง ภาพที่เธอเห็นคือเภาได้ออกมาโชว์การแสดงจนผู้คนตื่นตาตื่นใจ โดยไม่รู้เลยว่าเด็กที่ทำการแสดงอยู่นั้นได้เสียชีวิตลงไปแล้ว จนถึงช่วงที่ต้องมีคนเดินไต่เชือกจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แล้วอยู่ๆเด็กคนนั้นก็ตกลงมาทำให้ผู้คนแตกตื่นหวาดกลัวและไม่มีคนมาชมการแสดงในที่สุด จอร์นนี่ บลาวจึงโกรธแค้นวิญญาณของเภาเป็นอย่างมากและสาปแช่งไว้ว่าหากที่ตนเองยังไม่ตาย เภาจะไม่มีทางได้ไปเกิด
“คุณคะฉันรู้แล้วว่าทำไมที่นี้ถึงได้ร้างแบบนี้ เพราะเภาเด็กผู้ชายที่อยู่ในฝันของฉันทำให้ผู้คนหวาดกลัว ที่เขาไปเกิดไม่ได้เพราะจอร์นนี่ บลาวได้สาปแช่งเอาไว้ว่าหากที่เขายังไม่ตาย เภาจะไม่สามารถไปเกิดได้ แต่ที่ฉันสงสัยก็คือทำไมเภาถึงได้ขอเกิดเป็นลูกของเรา” กานต์เล่าสิ่งที่เธอเห็นให้ซันฟัง และตั้งปัญหาเอาไว้ให้ซันช่วยคิด
“ผมว่านะเภาคงรู้ว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้มาเกิด และที่เป็นคุณคงเป็นเพราะคุณคือคนที่สามารถช่วยเด็กคนนั้นได้จึงเจาะจงเป็นคุณ” ซันออกความคิดเห็นจากสิ่งที่ได้ฟังและได้ประติดประต่อเรื่องราว
“คุณคะ ฉันว่าตอนนี้เราตามหาคนที่ชื่อ จอร์นนี่ บลาวก่อนดีกว่าคะ” กานต์รีบบอกซันแล้ววิ่งไปที่ทางออกของโรงละครเร่
ทันใดนั้นทั้งกานต์และซันได้พบกับผู้ชายมีหนวด ซึ่งนั้นก็คือจอร์นนี่ บลาว
“พวกแกสองคนเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง” จอร์นนี่ บลาวชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งไปทางกานต์ กานต์ตกใจสุดขีด รีบวิ่งหนีไปอีกทางจนไปชนกับโต๊ะที่มีขวดทรงน้ำเต้าวางอยู่ตรงนั้น ทำให้ขวดดังกล่าวตกลงมาแตก ทันใดนั้นเองก็เกิดเป็นควันสีดำมืดลอยออกมาจากขวด และสิ่งที่ทั้งกานต์ ซัน และ จอร์นนี่ บลาวเจอนั้นคือ วิญญาณของเภาที่ถูกจอร์นนี่ บลาวกักขังเอาไว้
“ไม่นะ ไม่ เพราะแกสองคนเลยทำให้วิญญาณของไอเด็กนี้ออกมาได้ ถ้าไม่เป็นเพราะมันโรงละครของฉันคงไม่กลายเป็นโรงละครร้างแบบนี้” จอร์นนี่ บลาวโว้ยวาย
“แกมันชั่ว แกกักขังฉันตั้งแต่ตอนมีชีวิต จนตอนนี้ได้ตายไปแล้วแกก็ยังกักขังวิญญาณฉันอีก คนอย่างแกไม่ตายดีแน่” เภาแสดงอารมณ์โกรธ และรีบตรงไปที่จอร์นนี่ บลาวหวังจะบีบคอ
“อย่านะเภา ถ้าหนูทำร้ายเขาก็เท่ากับว่าหนูก่อเวรก่อกรรมอีก หนูอยากไปเกิดไม่ใช่หรอลูกงั้นหนูอย่าทำแบบนั้นเลยนะ น้า...เอ้ยแม่ขอร้อง เราจะได้เป็นแม่ลูกกันอยากที่หนูต้องการไง” กานต์ห้ามวิญญาณของเภาทันที เขารู้ดีว่าตอนนี้เภาต้องการอะไรมากที่สุด ถ้าจอร์นนี่ บลาวไม่ตาย เภาก็ไม่ได้ไปเกิด แต่การที่เภาทำร้ายคนอื่นก็เท่ากับว่าเภาจะใช้เวลาในการชดใช้เวรกรรมอีกนาน
“แน่นะจ๊ะแม่ แม่ให้หนูไปอยู่กับแม่ได้แล้วใช้ไหมจ๊ะ แต่ถ้าไอนี้ไม่ตายแล้วหนูจะได้ไปเกิดได้อย่างไรหละจ๊ะแม่” เภาถามกานต์ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ได้สิ แต่หนูต้องรอหน่อยนะ อย่างไรซะเวรกรรมที่เขาได้ทำไว้กับผู้อื่นคงมาถึงเขาในไม่ช้า ดูนั้นสิ ตัวของเขามีบาดแผลพุพองเหมือนคนโดนไฟคลอกตามเนื้อตัว ถือไม่มากก็เถอะ รวมไปถึงร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนคนขาดสารอาหาร และอาการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ เหมือนตอนที่หนูเคยเจอไงลูก ตอนนี้เขาได้ชดใช้เวรกรรมของเขาแล้ว”
“ไอเด็กบ้า กลับมานี้เดี๋ยวนี้นะ แกต้องเป็นทาสของฉันทั้งตอนเป็นและตอนตาย......” จอร์นนี่ บลาวยังพูดยังไม่จบประโยค อยู่ๆเขาก็ดิ้นทุรนทุรายจนหมดลมหายใจไปในที่สุด
“เขาตายไปแล้ว ลาก่อนนะครับแม่ แล้วคอยผมนะ ผมต้องไปแล้ว เจอกันนะครับคุณพ่อ คุณแม่” เภามองร่างที่ไร้วิญญาณของจอร์นนี่ บลาว และกล่าวลากานต์และซัน
“นี้เราช่วยเขาได้สำเร็จแล้วใช่ไหมคะคุณ” กานต์มองไปรอบๆโรงละครแห่งนี้
“ใช่ครับ คุณทำสำเร็จแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เภาจะได้ชดใช้กรรมในสิ่งที่เขาได้ทำไป อีกไม่นานเขาก็ได้ไปเกิดแล้วนะ คุณหมดห่วงได้แล้ว” ซันจับมือกานต์แน่น และพากันกลับบ้าน
ในทุกๆวันพระทั้งกานต์และซันจะพากันไปทำบุญถือศีลอุทิศส่วนบุญให้กับดวงวิญญาณที่เขาทั้งสองเคยให้ความช่วยเหลือเอารวมไปถึงเภา เด็กชายที่เคยเข้าฝันเพื่อขอมาอยู่ด้วย เวลาเนิ่นนานไปเท่าไหร่ไม่รู้และแล้วกานต์ก็ท้องเด็กในท้องของกานต์ไม่ใช่ใคร ก็เภานั้นแหละที่มาเกิดเป็นลูกของกานต์ กานต์และซันได้ตั้งชื่อลูกชายคนนี้ไว้ว่า เฟิร์ส แปลว่าที่หนึ่งและเลี้ยงดูเด็กชายคนนี้ด้วยความรักและความอบอุ่นตลอดมา.....
“หนูจ๊ะ หนูเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ในบ้านของน้าได้หละ หนูมาหาใครหรอจ๊ะ”
“แม่จ้า หนูขอมาอยู่ด้วยคนนะ” เด็กชายคนนั้นเอ่ยทักขึ้น กานต์ตกใจทำไมเด็กคนนั้นถึงเรียกเธอว่าแม่ แล้วจะมาขออยู่กับเธอได้ยังไง
“หนูน้าคงให้หนูมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอก พ่อแม่หนูอยู่ไหนเดี๋ยวน้าพาไปส่งไหม” กานต์ตอบปฏิเสธเด็กชายคนนั้นไป เธอเพิ่งสังเกตุเห็นว่าเด็กชายคนนั้นตัวซีดมีน้ำไหลตามตัวไปหมดราวกับว่าเด็กคนนี้ตกน้ำหรือเล่นน้ำหน้าบ้านจนเปียกปอน
“แม่จ้าถ้าตอนนี้หนูมาอยู่ด้วยไม่ได้ หนูของเล่นกับแม่ก่อนได้ไหมจ๊ะ หนูเหงา” เด็กชายคนนี้เอ๋ยขึ้นพร้อมจับที่มือกานต์ กานต์สัมผัสได้ทันทีว่านี้ไม่ใช่คนแต่เป็นวิญญาณเด็กที่มาขออยู่ด้วย
“น้าขอโทษนะลูกแต่น้ารีบไปทำงาน” กานต์ตอบเสียงสั่นๆ เธอทั้งกลัวทั้งสงสารเด็กชายคนนี้เป็นอย่างมาก
“ไม่เอา หนูไม่ให้ไป” เด็กชายตะโกนเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
“หนูน้ารู้นะว่าหนูไม่ใช่คน หนูต้องการอะไรบอกน้าดีๆนะอย่าทำแบบนี้เลย” กานต์ปลอบเด็กชายคนนั้น มือทั้งสองข้างของเธอจับที่ไหลแล้วเธอก็ลูบหัวเด็กชายคนนั้นด้วยความอ่อนโยน จนเด็กชายคนนั้นอารมณ์สงบลง
“หนูบอกน้าได้ไหมว่าหนูเป็นอะไรถึงได้ตายสภาพเปียกปอนไปแบบนี้”
เมื่อกานต์พูดจบเด็กชายคนนี้ก็ได้นำตัวเธอไปยังอีกมิติหนึ่ง จากที่ดำมืดสนิดก็ค่อยๆสว่างเป็นเรื่องราวผ่านภาพโดยไร้ซึ่งเสียงสนทนาจากเด็กชายคนนั้น ซึ่งสิ่งที่เธอเห็นคือเด็กชายคนนี้เป็นนักแสดงเร่ที่มากับโรงละครเร่ที่จะตระเวนไปยังที่ต่างๆ โดยหน้าม่านเด็กชายคนนี้ได้สร้างความสุขให้กับผู้คนมากๆ แต่เบื้องหลังเด็กชายคนนี้ได้ถูกผู้ชายที่มีหนวดแบบ Handlebar ทรมานทั้งทุบ ตี บังคับสารพัด บางทีก็โดยไฟจากเทียนไขลนไปตามแขน ขา บางทีก็ไม่ได้กินข้าวเป็นวันๆ จนเด็กชายคนนี้เริ่มล้มป่วยไปแสดงไม่ไหวทำให้ผู้ชายที่มีหนวดคนนี้ทำโทษอย่างหนัก นั้นคือกดหัวเด็กคนนั้นจุ่มลงน้ำ เด็กชายดิ้นทุรนทุรายเพื่อหวังให้มีชีวิตรอด แต่แล้วลมหายใจสุดท้ายของเด็กชายก็หมดลง และเรื่องราวของเด็กชายก็ได้จบลง และกานต์ก็กลับมายังบ้านเธอเหมือนเดิม
“แม่จ้าช่วยหนูด้วยหนูทรมานเหลือเกิน เอาคนที่ทำร้ายหนูมาลงโทษให้ได้นะจ๊ะแม่ ตอนนี้แม่ยังไม่ต้องการหนูไม่เป็นไร หนูจะคอยแม่นะจ๊ะ” เด็กชายคนนั้นได้บอกกานต์ก่อนที่จะหายไป กานต์สะดุ้งตื่นขึ้น ตัวของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“นี้เราฝันไปหรอเนี่ย ทำไมถึงได้เหมือนจริงแบบนี้” กานต์หยิกแขนตัวเองว่าเพื่อเช็คดูว่าเธอกำลังฝันหรือตื่นอยู่
“คุณ เป็นอะไร ฝันร้ายหรอที่รักของผม” ซันตื่นขึ้นมาเห็นกานต์มีแต่เหงื่อและดูกลัวๆปนตกใจเล็กน้อย
“คะคุณ ฉันฝันว่ามีเด็กผู้ชายมาขออยู่ด้วย เด็กคนนี้เนื้อตัวเปียกปอนไปหมด เขาพาฉันไปดูเหตุการณ์ที่เขาถูกฆาตกรรมและขอให้ฉันช่วยเขา เพื่อหาคนที่ทำให้เขาตายมาลงโทษให้ได้” กานต์เล่าเหตุการณ์ต่างๆตามที่เธอเห็นมาให้สามีเธอฟัง
“ตามปกติคุณก็ช่วยเหลือพวกเขาอยู่แล้วนิ แล้วครั้งนี้ทำไมจะช่วยไม่ได้อีกหละ ผมว่านะมันก็ดีเหมือนกันจะได้หาคนผิดมาลงโทษไง ว่าแต่ที่เด็กคนนั้นมาขออยู่ด้วยคนตอบไปว่าอย่างไรหรอ” ซันต้องการให้กานต์ช่วยเหลือวิญญาณเด็กชายคนนั้นและอยากที่จะรู้คำตอบที่กานต์ได้ตอบเด็กชายคนนั้นไป
“ฉันตอบว่าไม่ได้คะ เด็กคนนั้นเลยตอบกลับมาว่าเขาจะคอยเมื่อฉันพร้อม” กานต์เล่าให้ซันฟัง ซันจึงยิ้มแล้วจับมือกานต์
“แสดงว่าเด็กคนนี้อยากเป็นลูกของเราจริงๆสินะ ผมว่าเรามาสืบกันดีกว่าว่าโรงละครเร่นี้เป็นของใครและไปแสดงที่ไหนบ้าง อย่างน้อยก็ถือซะว่าได้ช่วยเด็กคนนี้ในระดับหนึ่งนะ ว่าแต่คุณเห็นอะไรบ้างในความฝันนอกจากเด็กชายที่อยู่โรงละครเร่”
“อ๋อฉันนึกออกอย่างหนึ่งคะ ตั๋วเข้าชมละครเร่เป็นสีทองสวยเลยคะและถ้าจำไม่ผิดชื่อโรงละครเร่นี้ชื่อว่า มิสเตอร์โชว์ ค่ะและผู้ชายที่หนวดแบบ Handlebar ทารุณทุบตีสารพัดเลยคะ” กานต์เล่าให้ซันฟัง ทำให้ซันฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าโรงละครเร่ที่ว่านั้นเคยได้มาเปิดการแสดงเมื่อสองปีก่อนแถวบ้านเพื่อนซัน และซันก็ได้ไปดูการแสดงนี้ด้วย
ทั้งคู่ค้นหาข้อมูลต่างๆทางเน็ตและสิ่งที่ซันพบนั้นคือ โรงละครเร่นี้ได้ปิดการแสดงลงไปแล้วหลังจากที่ซันได้ไปชมการแสดงเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และข่าวในเน็ตยังแชร์กันให้ทั่วว่าชายไว้หนวดคนนี้ชื่อ จอร์นนี่ บลาว เป็นเจ้าของโรงละครเร่แห่งนี้และได้ทำการจับเด็กผู้ชายหน้าตาดีมาใช้แรงงานเยี่ยงสัตว์ตามโรงละครสัตว์ทั่วไป และหนึ่งในนั้นคือ เภา เด็กชายที่กานต์ฝันถึง กานต์และซันได้ออกเดินทางไปยังโรงละครเร่แห่งนี้ทันที ซึ่งโรงละครที่ว่านั้นได้เสื่อมโทรมลงเพราะขาดคนดูแล กานต์เดินไปที่กลางเต้นที่เป็นเวทีการแสดง มือของเธอสัมผัสไปโดนเสาเหล็กที่มีเชือกขึงอยู่กับเสาเหล็กอีกต้นทำให้เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้โรงละครเร่นี้เป็นโรงละครร้าง ภาพที่เธอเห็นคือเภาได้ออกมาโชว์การแสดงจนผู้คนตื่นตาตื่นใจ โดยไม่รู้เลยว่าเด็กที่ทำการแสดงอยู่นั้นได้เสียชีวิตลงไปแล้ว จนถึงช่วงที่ต้องมีคนเดินไต่เชือกจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แล้วอยู่ๆเด็กคนนั้นก็ตกลงมาทำให้ผู้คนแตกตื่นหวาดกลัวและไม่มีคนมาชมการแสดงในที่สุด จอร์นนี่ บลาวจึงโกรธแค้นวิญญาณของเภาเป็นอย่างมากและสาปแช่งไว้ว่าหากที่ตนเองยังไม่ตาย เภาจะไม่มีทางได้ไปเกิด
“คุณคะฉันรู้แล้วว่าทำไมที่นี้ถึงได้ร้างแบบนี้ เพราะเภาเด็กผู้ชายที่อยู่ในฝันของฉันทำให้ผู้คนหวาดกลัว ที่เขาไปเกิดไม่ได้เพราะจอร์นนี่ บลาวได้สาปแช่งเอาไว้ว่าหากที่เขายังไม่ตาย เภาจะไม่สามารถไปเกิดได้ แต่ที่ฉันสงสัยก็คือทำไมเภาถึงได้ขอเกิดเป็นลูกของเรา” กานต์เล่าสิ่งที่เธอเห็นให้ซันฟัง และตั้งปัญหาเอาไว้ให้ซันช่วยคิด
“ผมว่านะเภาคงรู้ว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้มาเกิด และที่เป็นคุณคงเป็นเพราะคุณคือคนที่สามารถช่วยเด็กคนนั้นได้จึงเจาะจงเป็นคุณ” ซันออกความคิดเห็นจากสิ่งที่ได้ฟังและได้ประติดประต่อเรื่องราว
“คุณคะ ฉันว่าตอนนี้เราตามหาคนที่ชื่อ จอร์นนี่ บลาวก่อนดีกว่าคะ” กานต์รีบบอกซันแล้ววิ่งไปที่ทางออกของโรงละครเร่
ทันใดนั้นทั้งกานต์และซันได้พบกับผู้ชายมีหนวด ซึ่งนั้นก็คือจอร์นนี่ บลาว
“พวกแกสองคนเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง” จอร์นนี่ บลาวชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งไปทางกานต์ กานต์ตกใจสุดขีด รีบวิ่งหนีไปอีกทางจนไปชนกับโต๊ะที่มีขวดทรงน้ำเต้าวางอยู่ตรงนั้น ทำให้ขวดดังกล่าวตกลงมาแตก ทันใดนั้นเองก็เกิดเป็นควันสีดำมืดลอยออกมาจากขวด และสิ่งที่ทั้งกานต์ ซัน และ จอร์นนี่ บลาวเจอนั้นคือ วิญญาณของเภาที่ถูกจอร์นนี่ บลาวกักขังเอาไว้
“ไม่นะ ไม่ เพราะแกสองคนเลยทำให้วิญญาณของไอเด็กนี้ออกมาได้ ถ้าไม่เป็นเพราะมันโรงละครของฉันคงไม่กลายเป็นโรงละครร้างแบบนี้” จอร์นนี่ บลาวโว้ยวาย
“แกมันชั่ว แกกักขังฉันตั้งแต่ตอนมีชีวิต จนตอนนี้ได้ตายไปแล้วแกก็ยังกักขังวิญญาณฉันอีก คนอย่างแกไม่ตายดีแน่” เภาแสดงอารมณ์โกรธ และรีบตรงไปที่จอร์นนี่ บลาวหวังจะบีบคอ
“อย่านะเภา ถ้าหนูทำร้ายเขาก็เท่ากับว่าหนูก่อเวรก่อกรรมอีก หนูอยากไปเกิดไม่ใช่หรอลูกงั้นหนูอย่าทำแบบนั้นเลยนะ น้า...เอ้ยแม่ขอร้อง เราจะได้เป็นแม่ลูกกันอยากที่หนูต้องการไง” กานต์ห้ามวิญญาณของเภาทันที เขารู้ดีว่าตอนนี้เภาต้องการอะไรมากที่สุด ถ้าจอร์นนี่ บลาวไม่ตาย เภาก็ไม่ได้ไปเกิด แต่การที่เภาทำร้ายคนอื่นก็เท่ากับว่าเภาจะใช้เวลาในการชดใช้เวรกรรมอีกนาน
“แน่นะจ๊ะแม่ แม่ให้หนูไปอยู่กับแม่ได้แล้วใช้ไหมจ๊ะ แต่ถ้าไอนี้ไม่ตายแล้วหนูจะได้ไปเกิดได้อย่างไรหละจ๊ะแม่” เภาถามกานต์ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ได้สิ แต่หนูต้องรอหน่อยนะ อย่างไรซะเวรกรรมที่เขาได้ทำไว้กับผู้อื่นคงมาถึงเขาในไม่ช้า ดูนั้นสิ ตัวของเขามีบาดแผลพุพองเหมือนคนโดนไฟคลอกตามเนื้อตัว ถือไม่มากก็เถอะ รวมไปถึงร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนคนขาดสารอาหาร และอาการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ เหมือนตอนที่หนูเคยเจอไงลูก ตอนนี้เขาได้ชดใช้เวรกรรมของเขาแล้ว”
“ไอเด็กบ้า กลับมานี้เดี๋ยวนี้นะ แกต้องเป็นทาสของฉันทั้งตอนเป็นและตอนตาย......” จอร์นนี่ บลาวยังพูดยังไม่จบประโยค อยู่ๆเขาก็ดิ้นทุรนทุรายจนหมดลมหายใจไปในที่สุด
“เขาตายไปแล้ว ลาก่อนนะครับแม่ แล้วคอยผมนะ ผมต้องไปแล้ว เจอกันนะครับคุณพ่อ คุณแม่” เภามองร่างที่ไร้วิญญาณของจอร์นนี่ บลาว และกล่าวลากานต์และซัน
“นี้เราช่วยเขาได้สำเร็จแล้วใช่ไหมคะคุณ” กานต์มองไปรอบๆโรงละครแห่งนี้
“ใช่ครับ คุณทำสำเร็จแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เภาจะได้ชดใช้กรรมในสิ่งที่เขาได้ทำไป อีกไม่นานเขาก็ได้ไปเกิดแล้วนะ คุณหมดห่วงได้แล้ว” ซันจับมือกานต์แน่น และพากันกลับบ้าน
ในทุกๆวันพระทั้งกานต์และซันจะพากันไปทำบุญถือศีลอุทิศส่วนบุญให้กับดวงวิญญาณที่เขาทั้งสองเคยให้ความช่วยเหลือเอารวมไปถึงเภา เด็กชายที่เคยเข้าฝันเพื่อขอมาอยู่ด้วย เวลาเนิ่นนานไปเท่าไหร่ไม่รู้และแล้วกานต์ก็ท้องเด็กในท้องของกานต์ไม่ใช่ใคร ก็เภานั้นแหละที่มาเกิดเป็นลูกของกานต์ กานต์และซันได้ตั้งชื่อลูกชายคนนี้ไว้ว่า เฟิร์ส แปลว่าที่หนึ่งและเลี้ยงดูเด็กชายคนนี้ด้วยความรักและความอบอุ่นตลอดมา.....
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ