ปีกทวนฝัน
-
เขียนโดย ปั้นปึ่งยิ้ม
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.29 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,538 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน พ.ศ. 2562 09.53 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) -
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ดนตรีบรรเลงขึ้นเพลงต่อไป ฉุดทอฝันดำดิ่งสู่โลกอีกใบยากที่จะกู่กลับ เธอไม่มีกะจิตกะใจอ่านหนังสืออีกแล้ว จนกว่าเธอจะตื่นจากความสุขที่ได้รับจากการฟังเพลงโปรด แต่หากปิดหนังสือตอนนี้ แทนที่จะได้ฟังเพลงอย่างสบายใจ เธอคงได้ฟังเทศน์มหาชาติเวอร์ชั่นพ่อแม่แน่นอน พวกเขาหวังนักที่เธอจะสอบไล่เป็นข้าราชการได้ กินเงินเดือนไม่ลำบากเหมือนคนอื่น และเหมือนพวกเขาก่อนหน้านี้ ความคิดคนไทยยุคเก่า เฮ้อ! เธอถอนหายใจกับแนวคิดนี้ร้อยกว่ารอบแล้ว
นั่งเต๊ะอ่านหนังสือสักพัก ทอฝันเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เธออ่านหนังสือได้สองชั่วโมงกว่า จวนจะสามชั่วโมง หากนับการนั่งฟังเพลงด้วย มันก็จะเป็นสามชั่วโมงกว่าพอดี ครั้นได้เวลาพักทานมื้อกลางวัน เธอจึงปิดหนังสือ หาอะไรทานก่อนหายขึ้นห้องตนเองไปเนียนๆ แอบซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงคนเดียวในห้อง กระทั่งพ่อกลับมาพักกลางวันที่บ้าน ถึงได้อ่านหนังสืออีกยก เป็นอย่างนี้ทุกวัน ความฝันเหมือนจะเข้าที่เข้าทาง แต่แล้ววันหนึ่ง พ่อกลับบ้านเร็ว แล้วทอฝันไม่รู้!
ทอฝันร้องเพลงสุดเสียง เพราะคิดว่าตัวเองอยู่บ้านคนเดียว เพลงไม่ทันจบเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นถี่ๆ ชวนสยองใจนัก เธอถอดหูฟังและพูดกับเจ้าของเสียงเคาะไร้ความนุ่มนวล
"ใคร..."
"ฝัน ทำอะไรอยู่ จะสอบอยู่รอมร่อ อ่านหนังสือนะเว่ย"
เธอเลือกไม่ตอบ ยัดหูฟังในรูเดิม อารมณ์สุนทรีย์หายไปตั้งแต่ได้ยินเสียงคุ้นนั้น
อันที่จริง เธออาจไม่ต้องเริ่มอ่านก็ได้ ยังไม่มีกำหนดการเลยว่าโครงการสอบจะมาเมื่อไร พ่อพูดไปอย่างนั้น เพราะอยากให้เธออ่านหนังสือเฉยๆ แต่นี่มันไม่ใช่ความฝันของเธอ ทอฝันจึงทำตรงกันข้ามกับที่พ่อแม่ต้องการ มักซ้อมร้องซ้อมเต้น ขณะที่พวกเขาออกไปทำงานกันหมด เมื่อแน่ใจว่าพ่อกลับไปทำงานต่อช่วงบ่าย ดนตรีถึงมีชีวิตอีกครั้ง
ดนตรียังคงเริงรื่นในใจ ทอฝันรีบเข้าห้องน้ำ ระแวง...พ่อจะกลับมาแล้วเทศนาเธอเรื่องสอบเรื่องอ่านหนังสือ เรื่องอนาคต เธอวางแผนว่าจะไปสอบพร้อมๆ กับประกวดร้องเพลงของค่ายเพลงเกาหลี แต่เน้นอย่างหลังมากกว่า ความฝันนี้เป็นความลับ เธอรู้ดีว่าพ่อแม่เธอต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน พวกเขาเคยยากจนมาก่อน อาบน้ำร้อนมาก่อน และคงไม่หวังที่จะให้ลูกเต้นกินรำกิน แทนที่จะทำงานราชการ มีหน้ามีตาในสังคม มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ ทอฝันจึงเลือกเก็บความลับนี้ไว้
ทอฝันค้นหาโครงการสอบราชการเพื่อหางานที่แน่นอนสอบ จะได้รู้ว่าต้องอ่านอะไร แต่ข่าวมันก็หยุดแค่เมื่อวาน ครั้นพ่อแม่รุกหนักเข้า วันแล้ววันเล่า...พวกเขากดดัน
'ลูกเต้าเหล่าเพื่อนเค้าก็มีงานทำกันหมดแล้ว ดีจริง'
'ฝัน เค้าเปิดสอบราชการบรรจุหลายอัตรา สมัครหรือยัง'
'อ่านหนังสือเยอะๆ ล่ะ เดี๋ยวก็ได้สอบ จะได้ไม่ต้องกดดันมากช่วงใกล้สอบ'
มันก็ไม่ใช่คำหยาบคายอะไรหรอก แต่ฟังแล้วเหมือนถูกกัดดันชอบกล
เธอทนฟังไม่ได้ ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่พร้อมกระเป๋าโน้ตบุ๊กและกุญแจรถคู่ใจ เสาะหาสถานที่สงบใจ รับลมไม่ถึงชั่วโมงก็เจอร้านเป้าหมาย รถจอดอาบแดดอ่อนๆ ลงจากรถปรี่เข้าร้านมา เธอสั่งชาเขียวกับเค้กสดจากเตามากินรองท้อง และเปิดโน้ตบุ๊ก โชคดีที่ร้านมีไวไฟได้เชื่อมต่อเล่นอินเทอร์เน็ต ตอนขี่รถทอฝันแพลนแผนว่าจะกินข้าวและอ่านหนังสือ พอเจอสัญญาณไวไฟ ความคิดดีๆ ก็มลายหายไป เธอเชื่อมสัญญาณ...เปิดนั่นเปิดนี่ตามที่ตนอยากรู้ ทั้งโครงการเปิดสอบข้าราชการ ทั้งเปิดรับสมัครประกวดร้องเพลง และเปิดเฟซบุ๊ก
ขนมช้อนแรกถูกตักเข้าปาก ถึงวางแผนใหม่อีกครั้ง...ต้องอ่านหนังสือหลังจากมื้อนี้จบลง ขณะกำลังคิดเรื่องอ่านหนังสือ ดวงตาสาวน้อยสบเข้าที่โพสต์แฟนคลับซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกัน 'โครงการ DSK Audition' กิเลสจริงๆ! พอเจอสิ่งที่ถูกใจก็จะบอกลาหนังสือได้อย่างง่ายดาย
ทอฝันอ่านรายละเอียดแล้วต้องตื่นเต้น อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เธอจะทำอย่างไรดีนะ
มีความสุขกับความฝันได้ไม่เท่าไร เธอต้องกลับมาเครียดกับเรื่องสอบข้าราชการ เมื่อไรจะเปิดสอบ!!!
ครั้นเห็นว่ายังไม่มีรายละเอียดอะไร หญิงสาวจึงกลับมาโฟกัสโครงการประกวดร้องเพลงพร้อมละเมอคนเดียวในใจว่าตัวเองประกวดและผ่านการคัดเลือก
ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆ เสียงคุ้นเคยก็ร้องทัก...เสียงของดลวีร์ เพื่อนเก่า
"เธอยังจำคนๆ นี้ได้หรือเปล่า นานไปเท่าไรที่ไม่ได้พบกัน ฉันยังคิดถึงเธอเหมือนทุกวัน เธอล่ะเป็นเหมือนกันไหม..."
"เฮ้! ดอส!" ทอฝันอุทานอย่างดีใจที่ได้พบเพื่อนเก่า
"เธอสบายดีนะ"
"ไม่เลย เครียดมาก อยากร้องเพลง อยากเป็นนักร้องจะแย่..." เธอระบาย แต่ผู้ฟังกลับตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง
"เฮ้ ฝันจะไปออดิชั่นหรอ"
"กำลังชั่งใจอยู่น่ะ พ่อแม่อยากให้เป็นข้าราชการ แต่ฝันอยากเป็นนักร้อง"
"สู้ๆ นะ"
"จ้า แล้วนี่มาซื้อขนมหรอ"
"ใช่ พอดีอยากกินอะไรหวานๆ น่ะ ฝันล่ะมานั่งทำอะไรคนเดียว"
"ถูกบ่นมาน่ะ ขี้เกียจฟัง เลยมานั่งชิล"
"งั้นหรอ พ่อกับแม่สบายดีนะ"
"อือ มีแรงเทศน์ฝันก็แปลว่าแข็งแรงดี" เฮ้อ!
"อย่าคิดมากล่ะ"
"ปลงตกแล้ว ตอนนี้ฝันสนใจแค่เรื่องร้องเพลงเท่านั้นแหละ"
"แล้วเจอกันใหม่นะ" ดลวีร์ผละจากทอฝันไปรับขนมที่สั่งทำไว้ และเดินออกจากร้านไป
"พ่อ เราได้ตั๋วเที่ยวฟรีจากการส่งฝาน้ำอัดลมแน่ะ" จู่ๆ แม่ก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
"จริงหรอ"
"แม่แค่ส่งขำๆ ไม่คิดว่าจะได้รางวัลจริงๆ"
"กฤษดาดอยที่แม่อยากไปไม่ใช่หรอ" พ่อชะโงกหน้ามาดู "ไปสิ"
"ตั๋วสองที่นั่ง แต่บ้านเรามีสามคน" แม่ครุ่นคิด
"ไปสิแม่ ไปกับพ่อ หนูโตแล้ว อยู่คนเดียวได้"
"แน่ใจหรอ"
"ยายก็อยู่บ้านใกล้ๆ"
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของพ่อกับแม่ หรือทอฝันกันแน่ที่บ้านพวกเขาได้รับตั๋วไปเที่ยวฟรีที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวันสองคืน การที่ทอฝันต้องอยู่บ้านคนเดียว ทำให้เธอกล้าตัดสินใจเด็ดขาดว่าเธอต้องไปประกวดร้องเพลงโครงการ DSK Audition ให้ได้ ขณะที่แม่ตอบรับว่าจะไป เป็นเวลาเดียวกับที่ทอฝันส่งประวัติและผลงานการร้องเพลงของตัวเองสำเร็จ
แม่นิ่งคิดนานทีเดียว ก่อนให้คำตอบที่ทำให้ทอฝันใจชื้น "โอเค แล้วแม่จะซื้อของมาฝากนะ"
"จ้ะ"
สองสามวันต่อมา พ่อกับแม่ก็เดินทางไปเชียงใหม่ ตามตั๋วเชิญที่ได้รับทางไปรษณีย์ เมื่อแน่ใจว่าบุพการีออกเดินทาง ทอฝันจึงรีบเก็บข้าวของ ล็อกบ้าน ออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเธอบ้าง เหมือนเทวดานางฟ้าอำนวยพรให้ ทุกอย่างราบรื่น เธอมาถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงเมืองฟ้าในเวลากลางคืนค่อนดึก ทอฝันพอมีเงินเก็บบ้าง เลยสามารถหาที่พักค้างแรมได้สบายในระดับหนึ่ง หลับทันทีที่หัวถึงหมอน พักผ่อนเตรียมพร้อมรับศึกสงครามเพลงพรุ่งนี้
...เธอต้องฝ่าด่านกรรมการสามชุด ในที่สุด เรื่องที่เธอเคยอนุมานไว้เมื่ออยู่ที่ร้านกาแฟครานั้นก็เป็นจริง เธอผ่านการคัดเลือก ดีใจได้ไม่นาน โทรศัพท์เจ้ากรรมก็นำสาส์นชวนเครียดมาให้
พ่อแม่ของทอฝันกำลังจะกลับบ้าน!!!
ทอฝันรีบถอยรถกลับบ้านทันทีที่งานเลิก หวังว่าจะกลับถึงบ้านก่อน
นั่งเต๊ะอ่านหนังสือสักพัก ทอฝันเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เธออ่านหนังสือได้สองชั่วโมงกว่า จวนจะสามชั่วโมง หากนับการนั่งฟังเพลงด้วย มันก็จะเป็นสามชั่วโมงกว่าพอดี ครั้นได้เวลาพักทานมื้อกลางวัน เธอจึงปิดหนังสือ หาอะไรทานก่อนหายขึ้นห้องตนเองไปเนียนๆ แอบซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงคนเดียวในห้อง กระทั่งพ่อกลับมาพักกลางวันที่บ้าน ถึงได้อ่านหนังสืออีกยก เป็นอย่างนี้ทุกวัน ความฝันเหมือนจะเข้าที่เข้าทาง แต่แล้ววันหนึ่ง พ่อกลับบ้านเร็ว แล้วทอฝันไม่รู้!
ทอฝันร้องเพลงสุดเสียง เพราะคิดว่าตัวเองอยู่บ้านคนเดียว เพลงไม่ทันจบเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นถี่ๆ ชวนสยองใจนัก เธอถอดหูฟังและพูดกับเจ้าของเสียงเคาะไร้ความนุ่มนวล
"ใคร..."
"ฝัน ทำอะไรอยู่ จะสอบอยู่รอมร่อ อ่านหนังสือนะเว่ย"
เธอเลือกไม่ตอบ ยัดหูฟังในรูเดิม อารมณ์สุนทรีย์หายไปตั้งแต่ได้ยินเสียงคุ้นนั้น
อันที่จริง เธออาจไม่ต้องเริ่มอ่านก็ได้ ยังไม่มีกำหนดการเลยว่าโครงการสอบจะมาเมื่อไร พ่อพูดไปอย่างนั้น เพราะอยากให้เธออ่านหนังสือเฉยๆ แต่นี่มันไม่ใช่ความฝันของเธอ ทอฝันจึงทำตรงกันข้ามกับที่พ่อแม่ต้องการ มักซ้อมร้องซ้อมเต้น ขณะที่พวกเขาออกไปทำงานกันหมด เมื่อแน่ใจว่าพ่อกลับไปทำงานต่อช่วงบ่าย ดนตรีถึงมีชีวิตอีกครั้ง
ดนตรียังคงเริงรื่นในใจ ทอฝันรีบเข้าห้องน้ำ ระแวง...พ่อจะกลับมาแล้วเทศนาเธอเรื่องสอบเรื่องอ่านหนังสือ เรื่องอนาคต เธอวางแผนว่าจะไปสอบพร้อมๆ กับประกวดร้องเพลงของค่ายเพลงเกาหลี แต่เน้นอย่างหลังมากกว่า ความฝันนี้เป็นความลับ เธอรู้ดีว่าพ่อแม่เธอต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน พวกเขาเคยยากจนมาก่อน อาบน้ำร้อนมาก่อน และคงไม่หวังที่จะให้ลูกเต้นกินรำกิน แทนที่จะทำงานราชการ มีหน้ามีตาในสังคม มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ ทอฝันจึงเลือกเก็บความลับนี้ไว้
ทอฝันค้นหาโครงการสอบราชการเพื่อหางานที่แน่นอนสอบ จะได้รู้ว่าต้องอ่านอะไร แต่ข่าวมันก็หยุดแค่เมื่อวาน ครั้นพ่อแม่รุกหนักเข้า วันแล้ววันเล่า...พวกเขากดดัน
'ลูกเต้าเหล่าเพื่อนเค้าก็มีงานทำกันหมดแล้ว ดีจริง'
'ฝัน เค้าเปิดสอบราชการบรรจุหลายอัตรา สมัครหรือยัง'
'อ่านหนังสือเยอะๆ ล่ะ เดี๋ยวก็ได้สอบ จะได้ไม่ต้องกดดันมากช่วงใกล้สอบ'
มันก็ไม่ใช่คำหยาบคายอะไรหรอก แต่ฟังแล้วเหมือนถูกกัดดันชอบกล
เธอทนฟังไม่ได้ ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่พร้อมกระเป๋าโน้ตบุ๊กและกุญแจรถคู่ใจ เสาะหาสถานที่สงบใจ รับลมไม่ถึงชั่วโมงก็เจอร้านเป้าหมาย รถจอดอาบแดดอ่อนๆ ลงจากรถปรี่เข้าร้านมา เธอสั่งชาเขียวกับเค้กสดจากเตามากินรองท้อง และเปิดโน้ตบุ๊ก โชคดีที่ร้านมีไวไฟได้เชื่อมต่อเล่นอินเทอร์เน็ต ตอนขี่รถทอฝันแพลนแผนว่าจะกินข้าวและอ่านหนังสือ พอเจอสัญญาณไวไฟ ความคิดดีๆ ก็มลายหายไป เธอเชื่อมสัญญาณ...เปิดนั่นเปิดนี่ตามที่ตนอยากรู้ ทั้งโครงการเปิดสอบข้าราชการ ทั้งเปิดรับสมัครประกวดร้องเพลง และเปิดเฟซบุ๊ก
ขนมช้อนแรกถูกตักเข้าปาก ถึงวางแผนใหม่อีกครั้ง...ต้องอ่านหนังสือหลังจากมื้อนี้จบลง ขณะกำลังคิดเรื่องอ่านหนังสือ ดวงตาสาวน้อยสบเข้าที่โพสต์แฟนคลับซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกัน 'โครงการ DSK Audition' กิเลสจริงๆ! พอเจอสิ่งที่ถูกใจก็จะบอกลาหนังสือได้อย่างง่ายดาย
ทอฝันอ่านรายละเอียดแล้วต้องตื่นเต้น อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เธอจะทำอย่างไรดีนะ
มีความสุขกับความฝันได้ไม่เท่าไร เธอต้องกลับมาเครียดกับเรื่องสอบข้าราชการ เมื่อไรจะเปิดสอบ!!!
ครั้นเห็นว่ายังไม่มีรายละเอียดอะไร หญิงสาวจึงกลับมาโฟกัสโครงการประกวดร้องเพลงพร้อมละเมอคนเดียวในใจว่าตัวเองประกวดและผ่านการคัดเลือก
ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆ เสียงคุ้นเคยก็ร้องทัก...เสียงของดลวีร์ เพื่อนเก่า
"เธอยังจำคนๆ นี้ได้หรือเปล่า นานไปเท่าไรที่ไม่ได้พบกัน ฉันยังคิดถึงเธอเหมือนทุกวัน เธอล่ะเป็นเหมือนกันไหม..."
"เฮ้! ดอส!" ทอฝันอุทานอย่างดีใจที่ได้พบเพื่อนเก่า
"เธอสบายดีนะ"
"ไม่เลย เครียดมาก อยากร้องเพลง อยากเป็นนักร้องจะแย่..." เธอระบาย แต่ผู้ฟังกลับตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง
"เฮ้ ฝันจะไปออดิชั่นหรอ"
"กำลังชั่งใจอยู่น่ะ พ่อแม่อยากให้เป็นข้าราชการ แต่ฝันอยากเป็นนักร้อง"
"สู้ๆ นะ"
"จ้า แล้วนี่มาซื้อขนมหรอ"
"ใช่ พอดีอยากกินอะไรหวานๆ น่ะ ฝันล่ะมานั่งทำอะไรคนเดียว"
"ถูกบ่นมาน่ะ ขี้เกียจฟัง เลยมานั่งชิล"
"งั้นหรอ พ่อกับแม่สบายดีนะ"
"อือ มีแรงเทศน์ฝันก็แปลว่าแข็งแรงดี" เฮ้อ!
"อย่าคิดมากล่ะ"
"ปลงตกแล้ว ตอนนี้ฝันสนใจแค่เรื่องร้องเพลงเท่านั้นแหละ"
"แล้วเจอกันใหม่นะ" ดลวีร์ผละจากทอฝันไปรับขนมที่สั่งทำไว้ และเดินออกจากร้านไป
"พ่อ เราได้ตั๋วเที่ยวฟรีจากการส่งฝาน้ำอัดลมแน่ะ" จู่ๆ แม่ก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
"จริงหรอ"
"แม่แค่ส่งขำๆ ไม่คิดว่าจะได้รางวัลจริงๆ"
"กฤษดาดอยที่แม่อยากไปไม่ใช่หรอ" พ่อชะโงกหน้ามาดู "ไปสิ"
"ตั๋วสองที่นั่ง แต่บ้านเรามีสามคน" แม่ครุ่นคิด
"ไปสิแม่ ไปกับพ่อ หนูโตแล้ว อยู่คนเดียวได้"
"แน่ใจหรอ"
"ยายก็อยู่บ้านใกล้ๆ"
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของพ่อกับแม่ หรือทอฝันกันแน่ที่บ้านพวกเขาได้รับตั๋วไปเที่ยวฟรีที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวันสองคืน การที่ทอฝันต้องอยู่บ้านคนเดียว ทำให้เธอกล้าตัดสินใจเด็ดขาดว่าเธอต้องไปประกวดร้องเพลงโครงการ DSK Audition ให้ได้ ขณะที่แม่ตอบรับว่าจะไป เป็นเวลาเดียวกับที่ทอฝันส่งประวัติและผลงานการร้องเพลงของตัวเองสำเร็จ
แม่นิ่งคิดนานทีเดียว ก่อนให้คำตอบที่ทำให้ทอฝันใจชื้น "โอเค แล้วแม่จะซื้อของมาฝากนะ"
"จ้ะ"
สองสามวันต่อมา พ่อกับแม่ก็เดินทางไปเชียงใหม่ ตามตั๋วเชิญที่ได้รับทางไปรษณีย์ เมื่อแน่ใจว่าบุพการีออกเดินทาง ทอฝันจึงรีบเก็บข้าวของ ล็อกบ้าน ออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเธอบ้าง เหมือนเทวดานางฟ้าอำนวยพรให้ ทุกอย่างราบรื่น เธอมาถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงเมืองฟ้าในเวลากลางคืนค่อนดึก ทอฝันพอมีเงินเก็บบ้าง เลยสามารถหาที่พักค้างแรมได้สบายในระดับหนึ่ง หลับทันทีที่หัวถึงหมอน พักผ่อนเตรียมพร้อมรับศึกสงครามเพลงพรุ่งนี้
...เธอต้องฝ่าด่านกรรมการสามชุด ในที่สุด เรื่องที่เธอเคยอนุมานไว้เมื่ออยู่ที่ร้านกาแฟครานั้นก็เป็นจริง เธอผ่านการคัดเลือก ดีใจได้ไม่นาน โทรศัพท์เจ้ากรรมก็นำสาส์นชวนเครียดมาให้
พ่อแม่ของทอฝันกำลังจะกลับบ้าน!!!
ทอฝันรีบถอยรถกลับบ้านทันทีที่งานเลิก หวังว่าจะกลับถึงบ้านก่อน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ