[ Boku wa Otokodesu ] ขอโทษที ผมเป็นผู้ชายนะครับ
7.3
เขียนโดย Feather
วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.42 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
5,946 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 19.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) มาเดทกันนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ………… 45 นาทีต่อมา………….
ณ ร้านอาหารเล็กๆสไตล์เกาหลี จะเรียกเรียกว่าร้านเล็กๆก็ไม่ถูกนัก เพราะอาคารหลังนี้มีสองชั้น ชั้นสองเป็นเรือนที่ทำจากไม้และมีสิ่งของตกแต่งสมัยเก่าๆ สุดคลาสสิคมากมาย เหมือนเป็นของที่เจ้าของร้านสะสมเอาไว้โชว์ให้ลูกค้าชมความสวยงามได้ ส่วนด้านหน้าของร้านยังเปิดเป็นร้าน cake coffee ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะแวะมาทานอาหารที่นี้ซะมากกว่า ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าว่างเมื่อไรผมก็จะมาทันที ถึงแม้ว่าภายนอกร้านจะดูเก่าๆไปนิด แต่ภายในร้านกลับสะอาดสะอ้าน แถมราคาก็ถูก อีกทั้งรสชาติของอาหารในร้านนี้ก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย
ผมหันไปมองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามกับผมที่ตอนนี้กินอาหารในจานอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่าไม่ได้ทานอาหารมา 3 วัน
“นายเป็นใคร” ผมอยากรู้ว่าผมมาอยู่กับเขาได้ยังไง คนถูกถามเงยหน้าจากอาหารมามองผมแล้วก็กับไปกินต่อ นี่นายหูหนวกรึไงครับ
“ฉันไปอยู่ห้องนายได้ยังไง” ผมพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้ในใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆอีกครั้ง อีกฝ่ายเงยหน้ามามองผมอยู่สักพักใหญ่ นี่ผมจะบ้าตายแล้วน่ะเว่ย จ้องหน้าอยู่ได้แต่ไม่พูดคือไรวะ
“เอาหน้าผมไปแดกแทนข้าวเลยไหมครับ” ผมแสะยิ้มให้อย่างกวนตีนไปให้เขา ฮึ มองอยู่ได้หน้าผมมีไรติดหรือไง หรือว่าผมหล่อมากเลยอดใจไม่ไหวล่ะ
“แดกได้จะให้แดกเหรอครับ”เขายิ้มเจ้าเล่ห์
เอาอีกแล้วสายตาที่เหมือนจะสื่ออะไรสักอย่าง แต่ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จุดประสงค์ของคุณเลย
“กวนตีน แล้วจะบอกได้รึยัง”
“ฉันชื่อชุนอิจิ มินามิ เรียนที่ D.G ” D.G งั้นก็ Dragon high school คู่แข่งโรงเรียนผมนี่
“เมื่อวานเพื่อนนายฝากนายไว้กับพวกฉันเพราะเพื่อนนายรู้จักกับเพื่อนของฉัน พวกนั้นมีธุระต้องไปก่อนก็เลยฝากนายไว้ที่ฉันก็แค่นั้นเอง”
“บ้าเอ่ย ถ้าไปเรียนเมื่อไรพวกแกเสร็จแน่” ผมสยบออกมาอย่างหัวเสียพลางหยิบเนื้อสเต็กวัวเข้าปาก อืม รสชาติอร่อยเหมือนเดิมเลย
“...จำไม่ได้สิน่ะ”
“….ห๊ะ” ผมไม่ได้ยินว่าชุนอิจิพูดว่าอะไร เพราะเขาพูดเสียงเบาเหมือนพึมพำในลำคอ
“นายความจำเสื่อมสิน่ะ เพื่อนนายบอกฉันเมื่อวาน เพราะถ้านายกลับเองมันจะเป็นห่วงถึงได้ฝากเอาไว้” เขารีบเอ่ยประโยคหลังทันทีเมื่อเห็นผมจ้องเขาเขม่น
ถ้าให้ย้อนกลับไป 1 ปีที่แล้ว ใช่ครับ ตอนผมอยู่ ม. 5 ผมความจำเสื่อม ความทรงจำบางส่วนของผมหายไป ป๊ากับม๊าบอกว่าเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์จึงทำให้ผมเป็นแบบนี้ หมอบอกว่า ถ้าผมได้อยู่ในสถานที่ที่เคยไป เคยอยู่จะทำให้ความทรงจำส่วนนั้นกลับมา ผมก็พยายามมาตลอด ทั้งไปเที่ยวกับเพื่อนๆทุกที่ที่เคยไป ดูรูปอัลบัมที่ถ่ายไว้ แต่ก็นึกส่วนที่หายไปไม่ออก อ่า ปวดหัวชะมัดเลย ไม่คิดละเว่ยยย
----------- ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด ----------
มีคนโทรเข้ามาแล้ว ผมยอมรับว่าช่วงนี้ผมฮอตฮะ ก็คนมันหล่อช่วยไม่ได้นี่
“เดี๋ยวกูไปน่ะ” ผมรีบกรอกเสียงลงไปเพราะรู้ดีว่า ไอ้ฟีฟ่า เพื่อนสนิทผมโทรมาตามไปซ้อมบาส ฮาฮ่า ผมเป็นนักกีฬาโรงเรียนนี่ครับ แล้วนี่ก็ปาไปบ่ายกว่าๆแล้วด้วย สายมากกกกแล้ว ผมกดตัดสายก่อนที่มันจะพูดทันที
“อืม…ฉันความทรงจำหายไปบางส่วน ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้” ผมว่าพลางลุกขึ้น”ฉันมีธุระขอตัวก่อนนะ”
“เดทกับฉัน 3 วันได้ไหม” ประโยคนี้ทำให้ผมชะงักฝีเท้าแล้วหันมามองเขา
“นายว่าไงน่ะ เมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ถนัด” ผมว่าผมคงหูฝาดแน่ๆ สงสัยต้องไปตรวจสักหน่อยแล้วล่ะ
“เฟียร์เซลล์นายได้ยินไม่ผิดหรอก ถ้านายยอมเดท…ฉันจะเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไป”
“บ้าไปแล้วรึไง!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นร้านอาหารจนสายตาทุกโต๊ะมองมาที่พวกเรา
“กลับไปคิดก่อนก็ได้ฉันไม่รีบหรอก แต่ว่าฉันสามารถทำให้ความทรงจำนายกลับมาได้จริงๆน่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ผมว่าเขาบ้าไปแล้ว ผู้ชายเดทกับผู้ชายด้วยกันเนี่ยน่ะ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย ผมเจอผู้ชายมาขอเดทเป็นสิบๆคนภายในเดือนเดียว โลกเล่นตลกกับผมอยู่เหรอ? ผมไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนั้นหรอกน่า
“ไม่มีทางเว่ย!” ผมตะโกนอีกครั้งก่อนจะรีบเดินออกจากร้านอาหารทันที ไอ้หมอนี่มันประสาทกลับแล้วแน่ๆ ถึงได้เพี้ยนบอกเงื่อนไขประหลาดๆนั้นให้ผม ใครไปทำตามก็บ้าแล้วล่ะ
....................................................................................
สวัสดีคร้า
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
><
ณ ร้านอาหารเล็กๆสไตล์เกาหลี จะเรียกเรียกว่าร้านเล็กๆก็ไม่ถูกนัก เพราะอาคารหลังนี้มีสองชั้น ชั้นสองเป็นเรือนที่ทำจากไม้และมีสิ่งของตกแต่งสมัยเก่าๆ สุดคลาสสิคมากมาย เหมือนเป็นของที่เจ้าของร้านสะสมเอาไว้โชว์ให้ลูกค้าชมความสวยงามได้ ส่วนด้านหน้าของร้านยังเปิดเป็นร้าน cake coffee ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะแวะมาทานอาหารที่นี้ซะมากกว่า ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าว่างเมื่อไรผมก็จะมาทันที ถึงแม้ว่าภายนอกร้านจะดูเก่าๆไปนิด แต่ภายในร้านกลับสะอาดสะอ้าน แถมราคาก็ถูก อีกทั้งรสชาติของอาหารในร้านนี้ก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย
ผมหันไปมองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามกับผมที่ตอนนี้กินอาหารในจานอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่าไม่ได้ทานอาหารมา 3 วัน
“นายเป็นใคร” ผมอยากรู้ว่าผมมาอยู่กับเขาได้ยังไง คนถูกถามเงยหน้าจากอาหารมามองผมแล้วก็กับไปกินต่อ นี่นายหูหนวกรึไงครับ
“ฉันไปอยู่ห้องนายได้ยังไง” ผมพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้ในใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆอีกครั้ง อีกฝ่ายเงยหน้ามามองผมอยู่สักพักใหญ่ นี่ผมจะบ้าตายแล้วน่ะเว่ย จ้องหน้าอยู่ได้แต่ไม่พูดคือไรวะ
“เอาหน้าผมไปแดกแทนข้าวเลยไหมครับ” ผมแสะยิ้มให้อย่างกวนตีนไปให้เขา ฮึ มองอยู่ได้หน้าผมมีไรติดหรือไง หรือว่าผมหล่อมากเลยอดใจไม่ไหวล่ะ
“แดกได้จะให้แดกเหรอครับ”เขายิ้มเจ้าเล่ห์
เอาอีกแล้วสายตาที่เหมือนจะสื่ออะไรสักอย่าง แต่ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จุดประสงค์ของคุณเลย
“กวนตีน แล้วจะบอกได้รึยัง”
“ฉันชื่อชุนอิจิ มินามิ เรียนที่ D.G ” D.G งั้นก็ Dragon high school คู่แข่งโรงเรียนผมนี่
“เมื่อวานเพื่อนนายฝากนายไว้กับพวกฉันเพราะเพื่อนนายรู้จักกับเพื่อนของฉัน พวกนั้นมีธุระต้องไปก่อนก็เลยฝากนายไว้ที่ฉันก็แค่นั้นเอง”
“บ้าเอ่ย ถ้าไปเรียนเมื่อไรพวกแกเสร็จแน่” ผมสยบออกมาอย่างหัวเสียพลางหยิบเนื้อสเต็กวัวเข้าปาก อืม รสชาติอร่อยเหมือนเดิมเลย
“...จำไม่ได้สิน่ะ”
“….ห๊ะ” ผมไม่ได้ยินว่าชุนอิจิพูดว่าอะไร เพราะเขาพูดเสียงเบาเหมือนพึมพำในลำคอ
“นายความจำเสื่อมสิน่ะ เพื่อนนายบอกฉันเมื่อวาน เพราะถ้านายกลับเองมันจะเป็นห่วงถึงได้ฝากเอาไว้” เขารีบเอ่ยประโยคหลังทันทีเมื่อเห็นผมจ้องเขาเขม่น
ถ้าให้ย้อนกลับไป 1 ปีที่แล้ว ใช่ครับ ตอนผมอยู่ ม. 5 ผมความจำเสื่อม ความทรงจำบางส่วนของผมหายไป ป๊ากับม๊าบอกว่าเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์จึงทำให้ผมเป็นแบบนี้ หมอบอกว่า ถ้าผมได้อยู่ในสถานที่ที่เคยไป เคยอยู่จะทำให้ความทรงจำส่วนนั้นกลับมา ผมก็พยายามมาตลอด ทั้งไปเที่ยวกับเพื่อนๆทุกที่ที่เคยไป ดูรูปอัลบัมที่ถ่ายไว้ แต่ก็นึกส่วนที่หายไปไม่ออก อ่า ปวดหัวชะมัดเลย ไม่คิดละเว่ยยย
----------- ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด ----------
มีคนโทรเข้ามาแล้ว ผมยอมรับว่าช่วงนี้ผมฮอตฮะ ก็คนมันหล่อช่วยไม่ได้นี่
“เดี๋ยวกูไปน่ะ” ผมรีบกรอกเสียงลงไปเพราะรู้ดีว่า ไอ้ฟีฟ่า เพื่อนสนิทผมโทรมาตามไปซ้อมบาส ฮาฮ่า ผมเป็นนักกีฬาโรงเรียนนี่ครับ แล้วนี่ก็ปาไปบ่ายกว่าๆแล้วด้วย สายมากกกกแล้ว ผมกดตัดสายก่อนที่มันจะพูดทันที
“อืม…ฉันความทรงจำหายไปบางส่วน ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้” ผมว่าพลางลุกขึ้น”ฉันมีธุระขอตัวก่อนนะ”
“เดทกับฉัน 3 วันได้ไหม” ประโยคนี้ทำให้ผมชะงักฝีเท้าแล้วหันมามองเขา
“นายว่าไงน่ะ เมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ถนัด” ผมว่าผมคงหูฝาดแน่ๆ สงสัยต้องไปตรวจสักหน่อยแล้วล่ะ
“เฟียร์เซลล์นายได้ยินไม่ผิดหรอก ถ้านายยอมเดท…ฉันจะเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไป”
“บ้าไปแล้วรึไง!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นร้านอาหารจนสายตาทุกโต๊ะมองมาที่พวกเรา
“กลับไปคิดก่อนก็ได้ฉันไม่รีบหรอก แต่ว่าฉันสามารถทำให้ความทรงจำนายกลับมาได้จริงๆน่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ผมว่าเขาบ้าไปแล้ว ผู้ชายเดทกับผู้ชายด้วยกันเนี่ยน่ะ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย ผมเจอผู้ชายมาขอเดทเป็นสิบๆคนภายในเดือนเดียว โลกเล่นตลกกับผมอยู่เหรอ? ผมไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนั้นหรอกน่า
“ไม่มีทางเว่ย!” ผมตะโกนอีกครั้งก่อนจะรีบเดินออกจากร้านอาหารทันที ไอ้หมอนี่มันประสาทกลับแล้วแน่ๆ ถึงได้เพี้ยนบอกเงื่อนไขประหลาดๆนั้นให้ผม ใครไปทำตามก็บ้าแล้วล่ะ
....................................................................................
สวัสดีคร้า
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
><
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ