กรงทอง

7.0

เขียนโดย zeeto

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.32 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  7,946 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) กลัวข้าหลงผิดหรือเจ้าที่คิดไหวหวั่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          เสียงสกุณา ไก่ป่าและบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ต่างส่งเสียงร้องในยามเช้า ปลุกให้ร่างกายอันเหนื่อยล้าค่อยๆตื่นจากนิทราพร้อมทอดสายตาไปรอบๆ จริงซิข้าอยู่ในถ้ำบนหน้าผาสูง ทว่าโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์หายไปไหนกัน ข้าค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะออกเดินไปสำรวจไปทั่วทั้งบริเวณ “ชนกันย์ ชนกันย์ เจ้าอยู่ไหน” หายไปไหนของเขานะ ด้านหน้าถ้ำก็ไม่มีเมื่อมองออกไปด้านนอกไม่พบข้าจึงหันหลังกลับแต่ไม่ทันระวังจึงทำให้ร่างชนเข้ากับอีกคนที่เดินมาจากด้านหลังทันที “อันตราย...เจ้าออกมาปากถ้ำทำไม” ร่างสูงกว่าคว้าโอบรอบเอวก่อนดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแน่น “ข้าถามเจ้าว่าออกมาปากถ้ำทำไม” “ข้าตื่นมาไม่พบเจ้าก็เลยออกมาตาม” “นี่เจ้าคิดถึงข้าตั้งแต่ตื่นรึ” “เปล่า...ข้าเพียงแค่ไม่เห็นเจ้าก็เท่านั้น และตอนนี้เจ้าก็ปล่อยข้าได้แล้ว” “เมื่อคืนเจ้านอนกอดข้ามาทั้งคืนแค่ข้ากอดเจ้าเท่านี้จะเป็นอันใด” “หยาบคายใครกอดเจ้า” “เอาเถอะๆ...ข้าไม่หยอกเจ้าแล้วก็ได้แต่ข้ามีอะไรให้เจ้าดู” พูดจบโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ก็เลื่อนมากุมมือของข้าก่อนจะพาเดินเข้าไปในภายในถ้ำอีกด้านจนมาเจอทางออกที่ไม่ต้องปีนหน้าผาลงไป
 
          “ทางออกเช่นนั้นรึ” “ใช่...ขบขันยิ่งนักตอนเราเข้ามาทำไมต้องปีนหน้าผาด้วยเจ้าว่าไหม” “นั้นซิ...เช่นนั้นเราก็ลงจากหน้าผานี้ด้วยทางนี้ได้ใช่ไหม” “ใช่...เช่นนั้นเราไปเก็บข้าวของกันเถอะจะได้รีบเดินทาง” ในที่สุดการเดินทางเพื่อมาตามหากรงทองของข้าก็สิ้นสุดลงเสียทีข้าจะได้นำกรงทองนั้นกลับสู่เมืองอาพรสุทธินันท์เพื่อให้ชาวเมืองและเสด็จพ่อเสด็จแม่หายกังวลพระทัย จะติดใจของข้าในตอนนี้ก็มีแค่เรื่องของโอรสแห่งโลหนันท์เท่านั้น เพราะยิ่งข้าได้รู้จักและอยู่ใกล้กับทำให้ข้าไม่อยากห่างจากเขาเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะทำเช่นใดดี จริงซิในเมื่อข้าก็หายและแข็งแรงดีแล้วเช่นนั้นข้าจะใช้กรงทองนี้เป็นข้ออ้างให้โอรสแห่งโลหนันท์กลับไปยังเมืองของข้าได้เช่นกันมิใช่รึ “เจ้ายังอยากได้กรงทองอยู่ไหม” ข้าหันไปถามโอรสแห่งโลหนันท์ที่เดินอยู่ข้างๆ “เจ้าถามทำไม” “ถ้าเจ้ายังอยากได้กรงทองนี้ข้าจะมอบให้เจ้า” “เจ้าพูดจริงรึ” “อีกไม่นานข้าก็จะเป็นกษัตริย์เช่นนั้นข้าตรัสสิ่งใดแล้วไม่คืนคำ” “ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็ขอบใจเจ้ามาก” “แต่...ข้ามีข้อแม้สำหรับเจ้า” “ข้อแม้รึ...” “ใช่...ข้าจะมอกกรงทองนี้ให้เจ้าก็ต่อเมื่อเจ้าเดินทางไปยังอาพรสุทธินันท์กับข้าเสียก่อน” “ทำไมข้าต้องไปด้วย” “เพราะข้าอยากให้เจ้าได้รู้จักข้ามากขึ้นและที่สำคัญยิ่ง ข้าต้องการตอบแทนเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า”
 
          สายตาที่ทอดมองมายังข้านั้นไม่มีลดละไปจากเดิมเลย ก่อนข้าเคยคิดว่าโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์คือคนที่อ่อนแอไม่กล้าแม้จะมองตาคนอื่นตรงๆ แต่ครั้งนี้ข้ากับรู้สึกว่าข้าคิดผิดไปแล้ว สายตาที่มีบางอย่างสายตาที่มองมาแบบคาดหวังนั้นมันสะกดให้ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้ “ข้าตกลง ข้าและเหล่าทหารของข้าจะเดินทางไปยังอาพรสุทธินันท์ร่วมกับเจ้า แต่ถ้าเจ้าคิดไม่ดีกับข้าอย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน” “ได้...ถ้าข้าทำผิดต่อเจ้าข้าอนุญาตให้เจ้าลงโทษข้าได้เลย” ไม่นานมากนักจากเขาสูงก็ลงมาถึงชายป่าด้านล่างก่อนจะเดินวนไปที่พักที่ให้เหล่าทหารตั้งกระโจมรออยู่ “นลาดล” “พระโอรส...ทรงเดินทางมาจากด้านไหนพระเจ้าข้ากระหม่อมเป็นกังวลยิ่งนัก” “ด้านหลังถ้ำมีทางลงอีกทางเราออกมาจากด้านนั้น” “แล้วนี่...” “นี้พระโอรสชนกันย์ แห่งอาพรสุทธินันท์” “ถวายบังคมพระเจ้าข้า” “ไม่เป็นไรหรอก ข้าว่าเรารีบออกเดินทางกันดีกว่า” “นลาดลเจ้าบอกเหล่าทหารว่าเราจะเดินทางไปส่งโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์” “พระเจ้าข้า” เมื่อส่งทหารเก็บของเพื่อออกเดินทางเสร็จข้าจึงเดินไปหยิบเสบียงอาหารบางส่วนยื่นให้แก่โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ “กินนี่ซิเจ้าไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เย็นวาน” “ขอบใจเจ้ามากนะธีรภัทร” ตึกๆ ตึกๆ แค่ถูกเรียกชื่อทำไมต้องใจเต้นแรงด้วยนะ
 
           “พระโอรสพระเจ้าข้าเสด็จทอดพระเนตรทางนี้ซิพระเจ้าข้า” เสียงของทหารตะโกนเรียกโอรสแห่งโลหนันท์ให้ไปดูบางอย่างตรงด้านหน้าไม่ห่างจากที่ตั้งกระโจมมากนัก ข้าและโอรสแห่งโลหนันท์จึงเดินไปก่อนจะพบศพใครคนหนึ่ง เมื่อทหารพลิกศพขึ้นก็เห็นได้ชัดว่าคือหฤษฎ์ ทหารหลวงที่ก่อกบฏคิดจะรอบฆ่าข้านั้นเอง “ศพเละเหมือนตกจากที่สูงเลยนะพระเจ้าข้า สงสัยจะเป็นพวกมาตามหากรงทอง” “ใช่...ปล่อยเขาเถอะพวกเราเดินทางกันได้แล้ว” โอรสแห่งโลหนันท์ตอบแบบราบเรียบก่อนจะเดินนำไป แปลกยิ่งนักตนเองเกือบสิ้นชีพเพราะคนนี้แต่กับไม่มีคำกล่าวร้ายให้ศพของหฤษฎ์เลย “ทำไมเจ้าไม่บอกทหารของเจ้าไปละว่านั้นคือศพของคนที่คิดจะฆ่าเจ้า” “ข้าไม่จำเป็นต้องพูดในเมื่อคนชั่วเช่นนั้นก็ตายไปแล้ว” “เจ้าเป็นว่าที่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ” “ขอบใจ...ว่าแต่เจ้าเถอะไม่มีอาการเจ็บปวดหัวใจแล้วใช่ไหม” “ไม่...ขอบใจที่ถามไถ่” “ไม่เป็นไร ทันทีที่ข้าส่งเจ้าถึงเมืองข้าต้องการแค่กรงทองตามที่เจ้าสัญญา” “แล้วถ้าข้าผิดสัญญาละ” “เจ้าคิดว่าเมืองที่เก่งกล้าเรื่องศึกสงครามเช่นข้าต้องทำอย่างไรดีละ” “ข้าไม่ผิดสัญญาต่อท่านหรอก เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าได้ไหม” “เจ้าต้องการรู้เรื่องอันใด” “ลูกแก้วที่ท่านหยิบออกมาตอนที่ลูกแก้วในกรงทองลอยออกมาท่านได้มาจากไหน” “มีคนให้ข้ามาก่อนเจ้าจะพบเจ้าหนึ่งวัน” “ประหลาดใจยิ่งนักข้าไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเรื่องบังเอิญ เจ้าจำเสียงที่ได้ยินเมื่อลูกแก้วรวมเป็นลูกเดียวกันได้ไหม เจ้าว่าเกิดจากอันใด” “ข้าจะไปรู้ได้เช่นใด...” “จะเป็นไปได้ไหมที่เจ้ากับข้าคือคนรักกันเมื่อชาติก่อน” “นี่เจ้า...”
 
          คนรักกันเมื่อชาติก่อนเช่นนั้นรึ เป็นไปไม่ได้ข้ากับโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์จะเป็นคนรักกันได้เช่นใด เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่...มันก็อดให้นึกคิดไม่ได้อยู่ๆทำไมข้าต้องการที่จะเดินทางมาตามหากรงทอง ทำไมข้าต้องมาเจอกับโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ และความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอทำไมข้าถึงมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น แล้วถ้าเป็นจริงอย่างที่โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์หยอกเหย้าข้า นั้นก็หมายความว่าข้ากับเขาคือคู่รักที่ผูกพันกันมากเช่นนั้นรึ ไม่มีทางข้าเป็นชายและเขาก็เป็นชายจะเกิดเป็นความรักได้เช่นใด พอเถิดธีรภัทรเจ้าแค่ต้องเดินทางไปส่งเขาและแยกย้ายกันไปก็แค่นั้น ไม่มีเหตุอันใดต้องคิดมากกว่านี้
 
          “ใช่แล้วลูกของข้าเจ้ากับโอรสแห่งอาทิตย์ไม่ควรกลับมารักกัน ที่เจ้าต้องเกิดเป็นบุรุษก็เพราะพ่อต้องการให้เจ้าไม่ต้องกลับไปรักกับโอรสแห่งอาทิตย์เท่านั้น” “ท่านคิดว่าทำเช่นนั้นจะสามารถแยกความรักของทั้งสองได้รึ” พระอาทิตย์กล่าว “ถึงข้าจะทำให้เขาหยุดรักกันไม่ได้แต่ด้วยสิ่งที่ไม่บังควรจะเกิดมันจะบังคับให้ลูกของข้าไม่สามารถอยู่กับลูกของท่านได้” “สิ่งที่เจ้าทำอยู่นี้คิดว่าเป็นการรักลูกรึ” “มันเรื่องของข้าถ้าจะต้องเห็นลูกของข้าเจ็บช้ำเพราะรักและจากลาสู้ทำให้เขาไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้เสียตอนนี้จะดีกว่า” “ตอนแรกข้าคิดว่าข้าคือคนที่โหดร้ายที่สุดที่แยกพวกเขาจากกัน แต่ตอนนี้เจ้าต่างหากละพระจันทร์ที่ทำร้ายพวกเขาได้ทรมานกว่าข้ายิ่งนัก คอยดูเถิดความรักของสองคนนั้นจะต้านทานเรื่องต้องห้ามที่เจ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้” หรือข้าจะผิดเช่นที่พระอาทิตย์พูดจริงๆตอนที่ข้าส่งให้ธิดาของข้ามาเกิดเป็นชาย ตอนนั้นข้าโกรธแค้นอยู่เพียงลำพังใช่ไหมแล้วเช่นนี้คนที่ทำร้ายทุกอย่างกลับกลายเป็นข้าเอง
 
          “เย็นมากแล้วกระหม่อมว่าเราพักกันที่นี่เถิดพระเจ้าข้า” “ก็ดีเหมือนกันเช่นนั้นตั้งกระโจมตรงนี้เลย” “พระเจ้าข้า...พระโอรสพระเจ้าข้าด้านหน้าไม่ห่างจากนี้มีรำธารพระองค์ไปทรงน้ำที่นั้นได้นะพระเจ้าข้า” “ขอบใจเจ้ามากนลาดล” เมื่อทหารคนสนิทเดินไปจัดแจงตั้งที่พักข้าก็เดินไปหาโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ “เราจะพักที่นี่คืนนี้” “ดีเหมือนกัน แล้วแผลของเจ้าละเป็นเช่นใดบ้าง” “ไม่เป็นไรมาก...ข้าจะไปอาบน้ำตรงรำธารเจ้าจะไปด้วยไหม” “ไปซิ...ข้าอยากล้างเนื้อล้างตัวเช่นกัน” “เจ้ารอข้าสักครู่ข้าจะไปเอาเสื้อผ้าก่อน” “ขอบใจเจ้ามาก”
               
          ข้านั่งมองโอรสแห่งโลหนันท์ที่แหวกว่ายไปมาในรำธารอย่างมีความสุขใบหน้าอันงดงาม กับผมที่แกะมวยออกเปียกน้ำลูบติดกับใบหน้ายิ่งทำให้ชวนหลงใหลยิ่งนัก “เจ้าไม่คิดจะลงมาเล่นน้ำในรำธารรึ” เสียงคนถูกมองเงยหน้ามาถามผมที่นั่งอยู่ตรงริมรำธาร “ข้าว่ายน้ำไม่เป็น” “ฮาๆๆ...เป็นถึงโอรสของเมืองอาพรสุทธินันท์แต่ว่ายน้ำไม่เป็นหน้าขันนัก” “ข้าไม่เห็นว่ามันจะหน้าขัน” “เจ้าอยากว่ายน้ำเป็นหรือไม่ถ้าอยากก็ลงมา” “เจ้าจะสอนให้ข้ารึ” “ใช่...ถ้าเจ้าต้องการ” เมื่อสายตาของโอรสแห่งโลหนันท์ที่ทอดมองมาที่ข้ามันทำให้ข้าลืมในสิ่งที่กลัวก่อนจะค่อยๆย่อนตนเองลงไปในน้ำจากตื้นๆ เมื่อเดินลงไปเรื่อยๆกับทำให้ข้ารู้สึกแน่นอกไปหมดข้าจะจมน้ำไหม “ยื่นมือมาซิ” ข้าค่อยๆทำตามที่โอรสแห่งโลหนันท์บอกก่อนจะถูกแรงดึงจากอีกคนดึงลงไปในน้ำลึกนั้นทันที “อย่ากลัวมองหน้าข้า” “ข้าว่ายน้ำไม่เป็น” “ข้าบอกไม่มองหน้าข้า เจ้าจะกลัวสิ่งใดข้าอยู่ตรงหน้าเจ้าทั้งคน” ตาที่หลับค่อยๆลืมขึ้นมองใบหน้าคนที่จับมือข้าไว้แน่น “ข้าจะจบมือเจ้าไว้จากนั้นเจ้าค่อยๆปลายขาให้ลอยขึ้นมาแล้วตีกับผิวน้ำ” “ข้าทำไม่ได้” “เจ้าทำได้เชื่อข้าไม่ต้องกลัวข้าไม่ปล่อยให้เจ้าจมแน่” “แต่ข้า...” “เชื่อใจข้าซิ...เหมือนตอนที่ข้าเชื่อเจ้าตอนที่ดึงข้าขึ้นจากหน้าผาไง” ข้าทำได้ข้าต้องทำให้ได้เมื่อความเชื่อใจส่งผ่านซึ่งกันข้าค่อยๆทำตามที่โอรสแห่งโลหนันท์บอก จริงด้วยมันไม่ยากอย่างที่ข้าคิด “เห็นไหมเจ้าว่ายน้ำได้แล้ว” “ข้าว่ายได้แล้วจริงๆหรือนี่” “ใช่...มันไม่ยากใช่ไหม” “ขอบใจเจ้ามาก” “เอาละ งั้นเจ้าค่อยๆว่ายมาหาข้าตรงนี้นะ”
               
          เมื่อเห็นว่าโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์สามารถว่ายน้ำได้ ข้าจึงว่ายออกห่างไปอีกด้านที่น้ำลึกกว่าเดิมก่อนจะให้โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ว่ายมาหา “ว่ายมาหาข้าซิ” การพยักหน้าเป็นการตอบรับของโอรสแห่งอาพรสุทธินันก่อนจะค่อยๆว่ายน้ำข้ามมาหาข้า ใบหน้าที่ดูเหน็ดเหนื่อยเพราะตรงนั้นน้ำลึกซึ่งยากสำหรับคนพี่พึ่งจะว่ายน้ำได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นข้าไม่อาจปล่อยให้เกิดอันตรายจึงรีบว่ายกลับไปจับแขนคนที่เหมือนจะจมน้ำแล้วดึงเข้ามา “ไม่เป็นไรนะ” “ทำไมข้าว่ายไปหาเจ้าไม่ได้” “เจ้าพึ่งว่ายน้ำเป็นไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะมีแรงไม่มากพอ” “น่าอับอายยิ่งนัก” “แค่ว่ายน้ำไม่เป็นไม่เห็นเป็นเรื่องน่าอับอาย เอาเถิดเย็นมากแล้วข้าว่าเราขึ้นกันเถอะ” “ธีรภัทร” “เจ้าเรียกข้าทำไมรึ” “ที่ข้าบอกว่าข้าหลงรักเจ้าข้าพูดด้วยความสัตย์จริง” แรงดึงจากคนตรงนั้นดึงข้าเข้าไปสวมกอดพร้อมกับจูบซับที่หน้าผากเบาๆ ทำไมข้าถึงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างกายทั้งที่อยู่ในน้ำเช่นนี้ “เจ้าไม่ต้องตอบข้าก็ได้ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าวบอกเจ้านั้นคือความสัตย์จริง” “ขึ้นเถอะข้าแช่น้ำนานเกินไปตอนนี้ข้ารู้สึกเวียนศรีษะ” ไม่ใช่เพราะแช่น้ำนานเกินไปหรือเพราะแผลหรือเพราะเหตุใดทั้งสิ้นแต่เพราะโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ต่างหากที่ทำให้ข้าไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป
               
          “เจ้าควรทำเกศาให้แห้ง” ข้าค่อยๆย่อตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะหยิบผ้าเช็ดให้อย่างเบามือ พร้อมกับหยิบปลายเกศานั้นขึ้นมาจูบเบาๆ “นี่เจ้า...” “เกศาของเจ้าหอมยิ่งนัก” “เจ้ารู้ตัวไหมที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้มันทำให้ข้าอึดอัดใจ” “เจ้าเกลียดข้าเช่นนั้นรึ” “เปล่า...ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าหลงผิด” “เจ้าไม่อยากให้ข้าหลงผิดหรือเจ้ากลัวจะหลงรักข้า” สิ้นคำพูดโอรสแห่งโลหนันท์ได้แต่นิ่งไม่พูดอันใดออกมา แค่นี้ข้าพอจะรู้เหมือนกันว่าไม่ใช่แค่ตัวข้าหรอกที่รักเขาเพียงฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้โอรสแห่งโลหนันท์กำลังต่อต้านความรู้สึกผิดชอบชั่วดีต่างหาก ซึ่งข้าเองก็รู้สึกว่ามันผิด แต่จะให้ข้าทำเช่นใดก็ข้าหลงรักคนผู้นี้ไปหมดใจตั้งแต่แรกเห็นแล้ว และข้าคงขาดเขาไม่ได้เป็นแน่

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา