ยินดีที่ไม่รู้จัก

6.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 19.42 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560 22.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

8) แบบนี้แหล่ะโรแมนติก(หรอ?)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เหนื่อยเหมือนกันนะเนี้ยผมอาบน้ำสระผมเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินลงมาจากห้องของฟลุค ว่าแต่เจ้าของห้องหายไปไหนของเขานะตั้งแต่กลับมาจากกาดผมยังไม่เห็นเขาเลย สงสัยอยู่ข้างล่างละมั่ง “อ้าวกันมากินข้าวซิลูก” “ครับแม่” “ซื้ออะไรมากันเยอะแยะเลยเนี้ยไปเดินกาดมาหรอ” “ครับ...แม่ครับฟลุคไปไหนหรอผมไม่เห็นเลย” “ฟลุค?...ไม่ได้อยู่บนห้องกับกันหรอ” “เปล่าครับ...นี้ตั้งแต่เอากับข้าวมาวางในครัวผมขึ้นไปอาบน้ำก็ไม่เห็นแล้ว” “งั้นแม่ว่าหน้าจะอยู่ห้องล้างรูปกันลองไปตามดูซิ” “ห้องล้างรูป?” “ใช่ชั้นบนพอขึ้นบนไดห้องในสุดเลยจากห้องของฟลุคไปนะ” “ครับ...เดี๋ยวผมไปตามเขาก่อนนะครับ” ไม่ยักกะรู้ว่าบ้านนี้มีห้องล้างรูปด้วยห้องในสุดหรอน่าจะห้องนี้ละมั่งผมค่อยๆบิดลูกบิดประตูเข้าไปก็เห็นแค่แสงสีแดงพร้อมกับในห้องที่มีแต่รูปเต็มไปหมด โห่...ท่าทางจะชอบถ่ายภาพจริงๆ ว่าแต่เจ้าของห้องไปไหนนะ ผมค่อยๆเดินเข้าไปภายในก่อนจะเห็นด้านหลังบางขอใครบางคนที่ยืนทำอะไรที่อ่างอยู่ พอมองไปบนราวที่หนีบรูปเอาไว้ก็เห็นว่าเป็นรูปที่ไปเที่ยวกรุงเทพกับผม เรียงรายเต็มไปหมด “เข้ามาไม่ได้รับอนุญาตระวังจะโดนขังไม่รู้ตัวนะ” “รู้ได้ไงว่าฉันเข้ามา” “ห้องนี้เงียบมากแค่เสียคนหายใจก็ได้ยินแล้ว” “หรอ...แม่ให้มาตามไปกินข้าว” “อือ...เดี๋ยวไปลงไปก่อนเลย” “ไม่เอาไปด้วยกันดิ”

 

          ผมค่อยๆหันมามองคนที่เข้ามาในห้องล้างรูปที่ตอนนี้มันแสดงให้เห็นถึงความอยากรู้อยากเห็นได้ชัดเจนเลยนะว่าผู้ชายคนนี้อยากรู้มากแค่ไหน “นี่รูปตอนไปกรุงเทพหรอ” “อือ...สวยไหม” “สวยดีแต่มองไม่ค่อยชัดก็ห้องมันมึดๆแดงๆแบบนี้” “ทำไมกลัวหรอ ดูชัตเตอร์มากไปอ่ะดิ” “สายตาฉันสั้นไหมละนายใส่แว่นก็มองชัดอ่ะดิ” “เออ...แล้วนี้พรุ่งนี้กลับไฟร์ทกี่โมง” “ห้าโมงเย็นอ่ะ” “อือ...ไปกินข้าวเถอะ” “แล้วไม่ทำต่อแล้วหรอ” “แม่รออยู่ไปกินข้าวก่อน” “อ๋อ...” ห้าโมงเย็นหรอตอนนี้หนึ่งทุ่มกินข้าว1ชั่วโมงสองทุ่ม โอเคเดี๋ยวกินข้าวเสร็จผมคงต้องทำอะไรบางอย่างแล้วละ “กินเยอะๆนะกันพรุ่งนี้กับแล้วอาหารเมืองแบบนี้หากินยากนะที่กรุงเทพ” “ครับแม่...วันนี้ฟลุคพาไปเดินหาของฝากเยอะเลย” “ดีแล้วลูกถ้าว่างก็กลับมาเที่ยวใหม่นะ” “ครับ...ถ้าคนที่นี่เขายินดีก็อยากมาอยู่ด้วยเลย” “มาซิลูกเปิดร้านข้าวต้มกับแม่” “ฮาๆๆๆ....โอเคครับแม่นี่ครับอันนี้อร่อยแม่กินเยอะๆนะครับ” ความสพ.นี้มันชวนให้หมั่นไส้จริงๆผมมองคนที่ตักกับข้าวเอาอกเอาใจแม่ผมนี้สรุปผมเป็นลูกหรือกันเป็นลูกกันแน่ “อ่ะ...ป้อน” ผมหันไปมองคนนั่งข้างๆที่เอาแคบหมูจิ้มกับน้ำพริกหนุ่มส่งมาที่ปากผม นี่เขาไม่รู้สึกแปลกหรือไงแม่ผมอยู่ตรงหน้าแท้ๆ “กินเองได้” “ดูพูดเข้าเพื่อนป้อนก็กินซิ” “อ่ะ...” ผมมองหน้าแม่ก่อนจะอ้าปากกินแคบหมูน้ำพริกหนุ่มที่กันป้อนให้แล้วทำไมแม่ต้องยิ้มอะไรขนาดนั้นด้วยเนี้ย “อิ่มมากเลยครับแม่” “จ้านานๆจะมีคนมาบ้านแม่ก็ดีใจฟลุคไม่ค่อยพาใครมาเลย” “ก็ผมยุ่งนี่ครับ...” “พูดมากนะเราเดี๋ยวเก็บจานไปล้างด้วยนะพอดีแม่มีเตรียมเอกสารงานหน่อยฟลุคก็ล้างจานเสร็จก็ไปพักผ่อนซ่ะนะ” “ครับ”

 

          “มาฉันช่วย” ผมเดินไปหยิบจานบนโต๊ะเพื่อจะนำไปล้างเจ้าของห้องมองหน้าผมก่อนจะทำหน้าดุใส่เล็กน้อย “เป็นไรเนี้ยงอนไร” “เปล่าแค่หมั่นไส้” “เรื่อง” “ก็นายอ้อนแม่ฉันเยอะไปแล้วนะ” “ก็อยากได้ลูกเขาก็ต้องเข้าทางแม่” “ไอ้...พูดไรของนายว่ะเนี้ย” “ก็พูดความจริงนี้คิดว่าฉันบินจากกรุงเทพมาตั้งไกลเพื่อมาเป็นเพื่อนนายหรือไง” “แล้วมาทำไม” “มาจีบ...อยากได้เป็นแฟน” “ห่ะ?...” “เฮ้ย!!ซ...” ดีนะที่ผมคว้าไว้ทันไม่งั้นถาดใส่จานในมือเจ้าของบ้านได้ล่วงแตกแน่ๆ ผมค่อยๆก้มมองที่มือที่จับมืออีกคนถือถาดไว้ก่อนจะค่อยๆดึงออกจากมือของเขาช้าๆ “ตกใจหรอ” “อ่ะ เออ...ใครให้พูดบ้าๆละ” “พูดบ้าอะไรก็พูดความจริงฉันมาจีบนายไม่รู้หรอ” “ก็...” “สรุปรู้หรือไม่รู้” “รู้...แต่ไม่คิดว่านายจะจีบแบบนี้” “ก็เวลามีน้อยพรุ่งนี้ก็จะกลับแล้วถ้าลีลามากก็คงไม่ได้จีบ” “อย่างน้อยๆก็โรแมนติกกว่านี้หน่อยไหมละ” “อยากได้แบบไหนละ” “ไม่รู้โว้ย...โรแมนติกอ่ะรู้จักป่ะ” “เฮ้อ...ไปอาบน้ำไปเดี๋ยวฉันล้างเอง” โรแมนติกหรอยังไงว่ะแล้วมันต้องโรแมนติกขนาดไหนว่ะจะจีบเขาได้เนี้ย มันไม่ง่ายเลยนะเนี้ยจะให้หวานๆเลี้ยนๆก็กลัวจะไม่ใช่ จะโทรไปถามพวกไอ้แบงค์มีหวังโดนแซวแน่ คิดดิว่ะกันคิด...

 

          พอเข้ามาในห้องผมก็ถือวิสาสะแอบหยิบดูไฟร์ทของกันก่อนเลยว่าพรุ่งนี้เขากลับสายการบินไหนลงที่ไหนก่อนที่จะจัดการอะไรบางอย่างที่ผมจะทำ สุวรรณภูมิสายการบินXXX โอเค ผมหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะจัดการบางอย่างให้เรียบร้อยแล้วไปอาบน้ำทันที วันนี้อากาศเย็นเหมือนกันนะเนี้ยแม้จะไม่ดึกมากแต่อาจจะเพราะเมื่อตอนเย็นฝนตกเล็กน้อยเลยทำให้วันนี้อากาศหนาวแต่ผมก็ชอบนะดีกว่าอากาศร้อนๆเสียอีก แต่...พอคิดถึงกรุงเทพเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วทำไมอากาศร้อนมันก็ไม่ได้แย่กับผมขนาดนั้นซ่ะหน่อย ผมหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำก็เห็นอีกคนนั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงนอนของผมว่าแต่...ใครอนุญาตให้ไปนั่ง “อาบน้ำเสร็จก็รีบใส่เสื้อผ้าดิอากาศเย็นเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” “ยุ่ง...” “อ้าว...นี่อย่าบอกนะที่เดินพันผ้าเดินไปมานี่ยั่วหรอ” “ห่ะ...” “ก็นายกำลังยั่วฉันอยู่ใช่ป่ะ” “ยั่วก็บ้าแล้ว...” “แล้วหนวดทำไมไม่โกน” “ขี้เกียจ” “จับโกนดีไหมเนี้ย” “ปากดี...หันไปนู้นเลยไปบอกว่าฉันยั่วแต่ก็มองจังเลยนะ” “ก็ชอบมีใครบ้างเห็นคนที่ชอบแล้วไม่มอง” “นายเนี้ยนะ...แล้วก็ไปนอนโซฟาที่นายด้วยนั้นเตียงของฉัน” “ก็วันนี้มันหนาว” “ทำไมจะกอดฉันแก้หนาวหรือไง” “ได้ไหมละ” “ไม่รู้ดว้ย” “แสดงว่าได้” จะทำอะไรต้องบอกทุกอย่างเลยหรือไงมีใครเขาอยากกอดแล้วเขาบอกก่อนบ้างว่ะไม่โรแมนติกเลย “ฟลุคแล้วนั้นจะไปไหน” “อยากรู้ก็ตามมา”

 

          ผมเดินตามเจ้าของบ้านไปด้านสวนหลังบ้านที่เหมือนจะมีบันไดขึ้นไปด้านบนดาดฟ้า นี่เขาจะพาผมไปไหนเนี้ย ทันทีที่ผมขึ้นไปถึงก็เห็นเขาจับราวระเบียงมองออกไปข้างหน้า “อะไรดูดาวหรอ” “อือ...” “ฝนตกไปเมื่อเย็นจะเห็นหรอ” “ก็ดูดิ...” “ดาวเต็มเลย” “นี่แหล่ะฟ้าหลังฝน” “สวยดีนะ...สวยกว่าตอนไปดูท้องฟ้าจำลองอีก” “มันก็สวยคนละแบบ” “หรอ...แต่ตอนนั้นฉันเห็นดาวตกด้วยนะ” “หรอ...แต่วันนี้ไม่มีหรอกถ้าอยากเห็นดาวตกต้องมาหน้าหนาวจะเยอะมากเลยละ” “วันนี้ก็มีนะ” “ไหน” พูดจบผมก็เดินไปสวมกอดจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยที่ไหล่ของฟลุคไว้เบาๆ “ทำอะไร” “ก็ดาวตกไง...วันนั้นนายยังเป็นดาวตกนอนซบไหล่ฉันเลย” “นาย...” “ไม่แกล้งแล้วๆก็อยากกอดไม่รู้สึกหรือไงว่าอากาศหนาวกอดไว้แบบนี้จะได้ไม่หนาวไง” “เพ้อเจ้อ...” ผมหัวเราะให้กับความเขินอายของเขาทั้งที่ปากว่าผมไม่โรแมนติกแต่ก็แพ้ความหยาบๆแบบนี้ไม่ใช่หรือไง ว่าแต่ทำยังไงจะให้เขาตกลงเป็นแฟนผมละหรือว่าตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว เอ๊ะหรือว่ายัง อย่างน้อยๆพรุ่งนี้ก่อนจะเข้าเกตไปผมควรได้คำตอบที่ชัดเจนไม่ใช่หรอเฮ้อ....

 

          “เดินทางปลอดภัยนะถึงแล้วบอกด้วย” ผมยิ้มให้กับกันที่กำลังจะเดินเข้าเกตไปแล้วโดยที่เขาไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา “นายจะเป็นแฟนฉันไหมเนี้ย” “ไม่รู้ขอเวลาคิดหน่อยดิ” “แต่ฉันจะกลับแล้วนะแล้วไม่รู้ว่าจะมาที่นี้เมื่อไร” “เข้าไปเถอะเดี๋ยวฉันจะรีบกลับอีกวันนี้มีเอาของไปให้ลูกค้า” “อือ...ความจริงก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรหรอกนะแต่ฉันก็อยากได้คำตอบก่อนจะขึ้นเครื่องแต่คงไม่ได้ซินะ” “ขอโทษนะ” พูดจบผมก็หันหลังกลับออกมาจากหน้าทางเข้าก่อนพอหันไปมองอีกทีกันก็เดินคอตกเข้าไปแล้ว ว่าแต่แม่อยู่ไหนว่ะเนี้ย... “ฟลุค...” “แม่ทำไมมาช้าละ” “ช้าอะไรฟลุคนั้นแหล่ะคุยกันนาน” “ไหนครับกระเป๋าเดินทางของผม” “นี้จ้าแล้วก็นี้เอกสารทุกอย่างนะพากันกลับมาด้วยนะ” “ครับแม่ผมไปก่อนนะเดี๋ยวเครื่องออกก่อน” “โอเคจ้าเดินทางปลอดภัยนะลูก” ผมหยิบหมวกขึ้นมาใส่ก่อนจะสวมแว่นตากันแดดและเสื้อคลุมพรางตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปข้างในตามอีกคนทันที ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างผมรอให้เขาเข้าไปก่อนแล้วผมจึงเดินตามเข้าไป นั้นไงเขานั่งอยู่ตรงนั้น แหม๋ทำเป็นพระเอกเอ็มวีไปได้มองหน้าต่างเหงาๆหรอ ผมค่อยๆก้มหน้าก้มตาไปนั่งลงข้างๆก่อนจะทำเป็นหยิบเอกสารบนเครื่องบินขึ้นมาเปิดอ่านเพื่อปิดหน้าไว้

 

          กว่าเครื่องบินจะออกท้องฟ้าก็เริ่มมืดมองเห็นแค่แสงจากด้านล่างกับดาวที่เหมือนจะอยู่ใกล้แต่มันก็ไม่ได้ใกล้หรอก “ดาวสวยดีนะครับ” เสียงใครว่ะ...ผมหันไปมองผู้ชายที่ก้มหน้าก้มตามองเอกสารที่พูดกับผมแต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบอะไรผมหันมาสนใจด้านนอกหน้าต่างเช่นเดิม “มองออกไปข้างนอกไม่กลัวความสูงหรอ” เอ๊ะ?...ผู้ชายคนนี้ทำไมเหมือนจะรู้ว่าผมกลัวความสูงแล้วรู้ได้ไงผมหันไปมองก่อนจะหันกลับมาอีกครั้ง “มีดาวตกด้วย” สิ้นประโยคผู้ชายที่นั่งข้างๆผมก็พับเอกสารเก็บที่เดิมก่อนจะเอาหัวพิงมาที่ไหล่ของผมเบาๆ “เฮ้ย...” “เบาๆ..เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ด่าเอาหรอก” “ฟลุค?” “เออ...” “มาได้ไง” “ก็มาส่งแฟนกลับบ้านผิดหรือไง” “แฟน?...นี่นาย” “เออ...ตกลงเป็นแฟนด้วยก็ได้” “จริงป่ะ...อุ๊บ” “บอกให้เบาๆไงเหล่า” คนตรงหน้าใช้มือขึ้นปิดปากผมไว้เพราะผมเผลอเสียงดังก่อนที่เขาจะค่อยๆเอามือออกจากปากผม “สรุปเราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆใช่ไหม” “อือ...ยังไม่เชื่ออีกหรือไง” “ก็มันเหมือนฝันเลย” “ต้องให้ฉันจูบปากไหมจะได้เชื่อ” “ได้หรอ?...” “ได้ก็บ้าแล้วเดี๋ยวได้โดนถ่ายคลิปด่าพอดีถึงคอนโดค่อยว่าแล้วกัน” “พูดเองนะ” “เออ...” “แล้วไหนบอกอยากให้ทำโรแมนติกๆไง” “ก็รู้ว่าคาดหวังไปก็ไม่ได้เลยทำเองเป็นไงตอบตกลงบนเครื่องบินโรแมนติกพอป่ะ” “มากอ่ะ...” “พอแล้วนอนๆ” ผมค่อยๆโอบไหล่คนที่นั่งพิงไหล่เอาไว้นี้หรอที่เขาเรียกว่าความสุขทำไมมันรู้สึกตื้นตันไปหมดก้ไม่รู้อยากจะหยุดยิ้มก็หยุดไม่ได้จริงๆเลยนะผู้ชายคนนี้ต้องระวังให้มากแล้วละ ขอบคุณนะการไม่รู้จักที่นำพาพรหมลิขิตมาให้ได้รู้จักกัน  

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา