My dear คนนี้หัวใจบอกยอม
9.2
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.41 น.
11 ตอน
2 วิจารณ์
13.42K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 11.58 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4
“พี่เมซิส” เมื่อเธอเดินไปดูก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที ว่าแต่เธอเรียกเมซิสว่าพี่หรอ หรือว่าเธอคือธิดาแวมไพร์ที่ก่อเรื่องจนเมซิสต้องมารับโทษแทน
“เจ้าเป็นธิดาแวมไพร์ที่ก่อเรื่องตัวจริงใช่ไหม” ผมตัดสินใจถามในสิ่งที่ผมสงสัย
“ถ้าใช่แล้วเจ้าจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกนะ แค่อยากจะบอกว่า ถ้าเมซิสไม่ต้องไปรับโทษแทนเจ้า นางก็คงไม่มีจุดจบเช่นนี้”
“จุดจบของนางก็คือได้เจ้าเป็นผู้ดูแลยังไงล่ะ และตอนนี้เจ้าก็จะมีจุดจบเช่นนาง”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้ ทหารพวกเจ้าพาตัวพ่อมดตนนี้ไปพบราชาแวมไพร์ได้” แววตาเธอแฝงไปด้วยความโกรธ
“ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับตัวข้า ข้ามาที่นี่ก็เพื่อรับโทษ และที่สำคัญคือข้าอยากพาเมซิสกลับบ้าน เพราะฉะนั้น ข้าเดินเองได้ ไม่ต้องกลัวข้าหนีหรอกนะ”
“ก็ดี จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แต่ถ้าเจ้าคิดจะเปลี่ยนใจหนี้แล้วล่ะก็ เจ้าตายแน่”
“จะไม่มีวันนั้นเด็ดขาด”
“ไปได้แล้ว”
“ครับผม” ผมตอบรับคำของเธอ แล้วเดินตามเธอไป พร้อมกับกลุ่มทหารที่เดินตามหลังมา ระหว่างทางนั้นทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ แต่ในความเงียบที่พบเจอ ทำให้ผมรู้ว่าตัวผมเองตัดสินใจผิดที่เชื่อราชาแล้วมาที่นี่ เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม อาหารของที่นี่ผมจะกินได้ไหมเนี่ย แล้วระยะเวลา 3 ปี ผมจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร ในเมื่อผมมีศัตรูตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาในดินแดนแห่งเวทมนตร์ แถมศัตรูของผมยังเป็นแวมไพร์ที่มีอำนาจไม่น้อยกว่าราชาแวมไพร์เลย
“ทำไมเจ้าเงียบจัง เจ้าคิดจะหนีหรือเปล่า” จู่ๆ เธอก็ถามขึ้น ทำให้ความเงียบหายไป
“เปล่า”
“นี่เจ้าชื่ออะไรน่ะ”
“เจ้าจะอยากรู้ไปทำไม”
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะนักโทษ และข้าจะขอเป็นผู้ดูแลนักโทษด้วยตัวของข้าเอง”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้ารอให้มีคำสั่งจากราชาก่อนดีกว่าไหม”
“นี่เจ้า” เธอโมโหมากที่ผมกวนประสาทเธอไม่หยุด
“ข้าทำไม”
“เจ้านี่ มันกวนประสาทข้าเสียจริง”
“...” ผมไม่ตอบอะไร เพราะกำลังตกใจกับปราสาทตรงหน้าอยู่ เพราะมันดูเหมือนปราสาทผีสิงมากกว่าจะเป็นปราสาทที่จะมีใครอยู่
“เงียบเลย เจ้าอยากมาที่นี่ไม่ใช่หรือ กลัวหรอ”
“ใช่ กลัว” ผมยอมรับไปตรงๆ
“เจ้ากลัวอะไร ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก ไม่เห็นน่ากลัวเลย ออกจะน่าอยู่ด้วยซ้ำ”
“น่าอยู่ตรงไหน มีแต่สีดำ บรรยายอย่างกับป่าช้าบนโลกมนุษย์”
“เจ้าเป็นพ่อมดนะ จะกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้”
“ถึงข้าจะเป็นพ่อมด แต่ข้าก็กลัวผีอย่างพวกเจ้านะ”
“พูดให้ดีๆนะ พวกข้าไม่ใช่ผีเสียหน่อย”
“ถ้าไม่ใช่ ทำไมต้องให้พวกพ่อมด แม่มดมาช่วยร่ายเวทมนตร์ให้ที่ดินแดนนี้ไม่ต้องพบเจอกับแสงแดดตลอดกาลล่ะ เจ้าอธิบายมาสิ”
“...”
“ที่เงียบนี่ไม่มีคำตอบใช่ไหม”
“ไอ้พวกบ้า พวกข้าไม่ใช่ผี ไม่ใช่ตัวประหลาดนะ”
“ถ้าไม่ประหลาดแล้วทำไมต้องกินเลือดเป็นอาหารด้วย”
“ข้าไม่กิน พวกเจ้ามันบ้า บ้า บ้าที่สุด”
“...” ผมยืนงง พูดไม่ออก เพราะเธอร้องไห้แล้วก็วิ่งหนีไป
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมเบลร้องไห้ แล้ววิ่งไปแบบนั้น แล้วนี่เจ้าเป็นใคร”
“หม่อมฉันชื่อ ฮาโล แบล็คเวฟ พะยะค่ะ เป็นพ่อมด และเป็นนักโทษของดินแดนแวมไพร์พะยะค่ะ ราชา” ผมตอบราชาแวมไพร์ออกไป
“เจ้าฉลาดเหมือนที่ราชาของเจ้าบอกจริงๆ ด้วย ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเมเบลลูกข้า”
“...” ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เพราะกลัวอำนาจของราชา
“ธิดา ร้องไห้ เพราะถูกพ่อมดตนนี้พูดใส่หน้าธิดาว่า ธิดาเป็นตัวประหลาด กินเลือดเป็นอาหาร และธิดาเป็นผี เพคะ ราชา” มีสาวใช้คนหนึ่งตอบ
“เจ้ากล้ามากนะ ที่ทำร้ายลูกสาวข้าทั้งสองคน ลูกสาวคนโตต้องสิ้นชีพเพราะเจ้า ลูกสาวคนเล็กต้องเสียใจเพราะคำพูดของเจ้า”
“หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“นางอาจจะดูแกร่งและไม่เกรงกลัวใคร แต่ความจริงนางอ่อนไหวและอ่อนแอกว่าที่เจ้าคิด จำไว้”
“ครับ”
“เพราะอย่างนั้น ข้าจะตั้งแต่ให้เมเบลเป็นผู้ดูแลนักโทษอย่างเจ้า ต่อไปนี้และตลอดระยะเวลา 3 ปี ชีวิตของเจ้าขึ้นอยู่กับนาง”
“ครับ”
“ถ้าเจ้าทำให้นางเสียใจอีก ข้าจะกินเลือดเจ้า”
“ถ้าหม่อมฉันเป็นอะไรไป ดินแดนของท่านคงไม่มีเวทมนตร์ป้องกันแสงแดดอีกต่อไป ท่านคงทราบดีใช่ไหม”
“ข้ารู้ แต่เจ้ายังมีอีกหลายอย่างที่ไม่รู้”
“เดี๋ยวผมก็รู้”
“พวกเจ้าพาตัวนักโทษไปที่พักของนักโทษได้แล้ว”
“พะยะค่ะ” พวกทหารรับคำพร้อมกัน และเดินตรงมาที่ผม เพื่อที่จะนำตัวผมไปยังห้องคุมขัง ซึ่งผมไม่อยากจะนึกสภาพเลย เพราะขนาดปราสาทยังดูน่ากลัวขนาดนี้ แล้วห้องคุมขังนักโทษอย่างผมจะขนาดไหนกัน
“เดี๋ยวก่อน ท่านพ่อ ข้าอยากไปส่งนักโทษด้วยตัวข้าเอง”
“แต่เมื่อครู่มันทำเจ้าร้องไห้นะ”
“ข้าจะแก้แค้นให้พี่เมซิส และตัวข้า อีกอย่าง...”
“อีกอย่างคืออะไร” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อีกอย่างก็คือ ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าดูว่าข้าไม่ใช่ผี ไม่ใช่ตัวประหลาด หรือตัวกินเลือดอย่างที่เจ้าคิด”
“ตามใจเจ้าเถอะ ข้าไม่สนใจอยู่แล้ว”
“ทำเป็นปากดีไปเถอะ เพราะแม้แต่เรื่องอาหารการกินของเจ้า ข้าก็จะเป็นคนดูแล ข้าให้เจ้ากินอะไร เจ้าก็ต้องกินอย่างนั้น ถึงบางอย่างเจ้าจะไม่อยากกิน เจ้าก็ต้องกิน จำเอาไว้ด้วย” เธอพูดขู่ผม ซึ่งผมก็พอจะรู้ตัวอยู่ว่าเธอคงเตรียมแก้แค้นให้พี่สาวของเธออยู่แล้ว แต่ผมก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะ และผมจะทำให้เธอรู้ว่าผมเกลียดตัวประหลาดอย่างพวกเธอ
“พี่เมซิส” เมื่อเธอเดินไปดูก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที ว่าแต่เธอเรียกเมซิสว่าพี่หรอ หรือว่าเธอคือธิดาแวมไพร์ที่ก่อเรื่องจนเมซิสต้องมารับโทษแทน
“เจ้าเป็นธิดาแวมไพร์ที่ก่อเรื่องตัวจริงใช่ไหม” ผมตัดสินใจถามในสิ่งที่ผมสงสัย
“ถ้าใช่แล้วเจ้าจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกนะ แค่อยากจะบอกว่า ถ้าเมซิสไม่ต้องไปรับโทษแทนเจ้า นางก็คงไม่มีจุดจบเช่นนี้”
“จุดจบของนางก็คือได้เจ้าเป็นผู้ดูแลยังไงล่ะ และตอนนี้เจ้าก็จะมีจุดจบเช่นนาง”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้ ทหารพวกเจ้าพาตัวพ่อมดตนนี้ไปพบราชาแวมไพร์ได้” แววตาเธอแฝงไปด้วยความโกรธ
“ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับตัวข้า ข้ามาที่นี่ก็เพื่อรับโทษ และที่สำคัญคือข้าอยากพาเมซิสกลับบ้าน เพราะฉะนั้น ข้าเดินเองได้ ไม่ต้องกลัวข้าหนีหรอกนะ”
“ก็ดี จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แต่ถ้าเจ้าคิดจะเปลี่ยนใจหนี้แล้วล่ะก็ เจ้าตายแน่”
“จะไม่มีวันนั้นเด็ดขาด”
“ไปได้แล้ว”
“ครับผม” ผมตอบรับคำของเธอ แล้วเดินตามเธอไป พร้อมกับกลุ่มทหารที่เดินตามหลังมา ระหว่างทางนั้นทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ แต่ในความเงียบที่พบเจอ ทำให้ผมรู้ว่าตัวผมเองตัดสินใจผิดที่เชื่อราชาแล้วมาที่นี่ เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม อาหารของที่นี่ผมจะกินได้ไหมเนี่ย แล้วระยะเวลา 3 ปี ผมจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร ในเมื่อผมมีศัตรูตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาในดินแดนแห่งเวทมนตร์ แถมศัตรูของผมยังเป็นแวมไพร์ที่มีอำนาจไม่น้อยกว่าราชาแวมไพร์เลย
“ทำไมเจ้าเงียบจัง เจ้าคิดจะหนีหรือเปล่า” จู่ๆ เธอก็ถามขึ้น ทำให้ความเงียบหายไป
“เปล่า”
“นี่เจ้าชื่ออะไรน่ะ”
“เจ้าจะอยากรู้ไปทำไม”
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะนักโทษ และข้าจะขอเป็นผู้ดูแลนักโทษด้วยตัวของข้าเอง”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้ารอให้มีคำสั่งจากราชาก่อนดีกว่าไหม”
“นี่เจ้า” เธอโมโหมากที่ผมกวนประสาทเธอไม่หยุด
“ข้าทำไม”
“เจ้านี่ มันกวนประสาทข้าเสียจริง”
“...” ผมไม่ตอบอะไร เพราะกำลังตกใจกับปราสาทตรงหน้าอยู่ เพราะมันดูเหมือนปราสาทผีสิงมากกว่าจะเป็นปราสาทที่จะมีใครอยู่
“เงียบเลย เจ้าอยากมาที่นี่ไม่ใช่หรือ กลัวหรอ”
“ใช่ กลัว” ผมยอมรับไปตรงๆ
“เจ้ากลัวอะไร ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก ไม่เห็นน่ากลัวเลย ออกจะน่าอยู่ด้วยซ้ำ”
“น่าอยู่ตรงไหน มีแต่สีดำ บรรยายอย่างกับป่าช้าบนโลกมนุษย์”
“เจ้าเป็นพ่อมดนะ จะกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้”
“ถึงข้าจะเป็นพ่อมด แต่ข้าก็กลัวผีอย่างพวกเจ้านะ”
“พูดให้ดีๆนะ พวกข้าไม่ใช่ผีเสียหน่อย”
“ถ้าไม่ใช่ ทำไมต้องให้พวกพ่อมด แม่มดมาช่วยร่ายเวทมนตร์ให้ที่ดินแดนนี้ไม่ต้องพบเจอกับแสงแดดตลอดกาลล่ะ เจ้าอธิบายมาสิ”
“...”
“ที่เงียบนี่ไม่มีคำตอบใช่ไหม”
“ไอ้พวกบ้า พวกข้าไม่ใช่ผี ไม่ใช่ตัวประหลาดนะ”
“ถ้าไม่ประหลาดแล้วทำไมต้องกินเลือดเป็นอาหารด้วย”
“ข้าไม่กิน พวกเจ้ามันบ้า บ้า บ้าที่สุด”
“...” ผมยืนงง พูดไม่ออก เพราะเธอร้องไห้แล้วก็วิ่งหนีไป
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมเบลร้องไห้ แล้ววิ่งไปแบบนั้น แล้วนี่เจ้าเป็นใคร”
“หม่อมฉันชื่อ ฮาโล แบล็คเวฟ พะยะค่ะ เป็นพ่อมด และเป็นนักโทษของดินแดนแวมไพร์พะยะค่ะ ราชา” ผมตอบราชาแวมไพร์ออกไป
“เจ้าฉลาดเหมือนที่ราชาของเจ้าบอกจริงๆ ด้วย ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเมเบลลูกข้า”
“...” ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เพราะกลัวอำนาจของราชา
“ธิดา ร้องไห้ เพราะถูกพ่อมดตนนี้พูดใส่หน้าธิดาว่า ธิดาเป็นตัวประหลาด กินเลือดเป็นอาหาร และธิดาเป็นผี เพคะ ราชา” มีสาวใช้คนหนึ่งตอบ
“เจ้ากล้ามากนะ ที่ทำร้ายลูกสาวข้าทั้งสองคน ลูกสาวคนโตต้องสิ้นชีพเพราะเจ้า ลูกสาวคนเล็กต้องเสียใจเพราะคำพูดของเจ้า”
“หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“นางอาจจะดูแกร่งและไม่เกรงกลัวใคร แต่ความจริงนางอ่อนไหวและอ่อนแอกว่าที่เจ้าคิด จำไว้”
“ครับ”
“เพราะอย่างนั้น ข้าจะตั้งแต่ให้เมเบลเป็นผู้ดูแลนักโทษอย่างเจ้า ต่อไปนี้และตลอดระยะเวลา 3 ปี ชีวิตของเจ้าขึ้นอยู่กับนาง”
“ครับ”
“ถ้าเจ้าทำให้นางเสียใจอีก ข้าจะกินเลือดเจ้า”
“ถ้าหม่อมฉันเป็นอะไรไป ดินแดนของท่านคงไม่มีเวทมนตร์ป้องกันแสงแดดอีกต่อไป ท่านคงทราบดีใช่ไหม”
“ข้ารู้ แต่เจ้ายังมีอีกหลายอย่างที่ไม่รู้”
“เดี๋ยวผมก็รู้”
“พวกเจ้าพาตัวนักโทษไปที่พักของนักโทษได้แล้ว”
“พะยะค่ะ” พวกทหารรับคำพร้อมกัน และเดินตรงมาที่ผม เพื่อที่จะนำตัวผมไปยังห้องคุมขัง ซึ่งผมไม่อยากจะนึกสภาพเลย เพราะขนาดปราสาทยังดูน่ากลัวขนาดนี้ แล้วห้องคุมขังนักโทษอย่างผมจะขนาดไหนกัน
“เดี๋ยวก่อน ท่านพ่อ ข้าอยากไปส่งนักโทษด้วยตัวข้าเอง”
“แต่เมื่อครู่มันทำเจ้าร้องไห้นะ”
“ข้าจะแก้แค้นให้พี่เมซิส และตัวข้า อีกอย่าง...”
“อีกอย่างคืออะไร” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อีกอย่างก็คือ ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าดูว่าข้าไม่ใช่ผี ไม่ใช่ตัวประหลาด หรือตัวกินเลือดอย่างที่เจ้าคิด”
“ตามใจเจ้าเถอะ ข้าไม่สนใจอยู่แล้ว”
“ทำเป็นปากดีไปเถอะ เพราะแม้แต่เรื่องอาหารการกินของเจ้า ข้าก็จะเป็นคนดูแล ข้าให้เจ้ากินอะไร เจ้าก็ต้องกินอย่างนั้น ถึงบางอย่างเจ้าจะไม่อยากกิน เจ้าก็ต้องกิน จำเอาไว้ด้วย” เธอพูดขู่ผม ซึ่งผมก็พอจะรู้ตัวอยู่ว่าเธอคงเตรียมแก้แค้นให้พี่สาวของเธออยู่แล้ว แต่ผมก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะ และผมจะทำให้เธอรู้ว่าผมเกลียดตัวประหลาดอย่างพวกเธอ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ