My dear คนนี้หัวใจบอกยอม
9.2
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.41 น.
11 ตอน
2 วิจารณ์
13.43K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 11.58 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 3
ผมนั่งกอดร่างที่ไร้ซึ่งดวงวิญญาณของเมซิส อยู่ตรงหน้าประตูพระราชวัง น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด ณ เวลานี้ ผมได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมผมถึงไม่ทำดีกับเธอตอนที่เธอยังมีชีพอยู่ ทำไมเธอต้องจากผมไปในเวลาที่ผมเริ่มรู้สึกดีกับเธอ ทำไมผู้หญิงที่ผมรักและผู้หญิงที่ผมเริ่มชอบพวกเธอต้องมาสิ้นชีพเพราะผมด้วย นี่ผมเป็นตัวซวยของพวกเธอหรือเปล่า พอคิดได้แบบนั้นผมก็บอกกับตัวเองว่าผมจะไม่รักใครอีก เพราะผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องสิ้นชีพเพราะผมอีก
“เกิดอะไรขึ้น ฮาโล” เสียงพี่นิวเยียร์ฟังดูตกใจมาก แต่ก็เป็นเสียงที่เรียกสติผมขึ้นมาได้
“พี่นิวเยียร์ เมซิส นางสิ้นชีพแล้ว”
“เป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน”
“เพราะข้า ข้าทำให้นางต้องสิ้นชีพ”
“เจ้าฆ่านางหรอ ฮาโล”
“เปล่า ข้าไม่ได้ฆ่านาง แต่พวกที่ตั้งตนเป็นแฟนคลับข้า ดักทำร้ายนาง”
“ถ้างั้นเจ้าก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะคนผิดต้องได้รับโทษ”
“หมายความว่าข้าต้องได้รับโทษด้วยใช่ไหมพี่เฮเซ”
“เจ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าว่าเจ้ารีบจัดการกับตัวเองก่อนดีกว่านะ”
“ในเมื่อน้องชายข้าไม่เกี่ยว แล้วทำไมต้องไปจัดการอะไรด้วย เฮเซ” พี่นิวเยียร์ทำเสียงเข้มใส่พี่เฮเซ
“เจ้านี่คิดอะไรตื้นๆ น้องชายเจ้าไม่เกี่ยวก็จริง แต่ถ้าใครมาเห็นฮาโลในสภาพนี้ ก็ต้องคิดว่าเกี่ยวอยู่แล้ว เพราะฮาโลเองก็ไม่เต็มใจที่จะเป็นผู้คุมอยู่แล้ว”
“แต่พวกเขาก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ถึงแม้ว่าฮาโลจะเพิ่งรู้ตัวว่ารู้สึกดีกับนางก็เถอะ”
“เอาล่ะ ข้าไม่อยากจะเถียงกับเจ้าแล้ว ถ้าเจ้ารักน้องของเจ้า เจ้าก็จงรีบพาน้องของเจ้าออกไปจากที่นี่ก่อนที่ท่านพ่อจะมาเห็นดีกว่า ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่”
“คราวนี้ข้าจะยอมเจ้าก็ได้ ไปกันได้แล้วฮาโล” พี่นิวเยียร์คุยกับพี่เฮเซเสร็จแล้ว จึงหันมาเรียกผม แต่ผมไม่มีแรงจะลุกขึ้น และไม่อยากจะทิ้งร่างของเฮซิสไว้ที่นี่ด้วย
“ข้าของนำร่างของนางไปด้วยได้หรือไม่”
“ไม่ได้เด็ดขาด” เสียงของราชาพูดขึ้นจากทางด้านหลังของพี่เฮเซ
“ท่านพ่อ” พี่เฮเซรีบหันหลังไปคุยกับราชา เผื่อถ่วงเวลาให้ผมหนี
“ข้าได้ยินที่พวกเจ้าคุยกันหมดแล้ว และข้าก็ตัดสินใจแล้ว”
“ตัดสินใจอะไรท่านพ่อ”
“ข้าจะส่งตัวฮาโลไปยังดินแดนแห่งแวมไพร์ เพื่อให้เป็นนักโทษของดินแดน”
“ราชาเพคะ แต่น้องชายของหม่อมฉันไม่ใช่ผู้ที่กระทำการฆ่านางนะเพคะ” พี่นิวเยียร์คุกเข่าอ้อนวอนทั้งน้ำตา จนพี่เฮเซทนไม่ไหวเลยต้องเดินมาพยุงให้ลุกขึ้น
“ข้าขอโทษนะนิวเยียร์ แต่ข้าต้องส่งน้องชายเจ้าไปในฐานะนักโทษของดินแดนจริงๆ เพราะนางเป็นถึงธิดาของดินแดนแห่งแวมไพร์” ราชาพูดอย่างสิ้นหวัง
“แต่มันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้สิท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านมีแต่ท่านไม่ทำ”
“ข้าไม่มีจริงๆ เพราะฮาโลเป็นผู้รับผิดชอบในตัวของนาง ถ้านางเกิดอะไรขึ้นฮาโลต้องรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้น จะทำให้เกิดสงครามระหว่างดินแดน”
“หม่อมฉันเข้าใจแล้วพะยะค่ะราชา หม่อมฉันจะไป และจะนำร่างของเมซิสไปส่งให้ถึงราชาแวมไพร์ และเมื่อครบกำหนดการจองจำ หม่อมฉันจะกลับมาพะยะค่ะ”
“เจ้ายังคงฉลาดไม่เปลี่ยนนะฮาโล”
“แล้วพวกแม่มดที่ฆ่านางล่ะท่านพ่อจะทำยังไง”
“ข้าได้ให้ทหารไปตามจับแล้ว และบทลงโทษของพวกนางคือขังคุกมืดตลอดชั่วอายุของพวกนาง บทลงโทษนี้ข้าหวังว่าจะทำให้พวกเจ้าพอใจนะ”
“ถึงไม่พอใจหม่อมฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพคะ”
“ใช่ เจ้าพูดถูกแล้วนิวเยียร์” ราชาตอบพี่นิวเยียร์ทันทีที่พี่นิวเยียร์พูดจบ
“ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันอยากให้คนทำความสะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมซิสพะยะค่ะ”
“ได้ข้าจะให้ตามที่เจ้าขอ” ราชาพูดจบ ก็สั่งให้สาวรับใช้นำร่างของเมซิสไปทันที และหลังจากนั้นไม่นาน ร่างของเมซิสก็ออกมาพร้อมกับนอนอยู่ในโรงแก้วที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ที่สวยงาม
“หม่อมฉันทูลลาพะยะค่ะ” ผมกล่าวลาพระราชา และหันไปยิ้มให้พี่นิวเยียร์
“เดี๋ยวก่อนนนนนนนนนนนนน” เสียงนั่น
“ท่านแม่ ท่านมาที่นี่ทำไม”
“แม่มาเพื่อไม่ให้เจ้าไป แม่ยอมรับไม่ได้”
“ท่านแม่ ท่านอย่าร้องไห้ ข้าไปแค่ 3 ปี เดี๋ยวข้าก็พ้นโทษแล้ว”
“แต่ 3 ปี ใครจะรับประกันว่าเจ้าจะปลอดภัยกลับมา”
“ข้ารับประกันให้เจ้า เจ้าพอใจวางใจได้ไหม”
“ข้าไม่ยอม ท่านอย่าลืมนะ ที่ตระกูลของพวกข้ายอมรับใช้ท่านมาตลอด มันเพราะอะไร แต่ตอนนี้ท่านจะส่งลูกชายของข้าไปเป็นนักโทษโดยไม่มีความผิด แถมยังไม่คิดจะบอกข้าสักคำ มันถูกต้องแล้วหรอราชา”
“ข้าไม่ลืมว่าเพราะอะไร แต่เจ้าต้องเข้าใจนะว่ากฎก็ต้องเป็นกฎ”
“แต่ว่า...”
“พอเถอะท่านแม่ ข้าเต็มใจจะไป”
“ฮาโล เจ้าอยู่กับแม่เถอะ”
“ไม่ได้ครับ ท่านแม่ ข้าจะไปส่งเมซิส”
“เจ้ามีความรู้สึกดีให้กับนางใช่ไหม”
“ครับท่านแม่ ข้าอยากไปรับผิดกับราชาแวมไพร์ด้วยตัวข้าเอง ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นคนฆ่านางโดยตรง แต่นางก็สิ้นชีพเพราะข้าอยู่ดี ท่านแม่เข้าใจข้านะ”
“แม่เข้าใจแล้ว แต่เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ เจ้าสัญญากับแม่นะ” ท่านแม่พูดทั้งน้ำตา
“ข้าสัญญาท่านแม่ ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ถ้าลูกชายข้าเป็นอะไรไป เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ราชา” ท่านแม่หันไปขู่ราชา แต่น่าแปลกใจที่ราชากลับแสดงออกถึงความกังวลกับคำขู่ของท่านแม่
“ข้าไปล่ะ” ผมกล่าวลาทุกคนอีกครั้ง และนำร่างของเมซิสออกเดินทางไปยังดินแดนแห่งแวมไพร์ แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะข้ามประตูระหว่างดินแดนแห่งเวทมนตร์และดินแดนแห่งแวมไพร์นั้น ผมก็ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน
“พวกเจ้าจับผู้บุกรุกไปให้ราชา เร็วเข้า”
“พวกเจ้าเป็นใคร” ผมถามคนกลุ่มนั้น
“พวกข้าเป็นใคร คงไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าหรอกนะ พ่อมดหนุ่ม” เธอเป็นใครกัน ทำไมถึงได้รู้ว่าผมเป็นพ่อมด และที่สำคัญ ทำไมทุกคนต้องยอมสยบให้กับเธอ
“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องจับข้าหรอก วันนี้ข้าไม่ได้มาในฐานะผู้บุกรุก แต่ข้ามาในฐานะนักโทษของดินแดน และผู้ที่ข้าทำให้ต้องสิ้นชีพก็คือ ธิดาเมซิส ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ก็เชิญดูสิ่งที่อยู่ในรถม้าของข้าได้ เพราะนั่นคือร่างของนาง” ผมพูดความจริงทุกอย่างให้เธอฟัง เพื่อที่เธอจะได้นำผมไปพบราชาแวมไพร์ได้เร็วขึ้น
ผมนั่งกอดร่างที่ไร้ซึ่งดวงวิญญาณของเมซิส อยู่ตรงหน้าประตูพระราชวัง น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด ณ เวลานี้ ผมได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมผมถึงไม่ทำดีกับเธอตอนที่เธอยังมีชีพอยู่ ทำไมเธอต้องจากผมไปในเวลาที่ผมเริ่มรู้สึกดีกับเธอ ทำไมผู้หญิงที่ผมรักและผู้หญิงที่ผมเริ่มชอบพวกเธอต้องมาสิ้นชีพเพราะผมด้วย นี่ผมเป็นตัวซวยของพวกเธอหรือเปล่า พอคิดได้แบบนั้นผมก็บอกกับตัวเองว่าผมจะไม่รักใครอีก เพราะผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องสิ้นชีพเพราะผมอีก
“เกิดอะไรขึ้น ฮาโล” เสียงพี่นิวเยียร์ฟังดูตกใจมาก แต่ก็เป็นเสียงที่เรียกสติผมขึ้นมาได้
“พี่นิวเยียร์ เมซิส นางสิ้นชีพแล้ว”
“เป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน”
“เพราะข้า ข้าทำให้นางต้องสิ้นชีพ”
“เจ้าฆ่านางหรอ ฮาโล”
“เปล่า ข้าไม่ได้ฆ่านาง แต่พวกที่ตั้งตนเป็นแฟนคลับข้า ดักทำร้ายนาง”
“ถ้างั้นเจ้าก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะคนผิดต้องได้รับโทษ”
“หมายความว่าข้าต้องได้รับโทษด้วยใช่ไหมพี่เฮเซ”
“เจ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าว่าเจ้ารีบจัดการกับตัวเองก่อนดีกว่านะ”
“ในเมื่อน้องชายข้าไม่เกี่ยว แล้วทำไมต้องไปจัดการอะไรด้วย เฮเซ” พี่นิวเยียร์ทำเสียงเข้มใส่พี่เฮเซ
“เจ้านี่คิดอะไรตื้นๆ น้องชายเจ้าไม่เกี่ยวก็จริง แต่ถ้าใครมาเห็นฮาโลในสภาพนี้ ก็ต้องคิดว่าเกี่ยวอยู่แล้ว เพราะฮาโลเองก็ไม่เต็มใจที่จะเป็นผู้คุมอยู่แล้ว”
“แต่พวกเขาก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ถึงแม้ว่าฮาโลจะเพิ่งรู้ตัวว่ารู้สึกดีกับนางก็เถอะ”
“เอาล่ะ ข้าไม่อยากจะเถียงกับเจ้าแล้ว ถ้าเจ้ารักน้องของเจ้า เจ้าก็จงรีบพาน้องของเจ้าออกไปจากที่นี่ก่อนที่ท่านพ่อจะมาเห็นดีกว่า ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่”
“คราวนี้ข้าจะยอมเจ้าก็ได้ ไปกันได้แล้วฮาโล” พี่นิวเยียร์คุยกับพี่เฮเซเสร็จแล้ว จึงหันมาเรียกผม แต่ผมไม่มีแรงจะลุกขึ้น และไม่อยากจะทิ้งร่างของเฮซิสไว้ที่นี่ด้วย
“ข้าของนำร่างของนางไปด้วยได้หรือไม่”
“ไม่ได้เด็ดขาด” เสียงของราชาพูดขึ้นจากทางด้านหลังของพี่เฮเซ
“ท่านพ่อ” พี่เฮเซรีบหันหลังไปคุยกับราชา เผื่อถ่วงเวลาให้ผมหนี
“ข้าได้ยินที่พวกเจ้าคุยกันหมดแล้ว และข้าก็ตัดสินใจแล้ว”
“ตัดสินใจอะไรท่านพ่อ”
“ข้าจะส่งตัวฮาโลไปยังดินแดนแห่งแวมไพร์ เพื่อให้เป็นนักโทษของดินแดน”
“ราชาเพคะ แต่น้องชายของหม่อมฉันไม่ใช่ผู้ที่กระทำการฆ่านางนะเพคะ” พี่นิวเยียร์คุกเข่าอ้อนวอนทั้งน้ำตา จนพี่เฮเซทนไม่ไหวเลยต้องเดินมาพยุงให้ลุกขึ้น
“ข้าขอโทษนะนิวเยียร์ แต่ข้าต้องส่งน้องชายเจ้าไปในฐานะนักโทษของดินแดนจริงๆ เพราะนางเป็นถึงธิดาของดินแดนแห่งแวมไพร์” ราชาพูดอย่างสิ้นหวัง
“แต่มันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้สิท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านมีแต่ท่านไม่ทำ”
“ข้าไม่มีจริงๆ เพราะฮาโลเป็นผู้รับผิดชอบในตัวของนาง ถ้านางเกิดอะไรขึ้นฮาโลต้องรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้น จะทำให้เกิดสงครามระหว่างดินแดน”
“หม่อมฉันเข้าใจแล้วพะยะค่ะราชา หม่อมฉันจะไป และจะนำร่างของเมซิสไปส่งให้ถึงราชาแวมไพร์ และเมื่อครบกำหนดการจองจำ หม่อมฉันจะกลับมาพะยะค่ะ”
“เจ้ายังคงฉลาดไม่เปลี่ยนนะฮาโล”
“แล้วพวกแม่มดที่ฆ่านางล่ะท่านพ่อจะทำยังไง”
“ข้าได้ให้ทหารไปตามจับแล้ว และบทลงโทษของพวกนางคือขังคุกมืดตลอดชั่วอายุของพวกนาง บทลงโทษนี้ข้าหวังว่าจะทำให้พวกเจ้าพอใจนะ”
“ถึงไม่พอใจหม่อมฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพคะ”
“ใช่ เจ้าพูดถูกแล้วนิวเยียร์” ราชาตอบพี่นิวเยียร์ทันทีที่พี่นิวเยียร์พูดจบ
“ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันอยากให้คนทำความสะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมซิสพะยะค่ะ”
“ได้ข้าจะให้ตามที่เจ้าขอ” ราชาพูดจบ ก็สั่งให้สาวรับใช้นำร่างของเมซิสไปทันที และหลังจากนั้นไม่นาน ร่างของเมซิสก็ออกมาพร้อมกับนอนอยู่ในโรงแก้วที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ที่สวยงาม
“หม่อมฉันทูลลาพะยะค่ะ” ผมกล่าวลาพระราชา และหันไปยิ้มให้พี่นิวเยียร์
“เดี๋ยวก่อนนนนนนนนนนนนน” เสียงนั่น
“ท่านแม่ ท่านมาที่นี่ทำไม”
“แม่มาเพื่อไม่ให้เจ้าไป แม่ยอมรับไม่ได้”
“ท่านแม่ ท่านอย่าร้องไห้ ข้าไปแค่ 3 ปี เดี๋ยวข้าก็พ้นโทษแล้ว”
“แต่ 3 ปี ใครจะรับประกันว่าเจ้าจะปลอดภัยกลับมา”
“ข้ารับประกันให้เจ้า เจ้าพอใจวางใจได้ไหม”
“ข้าไม่ยอม ท่านอย่าลืมนะ ที่ตระกูลของพวกข้ายอมรับใช้ท่านมาตลอด มันเพราะอะไร แต่ตอนนี้ท่านจะส่งลูกชายของข้าไปเป็นนักโทษโดยไม่มีความผิด แถมยังไม่คิดจะบอกข้าสักคำ มันถูกต้องแล้วหรอราชา”
“ข้าไม่ลืมว่าเพราะอะไร แต่เจ้าต้องเข้าใจนะว่ากฎก็ต้องเป็นกฎ”
“แต่ว่า...”
“พอเถอะท่านแม่ ข้าเต็มใจจะไป”
“ฮาโล เจ้าอยู่กับแม่เถอะ”
“ไม่ได้ครับ ท่านแม่ ข้าจะไปส่งเมซิส”
“เจ้ามีความรู้สึกดีให้กับนางใช่ไหม”
“ครับท่านแม่ ข้าอยากไปรับผิดกับราชาแวมไพร์ด้วยตัวข้าเอง ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นคนฆ่านางโดยตรง แต่นางก็สิ้นชีพเพราะข้าอยู่ดี ท่านแม่เข้าใจข้านะ”
“แม่เข้าใจแล้ว แต่เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ เจ้าสัญญากับแม่นะ” ท่านแม่พูดทั้งน้ำตา
“ข้าสัญญาท่านแม่ ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ถ้าลูกชายข้าเป็นอะไรไป เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ราชา” ท่านแม่หันไปขู่ราชา แต่น่าแปลกใจที่ราชากลับแสดงออกถึงความกังวลกับคำขู่ของท่านแม่
“ข้าไปล่ะ” ผมกล่าวลาทุกคนอีกครั้ง และนำร่างของเมซิสออกเดินทางไปยังดินแดนแห่งแวมไพร์ แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะข้ามประตูระหว่างดินแดนแห่งเวทมนตร์และดินแดนแห่งแวมไพร์นั้น ผมก็ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน
“พวกเจ้าจับผู้บุกรุกไปให้ราชา เร็วเข้า”
“พวกเจ้าเป็นใคร” ผมถามคนกลุ่มนั้น
“พวกข้าเป็นใคร คงไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าหรอกนะ พ่อมดหนุ่ม” เธอเป็นใครกัน ทำไมถึงได้รู้ว่าผมเป็นพ่อมด และที่สำคัญ ทำไมทุกคนต้องยอมสยบให้กับเธอ
“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องจับข้าหรอก วันนี้ข้าไม่ได้มาในฐานะผู้บุกรุก แต่ข้ามาในฐานะนักโทษของดินแดน และผู้ที่ข้าทำให้ต้องสิ้นชีพก็คือ ธิดาเมซิส ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ก็เชิญดูสิ่งที่อยู่ในรถม้าของข้าได้ เพราะนั่นคือร่างของนาง” ผมพูดความจริงทุกอย่างให้เธอฟัง เพื่อที่เธอจะได้นำผมไปพบราชาแวมไพร์ได้เร็วขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ