My dear คนนี้หัวใจบอกยอม
9.2
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.41 น.
11 ตอน
2 วิจารณ์
13.42K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 11.58 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
10) 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 10
“นี่เจ้าจะทำอะไรน่ะ” เมเบลเสียงอ่อน แล้วก็ผลักผมให้พ้นจากตัวเธอ
“เปล่า ข้าแค่อยากสอนให้เจ้ารู้เท่านั้นเองว่า การจูบที่แท้จริงมันเป็นยังไง” ผมทำท่าทางยียวนกวนประสาทใส่เมเบล แวมไพร์สาวที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงอยู่ตรงหน้าของผม
“แต่นั่นมันจูบแรกของข้าเลยนะ”
“ดีใจจังที่ข้าได้มันมาครอง”
“ได้อะไรของเจ้า”
“ก็จูบแรกของเจ้าไงล่ะ” ผมพูดพร้อมกับทำหน้ายิ้มแป้น
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”
“เจ้าเขินหรอ”
“อือ ใครจะไม่เขินล่ะ”
“งั้นอีกทีไหม เผื่อเจ้าจะชิน แล้วไม่เขินอีก” ผมพูดจบก็จับหน้าของเมเบล แล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหาเธอ เมเบลยืนหลับตาเตรียมรับรสจูบจากผม แต่น่าเสียดายที่มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อน
“ข้าพาสเวนมาแล้ว” อันนานั่นเองที่เปิดประตูมาพร้อมกับชายหนุ่มรูปงาม
“พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ” ชายหนุ่มผู้นั้นร้องถามอย่างตกใจ
“เปล่า” ผมและเมเบลผลักตัวออกจากกัน พร้อมกับตอบปฏิเสธพร้อมกัน แต่ผมสังเกตเห็นว่าเมเบลหน้าแดงกว่าเดิมเสียอีก และผมเองก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมา
“นี่ข้าตกข่าวอะไรไปหรือเปล่านะ” อันนาแซวผมและเมเบล
“แล้วถ้าไม่มีอะไรทำไมพวกเจ้าต้องหน้าแดงกันทั้งคู่ด้วยล่ะ” แวมไพร์หนุ่มถามขึ้น
“เอาล่ะ ช่างเถอะ มันไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ ว่าแต่อันนา เจ้าพาสเวนมาที่นี่ทำไมกัน สเวนต้องคอยอารักขาพระบิดาของข้าไม่ใช่หรือ” เมเบลรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“หม่อมฉันต้องขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะธิดาเมเบล คืออันนาได้เล่าถึงแผนการที่จะช่วยธิดาจากซีโน่ให้หม่อมฉันและราชาฟัง ราชาจึงสั่งให้หม่อมฉันตามอันนามาพบนักโทษผู้นี้พะยะค่ะ” สเวนตอบ
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าเล่าแผนทั้งหมดมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้ ฮาโล” เมเบลทำเสียงดุใส่ผม
“ได้ขอรับ ธิดาที่รัก”
“เดี๋ยวก่อน ใครเป็นที่รักของใคร อะไรยังไงกัน” อันนาถามขึ้น
“ก็ ...” ผมลากเสียงยาวเพื่อจะกวนประสาทเมเบล
“พอได้แล้วฮาโล ข้าว่าเจ้าสนุกมากพอแล้วนะ เล่าแผนการของเจ้ามาได้แล้วล่ะ” เมเบลพูดขึ้น
“ก็ได้ แผนการก็มีอยู่ว่า ข้าจะให้สเวนไปท้าประลองกับซีโน่ แล้วเอาชนะซีโน่ให้ได้ เพื่อที่จะได้เป็นคู่หมั้นของเมเบล แทนซีโน่”
“นี่แผนหรอ เจ้าบ้าไปแล้วหรือเปล่า สเวนจะไปชนะซีโน่ได้ยังไง ทำแบบนี้เหมือนส่งสเวนไปสิ้นชีพเสียเปล่าๆ นะ”
“เมเบลเจ้าใจเย็นๆ ก่อน สเวนจะปลอดภัยและเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน เพราะข้าจะใช้เวทของข้าช่วยทำให้สเวนชนะซีโน่เอง เจ้าอย่าห่วงไปเลยเมเบล”
“ไม่จำเป็นหรอกท่านฮาโล ข้าชนะซีโน่ได้ด้วยตัวของข้าเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์จากพ่อมดอย่างท่าน” สเวนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ ว่าจะชนะได้ 100%
“อะไรทำให้ท่านมั่นใจขนาดนั้น” อันนาถามขึ้น
“ก็ข้ากับซีโน่ เป็นเพื่อนเรียนการต่อสู้มาด้วยกัน และทุกครั้งที่มีการทดสอบ ข้าก็จะเป็นฝ่ายชนะเสมอ ข้าถึงได้มั่นใจว่าข้าจะชนะอย่างแน่นอน”
“ถ้าเจ้ามั่นใจขนาดนั้นทำไมตอนที่พระบิดาจัดงานประลองขึ้นมา เจ้าถึงไม่ไปประลองกับซีโน่ด้วยล่ะ”
“ธิดาเมเบลท่านและแวมไพร์ทุกตนเข้าใจผิดหมด ไม่ใช่ว่าข้ากลัวจนไม่ยอมไปประลอง แต่ซีโน่กลัวที่จะแพ้ข้าและไม่ได้เป็นคู่หมั้นของท่าน ซีโน่ก็เลยมาขอร้องข้าไม่ให้ขึ้นเวทีประลองในครั้งนั้น”
“เพราะเหตุอันใดเจ้าถึงยอมง่ายๆล่ะ สเวน”
“ท่านไม่ต้องสงสัยในตัวข้าหรอกนะธิดา ที่ข้ายอมช่วยซีโน่ในตอนนั้น เพราะซีโน่บอกว่าเขารักท่านมาก และซีโน่มั่นใจมากว่าชนะแวมไพร์ทุกตนได้ยกเว้นข้า ข้าเลยยอมช่วยซีโน่ โดยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการที่ได้เป็นคู่หมั่นของท่านมันเป็นแค่แผนการที่จะยึดครองดินแดนแห่งแวมไพร์นี้ จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อน ข้าแอบไปได้ยินซีโน่กับ ซาช่าคุยกันว่าใกล้ได้เวลาที่พวกเขารอคอยแล้ว เวลาที่จะทวงบัลลังก์คืนจากราชา โดยแผนการของพวกเข้าคือ บีบให้ธิดายอมเข้าพิธีแต่งงานกับซีโน่ให้เร็วที่สุด และจะให้ซาช่ายอมถวายตัวให้ราชา เพื่อที่จะลอบฆ่าราชา”
“เจ้าพูดเรื่องจริงใช่ไหมสเวน”
“จริงพะยะค่ะ ธิดาเมเบล”
“เสียแรงที่ข้าไว้ใจนาง เห็นนางเป็นเพื่อนมาตลอด แท้จริงแล้วนางไม่เคยลืมเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตระหว่างพวกเราเลย”
“ธิดาท่านอย่าร้องไห้ไปเลยนะเพค่ะ”
“อันนา ข้าไว้ใจเจ้าได้ใช่หรือไม่”
“ได้เพค่ะ ถึงหม่อมฉันจะเป็นลูกผสม แต่หม่อมฉันก็รักและภักดีต่อธิดากับราชามากนะเพค่ะ เพราะในขณะที่แวมไพร์ทุกตนรังเกียจหม่อมฉัน แต่ธิดาและราชากับดูแลหม่อมฉันอย่างดี”
“แล้วเจ้าล่ะ สเวน ข้าไว้ใจเจ้าได้ใช่หรือไม่”
“ได้พะยะค่ะ ธิดาเมเบล หม่อมฉันจงรักภักดีต่อธิดาและราชาเสมอมา เพราะธิดาหม่อมฉันถึงได้มีวันนี้ ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันคงสิ้นชีพไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว”
“ดี ถ้าเจ้าทั้งสองเลือกอยู่ข้างข้ากับพระบิดา พวกเจ้าก็จงเตรียมตัวเปิดศึกได้เลย เพราะข้าจะยกเลิกการหมั้นระหว่างข้ากับซีโน่ โดยไม่ต้องให้เจ้าไปประลองกับซีโน่”
“แต่เจ้ากับราชาจะเป็นอันตรายนะเมเบล” ผมพูดขึ้นเมื่อได้ยินการตัดสินใจของเมเบล หลังจากที่เงียบอยู่นาน เพื่อเตือนสติให้เมเบลนึกถึงเรื่องของบิดาของนางเป็นหลัก ไม่ได้ใช่แค่อารมณ์
“ข้ากับบิดารับมือเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องห่วงนะฮาโล”
“ข้าจะไม่ห่วงเลย ถ้าเจ้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยเมเบลอย่างสุดซึ้ง เพราะผมกลัวว่าเธอจะจากผมไปเหมือนเอล่า และเมซิส
“ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องใด แต่เจ้าไม่ต้องห่วงไป ยังไงข้าก็จะกลับมาหาเจ้า”
“ถ้าเจ้าเปิดศึก ข้าจะคอยเป็นแรงหนุนช่วยเจ้าอีกแรงหนึ่ง”
“แต่ถ้าเจ้าฆ่าแวมไพร์สิ้นชีพอีก เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่อีกนะ เจ้าจะไม่ได้กลับไปยังดินแดนของเจ้านะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยข้าก็ได้อยู่กับผู้หญิงที่ข้ารัก และนางก็รักข้า หรือว่าเจ้าไม่ได้รักข้าแล้ว”
“อือ”
“ที่เจ้าบอกว่าอือนี่หมายถึงว่าไม่ได้รักข้าแล้วหรือ แล้วที่ข้ากับเจ้าจูบกันมันคืออะไร” ผมพูดออกไปโดยลืมว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับเมเบล
“นี่พวกเจ้ารักกัน แล้วก็จูบกันด้วยเนี่ยนะ” อันนาและสเวนพูดพร้อมกันด้วยเสียงที่ตกใจมาก
“ใช่ พวกเรารักกัน” ผมกับเมเบลมองหน้ากัน ก่อนที่จะตอบออกไปพร้อมกันว่าพวกเรารักกัน นั่นยิ่งทำให้อันนาและสเวนตกใจมากกว่าเดิม แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของผม และเป็นผู้หญิงที่ผมรัก
“นี่เจ้าจะทำอะไรน่ะ” เมเบลเสียงอ่อน แล้วก็ผลักผมให้พ้นจากตัวเธอ
“เปล่า ข้าแค่อยากสอนให้เจ้ารู้เท่านั้นเองว่า การจูบที่แท้จริงมันเป็นยังไง” ผมทำท่าทางยียวนกวนประสาทใส่เมเบล แวมไพร์สาวที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงอยู่ตรงหน้าของผม
“แต่นั่นมันจูบแรกของข้าเลยนะ”
“ดีใจจังที่ข้าได้มันมาครอง”
“ได้อะไรของเจ้า”
“ก็จูบแรกของเจ้าไงล่ะ” ผมพูดพร้อมกับทำหน้ายิ้มแป้น
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”
“เจ้าเขินหรอ”
“อือ ใครจะไม่เขินล่ะ”
“งั้นอีกทีไหม เผื่อเจ้าจะชิน แล้วไม่เขินอีก” ผมพูดจบก็จับหน้าของเมเบล แล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหาเธอ เมเบลยืนหลับตาเตรียมรับรสจูบจากผม แต่น่าเสียดายที่มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อน
“ข้าพาสเวนมาแล้ว” อันนานั่นเองที่เปิดประตูมาพร้อมกับชายหนุ่มรูปงาม
“พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ” ชายหนุ่มผู้นั้นร้องถามอย่างตกใจ
“เปล่า” ผมและเมเบลผลักตัวออกจากกัน พร้อมกับตอบปฏิเสธพร้อมกัน แต่ผมสังเกตเห็นว่าเมเบลหน้าแดงกว่าเดิมเสียอีก และผมเองก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมา
“นี่ข้าตกข่าวอะไรไปหรือเปล่านะ” อันนาแซวผมและเมเบล
“แล้วถ้าไม่มีอะไรทำไมพวกเจ้าต้องหน้าแดงกันทั้งคู่ด้วยล่ะ” แวมไพร์หนุ่มถามขึ้น
“เอาล่ะ ช่างเถอะ มันไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ ว่าแต่อันนา เจ้าพาสเวนมาที่นี่ทำไมกัน สเวนต้องคอยอารักขาพระบิดาของข้าไม่ใช่หรือ” เมเบลรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“หม่อมฉันต้องขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะธิดาเมเบล คืออันนาได้เล่าถึงแผนการที่จะช่วยธิดาจากซีโน่ให้หม่อมฉันและราชาฟัง ราชาจึงสั่งให้หม่อมฉันตามอันนามาพบนักโทษผู้นี้พะยะค่ะ” สเวนตอบ
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าเล่าแผนทั้งหมดมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้ ฮาโล” เมเบลทำเสียงดุใส่ผม
“ได้ขอรับ ธิดาที่รัก”
“เดี๋ยวก่อน ใครเป็นที่รักของใคร อะไรยังไงกัน” อันนาถามขึ้น
“ก็ ...” ผมลากเสียงยาวเพื่อจะกวนประสาทเมเบล
“พอได้แล้วฮาโล ข้าว่าเจ้าสนุกมากพอแล้วนะ เล่าแผนการของเจ้ามาได้แล้วล่ะ” เมเบลพูดขึ้น
“ก็ได้ แผนการก็มีอยู่ว่า ข้าจะให้สเวนไปท้าประลองกับซีโน่ แล้วเอาชนะซีโน่ให้ได้ เพื่อที่จะได้เป็นคู่หมั้นของเมเบล แทนซีโน่”
“นี่แผนหรอ เจ้าบ้าไปแล้วหรือเปล่า สเวนจะไปชนะซีโน่ได้ยังไง ทำแบบนี้เหมือนส่งสเวนไปสิ้นชีพเสียเปล่าๆ นะ”
“เมเบลเจ้าใจเย็นๆ ก่อน สเวนจะปลอดภัยและเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน เพราะข้าจะใช้เวทของข้าช่วยทำให้สเวนชนะซีโน่เอง เจ้าอย่าห่วงไปเลยเมเบล”
“ไม่จำเป็นหรอกท่านฮาโล ข้าชนะซีโน่ได้ด้วยตัวของข้าเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์จากพ่อมดอย่างท่าน” สเวนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ ว่าจะชนะได้ 100%
“อะไรทำให้ท่านมั่นใจขนาดนั้น” อันนาถามขึ้น
“ก็ข้ากับซีโน่ เป็นเพื่อนเรียนการต่อสู้มาด้วยกัน และทุกครั้งที่มีการทดสอบ ข้าก็จะเป็นฝ่ายชนะเสมอ ข้าถึงได้มั่นใจว่าข้าจะชนะอย่างแน่นอน”
“ถ้าเจ้ามั่นใจขนาดนั้นทำไมตอนที่พระบิดาจัดงานประลองขึ้นมา เจ้าถึงไม่ไปประลองกับซีโน่ด้วยล่ะ”
“ธิดาเมเบลท่านและแวมไพร์ทุกตนเข้าใจผิดหมด ไม่ใช่ว่าข้ากลัวจนไม่ยอมไปประลอง แต่ซีโน่กลัวที่จะแพ้ข้าและไม่ได้เป็นคู่หมั้นของท่าน ซีโน่ก็เลยมาขอร้องข้าไม่ให้ขึ้นเวทีประลองในครั้งนั้น”
“เพราะเหตุอันใดเจ้าถึงยอมง่ายๆล่ะ สเวน”
“ท่านไม่ต้องสงสัยในตัวข้าหรอกนะธิดา ที่ข้ายอมช่วยซีโน่ในตอนนั้น เพราะซีโน่บอกว่าเขารักท่านมาก และซีโน่มั่นใจมากว่าชนะแวมไพร์ทุกตนได้ยกเว้นข้า ข้าเลยยอมช่วยซีโน่ โดยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการที่ได้เป็นคู่หมั่นของท่านมันเป็นแค่แผนการที่จะยึดครองดินแดนแห่งแวมไพร์นี้ จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อน ข้าแอบไปได้ยินซีโน่กับ ซาช่าคุยกันว่าใกล้ได้เวลาที่พวกเขารอคอยแล้ว เวลาที่จะทวงบัลลังก์คืนจากราชา โดยแผนการของพวกเข้าคือ บีบให้ธิดายอมเข้าพิธีแต่งงานกับซีโน่ให้เร็วที่สุด และจะให้ซาช่ายอมถวายตัวให้ราชา เพื่อที่จะลอบฆ่าราชา”
“เจ้าพูดเรื่องจริงใช่ไหมสเวน”
“จริงพะยะค่ะ ธิดาเมเบล”
“เสียแรงที่ข้าไว้ใจนาง เห็นนางเป็นเพื่อนมาตลอด แท้จริงแล้วนางไม่เคยลืมเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตระหว่างพวกเราเลย”
“ธิดาท่านอย่าร้องไห้ไปเลยนะเพค่ะ”
“อันนา ข้าไว้ใจเจ้าได้ใช่หรือไม่”
“ได้เพค่ะ ถึงหม่อมฉันจะเป็นลูกผสม แต่หม่อมฉันก็รักและภักดีต่อธิดากับราชามากนะเพค่ะ เพราะในขณะที่แวมไพร์ทุกตนรังเกียจหม่อมฉัน แต่ธิดาและราชากับดูแลหม่อมฉันอย่างดี”
“แล้วเจ้าล่ะ สเวน ข้าไว้ใจเจ้าได้ใช่หรือไม่”
“ได้พะยะค่ะ ธิดาเมเบล หม่อมฉันจงรักภักดีต่อธิดาและราชาเสมอมา เพราะธิดาหม่อมฉันถึงได้มีวันนี้ ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันคงสิ้นชีพไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว”
“ดี ถ้าเจ้าทั้งสองเลือกอยู่ข้างข้ากับพระบิดา พวกเจ้าก็จงเตรียมตัวเปิดศึกได้เลย เพราะข้าจะยกเลิกการหมั้นระหว่างข้ากับซีโน่ โดยไม่ต้องให้เจ้าไปประลองกับซีโน่”
“แต่เจ้ากับราชาจะเป็นอันตรายนะเมเบล” ผมพูดขึ้นเมื่อได้ยินการตัดสินใจของเมเบล หลังจากที่เงียบอยู่นาน เพื่อเตือนสติให้เมเบลนึกถึงเรื่องของบิดาของนางเป็นหลัก ไม่ได้ใช่แค่อารมณ์
“ข้ากับบิดารับมือเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องห่วงนะฮาโล”
“ข้าจะไม่ห่วงเลย ถ้าเจ้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยเมเบลอย่างสุดซึ้ง เพราะผมกลัวว่าเธอจะจากผมไปเหมือนเอล่า และเมซิส
“ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องใด แต่เจ้าไม่ต้องห่วงไป ยังไงข้าก็จะกลับมาหาเจ้า”
“ถ้าเจ้าเปิดศึก ข้าจะคอยเป็นแรงหนุนช่วยเจ้าอีกแรงหนึ่ง”
“แต่ถ้าเจ้าฆ่าแวมไพร์สิ้นชีพอีก เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่อีกนะ เจ้าจะไม่ได้กลับไปยังดินแดนของเจ้านะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยข้าก็ได้อยู่กับผู้หญิงที่ข้ารัก และนางก็รักข้า หรือว่าเจ้าไม่ได้รักข้าแล้ว”
“อือ”
“ที่เจ้าบอกว่าอือนี่หมายถึงว่าไม่ได้รักข้าแล้วหรือ แล้วที่ข้ากับเจ้าจูบกันมันคืออะไร” ผมพูดออกไปโดยลืมว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับเมเบล
“นี่พวกเจ้ารักกัน แล้วก็จูบกันด้วยเนี่ยนะ” อันนาและสเวนพูดพร้อมกันด้วยเสียงที่ตกใจมาก
“ใช่ พวกเรารักกัน” ผมกับเมเบลมองหน้ากัน ก่อนที่จะตอบออกไปพร้อมกันว่าพวกเรารักกัน นั่นยิ่งทำให้อันนาและสเวนตกใจมากกว่าเดิม แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของผม และเป็นผู้หญิงที่ผมรัก
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ