ผมกับชีวิตในรั้วโรงเรียน
7.5
เขียนโดย ลัลลาบาย
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 08.51 น.
2 ตอน
2 วิจารณ์
4,973 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 14.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) เปิดเทอมใหม่กับครูฝ่ายปกครอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อผมมาถึงโรงเรียน เสียงกริ่งเข้าแถวก็ดังขึ้น หลังจากเคารพธงชาติ สวดมนต์เสร็จ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ขึ้นเวทีมาให้โอวาทแก่นักเรียนในวันเปิดเทอม ผมก็แอบกระซิบกับเพื่อนผมที่ชื่อบลาบัสว่า
"มึงดูดิ ผู้อำนวยการผมยังไม่ขึ้นอีกหรอวะ"
บลาบัสฟังผมพูดเสร็จก็ขำออกมาเสียงดังลั่น ครูฝ่ายปกครองก็เดินเข้ามานำตัวบลาบัสออกไปนอกแถว ผมก็ยืนหน้าซีดเหมือนอุจจระไม่ออกเพราะกลัวว่าครูฝ่ายปกครองจะถามบลาบัสว่าขำเรื่องอะไร ซึ่งรู้อยู่แล้วแน่ๆว่าต้องถาม หลังจากผู้อำนวยการให้โอวาทเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูประจำชั้น ตอนนั้นเอง ครูฝ่ายปกครองก็ถามบลาบัสว่า
"เธอหัวเราะเสียงดังขนาดนั้นรู้มั้ยว่ามันเสียมารยาท เธอบอกครูมาซิว่าเธอหัวเราะเรื่องอะไร"
บลาบัสได้ฟังดังนั้นก็ไม่กล้าพูดความจริงออกไป เพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ผู้อำนวยการอาจรู้เรื่องแล้วเอาวิกผมมาใส่ อาจทำให้พวกผมไม่ได้เห็นผมจริงๆของผู้อำนวยการ จึงตอบครูฝ่ายปกครองว่า
"ผมแค่คิดเรื่องที่ครูตกชักโครกจนสะโพกหลุดในสมัยที่ผมอยู่มัธยมต้นทำให้เผลอขำออกมาอะครับ555+"
ครูฝ่ายปกครองได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก แต่ว่าที่บลาบัสพูดเป็นความจริงและมีคนรู้เรื่องนี้น้อยมาก ถ้าทำโทษไป บลาบัสอาจเอาเรื่องที่ตกชักโครกจนสะโพกหลุดมาโรงเรียนไม่ได้2เดือนมาแฉ จึงบอกบลาบัสว่า
"ครูเห็นว่าเป็นวันแรกของเทอม ครูจะไม่ลงโทษเธอในครั้งนี้ แต่ขอให้เธอเก็บเรื่องที่ครูสร้างบาดแผลในห้องน้ำชายชั้น2ไว้เป็นความลับด้วย ไม่งั้นเจอดีแน่ๆ หึ!"
บลาบัสได้ยินดังนั้นจึงขำลั่นโรงเรียนยิ่งกว่าตอนเห็นผู้อำนวยการไม่มีผมเสียอีก จากนั้นก็บอกกับครูฝ่ายปกครองว่า
"ได้เลยครับ ผมรับปาก555+"
ครูฝ่ายปกครองจึงเดินกลับห้องทำงานไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นักและไม่ทันสังเกตว่า ระหว่างที่บลาบัสพูดว่า"ผมรับปากครับ"นิ้วชี้กับนิ้วกลางของบลาบัสทั้งสองข้างไขว้กัน นั่นก็แปลว่าที่รับปากว่าจะไม่บอกคนอื่นเรื่องที่ครูตกชักโครกนั้นเป็นโมฆะ และยิ่งไขว้กันทั้ง2ข้างก็ยิ่งกลายเป็นดับเบิ้ลโมฆะเลย(โมฆะกับโมฆะเจอกันตัดกันไม่ได้นะ อย่าเอาคณิตมาเกี่ยว555+)
จากนั้นบลาบัสก็วิ่งเข้ามาหาผมด้วยความมั่นหน้าเหมือนเพิ่งทำศึกชนะมา แล้วบอกกับผมว่า
"หยุด! กูรู้ว่ามึงจะถามกูว่าไรไอฟีท555+"
ผมก็ทำหน้าเอ๋อๆแล้วตอบไปว่า
"งั้นถ้ามึงรู้แล้วก็บอกกูมาสิ ว่ากูจะถามมึงว่าอะไร"
บลาบัสก็ตอบกลับมาว่า
"มึงจะถามกูเรื่องที่ครูปกครองเรียกกูไปถามว่าหัวเราะทำไมใช่มั้ยล่ะ555+ มึงไม่ต้องห่วงนะ พวกเราไม่ต้องกลัวครูสะโพกบิดนั่นแล้วล่ะ กูจัดการอยู่หมัดแล้ว555+"
ผมก็ทำหน้างงๆ บลาบัสจึงบอกผมว่า
"เดี๋ยวตอนเที่ยงกูเล่าให้ฟังหน่า ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อนเถอะ555+"จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปยังห้องโฮมรูม แล้วผมก็สังเกตว่า "นิริน" แฟนของผมไม่มาโรงเรียน ผมจึงไปถามเพื่อนสนิทของนิริน นั่นก็คือเบล ว่า
"เบล วันนี้นิรินเป็นอะไรอะ ทำไมไม่มาโรงเรียน"
เบลก็ทำสีสีเหมือนเพิ่งโดนอุกกาบาตพุ่งชนและตอบด้วยเสียงตะคอกกลับมาว่า
"ขนาดแฟนอย่างมึงยังไม่รู้ แล้วกูจะไปตรัสรู้มั้ยล่ะ"
ผมก็อึ้งไปซักพักนึง แล้วก็ตอบไปว่า
"ขอโทษครับ กูผิดเอง T T"
ตอนนั้นอาจารย์ยังไม่เข้าสอน ผมเลยโทรไปที่บ้านของนิริน คุณแม่ของนิรินรับสายแล้วบอกว่า
"นิรินไม่สบายนะ แต่พรุ่งนี้คงมาโรงเรียนได้ปกติ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะลูก"
ผมก็ตอบกลับไปว่า
"อ่อ ครับ ขอบคุณนะครับ "
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็เข้าไปในห้องเรียน ครูก็เริ่มสอนพอดี
ตอนกลางวัน (ณ โรงอาหาร)
"เฮ้ย!! ไอบัส ทางนี้ๆ ไหน มึงบอกกูได้ยังว่ามึงจัดการกับครูฝ่ายปกครองอยู่หมัดได้ยังไง"
ผมเอ่่ยปากถามบลาบัสด้วยใบหน้าที่จริงจัง บลาบัสหัวเราะและตอบกลับมาว่า
"มันเป็นเรื่องที่น่าขำมากเลยว่ะ กูจะเล่าละนะ เรื่องก็มีอยู่ว่า บลาๆๆๆ(ย้อนไปอ่านข้างบนนะครับ555+)"
ผมได้ฟังดังนั้นจึงกลั้นขำไว้ไม่อยู่จึงขำลั่นโรงอาหาร จนครูเวรประจำโรงอาหารเรียกผมเข้าไปอบรมเรื่องมารยาทและซักถามว่าทำไมถึงหัวเราะดังขนาดนั้น ผมก็บอกเรื่องที่ครูฝ่ายปกรองครองตกชักโครกจนสะโพกหลุดให้ครูเวรประจำโรงอาหารฟัง ซึ่งครูเวรก็ไม่ชอบครูฝ่ายปกครองคนนี้อยู่แล้วจึงไม่ทำโทษผมและปล่อยผมออกมา
จากนั้นเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองตกชักโครกก็แพร่สะพัดดุจคำนินทาจากปากคนจนรู้กันทั่วโรงเรียน ทำให้ครูฝ่ายปกครองอายมาก จนขอลาออกจากโรงเรียน ทำให้เรื่องนี้กลายเป็น7สิ่งมหัศจรรย์ของโรงเรียนนี้เลยทีเดียว
เมื่อผมและบลาบัสทราบข่าวเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองจะลาออก จึงพากันไปขอขมาและได้รับคำพูดคำนึงจากครูฝ่ายปกครองกลับมาว่า
"ครูรู้เธอยังเป็นแค่เด็ก เรื่องในครั้งนี้ครูอยากให้เธอจำเป็นบทเรียน ว่าการไม่รักษาสัญญาอาจทำลายชีวิตของผู้อื่นได้ แต่ครูไม่เสียใจหรอกนะ ครูก็แก่แล้ว ถ้าครูสามารถทำให้เด็กคนนึงได้เข้าใจและกลับตัวกลับใจได้ ชีวิตนี้ที่เลือกจะมาเป็นครูก็ประสบความสำเร็จแล้วล่ะ จนอย่าลืมบทเรียนนี้นะ ครูให้อภัยครับ"
เมื่อผมและบลาบัสได้ยินคำพูดของครูฝ่ายปกครองเท่านั้น ก็มีหยดน้ำใสๆไหลรินออกมาจากตาทั้งสองข้างดั่งสายน้ำที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด ผมและบลาบัสต่างก็ขอร้องว่าครูอย่าไปเลย ผมขอโทษ ครูฝ่ายปกครองก็ได้ตอบกลับมาว่า
"ไม่ได้หรอก ครูไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ เพราะคำนินทาจากปากคนมันคมยิ่งกว่าโดนกระบี่บั่นคอเสียอีก พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครูอายุ58แล้ว อีก2ปีครูก็เกษียรณแล้ว ออกก่อนซัก2ปีก็ได้เงินบำนาญใช้ในบั้นปลายชีวิตอยุ่ดีนั่นแหละ ถ้าเธอรู้สึกผิดจริง ก็ตั้งใจเรียนหนังสือ หางานดีๆทำ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ความผิดแล้วล่ะนะ
น้ำตาของผมกับบลาบัสก็ยิ่งไหลมากขึ้นราวกับฝนตกในแม่น้ำที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว
เรื่องในวันเปิดเทอมวันแรกก็จบลงด้วยน้ำตาและบทเรียนที่ควรค่าแก่การจดจำ
"มึงดูดิ ผู้อำนวยการผมยังไม่ขึ้นอีกหรอวะ"
บลาบัสฟังผมพูดเสร็จก็ขำออกมาเสียงดังลั่น ครูฝ่ายปกครองก็เดินเข้ามานำตัวบลาบัสออกไปนอกแถว ผมก็ยืนหน้าซีดเหมือนอุจจระไม่ออกเพราะกลัวว่าครูฝ่ายปกครองจะถามบลาบัสว่าขำเรื่องอะไร ซึ่งรู้อยู่แล้วแน่ๆว่าต้องถาม หลังจากผู้อำนวยการให้โอวาทเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูประจำชั้น ตอนนั้นเอง ครูฝ่ายปกครองก็ถามบลาบัสว่า
"เธอหัวเราะเสียงดังขนาดนั้นรู้มั้ยว่ามันเสียมารยาท เธอบอกครูมาซิว่าเธอหัวเราะเรื่องอะไร"
บลาบัสได้ฟังดังนั้นก็ไม่กล้าพูดความจริงออกไป เพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ผู้อำนวยการอาจรู้เรื่องแล้วเอาวิกผมมาใส่ อาจทำให้พวกผมไม่ได้เห็นผมจริงๆของผู้อำนวยการ จึงตอบครูฝ่ายปกครองว่า
"ผมแค่คิดเรื่องที่ครูตกชักโครกจนสะโพกหลุดในสมัยที่ผมอยู่มัธยมต้นทำให้เผลอขำออกมาอะครับ555+"
ครูฝ่ายปกครองได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก แต่ว่าที่บลาบัสพูดเป็นความจริงและมีคนรู้เรื่องนี้น้อยมาก ถ้าทำโทษไป บลาบัสอาจเอาเรื่องที่ตกชักโครกจนสะโพกหลุดมาโรงเรียนไม่ได้2เดือนมาแฉ จึงบอกบลาบัสว่า
"ครูเห็นว่าเป็นวันแรกของเทอม ครูจะไม่ลงโทษเธอในครั้งนี้ แต่ขอให้เธอเก็บเรื่องที่ครูสร้างบาดแผลในห้องน้ำชายชั้น2ไว้เป็นความลับด้วย ไม่งั้นเจอดีแน่ๆ หึ!"
บลาบัสได้ยินดังนั้นจึงขำลั่นโรงเรียนยิ่งกว่าตอนเห็นผู้อำนวยการไม่มีผมเสียอีก จากนั้นก็บอกกับครูฝ่ายปกครองว่า
"ได้เลยครับ ผมรับปาก555+"
ครูฝ่ายปกครองจึงเดินกลับห้องทำงานไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นักและไม่ทันสังเกตว่า ระหว่างที่บลาบัสพูดว่า"ผมรับปากครับ"นิ้วชี้กับนิ้วกลางของบลาบัสทั้งสองข้างไขว้กัน นั่นก็แปลว่าที่รับปากว่าจะไม่บอกคนอื่นเรื่องที่ครูตกชักโครกนั้นเป็นโมฆะ และยิ่งไขว้กันทั้ง2ข้างก็ยิ่งกลายเป็นดับเบิ้ลโมฆะเลย(โมฆะกับโมฆะเจอกันตัดกันไม่ได้นะ อย่าเอาคณิตมาเกี่ยว555+)
จากนั้นบลาบัสก็วิ่งเข้ามาหาผมด้วยความมั่นหน้าเหมือนเพิ่งทำศึกชนะมา แล้วบอกกับผมว่า
"หยุด! กูรู้ว่ามึงจะถามกูว่าไรไอฟีท555+"
ผมก็ทำหน้าเอ๋อๆแล้วตอบไปว่า
"งั้นถ้ามึงรู้แล้วก็บอกกูมาสิ ว่ากูจะถามมึงว่าอะไร"
บลาบัสก็ตอบกลับมาว่า
"มึงจะถามกูเรื่องที่ครูปกครองเรียกกูไปถามว่าหัวเราะทำไมใช่มั้ยล่ะ555+ มึงไม่ต้องห่วงนะ พวกเราไม่ต้องกลัวครูสะโพกบิดนั่นแล้วล่ะ กูจัดการอยู่หมัดแล้ว555+"
ผมก็ทำหน้างงๆ บลาบัสจึงบอกผมว่า
"เดี๋ยวตอนเที่ยงกูเล่าให้ฟังหน่า ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อนเถอะ555+"จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปยังห้องโฮมรูม แล้วผมก็สังเกตว่า "นิริน" แฟนของผมไม่มาโรงเรียน ผมจึงไปถามเพื่อนสนิทของนิริน นั่นก็คือเบล ว่า
"เบล วันนี้นิรินเป็นอะไรอะ ทำไมไม่มาโรงเรียน"
เบลก็ทำสีสีเหมือนเพิ่งโดนอุกกาบาตพุ่งชนและตอบด้วยเสียงตะคอกกลับมาว่า
"ขนาดแฟนอย่างมึงยังไม่รู้ แล้วกูจะไปตรัสรู้มั้ยล่ะ"
ผมก็อึ้งไปซักพักนึง แล้วก็ตอบไปว่า
"ขอโทษครับ กูผิดเอง T T"
ตอนนั้นอาจารย์ยังไม่เข้าสอน ผมเลยโทรไปที่บ้านของนิริน คุณแม่ของนิรินรับสายแล้วบอกว่า
"นิรินไม่สบายนะ แต่พรุ่งนี้คงมาโรงเรียนได้ปกติ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะลูก"
ผมก็ตอบกลับไปว่า
"อ่อ ครับ ขอบคุณนะครับ "
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็เข้าไปในห้องเรียน ครูก็เริ่มสอนพอดี
ตอนกลางวัน (ณ โรงอาหาร)
"เฮ้ย!! ไอบัส ทางนี้ๆ ไหน มึงบอกกูได้ยังว่ามึงจัดการกับครูฝ่ายปกครองอยู่หมัดได้ยังไง"
ผมเอ่่ยปากถามบลาบัสด้วยใบหน้าที่จริงจัง บลาบัสหัวเราะและตอบกลับมาว่า
"มันเป็นเรื่องที่น่าขำมากเลยว่ะ กูจะเล่าละนะ เรื่องก็มีอยู่ว่า บลาๆๆๆ(ย้อนไปอ่านข้างบนนะครับ555+)"
ผมได้ฟังดังนั้นจึงกลั้นขำไว้ไม่อยู่จึงขำลั่นโรงอาหาร จนครูเวรประจำโรงอาหารเรียกผมเข้าไปอบรมเรื่องมารยาทและซักถามว่าทำไมถึงหัวเราะดังขนาดนั้น ผมก็บอกเรื่องที่ครูฝ่ายปกรองครองตกชักโครกจนสะโพกหลุดให้ครูเวรประจำโรงอาหารฟัง ซึ่งครูเวรก็ไม่ชอบครูฝ่ายปกครองคนนี้อยู่แล้วจึงไม่ทำโทษผมและปล่อยผมออกมา
จากนั้นเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองตกชักโครกก็แพร่สะพัดดุจคำนินทาจากปากคนจนรู้กันทั่วโรงเรียน ทำให้ครูฝ่ายปกครองอายมาก จนขอลาออกจากโรงเรียน ทำให้เรื่องนี้กลายเป็น7สิ่งมหัศจรรย์ของโรงเรียนนี้เลยทีเดียว
เมื่อผมและบลาบัสทราบข่าวเรื่องที่ครูฝ่ายปกครองจะลาออก จึงพากันไปขอขมาและได้รับคำพูดคำนึงจากครูฝ่ายปกครองกลับมาว่า
"ครูรู้เธอยังเป็นแค่เด็ก เรื่องในครั้งนี้ครูอยากให้เธอจำเป็นบทเรียน ว่าการไม่รักษาสัญญาอาจทำลายชีวิตของผู้อื่นได้ แต่ครูไม่เสียใจหรอกนะ ครูก็แก่แล้ว ถ้าครูสามารถทำให้เด็กคนนึงได้เข้าใจและกลับตัวกลับใจได้ ชีวิตนี้ที่เลือกจะมาเป็นครูก็ประสบความสำเร็จแล้วล่ะ จนอย่าลืมบทเรียนนี้นะ ครูให้อภัยครับ"
เมื่อผมและบลาบัสได้ยินคำพูดของครูฝ่ายปกครองเท่านั้น ก็มีหยดน้ำใสๆไหลรินออกมาจากตาทั้งสองข้างดั่งสายน้ำที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด ผมและบลาบัสต่างก็ขอร้องว่าครูอย่าไปเลย ผมขอโทษ ครูฝ่ายปกครองก็ได้ตอบกลับมาว่า
"ไม่ได้หรอก ครูไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ เพราะคำนินทาจากปากคนมันคมยิ่งกว่าโดนกระบี่บั่นคอเสียอีก พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครูอายุ58แล้ว อีก2ปีครูก็เกษียรณแล้ว ออกก่อนซัก2ปีก็ได้เงินบำนาญใช้ในบั้นปลายชีวิตอยุ่ดีนั่นแหละ ถ้าเธอรู้สึกผิดจริง ก็ตั้งใจเรียนหนังสือ หางานดีๆทำ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ความผิดแล้วล่ะนะ
น้ำตาของผมกับบลาบัสก็ยิ่งไหลมากขึ้นราวกับฝนตกในแม่น้ำที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว
เรื่องในวันเปิดเทอมวันแรกก็จบลงด้วยน้ำตาและบทเรียนที่ควรค่าแก่การจดจำ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ