แมวเหมียวตัวร้ายกับนายมึนงง
9.3
เขียนโดย zeeto
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.42 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
11.88K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 21.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ไม่ใช่ฝัน เพราะฉันคือแมว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แสงอาทิตย์ที่รอดม่านสีขาวผ่านมาในตอนเช้าผมค่อยๆกระพริบตาเพื่อปรับให้รับกับแสงก่อนจะลุกขึ้นนั่งกับเตียงนอนอย่างสบาย “เมื่อคืนหลับไปตอนไหนว่ะฝันแปลกๆด้วยคนบ้าอะไรจะกลายเป็นแมว” ผมเอามือขึ้นลูบหน้าก่อนจะค่อยๆขยับร่างกายออกจากเตียง แต่เดี๋ยวนะแล้วทำไมสภาพของผมตอนนี้มันล่อนจ้อนแบบนี้ละ เมื่อคืนผมหลับไปยังไงก็ยังไม่รู้แล้วตื่นมาตอนเช้ากับแก้ผ้านอนอีก ไม่มีอะไรหรอกสงสัยจะเพลียจนลืมใส่เสื้อผ้านอนมั่ง เมื่อคิดได้ดังนั้นผมค่อยๆเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำทันที ไม่นานมากหลังจากที่ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินไปชงกาแฟเพื่อไปนั่งกินที่ระเบียงห้องรับลมเย็นๆยามเช้าซักหน่อย นี่แหล่ะความสุขของผมในแต่ละวัน หนังสือสักเล่มกาแฟซักแก้วกลิ่นหอมของกาแฟช่วยทำให้ผมตื่นได้มากทีเดียว “สวัสดี” เสียงใครว่ะผมค่อยๆเงยหน้าจากหนังสือในมือไปมองที่ผู้ชายข้างห้องที่อยู่ๆวันนี้ก็มาทักขึ้น แต่จะว่าไปแล้วผมรู้สึกเหมือนเมื่อคืนตอนที่ฝันว่าตัวเองกลายร่างเป็นแมวจะมีผู้ชายคนนี้ในฝันด้วยนี่ ผมยังไม่ตอบใดๆได้แต่มองหน้าคนที่มายืนข้างระเบียงห้องทักต่อ “เมื่อคืนแมวของนายเข้ามาที่ห้องเราด้วย” แมวอะไรของมันว่ะผมไม่ได้เลี้ยงแมวซักตัวผมได้แต่คิดในใจพร้อมกับทำท่าทางงงๆต่อ “สงสัยเพราะนายไม่อยู่เมื่อคืนแล้วลืมปิดระเบียงห้องละมั่งแมวของนายเลยข้ามมาห้องเรา” มันพูดอะไรของมันแต่เดี่ยวนะแมวของผมข้ามไปหามันงั้นหรอ จริงซิในฝันผมจำได้ว่าผู้ชายคนนี้จะจับผมตอนกลายเป็นแมวแต่ผมข่วนมือ.... เดี๋ยวนะมืองั้นหรอ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมเลื่อนสายตาไปที่มือของผู้ชายข้างห้องและก็พบว่ามือของผู้ชายคนนี้ “มือนายไปโดนไรมา” ผมตัดสินใจพูดกับคนข้างห้องที่ค่อยๆยกมือขึ้นมาดู “อันนี้หรอก็แมวของนายไงพอดีมันคงตกใจตอนเราจะอุ้มเลยข่วนเรา” ไม่นะอย่าบอกนะว่าเรื่องเมื่อคืนคือ.... (ใช่แล้วเมื่อคืนเจ้าเป็นคนข่วนมนุษย์ผู้นี้) เสียงนี้มันผมค่อยๆกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะหยิบแก้วกาแฟและหนังสือเดินเข้าห้องไปทันที นี้ผมกลายเป็นแมวจริงหรอ ผมไม่ได้ฝันไปหรอกหรอ
อะไรว่ะคุยด้วยดีๆพอบอกว่าแมวตัวเองทำร้ายร่างกายคนอื่นก็หนีเข้าห้องไปซะอย่างนั้นก็แหงซิคงกลัวผมจะเรียกค่าทำขวัญไม่ก็ค่ารักษาพยาบาลซินะ คนอะไรเหมือนกันทั้งคนทั้งแมวจริงๆ แค่คิดถึงเมื่อคืนหลังจากกินข้าวเสร็จจะเหมียวสีขาวก็กระโดดข้ามห้องไปห้องของมันแล้ว พอสังเกตดีๆไอ้ท่าทางตีหน้าติสแตกของเจ้าเหมียวนี่เหมือนกับเจ้านายของมันมากจริงๆ นี่ซินะที่เขาว่ากันว่าสัตว์เลี้ยงมักจะมีนิสัยเหมือนคนเลี้ยง “แรมโบ้แก่เห็นไหมผู้ชายคนเมื่อกี้เหมือนเจ้าเหมียวขาวเลย” “เหมี๊ยววว” “ขนาดแกยังเห็นด้วยเลยจริงไหมช่างเถอะไปหาไรกินกันดีกว่าแรมโบ้
จากที่ตอนแรกคิดว่าตนเองกำลังฝันและตื่นขึ้นจากความฝันแท้ๆแต่ตอนนี้ทำไมทุกอย่างมันบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง งั้นแสดงว่าผมต้องอยู่ในสภาพที่จะต้องกลายเป็นแมวทันทีที่พระอาทิตย์ตกดินและพระจันทร์ขึ้นมางั้นหรอ จะมีประโยชน์อะไรที่จำมาคิดมากตอนนี้ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจก่อนจะจัดเตรียมเพื่อไปมหาวิทยาลัยเพราะถึงอย่างไรผมก็ต้องเรียนจบภายในเทอมนี้ให้ได้ ต้องใช้นิสัยเหมือนแมวให้มากที่สุดงั้นหรอต้องแสดงความรู้สึกออกมาไม่ว่าอะไรก็ตามโดยเฉพาะกับคนที่เรารัก ว่าแต่ใครละคนที่ผมรัก เรื่องแฟนมันไม่ได้หาได้ง่ายๆซ่ะที่ไหนกัน “เฮ้ยฟลุ๊คทำไมวันนี้มาช้าว่ะ” ระหว่างที่กำลังเดินไปคิดอะไรไปเพลินๆเพื่อนของผมอย่างแอปเปิ้ลก็ทักขึ้นมา “อ๋อ...พอดีติดธุระนิดหน่อยว่ะ” “หรอนึกว่าไม่สบายซะอีกหน้าดูซีดๆนะ” “เปล่าๆแล้วนี้แอปเปิ้ลจะไปไหน” “พอดีจะเอาแรกเชอร์ไปซีล๊อกนิดหน่อยตอนเรียนจดไม่ทันนะ” “อ๋อ...งั้นเจอกันที่คณะนะ” ผมแยกกับแอปเปิ้ลก่อนจะเดินไปที่คณะทันที ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมในสมองของผมมันรู้สึกว่าเปล่าไปหมดอยากจะบอกให้ใครได้รู้แต่ก็กลัวว่าจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ใครมันจะไปเชื่อว่ะว่าคนจะกลายเป็นแมวได้อีกอย่างนี้มันไป2017แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ได้ก็บ้าละ แล้วแบบนี้ผมจะหาใครที่จะทำให้ผมกลับไปเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้นะ
“ไอ้กันต์มือมึงไปโดนไรมาว่ะ” “ห่ะ?...อันนี้หรอแมวข่วนเมื่อคืนว่ะ” “แมว?...แรมโบ้หรอ” “ไม่ใช่ๆแมวคนข้างห้องนะพอดีเมื่อคืนเขาไม่อยู่ห้องแล้วลืมปิดระเบียงมั่งเลยข้ามมาพอจะอุ้มมันก็ข่วน” “อ๋อ...ดีนะแค่มือแต่ปกติมึงกับแมวก็ดูจะรักกันดีนี่หว่าไม่น่าเชื่อว่าจะมีแมวไม่ชอบมึงด้วยแล้วนี้เจ้าของเขาว่าไงว่ะ” พอได้ยินที่ไอ้ซิงถามเช่นนั้นทำเอาผมนึกภาพเมื่อเช้าได้เลยตอนที่บอกเจ้าของแมวข้างห้องอีกคนก็มองหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป “ตกลงว่าไงว่ะไอ้กันต์” “ไม่มีไรหรอกช่างเหอะว่าแต่กูขอดูแรกเชอร์มึงหน่อยดิคลาสก่อนกูจดไม่ทัน” “ตลอดแหล่ะเอานี้” แม้จะเป็นแมวธรรมดาตัวหนึ่งแต่พอคิดถึงแล้วทำไมผมชอบสายตาเจ้าเหมียวสีขาวตัวเมื่อคืนนี้เหลือเกินดูมีความซุกซนแต่ก็แอบหวาดกลัวแบบนี้จะมีโอกาสได้เจออีกไหมนะจะว่าไปเมื่อคืนหลังจากเจ้าเหมียวกินข้าวเสร็จมันก็มาเลียที่แผลให้ผมนี่ อาจจะเป็นการขอโทษในแบบของแมวก็ได้ “น่ารักจัง” “ห่ะ?...มึงว่าอะไรใครน่ารักว่ะไอ้กันต์” “อ่านหนังสือของมึงไปเถอะไอ้ซิงกูบ่นของกูคนเดียว” “เออ...อะไรของมึงเนี้ย”
ห้าโมงเย็นแล้วรถก็ติดแบบนี้จะกลับถึงห้องก่อนพระอาทิตย์ตกไหมว่ะข้าวก็ยังไม่ได้กินโถ่เว้ยผมรีบเดินไปโบกหาพี่วินเพื่อจะรีบกลับห้องให้ทันเวลา เพราะถ้าผมต้องกลายร่างเป็นแมวขึ้นมาจริงๆคงไม่ดีแน่ถ้าอยู่ด้านนอกแบบนี้ “พี่เร็วๆหน่อยครับผมรีบ” “รีบอะไรว่ะไอ้น้องนี้ก็แทบจะเหาะให้แล้ว” มันก็จริงของพี่แกเพราะถ้าปกติพี่วินแกคงไม่ซิกแซกปาดไปมาให้ขนาดนี้เพราะผมที่เร่งพี่แกก็รีบให้ที่สุดแล้ว จะหกโมงเย็นแล้วอีกนิดเดียวอย่าพึ่งนะ แสงท้องฟ้าที่ค่อยๆมืดลงทันทีที่ผมลงจากวินมอไซต์ได้ผมก็รีบวิ่งไปกดประตูลิฟล์ขึ้นห้องของตัวเองทันที เปิดประตูระเบียงก่อนแล้วกันอย่างน้อยๆ ไอ้ผู้ชายข้างห้องคงมีข้าวให้กินแน่ๆ นี้ผมไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่ไหม “เหมี๊ยว...” นี้ผมเป็นแมวแล้วซินะผมหันไปมองตัวเองในกระจกภายในห้องก่อนจะเดินออกไปนั่งบนโต๊ะนอกระเบียงเหมือนเคย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ตรงนี้คงเป็นที่สำหรับนั่งเขียนงานอ่านหนังสือและจิบกาแฟอย่างสบายใจ แต่มาตอนนี้หรอผมได้แต่นั่งถอนหายใจมองไปที่ห้องข้างๆ เมื่อไรไอ้ผู้ชายหน้ามึนนั้นจะกลับมาซักที แล้ววันนี้ถ้าผมข้ามไปอีกแรมโบ้จะทำร้ายผมเหมือนเดิมไหม
อะไรกันผมก็ว่าเห็นหลังของผู้ชายข้างห้องลงจากวินมอเตอร์ไซต์รีบขนาดนั้นแท้ๆแต่พอมาถึงห้องทำไมเหมือนเขายังไม่ได้อยู่ในห้องนะไฟก็ไม่เปิดหรือผมตาฝาดไปเองที่เห็นคนเมื่อกี้เป็นผู้ชายข้างห้องเจ้าของเจ้าเหมียวขาวนะ ผมค่อยๆเดินไปเปิดประตูระเบียงก่อนจะเดินออกไปก็พบกับเจ้าเหมียวสีขาวที่นั่งหันมามองที่ผม “หวัดดีเจ้าเหมียวเจ้านายแกยังไม่กลับมาหรอ” ผมยิ้มทักทายให้เจ้าเหมียวสีขาวก่อนจะเดินไปอุ้มเจ้าแรมโบ้ที่ร้องเหมียวอยู่ในห้อง “มานี้แรมโบ้เห็นเจ้าขาวไหมชวนมาเล่นกับเรากันเถอะ” “เหมี๊ยว...” “อะไรเนี้ยงอนหรอแรมโบ้ไม่งอนซิเจ้าขาวน่าสงสารออกเจ้านายก็ไม่สนใจชวนเขามาเล่นกับเราดีกว่านะ” นี้ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าแมวของผมกับเจ้าเหมียวสีขาวของผู้ชายข้างห้องแลดูไม่ชอบกันเท่าไร แต่ไม่นะเท่าที่ดูแมวของผมต่างหากละดูจะอยากสู้กับเจ้าขาวเสียเหลือเกิน “ไม่เอานะแรมโบ้เจ้าขาวน่ารักออกอีกอย่างแรมโบ้จะได้มีเพื่อนไง” เหมือนเจ้าเหมียวสีขาวจะรู้ว่าผมพูดถึงมันเจ้าเหมียวสีขาวค่อยๆกระโดดข้ามมาหาผมก่อนจะเดินเอาตัวไปถูกับเจ้าแรมโบ้ที่นอนมองท่าทางของเจ้าขาวไปมา “เห็นไหมละแรมโบ้เจ้าขาวน่ารักออกเล่นกันไปก่อนนะเดี๋ยวไปเทอาหารมาให้”
อาหารหรอคงไม่ใช่ว่าอาหารห่อสีม่วงนั้นใช่ไหมไม่ซิต้องใช่แน่ๆเลยฮื่อๆๆ ใครก็ได้ช่วยด้วยผมอยากกินข้าวขาหมูนะไม่ใช่อาหารแมวห่อม่วงนั้น“กินซะนะเจ้าเหมียวถ้าวันนี้เจ้าของแกกลับดึกนอนห้องฉันก่อนก็ได้จะได้ทำความสนิทกับแรมโบ้ไง” “เหมี๊ยววว...” กินก็ได้ว่ะเลือกไม่ได้นี่หว่ามันคงรสชาติไม่แย่หรอกมั่งในเมื่อยี่ห้อนี้ออกจะดัง ผมค่อยๆก้มลงไปกินอาหารในถาดอาหารข้างๆกับแรมโบ้ที่ยังคงทำท่าทางระแวงใส่ไม่น้อย อยากจะเล่นกับเจ้าแรมโบ้จังแมวอะไรไม่รู้อ้วนๆน่ารักน่ากอดนักเชียวไม่ติดอยู่ในสภาพที่พร้อมเป็นศัตรูแกฉันจะกอดแกให้หายอยากเลยนะ
อะไรว่ะคุยด้วยดีๆพอบอกว่าแมวตัวเองทำร้ายร่างกายคนอื่นก็หนีเข้าห้องไปซะอย่างนั้นก็แหงซิคงกลัวผมจะเรียกค่าทำขวัญไม่ก็ค่ารักษาพยาบาลซินะ คนอะไรเหมือนกันทั้งคนทั้งแมวจริงๆ แค่คิดถึงเมื่อคืนหลังจากกินข้าวเสร็จจะเหมียวสีขาวก็กระโดดข้ามห้องไปห้องของมันแล้ว พอสังเกตดีๆไอ้ท่าทางตีหน้าติสแตกของเจ้าเหมียวนี่เหมือนกับเจ้านายของมันมากจริงๆ นี่ซินะที่เขาว่ากันว่าสัตว์เลี้ยงมักจะมีนิสัยเหมือนคนเลี้ยง “แรมโบ้แก่เห็นไหมผู้ชายคนเมื่อกี้เหมือนเจ้าเหมียวขาวเลย” “เหมี๊ยววว” “ขนาดแกยังเห็นด้วยเลยจริงไหมช่างเถอะไปหาไรกินกันดีกว่าแรมโบ้
จากที่ตอนแรกคิดว่าตนเองกำลังฝันและตื่นขึ้นจากความฝันแท้ๆแต่ตอนนี้ทำไมทุกอย่างมันบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง งั้นแสดงว่าผมต้องอยู่ในสภาพที่จะต้องกลายเป็นแมวทันทีที่พระอาทิตย์ตกดินและพระจันทร์ขึ้นมางั้นหรอ จะมีประโยชน์อะไรที่จำมาคิดมากตอนนี้ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจก่อนจะจัดเตรียมเพื่อไปมหาวิทยาลัยเพราะถึงอย่างไรผมก็ต้องเรียนจบภายในเทอมนี้ให้ได้ ต้องใช้นิสัยเหมือนแมวให้มากที่สุดงั้นหรอต้องแสดงความรู้สึกออกมาไม่ว่าอะไรก็ตามโดยเฉพาะกับคนที่เรารัก ว่าแต่ใครละคนที่ผมรัก เรื่องแฟนมันไม่ได้หาได้ง่ายๆซ่ะที่ไหนกัน “เฮ้ยฟลุ๊คทำไมวันนี้มาช้าว่ะ” ระหว่างที่กำลังเดินไปคิดอะไรไปเพลินๆเพื่อนของผมอย่างแอปเปิ้ลก็ทักขึ้นมา “อ๋อ...พอดีติดธุระนิดหน่อยว่ะ” “หรอนึกว่าไม่สบายซะอีกหน้าดูซีดๆนะ” “เปล่าๆแล้วนี้แอปเปิ้ลจะไปไหน” “พอดีจะเอาแรกเชอร์ไปซีล๊อกนิดหน่อยตอนเรียนจดไม่ทันนะ” “อ๋อ...งั้นเจอกันที่คณะนะ” ผมแยกกับแอปเปิ้ลก่อนจะเดินไปที่คณะทันที ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมในสมองของผมมันรู้สึกว่าเปล่าไปหมดอยากจะบอกให้ใครได้รู้แต่ก็กลัวว่าจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ใครมันจะไปเชื่อว่ะว่าคนจะกลายเป็นแมวได้อีกอย่างนี้มันไป2017แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ได้ก็บ้าละ แล้วแบบนี้ผมจะหาใครที่จะทำให้ผมกลับไปเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้นะ
“ไอ้กันต์มือมึงไปโดนไรมาว่ะ” “ห่ะ?...อันนี้หรอแมวข่วนเมื่อคืนว่ะ” “แมว?...แรมโบ้หรอ” “ไม่ใช่ๆแมวคนข้างห้องนะพอดีเมื่อคืนเขาไม่อยู่ห้องแล้วลืมปิดระเบียงมั่งเลยข้ามมาพอจะอุ้มมันก็ข่วน” “อ๋อ...ดีนะแค่มือแต่ปกติมึงกับแมวก็ดูจะรักกันดีนี่หว่าไม่น่าเชื่อว่าจะมีแมวไม่ชอบมึงด้วยแล้วนี้เจ้าของเขาว่าไงว่ะ” พอได้ยินที่ไอ้ซิงถามเช่นนั้นทำเอาผมนึกภาพเมื่อเช้าได้เลยตอนที่บอกเจ้าของแมวข้างห้องอีกคนก็มองหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป “ตกลงว่าไงว่ะไอ้กันต์” “ไม่มีไรหรอกช่างเหอะว่าแต่กูขอดูแรกเชอร์มึงหน่อยดิคลาสก่อนกูจดไม่ทัน” “ตลอดแหล่ะเอานี้” แม้จะเป็นแมวธรรมดาตัวหนึ่งแต่พอคิดถึงแล้วทำไมผมชอบสายตาเจ้าเหมียวสีขาวตัวเมื่อคืนนี้เหลือเกินดูมีความซุกซนแต่ก็แอบหวาดกลัวแบบนี้จะมีโอกาสได้เจออีกไหมนะจะว่าไปเมื่อคืนหลังจากเจ้าเหมียวกินข้าวเสร็จมันก็มาเลียที่แผลให้ผมนี่ อาจจะเป็นการขอโทษในแบบของแมวก็ได้ “น่ารักจัง” “ห่ะ?...มึงว่าอะไรใครน่ารักว่ะไอ้กันต์” “อ่านหนังสือของมึงไปเถอะไอ้ซิงกูบ่นของกูคนเดียว” “เออ...อะไรของมึงเนี้ย”
ห้าโมงเย็นแล้วรถก็ติดแบบนี้จะกลับถึงห้องก่อนพระอาทิตย์ตกไหมว่ะข้าวก็ยังไม่ได้กินโถ่เว้ยผมรีบเดินไปโบกหาพี่วินเพื่อจะรีบกลับห้องให้ทันเวลา เพราะถ้าผมต้องกลายร่างเป็นแมวขึ้นมาจริงๆคงไม่ดีแน่ถ้าอยู่ด้านนอกแบบนี้ “พี่เร็วๆหน่อยครับผมรีบ” “รีบอะไรว่ะไอ้น้องนี้ก็แทบจะเหาะให้แล้ว” มันก็จริงของพี่แกเพราะถ้าปกติพี่วินแกคงไม่ซิกแซกปาดไปมาให้ขนาดนี้เพราะผมที่เร่งพี่แกก็รีบให้ที่สุดแล้ว จะหกโมงเย็นแล้วอีกนิดเดียวอย่าพึ่งนะ แสงท้องฟ้าที่ค่อยๆมืดลงทันทีที่ผมลงจากวินมอไซต์ได้ผมก็รีบวิ่งไปกดประตูลิฟล์ขึ้นห้องของตัวเองทันที เปิดประตูระเบียงก่อนแล้วกันอย่างน้อยๆ ไอ้ผู้ชายข้างห้องคงมีข้าวให้กินแน่ๆ นี้ผมไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่ไหม “เหมี๊ยว...” นี้ผมเป็นแมวแล้วซินะผมหันไปมองตัวเองในกระจกภายในห้องก่อนจะเดินออกไปนั่งบนโต๊ะนอกระเบียงเหมือนเคย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ตรงนี้คงเป็นที่สำหรับนั่งเขียนงานอ่านหนังสือและจิบกาแฟอย่างสบายใจ แต่มาตอนนี้หรอผมได้แต่นั่งถอนหายใจมองไปที่ห้องข้างๆ เมื่อไรไอ้ผู้ชายหน้ามึนนั้นจะกลับมาซักที แล้ววันนี้ถ้าผมข้ามไปอีกแรมโบ้จะทำร้ายผมเหมือนเดิมไหม
อะไรกันผมก็ว่าเห็นหลังของผู้ชายข้างห้องลงจากวินมอเตอร์ไซต์รีบขนาดนั้นแท้ๆแต่พอมาถึงห้องทำไมเหมือนเขายังไม่ได้อยู่ในห้องนะไฟก็ไม่เปิดหรือผมตาฝาดไปเองที่เห็นคนเมื่อกี้เป็นผู้ชายข้างห้องเจ้าของเจ้าเหมียวขาวนะ ผมค่อยๆเดินไปเปิดประตูระเบียงก่อนจะเดินออกไปก็พบกับเจ้าเหมียวสีขาวที่นั่งหันมามองที่ผม “หวัดดีเจ้าเหมียวเจ้านายแกยังไม่กลับมาหรอ” ผมยิ้มทักทายให้เจ้าเหมียวสีขาวก่อนจะเดินไปอุ้มเจ้าแรมโบ้ที่ร้องเหมียวอยู่ในห้อง “มานี้แรมโบ้เห็นเจ้าขาวไหมชวนมาเล่นกับเรากันเถอะ” “เหมี๊ยว...” “อะไรเนี้ยงอนหรอแรมโบ้ไม่งอนซิเจ้าขาวน่าสงสารออกเจ้านายก็ไม่สนใจชวนเขามาเล่นกับเราดีกว่านะ” นี้ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าแมวของผมกับเจ้าเหมียวสีขาวของผู้ชายข้างห้องแลดูไม่ชอบกันเท่าไร แต่ไม่นะเท่าที่ดูแมวของผมต่างหากละดูจะอยากสู้กับเจ้าขาวเสียเหลือเกิน “ไม่เอานะแรมโบ้เจ้าขาวน่ารักออกอีกอย่างแรมโบ้จะได้มีเพื่อนไง” เหมือนเจ้าเหมียวสีขาวจะรู้ว่าผมพูดถึงมันเจ้าเหมียวสีขาวค่อยๆกระโดดข้ามมาหาผมก่อนจะเดินเอาตัวไปถูกับเจ้าแรมโบ้ที่นอนมองท่าทางของเจ้าขาวไปมา “เห็นไหมละแรมโบ้เจ้าขาวน่ารักออกเล่นกันไปก่อนนะเดี๋ยวไปเทอาหารมาให้”
อาหารหรอคงไม่ใช่ว่าอาหารห่อสีม่วงนั้นใช่ไหมไม่ซิต้องใช่แน่ๆเลยฮื่อๆๆ ใครก็ได้ช่วยด้วยผมอยากกินข้าวขาหมูนะไม่ใช่อาหารแมวห่อม่วงนั้น“กินซะนะเจ้าเหมียวถ้าวันนี้เจ้าของแกกลับดึกนอนห้องฉันก่อนก็ได้จะได้ทำความสนิทกับแรมโบ้ไง” “เหมี๊ยววว...” กินก็ได้ว่ะเลือกไม่ได้นี่หว่ามันคงรสชาติไม่แย่หรอกมั่งในเมื่อยี่ห้อนี้ออกจะดัง ผมค่อยๆก้มลงไปกินอาหารในถาดอาหารข้างๆกับแรมโบ้ที่ยังคงทำท่าทางระแวงใส่ไม่น้อย อยากจะเล่นกับเจ้าแรมโบ้จังแมวอะไรไม่รู้อ้วนๆน่ารักน่ากอดนักเชียวไม่ติดอยู่ในสภาพที่พร้อมเป็นศัตรูแกฉันจะกอดแกให้หายอยากเลยนะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ