My dear เวทมนตร์นี้เพื่อเธอ
-
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 09.19 น.
10 ตอน
2 วิจารณ์
11.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.33 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
9) 9
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 9
“พี่ตื่นแล้วหรือ” นี่คือเสียงแรกที่ฉันได้ยิน เป็นเสียงของวาเลน น้องชายของฉันเอง
“พี่นิวเยียร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าข้าอยู่ด้วยท่านคงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก” นี่ก็อีกเสียงของน้องชายฉัน
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว ฮาโล วาเลน” ฉันตอบกลับน้องชายทั้งสองของฉัน
“ก็ดีแล้วท่านพี่ เพราะถ้าท่านเป็นอะไรไป ข้าคงรู้สึกผิด”
“ก็คงจะรู้สึกผิดล่ะ เหมือนที่เคยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย”
“พอได้แล้วฮาโล แค่นี้วาเลนก็รู้สึกแย่ และเสียใจมามากพอแล้ว”
“พี่ก็เข้าข้างแต่วาเลนนั่นล่ะ”
“พี่ไม่ได้เข้าข้างวาเลนเลยนะ แต่จะว่าไปเจ้าก็มีส่วนผิดด้วยไม่ใช่หรือฮาโล”
“พี่นิวเยียร์ทำไมท่านถึงเอาแต่โทรข้าฝ่ายเดียวล่ะ ที่กับวาเลนท่านไม่เคยว่าอะไรเลย ข้าไม่เข้าใจท่านจริงๆ ทั้งๆ ที่วาเลนเก็บความลับเรื่องความทรงจำของท่านไว้แท้ๆ”
“พอได้แล้วนะฮาโล เรื่องความทรงจำของพี่ วาเลนคงหวังดีกับพี่ แล้วอีกอย่างเจ้าควรให้ความเคารพวาเลนด้วย เพราะยังไงวาเลนก็เป็นพี่ชายของเจ้านะฮาโล”
“ไม่มีวัน จนกว่ามันจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นตื่นขึ้นมา”
“พี่ขอโทษนะฮาโลที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”
“พี่ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะพวกเราไม่คิดว่าพี่ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิดเดียว” นั้นเสียงของฮอลลี่ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเอพริล
“พอๆ พี่ปวดหัว ถ้าพวกเจ้าจะมาเพื่อทะเลาะกัน พี่ว่าพวกเจ้ากลับกันไปเถอะ แต่ถ้าจะมาเพื่อเยี่ยมพี่พวกเจ้าก็หยุดทะเลาะกันได้แล้ว และมาช่วยพี่คิด”
“คิดอะไรคะ” นั่นเป็นคำถามที่เอพริลถามด้วยความสงสัย แต่เป็นคำถามที่ฉันพอใจมาก
“ก็คิดว่าพี่จะตามหาเจ้าชายเฮเซ และมนุษย์ตะวันได้อย่างไร และหาพวกเขาได้ที่ไหน”
“ถ้าพวกข้ารู้ก็คงไม่ต้องรอให้ท่านตื่นขึ้นมาหรอกนะ”
“แต่ข้ารู้” นั่นเป็นเสียงที่ทำให้ฉันรู้สึกดีมากที่มีคนรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
“แล้วข้าจะหาพวกเขาได้ที่ไหนกัน อาซา”
“โลกมนุษย์ ถ้าท่านพร้อมข้าจะส่งท่านไปเอง”
“ข้าพร้อมที่จะไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ใจเย็นๆ ก่อนนิวเยียร์ เจ้าอย่าใจร้อนเลย พักให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ก่อนเถอะ” จู่ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังอาซา เสียงนั้นเป็นเสียงของเจ้าชายเฮซู อดีตพ่อมดดำฮาเดส
“อาทิตย์หน้า ข้าจะขึ้นไปบนโลกมนุษย์ ตกลงตามนี้ และห้ามใครมาขัดข้าอีกเด็ดขาด”
“แม้แต่ข้าก็ขัดเจ้าไม่ได้ด้วยหรือเปล่า”
“ราชินี!!!”
“ใช่ ข้าเอง”
“แต่หม่อมฉันร้อนใจอยากพบพวกเขาเร็วๆ เพคะ เพราะหม่อมฉันมีความรู้สึกแปลกๆ และต้องการคำตอบเป็นอย่างมากเพคะ”
“ข้าจะไม่ขัดเจ้า แต่ข้าจะมาเพื่ออนุญาตให้เจ้าไปที่โลกมนุษย์ได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย”
“ขอพระทัยเพคะราชินี”
“ไม่เป็นไร ถือว่าข้าไถ่โทษเรื่องความทรงจำของเจ้าก็แล้วกันนะ” หลังจากจบการสนทนาทุกคนก็ออกไปจากห้องของฉันหมด ยกเว้น เจ้าชายเฮซู ที่ยังอยู่ในห้อง
“ท่านมีอะไรกับข้าอีก”
“ข้าอยากจะขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่ข้าก่อขึ้น อีกอย่างข้าจะบอกเจ้าว่า มีเพียงหัวใจของเจ้าเท่านั้นที่จะตามหาสิ่งที่เจ้าต้องการเจอ และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องเลือก”
“ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านแล้วล่ะ แต่ข้าอยากจะรู้ว่าข้าต้องเลือกอะไร ข้าไม่เข้าใจ”
“เมื่อถึงเวลาเจ้าจะเข้าใจเอง” เมื่อเจ้าชายเฮซูพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งฉันไว้กับความงวยงง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉันต้องไปที่โลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อตามหาพ่อมดและมนุษย์ แต่ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันอยากจะเจอมนุษย์คนนั้นมากกว่าพ่อมดล่ะ นี่เรากำลังปันใจให้มนุษย์หรือไงนะ แต่มันผิดกฎของที่นี่ ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ความรู้สึกที่มั่นคง ณ ตอนที่ได้ความทรงจำกลับมา มันไม่ได้มากเท่ากับตอนที่อยู่กับมนุษย์เพียงไม่กี่วัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของฉันกันแน่เนี่ย
“พร้อมไหมนิวเยียร์” เสียงของอาซา ปลุกฉันให้ตื่นจากความคิด
“พร้อม” สิ้นสุดเสียงของฉัน เพียงไม่กี่วินาทีฉันก็มาโผล่ที่โลกมนุษย์ซะแล้ว
ณ โลกมนุษย์
ฉันจะเริ่มหาพวกเขาจากที่ไหนกันเนี่ย คราวนี้ฉันไม่มีลาเบลเป็นตัวช่วยแล้วนะ แย่แน่ฉัน ว่าแต่ตอนนี้ฉันคงต้องหาที่พัก และหาเสื้อผ้าใส่ให้เหมาะกับมนุษย์โลกซะหน่อยแล้วล่ะ ว่าแต่จะไปทางไหนดี
“นิวเยียร์ ทางนี้” เสียงนั่นเหมือนเสียงของลาเบลเลย
“เจ้าเป็นใครกัน แน่จริงก็ออกมา” ฉันท้าท้ายออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
“ข้าเอง ลาเบลไง ข้ามาเพื่อชี้ทางให้เจ้า และเพื่อขอโทษเจ้าที่ข้าทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน ก่อนอื่นเจ้าต้องใช้ตำรามนุษย์ที่ข้าเคยให้เจ้าไว้ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพียงลำพัง เพราะข้าจะอยู่กับเจ้าได้แค่ครู่เดียว เจ้าจะหาพวกเขาเจอได้ก็ต่อเมื่อเจ้าเชื่อในตัวเจ้าเอง และฟังเสียงหัวใจของเจ้า มันจะพาเจ้าไป ข้าขอให้เจ้าโชคดี”
“ขอบคุณนะลาเบล อีกอย่างข้าไม่เคยโกรธเจ้าเลย เพราะเจ้าเป็นมิตรที่ดีของข้าตลอดมา”
“งั้นข้าไปนะ” พูดจบลาเบลก็หายตัวไปทันที
เสียงหัวใจงั้นหรือ ข้าจะรู้ได้ไง ในเมื่อหัวใจมันพูดไม่ได้นี่ ระหว่างนี้ข้าก็ทำตามที่ลาเบลแนะนำคือใช้ตำรามนุษย์ เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับมนุษย์แล้วฉันก็ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ตามที่ต่างที่ฉันเคยไปในครั้งก่อน แต่ก็ต้องถอดใจเพราะไม่เจอใครเลย และนี่ก็มืดแล้ว ฉันคงต้องหาที่พักก่อนล่ะนะ
“โลกมนุษย์นี่มืดเร็วชะมัดเลย เฮ้อ แล้วคืนนี้ฉันจะนอนไหนเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง และเมื่อสิ้นเสียงฉัน ฉันก็โดนใครที่ไหนไม่รู้เอาผ้ามาปิดตาและอุ้มฉันไป
“ไอ้บ้า เจ้าเป็นใครกัน กล้าดียังไงมาจับตัวข้า เดี๋ยวข้าจะเสกให้เจ้าเป็นหมาเลย” แต่เอ๊ะทำไมฉันใช้เวทมนตร์ไม่ได้ล่ะ ทำไงดีล่ะทีนี้ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” นี่คือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่าเกียจที่สุด แต่ก็คุ้นเคยที่สุดเหมือนกัน ไอ้บ้านี่เป็นใครกันนะ แล้วเวทมนตร์ฉันหายไปไหนเนี่ย
“พี่ตื่นแล้วหรือ” นี่คือเสียงแรกที่ฉันได้ยิน เป็นเสียงของวาเลน น้องชายของฉันเอง
“พี่นิวเยียร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าข้าอยู่ด้วยท่านคงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก” นี่ก็อีกเสียงของน้องชายฉัน
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว ฮาโล วาเลน” ฉันตอบกลับน้องชายทั้งสองของฉัน
“ก็ดีแล้วท่านพี่ เพราะถ้าท่านเป็นอะไรไป ข้าคงรู้สึกผิด”
“ก็คงจะรู้สึกผิดล่ะ เหมือนที่เคยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย”
“พอได้แล้วฮาโล แค่นี้วาเลนก็รู้สึกแย่ และเสียใจมามากพอแล้ว”
“พี่ก็เข้าข้างแต่วาเลนนั่นล่ะ”
“พี่ไม่ได้เข้าข้างวาเลนเลยนะ แต่จะว่าไปเจ้าก็มีส่วนผิดด้วยไม่ใช่หรือฮาโล”
“พี่นิวเยียร์ทำไมท่านถึงเอาแต่โทรข้าฝ่ายเดียวล่ะ ที่กับวาเลนท่านไม่เคยว่าอะไรเลย ข้าไม่เข้าใจท่านจริงๆ ทั้งๆ ที่วาเลนเก็บความลับเรื่องความทรงจำของท่านไว้แท้ๆ”
“พอได้แล้วนะฮาโล เรื่องความทรงจำของพี่ วาเลนคงหวังดีกับพี่ แล้วอีกอย่างเจ้าควรให้ความเคารพวาเลนด้วย เพราะยังไงวาเลนก็เป็นพี่ชายของเจ้านะฮาโล”
“ไม่มีวัน จนกว่ามันจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นตื่นขึ้นมา”
“พี่ขอโทษนะฮาโลที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”
“พี่ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะพวกเราไม่คิดว่าพี่ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิดเดียว” นั้นเสียงของฮอลลี่ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเอพริล
“พอๆ พี่ปวดหัว ถ้าพวกเจ้าจะมาเพื่อทะเลาะกัน พี่ว่าพวกเจ้ากลับกันไปเถอะ แต่ถ้าจะมาเพื่อเยี่ยมพี่พวกเจ้าก็หยุดทะเลาะกันได้แล้ว และมาช่วยพี่คิด”
“คิดอะไรคะ” นั่นเป็นคำถามที่เอพริลถามด้วยความสงสัย แต่เป็นคำถามที่ฉันพอใจมาก
“ก็คิดว่าพี่จะตามหาเจ้าชายเฮเซ และมนุษย์ตะวันได้อย่างไร และหาพวกเขาได้ที่ไหน”
“ถ้าพวกข้ารู้ก็คงไม่ต้องรอให้ท่านตื่นขึ้นมาหรอกนะ”
“แต่ข้ารู้” นั่นเป็นเสียงที่ทำให้ฉันรู้สึกดีมากที่มีคนรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
“แล้วข้าจะหาพวกเขาได้ที่ไหนกัน อาซา”
“โลกมนุษย์ ถ้าท่านพร้อมข้าจะส่งท่านไปเอง”
“ข้าพร้อมที่จะไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ใจเย็นๆ ก่อนนิวเยียร์ เจ้าอย่าใจร้อนเลย พักให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ก่อนเถอะ” จู่ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังอาซา เสียงนั้นเป็นเสียงของเจ้าชายเฮซู อดีตพ่อมดดำฮาเดส
“อาทิตย์หน้า ข้าจะขึ้นไปบนโลกมนุษย์ ตกลงตามนี้ และห้ามใครมาขัดข้าอีกเด็ดขาด”
“แม้แต่ข้าก็ขัดเจ้าไม่ได้ด้วยหรือเปล่า”
“ราชินี!!!”
“ใช่ ข้าเอง”
“แต่หม่อมฉันร้อนใจอยากพบพวกเขาเร็วๆ เพคะ เพราะหม่อมฉันมีความรู้สึกแปลกๆ และต้องการคำตอบเป็นอย่างมากเพคะ”
“ข้าจะไม่ขัดเจ้า แต่ข้าจะมาเพื่ออนุญาตให้เจ้าไปที่โลกมนุษย์ได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย”
“ขอพระทัยเพคะราชินี”
“ไม่เป็นไร ถือว่าข้าไถ่โทษเรื่องความทรงจำของเจ้าก็แล้วกันนะ” หลังจากจบการสนทนาทุกคนก็ออกไปจากห้องของฉันหมด ยกเว้น เจ้าชายเฮซู ที่ยังอยู่ในห้อง
“ท่านมีอะไรกับข้าอีก”
“ข้าอยากจะขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่ข้าก่อขึ้น อีกอย่างข้าจะบอกเจ้าว่า มีเพียงหัวใจของเจ้าเท่านั้นที่จะตามหาสิ่งที่เจ้าต้องการเจอ และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องเลือก”
“ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านแล้วล่ะ แต่ข้าอยากจะรู้ว่าข้าต้องเลือกอะไร ข้าไม่เข้าใจ”
“เมื่อถึงเวลาเจ้าจะเข้าใจเอง” เมื่อเจ้าชายเฮซูพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งฉันไว้กับความงวยงง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉันต้องไปที่โลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อตามหาพ่อมดและมนุษย์ แต่ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันอยากจะเจอมนุษย์คนนั้นมากกว่าพ่อมดล่ะ นี่เรากำลังปันใจให้มนุษย์หรือไงนะ แต่มันผิดกฎของที่นี่ ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ความรู้สึกที่มั่นคง ณ ตอนที่ได้ความทรงจำกลับมา มันไม่ได้มากเท่ากับตอนที่อยู่กับมนุษย์เพียงไม่กี่วัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของฉันกันแน่เนี่ย
“พร้อมไหมนิวเยียร์” เสียงของอาซา ปลุกฉันให้ตื่นจากความคิด
“พร้อม” สิ้นสุดเสียงของฉัน เพียงไม่กี่วินาทีฉันก็มาโผล่ที่โลกมนุษย์ซะแล้ว
ณ โลกมนุษย์
ฉันจะเริ่มหาพวกเขาจากที่ไหนกันเนี่ย คราวนี้ฉันไม่มีลาเบลเป็นตัวช่วยแล้วนะ แย่แน่ฉัน ว่าแต่ตอนนี้ฉันคงต้องหาที่พัก และหาเสื้อผ้าใส่ให้เหมาะกับมนุษย์โลกซะหน่อยแล้วล่ะ ว่าแต่จะไปทางไหนดี
“นิวเยียร์ ทางนี้” เสียงนั่นเหมือนเสียงของลาเบลเลย
“เจ้าเป็นใครกัน แน่จริงก็ออกมา” ฉันท้าท้ายออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
“ข้าเอง ลาเบลไง ข้ามาเพื่อชี้ทางให้เจ้า และเพื่อขอโทษเจ้าที่ข้าทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน ก่อนอื่นเจ้าต้องใช้ตำรามนุษย์ที่ข้าเคยให้เจ้าไว้ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพียงลำพัง เพราะข้าจะอยู่กับเจ้าได้แค่ครู่เดียว เจ้าจะหาพวกเขาเจอได้ก็ต่อเมื่อเจ้าเชื่อในตัวเจ้าเอง และฟังเสียงหัวใจของเจ้า มันจะพาเจ้าไป ข้าขอให้เจ้าโชคดี”
“ขอบคุณนะลาเบล อีกอย่างข้าไม่เคยโกรธเจ้าเลย เพราะเจ้าเป็นมิตรที่ดีของข้าตลอดมา”
“งั้นข้าไปนะ” พูดจบลาเบลก็หายตัวไปทันที
เสียงหัวใจงั้นหรือ ข้าจะรู้ได้ไง ในเมื่อหัวใจมันพูดไม่ได้นี่ ระหว่างนี้ข้าก็ทำตามที่ลาเบลแนะนำคือใช้ตำรามนุษย์ เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับมนุษย์แล้วฉันก็ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ตามที่ต่างที่ฉันเคยไปในครั้งก่อน แต่ก็ต้องถอดใจเพราะไม่เจอใครเลย และนี่ก็มืดแล้ว ฉันคงต้องหาที่พักก่อนล่ะนะ
“โลกมนุษย์นี่มืดเร็วชะมัดเลย เฮ้อ แล้วคืนนี้ฉันจะนอนไหนเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง และเมื่อสิ้นเสียงฉัน ฉันก็โดนใครที่ไหนไม่รู้เอาผ้ามาปิดตาและอุ้มฉันไป
“ไอ้บ้า เจ้าเป็นใครกัน กล้าดียังไงมาจับตัวข้า เดี๋ยวข้าจะเสกให้เจ้าเป็นหมาเลย” แต่เอ๊ะทำไมฉันใช้เวทมนตร์ไม่ได้ล่ะ ทำไงดีล่ะทีนี้ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” นี่คือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่าเกียจที่สุด แต่ก็คุ้นเคยที่สุดเหมือนกัน ไอ้บ้านี่เป็นใครกันนะ แล้วเวทมนตร์ฉันหายไปไหนเนี่ย
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ