My dear เวทมนตร์นี้เพื่อเธอ
-
เขียนโดย ฝนดาวตก
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 09.19 น.
10 ตอน
2 วิจารณ์
11.63K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.33 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
ณ ราชวังในดินแดนแห่งความลับ กับเช้าวันใหม่ในความรู้สึกเดิมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกอึดอัดและไม่ชอบความเป็นตัวตนของเธอเอง เธอเอาแต่นั่งมองหิมะที่ตกจากฝากฟ้าลงสู่พื้นดินจนกลายเป็นสีขาวสะอาดตา และเฝ้าถามกับตัวเองว่าจะมีสักวันไหมที่เธอจะได้ออกไปพบกับแสงตะวันที่อบอุ่น เธอเบื่อที่ต้องทนอยู่ที่นี่ เบื่อกับทุกคนที่คอยเฝ้าติดตาม บังคับเธอทุกอย่าง แต่ด้วยความเป็นเธอมันจึงไม่ยากเลยที่จะทนอยู่กับสิ่งที่ทำให้เธอเบื่อ เพราะเธอก็อยู่แบบนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จนเธอรู้สึกเหมือนมีคนมาหยุดเวลาของเธอเอาไว้ไม่ให้มันเดินต่อไปอย่างนั้นล่ะ
“คุณหนูคะ ราชากับราชินีให้มาตามคุณหนูไปทานข้าวค่ะ” เสียงของแม่นมมาตามฉันให้ลงไปพบเจอความจริงแล้วสินะ
“แม่นมคะ หนูไม่ชอบเลยที่ต้องมาอยู่ที่นี่ มันไม่มีอิสระเลยค่ะ” ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องรับหน้าที่ใหญ่หลวงแบบนี้ เฮ้อ
“คุณหนูน่าจะเข้าใจ และทำใจได้แล้วนะคะ เรื่องที่คุณหนูต้องตามหาเจ้าชาย เพราะคุณหนูเป็นคนเดียวที่จะตามหาเจ้าชายพบ”
“หนูเข้าใจค่ะ หนูต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ถ้าหนูหาเจ้าชายเจอหนูก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองใช้ไหมคะ”
“ดีแล้วค่ะ คุณหนูที่เข้าใจเรื่องทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นเราไปเข้าเฝ้าราชาและราชินีกันเถอะนะคะ”
“ค่ะ หนูจะทำให้ดีที่สุดนะคะ เพราะหนูอยากกลับไปพบท่านพ่อ ท่านแม่ และน้องๆ” แม่นมยิ้มให้กับความคิดที่โตเป็นผู้ใหญ่ของฉัน เพราะอย่างนี้ฉันเลยได้รับเลือกให้ตามหาเจ้าชายที่หนีออกจากราชวังแห่งนี้ เพียงเพราะต้องการให้ดินแดนแห่งเวทมนตร์แห่งนี้วุ่นวาย และแค่ต้องการให้ราชาและราชินีสนใจเขาบ้าง ไม่ใช่แค่สนใจงานบ้านงานเมืองอย่างเดียว ‘อย่าให้ฉันเจอนายนะ เจ้าชายเฮเซ’
“ถวายบังคมเพคะราชา ราชินี”
“ไม่ต้องมากพิธี มาทานข้าวได้แล้ว” ราชากล่าว
“เพคะ” ฉันตอบรับ พร้อมกับตั้งใจว่าจะต้องถามความจริงให้ได้ว่าทำไมต้องเป็นฉัน ที่ต้องออกตามหาเจ้าชาย และฉันจะต้องออกตามหาเมื่อไร ต้องรออีกนานแค่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ฉันคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว
“อาหารไม่อร่อยหรอ นิวเยียร์ เจ้าถึงได้กินน้อยเพียงนี้” ราชินีถาม
“อร่อยเพคะ แต่เพียงหม่อมฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ เพคะ”
“เจ้าคิดอะไรอยู่ล่ะ บอกเราได้ไหม เผื่อเราจะช่วยอะไรได้” ราชินีถามด้วยความห่วงใย
“ได้เพคะ หม่อมฉันเพียงแค่สงสัยว่าเมื่อไรจะได้เวลาที่หม่อมฉันต้องออกตามหาเจ้าชายตามที่ราชาได้รับสั่งไว้เพคะ” ในที่สุดฉันก็ถามออกไปจนได้ ก็ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันต้องรู้กำหนดเวลาที่แน่นอนให้ได้ ฉันจะได้เตรียมพร้อม อีกอย่างฉันเบื่อที่ต้องอยู่ในวังแห่งนี้แล้ว
“ตอนนี้เจ้าทนรอไปก่อนนะ เพราะศิลายังไม่ปรากฏเลยว่าจะตามหาเจ้าชายได้ที่ไหน เจ้าทนได้ใช่ไหมนิวเยียร์” ศิลาอีกแล้วหรอ นี่เป็นคำตอบที่ฉันได้ยินมาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเนี่ย
“ได้เพคะ” นี่ก็เป็นคำตอบเดิมๆ ที่ฉันต้องตอบทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจจะตอบเลย ฉันอยากตอบใจจะขาดแล้วว่าฉันทนไม่ไหวแล้ว ไหนจะศิลา ไหนจะคำทำนาย ไหนจะเจ้าชาย ทำไมชีวิตฉันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้
“ขอบใจเจ้ามากนะนิวเยียร์ที่อดทนกับเรื่องนี้ แต่อีกไม่นานหรอกนะ เจ้าต้องได้ออกเดินทางตามหาเฮเซลูกของข้าแน่นอน”
“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ ราชินี” ฉันตอบราชินีด้วยความเข้าใจว่าพระองค์ทรงเหนื่อยกับการตอบคำถามของฉัน และทรงเหนื่อยที่ต้องมาดูแลฉันในระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
“ราชาเพคะ ผู้เฝ้าศิลามาขอเข้าเฝ้าเพคะ” แม่นมกราบทูลด้วยความใจเย็น แต่ฉันนี่สิ แค่ได้ยินคำว่าศิลาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
“บอกให้รอเดี๋ยว” ราชารับสั่งพร้อมกับหันมาถามราชินีกับฉันว่า
“พวกเจ้าอิ่มกันแล้วใช่ไหม”
“เพคะ ราชา” ราชินีและฉันตอบพร้อมเพียงกันด้วยความตื่นเต้น
“งั้นพวกเจ้าไปฟังข่าวดีกับข้าเถอะ”
“เพคะ” ข่าวดีงั้นหรอ หรือว่าศิลาจะปรากฏวันเวลาให้ฉันออกตามหาเจ้าชายกันนะ
ณ ห้องโถงพระราชวัง
“อาซา เจ้ามีอะไรว่ามา” ราชาถามคนเฝ้าศิลาทันทีที่นั่งบนบัลลังก์ของผู้ครองดินแดนเวทมนตร์
“คือ ตอนนี้ศิลาได้ปรากฏที่อยู่ของเจ้าชายเฮเซ และกำหนดการในการออกตามหาเจ้าชายแล้วพะยะค่ะ” ผู้เฝ้าศิลาตอบเสียงดังฟังชัด
“ดี ดีมาก แล้วศิลาว่ายังไงบ้าง เจ้าจงบอกข้ามาให้ละเอียด” ราชาถามด้วยความดีใจ
“บนศิลาแจ้งว่าเจ้าชายอยู่บนโลกมนุษย์พะยะค่ะ”
“แล้วกำหนดการล่ะ”
“เป็นวันที่หิมะหยุดตกพะยะค่ะ” ไม่จริงมั้ง ฉันไม่เชื่อ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
“ข้าคงต้องรอวันที่ไม่มีทางมาถึงอย่างนั้นหรอ อาซา” ราชาถามอย่างสิ้นหวัง เพราะในดินแดนแห่งเวทมนตร์นี้ไม่มีวันไหนที่หิมะไม่ตก ไม่มีแม้แต่วันเดียว
“ราชาเพคะ หม่อมฉันคิดว่าวันที่ศิลาทำนายจะไม่มีวันมาถึง เพราะฉะนั้นให้หม่อมฉันออกตามหาเจ้าชายตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะเพคะ” ฉันพูดออกไปด้วยความใจร้อน
“เจ้าแน่ใจหรอ นิวเยียร์ ว่าเจ้าจะตามหาเจ้าชายเจอ” ราชินีถาม
“แน่ใจเพคะราชินี เพราะถ้าหม่อมฉันคือคนที่ศิลาทำนาย หม่อมฉันต้องทำได้แน่นอนเพคะ ทั้งสองพระองค์ทรงไว้ใจหม่อนฉันนะเพคะ หม่อมฉันต้องพาเจ้าชายกลับมาล้างคำสาปแห่งศิลาให้ได้เพคะ”
“ดี ถ้าเจ้ามั่นใจ ข้าก็จะให้เจ้าออกเดินทางพรุ่งนี้เลย ข้าหวังว่าข้าคงได้เห็นเจ้าพาเฮเซลูกข้ากลับมานะ นิวเยียร์”
“เพคะราชา”
“งั้นเจ้าไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้เถอะ”
“เพคะ หม่อมฉันทูลลา” หลังจากออกจากโถงพระราชวังแล้ว ฉันรีบกลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปโลกมนุษย์ โลกที่ทุกคนเล่ากันว่าเป็นดินแดนที่มีแสงตะวัน แสงที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แสงที่เคยมีในอดีตของดินแดนเวทมนตร์แห่งนี้
“คุณหนูคะ คุณหนูแน่ใจแล้วหรอคะ ที่จะออกเดินทางโดยไม่รอให้ศิลาปรากฏคำทำนายอีก” เสียงของแม่นมดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่
“แน่ใจค่ะ แม่นมไม่ต้องห่วงหนูนะคะ หนูต้องปลอดภัยกลับมาพร้อมกับเจ้าชายของแม่นมค่ะ” ใช่ฉันต้องกลับมาพร้อมกับตัววุ่นวายที่ชอบก่อเรื่อง เอาแต่ใจ ทำอะไรไม่คิด ฉันต้องพาเขากลับมาได้แน่นอน เพราะฉันคือคนที่ถูกเลือก
“ถ้าคุณหนูมั่นใจขนาดนั้น อิฉันก็ไม่คัดค้านแล้วค่ะ”
“หนูทราบว่าแม่นมห่วงหนู แต่ที่มาคัดค้านหนู เป็นคำสั่งของราชินีใช่หรือเปล่าคะ”
“คุณหนูคะ” แม่นมเงียบเมื่อราชินีเข้ามาในห้อง
“ถวายบังคมเพคะราชินี”
“ไม่ต้องมากพิธี ตอนที่อยู่กันสองคนเจ้าเรียกข้าว่าท่านป้าเหมือนเดิมเถอะ นิวเยียร์”
“แต่...” ฉันยังไม่ทันได้พูด ราชินีก็พูดขึ้นเสียก่อน
“ไม่มีแต่... เจ้าเป็นเพื่อนเล่นของเฮเซตั้งแต่เด็ก ข้าเลยเชื่อใจเจ้า ไว้ใจเจ้า และคิดว่าความสามารถในตัวของเจ้าจะต้องพาเฮเซกลับมาอย่างปลอดภัยได้แน่นอน แต่ที่ข้าไม่แน่ใจคือ เฮเซจะยอมกลับมากับเจ้าหรือเปล่า เฮเซเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร แถมเวทมนตร์ของเขาก็ร้ายกาจกว่าเจ้ามากนักนะนิวเยียร์”
“ไม่ได้หรอกเพคะ ท่านเป็นถึงราชินี หม่อมฉันควรให้ความเคารพต่อท่าน และเมื่อราชินีอย่างท่านไว้ใจในตัวหม่อมฉัน หม่อมฉันต้องพาเจ้าชายกลับมาได้อย่างแน่นอน ราชินีไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้เจ้าชายมีเวทมนตร์ร้ายกาจแค่ไหนหม่อมฉันมั่นใจว่ารับมือได้ ราชินีอย่าเป็นกังวลไปเลยนะเพคะ”
“ได้ ข้าจะรอวันที่เจ้ากับเฮเซกลับมานะนิวเยียร์ ข้าจะรอวันนั้น”
“เพคะ วันนั้นต้องมาถึงเร็วๆนี้แน่นอนเพคะ”
“งั้นเจ้าเอาเครื่องรางนี่ไป มันอาจจะมีประโยชน์ต่อเจ้าเมื่ออยู่ที่โลกมนุษย์ก็ได้ รับมันไปสิ” ราชินีพูดพร้อมยื่นถุงเครื่องรางให้ฉัน
“ขอบพระทัยเพคะ” ฉันรับถุงเครื่องรางมา และราชินีก็ออกจากห้องไป
ณ ราชวังในดินแดนแห่งความลับ กับเช้าวันใหม่ในความรู้สึกเดิมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกอึดอัดและไม่ชอบความเป็นตัวตนของเธอเอง เธอเอาแต่นั่งมองหิมะที่ตกจากฝากฟ้าลงสู่พื้นดินจนกลายเป็นสีขาวสะอาดตา และเฝ้าถามกับตัวเองว่าจะมีสักวันไหมที่เธอจะได้ออกไปพบกับแสงตะวันที่อบอุ่น เธอเบื่อที่ต้องทนอยู่ที่นี่ เบื่อกับทุกคนที่คอยเฝ้าติดตาม บังคับเธอทุกอย่าง แต่ด้วยความเป็นเธอมันจึงไม่ยากเลยที่จะทนอยู่กับสิ่งที่ทำให้เธอเบื่อ เพราะเธอก็อยู่แบบนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จนเธอรู้สึกเหมือนมีคนมาหยุดเวลาของเธอเอาไว้ไม่ให้มันเดินต่อไปอย่างนั้นล่ะ
“คุณหนูคะ ราชากับราชินีให้มาตามคุณหนูไปทานข้าวค่ะ” เสียงของแม่นมมาตามฉันให้ลงไปพบเจอความจริงแล้วสินะ
“แม่นมคะ หนูไม่ชอบเลยที่ต้องมาอยู่ที่นี่ มันไม่มีอิสระเลยค่ะ” ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องรับหน้าที่ใหญ่หลวงแบบนี้ เฮ้อ
“คุณหนูน่าจะเข้าใจ และทำใจได้แล้วนะคะ เรื่องที่คุณหนูต้องตามหาเจ้าชาย เพราะคุณหนูเป็นคนเดียวที่จะตามหาเจ้าชายพบ”
“หนูเข้าใจค่ะ หนูต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ถ้าหนูหาเจ้าชายเจอหนูก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองใช้ไหมคะ”
“ดีแล้วค่ะ คุณหนูที่เข้าใจเรื่องทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นเราไปเข้าเฝ้าราชาและราชินีกันเถอะนะคะ”
“ค่ะ หนูจะทำให้ดีที่สุดนะคะ เพราะหนูอยากกลับไปพบท่านพ่อ ท่านแม่ และน้องๆ” แม่นมยิ้มให้กับความคิดที่โตเป็นผู้ใหญ่ของฉัน เพราะอย่างนี้ฉันเลยได้รับเลือกให้ตามหาเจ้าชายที่หนีออกจากราชวังแห่งนี้ เพียงเพราะต้องการให้ดินแดนแห่งเวทมนตร์แห่งนี้วุ่นวาย และแค่ต้องการให้ราชาและราชินีสนใจเขาบ้าง ไม่ใช่แค่สนใจงานบ้านงานเมืองอย่างเดียว ‘อย่าให้ฉันเจอนายนะ เจ้าชายเฮเซ’
“ถวายบังคมเพคะราชา ราชินี”
“ไม่ต้องมากพิธี มาทานข้าวได้แล้ว” ราชากล่าว
“เพคะ” ฉันตอบรับ พร้อมกับตั้งใจว่าจะต้องถามความจริงให้ได้ว่าทำไมต้องเป็นฉัน ที่ต้องออกตามหาเจ้าชาย และฉันจะต้องออกตามหาเมื่อไร ต้องรออีกนานแค่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ฉันคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว
“อาหารไม่อร่อยหรอ นิวเยียร์ เจ้าถึงได้กินน้อยเพียงนี้” ราชินีถาม
“อร่อยเพคะ แต่เพียงหม่อมฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ เพคะ”
“เจ้าคิดอะไรอยู่ล่ะ บอกเราได้ไหม เผื่อเราจะช่วยอะไรได้” ราชินีถามด้วยความห่วงใย
“ได้เพคะ หม่อมฉันเพียงแค่สงสัยว่าเมื่อไรจะได้เวลาที่หม่อมฉันต้องออกตามหาเจ้าชายตามที่ราชาได้รับสั่งไว้เพคะ” ในที่สุดฉันก็ถามออกไปจนได้ ก็ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันต้องรู้กำหนดเวลาที่แน่นอนให้ได้ ฉันจะได้เตรียมพร้อม อีกอย่างฉันเบื่อที่ต้องอยู่ในวังแห่งนี้แล้ว
“ตอนนี้เจ้าทนรอไปก่อนนะ เพราะศิลายังไม่ปรากฏเลยว่าจะตามหาเจ้าชายได้ที่ไหน เจ้าทนได้ใช่ไหมนิวเยียร์” ศิลาอีกแล้วหรอ นี่เป็นคำตอบที่ฉันได้ยินมาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเนี่ย
“ได้เพคะ” นี่ก็เป็นคำตอบเดิมๆ ที่ฉันต้องตอบทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจจะตอบเลย ฉันอยากตอบใจจะขาดแล้วว่าฉันทนไม่ไหวแล้ว ไหนจะศิลา ไหนจะคำทำนาย ไหนจะเจ้าชาย ทำไมชีวิตฉันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้
“ขอบใจเจ้ามากนะนิวเยียร์ที่อดทนกับเรื่องนี้ แต่อีกไม่นานหรอกนะ เจ้าต้องได้ออกเดินทางตามหาเฮเซลูกของข้าแน่นอน”
“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ ราชินี” ฉันตอบราชินีด้วยความเข้าใจว่าพระองค์ทรงเหนื่อยกับการตอบคำถามของฉัน และทรงเหนื่อยที่ต้องมาดูแลฉันในระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
“ราชาเพคะ ผู้เฝ้าศิลามาขอเข้าเฝ้าเพคะ” แม่นมกราบทูลด้วยความใจเย็น แต่ฉันนี่สิ แค่ได้ยินคำว่าศิลาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
“บอกให้รอเดี๋ยว” ราชารับสั่งพร้อมกับหันมาถามราชินีกับฉันว่า
“พวกเจ้าอิ่มกันแล้วใช่ไหม”
“เพคะ ราชา” ราชินีและฉันตอบพร้อมเพียงกันด้วยความตื่นเต้น
“งั้นพวกเจ้าไปฟังข่าวดีกับข้าเถอะ”
“เพคะ” ข่าวดีงั้นหรอ หรือว่าศิลาจะปรากฏวันเวลาให้ฉันออกตามหาเจ้าชายกันนะ
ณ ห้องโถงพระราชวัง
“อาซา เจ้ามีอะไรว่ามา” ราชาถามคนเฝ้าศิลาทันทีที่นั่งบนบัลลังก์ของผู้ครองดินแดนเวทมนตร์
“คือ ตอนนี้ศิลาได้ปรากฏที่อยู่ของเจ้าชายเฮเซ และกำหนดการในการออกตามหาเจ้าชายแล้วพะยะค่ะ” ผู้เฝ้าศิลาตอบเสียงดังฟังชัด
“ดี ดีมาก แล้วศิลาว่ายังไงบ้าง เจ้าจงบอกข้ามาให้ละเอียด” ราชาถามด้วยความดีใจ
“บนศิลาแจ้งว่าเจ้าชายอยู่บนโลกมนุษย์พะยะค่ะ”
“แล้วกำหนดการล่ะ”
“เป็นวันที่หิมะหยุดตกพะยะค่ะ” ไม่จริงมั้ง ฉันไม่เชื่อ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
“ข้าคงต้องรอวันที่ไม่มีทางมาถึงอย่างนั้นหรอ อาซา” ราชาถามอย่างสิ้นหวัง เพราะในดินแดนแห่งเวทมนตร์นี้ไม่มีวันไหนที่หิมะไม่ตก ไม่มีแม้แต่วันเดียว
“ราชาเพคะ หม่อมฉันคิดว่าวันที่ศิลาทำนายจะไม่มีวันมาถึง เพราะฉะนั้นให้หม่อมฉันออกตามหาเจ้าชายตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะเพคะ” ฉันพูดออกไปด้วยความใจร้อน
“เจ้าแน่ใจหรอ นิวเยียร์ ว่าเจ้าจะตามหาเจ้าชายเจอ” ราชินีถาม
“แน่ใจเพคะราชินี เพราะถ้าหม่อมฉันคือคนที่ศิลาทำนาย หม่อมฉันต้องทำได้แน่นอนเพคะ ทั้งสองพระองค์ทรงไว้ใจหม่อนฉันนะเพคะ หม่อมฉันต้องพาเจ้าชายกลับมาล้างคำสาปแห่งศิลาให้ได้เพคะ”
“ดี ถ้าเจ้ามั่นใจ ข้าก็จะให้เจ้าออกเดินทางพรุ่งนี้เลย ข้าหวังว่าข้าคงได้เห็นเจ้าพาเฮเซลูกข้ากลับมานะ นิวเยียร์”
“เพคะราชา”
“งั้นเจ้าไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้เถอะ”
“เพคะ หม่อมฉันทูลลา” หลังจากออกจากโถงพระราชวังแล้ว ฉันรีบกลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปโลกมนุษย์ โลกที่ทุกคนเล่ากันว่าเป็นดินแดนที่มีแสงตะวัน แสงที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แสงที่เคยมีในอดีตของดินแดนเวทมนตร์แห่งนี้
“คุณหนูคะ คุณหนูแน่ใจแล้วหรอคะ ที่จะออกเดินทางโดยไม่รอให้ศิลาปรากฏคำทำนายอีก” เสียงของแม่นมดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่
“แน่ใจค่ะ แม่นมไม่ต้องห่วงหนูนะคะ หนูต้องปลอดภัยกลับมาพร้อมกับเจ้าชายของแม่นมค่ะ” ใช่ฉันต้องกลับมาพร้อมกับตัววุ่นวายที่ชอบก่อเรื่อง เอาแต่ใจ ทำอะไรไม่คิด ฉันต้องพาเขากลับมาได้แน่นอน เพราะฉันคือคนที่ถูกเลือก
“ถ้าคุณหนูมั่นใจขนาดนั้น อิฉันก็ไม่คัดค้านแล้วค่ะ”
“หนูทราบว่าแม่นมห่วงหนู แต่ที่มาคัดค้านหนู เป็นคำสั่งของราชินีใช่หรือเปล่าคะ”
“คุณหนูคะ” แม่นมเงียบเมื่อราชินีเข้ามาในห้อง
“ถวายบังคมเพคะราชินี”
“ไม่ต้องมากพิธี ตอนที่อยู่กันสองคนเจ้าเรียกข้าว่าท่านป้าเหมือนเดิมเถอะ นิวเยียร์”
“แต่...” ฉันยังไม่ทันได้พูด ราชินีก็พูดขึ้นเสียก่อน
“ไม่มีแต่... เจ้าเป็นเพื่อนเล่นของเฮเซตั้งแต่เด็ก ข้าเลยเชื่อใจเจ้า ไว้ใจเจ้า และคิดว่าความสามารถในตัวของเจ้าจะต้องพาเฮเซกลับมาอย่างปลอดภัยได้แน่นอน แต่ที่ข้าไม่แน่ใจคือ เฮเซจะยอมกลับมากับเจ้าหรือเปล่า เฮเซเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร แถมเวทมนตร์ของเขาก็ร้ายกาจกว่าเจ้ามากนักนะนิวเยียร์”
“ไม่ได้หรอกเพคะ ท่านเป็นถึงราชินี หม่อมฉันควรให้ความเคารพต่อท่าน และเมื่อราชินีอย่างท่านไว้ใจในตัวหม่อมฉัน หม่อมฉันต้องพาเจ้าชายกลับมาได้อย่างแน่นอน ราชินีไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้เจ้าชายมีเวทมนตร์ร้ายกาจแค่ไหนหม่อมฉันมั่นใจว่ารับมือได้ ราชินีอย่าเป็นกังวลไปเลยนะเพคะ”
“ได้ ข้าจะรอวันที่เจ้ากับเฮเซกลับมานะนิวเยียร์ ข้าจะรอวันนั้น”
“เพคะ วันนั้นต้องมาถึงเร็วๆนี้แน่นอนเพคะ”
“งั้นเจ้าเอาเครื่องรางนี่ไป มันอาจจะมีประโยชน์ต่อเจ้าเมื่ออยู่ที่โลกมนุษย์ก็ได้ รับมันไปสิ” ราชินีพูดพร้อมยื่นถุงเครื่องรางให้ฉัน
“ขอบพระทัยเพคะ” ฉันรับถุงเครื่องรางมา และราชินีก็ออกจากห้องไป
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ