เด็กกว่าแล้วไง

-

เขียนโดย 18กันยา

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 10.03 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,270 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 10.45 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ตอนที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ผมไม่รู้ว่า ตั้งแต่เมื่อไรที่สายตาของเฝ้ามองแต่เพื่อนสนิทของพี่ชายตัวเอง ผมรู้ว่าผมเป็นแค่เด็กมหาลัยปีสอง ในขณะที่พี่ชายของผมเรียนอยู่มหาลัยปีสุดท้ายแล้วก็กำลังที่จะจบการศึกษาในอีกไม่นานนี้ ผมรู้ในสายตาเพื่อนพี่ชายผมคนนี้ไม่เคยแม้จะมองผมในฐานะผู้ชายคนหนึ่งคงเห็นแต่เพียงแค่น้องชายเพื่อนสนิท เป็นรุ่นน้องที่มหาลัย ใช่สิ ผมมันเด็ก แต่เด็กกว่าแล้วไงหล่ะ

 .....................................

 และวันนี้อีกเช่นกันที่ “พี่นะ” มาเที่ยวที่บ้านผมพร้อมกับ”พี่พัฒน์” พี่ชายของผมหลังจากเลิกจากมหาลัย

 “อ้าว ไงภูทำอะไรอยู่หรอ” พี่นะเอ่ยทักผมที่กำลังดูทีวีอยู่ตรงห้องรับแขก ผมรีบหันไปตามเสียงนั้นทันที วันนี้พี่นะอยู่ในชุดเสื้อเชิตสีชาวปล่อยชายออกมานอกกางเกงสแลคขาเดปเนื้อดี แขนเสื้อถูกดึงไปถึงข้อศอก ผมสีดำสนิทซอยรับรูปกับใบหน้าเรียวคม ดวงตาเรียวรีสีดำสนิทคู่นั้นที่มักจะมองไปที่พี่ชายผมด้วยความรักที่พี่ชายผมแสนจะซื้อบื้อไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นเลย ด้วยความสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบพอๆ กะผม “พี่นะ” เป็นผู้ชายที่หล่อและดูดีสาวๆ ในมหาลัยหลายคนสนใจแต่พี่นะก็ไม่เคยมองใครเลย นอกจากพี่ชายผมซึ่งข้อนี้ทำให้ผมปวดใจทุกครั้งที่เห็นเวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน

 “อ้าว สวัสดีครับพี่นะ แล้วพี่พัฒน์หล่ะครับ” ผมเอ่ยทักทายพร้อมกับถามออกไปเมื่อยังไม่เห็นพี่พัฒน์เข้ามาในบ้าน

 “อ้อ คุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกน่ะ เดี๋ยวคงเข้ามา นี่ภูกินอะไรหรือยังหล่ะ” 

 “ยังเลยครับพี่ แล้วพี่สองคนหล่ะครับกินไรมายัง”

 “อ่ะ งั้นพอดีเลย มากินด้วยกันสิพี่กับพัฒน์ซื้อมาเยอะแยะ มีของชอบของภูด้วยนะ” พี่นะเอ่ยชวนผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งผมก็ไมปฏิเสธรีบลุกไปช่วยพี่นะจัดการเทอาหารใส่จานทันที

 “โห นี่จัดการเรียบร้อยแล้วหรอ งั้นเดี๋ยวรออีกสักพักนะ มีคนที่อยากแนะนำให้รู้จักน่ะ” พี่พัฒน์เดินเข้ามาพร้อมกับร้องบอกเมื่อเห็นอาหารทุกอย่างจัดเตรียมบนจานเรียบร้อยแล้ว

 “หืมมมม  ใครหรอฉันรู้จักหรือเปล่า”  พี่นะเอ่ยถามด้วยความสงสัย ใบหน้าเรียวคมนั้นมุ่ยลงด้วยท่าทางครุ่นคิด

 “หึหึ เซอร์ไพร์น่ะพัฒน์”  พี่พัฒน์เอ่ยขึ้นด้วยหน้าตาที่บานแฉ่งด้วยความสุข นัยตาสีน้ำตาลคู่นั้นระยิบระยับ ซึ่งอาการแบบนี้ผมรู้ได้ทันทีว่า คนที่พี่จะแนะนำให้รู้จักนั้นต้องเป็นคนพิเศษชัวร์ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะเวลาพี่มีแฟนที่ไรแล้วพามาให้ผมรู้จักพี่ก็จะมีอาการแบบนี้ทุกทีน่ะสิ  มันทำให้ผมอดที่จะเหลือบมองอีกคนด้วยความเป็นห่วงไม่ได้  เวลาผ่านไปได้สักพักเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน พี่พัฒน์รีบลุกออกไปทันที โดยที่ผมและพี่นะได้แต่ยืนมองอย่างสงสัย แล้วสิ่งที่ผมคิดก็เป็นจริง เฮ้ออ แล้วทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะ

 พี่พัฒน์พาหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาวเนียน ปากนิด จมูกหน่อย มาแนะนำให้รู้จัก ซึ่งผมไม่แปลกใจเท่าไร แต่อีกคนนี่สิ

 “เมย์ นี่ไอ้ภู น้องพัฒน์น่ะที่เคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไง” 

“สวัสดีจ้า น้องภู”

 “เอ่อ  สวัสดีครับ”

 “ส่วนนี่ ไอ้นะ เพื่อนพัฒน์เอง”

 “สวัสดีค่ะ คุณนะ เมย์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” เมย์กล่าวแนะนำตัวกับนะด้วยท่าทางที่เป็นกันเองก่อนที่พี่พัฒน์จะสรุปทุกอย่างถึงความสัมพันธ์กับเมย์ แล้วสมาชิกบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นนั้นก็กลายเป็นสี่คนโดยส่วนใหญ่บทสนทนาจะเป็นพี่พัฒน์กับพี่เมย์เล่าเรื่องราวการคบกันของทั้งสองคนเองมากกว่า ในขณะที่พี่นะคงอยู่ในช่วงช็อคใบหน้าเรียวคมนั้นสลดลงแววตาหม่นหมอง แต่ก็ต้องมานั่งทนฟังคนที่ตัวเองแอบชอบคุยกระหนุงกระหนิงกับแฟน ฝืนยิ้มให้ทั้งที่ใจเจ็บปวด ความรู้สึกผมในตอนนั้นอยากจะดึงพี่นะมากอดปลอบประโลม แต่ก็ทำไมได้.. จนเวลาผ่านไปได้สักพักทานอาหารเสร็จแล้วพี่นะก็ลากลับไปทันทีพร้อม ๆ กับที่พี่เมย์ก็กลับไปเช่นกัน เมื่ออยู่กันสองคนกับพี่พัฒน์ผมจึงหันไปฟาดงวงฟาดงาใส่ทันที

“พี่พัฒน์ พี่ทำงี้หมายความว่าไง”ผมถามขึ้นด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง ซึ่งพี่พัฒน์ก็งง ๆ เหมือนกันที่อยู่ ๆ ผมก็หันไปโวยวายใส่

 “เฮ้ยย อะไรวะ พี่ทำอะไร”  พี่พัฒน์ถามขึ้นด้วยความงงงวย

 “โอ๊ยยยยยยยยย  ไอ้พี่งี่เง่า ผมจะออกไปข้างนอกนะ ไม่ต้องรอ” เมื่อระเบิดอารมณ์ใส่พี่ชายเสร็จผมก็รีบออกจากบ้านไปทันที ปล่อยให้พี่ชายงุนงงกับคำด่าของน้องชายที่ห่างกันแค่สองปีที่หลายคนสงสัยว่าตกลงมันเป็นพี่หรือน้องกันแน่ฟร่ะ  = =” เพราะหลาย ๆ อย่างมันทำให้คิดอย่างนั้น พี่ชายผมสูง 175 เซนติเมตร ในขณะที่ผมสูง 180 เซนติเมตร รูปร่างพี่ผมผอมบางกว่า  ใบหน้าเรียวคมแถมยังหน้าอ่อนยังกะเด็กขนาดนั้น ส่วนผมน่ะหรอรูปร่างพอ ๆ กะพี่นะเลย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไปชอบคนที่ตัวพอ ๆ กับผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่หัวทำตามหัวใจเรียกร้องแค่นั้นเอง หากคุณกำลังสังสัยว่าทำไมผมรุ้ว่าพี่นะขอบพี่พัฒน์น่ะหรือ หึหึ คุณเคยได้ยินคำนี้อ่ะป่าวว่า  ผีย่อมเห็นผี  อ่ะ  ฮ่าๆๆ 

เอาหล่ะเวิ่นเว้อแล้วเราก็กลับมาเข้าเรื่องกันสักที  ผมรีบนั่งรถตรงไปที่บ้านพี่นะทันที อารมณ์ผมตอนนี้อ่ะหรอ  เหอะๆๆ  บอกได้เลยว่าโมโหพี่ชายตัวเองที่แสนงี่เง่าซื่อบื้อไม่เคยมองความรู้สึกของคนข้างตัวเลย แล้วอีกหนึ่งที่ห่วงที่สุดคือคนที่ดันมาแอบรักพี่ชายงี่เง่าของผมทั้งที่ก็เป็นเพื่อนสนิทกันด้วย ก็อย่างว่าแหล่ะนะ ความรักไม่เข้าใครออกใครมาแนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ว่าแล้วก็นึกเพลงของพี่บอย พีชเมกเกอร์เสียจริง “ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น” เพลงนี้ประกอบภาพยนต์เรื่อง เพื่อนสนิท  ว่าง ๆ ก็ลองไปค้นมาดูอีกรอบก็ดีเหมือนกันนะเออ

 กว่าผมจะมาถึงบ้านของพี่นะก็ใช้เวลาพอสมควรผมรีบไปเคาะประตูบ้านพี่นะทันที หลังจากที่เคาะไปได้สักครู่ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูพร้อมกับสภาพของเจ้าของบ้านตอนนี้ที่แทบจะกลายเป็นคนละคนกับที่นั่งกินข้าวกับผมเมื่อสักครู่นี้เลย

 “อ้าวววว ภูเองหรอ นายมาทำมายยยยยยย เข้ามาก่อนสิ”  เสียงยานครางของพี่นะที่ชวนผมเข้าไปในบ้าน ซึ่งสภาพห้องรับแขกในตอนนี้เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์วางเกลื่อนกลาด

 นี่คงดื่มไปเยอะเลยสิ  ผมคิดในใจในขณะที่มองไปยังซากกระป๋องเบียร์ที่ผ่านการดื่มจนหมดเรียบร้อย

 “นายมาทำไม มีธุระอะไรหรือเปล่า” พี่นะเอ่ยถามขึ้นหลังจากพากันไปนั้งที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่วายที่กรอกยอดข้าวผสมแอลกอฮอล์ลงกระเพาะไปด้วย ซึ่งเป็นการที่เห็นแล้วพาลให้หงุดหงิด

 “พี่นะจะดื่มอะไรมากมายขนาดนี้พอได้แล้ว” ผมถามขึ้นแล้วก็แย่งกระป๋องเบียร์ในมือพี่นะก่อนที่จะนำมันไปวางไว้ที่อื่น ก่อนที่จะหันมาประจันหน้ากับคนเมาสองมือเอื้อมไปจับไหล่บางพร้อมกับเขย่าเบาๆ เป็นการเรียกสติ

 “ก็แค่พี่พัฒน์มีแฟน ทำให้พี่กลายเป็นคนละคนกันขนาดนี้เลยหรอผมนึกว่าพี่จะเข้มแข็งกว่านี้ซะอีก”

 ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก  เหอๆๆ  อาการที่เงียบไปอย่างนี้ทำให้ผมนึกหวั่นใจเดาความรู้สึกของคนตรงหน้าไม่ออกจริง ๆ แต่แล้วผมก็ต้องตกใจที่อยู่ ๆ พี่นะที่เงียบอยู่นั้นก็ปัดมือทั้งสองข้างของผมออกแล้วผลักผมไปนอนบนโซฟาตัวนุ่มก่อนที่พี่นะจะโถมตัวมานั่งทับตัวผมพลันสองมือคู่นั้นก็จับคอเสื้อผมพร้อมกับทิ้งระเบิดใส่ผมทันที

 “นายมันจะไปรู้อะไร ความรู้สึกของคนที่แอบรักเพื่อนตัวเองแถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีกน่ะ เด็กอย่างนายจะไปรู้อะไร”  แค่ได้ยินคำว่า “เด็ก” แค่นั้นแหล่ะ เส้นความอดทนผมก็ขาดผึงทันที แล้วเป็นทีของผมบ้างที่ผลักพี่นะให้หงายหลังไปนอนบนโซฟาแล้วก็โถมตัวไปทับบ้างพร้อมกับสองมือที่จับคอเสื้อคนเมาไว้บ้าง

 “คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก เด็กว่ากว่าแล้วไง เด็กกว่าแล้วจะไม่รู้เรื่องความรักหรอ พี่ดูถูกผมมากไปแล้วนะ แอบรักเพื่อนแล้วไง รักผู้ชายด้วยกันแล้วไง ทำไมผมจะไม่รู้ ผมรักพี่นะมาตั้งนานแต่พี่น่ะงี่เง่าที่ไม่เคยจะมองมาที่ผมบ้างเลย พี่มันบ้าที่สุด”  หลังจากสาธยายซะยาวเหยียดผมก็หยุดรีบโกยอากาศเข้าปอดทันที ในขณะที่คนที่นอนอยู่ได้แต่มองหน้าผมอย่างตะลึง สักพักพี่นะก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูกได้ทำหน้าเอ๋อ ๆ มองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ

 “นายชอบฉันหรอ งั้นที่นายมาที่นี่เพื่อปลอบใจฉันซินะ” ว่าแล้วพี่นะก็เอื้อมมือมากดหัวผมลงแล้วก็จูบผมทันที จูบที่รุนแรงคละเคล้าไปด้วยรสชาดของแอลกอฮอล์เสียงฟันกระทบกันกึกกักกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วโพลงปาก ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดผมรีบผลักตัวออกมาทันที ผมมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บปวด

“ถ้าจูบผมเพราะคิดว่าผมเป็นตัวแทนพี่พัฒน์ละก็ พี่มันก็เลวที่สุด อย่ามาดูถูกความรู้สึกของผม จากนี้ไปผมจะไม่รักพี่อีก จะไม่สนใจอีกต่อไปแล้วพอกันที” แล้วผมก็รีบออกจากบ้านพี่นะไปทันทีโดยที่ไม่หันกลับไปมองอีกเลย

*************************************************************

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา