BTS

6.7

เขียนโดย zeeto

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  6 ตอน
  3 วิจารณ์
  12.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 02.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

4) สถานีต่อไป เดทของเรา???

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

           “ขึ้นรถไฟฟ้าเช้าๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ” ผมหันไปพูดกับคนที่นั่งข้างๆ “ฟลุ๊คว่าอะไรนะ” “เราบอกว่านั่งรถไฟฟ้าแต่เช้าก็ดีเหมือนกัน” “ทำไมอะ” “ก็ตอนเช้าๆเราได้นั่งไงลองสายๆหน่อยซิยืนยันสถานีสุดท้าย” “ฮาๆๆๆ...แต่เราชอบเวลาคนเบียดๆกันมากกว่านะ” “แปลก...ทำไมถึงชอบตอนคนเบียดๆกันหรอ” “ความลับ...เออฟลุ๊คเดี๋ยวเราจะแวะเข้าบริษัทก่อนฟลุ๊คจะเข้ามหาลัยเลยไหมหรือจะไปบริษัทกับเราก่อน” “อืม...เราเรียนเก้าโมงครึ่งตอนนี้ก็พึ่งแปดโมงเองไปกับกันต์ก่อนก็ได้” หลังจากลงจากรถไฟฟ้าผมกับกันต์ก็เดินไปที่บริษัทพร้อมกันไม่ยักกะรู้ว่าเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่นี้จริงๆแต่ทำไมถึงได้เจอกันเพียงแค่ที่BTSเท่านั้นนะ ก็อย่างว่าใครจะไปรู้ได้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น บางทีแค่เศษใบไม้ปลิวผ่านหน้าดึงความสนใจเราไปอาจจะทำให้เราคลาดเคลื่อนกับสิ่งที่รอคอยก็ได้

               

          “ฮัลโล...เออผมก็บอกแล้วว่าผมเข้ามหาลัยคนเดียวได้...เออนะคุณผมกำลังจะออกไปแล้วบ่นเป็นคนแก่ไปได้” “พี่อ๊อฟหวัดดีพี่” “อ้าวไอ้กันต์มารายงานตัวหรอ” “อือ...แล้วนี้พี่ทำไมดูรีบจัง” “พอดีรถเสียแล้วติดรถไอ้อาจารย์เตี้ยมาอ่ะดิเนี้ยโทรตามยิกๆไปแล้วไว้เจอกันที่มอ” “เออๆ...” ใครว่ะไอ้อาจารย์เตี้ยผมหันหลังตามไปมองที่พี่อ๊อฟก่อนจะเดินเข้าบริษัทเพื่อไปรายงานตัวเช่นกัน “ฟลุ๊ครอแปบนะเดี๋ยวเราเข้าไปรายงานตัวก่อน” “อือ...” หลังจากเข้าไปรายงานตัวไม่นานผมก็เดินออกมาก่อนจะเดินไปที่มหาลัยพร้อมกับฟลุ๊คที่เดินข้างๆมาเช่นกัน “กันต์คือนี้ก็แปดโมงครึ่งเองเราหาอะไรกินก่อนไหมเราหิวแล้ว” “จริงด้วยขอโทษนะเราลืมเลยงั้นฟลุ๊คอยากกินไรอ่ะ” “ร้านข้าวต้มปลาข้างหน้านี้ก็ได้กันต์กินได้ไหม” “ได้ๆงั้นกินข้าวต้มปลาก็ได้ง่ายดี”

               

          ปกติก็ไม่ค่อยจะทันมื้อเช้าซักเท่าไรหรอกแต่วันนี้... ใข่ซิก็วันนี้ผมมีเพื่อนนั่งกินมื้อเช้าที่แสนจะสำคัญด้วยทั้งทีจะไม่กินได้ไงอีกอย่างวันนี้คงได้รับพลังงานและสารอาหารเต็มที่แน่ๆ “ฟลุ๊คนี่ดีเนอะดูกินง่ายอยู่ง่าย” “ใช่เราชอบกินนะกินได้หมดแหล่ะว่าแต่กันต์ละ” “เรากินยากนิดหน่อยบางทีก็ทำกินเองบ้างไม่ก็เมนูเดิมๆซ้ำๆ” “ไม่เบื่อหรอ”  “ไม่...เราเป็นคนไม่เบื่ออะไรง่ายๆนะถ้าชอบแล้วก็จะอยู่แค่นั้นแหล่ะ” ทำไมผมรู้สึกเขินกับคำพูดแค่นี้ของคนตรงหน้าได้นะ “เออแล้วนี่ฟลุ๊คมาร้านนี้ประจำหรอ” “ไม่หรอกปกติเราก็ไม่ค่อยทันมื้อเช้าเท่าไร” “มิน่าละตัวผอมๆถ้าลมแรงๆพัดมาทีจะปลิวไหมนะ” “ก็พูดเกินไปเราไม่ได้ผอมอะไรขนาดนั้นซ่ะหน่อย” “ก็จริงนะฟลุ๊คตัวบางมากเลย” “ก็เรากินเท่าไรก็ไม่อ้วน” “ดีเนอะเรานี้ต้องระวังตลอดแก้มยืดหมดแล้วเนี้ย” “น่ารักดีออกเราชอบ” พูดอะไรของผมออกไปว่ะเนี้ยแล้วแบบนี้กันต์จะคิดยังไงผมรีบหันหน้าหลบก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปากต่อโดยไม่พูดอะไร

               

          “ถึงเวลาสอนก็ตั้งใจสอนด้วยละคุณอย่าให้รู้นะว่าเอาแต่หม้อนักศึกษา” คนอะไรมันจะจู้จี้ขี้บ่นขนาดนี้ว่ะผมก้มหัวให้กับไอ้อาจารย์เตี้ยก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าตึกคณะไปไม่รู้มันจะบ่นผมทำไมนี้ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นผู้ชายผมนึกว่ามันเป็นเมียผมไปแล้วด้วยซ้ำบ่นอยู่นั้นแหล่ะ “สวัสดีครับนักศึกษาทุกคน” เมื่อมาถึงห้องผมก็ฉีกยิ้มขึ้นทันทีก่อนจะกล่าวทักทายนักศึกษาที่รอเรียน “วันนี้ผมขอดูงานที่สั่งให้ไปทำเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหน่อยนะว่าเป็นยังไง” ผมค่อยๆเดินดูงานของนักศึกษาทีละคนไปเรื่อยๆ “อาจารย์คะช่วยดูของหนูตรงนี้ทีคะ” ผมหันไปมองตามเสียงเรียกใช่แล้วน้องนักศึกษาคนสวยประจำคลาสนี่เองไม่ได้ๆผมค่อยๆกระแอมเสียงก่อนจะเดินไปหา “ตรงไหนครับที่ไม่เข้าใจ” “ตรงนี้คะพอดีหนูลองตัดงานแล้วคือมันไม่ได้ซักที” “ตรงนี้หรอครับต้องทำแบบนี้” ผมพูดพร้อมกับทำให้นักศึกษาคนสวยดูช้าๆพร้อมกับส่งสายตาให้ “อะแอ่ม...” เสียงใครว่ะคุ้นๆผมค่อยๆเงยหน้าไปมองที่เสียง โถ่เว้ย... “สวัสดีคะอาจารย์” “สวัสดีครับนี้ทำอะไรอยู่หรอ” “พอดีหนูตัดงานตรงนี้ไม่ได้คะเลยให้อาจารย์จุมพลเขาดูให้หน่อย” “อ๋อ...ทำงานดีนะครับคุณจุมพล” “ก็ให้คุ้มค่าจ้างแหล่ะครับ” “อาจารย์มามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” “ผมก็มาเช็คดูพวกพนักงานฝึกหัดนะว่าทำงานเป็นยังไงบ้างมีออกนอกลู่นอกทางไหม” “ฮาๆๆๆ...อาจารย์พูดเหมือนคนเป็นแฟนกันเลยคะ” “คุณว่าเหมือนหรอครับนักศึกษา” “เหมือนอยู่นะคะอาจารย์อย่าบอกนะว่าอาจารย์กับอาจารย์จุมพลเป็น...” “อย่าคิดไปซิครับผมกับอาจารย์อรรถพันธ์จะไปเป็น...” “ใช่ครับอาจารย์จุมพลเขาเป็นแฟนผม” “ว๊ายยยยย...น่ารักอ่ะมิหน้าละเมื่อวานเห็นกลับด้วยกันเมื่อเช้าก็มาด้วยกัน” “ครับ...” “เฮ้ยคุณ...” “อาจารย์จุมพลสู้ๆนะคะพวกเราสนับสนุนคะ” ผมหันไปมองหน้าอาจารย์เตี้ยก่อนจะหันไปมองหน้านักศึกษาในห้องที่ต่างพากันยิ้มให้นี้มันเรื่องอะไรว่ะแล้วไอ้คนปล่อยระเบิดพอเสร็จแล้วก็หนีไปซ่ะงั้น แล้วความฝันที่ผมวาดฝันไว้ว่าจะได้อยู่ในวงล้อมสาวๆละจบสิ้นแล้วหรอ ไอ้เตี้ยยยยย...เอาความสุขฉันคืนมา...

               

          “ตัดงานได้ไหม” ผมทำทีเดินเข้าไปดูนักศึกษาคนอื่นๆก่อนจะค่อยๆแวบไปที่เป้าหมายที่ผมตั้งใจมองไว้แต่แรกอยู่แล้ว “ได้ครับ” “มีอะไรถามได้นะถ้าไม่เข้าใจ” “ขอบคุณครับ” คนที่นั่งทำงานอยู่หันมายิ้มให้ผมก่อนจะก้มลงไปทำงานต่อ บางครั้งผมก็ว่าผมบ้านะแค่ได้คุยกับเขาแค่นี้ก็เหมือนพลังงานในร่างกายที่หายไปกลับคืนมาและมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัวผมได้แต่เดิมกุมปากตัวเองเพื่อไม่ให้คนอื่นๆเห็นได้ว่ากำลังยิ้มมากแค่ไหน “เอาละครับนักศึกษาทุกคนเดี๋ยวอาทิตย์หน้าขอให้ส่งงานให้ครบนะครับ ส่วนใครที่ไม่เข้าใจก็ให้มาถามนะเพราะถ้างานไม่ผ่านผมช่วยไม่ได้นะครับวันนี้พอแค่นี้ครับ” ผมเก็บหนังสือและเอกสารต่างๆก่อนจะหันกลับไปมองอีกคนที่กำลังเก็บของอยู่เช่นกัน ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงละสายตาจากเขาไม่ได้เหมือนกับเขาเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้มั่งสำหรับผมที่ขาดไม่ได้เลยแม้แต่วันเดียว ขนาดตอนที่ไม่รู้จักกันแค่ได้เห็นแวบเดียวที่สถานีรถไฟฟ้าก็เหมือนได้เติมเสพเข้าไปแล้ว “อาจารย์ครับอาจารย์จะกลับหรือยัง” “ห่ะ?...อ๋อฟลุ๊คครับๆเดี๋ยวผมจะไปห้องภาคก่อนแล้วก็จะกลับเลยแล้วฟลุ๊คละ” “ผมว่าจะไปห้องสมุดนิดหน่อยพอดีอยากได้หนังสือเกี่ยวกับโครงงานที่อาจารย์สอนนะ” “อ้าวหรอฟลุ๊คไม่เข้าใจอะไรหรือเปล่าถามได้นะ” “ไม่เป็นไรผมอยากลองศึกษาทำด้วยตัวเองบ้าง” “อ๋อ...งั้นเดี๋ยวผมแวะไปหาฟลุ๊คที่ห้องสมุดก็ได้เผื่อจะแนะนำได้บ้างแบบนี้โอเคนะ” “ก็ได้ครับ” เดทในห้องสมุดก็ดีเหมือนกันว่ะดูมีสาระดีผมยิ้มกับตัวเองก่อจะอุ้มกองเอกสารออกไป

                         

          ไม่รู้ว่าการที่ผมวางแผนแบบนี้จะได้ผลหรือเปล่าแต่ก็แอบหวังว่ามันจะได้ผลไม่มากก็น้อยละนะที่ผมทำทีขอตัวแยกออกมาหาหนังสือที่ห้องสมุดเองก็ปกติห้องสมุดมันเป็นที่...ที่เหมาะจะเดทที่สุดนะสำหรับผมแต่ก็ได้แค่หวังแหล่ะว่าเขาจะมาผมค่อยๆไล่ดูรายชื่อหนังสือตามชั้นอย่างใจเย็น ว่าแต่ไอ้หนังสือที่ใช้ในการทำโครงงานมันอยู่ตรงไหนบ้างว่ะเนี้ย “เล่มนี้ซิละเอียดนะ” ผมแอบยิ้มก่อนจะหันไปตามมือของคนที่ยื่นหนังสือมาให้ “ขอบคุณครับ” “หาไปถึงไหนแล้ว” “ยังไม่ได้เลยผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลยไม่รู้จะเริ่มตรงไหน” “งั้นเดี๋ยวผมดูให้...ว่าแต่ห้องสมุดนี่เงียบนะคนไม่ค่อยมี” “เดี๋ยวนี้คนเขาไม่มาหาอะไรในห้องสมุดหรอกแค่เปิดเน็ตก็เจอแล้ว” “นั้นซิ...แล้วทำไมฟลุ๊คยังมาหาในห้องสมุดละ” “ผมว่าการเปิดหนังสือทีละหน้ามันดูจดจำมากกว่าอีกอย่างผมชอบอ่านหนังสือด้วยบวกกับห้องสมุดเนี้ยสงบที่สุดแล้ว” “นั้นซิเราก็ไม่ค่อยมาห้องสมุดซักเท่าไรแต่พอมาก็ดีจริงๆนั้นแหล่ะ” “คิดดูนะถ้ามีแฟนพาแฟนมานั่งอ่านหนังสือใช้เวลาด้วยกันแบบนี้ดีจะตายดูเหมือนมีกันอยู่แค่สองคนด้วย” ผมพูดพล่างมองไปรอบๆ “งั้นแบบนี้ก็เหมือนผมกับคุณมาเดทกันเลยดูซิทั้งห้องเหมือนจะมีเราสองคนเองนะ” “ห่ะ?..พูดอะไรของอาจารย์ครับเนี้ย” ผมรีบหยิบหนังสือก่อนจะเดินไปหาโต๊ะนั่งอ่านทันทีก็ใครมันจะไปทนได้ละก็รู้อยู่แล้วว่าตัวผมเองชอบเขามากแค่ไหนแต่ยิ่งมาเจอแบบนี้ไม่ไหวแน่หัวใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา