ขอโทษครับเมียผมเป็นมาเฟีย
5.7
เขียนโดย zeeto
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.18 น.
5 ตอน
2 วิจารณ์
12.32K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 19.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) เกมส์พลิกชีวิตเลยเป็นเมีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “กันต์วันนี้ฉันแต่งตัวเป็นไงบ้าง” ผมยืนจัดตัวเองอยู่หน้ากระจกก่อนจะหันไปถามอีกคนที่ยืนใส่กระดุมข้อมืออยู่ข้างๆ “ดูดีมากเลยครับ” “ขอให้วันนี้เซนต์สัญญากับมิสเตอร์คริสผ่านซักทีเถอะ” “ครับๆคุณจะได้รีบกลับไทยไปหาสาวๆ” “นายนี่ก็แขวะฉันจังเลยแล้วนายเรียบร้อยหรือยัง” “ครับ” “อืม...พอใส่สูทผูกไทแล้วก็หล่อเหมือนกันนะเนี้ย” “ขอบคุณครับ...เออคุณธีรภัทรครับขออนุญาตนิดหนึ่งนะครับ” “อะไร?” คนพูดขออนุญาตเดินไปหยิบยางมัดผมเส้นเล็กๆสีดำก่อนจะจับผมหมุนหันหลังแล้วจัดการรวบผมเปิดหน้ามัดไปด้านหลัง “ทำอะไรของนายเนี้ย” “ผมว่าเปิดใบหน้าจะดีกว่านะครับเสริมบุคลิกที่ดีด้วย” “เออๆ...เสร็จแล้วใช่ไหมไปกันเถอะ” หลังจากออกมารอที่โรงแรมไม่นานมากนักผมก็เห็นผู้ชายรูปร่างภูมิฐานเดินออกมาจากด้านในพร้อมกับคนที่ดูท่าทางเหมือนบอดิการ์ดด้านข้างอีกหนึ่งคน “สวัสดีครับใช้คุณธีรภัทรหรือเปล่า” อ้าวทำไมพูดไทยได้ว่ะผมได้แต่คิดในใจก่อนจะลุกขึ้นยืน “ใช่ครับ...แล้วนี้มิสเตอร์คริส?” “ครับผมเองมิสเตอร์คริส” “ผมก็คิดว่าพูดภาษาจีนไม่ก็ภาษาอังกฤษเสียอีก” “ฮาๆๆๆ...ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกเชิญนั่งก่อนครับ” หลังจากพูดคุยกันไม่นานพร้อมกับทำการเซนต์สัญญาจนเป็นที่คุรคริสก็รีบขอตัวกลับทันที ผมหันไปยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆก่อนจะชูสัญญาขึ้น “กันต์ฉันทำงานที่ป๊าให้สำเร็จแล้วโว้ยยยยย” “ดีใจด้วยครับ” “แบบนี้ต้องฉลอง” “ฉลอง?” “เออดิไปเถอะหาร้านฉลองกัน” “แต่เดี๋ยวนะครับมันจะดีหรอ” “ดีดิว่ะไปๆเอาใกล้ๆที่พักก็ได้นายจะได้ไม่มีข้ออ้างขับรถไม่ได้เพราะเราเอารถไปเก็บแล้วเดินออกมากันไป” “ก็ได้ครับ”
“ชนนนน....ในที่สุดฉันก็ทำงานสำคัญเสร็จสักที” ใบหน้าที่เริ่มออกสีแดงระเรื่อจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มผมได้แต่ยิ้มในความสุขของคนตรงหน้าก็จะไม่ให้ผมยิ้มได้ไงละถึงแม้มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมายแท้ๆแต่นี้มันก็เหมือนผมมีส่วนร่วมกับความสุขของเขาครั้งนี้ “กันต์นายรู้ไหมตั้งแต่มาจีนวันนี้ฉันเป็นวันที่มีความสุขแบบเต็มที่ที่สุดเลยรู้เปล่า” “ครับคงเพราะคุณทำงานสำเร็จแล้วก็จะได้กลับไทยแล้วใช่ไหมล่ะ” “ห่ะ?...อ๋อใช่” “ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับไม่ดีใจหรอคุณจะได้กลับไทยแล้วนะจะได้ไปเจอสาวๆของคุณไง” “ก็ต้องดีใจดิใช่ๆฉันดีใจ” อะไรของเขาไอ้ท่าทางแบบนั้นดีใจแต่ทำไมเหมือนท่าทางเขาไม่ได้แสดงว่าดีใจเลยแม้แต่น้อย ผมได้แต่มองหน้าคนที่ยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมด “ดื่มช้าๆก็ได้ครับเดี๋ยวก็เมาพอดี” “ไม่เมาหรอกนายก็ดื่มเยอะๆดิมาฉันเทให้” ผมรับแก้วที่ถูกเทให้มาขึ้นดื่มก่อนจะยิ้มให้กับคนที่นิ่งเงียบไป เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมและคุณธีรภัทรพากันเดินออกจากร้านเหล้าก่อน “โอ้ย...Sorry” ท่าจะเมาเข้าจริงๆแล้วละผมพอเดินออกจากร้านมาไม่เท่าไรก็ชนเข้ากับผู้ชายอีกสองคนที่รูปร่างใหญ่กว่าผมพอสมควร “Hey…” เหมือนเรื่องมันจะไม่จบแล้วละผมพยายามที่จะพูดขอโทษผู้ชายทั้งสองคนที่ผมเผลอไปเดินชนเข้าแต่เหมือนกับว่า ผั๊วะ!!!... “โอ้ย...” “กันต์เจ็บตรงไหนไหม” “ไม่เป็นไรครับนิดหน่อย” “นิดหน่อยบ้าอะไรว่ะปากแตกเลือดไหลเยอะขนาดนี้ฟันหักไหมเนี้ย” “ผมว่าพวกเรารีบไปดีกว่าครับท่าทางจะคุยไม่รู้เรื่อง” ผมค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นโดยมีคุณธีรภัทรเข้ามาช่วยพยุงอีก
ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนั้นพูดว่าอะไรแต่ท่าทางที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ดูเหมือนจะยากแล้วสำหรับผมและนายกันต์ทันทีที่ผมพยุงนายกันต์ลุกขึ้นผู้ชายอีกคนก็ถีบนายกันต์กระเด็นล้มลงไปอีก เห็นแบบนี้มันไม่ไหวแล้วโว้ย ถือดียังไงว่ะมาทำร้ายคนของฉัน “หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เจ๊กหัวล้าน” ทันทีที่ผมตะโกนด่ามันออกไปมันก็คงฟังผมไม่รู้เรื่องเช่นกันจึงสวนมัดตรงเข้ามา ฝันไปเถอะพวกรู้จักคนอย่างฉันน้อยไปแล้ว ผมพลิกตัวหลบก่อนจะจับแขนที่ยื่นเข้ามาบิดแล้วจับคนตัวใหญ่กว่าทุ่มลงกับพื้นก่อนจะหันไปจัดการกับอีกคนที่พุ่งเข้ามาใส่เช่นกัน อย่าหวังเลยฉันเตือนพวกนายแล้วนะเมื่อทั้งสองคนถูกผมจัดการจนลงไปนอนคดตัวกับพื้นผมได้แต่ยกมือขึ้นปัดไปมา “บอกแล้วไงอย่าเข้าใกล้คนของผม” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมหันไปมองนายกันที่นั่งชันเข่ามองผมตาปริบๆ
“บอกแล้วไงอย่าเข้าใกล้คนของผม” คำนี้เหมือนจะสะกดสายตาและร่างกายของผมไว้นิ่งใครมันจะไปคิดละว่าผู้ชายหน้าหวานรูปร่างบางๆจะโหดได้ขนาดนี้ ผมได้แต่นั่งมองเหตุการณ์แล้วทำตาปริบๆ นี้มันเรื่องจริงหรอที่คนตัวบางๆจะทุ่มผู้ชายร่างใหญ่สองคนได้อย่างสบาย คงไม่ใช่ว่าผมตาฝาดไปใช่ไหมว่ะไอ้กันต์ “นายโอเคไหม” “ห่ะ?...ครับผมโอเค” “มาฉันช่วย...ดูดิสภาพตัวใหญ่ซ่ะเปล่า” “ก็ปกติผมไม่เคยมีเรื่องกับใครนี่ครับ” “เป็นผู้ชายอย่างน้อยๆมีไว้บ้างก็ดีมาค่อยๆเดินดีนะมีฉันมาด้วยกลับกันเถอะเดี๋ยวฉันทำแผลให้” “ครับ” คุณธีรภัทรค่อยๆพยุงผมมานั่งที่เตียงก่อนจะเดินไปหยิบกล่องยาแล้วมาวางข้างๆผม “ถอดเสื้อออกดิ” “ห่ะ?...ก็เนี้ยฉันจะเช็ดตัวให้ก่อนล้มไปกลิ้งกับพื้นขนาดนั้นเร็วดิ” “ครับ” ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออกแต่ไอ้แขนที่เจ็บตอนล้มลงไปกับพื้นนี้ซิ “โอ้ย.” “มานี้ถอดให้ก็ได้นายนี่มันจริงๆ” คนพูดบ่นไปปลดกระดุมไปใบหน้าที่ค่อยๆก้มลงตามกลิ่นเหล้าอ่อนๆ นี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมผมต้องใจเต้นแรงขึ้นมาด้วยนะ ใจเย็นไว้ไอ้กัน “แล้วเจ็บตรงไหนบ้างเนี้ย...” “....” “กันต์...กันต์” “ครับ” “เป็นอะไรฉันถามว่าเจ็บตรงไหนบ้างจะได้ทำแผลให้” “ก็ด้านหลังแขนแล้วก็ที่ปากนี่แหล่ะครับ” “เอาถอดออกดี” ผมค่อยๆปล่อยให้คุณธีรภัทรถอดเสื้อออกให้ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าชุดน้ำมาค่อยๆเช็ดให้ “จะสะดุ้งทำไมว่ะเจ็บหรือไง” “เปล่าครับแค่ตกใจนิดหน่อย” “ทำเป็นคนพึ่งเคยโดนคนอื่นถูกตัวไปได้” “ก็ใช่นะซิครับ”
หื้อ...นี่ผมหูไม่ฝาดไปใช่ไหมที่บอกว่าพึ่งโดนคนอื่นโดนตัวครั้งแรก ผมชะงักมือก่อนจะจับหน้าอีกคนหันมามอง “มีอะไรหรือเปล่าครับ” “ฮาๆๆๆ...เสียดายหน้าหล่อๆจังนายไม่เคยมีแฟนหรอ” “ก็เคยมีแต่พอดีผมไม่ค่อยมีเวลาเขาคงเบื่อ” “เขาก็เลยไปมีคนใหม่ซินะ...” “ครับ...” “แล้วตอนคบกันปกตินายไม่กอด ไม่จูบหรือไม่มีอะไรกันหรอ” “คุณถามอะไรเนี้ยเรื่องแบบนั้นใครจะไปทำละเขาก็ต้องไว้ทำหลังแต่งงานกันแล้วทั้งนั้นแหล่ะ” “ฮาๆๆๆ...กันต์ฉันไม่รู้จะว่าอะไรนายแล้วไม่แปลกใจเลยทำไมโดนทิ้งอยากได้ผู้หญิงดีขนาดนั้นคงต้องไปรอขอแม่ชีมาทำเมียแล้วละ” “ก็ผมไม่ใช่คุณนี่ครับ” “ช่วยไม่ได้ก็ฉันมันเสน่ห์แรง มาเดี๋ยวทายาให้” ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบยาขึ้นมาทาแผลที่ศอกกับนวดยาแก้ช้ำที่ด้านหลังให้ก่อนจะจัดการกับมุมปากที่แตก ว่าแต่ทำไมไอ้กันต์มันต้องจ้องผมด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ ผมมองหน้าคนที่นั่งนิ่งให้ผมทำแผลให้ “เจ็บไหม” “ไม่ครับ” “ต่อไปนายต้องหัดฝึกวิชาป้องกันตัวไว้บ้างนะขื่นไปเจอพวกแบบเมื่อกี้อีกจะแย่เอา” “ก็ถ้าผมไม่เมาคงไม่เป็นเรื่องหรอกมั่งครับ” “เมา?...นี้นายกินไม่กี่แก้วนายเมาหรอ” “ก็ปกติผมไม่ค่อยดื่มเท่าไร” “นายเนี้ยนะตอนแรกมันก็ดูน่าเบื่อดีหรอกแต่พอมองดีๆนายก็น่ารักดีเหมือนกันนะ...เอาละเสร็จแล้ว” ผมก้มลงไปเก็บอุปกรณ์ทำแผลกำลังจะก้าวเดินเอากล่องยาไปเก็บแต่อยู่ๆ “ทำอะไรของนายเนี้ย” นายกันต์มันเมาหรืออะไรกันแน่ทำไมมันมากอดผมจากด้านหลังแบบนี้ละ แล้วทำไมผมไม่หนีหรือต่อยมันแล้วไอ้เสียงหัวใจทั้งของผมและที่สัมผัสได้ก็คือหัวใจของนายกันต์ก็เช่นกันทำไมมันเต้นแรงแบบนี้
“ทำอะไรของนายเนี้ย” ผมไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆถึงอยากกอดคนตรงหน้าไว้แบบนี้ก็ไม่รู้ “ผมขออยู่แบบนี้ซักพักนะครับ” “กันต์...นี่นายเมาใช่ไหม” “ไม่ครับ...ตอนนี้ผมมีสติดี” “แล้วนายมากอดฉันทำไม” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าผม...” คนถูกกอดค่อยๆแกะมือออกก่อนจะหันหน้ากลับมามองผมช้าๆ “ไปเข้าห้องน้ำก่อนไหม” “ห่ะ?...ทำไมผมต้องไปห้องน้ำด้วย” “ก็น้องชายนายนะ” “เฮ้ย!!!” โถ่ไอ้กันต์เอ้ยยยย...รู้ถึงไหนอายไปถึงนั้นบ้าอะไรว่ะเนี้ยผมรีบปล่อยคนที่กอดก่อนจะเอามือปิดกุมส่วนหน้าอายในตอนนี้ไว้ “อย่ามองซิครับ” “ฮาๆๆๆ...ท่าทางจะอัดอั้นนะให้ฉันช่วยไหม” “คุณธีรภัทรอย่างแกล้งดิ” “ใครแกล้งนี้ฉันพูดจริงๆนะเนี้ย” ผมค่อยๆขยับเดินถอยหลังจนล้มไปนั่งกับเตียงเหมือนตอนนี้กลายเป็นผมหรอที่เป็นคนโดนแกล้งเมื่ออีกคนไม่หยุดวางกล่องยาในมือลงกับพื้นก่อนจะค่อยๆเดินมาค่อมไล่จนผมนอนลงไปกับเตียง “คุณธีรภัทร” “เรียกทำไมหรอ” “คุณจะทำอะไรนะถอยออกไปจากตัวผมเลย” “ก็จะช่วยนายไง...” ไม่มีทางนี้ผมจะโดนผู้ชายปล้ำงั้นหรอแม้เขาจะผมสั้นหน้าหวานน่ารักแต่ไม่ซิอย่างน้อยๆมันต้องไม่ใช่ผมที่ถูกกระทำนะเมื่อคนที่ค่อมอยู่ค่อยๆก้มลงมาจุบที่ริมฝีปากของผมไม่ได้การแล้วไอ้กันต์เอาว่ะ
“เฮ้ยยย....” ใครจะไปคิดว่าคนที่ถูกผมค่อมทับอยู่บนตัวมันจะมีแรกจับผมพลิกกลับมานอนแล้วค่อมอยู่บนตัวผมแทนแบบนี้ละแล้วสายตาจริงจังแบบนั้นหมายความว่าไง “กันต์...อุ๊บ” หมดแล้วสตินี้ผมถูกกระทำงั้นหรอริมฝีปากที่จูบทับลงมาก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือปลดกระดุมเสื้อของผมออกนี่หมายความว่า... แม้ผมจะพยายามขยับเท่าไรไม่รู้ไอ้บ้านี่ไปเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาตรึงผมไว้แน่นขนาดนี้อันนั้นไม่ใช่ประเด็นแต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผมรู้สึกดีที่ถูกกระทำงั้นหรอ เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาร่างหนากว่าที่กอดผมซบไว้กับอกแบบนี้ ใบหน้าที่หลับสนิท เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่... “จ้องผมแบบนั้นทำไมครับ” “นี่นาย...ไม่ได้หลับหรอ” “ก็คุณจ้องผมขนาดนั้นผมก็ต้องตื่นซิ” “ใครจะไปจ้องนาย” “ปากแข็ง...ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม” “ถามมาได้นะ...หงุดหงิดโว้ยทำไมฉันต้องโดนนายทำด้วยว่ะ” “ก็ถูกแล้วนี่ครับ” “ถูกบ้าอะไรนายอ่อนแอร์กว่าฉันแท้ๆแต่นายดันเป็นคนทำ” “ก็ถ้าผมเป็นคนแข็งแรงคุณอาจจะเจ็บกว่านี้ก็ได้นะ” “กันต์...ปากแตกอีกซักรอบดีไหม” “อย่าใจร้ายกับผมเลยนะครับ...” “แล้วไหนบอกว่าเรื่องแบบนี้ทำกับคนที่แต่งงานแล้วว่ะ” “ก็คุณยั่วผมเอง” “ไอ้คนกระล่อนเอ้ย...” “เอาเถอะครับผมรับผิดชอบอยู่แล้วแต่จากนี้ไปผมคงไม่ให้คุณไปหาสาวๆแน่ๆ” “รับผิดชอบ?...” “ครับผมจะกลับไทยพร้อมคุณแล้วจะสู่ขอคุณกับท่าน” “ห่ะ?...เดี๋ยวนะนี้ตกลงฉันเป็นเมียหรอ” “ถึงขนาดนี้แล้วจะเป็นอะไรได้อีกครับ” “หมดกันชีวิตหนุ่มเจ้าสำราญของฉัน” “ตกลงนะครับคุณธีรภัทร” “เออก็ได้...แต่มีข้อแม้” “ข้อแม้?” “ใช่..ต่อจากนี้เรียกฉันว่าฟลุ๊คได้แล้วฟังนายเรียกฉันว่าคุณ คุณ ทีไรหงุดหงิดน่าเบื่อ” “งั้นถ้าผมเรียกคุณว่าฟลุ๊คก็ไม่เบื่อแล้วซิครับ” “ก็ไม่รู้..เอาเป็นว่าตามนี้แล้วกัน” “ครับ...ฟลุ๊ค” “โอ้ยฉันเกลียดเสียงสองนายจริงๆเลย” ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมก่อนจะคดตัวซุกหลับในอ้อมแขนของอีกคนไป “ฝันดีนะครับฟลุ๊ค” ริมฝีปากที่จูบหน้าผากเสียงอ่อนนุ่ม มือที่กอดผมเอาไว้ตกลงนี้ผมแพ้ผู้ชายน่าเบื่อคนนี้จริงๆแล้วซินะ ทีเหลือคงต้องไปเคลียร์กับป๊าที่ไทยแล้วละ จะบอกป๊ายังไงดีว่ะว่าตอนนี้ผมกลายเป็นเมียไปแล้ว โถ่เอ้ยยยยย....
“ชนนนน....ในที่สุดฉันก็ทำงานสำคัญเสร็จสักที” ใบหน้าที่เริ่มออกสีแดงระเรื่อจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มผมได้แต่ยิ้มในความสุขของคนตรงหน้าก็จะไม่ให้ผมยิ้มได้ไงละถึงแม้มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมายแท้ๆแต่นี้มันก็เหมือนผมมีส่วนร่วมกับความสุขของเขาครั้งนี้ “กันต์นายรู้ไหมตั้งแต่มาจีนวันนี้ฉันเป็นวันที่มีความสุขแบบเต็มที่ที่สุดเลยรู้เปล่า” “ครับคงเพราะคุณทำงานสำเร็จแล้วก็จะได้กลับไทยแล้วใช่ไหมล่ะ” “ห่ะ?...อ๋อใช่” “ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับไม่ดีใจหรอคุณจะได้กลับไทยแล้วนะจะได้ไปเจอสาวๆของคุณไง” “ก็ต้องดีใจดิใช่ๆฉันดีใจ” อะไรของเขาไอ้ท่าทางแบบนั้นดีใจแต่ทำไมเหมือนท่าทางเขาไม่ได้แสดงว่าดีใจเลยแม้แต่น้อย ผมได้แต่มองหน้าคนที่ยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมด “ดื่มช้าๆก็ได้ครับเดี๋ยวก็เมาพอดี” “ไม่เมาหรอกนายก็ดื่มเยอะๆดิมาฉันเทให้” ผมรับแก้วที่ถูกเทให้มาขึ้นดื่มก่อนจะยิ้มให้กับคนที่นิ่งเงียบไป เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมและคุณธีรภัทรพากันเดินออกจากร้านเหล้าก่อน “โอ้ย...Sorry” ท่าจะเมาเข้าจริงๆแล้วละผมพอเดินออกจากร้านมาไม่เท่าไรก็ชนเข้ากับผู้ชายอีกสองคนที่รูปร่างใหญ่กว่าผมพอสมควร “Hey…” เหมือนเรื่องมันจะไม่จบแล้วละผมพยายามที่จะพูดขอโทษผู้ชายทั้งสองคนที่ผมเผลอไปเดินชนเข้าแต่เหมือนกับว่า ผั๊วะ!!!... “โอ้ย...” “กันต์เจ็บตรงไหนไหม” “ไม่เป็นไรครับนิดหน่อย” “นิดหน่อยบ้าอะไรว่ะปากแตกเลือดไหลเยอะขนาดนี้ฟันหักไหมเนี้ย” “ผมว่าพวกเรารีบไปดีกว่าครับท่าทางจะคุยไม่รู้เรื่อง” ผมค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นโดยมีคุณธีรภัทรเข้ามาช่วยพยุงอีก
ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนั้นพูดว่าอะไรแต่ท่าทางที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ดูเหมือนจะยากแล้วสำหรับผมและนายกันต์ทันทีที่ผมพยุงนายกันต์ลุกขึ้นผู้ชายอีกคนก็ถีบนายกันต์กระเด็นล้มลงไปอีก เห็นแบบนี้มันไม่ไหวแล้วโว้ย ถือดียังไงว่ะมาทำร้ายคนของฉัน “หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เจ๊กหัวล้าน” ทันทีที่ผมตะโกนด่ามันออกไปมันก็คงฟังผมไม่รู้เรื่องเช่นกันจึงสวนมัดตรงเข้ามา ฝันไปเถอะพวกรู้จักคนอย่างฉันน้อยไปแล้ว ผมพลิกตัวหลบก่อนจะจับแขนที่ยื่นเข้ามาบิดแล้วจับคนตัวใหญ่กว่าทุ่มลงกับพื้นก่อนจะหันไปจัดการกับอีกคนที่พุ่งเข้ามาใส่เช่นกัน อย่าหวังเลยฉันเตือนพวกนายแล้วนะเมื่อทั้งสองคนถูกผมจัดการจนลงไปนอนคดตัวกับพื้นผมได้แต่ยกมือขึ้นปัดไปมา “บอกแล้วไงอย่าเข้าใกล้คนของผม” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมหันไปมองนายกันที่นั่งชันเข่ามองผมตาปริบๆ
“บอกแล้วไงอย่าเข้าใกล้คนของผม” คำนี้เหมือนจะสะกดสายตาและร่างกายของผมไว้นิ่งใครมันจะไปคิดละว่าผู้ชายหน้าหวานรูปร่างบางๆจะโหดได้ขนาดนี้ ผมได้แต่นั่งมองเหตุการณ์แล้วทำตาปริบๆ นี้มันเรื่องจริงหรอที่คนตัวบางๆจะทุ่มผู้ชายร่างใหญ่สองคนได้อย่างสบาย คงไม่ใช่ว่าผมตาฝาดไปใช่ไหมว่ะไอ้กันต์ “นายโอเคไหม” “ห่ะ?...ครับผมโอเค” “มาฉันช่วย...ดูดิสภาพตัวใหญ่ซ่ะเปล่า” “ก็ปกติผมไม่เคยมีเรื่องกับใครนี่ครับ” “เป็นผู้ชายอย่างน้อยๆมีไว้บ้างก็ดีมาค่อยๆเดินดีนะมีฉันมาด้วยกลับกันเถอะเดี๋ยวฉันทำแผลให้” “ครับ” คุณธีรภัทรค่อยๆพยุงผมมานั่งที่เตียงก่อนจะเดินไปหยิบกล่องยาแล้วมาวางข้างๆผม “ถอดเสื้อออกดิ” “ห่ะ?...ก็เนี้ยฉันจะเช็ดตัวให้ก่อนล้มไปกลิ้งกับพื้นขนาดนั้นเร็วดิ” “ครับ” ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออกแต่ไอ้แขนที่เจ็บตอนล้มลงไปกับพื้นนี้ซิ “โอ้ย.” “มานี้ถอดให้ก็ได้นายนี่มันจริงๆ” คนพูดบ่นไปปลดกระดุมไปใบหน้าที่ค่อยๆก้มลงตามกลิ่นเหล้าอ่อนๆ นี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมผมต้องใจเต้นแรงขึ้นมาด้วยนะ ใจเย็นไว้ไอ้กัน “แล้วเจ็บตรงไหนบ้างเนี้ย...” “....” “กันต์...กันต์” “ครับ” “เป็นอะไรฉันถามว่าเจ็บตรงไหนบ้างจะได้ทำแผลให้” “ก็ด้านหลังแขนแล้วก็ที่ปากนี่แหล่ะครับ” “เอาถอดออกดี” ผมค่อยๆปล่อยให้คุณธีรภัทรถอดเสื้อออกให้ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าชุดน้ำมาค่อยๆเช็ดให้ “จะสะดุ้งทำไมว่ะเจ็บหรือไง” “เปล่าครับแค่ตกใจนิดหน่อย” “ทำเป็นคนพึ่งเคยโดนคนอื่นถูกตัวไปได้” “ก็ใช่นะซิครับ”
หื้อ...นี่ผมหูไม่ฝาดไปใช่ไหมที่บอกว่าพึ่งโดนคนอื่นโดนตัวครั้งแรก ผมชะงักมือก่อนจะจับหน้าอีกคนหันมามอง “มีอะไรหรือเปล่าครับ” “ฮาๆๆๆ...เสียดายหน้าหล่อๆจังนายไม่เคยมีแฟนหรอ” “ก็เคยมีแต่พอดีผมไม่ค่อยมีเวลาเขาคงเบื่อ” “เขาก็เลยไปมีคนใหม่ซินะ...” “ครับ...” “แล้วตอนคบกันปกตินายไม่กอด ไม่จูบหรือไม่มีอะไรกันหรอ” “คุณถามอะไรเนี้ยเรื่องแบบนั้นใครจะไปทำละเขาก็ต้องไว้ทำหลังแต่งงานกันแล้วทั้งนั้นแหล่ะ” “ฮาๆๆๆ...กันต์ฉันไม่รู้จะว่าอะไรนายแล้วไม่แปลกใจเลยทำไมโดนทิ้งอยากได้ผู้หญิงดีขนาดนั้นคงต้องไปรอขอแม่ชีมาทำเมียแล้วละ” “ก็ผมไม่ใช่คุณนี่ครับ” “ช่วยไม่ได้ก็ฉันมันเสน่ห์แรง มาเดี๋ยวทายาให้” ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบยาขึ้นมาทาแผลที่ศอกกับนวดยาแก้ช้ำที่ด้านหลังให้ก่อนจะจัดการกับมุมปากที่แตก ว่าแต่ทำไมไอ้กันต์มันต้องจ้องผมด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ ผมมองหน้าคนที่นั่งนิ่งให้ผมทำแผลให้ “เจ็บไหม” “ไม่ครับ” “ต่อไปนายต้องหัดฝึกวิชาป้องกันตัวไว้บ้างนะขื่นไปเจอพวกแบบเมื่อกี้อีกจะแย่เอา” “ก็ถ้าผมไม่เมาคงไม่เป็นเรื่องหรอกมั่งครับ” “เมา?...นี้นายกินไม่กี่แก้วนายเมาหรอ” “ก็ปกติผมไม่ค่อยดื่มเท่าไร” “นายเนี้ยนะตอนแรกมันก็ดูน่าเบื่อดีหรอกแต่พอมองดีๆนายก็น่ารักดีเหมือนกันนะ...เอาละเสร็จแล้ว” ผมก้มลงไปเก็บอุปกรณ์ทำแผลกำลังจะก้าวเดินเอากล่องยาไปเก็บแต่อยู่ๆ “ทำอะไรของนายเนี้ย” นายกันต์มันเมาหรืออะไรกันแน่ทำไมมันมากอดผมจากด้านหลังแบบนี้ละ แล้วทำไมผมไม่หนีหรือต่อยมันแล้วไอ้เสียงหัวใจทั้งของผมและที่สัมผัสได้ก็คือหัวใจของนายกันต์ก็เช่นกันทำไมมันเต้นแรงแบบนี้
“ทำอะไรของนายเนี้ย” ผมไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆถึงอยากกอดคนตรงหน้าไว้แบบนี้ก็ไม่รู้ “ผมขออยู่แบบนี้ซักพักนะครับ” “กันต์...นี่นายเมาใช่ไหม” “ไม่ครับ...ตอนนี้ผมมีสติดี” “แล้วนายมากอดฉันทำไม” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าผม...” คนถูกกอดค่อยๆแกะมือออกก่อนจะหันหน้ากลับมามองผมช้าๆ “ไปเข้าห้องน้ำก่อนไหม” “ห่ะ?...ทำไมผมต้องไปห้องน้ำด้วย” “ก็น้องชายนายนะ” “เฮ้ย!!!” โถ่ไอ้กันต์เอ้ยยยย...รู้ถึงไหนอายไปถึงนั้นบ้าอะไรว่ะเนี้ยผมรีบปล่อยคนที่กอดก่อนจะเอามือปิดกุมส่วนหน้าอายในตอนนี้ไว้ “อย่ามองซิครับ” “ฮาๆๆๆ...ท่าทางจะอัดอั้นนะให้ฉันช่วยไหม” “คุณธีรภัทรอย่างแกล้งดิ” “ใครแกล้งนี้ฉันพูดจริงๆนะเนี้ย” ผมค่อยๆขยับเดินถอยหลังจนล้มไปนั่งกับเตียงเหมือนตอนนี้กลายเป็นผมหรอที่เป็นคนโดนแกล้งเมื่ออีกคนไม่หยุดวางกล่องยาในมือลงกับพื้นก่อนจะค่อยๆเดินมาค่อมไล่จนผมนอนลงไปกับเตียง “คุณธีรภัทร” “เรียกทำไมหรอ” “คุณจะทำอะไรนะถอยออกไปจากตัวผมเลย” “ก็จะช่วยนายไง...” ไม่มีทางนี้ผมจะโดนผู้ชายปล้ำงั้นหรอแม้เขาจะผมสั้นหน้าหวานน่ารักแต่ไม่ซิอย่างน้อยๆมันต้องไม่ใช่ผมที่ถูกกระทำนะเมื่อคนที่ค่อมอยู่ค่อยๆก้มลงมาจุบที่ริมฝีปากของผมไม่ได้การแล้วไอ้กันต์เอาว่ะ
“เฮ้ยยย....” ใครจะไปคิดว่าคนที่ถูกผมค่อมทับอยู่บนตัวมันจะมีแรกจับผมพลิกกลับมานอนแล้วค่อมอยู่บนตัวผมแทนแบบนี้ละแล้วสายตาจริงจังแบบนั้นหมายความว่าไง “กันต์...อุ๊บ” หมดแล้วสตินี้ผมถูกกระทำงั้นหรอริมฝีปากที่จูบทับลงมาก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือปลดกระดุมเสื้อของผมออกนี่หมายความว่า... แม้ผมจะพยายามขยับเท่าไรไม่รู้ไอ้บ้านี่ไปเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาตรึงผมไว้แน่นขนาดนี้อันนั้นไม่ใช่ประเด็นแต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผมรู้สึกดีที่ถูกกระทำงั้นหรอ เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาร่างหนากว่าที่กอดผมซบไว้กับอกแบบนี้ ใบหน้าที่หลับสนิท เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่... “จ้องผมแบบนั้นทำไมครับ” “นี่นาย...ไม่ได้หลับหรอ” “ก็คุณจ้องผมขนาดนั้นผมก็ต้องตื่นซิ” “ใครจะไปจ้องนาย” “ปากแข็ง...ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม” “ถามมาได้นะ...หงุดหงิดโว้ยทำไมฉันต้องโดนนายทำด้วยว่ะ” “ก็ถูกแล้วนี่ครับ” “ถูกบ้าอะไรนายอ่อนแอร์กว่าฉันแท้ๆแต่นายดันเป็นคนทำ” “ก็ถ้าผมเป็นคนแข็งแรงคุณอาจจะเจ็บกว่านี้ก็ได้นะ” “กันต์...ปากแตกอีกซักรอบดีไหม” “อย่าใจร้ายกับผมเลยนะครับ...” “แล้วไหนบอกว่าเรื่องแบบนี้ทำกับคนที่แต่งงานแล้วว่ะ” “ก็คุณยั่วผมเอง” “ไอ้คนกระล่อนเอ้ย...” “เอาเถอะครับผมรับผิดชอบอยู่แล้วแต่จากนี้ไปผมคงไม่ให้คุณไปหาสาวๆแน่ๆ” “รับผิดชอบ?...” “ครับผมจะกลับไทยพร้อมคุณแล้วจะสู่ขอคุณกับท่าน” “ห่ะ?...เดี๋ยวนะนี้ตกลงฉันเป็นเมียหรอ” “ถึงขนาดนี้แล้วจะเป็นอะไรได้อีกครับ” “หมดกันชีวิตหนุ่มเจ้าสำราญของฉัน” “ตกลงนะครับคุณธีรภัทร” “เออก็ได้...แต่มีข้อแม้” “ข้อแม้?” “ใช่..ต่อจากนี้เรียกฉันว่าฟลุ๊คได้แล้วฟังนายเรียกฉันว่าคุณ คุณ ทีไรหงุดหงิดน่าเบื่อ” “งั้นถ้าผมเรียกคุณว่าฟลุ๊คก็ไม่เบื่อแล้วซิครับ” “ก็ไม่รู้..เอาเป็นว่าตามนี้แล้วกัน” “ครับ...ฟลุ๊ค” “โอ้ยฉันเกลียดเสียงสองนายจริงๆเลย” ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมก่อนจะคดตัวซุกหลับในอ้อมแขนของอีกคนไป “ฝันดีนะครับฟลุ๊ค” ริมฝีปากที่จูบหน้าผากเสียงอ่อนนุ่ม มือที่กอดผมเอาไว้ตกลงนี้ผมแพ้ผู้ชายน่าเบื่อคนนี้จริงๆแล้วซินะ ทีเหลือคงต้องไปเคลียร์กับป๊าที่ไทยแล้วละ จะบอกป๊ายังไงดีว่ะว่าตอนนี้ผมกลายเป็นเมียไปแล้ว โถ่เอ้ยยยยย....
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ