คาปูชิโน่ร้อน
7.3
เขียนโดย ผงกาแฟ
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.14 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
5,736 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2560 18.54 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ความมั่นใจของคาปูชิโน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ความมั่นใจของคาปูชิโน
เรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่คาปูชิโนเจอมากับตัว ย้อนไปประมาณ2-3 ที่แล้ว ผมได้มีโอกาสเป็นตัวโรงเรียนไปแข่งกีฬา เกี่ยวอะไรกับความมั่นใจ ผมเองลงกีฬาไปประเภทหนึ่ง ตัวผมเองผมว่ากีฬานี้เป็นกีฬาที่ผมถนัดที่สุดนะครับ แต่พอไปซ้อมมันก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมากเพราะผมไม่เคยลงแข่งไม่เคยเล่นเป็นทีม มันก็มีตื่นเต้นนิดหน่อย(คงไม่นิดหน่อยหรอกม๊างงงง) ครูที่คุมการซ้อมหรือซ้อมให้ดุมากกกกกก ใครหลายคงก็กลัวจนผมเองก็กลัว เขาจริงจังกับการซ้อมมาก และพวกผมที่ลงตัวจริงก็ซ้อมหนักและโดนด่าบ่อยมาก เขาดุจนผมกดดันตัวเองแล้วผมถ้าโดนกดดันจะทำมันออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนมาวันแข่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการซ้อม พวกผมรอวันนี้มานานมาก จนลงสนามแข่ง ผมได้เลือกให้เป็นกัปตันทีม ไม่รู้ทำไมถึงโดนเป็นทั้งๆที่เพื่อนอีกคนได้คำชมเยอะกว่า
.
เริ่มการแข่งขัน พวกผมด้วยความที่ใหม่ก็เกร็งกดดันและครูผู้ซ้อมก็ตะโกนกดดันตลอดเวลาจนพวกผมเกร็งยิ่งกว่าเดิมและคนที่โดนด่ามาที่สุดคือ ผม(คาปูชิโน) ในการเล่นครั้งต่อมาผมเลยตั้งสติ และทำคะแนนให้ทีมไปเยอะอยู่ ตัวผมเองก็ไม่ได้เล่นเก่งแต่รู้สึกว่าวันนั้น ผมทำดีที่สุด แต่สุกท้ายก็แพ้ ผมโดนครูด่านานมาก จนผมท้อ และเครียดนานมากผมหาทางออกและคำตอบของการที่ผมโดนด่าโดนว่า ว่าทำไมผมถึงโดนคนเดียว จนสุดท้ายผมไม่รู้หรอกว่าคำตอบที่ผมได้มันเป็นคำตอบที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าใช่คำตอบที่ถูกหรือเปล่า แต่ผมว่าน่าจะเป็นคำตอบทำให้ผมหายเครียดไปได้ คำตอบที่ผมคิดได้คือ ผมเป็นคนที่เล่นได้ห่วยเองจึงทำให้โดนว่า คำตอบนี้เป็นคำตอบสุดท้ายที่คิดได้จริงๆ ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นคำตอบเพื่อไปสู่ทางที่ดีที่สุด แต่...
ต่อมาไม่นานผมรู้สึกว่าตัวเองเก็บตัว ไม่กล้าแสดงความสามารถใดๆที่ตนมี มีงานอะไรมาที่ตนสามารถทำได้ผมก็ปฏิเสธและปิดกั้นตัวเองเพราะผมคิดว่าผมทำไม่ได้หรือทำไม่ดี จะทำให้งานเขาเสีย ผมปิดกั้นตัวเองอยู่นานมาก จนผมได้มาไปคุยกับพี่คนหนึ่ง คุยถามสาระทุกข์สุกดิบอยู่นานเขาก็ถามผมขึ้นมาว่า"ทำไมไม่สมัครแข่งงานนี้ล่ะ พี่เห็นเราเล่นเก่งนิ" ผมก็บอกไปว่า ผมเล่นขำๆไม่ได้จริงจังอะไรแล้วผมก็ไม่ได้เล่นเก่งด้วย เขาก็พูดชมผมอยู่นานเพราะอากให้ผมลง จนเขาถามมาอีกว่า"มีปัญหาหรืออัคติอะไรกับงานนี้หรือเปล่า" ผมเลยตอบพี่เขาไปตรงๆ ผมเล่าเรื่องที่ผมเจอกับงานนี้ให้พี่เขาฟัง แล้วผมก็บอกว่า ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยปิดกั้นตัวเองผมมว่าผมทำไมได้ทำไม่ดี ทำไปคงอายเขาแย่ พี่เขาบอกมาประโยคหนึ่งซึ้งมันเป็นหลักที่ผมเอามาใช้จนถึงทุกวันนี้ "เอาชนะความกลัวด้วยการเผญิลหน้ากับมันสิ เราจะไปแคร์อะไรกับคำที่คนอื่นมอง คนอื่นพูดตัว เราเองเรารู้ดีที่สุดว่าเราเป็นยังไง แค่เรามีความสุขในตอนที่เราเล่นเราทำมัน ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ส่วนคนอื่นก็ปล่อยมันทิ้งไป" ผมก็มานั่งคิดผมก็ว่า เออ! นี่มันชีวิตเรานี่หว่า ใครคนอื่นก็ปล่อยเขาไปทำชีวิตเราให้ดีก็พอแล้ว
Happy in your LIFE
เรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่คาปูชิโนเจอมากับตัว ย้อนไปประมาณ2-3 ที่แล้ว ผมได้มีโอกาสเป็นตัวโรงเรียนไปแข่งกีฬา เกี่ยวอะไรกับความมั่นใจ ผมเองลงกีฬาไปประเภทหนึ่ง ตัวผมเองผมว่ากีฬานี้เป็นกีฬาที่ผมถนัดที่สุดนะครับ แต่พอไปซ้อมมันก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมากเพราะผมไม่เคยลงแข่งไม่เคยเล่นเป็นทีม มันก็มีตื่นเต้นนิดหน่อย(คงไม่นิดหน่อยหรอกม๊างงงง) ครูที่คุมการซ้อมหรือซ้อมให้ดุมากกกกกก ใครหลายคงก็กลัวจนผมเองก็กลัว เขาจริงจังกับการซ้อมมาก และพวกผมที่ลงตัวจริงก็ซ้อมหนักและโดนด่าบ่อยมาก เขาดุจนผมกดดันตัวเองแล้วผมถ้าโดนกดดันจะทำมันออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนมาวันแข่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการซ้อม พวกผมรอวันนี้มานานมาก จนลงสนามแข่ง ผมได้เลือกให้เป็นกัปตันทีม ไม่รู้ทำไมถึงโดนเป็นทั้งๆที่เพื่อนอีกคนได้คำชมเยอะกว่า
.
เริ่มการแข่งขัน พวกผมด้วยความที่ใหม่ก็เกร็งกดดันและครูผู้ซ้อมก็ตะโกนกดดันตลอดเวลาจนพวกผมเกร็งยิ่งกว่าเดิมและคนที่โดนด่ามาที่สุดคือ ผม(คาปูชิโน) ในการเล่นครั้งต่อมาผมเลยตั้งสติ และทำคะแนนให้ทีมไปเยอะอยู่ ตัวผมเองก็ไม่ได้เล่นเก่งแต่รู้สึกว่าวันนั้น ผมทำดีที่สุด แต่สุกท้ายก็แพ้ ผมโดนครูด่านานมาก จนผมท้อ และเครียดนานมากผมหาทางออกและคำตอบของการที่ผมโดนด่าโดนว่า ว่าทำไมผมถึงโดนคนเดียว จนสุดท้ายผมไม่รู้หรอกว่าคำตอบที่ผมได้มันเป็นคำตอบที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าใช่คำตอบที่ถูกหรือเปล่า แต่ผมว่าน่าจะเป็นคำตอบทำให้ผมหายเครียดไปได้ คำตอบที่ผมคิดได้คือ ผมเป็นคนที่เล่นได้ห่วยเองจึงทำให้โดนว่า คำตอบนี้เป็นคำตอบสุดท้ายที่คิดได้จริงๆ ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นคำตอบเพื่อไปสู่ทางที่ดีที่สุด แต่...
ต่อมาไม่นานผมรู้สึกว่าตัวเองเก็บตัว ไม่กล้าแสดงความสามารถใดๆที่ตนมี มีงานอะไรมาที่ตนสามารถทำได้ผมก็ปฏิเสธและปิดกั้นตัวเองเพราะผมคิดว่าผมทำไม่ได้หรือทำไม่ดี จะทำให้งานเขาเสีย ผมปิดกั้นตัวเองอยู่นานมาก จนผมได้มาไปคุยกับพี่คนหนึ่ง คุยถามสาระทุกข์สุกดิบอยู่นานเขาก็ถามผมขึ้นมาว่า"ทำไมไม่สมัครแข่งงานนี้ล่ะ พี่เห็นเราเล่นเก่งนิ" ผมก็บอกไปว่า ผมเล่นขำๆไม่ได้จริงจังอะไรแล้วผมก็ไม่ได้เล่นเก่งด้วย เขาก็พูดชมผมอยู่นานเพราะอากให้ผมลง จนเขาถามมาอีกว่า"มีปัญหาหรืออัคติอะไรกับงานนี้หรือเปล่า" ผมเลยตอบพี่เขาไปตรงๆ ผมเล่าเรื่องที่ผมเจอกับงานนี้ให้พี่เขาฟัง แล้วผมก็บอกว่า ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยปิดกั้นตัวเองผมมว่าผมทำไมได้ทำไม่ดี ทำไปคงอายเขาแย่ พี่เขาบอกมาประโยคหนึ่งซึ้งมันเป็นหลักที่ผมเอามาใช้จนถึงทุกวันนี้ "เอาชนะความกลัวด้วยการเผญิลหน้ากับมันสิ เราจะไปแคร์อะไรกับคำที่คนอื่นมอง คนอื่นพูดตัว เราเองเรารู้ดีที่สุดว่าเราเป็นยังไง แค่เรามีความสุขในตอนที่เราเล่นเราทำมัน ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ส่วนคนอื่นก็ปล่อยมันทิ้งไป" ผมก็มานั่งคิดผมก็ว่า เออ! นี่มันชีวิตเรานี่หว่า ใครคนอื่นก็ปล่อยเขาไปทำชีวิตเราให้ดีก็พอแล้ว
Happy in your LIFE
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ