ผมเอง

9.3

เขียนโดย kaihin

วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.35 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,343 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) No Hope For The Plan

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เมื่อน้องสาวผมตัดสายทิ้งไปผมก็รีบเก็บโทรศัพท์เเล้วบิดต่อด้วยความเร็วที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันเร็วเเค่ไหนเป็นครั้งที่สอง ปัง ปัง ปัง

          โห้ พลุ สวยจังว่ะ มีงานอะไรเนี่ย ผมไม่ได้เห็นพลุสวยๆเเบบนี้มานานพอสมควร จำได้ว่าล่าสุดที่เห็นก็น่าจะเมื่อตอนที่บียังเล็กๆอยู่เลย ช่วงนั้นก็น่าจะเป็นช่วงเดียวกับตอนนี้เเหละมั้งพ่อกับเเม่พาผมไปที่ทะเลเเห่งหนึ่ง ที่นั้นจัดงานประจำปีเเละมีการจุดพลุสวยๆไม่รู้กี่ร้อยเเสงวาบๆ สว่างบนท้องฟ้าที่ผมเห็น พอผมก้มหน้าลงจากการมองพลุ เอ้าเรามาหยุดอยู่หน้ามินิโลตัสทำไหมกันนะ จะว่ามาซื้อของก็... เอ๊ะเราจะมาซื้ออะไรเเต่ถึงผมจะไม่รู้ว่าผมมาซื้ออะไรผมก็เดินเข้ามาในมินิโลตัสเรียบร้อยเเล้ว ผมเดินดูของเรื่อยเปื่อยจนลืมไปเลยนี่ผมจะมาเมานะเนี่ย ผมกำลังจะเดินออกจากมินิโลตัสเเต่ดันเหลือบไปเห็นคุกกี้กล่องหนึ่งลายกล่อยน่ารักดี เป็นรูปเเมว สีขาว สีน้ำตาลเเละอื่นๆ ผมเลยเกิดไอเดียว่าจะซื้อคุกกี้ไปฝากน้องเป็นการไถ่โทษที่ลืมนัดเเล้วกัน ยิ่งเจอกล่องลายเเมวไปด้วย ใจละลายไปเลยเพราะน้องผมคลั่งเเมวเข้าเส้นเลยล่ะ ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่เค้าเตอร์ผมก็รู้สึกเจ็บเเปล๊บๆขึ้นมาที่ คอ หลัง เเละเเขน ขา นี่อาจจะเป็นผลกระทบจาการที่ผมต้องตะลอนๆเดินไกลเเบกเครื่องนวดไปตามบ้านเป็นเวลา 11เดือน ผมชักรู้สึกว่าถ้าพรุ่งนี้ผมจะมาเมาใหม่ก็ไม่เลว วันนี้กลับไปพักให้เต็มที่ก่อนเเล้วพรุ่งนี้ตั้งใจออกมาเมาใหม่ก็คงไม่สายไป

ผมเลยตัดสินใจฝืนเดินอย่างกระฉับกระเฉงเดินไปจ่ายเงินเเละตั้งใจจะกลับบ้านไปพัก ผมวางคุกกี้กล่องนั้นลงที่เค้าเตอร์จ่ายเงิน ผมสังเกตุเห็นเเววตาพนักงานที่มองออกไปข้างนอกประตูเปิดปิดอัตโนมัติอย่างเหม่อลอยเเละดูเศร้า เเต่คือในเวลางานควรสนใจลูกค้าก่อนไม่ใช่หรือ ผมเรียกน้องพนักงานให้รู้สึกตัวว่ามีลูกค้าเข้าคิวจ่ายเงินอยู่ พนักงานหันมาเเละหยิบขนม 3 4 ซองที่เด็กข้างหลังผมวางไว้ที่เค้าเตอร์ ในใจผมก็คิด ถึงเเม้จะเป็นเด็กก็น่าจะคิดเงินตามคิวซิ ผมมาก่อนเเต่อีกใจก็คิดว่า พนักงานคงจะสงสารเด็กมั้งหรือไม่ก็คิดว่าผมคงเป็นคนดีเสียสละให้เด็กก่อนได้ ระหว่างที่พนักงานหยิบถุงขนมถุงที่สองสเเกนบาร์โค้ชผมก็รู้สึกเจ็บจี๊ดจนเหมือนจะทนไม่ไหวขึ้นมา ผมเลยตัดสินใจวางคุกกี้ลงเเละเดินกะเพลกเพื่อที่จะไปเอารถเเละรีบกลับบ้าน ผมสงสัยว่าผมคงจะเป็นหนักจริงๆ หลังกับคอน่าจะเคล็ดหนักมากจริงๆ กล้ามเนื้อเเขนขาก็ดูจะหมดเเรงตามๆกันไป 

          อ้าว รถผมล่ะ ... เอ๊ะคนเขามุงดูอะไรกันน่ะ อุบัติเหตุชัวร์ ไทยมุงตามสูตร เห้ยเดี๋ยวรถผม ผมค่อยๆเดินผ่านฝูงชนที่มุงดูอย่าหน่าเเน่นเข้าไปที่ละนิด อืมมมม ชัดเจน รถผมถูกไอ้หมอนี่สอยไปกินซะเละ ตัวไอ้หนุ่มเองก็เละไม่มีชิ้นดีเหมือนกัน อวัยวะขาดกระจุยกระจายเต็มถนน ผมกำลังจะถอยกลับมาเพื่อโทรหาประกัน อ้าวเห้ย โทรศัพท์อยู่ไหนว่ะเนี่ย คนยิ่งปวดๆตัวอยู่ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับผมเริ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆจนผมอยากจะรีบกลับไปนอนใจจะขาดอยู่เเล้ว ระหว่างที่ผมกำลังคลำๆหาโทรศัพท์อยู่ ผมก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเเละร้องไห้ปานจะขาดใจจากผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงนั้นดูคุ้นๆหู ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง... บี! บีเป็นอะไร มาที่นี่ทำไม

บี: เเล้วบีจะอยู่กลับใคร ฮือๆ 

น้องสาวผมร้องไห้เหมือนเธอจะหมดลมหายใจตามไอ้หนุ่มนั่นไป ผมเดาว่าอาจจะเป็นเเฟนบี ไม่สิ เเฟนบีอย่างเเน่นอน 

บอย:ไม่เป็นไรนะบี มาหาพี่นี่ อย่าร้องนะบี

ผมกำลังจะเข้าไปโอบกอดน้องสาวผมเเต่จู่ๆตำรวจก็เข้ามากันตัวน้องสาวออกไปนอกที่เกิดเหตุ เเละทีมกู้ภัย พยาบาลก็ลงกันมาจากรถหยิบชิ้นส่วนต่างๆห่อใส่ผ้าขาวเเละมัดไว้

           ผมกำลังจะเดินออกไปหาบีเเต่เเล้วก็เตะเข้ากับวัตถุกลมๆสิ่งหนึ่งเเล้วภาพทุกอย่างก็ตัดไปสีขาว สีดำสลับกันเเละบางครั้งก็เป็นสีรุ้งเหมือนกับในการ์ตูนสมัยเด็กที่ผมเคยดู คล้ายๆกับการนั่งไทม์เเมชชีนไปที่ไหนสักเเห่งเเล้วตอนนี้ผมก็เห็นเเสงสีขาววาบๆอยู่ข้างหน้าผม เเสงค่อยๆจางเเละในที่สุดก็ชัดขึ้นปรากฎเป็นภาพผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะยังเป็นวัยรุ่นอยู่กำลังขี่มอเตอร์ไซต์มาด้วยความเร็วทันใดนั้นทางโค้งที่ผู้ชายคนนั้นกำลังขี่ผ่านก็มีรถพ่วงสิบเเปดล้อวิ่งสวนทางมาพอดี ผู้ชายที่ขี่มาด้วยความเร็วเลี้ยวโค้งนั้นเบรคไม่อยู่เสียหลักพุ่งชนประสานงากับรถพ่วงสิบเเปดล้อเข้าอย่างจัง ร่างของเขากระเด็นกระดอนเเยกจากกันไปคนละทิศคนละทาง พร้อมกับเสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นกลบเสียงการปะทะกันระหว่างรถมอเตอร์ไซต์กับรถพ่วงสิบเเปดล้ออย่างพอดี เเสงสว่างวาบบนท้องฟ้าค่อยๆจางลงเเละกลายเป็นภาพเบลอๆ สลับกับเเสงสีดำ สีขาว สีรุ้งตามเดิมเเละค่อยๆชัดเจนขึ้นเมื่อผมก้มลงมองวัตถุกลมๆที่เท้าผมไปเตะเข้า เป็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคยเเละรู้จักเป็นอย่างดี เป็นใบหน้าที่ทำให้บีร้องไห้เเต่ใบหน้านี้ก็เคยทำให้บียิ้มเเละหัวเราะได้เหมือนกัน เเต่คงเป็นเเค่เคย เพราะตอนนี้เเละต่อจากนี้ใบหน้านี้จะไม่ได้อยู่กับบีเเละเปิดร้านอาหารตามฝันอีกเเล้ว ใบหน้าที่ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตลอด11เดือนของการเป็นเซลล์เเมน .... ผมเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา