สุริโยไขแสงส่องฟ้า

-

เขียนโดย Bush

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.01 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,663 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2559 14.11 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) กองทัพองค์กาหลิบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตุรกีตั้งอยู่บนเส้นทางผ่านของทางรถไฟสายด่วนพิเศษทรานมาเนีย... วิ่งกรุยทางไปฮังการี แลโรมาเนีย สุดเส้นทางรถไฟสายนี้ในทวีปรัสเซีย....เชื่อมต่อครึ่งโลกไปสู่ยุโรปตะวันออก.....นั่นเทียว..... “....ดอกไม้สีเหลือง กุหลาบเหลืองนั่นหมายถึงนักรบเติร์ก สัญลักษณ์ของความห้าวหาญ เสียสละหยาดเหงื่อ แรงกาย และโลหิต ถึงชีวิตมาไม่รู้กี่เท่าไร  ด้วยน้ำมือไอ้กัน”

กาหลิบ ฤา คิงส์ องค์กษัตริย์แห่งกองทัพอันเกรียงไกรของเติร์ก ท่านเคาส์เติร์กท่านทั้งใฝ่และฝันหนักหนาที่จะได้ตำแหน่งนี้มาเนิ่นนาน ตลอดเวลาเกือบทั้งชีวิตก็ว่าได้ท่านทั้งพากเพียรทุ่มเทแรงกายแรงใจ ลงมือลงแรงทุกสิ่งอันไม่ว่าจักเป็นการฆ่าหรือการขุนบรรดาผู้คนและกองทัพปิศาจเยี่ยงแวมไพร์เอาไว้ เพื่อใช้ในการศึกคราวต้องรบกับกองทัพอเมริกันและมหามิตรทั่วโลก..... “....เสื้อเกราะและหมวกสำหรับองค์กาหลิบแบบโบราณทำด้วยเหล็กกล้า ดาบนักรบโบราณทำด้วยเหล็กเพชรที่สามารถตัดเพชรเข้า....อีกทั้งอาวุธ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย สำหรับ.....การก้าวไปสู่ตำแหน่งแห่งองค์กาหลิบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ณ กาละเวลาปัจจุบัน  องค์กาหลิบ เคาส์อับราฮัม เติร์ก.....” สืบสายพระราชวงศ์ไปนับกาละพันปีที่ล่วงเลยมา เคาส์อับราฮัม เติร์ก เป็นเชื้อสายของพระราชวงศ์แห่งองค์กาหลิบคาลิอัสอย่างแท้จริง เห็นได้จากเค้าใบหน้าและเรือนร่างสูงสง่าของท่าน หล่อเหลาคมคาย งามราวเทวรูปกรีกแกะสลัก มีรันดานั่นเล่าสวยงามราวเทวีวีนัส เรือนร่าง สูงสง่า งามระหง สมสัดส่วน หน้าสวยหมดจด ผิวพรรณทั่วร่างกายมองดูมีเลือดฝาดสีขาวอมชมพู แขนขาราวสลักเสลาจนมนสวยกลมกลึง จมูกโด่งสวยแบบแขก ดวงตาโตกลมคมซึ้ง ขนตายาวเป็นแพ สองคิ้วหนาดกดำ ริมฝีปากสีชมพูราวกลีบกุหลาบบางๆ ยามพวกท่านแย้มยิ้มมองแล้วเหมือนโลกใบนี้ดูช่างน่าอภิรมย์ขึ้นเป็นกอง  “ท่านหล่อ น่ารัก กูรักท่านแบบลึกซึ้งตรึงใจจนกูหลงผิดยอมร่วมมือฆ่าไอ้ไบรด์มัน วีนัส กูรู้ กูขี้เหร่ ไม่งดไม่งามเหมือนนังแม่มดเด็กวัยรุ่นแม่มิลานอะไรนั่น ใครๆ ก็ดูออกว่านั่นเมีย...ไม่ใช่ลูกสาวของท่านกาหลิบ....ไม่น่าเล้ยกู...ทำไม หน้าโง่เยี่ยงนี้น๊า... ฮื่อๆ ๆ ท่านด่าว่ากู เสียๆ หายๆ หลายครั้งแล้วที่กูพยายามโทรไปหาท่าน เพื่อขอนัดออกมาเดท มาพบกัน มากินข้าว แล้วไปต่อกันในผับ หรือที่ไหนสักที่ ที่เป็นการส่วนตัว แต่ท่านด่าว่ากูเจ็บแสบ... ว่า กูโง่ อีดำ อีหน้าด้าน ทรยศหักหลังไอ้ผัวเก่าโง่ๆ อย่างไอ้ไบร์ดได้ลงคอ อีงูพิษ....มิหนำซ้ำยังสาปกูให้เป็นแวมไพร์เป็นผีดิบดูดเลือด...”

วีนัสซึ่งวันนี้นิ่งเงียบผิดธรรมดาที่เคยเห็นกันอยู่ทุกวันกลับหันควับมามองเคที่ด้วยแววตาวาววับดูมีแววโกรธฉายแสงสีเขียวปั๊ดด้วยแรงโมโหแถมใช้มือตวัดตบหน้าเคที่อย่างแรงแล้วเดินจากไปในทันทีเหมือนไม่ยอมหยุดอยู่ตรงนั้นเพื่อรอพูดคุยปรับความเข้าใจกันเหมือนเช่นเคยในทุกคราวที่มีเรื่องวิวาทกันในบางครั้งลงมือลงไม้กันรุนแรงมากกว่าคราวนี้เสียอีก “เอ้ยอะไรวะ  มึ้งเป็นอะไร...อีวีนัส”  เคที่เองเธอโกรธแค้นแน่นอกเลยพาลร้องไห้โฮระบายความเสียใจออกมาอย่างเหลือแสน แถมยังมีอาการเวียนหัว มืดหน้า คล้ายจักอาเจียน เคที่แพ้ท้องเพราะเธอเริ่มตั้งครรภ์ได้เดือนสองเดือนเศษกับไบร์ด แต่เธอไม่รู้ตัว จึงร่วมมือกับท่านเคาส์ฆ่าผัวและพ่อของลูกตัวเอง เคที่ไม่เคยรู้สึกมึนงงสับสนกับชีวิตของตัวเองอย่างหนักหนาสาหัสเท่านี้มาก่อนเลย ผู้หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งไว้ผมสั้นแค่ท้ายทอยแต่งกายทันสมัยหน้าตาดีแบบอเมริกันแท้ๆ คนหนึ่งเธอสวมเสื้อโค้ทหนังสีดำสนิทสวมทับเสื้อผู้หญิงตัวยาวแบบแขกและกางเกงยีนส์สีบลูทำทีท่าเหมือนรีรอๆ เพื่อยืนคอยขึ้นลงลิฟต์ปกติ แต่ส่งสายตามองมายังสองสาวเพื่อนสนิทนั่นอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้โอกาสเธอจึงรีบเดินตรงปรี่เข้ามาหาแล้วเอียงหน้ามาจนใกล้ชิดเกือบจักชนใบหูเพื่อกระซิบด่าเคที่  “.....หน้าด้าน ไม่ได้ด่าคุณว่าน่าไม่อายนะค่ะ ฮึม...”  แล้วเดินหนีออกไป  “แกรอลิฟต์ หรือรอด่ากูกันแน่....แกเป็นใครอ่ะ...อะไรเนี่ยะ โว้ย....”

“ข้าฯ คาลิอัสสมัยกาลก่อนโน้นนานมาก นานเสียจนข้าจำไม่ใคร่ได้หร๊อกว่านานแค่ไหน วิญญาณข้าติดกับไปไม่ได้ การศึกแต่ละหนเมื่อจบลงจักเต็มไปด้วยซากศพของผู้คนเกลื่อนไปทั่วทั้งบริเวณทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ มีร้องรำบรรเลงเพลงด่าว่าเสียดสีประชดประชัน ดูหมิ่นเหยียดหยามข้าไม่เคยขาดปากชาวยิว...แขกเติร์กก็มาสายพันธ์เดียวกันไม่ได้แบ่งแยกเชื้อชาติเท่าที่เป็นในสมัยหลังๆ เฮ้อ ไอ้เติร์กมันชั้นโหลนเหลนในสายพันธ์ข้าแต่มันเสียประสาท พยายามฆ่าคนทำลายล้างเผ่าพันธุ์แขกเชื้อสายอาหรับ ล้มล้างศาสนามุสลิม สมควรต้องกำจัดมันทิ้งอยู่เป็นทุน ข้าคิดอยู่ทุกชั่วยาม ขาดเพียงผู้ช่วยเหลือที่ดีมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ.... ฮืม.... มาร์ตินเจ้าคิดถูก การเลือกนายแม้นเลือกผิด ทำให้ถึงแก่การสิ้นลมหายใจเพียงแค่วัยรุ่นหนุ่มฉกรรจ์ เท่ากับตัดโอกาสอนาคตทุกอย่างที่มนุษย์รุ่นราว ฤา วัยเดียวกันกับพวกเจ้าที่เค้ายังคงมีอยู่ ส่วนไบร์ดตาเจ้าไม่ได้บอด แม้นว่าเจ้าจักโง่ก็ตามทีเถิด ส่วนแวมไพร์เยี่ยงพวกเจ้าแม้นไม่มีทางแก้ไขให้คืนสภาพมนุษย์ปกติได้แต่ยังมีน้ำใจดีงามต่อข้าหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ข้าด้วยความเต็มใจ ขอบใจพวกเจ้ามาก.... แค่นี้ก็เหลือที่จักพอแล้วสำหรับกะไอ้แค่กองทัพคนโง่ๆ เยี่ยงนั้น...สาธุ ขอให้พระเจ้าอำนวยพร”

เสียงไชโยโห่ร้องดังก้องฟ้าที่เหมือนรู้จังหวะสาดสายน้ำฟ้าลงมาอย่างแรงกระหน่ำซัดหัวใจของท่านเคาส์เติร์กอย่างแสนขัดเคืองแค้นเหลือแสนไหนจักอับอาย...เหลือจักกลั้นน้ำตาไว้ได้....เวรเอ๋ย  “กูสร้างผีดิบอย่างพวกมึ้งขึ้นมากับมือแว้งกัดกูฮืม”ชะตาตกดวงพิฆาตเข่นฆ่าอาสัญมาแล้วทุกตนด้วยน้ำมือท่านเคาส์เติร์ก...อับราฮัม....“มีบุตรชายคนที่เจ็ด...และมีบุตรสาวคนที่เจ็ดด้วยคือฉัน....มีรันดา....ท่านพ่อ....เข้มแข็งไว้รอดูท่าทีของพวกมันก่อนว่ามาไม้ไหน...ยังไงบ้าง....ฟูมฟายไปทำไม”

กองกำลังติดอาวุธ ชาวเคิร์ด ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “เปชเมอร์กา” (Peshmerga) กำลังสู้รบจริงในสมรภูมิทางภาคเหนือของตุรกี อิรักและซีเรีย โดยใช้อาวุธที่แจกจ่ายให้โดยฝ่ายอเมริกันเป็นตัวแทนของ “ยักษ์จินี่” ในตะเกียงอาละดินแสนยานุภาพทางอากาศอิมพอร์ตจากอเมริกัน เพื่อเป็นการเพิ่มสมรรถนะสู้รบของพวกเขาในการเข่นฆ่าสังหารเหล่านักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม….

“The surge” เป็นภาพมายาที่สร้างความร้าวฉานอันหมายถึง  เพียงแค่  “กองกำลังพื้นบ้าน”   มีหน้าที่วนเวียนอยู่รอบสมรภูมิ “อย่าโง่ถูกเขาหลอกซ้ำอีก แค่กองกำลังคาราวานอูฐขนทองคำขาวไปส่งตามฐานผลิตขุดเจาะตามบ่อน้ำมันดิบที่อยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ สมัยนั้นคนขาวพวกกุลาเยี่ยงนี้ ข้าเห็นมานักไม่มีอะไรสมัยข้ามีชนม์ยังไม่วายชีพ ฮี่โธ่ ...มันก็ยังงี้เดินอูฐมันเดินทางราวสัปดาห์สองสัปดาห์ไปส่งเก็บทองคำแท่งจากชาวอัฟริกาคนผิวสี กุลาขาวพวกนี้เข้าไปรุกราน  กดขี่ข่มเหงทำร้ายคุกคามถึงตายพิการบอบช้ำทางใจ จำใจยอมลงทุนเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ แล้วบังคับเยี่ยงทาศ ทำร้าย ยำยี พวกผู้หญิงไม่ได้เรื่อง ไม่เจริญไม่มีไม่เคยเห็นพวกอเมริกันนี่เจริญ ไม่มีนี่..ลองยกตัวอย่างมาสิอะไรบ้างที่เธอบอกว่าเจริญ... เทคโนโลยีใช่มั้ย  เธอรู้ไว้ด้วยนะ...วิธีทำทองคำแบบขุดแร่ออกมาสกัดร่อนออก หรือหลอมแบบดิบๆ มันดี ตรงไม่ต้องใช้น้ำกรดทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น   อาจมีบ้างที่เกิดกลิ่นจากกรดกำมะถันที่ใช้ในการเร่งให้เกิดความร้อนสถิตย์ ในระหว่างการละลายตัวแร่ธาตุทองให้เป็นของเหลวหลอมทิ้งไว้ให้เย็นแข็งตัวเป็นแท่งสี่เหลี่ยม กรดใช้เมื่อประสมโลหะอื่นหรือเจือให้แร่ทองคำธรรมชาติน้อยลงเยี่ยงที่พวกเธอทำกันอยู่ในวันนี้...ไอ้โจรพื้นๆ”

สักพัก  หลังจากที่ท่านกาหลิบวัยหนุ่มใหญ่ท่านนั่งนิ่งคิดท่านได้ป่าวประกาศออกมาว่า  “สหายแวมไพร์เพื่อนยากข้าฯ ว่าใยพวกเราไม่กระทำตามแบบกองกำลังพื้นบ้านนั้นเล่า”

“Arabian Gini”  กองกำลังแวมไพร์ ฤา ยักษ์จินี่แบบอเมริกันแนวใหม่ พลไส้ศึก ฤา พลสอดแนมชั้นเลิศ  แม้นเพียงแค่คุณคิดอะไรอยู่ในใจ  กองทัพปิศาจอันเกรียงไกรเต็มไปด้วยความหฤโหดมากกว่า  “The Surge” หลายขุมนรกลุ่มลึกหวีดสยองตายแบบผีดิบกลับกลายมาเป็นกองกำลังแวมไพร์เพิ่มทวีจำนวนขึ้นดั่งเงาตามตัว   “ยิ่งฆ่าได้มากคนยิ่งเพิ่มจำนวนพล”   ยุทธการของ Lawrence อดีตทหารสังกัดกองทัพอังกฤษ ท่านเคยใช้คอนเนคชั่นส่วนตัว คอยเชื่อมประสานใจชนเผ่าทะเลทรายแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อต่อสู้กับชนอาหรับเผ่าดั้งเดิม เจ้าชายไฟซาล พันธมิตรคนสำคัญของ Lawrence บุตรชายของผู้นำศาสนาในซาอุดิอาระเบีย ภายหลังท่านได้สถาปนาขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของซีเรียและอิรัก ท่านเคาส์เติร์ก คงหมายที่จักนำยุทธวิธีการใช้สงครามกองโจรของนักรบทะเลทรายเข้าโจมตีเมืองสำคัญในแถบอาหรับ ตามแบบที่พวกท่านทั้งสองเคยใช้ ซึ่งนักต่อสู้เพื่อชาตินาม  Ataturk  ชาวตุรกีบรรพบุรุษของตนได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของผู้ร่วมชาตินับแต่นั้นมา.....

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา