ขอแค่นายหันมามองผมสักครั้ง...
8.0
เขียนโดย ก็แค่ผู้ชายธรรมดา
วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.17 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,410 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 กันยายน พ.ศ. 2559 22.20 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) จุดเริ่มต้นของหัวใจที่บิดเบี้ยว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมนั้นเเต่เเรกเริ่มไม่ได้อยู่เหนือมาตั้งเเต่เกิดหรอกครับ แรกเริ่มเดิมทีผมนั้นอยู่ที่กทม.อาศัยอยู่กับพ่อและเเม่ ฐานะจัดว่าอยู่ในระดับดี แต่เพราะทั้งสองคนแยกทางกันทำให้ผมต้องมาอยู่ทางเหนืออาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องตอนมัธยมต้น
ตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าตัวเองหดหู่มากจริงๆทั้งสภาพเเวดล้อมที่เปลี่ยนไปและเพื่อนๆนตอนนั้นก็ไม่มีซักคนแถมที่รร.ส่วนมากก็มีแต่คนพูดเหนือใส่ทั้งๆที่รู้ว่าผมฟังไม่รู้เรื่อง
แต่เพราะผมค่อนข้างหน้าตาดีมากทำให้สาวๆในห้องกรี๊ดอยู่บ้างเล็กน้อย บางครั้งพวกเธอก็มาแกล้งผมโดยการพูดเหนือใส่
"ตั๋วๆ ตั๋ว อยู๋กรุงเตพกะ?ที่ปุ้นม้วนก่อ?"(นายๆนายอยู่ที่กรุงเทพหรอ?ที่นู้นสนุกมั้ย?)
"..." ฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย!!!! ชิบหายละตรูต้องตอบว่าอะไรเนี่ย!! แล้วผมต้องตกใจเมื่อมีคนมาเเตะหลังพอผมหันไปก็พบว่ามีผู้ชายคนนึงกลั้นขำอยู่
"ยัยนั่นบอกถามว่า นายอยู่กรุงมาหรอแล้วที่นู้นสนุกรึเปล่าซุบซิบๆ" หมอนั้นเข้ามาบอกผมเบาๆ อ๋อเเปลว่าอย่างนี้สินะ
"อะ..อืมชั้นเป็นคนที่นู้นมาก่อนน่ะ แล้วพ่อเเม่เเยกกันเลยต้องมาอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่นี้"ผมตอบเธอไปแล้วเจ้าคนที่มากระซิบให้ผมเมื่อกี้ก็ไปคุยอะไรกับเธอไม่รู้
"ตี้ปุ้นกะตี้นี้ตั๋วว่าตี้ใดม้วนกว่ากั๋น?" (ที่นู้นกับที่นี้นายว่าที่ไหนสนุกกว่ากัน?)
"..."=,.= แดกจุดรอบที่ล้านแปดอะไรกันฟระ!ตรูต้องไปเรียนภาษาเพิ่มใช่ม้ายยยย แล้วผ้ชายคนนั้นก็เดินมาหาผมแล้วก็ช่วยผมแปลอีกรอบเช่นเดิม
"ชั้นว่าที่นี้อากาศดีกว่าเยอะเลยล่ะ ที่นู้นมีเเต่ควันรถเต็มไปหมดแต่ถ้าถามว่าที่ไหนสนุกกว่ากันชั้นเพิ่งมาที่นี้ไม่ถึงเดือนเลยยังไม่ค่อยได้เล่นได้เที่ยวที่ไหนเลย ถ้าว่างๆก็ช่วยพาชั้นไปเที่ยวเล่นด้วยกันนะ^^;;"
"แต้ก้ะ!งั้น คราวหน้าไปแอ่วโต้ยกั๋นหนา"(จริงหรอ! งั้นคราวหน้าไปเที่ยวด้วยกันนะ)
ผช.ร่างบางคนนั้นกระซิบแปลให้ผมอีกครั้ง
"อือแน่นอน คราวหน้าไปวันไหนบอกชั้นด้วยนะ"ผมตอบแล้วยิ้มไปเล็กน้อย
"O///O อื้อ!!"เธอหน้าแดงกำแล้วก็วิ่งออกไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ
"ฮู้!นึกว่านายจะหยิ่งที่เเท้ก็แค่ฟังเหนือไม่เป็นนี้หวาา"หมอนั้นพูดพร้อมมานั่งโต๊ะด้านหน้าผม
"ชั้นไม่เคยบอกว่าตัวเองหยิ่งซักครั้งอย่ามาตัดสินกันเอาเองสิฟระ"ผมพูดพร้อมเอามือเท้าคาง
"เออว่าเเต่นายชื่ออะไรงั้นหรอ?"ผมถามผู้ชายร่างบางที่นั่งขำอยู่หน้าผมมันมีอะไรให้หน้าหัวเราะนักฟระ=_=
"อ๋อ!ชั้นลืมแนะนำตัวไปเลย ชั้นชื่อ บิว อยู่ชมรมการละครกับวงดนตรีสากล ชั้นนั่งอยู่ตรงด้านหน้าสุดโน้น! เห็นรึเปล่าๆ" เขาพูดพร้อมชี้โต๊ะด้านหน้าสุดตรงริมโต๊ะครูซึ่งเป็นที่ที่ใครก็ไม่อยากนั่งที่สุดให้ผมดู
"อืมชั้นชื่อ ชุน ไม่ได้เข้าชมรมอะไรเลยตอนนี้ ยินดีที่ได้รู้จัก"พอผมผู้จบหมอนั้นก็จับมือผมแล้วพาผมลุกขึ้น
"ดะ..เดี๋ยวนายจะพาชั้นไปไหนน่ะ!?"เพราะหมอนี้พยายามพาผมออกจากโต๊ะในช่วงเวลาพักเที่ยงซึ่งผมกะว่าจะนอนพักผ่อน
"อา..ต้องไม่ใช่แค่ชั้นสิ! นายต้องสนิทกับคนในห้องให้มากๆเลยนะ!!เพราะนายไม่ใช่คนไม่ดีซักหน่อย"แล้วบิวก็ทำจริงทำให้ผมได้รู้จักชื่อของทุกคนในห้องและได้อยู่กลุ่มกับบิวซึ่งเป็นกลุ่มเล่นดนตรีสากลผมซึ่งเล่นกีต้าและเบสพอได้จึงขอเข้าชมรมด้วย
แล้วไม่นานผมและบิวก็ได้เป็นเพื่อนสนิทกันเพราะหมอนี้เป็นคนอารมณ์ดีเข้ากับคนอื่นได้ง่ายเลยทำให้เขามีเเฟนคลับอยู่เพรียบเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยรับรักจากใครที่มาสารภาพเเม้เเต่คนเดียวและยังพูดทำให้คนที่โดนปฏิเสธไม่รู้สึกว่าผิดหวังหรือมีความหวังอะไรมาก
ผมมองเขาว่าเขาเป็นคนที่ดูเเลเอาใจใส่คนอื่นเป็นอย่างสูงเเต่บางครั้งเขาก็มีหลุดบ้างอะไรบ้างเหมือนกัน แถมเขายังเป็นคนที่มอบรอยยิ้มให้กับทุกๆคนและยังช่วยทำให้ห้องไม่เเตกแยกกันอีกต่างหาก
และทุกๆครั้งที่ผมคุยกับเขาเขาก็มักจะยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ...
นี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้...
ที่ผมเเอบชอบหมอนี้...
ตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าตัวเองหดหู่มากจริงๆทั้งสภาพเเวดล้อมที่เปลี่ยนไปและเพื่อนๆนตอนนั้นก็ไม่มีซักคนแถมที่รร.ส่วนมากก็มีแต่คนพูดเหนือใส่ทั้งๆที่รู้ว่าผมฟังไม่รู้เรื่อง
แต่เพราะผมค่อนข้างหน้าตาดีมากทำให้สาวๆในห้องกรี๊ดอยู่บ้างเล็กน้อย บางครั้งพวกเธอก็มาแกล้งผมโดยการพูดเหนือใส่
"ตั๋วๆ ตั๋ว อยู๋กรุงเตพกะ?ที่ปุ้นม้วนก่อ?"(นายๆนายอยู่ที่กรุงเทพหรอ?ที่นู้นสนุกมั้ย?)
"..." ฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย!!!! ชิบหายละตรูต้องตอบว่าอะไรเนี่ย!! แล้วผมต้องตกใจเมื่อมีคนมาเเตะหลังพอผมหันไปก็พบว่ามีผู้ชายคนนึงกลั้นขำอยู่
"ยัยนั่นบอกถามว่า นายอยู่กรุงมาหรอแล้วที่นู้นสนุกรึเปล่าซุบซิบๆ" หมอนั้นเข้ามาบอกผมเบาๆ อ๋อเเปลว่าอย่างนี้สินะ
"อะ..อืมชั้นเป็นคนที่นู้นมาก่อนน่ะ แล้วพ่อเเม่เเยกกันเลยต้องมาอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่นี้"ผมตอบเธอไปแล้วเจ้าคนที่มากระซิบให้ผมเมื่อกี้ก็ไปคุยอะไรกับเธอไม่รู้
"ตี้ปุ้นกะตี้นี้ตั๋วว่าตี้ใดม้วนกว่ากั๋น?" (ที่นู้นกับที่นี้นายว่าที่ไหนสนุกกว่ากัน?)
"..."=,.= แดกจุดรอบที่ล้านแปดอะไรกันฟระ!ตรูต้องไปเรียนภาษาเพิ่มใช่ม้ายยยย แล้วผ้ชายคนนั้นก็เดินมาหาผมแล้วก็ช่วยผมแปลอีกรอบเช่นเดิม
"ชั้นว่าที่นี้อากาศดีกว่าเยอะเลยล่ะ ที่นู้นมีเเต่ควันรถเต็มไปหมดแต่ถ้าถามว่าที่ไหนสนุกกว่ากันชั้นเพิ่งมาที่นี้ไม่ถึงเดือนเลยยังไม่ค่อยได้เล่นได้เที่ยวที่ไหนเลย ถ้าว่างๆก็ช่วยพาชั้นไปเที่ยวเล่นด้วยกันนะ^^;;"
"แต้ก้ะ!งั้น คราวหน้าไปแอ่วโต้ยกั๋นหนา"(จริงหรอ! งั้นคราวหน้าไปเที่ยวด้วยกันนะ)
ผช.ร่างบางคนนั้นกระซิบแปลให้ผมอีกครั้ง
"อือแน่นอน คราวหน้าไปวันไหนบอกชั้นด้วยนะ"ผมตอบแล้วยิ้มไปเล็กน้อย
"O///O อื้อ!!"เธอหน้าแดงกำแล้วก็วิ่งออกไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ
"ฮู้!นึกว่านายจะหยิ่งที่เเท้ก็แค่ฟังเหนือไม่เป็นนี้หวาา"หมอนั้นพูดพร้อมมานั่งโต๊ะด้านหน้าผม
"ชั้นไม่เคยบอกว่าตัวเองหยิ่งซักครั้งอย่ามาตัดสินกันเอาเองสิฟระ"ผมพูดพร้อมเอามือเท้าคาง
"เออว่าเเต่นายชื่ออะไรงั้นหรอ?"ผมถามผู้ชายร่างบางที่นั่งขำอยู่หน้าผมมันมีอะไรให้หน้าหัวเราะนักฟระ=_=
"อ๋อ!ชั้นลืมแนะนำตัวไปเลย ชั้นชื่อ บิว อยู่ชมรมการละครกับวงดนตรีสากล ชั้นนั่งอยู่ตรงด้านหน้าสุดโน้น! เห็นรึเปล่าๆ" เขาพูดพร้อมชี้โต๊ะด้านหน้าสุดตรงริมโต๊ะครูซึ่งเป็นที่ที่ใครก็ไม่อยากนั่งที่สุดให้ผมดู
"อืมชั้นชื่อ ชุน ไม่ได้เข้าชมรมอะไรเลยตอนนี้ ยินดีที่ได้รู้จัก"พอผมผู้จบหมอนั้นก็จับมือผมแล้วพาผมลุกขึ้น
"ดะ..เดี๋ยวนายจะพาชั้นไปไหนน่ะ!?"เพราะหมอนี้พยายามพาผมออกจากโต๊ะในช่วงเวลาพักเที่ยงซึ่งผมกะว่าจะนอนพักผ่อน
"อา..ต้องไม่ใช่แค่ชั้นสิ! นายต้องสนิทกับคนในห้องให้มากๆเลยนะ!!เพราะนายไม่ใช่คนไม่ดีซักหน่อย"แล้วบิวก็ทำจริงทำให้ผมได้รู้จักชื่อของทุกคนในห้องและได้อยู่กลุ่มกับบิวซึ่งเป็นกลุ่มเล่นดนตรีสากลผมซึ่งเล่นกีต้าและเบสพอได้จึงขอเข้าชมรมด้วย
แล้วไม่นานผมและบิวก็ได้เป็นเพื่อนสนิทกันเพราะหมอนี้เป็นคนอารมณ์ดีเข้ากับคนอื่นได้ง่ายเลยทำให้เขามีเเฟนคลับอยู่เพรียบเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยรับรักจากใครที่มาสารภาพเเม้เเต่คนเดียวและยังพูดทำให้คนที่โดนปฏิเสธไม่รู้สึกว่าผิดหวังหรือมีความหวังอะไรมาก
ผมมองเขาว่าเขาเป็นคนที่ดูเเลเอาใจใส่คนอื่นเป็นอย่างสูงเเต่บางครั้งเขาก็มีหลุดบ้างอะไรบ้างเหมือนกัน แถมเขายังเป็นคนที่มอบรอยยิ้มให้กับทุกๆคนและยังช่วยทำให้ห้องไม่เเตกแยกกันอีกต่างหาก
และทุกๆครั้งที่ผมคุยกับเขาเขาก็มักจะยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ...
นี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้...
ที่ผมเเอบชอบหมอนี้...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ