We love... เรื่องรักของเรา
-
เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.19 น.
22 ตอน
1 วิจารณ์
23.01K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559 20.14 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันยังคงไปเป็นช่างภาพส่วนตัวให้จื่อเหว่ยตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ... จื่อเหว่ยดูจะสนิทกับยัยอามี่นั่นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้ปากเขาจะชอบไล่ยัยนั่นให้ไปไกลๆ แต่ก็ตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา
“เหม่ยลี่ พี่ขอดูรูปที่เธอถ่ายหน่อยสิ” ฉันยื่นกล้องให้พี่ลุ่ยฉี่ เขาหยิบมันไปกดๆจ้องๆ ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง “เหม่ยลี่!!! นี่มันอะไร?”
“?”
พี่ลุ่ยฉี่ส่งกล้องกลับมาให้ฉัน ฉันรับมันมาดู รูปที่ฉันถ่ายแต่ละรูปมัน... แย่มาก บางรูปก็เอียง บางรูปก็ไกล บางรูปก็เบลอ บางรูปนี่ดูไม่ออกเลยว่า ฉันถ่ายอะไรเนี่ย? ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ??
“มีอะไรหรอ?”
จื่อเหว่ยเดินเข้ามาหาฉันกับพี่ลุ่ยฉี่ที่ส่งเสียงดังพร้อมยัยอามี่ที่ติดสอยห้อยท้ายมาด้วย เขาคว้ากล้องในมือฉันไปดู คิ้วหนาๆของเขาวิ่งเข้าชนกันเป็นเส้นเดียว หลังจากดูรูปเสร็จเขาก็มองมาทางฉันด้วยสายตาไม่พอใจ
“ฝีมือการถ่ายรูปของเธอแย่กว่าคราวก่อนมากนะ”
ทั้งๆที่เป็นประโยคธรรมดาปกติ แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกเจ็บปวดยังไงไม่รู้... ฉันคว้ากล้องคืนมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินหน้าบูดออกมาโดยไม่หันกลับไปมองว่าตอนนี้บรรยากาศข้างหลังจะเป็นยังไง
ฉันรู้ว่าการที่เขาพูดแบบนั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของฉันหรอก มันเป็นคำพูดที่ปกติเอามากๆ ถ้าหมอนั่นชมฉันสิ แปลก! แต่...ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้รู้สึกอย่านั้น ฉันทั้งรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ฉันอยากให้เขาชมฉัน ทำไมกันนะ?
“พี่เหม่ยลี่! พี่ทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย” อามี่ที่โผล่มาอย่างกับผีเดินเข้ามาหาฉัน “จู่ๆก็ทิ้งงานออกมาแบบนี้ได้ยังไงไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย”
...จุกอกเลยล่ะ! ฉันได้แต่มองกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็ไม่มีจริงๆด้วยสิ ขนาดถ่ายรูปให้ออกมาสวยยังทำไม่ได้เลย”
.....เจ็บจี๊ดเลย ฉันมองค้อนๆยัยอามี่
“ที่พี่อารมณ์ไม่ดีเพราะถูกพี่จื่อเหว่ยตำหนิต่อหน้าฉันใช่มั้ยล่ะ?” ฉันไม่ตอบอะไรได้แต่มองอย่างงุนงงปนโกรธ “พี่คิดว่าทำอย่างนี้พี่จื่อเหว่ยจะสนใจพี่มากสินะ ไม่เลย! เขาไม่ได้สนใจพี่เลย”
“.....”
“ถ้าพี่ยังมีความฉลาดหลงเหลืออยู่บ้างพี่คงรู้นะว่าช่วงนี้พี่จื่อเหว่ยเขาสนใจฉันมากขึ้น ขนาดฉันไม่อยู่อาทิตย์เดียวพี่เขายังเพ้อหาฉันขนาดนั้นเลย”
จะว่าไป... มันก็จริงนะ หลังจากที่ฉันกลับมาเป็นช่างภาพส่วนตัวให้จื่อเหว่ยเขาก็มักจะจิตหลุดคิดถึงยัยอามี่ที่ไม่ได้มาถ่ายละครตลอด 1 อาทิตย์(เพราะติดงานไปต่างประเทศ) และเขายังทำตัวแปลกๆด้วย คำพูดที่เขาพูดกับฉันที่หน้าลิฟต์ลอยเข้ามาในหัว
“ฉะ...ฉันกลับห้องก่อนดีกว่า อยู่นานกว่านี้เดี๋ยวมีคนเห็นแล้วจะตกเป็นข่าว”
มันวิ่งสวนทางกับคำพูดที่เขาบอกฉันก่อนหน้านั้น
“ช่างสิ! ใครจะเข้าใจผิดก็ช่างแค่เรารู้อยู่แก่ใจก็พอ”
ฉันมองภาพตรงหน้าไม่ชัดเหมือนมีฝ้ามาเกาะที่ลูกตา น้ำใสๆไหลลงอาบที่แก้มของฉัน ฉันกำลังร้องไห้หรอเนี่ย? ฉันไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าร้องไห้จนยัยอามี่ร้องทัก
“ร้องไห้? เสียใจสินะ”
“TT_TT”
“รู้ตัวแล้วสินะว่าเธอน่ะชอบพี่จื่อเหว่ยเข้าแล้ว กว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขาเป็นของฉันไปแล้ว” ยัยอามี่เงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดต่อ “เพราะฉะนั้น... จงอยู่ให้ห่างจากพี่จื่อเหว่ยของฉันซะ!”
เธอพูดทิ้งท้ายไว้แต่นั้น ก่อนจะเดินจากไป.....
“เหม่ยลี่ พี่ขอดูรูปที่เธอถ่ายหน่อยสิ” ฉันยื่นกล้องให้พี่ลุ่ยฉี่ เขาหยิบมันไปกดๆจ้องๆ ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง “เหม่ยลี่!!! นี่มันอะไร?”
“?”
พี่ลุ่ยฉี่ส่งกล้องกลับมาให้ฉัน ฉันรับมันมาดู รูปที่ฉันถ่ายแต่ละรูปมัน... แย่มาก บางรูปก็เอียง บางรูปก็ไกล บางรูปก็เบลอ บางรูปนี่ดูไม่ออกเลยว่า ฉันถ่ายอะไรเนี่ย? ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ??
“มีอะไรหรอ?”
จื่อเหว่ยเดินเข้ามาหาฉันกับพี่ลุ่ยฉี่ที่ส่งเสียงดังพร้อมยัยอามี่ที่ติดสอยห้อยท้ายมาด้วย เขาคว้ากล้องในมือฉันไปดู คิ้วหนาๆของเขาวิ่งเข้าชนกันเป็นเส้นเดียว หลังจากดูรูปเสร็จเขาก็มองมาทางฉันด้วยสายตาไม่พอใจ
“ฝีมือการถ่ายรูปของเธอแย่กว่าคราวก่อนมากนะ”
ทั้งๆที่เป็นประโยคธรรมดาปกติ แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกเจ็บปวดยังไงไม่รู้... ฉันคว้ากล้องคืนมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินหน้าบูดออกมาโดยไม่หันกลับไปมองว่าตอนนี้บรรยากาศข้างหลังจะเป็นยังไง
ฉันรู้ว่าการที่เขาพูดแบบนั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของฉันหรอก มันเป็นคำพูดที่ปกติเอามากๆ ถ้าหมอนั่นชมฉันสิ แปลก! แต่...ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้รู้สึกอย่านั้น ฉันทั้งรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ฉันอยากให้เขาชมฉัน ทำไมกันนะ?
“พี่เหม่ยลี่! พี่ทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย” อามี่ที่โผล่มาอย่างกับผีเดินเข้ามาหาฉัน “จู่ๆก็ทิ้งงานออกมาแบบนี้ได้ยังไงไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย”
...จุกอกเลยล่ะ! ฉันได้แต่มองกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็ไม่มีจริงๆด้วยสิ ขนาดถ่ายรูปให้ออกมาสวยยังทำไม่ได้เลย”
.....เจ็บจี๊ดเลย ฉันมองค้อนๆยัยอามี่
“ที่พี่อารมณ์ไม่ดีเพราะถูกพี่จื่อเหว่ยตำหนิต่อหน้าฉันใช่มั้ยล่ะ?” ฉันไม่ตอบอะไรได้แต่มองอย่างงุนงงปนโกรธ “พี่คิดว่าทำอย่างนี้พี่จื่อเหว่ยจะสนใจพี่มากสินะ ไม่เลย! เขาไม่ได้สนใจพี่เลย”
“.....”
“ถ้าพี่ยังมีความฉลาดหลงเหลืออยู่บ้างพี่คงรู้นะว่าช่วงนี้พี่จื่อเหว่ยเขาสนใจฉันมากขึ้น ขนาดฉันไม่อยู่อาทิตย์เดียวพี่เขายังเพ้อหาฉันขนาดนั้นเลย”
จะว่าไป... มันก็จริงนะ หลังจากที่ฉันกลับมาเป็นช่างภาพส่วนตัวให้จื่อเหว่ยเขาก็มักจะจิตหลุดคิดถึงยัยอามี่ที่ไม่ได้มาถ่ายละครตลอด 1 อาทิตย์(เพราะติดงานไปต่างประเทศ) และเขายังทำตัวแปลกๆด้วย คำพูดที่เขาพูดกับฉันที่หน้าลิฟต์ลอยเข้ามาในหัว
“ฉะ...ฉันกลับห้องก่อนดีกว่า อยู่นานกว่านี้เดี๋ยวมีคนเห็นแล้วจะตกเป็นข่าว”
มันวิ่งสวนทางกับคำพูดที่เขาบอกฉันก่อนหน้านั้น
“ช่างสิ! ใครจะเข้าใจผิดก็ช่างแค่เรารู้อยู่แก่ใจก็พอ”
ฉันมองภาพตรงหน้าไม่ชัดเหมือนมีฝ้ามาเกาะที่ลูกตา น้ำใสๆไหลลงอาบที่แก้มของฉัน ฉันกำลังร้องไห้หรอเนี่ย? ฉันไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าร้องไห้จนยัยอามี่ร้องทัก
“ร้องไห้? เสียใจสินะ”
“TT_TT”
“รู้ตัวแล้วสินะว่าเธอน่ะชอบพี่จื่อเหว่ยเข้าแล้ว กว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขาเป็นของฉันไปแล้ว” ยัยอามี่เงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดต่อ “เพราะฉะนั้น... จงอยู่ให้ห่างจากพี่จื่อเหว่ยของฉันซะ!”
เธอพูดทิ้งท้ายไว้แต่นั้น ก่อนจะเดินจากไป.....
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ