โลกที่สาม
-
เขียนโดย Kesa2525
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.50 น.
1 ตอน
2 วิจารณ์
3,213 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559 17.52 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโลกที่สามเป็นเรื่องราวปัตจัตตัง ไม่อาจพิสูจได้ถ้าไม่ลองมาทำด้วยตนเอง
... เรื่องราวที่จะกล่าวอ้างนี้ อาจมีเนื้อหาที่ใครหลายๆคนอ่านแล้วอาจมีขัดๆบ้างนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่ได้เกิดขึ้นกับตัวสาเอง และสาพิสูจน์ด้วยตัวของสาเองเท่านั้นนะคะ จึงต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน และทำความเข้าใจคะ... ทุกครั้งและทุกวันก่อนนอนนั้นจะต้องนั่งสมาธิ เมื่อจบภาระกิจ จึงเอนตัวลงนอนนับลมหายใจเข้าออกจนหลับไป แต่เมื่อตนเองรู้สึกตัวอีกครั้งกลับไม่ได้อยุ่บนเตียงนอนของตนเอง กลับมายืนอยู่ หน้าเมรุเผาศพ ได้ยินเสียงคนร้องไห้ และเห็น มีคนหามโลงศพ วนรอบเมรุ ด้วยความสงสัยว่าทำไมตนเองต้องมาอยู่ที่นี้ จึงเดินตามคนที่หามศพวนรอบเมรุ จากนั้น คนหามจึงหันกลับมาถามว่า" ไปดูด้วยกันมั้ย " สา งง ว่าไปดูอะไรที่ไหน แต่ก็เดินตามเค้าไปเรื่อยๆ เส้นทางที่เดินเป็นป่าดงดิบ รกมากน่ากลัว มีทางเข้าไปพอเข้าไปแล้วมันต่างกับที่เดินผ่านมาเลย มีบ้านคน สัตว์ เยอะแยะ แออัดไปหมด มีทั้งคนที่ยืนเสื้อผ้าขาดๆ คนร้องไห้ คนผอม บ้านก็มีทั้งบ้านที่เก่าโทรมๆจะพัง บ้านที่ ดูรวยมหาศาล สาเดินมองทั้งสองฝั่งทาง เดินมาเรื่อยๆเห็นพระท่านหนึ่งท่านถามสาว่า " มาได้ไงละโยม " สาถามถึงสถานที่นี้ว่า นี้ที่ไหน พระท่านเมตตาบอกว่า" นี้คือเมืองผีแหระโยม เมืองที่ผีบางตนยังไม่ถึงเวลาไป ต้องมารอเพื่อโดนเรียกตัวละนะ"พระท่านได้พาเดินมา ที่ที่หนึ่ง มีคนยืนต่อคิวมากมาย ตรงหน้ามีโต๊ะยาวๆ เหมือนมีเจ้าหน้าที่นั่งรอเรียกคิวอยุ่สองคน แต่งตัวแปลกๆ ทุกคนจะมีกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆสีแดง แล้วทางจะมีแยกอยู่สามทาง สาถามว่า ที่นั้นคืออะไร พระท่านอธิบายให้ฟังว่า" ด่านเรียกตัวไปนรก สวรรค์ และกลับไปโลกมนุษย์ ทุกดวงวิญญาณ จะมีบันทึกกรรมเอาไว้ละนะ ใครทำอกุศลกรรมมามากก็จะแยกลงนรกไป ใครกุศลมาเยอะก็จะไปเสวยบุญที่ด้านบน ใครที่มีครึ่งๆเช่นทำดีทำชั่ว มาเท่ากันก็จะให้กลับไปเกิดใหม่ อันนี้ก็อยุ่ที่ว่าจะได้ไปเกิดเป็นอะไร เป็นคนเหมือนเดิมหรือสัตว์เดรฉาน อยู่ที่กรรมที่สร้างมา"สายืนมองดูผู้คนพุงพร้านน่ากลัว พระท่านเลยบอกให้สารีบออกมาจากตรงนั้นเพราะอาจโดนดึงเข้าไปด้วย หลังจากนั้นก็เดินตามหลังท่านมาเรื่อยๆ ท่านบอกว่า" กลับได้แล้วนะโยม มานานไม่ดี เดี๋ยวอาตมาเดินไปส่ง"ระหว่างทางเดินนั้น สองข้างทาง มีผุ้คนที่แต่งตัวแตกต่างกัน บ้านเรือนแตกต่างกันสาถามท่านอีกว่า ทำไมที่นี้มีลักษณะหมู่บ้านที่แตกต่างกันไปหมดพระท่านเมตตาตอบว่า " ใครที่ทำกุศลเกี่ยวกับการบริจาคทรัพย์ ช้วยเหลือคนมามากในยามมีชีวิต บ้านเรือนในโลกนี้ก็จะใหญ่โต ไม่หิว ไม่อดไม่เหนื่อยใครที่ยามมีชีวิต ไม่ชอบทำกุศลแถมสร้างแต่สิ่งที่ผิดศีล ก็จะลำบาก บ้านมีแต่ก็พุพัง โลกที่สาม ก็เหมือนชุมชลบนโลกมนุษย์ นั้นแหระโยม เพียงแต่ที่นี้ไม่มีอาหาร ไม่มีปัจจัย เพราะที่นี้ใช้บุญกุศลแทนเงินละนะ ใครสะสมมากเมื่อยามมีชีวิตก็จะมั่งมีมากมายในโลกใบนี้ละ "ตอนเดินตามท่านมาก็ฟังท่านเล่ามาเรื่อยๆ จนมาถึงปากทางเข้ามา ท่านได้กล่าวอวยพรว่า" กลับไปแล้วก็สร้างแต่สิ่งดีๆไว้นะโยม บอกต่อไกับคนที่มีชีวิต สร้างสมความดีเอาไว้มากๆ ยามนั้นเมื่อลงมาที่นี้จะได้ไม่ลำบากกันนะโยมนะ. "สานั่งกราบท่าน แล้วกล่าวลาท่าน สักพักมีเกวียน เข้ามา สาก็ขึ้นนั่งเกวียนเลื่อนไปเรื่อยๆ แต่น่ากลัว ด้านข้างเกวียนมีคนรูปร่างดำๆ น่าเกลียดย่ากลัวพยามะเข้ามาดึง มาฉุดสาและคนที่นั่งบนเกวียน อีก 2-3 คน ผุ้ชายที่ขับเกวียนเอาเชือกตีไปที่คนรูปร่างดำๆนั้นให้ออกห่าง พอใกล้จะถึงที่สาเข้ามา มีผู้หญิงที่นั่งมาด้วยถามสาว่ามาจากไหน นั่งสมาธิมา หรือมาแบบไหน สา นั่ง งงสักพัก เลยตอบกลับว่า" ไม่รุ้คะ สาว่าสานอนหลับอยุ่แล้วก็มาที่นี้แล้ว "ตอบไปแค่นั้น ก็สะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นตุ๊บๆๆๆๆ ... ขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่มีสติ สร้างกุศลกันในทุกวันนี้นะคะเรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเพียงสิ่งที่สารุ้ได้ด้วยตนเองหากอยากพิสูจน์ก็ต้องลงมือกระทำคะ..
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ