มหัศจรรย์ตัวหนังสือ ภาค หนังสือฝังปีศาจ
-
เขียนโดย คางคก
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.06 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,579 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.09 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เวลาสายๆของวันเสาร์ ผมลงขึ้นจากเตียง นั่งสงบนิ่งที่ปลายเตียงสักครู่หนึ่ง มองออกไปทางหน้าต่าง มีแสงอาทิตย์สาดผ่านช่องกระจก ข้างนอกนั้นผมเห็นนกที่บนมาเกาะกิ่งไม้ มาเป็นคู่ มันมองผมและส่งเสียงร้องสูงแกลมออกมา เหมือนกำลังบอกอะไร ผมฟังมันไม่ออกจึงเดินเข้าไปหาใกล้ๆ สายตายังคงไม่กระพริบพยายามจะแปลให้ออกว่ามันบอกอะไร อยู่ๆมันก็บินหายไปหายไปหลังจากที่มันหันไปเห็นอะไรบางอย่าง นั้นนายแว่นนิ แว่นเดินผ่านหน้าบ้านของผม เขาใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีแดง บนหัวใส่หมวก ร้องเท้าผ้าใบสีขาว กางเกงขาสามส่วน เขาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจมองสิ่งรอบตัว เจาเดินออกไปไกลจนเกือบพ้นเขตหน้าบ้านผม ผมเพิ่งสังเกตุเห็นว่าในมือเขานั้นมีหนังสือถืออยู่ เล่มใหญ่ๆสีน้ำตาล แลดูเหมือนเก่า ผมได้แต่มองตามโดยไม่ได้ร้องเรียกหรือส่งเสียงใดๆให้เขารู้ตัว
แว่นทิ้งข้อสงใสให้ได้คิดอยู่ตลอด ผมอยากรู้ว่าวันหยุดแบบนี้ เด็กใหม่อย่างเขาจะไปไหน ในมือเขาถือหนังสืออะไร มันมีอะไรที่ปิดบังในหนังสือนั้นหรือป่าว คงต้องปล่อยให้ความคิดนั้นมันเลือนหายไป สิ่งที่คิดจะทำหลังจากที่ผมออกจากบ้านคือการออกค้นหาหนังสือสักเล่มที่ต้องการความช่วยเหลือ ข้างในใจลึกๆของผมคืออยากผจญภัยมากกว่า ตกเย็นผมออกไปร้านหนังสือร้านเดิมในตรอกเล็กๆที่มีคนมากมาย ตอนเดินอยู่นั้น บรรยากาศรอบตัวมีเสียงของเหล่านักขายที่เสนอราคาดีๆให้กับลูกค้า ควันที่เกิดจากการทำอาหารลอยคลุ้ง และกลิ่นที่แรงจนแสบจมูก ในที่สุดก็มาถึงร้านหนังสือสือ ผมเดินวนไปยังชั้นวางหนังสือ มีแต่หนังสือเดิมที่วางอยู่บนชั้นแทรกด้วยหนังสือเล่มใหม่บ้าง เดินดูเดินเล่นไปเรื่อยๆจนมาถึงมุมอับๆมุมเดิมของร้าน หนังสือปกเฉยๆเล่มเดิมที่วางอยู่ชั้นล่างสุดมันตกลงมาขวางหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมเริ่มรู้สึกเอะใจ ทั้งที่เล่มนั้นมันวางอยู่ตรงจุดที่ไม่น่าจะตกได้ คงไม่มีใครด้วยที่จะเล่นพิเรนแบบนี้ ผมเดินเข้าไปหามัน หยิบมันขึ้นมาดู โดยปกติ หนังสือทุกเล่มในร้านมันจะต้องมีเล่นสำรองอยู่ด้านหลังหรือหากมันขายดีจนเหลือแค่เล่นเดียว มันควรจะได้อยู่ในตำแหน่งหนังสือขายดี แล้วมันมาได้ยังไง ที่หน้าหลังไม่มีระบุวันที่ผลิต สำนักพิมพ์ หรือคำอธิบายใด ไม่มีบาร์โคด ที่ด้านหน้าก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร ไม่มีชื่อเรื่อง ไม่มีผู้แต่ง แล้วนี่มันคือหนังสืออะไรกันแน่ ด้วยความสงใส ถ้าหากมันไม่บอกอะไรเราเลยแล้วใครเขาจะอยากครอบครอง ผมเปิดดูด้านในเล่ม มีข้อความไม่รู้ว่าเขียนเป้นภาษาอะไร ผมพยายามแปลในมือถืออะไรกลับไม่พบต้นกำเนิดของภาษานั้น มันเป็นตัวหยักพันกันวุ่นวาย ที่แปลกคือมีตัวอักษรเพียงหน้าเดียว ที่เหลือด้านในเป็นรูปภาพ ภาพด้านในมีรูปสัตว์รูปร่างหน้ากลัวบางตัวรูปร่างคล้ายมนุษย์บางตัวครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์บางตัวเป็นสัตว์ หนังสือทั้งเล่มนั้นมีประมานร้อนกว่าหน้า มีภาพสัตว์ประหลาดเพียงสิบสามตัวเท่านั้น บางตัวแลดูโหดร้ายบางตัวดูน่ารัก หนังสือเล่มนี้มันคือหนังสืออะไรกันแน่ ผมเริ่มอยากรู้ซะแล้วสิ ผมหยิบหนังสือเล่มนั้นสอบถามกับพนังงานที่ช่องจ่ายเงิน เขาบอกว่าไม่ใช่หนังสือของทางร้าน เอ้า!ผมเห็นมันอยู่ที่ร้านนี้มาโดยตลอด ทุกๆครั้งที่มาที่นี่จะเห็นเล่นนี้ตกอยู่บนพื้นเสมอ(คิดในใจ) อึ้งในคำตอบสักพักแล้วเดินออกจากร้านพร้อมหนังสือเล่มนั้น สามารถพามันออกได้อย่างง่ายดายราวกับว่าผมนำมันเข้ามา ถึงอย่างไรผมก็ยังคาใจกับคำตอบนั่นอยู่
แว่นทิ้งข้อสงใสให้ได้คิดอยู่ตลอด ผมอยากรู้ว่าวันหยุดแบบนี้ เด็กใหม่อย่างเขาจะไปไหน ในมือเขาถือหนังสืออะไร มันมีอะไรที่ปิดบังในหนังสือนั้นหรือป่าว คงต้องปล่อยให้ความคิดนั้นมันเลือนหายไป สิ่งที่คิดจะทำหลังจากที่ผมออกจากบ้านคือการออกค้นหาหนังสือสักเล่มที่ต้องการความช่วยเหลือ ข้างในใจลึกๆของผมคืออยากผจญภัยมากกว่า ตกเย็นผมออกไปร้านหนังสือร้านเดิมในตรอกเล็กๆที่มีคนมากมาย ตอนเดินอยู่นั้น บรรยากาศรอบตัวมีเสียงของเหล่านักขายที่เสนอราคาดีๆให้กับลูกค้า ควันที่เกิดจากการทำอาหารลอยคลุ้ง และกลิ่นที่แรงจนแสบจมูก ในที่สุดก็มาถึงร้านหนังสือสือ ผมเดินวนไปยังชั้นวางหนังสือ มีแต่หนังสือเดิมที่วางอยู่บนชั้นแทรกด้วยหนังสือเล่มใหม่บ้าง เดินดูเดินเล่นไปเรื่อยๆจนมาถึงมุมอับๆมุมเดิมของร้าน หนังสือปกเฉยๆเล่มเดิมที่วางอยู่ชั้นล่างสุดมันตกลงมาขวางหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมเริ่มรู้สึกเอะใจ ทั้งที่เล่มนั้นมันวางอยู่ตรงจุดที่ไม่น่าจะตกได้ คงไม่มีใครด้วยที่จะเล่นพิเรนแบบนี้ ผมเดินเข้าไปหามัน หยิบมันขึ้นมาดู โดยปกติ หนังสือทุกเล่มในร้านมันจะต้องมีเล่นสำรองอยู่ด้านหลังหรือหากมันขายดีจนเหลือแค่เล่นเดียว มันควรจะได้อยู่ในตำแหน่งหนังสือขายดี แล้วมันมาได้ยังไง ที่หน้าหลังไม่มีระบุวันที่ผลิต สำนักพิมพ์ หรือคำอธิบายใด ไม่มีบาร์โคด ที่ด้านหน้าก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร ไม่มีชื่อเรื่อง ไม่มีผู้แต่ง แล้วนี่มันคือหนังสืออะไรกันแน่ ด้วยความสงใส ถ้าหากมันไม่บอกอะไรเราเลยแล้วใครเขาจะอยากครอบครอง ผมเปิดดูด้านในเล่ม มีข้อความไม่รู้ว่าเขียนเป้นภาษาอะไร ผมพยายามแปลในมือถืออะไรกลับไม่พบต้นกำเนิดของภาษานั้น มันเป็นตัวหยักพันกันวุ่นวาย ที่แปลกคือมีตัวอักษรเพียงหน้าเดียว ที่เหลือด้านในเป็นรูปภาพ ภาพด้านในมีรูปสัตว์รูปร่างหน้ากลัวบางตัวรูปร่างคล้ายมนุษย์บางตัวครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์บางตัวเป็นสัตว์ หนังสือทั้งเล่มนั้นมีประมานร้อนกว่าหน้า มีภาพสัตว์ประหลาดเพียงสิบสามตัวเท่านั้น บางตัวแลดูโหดร้ายบางตัวดูน่ารัก หนังสือเล่มนี้มันคือหนังสืออะไรกันแน่ ผมเริ่มอยากรู้ซะแล้วสิ ผมหยิบหนังสือเล่มนั้นสอบถามกับพนังงานที่ช่องจ่ายเงิน เขาบอกว่าไม่ใช่หนังสือของทางร้าน เอ้า!ผมเห็นมันอยู่ที่ร้านนี้มาโดยตลอด ทุกๆครั้งที่มาที่นี่จะเห็นเล่นนี้ตกอยู่บนพื้นเสมอ(คิดในใจ) อึ้งในคำตอบสักพักแล้วเดินออกจากร้านพร้อมหนังสือเล่มนั้น สามารถพามันออกได้อย่างง่ายดายราวกับว่าผมนำมันเข้ามา ถึงอย่างไรผมก็ยังคาใจกับคำตอบนั่นอยู่
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ