มหัศจรรย์ตัวหนังสือ ภาค หนังสือฝังปีศาจ
เขียนโดย คางคก
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.06 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.09 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ครั้งใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
มันจะดีหรือป่าวถ้าเราสามารถบริหารจินตการได้ บนโลกสีเขียวกว้างใหญ่ใบนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ เราจะไม่มีทางรู้ว่าต้นกำเนิดของแต่ละเรื่องนั่นเป็นมาอย่างไร เราจะรู้ก็ต่อเมื่อมันเขียนเสร็จและเราอ่านมันจนจบ ในหน้าหนังสือเรื่องราวที่ถูกกำหนดมักเป็นแบบเดียวกันไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ต่อให้หยิบมันขึ้นมาอ่านเป็นร้อยๆครั้งหนังสือ เรื่องราว ยังคงเป็นดังเดิมเหมือนที่เคยๆอ่าน แต่จริงแล้วหนังสือทุกเล่มมีจิตวิญญาณที่ฝังลึกลงไปมากกว่านั้น รอให้ผู้ที่มีความเชื่อในจินตนาการได้เข้ามาสัมผัส ไม่แน่ ยามใดที่คุณย่างเท้าเข้าร้านหนังสือ คุณอาจได้ยินหรือรู้สึกถึงการเรียกหา นั้นหมายความว่า มีหนังสือบางเล่มรอค่อยที่จะได้พบเจ้าของผู้ที่จะครอบครองมัน หรือรอคอยผู้ช่วยเหลือ ซึ่งนั้นิาจเป็นคุณ
บทที่ ๑
เช้าวันแรกของภาคเรียนในมหาวิทยาลัย นักศึกษามากมายเดินทางมากันตามปกติ ผมบาสนักศึกษาที่เพิ่งผ่านเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของจินตนาการ กลิ่นการผจญภัยความหวาดกลัวความยินดียังคงติดจมูก ภาพที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่ายังคงติดตาตลึงใจ ทั้งหมดนั้นไม่ได้มีผลใดๆต่อมันสมองที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของผม ผมยังคงรู้สึกสนุกและตื่นเต้น แต่ ผมอยากจะบอกเรื่องพวกนี้ให้เพื่อนๆฟังใจจะขาดเพราะอยากให้พวกพ้องได้สัมผัสถึงความเป็นไปได้และการมีอยู่ของโลก ใครละที่ควรจะได้รับรู้เรื่องราวสุดมหัศจรรย์นี้ เพราะจะปกติผมมักถูกมองว่าบ้าอยู่แล้วขืนพูดบอกใครมั่วซั่วได้ถูกจับลงโรงพยาบาล ข้อหาวิกลจริตแน่ๆ
ขณะที่นั่งรออาจารย์ในชั้นเรียน บาสยังคิดเรื่องที่จะบอกให้ใครสักคนรู้แต่ใครคนนั้นต้องเป็นคนที่เชื่อในจินตนาการของตัวเขาเอง เพื่อนร่วมห้องทยอยเข้ามานั่ง อาจารย์ก็เช่น อาจารย์เดินมานั่งที่โต๊ะไม้เก่าๆที่รอวันปล้ดกระเศียรหรือไม่ก็หักขาก้นอาจารย์ ผมมองดูและจินตนาการถึงขาเก้าอี้ไม้ที่ค่อยๆเคลื่อน แล้วก็หักลงกับพื้น ส่วนอาจารย์คงจะนอนแผ่หราขาชี้กระดานดำ ผมแอบยิ้มกับหัวเราะเบาๆจนเพื่อนข้างหันมามอง มันคงได้เกิดขึ้นแน่ๆแต่จะไม่ใช่วันนี้ ระหว่างการเช็คชื่อก็มีเด็กหนุ่มคนนึง สงใสจะเป็นเด็กใหม่โผล่เข้ามา ทุกสายตาในห้องจับจ้องมาที่นายแว่นผมยาวแต่งตัวถูกระเบียบทุกอย่าง รวมถึงบาสที่คาบปากกาอยู่ในปาก เด็กคนนั้นชื่อแว่น ท่าทางคงจะเป็นเด็กเรียนเก่ง แว่นเดินมานั่งข้างผม ผมมองพร้อมส่งรอยยิ้มทักทาย หลังเลิกเรียนทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ หางตาข้างหนึ่งกันไปเห็นแว่น เด็กใหม่กำลังเดินกลับ เขาก้มหน้าก้มตาเดินไม่สนใจใคร ท่าทางเหมือนเขากลัวหรือมีอะไรปิดบังอยู่ เพราะตั้งแต่ที่มาเขายังไม่เข้ากลุ่มเพื่อนคนไหนเลย
หลังจากที่กลับจากมหาลัย ภาพที่นายแว่นทำท่าทางเหมือนมีพิรุจ ค่อยหลบตาผู้คนอยู่ตลอดเวลา ยังคงวนเวียนเป็นภาพประกอบในสมอง สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ไม่ใช่เข้าไปสืบหาอะไรจากหมดนั้น แต่ควรจะเป็นการหาหนังสือที่ต้องความช่วยเหลือจะดีกว่า ส่วนนายแว่นก็ปล่อยเขาไปจนกว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับใครๆแล้วค่อยตามไปสืบหาเพื่อจัดการเขาทีหลัง คิดๆดูแล้วท่าทางแบบนั้นคงไม่น่ามีอะไรต้องเป็นห่วง ผมหยิบปากกาที่พกติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปยังที่ได้ออกมาดู เมื่อใดที่ใช้สายตาจับจ้องไปที่มัน มันทำให้เกิดจินตนาการแปลกใหม่ขึ้นมามากมาย ตอนนี้ความรู้สึกผม อยากกลับเข้าไปในหนังสืออีกครั้ง แต่ผมจะเข้าไปไม่ได้ถ้าไม่มีการร้องขอ ผมจะนั้งรออยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้ ผมต้องออกตามหา และเป้าหมายก็คือร้านหนังสือ
ร้านหนังสือร้านเดิมๆที่เดิมๆ ผมใช้เวลานานพอสมควรมองดูหนังสือทุกเล่มบนชั้นวางในร้านกระดาษเข้าเล่ม กลิ่นกระดาษเปรียบเสมือนยากล่อมประสาทที่สูดดมเข้าไปเล่นทำให้น้ำแดงในสมองไหลได้ดี ความคิดต่างๆเริ่มทำงาน ผมเดินดูมาเรื่อยๆจนถึงมุมหนังสือขายดี สิ่งที่คิดว่าจะมีหนังสือสักเล่มที่เราการช่วยเหลือ มันกลับไม่มีสำหรับวันนี้ ระยะที่กำลังจะเดินออกจากร้าน มีหนังสือหน้าปกเฉยๆหล่นลงมากับพื้นทั้งที่มันวางอยู่ชั้นล่างสุด ผมหันหลังกลับไปมอง เดินหยิบมันขึ้นมาว่างไว้ที่เดิม ผมเดินออกจากร้านไปโดยที่ไม่มีหนังสือเล่มใดติดมือกลับมา
ระหว่างที่เดินอยู่ในซอยที่ผู้คนพลุกพล่านมีลุงแก่ๆ เดินกลังค่อมมาชนจนตัวผมหวุนไปสามร้อยหกสิบองศา ตาลุงนั้นยังคงเดินฝ่าฝูงชนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หันหลังกลับ พร้อมกับเอะใจ เพราะลักษณะลุงคนเมื่อกี้เหมืนกับตาลุงฟันหลอที่ให้ปากกาเรามา จึงตัดสินใจหลังกลับพยายามแหวกฝูงชนเพื่อตามลุงให้ทันแต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะแกหายไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะเดินได้ไวขนาดนั้นทั้งร่างกายที่ไม่อำนวยกับผู้คนที่มากมายแต่แกกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากที่พยายามที่จะตามให้ทันเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นตาลุงฟันหลอสุดท้ายต้องล้มเลิก กว่าจะไปถึงยานพาหนะก็ต้องแหวกมวลมหาประชาชนออกไปให้ได้ ซอยนี้ผู้คนมาจับจ่ายใช่สอยเลือกหาสิ่งที่ต้องการ
วันนี้นอกจากจะไม่ได้หนังสือแล้วยังเสียเวลาทำการบ้านไปตั้งมาก ตอนนี้รู้สึกว่าร่างดายกายต้องการตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัวลงบนที่นอน ส่วนน้ำไม่ต้องห่วง อาบทีหลัง นี่แหละวิถีแห่งบุรุษ
ติดตามตอนต่อไป
W.N.Neonpoo
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ