[นิยาย] {Fic Naruto}ซีรีย์รักที่ทรมาน
เขียนโดย PhingYanchan
วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.55 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 01.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
23) หยุดทรมานสักที!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Ino talk
15:58
หลังจากที่ซาอิ..กลบเกลื่อนทุกคนว่ามีแข่งวาดรูป ฉันก็โทรไปหาเขาหลายรอบ
ตื้ด....ตื้ด....
"ทำไมไม่รับนะ ฉันขอโทษนะซาอิ..."
"อิโนะปล่อยเขาไปเถอะ ซาอิน่ะเสแสร้งเก่งจะตาย"
"แต่เรื่องนี้ฉันคุยกับซาอิแล้วว่าจะช่วยกันบริหารงานย่อยของซาอิ...แต่ฉันกับนอกสัญญา ฉันเสียใจ...."
"แก ซาอิน่ะเป็นลูกชายคนที่2ของเจ้าของผลงานจิตรกรรมระดับประเทศเลยนะ แต่น่าเสียดายที่ลูกชายคนโตของเขาเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวคือโรคหอบ ที่มีอาการเหนื่อยง่ายและเกิดอาการไอรุนแรงทำให้เสมหะที่ออกมาขับออกมาเป็นเลือดแทน แต่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาก็ปิดบังมาตลอดเพื่อให้ครอบครัวสบายใจ ไม่นานเท่าไหร่พ่อของเขาก็เสียชีวิตเพราะโรคเดียวกันกับที่เขาเป็น ทุกวันเขาต้องอยู่กับซาอิตลอด มีครั้งนึง....ที่ซาอิคิดอยากไปเที่ยวในป่า เขารู้ตัวว่าเขาเป็นอะไรอยู่แต่อยากให้น้องชายของเขามีความสุขก็เลยต้องไปด้วย การเดินทางในป่าเขาก็ไอเป็นระยะๆและเริ่มเหนื่อยเรื่อยๆจนขอพัก เขาคุยกับซาอิ ว่า"ถ้ามีบางอย่างที่พี่ไม่ได้บอกก็ขอให้นายยกโทษให้ด้วยนะ ถ้าพี่ไม่อยู่ นายจะต้องอยู่ต่อไปให้ได้นะ" ซาอิสงสัยเล็กน้อยก่อนอาการของพี่ชายเขาจะรุนแรงขึ้น อาการไอเป็นเลือดของเขาก็ออกมาให้ซาอิเห็น ซาอิก็รีบขอกลับไปที่บ้านแล้วรีบไปส่งพี่ชายของเขาไปโรงพยาบาล..."
"มันคือเรื่องจริงหรอ?"ฉันขอตัดช่วงของเทมาริออกทั้งหมด
"จริง...ฟังต่อนะ...หลังจากที่ไปส่งที่โรงพยาบาลพี่ของเขาก็นอนที่ห้องICU หมอบอกซาอิว่า"ผู้ชายคนนี้น่ะมาหาหมอหลายรอบแล้วนะแต่โรคที่เขาเป็นนั้นมันหายยากมาก อาจจะไม่รอดคืนนี้ก็ได้นะ" ซาอิตกใจมากเพราะที่พี่ชายหายไปหลายวันกลับบ้านช้าเพราะ...แอบไปหาหมอแล้วไม่ยอมบอกอะไรให้คนในบ้านฟัง ซาอิเข้าไปหาพี่ชายของเขาแล้วพี่ชายก็บอกเขาว่า"ไม่ว่า...โลกของเราจะร้ายแค่ไหน...ก็ยิ้มให้ไปก่อนนะเพราะการยิ้มบางครั้งก็อาจทำให้โลกเข้าใจบ้างก็ได้ พินัยกรรมที่พ่อ.....เขียนเอาไว้...สมบัติและมรดกทั้งหมด...อยู่ในนี้ทั้งหมดแล้ว" ซาอิหยิบขึ้นมาอ่านปรากฏว่า...พินัยกรรมทั้งหมด ที่มีชื่อพี่ชายของตัวเองทั้งหมดกลับถูกปรับเปลี่ยนเป็นชื่อของตัวเขาเอง ซาอินิ่งเงียบก่อนน้ำตาจะไหล พี่ชายของเขายิ้มให้ก่อนจะจากไปอย่างสงบ"
"ทุกอย่างตอนนี้เขาก็แบกภาระอยู่คนเดียวงั้นหรอ?"
"ใช่ซาอิแบกภาระการรักษาพี่ชายตัวเองอยู่ทั้งหมดรวมของพ่อเขาด้วย ประมาณ...350,000"
"ห๊ะ! ซาอิ...ทำไมเขาไม่บอกฉันบ้างในเวลาอย่างนี้?!!"
"มันไม่ใช่ความผิด แต่มันเป็นแค่การปิดบังที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจ ที่ซาอิทำอยู่คือการที่ทำให้เธอสบายใจ"
"แต่ฉัน!...แต่ฉันไม่สบายใจเพราะเขา...เพราะเขาทำอย่างนี้กับฉัน..."น้ำตาของฉันไหลเป็นทางยาวก่อนจะนั่งลงกับพื้น
"พวกนายออกไปก่อนเรื่องน้ำเน่าดราม่าเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง"
"เทมาริ!แกเห็นเป็นเรื่องน้ำเน่าหรอ?!"เท็นๆถาม
"ที่ฉันเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้ไอพวกนั้นต้องมานั่งฟังเสียงผู้หญิงอย่างพวกเราร้องไห้ไง"
"ขอบคุณที่พูดมาแต่ฉันว่ามันก็น้ำเน่านั่นแหละ"
"...."
"ฉันน่ะควรเอาใจใส่ชีวิตของเขาให้มากกว่านี้ฉันไม่ควรมานั่งเศร้าหรือนั่งพูดเรื่องบ้าๆด้วยซ้ำไป"
"ถ้าความรักมันจะทรมานขนาดนี้...มันควรไม่ต้องมีด้วยซ้ำไป ความรักมันซับซ้อนและมันยังให้มนุษย์หลงผิดอยู่ตรงนั้นเป็นชาติ"เท็นๆพูดให้ฉันฟัง
"มันก็ถูก แต่บางทีเราก็ต้องการมันนะ"เทมาริจับไหล่ฉันแล้วมองเท็นๆ
Shikamaru talk
หลังจากที่โดนแม่...ทูนหัวไล่ออกมาข้างนอกผมก็กลับเห็นซาอินั่งอยู่ที่ขั้นบันได
"นายเป็นอะไรรึเปล่า?"
"เปล่าครับผมไม่ได้เป็นอะไร แค่...."
"บอกมาตรงๆก็ได้รอฟัง"ผมเอามือท้าวคางฟัง
"...คือ...ผมมันเป็นแค่ลูกนักจิตรกรคนนึงที่มีหนี้อยู่350,000 แล้วตอนนี้เหลือ200,000ที่ต้องผ่อนต่อ ผมน่ะคบกับคุณอิโนะไม่ได้หมายความว่าผมจะเกาะเธอกินหรอกนะแต่เป็นเพราะเพื่อนแล้วก็เป็นเพราะความรักด้วยส่วนหนึ่ง"
"ที่เพราะเพื่อนคือยังไง?"
"ผมก็อยากเป็นส่วนนึงที่ช่วยเพื่อน แต่คุณอิโนะไม่บอกผมเลยว่าเขาจะเป็นหุ้นกับทางฮาตาะเคะ หึๆแต่มันก็ไม่เกี่ยวหรอกนะที่ว่าเป็นหุ้นกับทางไหนแล้วต้องบอก แต่คุณอิโนสัญญากับผมไว้ว่าจะเป็นคนช่วยให้ธุรกิจอีกส่วนหนึ่งของผมดีขึ้นแต่เธอนอกสัญญาที่ให้กันไว้ อีกอย่างนึงคือผมเป็นเพื่อนของคุณซาสึเกะด้วยแหละถึงอยากช่วย"
"นายงอนเรื่องแค่นี้หรอ?"
"เปล่าครับ...แต่ผมดูเป็นตัวประกอบมากกว่าถึงขอออกมา" ปิดบังชัดๆ(-_-#)
"นายงอนอิโนะ ฉันรู้-"
"เปล่านะครับ! ผมไม่ได้งอนเธอสักหน่อย!"ซาอิรีบพูดแทรกผม
"ถ้าไม่ได้งอนแล้วจะรีบพูดแทรกทำไม?"
"เอิ่ม....แค่...."
"พูดไม่ออกล่ะสิ อิโนะน่ะสนิทกับซากุระมากไม่ว่าฝ่ายไหนจะมีความเศร้าหรือความสุขอีกฝั่งก็จะมีความรู้สึกเหมือนกันตลอด แล้วก็อีกอย่างอิโนะยังมีร้านดอกไม้ อิโนะบริหารทุกอย่างรวมถึงบริษัทในอนาคตของเธออีกด้วย นายเองก็อย่าพึ่งเธอมากมายเลย เรื่องหุ้นส่วน,ธุรกิจส่วนตัวที่เป็นร้านดอกไม้และบริษัท แค่นี้ยัยนี่ก็จะบ้าตายอยู่แล้ว ถ้าจะให้เธอมาดูแลธุรกิจนาย.....นายคงรู้นะว่าเธอลำบากขนาดไหน"
"....."ซาอิหลบตาผม
"ถ้าซากุระรู้ว่านายทำอิโนะร้องไห้ นายไม่เหลือซากให้ฝังแน่ซาอิ เตือนด้วยความหวังดีไปหาอิโนะซะ"
"ผม....ผมผิดเอง ผมไม่เคยถามเกี่ยวกับบริษัทหรือสิ่งที่เธอรับผิดชอบอยู่เลย ผมเอาแต่พึ่งเธอ…"
"....งั้นก็ไปง้อซะสิ รอเป็นคุณชายอยู่ได้"
"....ครับ!"
"ฉันจะรอดูผลงานนายละกัน"
Sai talk
"อิโนะ....."
"ออกไปไกลๆส้นเท้าเพื่อนฉันนะซาอิ!"เท็นง้างเท้าขึ้นมาก่อนจะพูด
"เท็นๆเรื่องของพวกเขา เราควรออกไปดีกว่านะ"
"เทมาริ!!! แกไม่เห็นหรอว่ามันทำให้อิโนะร้องไห้น่ะ!"
"เนจิ!!! มาลากแฟนนายไปดิ!"เทมาริเปิดประตูไปเรียกเนจิ
"ปล่อยฉันนะ!! ฉันบอกให้ปล่อยไง!!!!...."ไม่นานเสียงของเท็นๆก็ดับลงหลังจากที่เนจิอุ้มออกจากห้องไป
"ซาอิ...อิโนะน่ะหลับไปแล้วล่ะอยู่ที่ห้องม.3/3 นายไปคุยกับอิโนะเถอะ ยัยนั่นหลับพร้อมน้ำตาเลยล่ะ ส่งข่าวมาด้วยนะ พวกฉันจะไปรอข้างล่าง"
...ห้องม.3/3
อิโนะไม่ได้หลับแต่ร้องไห้ริมหน้าต่างแสงของตะวันที่กำลังคล้อยตกดินสะท้อนกับเส้นผมสีทองของเธอ เสน่ห์ของเธอไม่ได้มีแค่นั้น ที่ผมกลับรักเธอคือรอยยิ้มและใบหน้าที่สดใสของเธอ
"ฮึด!....ซาอิฉันขอโทษ...."
"...."
"ฉันแค่อยากให้เพื่อนมีความสุขก็เท่านั้น...ฉันขอโทษ..."
"หยุดร้องไห้เถอะครับ..."
"ซาอิ!!!...ฉันขอโทษ!!!!ที่ฉัน-"เธอได้ยินเสียงของผมเธอหันมาในท่าทีตกใจแล้วโผลเข้ากอดผมแล้วรีบพูดความในใจทั้งหมดก่อนที่เธอจะพูดออกมาทั้งหมดผมใช้นิ้วชี้ปิดปากเธอไว้แล้วปาดน้ำตาเธอออก
"ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ หึๆยูว์แค่คิดมากไปเท่านั้น...ความจริงยูว์ไม่ต้องร้องไห้หรือขอโทษเค้ามากมายหรอก"
"ซาอิ!...ทำไมถึงพูดเล่นอย่างนี้ล่ะ?!"
"อะไร? ผมไม่ได้พูดเล่นสักหน่อย ความจริงผมก็เอาแต่พึ่งคุณคนเดียวไม่เคยคิดอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย ผมควรขอโทษคุณมากกว่า ขอบคุณที่คิดจะช่วยผมอยู่หลายครั้งแล้วก็ขอบคุณที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เรามาเจอกัน..."
"...ซา...อิ ขอบคุณที่ไม่โกรธฉัน ฮือ~" อิโนะถึงจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แต่จิตใจก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี เฮ่อ~
(-_-||)
....
"เห้ยๆ! ออกมาแล้วๆ!"คิบะสะกิดเท็นๆ
"อิ...อิโนะ!!!"เท็นๆรีบพูด
"เบาๆสิยัยหมวย!"เทมาริหันมาว่าเท็นๆ
สุดท้ายผมก็เข้าใจทุกอย่างว่า บางทีเราควรช่วยกันมากกว่าพึ่งกันและกัน บางอย่างที่เราเข้าใจควรเข้าใจให้มันลึกซึ้งมากกว่านี้
Sakura talk
เมื่อวันที่ซาสึเกะต้องไปก็มาถึง....
08:39
ตอนเช้าที่ดูเศร้าหมอง แต่ในวันนี้ฉันจะเป็นคนทำให้มันสดใสเอง!
ตอนนี้พี่คาคาชิอยู่กับฉันที่ห้องพักของเขา เขาฟื้นตัวเร็วมากจนหมออนุญาตให้กลับมาได้
"ซากุระ...."เขาเดินมาด้านหลังฉันแล้วพูดกับฉันด้วยเสียงที่เรียบเฉย
"คะ?"
"วันนี้ซาสึเกะน่ะ...."
"ทราบค่ะ ฉันจะไปโรงเรียนค่ะ แล้ววันนี้ฉันจะต้องมีอิสระ"
"....เฮ่อ~"เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะตีหน้านิ่ง
"เป็นอะไรไปคะ?"
"เปล่า"
"จริงหรอ?"
"ครับ"
"ฉันจะไปบอกซาสึเกะว่า-"
"เธอแน่ใจหรอว่าจะบอกซาสึเกะได้ว่าเธอจะตัดขาดกับเขาแค่นั้น?"เขาใช้นิ้วชี้แตะปากฉันแล้วทำหน้าเศร้า
"ตัดขาดอดีตค่ะ แต่ที่ตัดไม่ได้คือเพื่อนแต่ฉันไม่ได้คุยกับเขามานานแล้วคงเป็นได้แค่คนที่เคยรู้จักน่ะค่ะ"
"ขอให้มันผ่านไปด้วยดีนะฉันเป็นห่วง ใส่นาฬิกาเรือนนี้ไปด้วยนะฉันซื้อมาให้"เขาหยิบนาฬิกาเรือนหนึ่งที่มีเพชรดอกซากุระสีขาวกับเกสรสีแดงอยู่ตรงกลางหน้าปัดนาฬิกาให้ฉัน ถึงมันจะเล็กแต่มันล้ำค่ามาก
"หา?! ฉันรับมันไม่ได้!"...สะ..ใส่ให้ไปซะแล้ว~(•///•)
"ใส่ไปเถอะ ขอให้เธอได้มองเวลาจากนาฬิกานี้ก็พอ ถึงแม้คนจีนจะมองว่าการให้นาฬิกาเป็นการทำให้วันที่เรามีให้กันจะลดน้อยลงเหมือนนาฬิกาที่มีเวลาแค่24ชั่วโมง แต่สำหรับฉันคือขอให้กาลเวลาที่เรามีให้กันเดินหน้าต่อไปเหมือนนาฬิกาที่วนอยู่365วันของทุกปีในวันนึงที่มีเวลาอยู่24ชั่วโมง"
"ความหมายของนาฬิกาเรือนนี้มีค่ากับฉันมาก ขอบคุณที่ซื้อมาให้นะคะ"ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะเดินทางไปโรงเรียน....
โรงเรียนโคโนฮะ
09:43
ฉันโทรไปหาอิโนะให้เธอโทรหาซาสึเกะต่อ
"โทรหาซาสึเกะด้วย ฉันรอที่ดาดฟ้า"
(ทำไมนัดเร็วจังไหนบอกตอนบ่าย?)
"เดี๋ยวเขาจะตกเครื่องแล้วจะไม่ได้ไปกับว่าที่ภรรยาเขา"
(โห~เอางั้นเลยหรองั้นก็ได้) คุยกันได้สักพักฉันก็ต้องตัดสายลงเพราะชายที่ฉันต้องเคลียร์ปัญหาในวันนี้เขามาถึงที่นี่แล้ว
"รอนานมั้ย?"
".........."ฉันไม่ตอบเขาเพราะตอนที่ฉันคบกับเขา เขาก็ทำอย่างนี้ทุกครั้งในเวลาที่ฉันถามอะไรไป
"คือ....."มัวแต่อั้มอึ้งอยู่นั่นแหละ
"อย่าให้ฉันต้องพานายเข้าเรื่องซาสึเกะ...."
"ฉันถูกพ่อบังคับให้หมั้นกับคาริน ที่ฉันเลิกกับเธอเพราะเหตุผลนี้-"
"...แค่นี้หรอ? นายควรจะรั้งพ่อของนายไม่ก็ต่อลองนะ?"
"ฉันไม่ทันคิด ฉันรู้อย่างเดียวคือ...พ่อจะส่งคนไปทำร้ายพ่อกับแม่ของเธอรวมถึงเธอด้วยซากุระ"
"หึ! นี่คือตระกูลอุจิวะหรอ? ทำไมป่าเถื่อนและรุนแรงอย่างนี้ล่ะ นี่คือการหาหุ้นส่วนของอุจิวะ วิธีการคือส่งคนมาข่มขู่ไม่ก็ฆ่าทิ้งเสีย?"
"ที่ฉันต้องทำอย่างนั้นมันเพื่อเธอทั้งนั้นนะซากุระ ที่เลิกเพราะมีตระกูลอื่นมาเล็งตระกูลเธอไว้ด้วย ฮาตาเคะเองก็ต้องการเธอเหมือนกัน เพื่อเอาเธอมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาบริษัทของตนเอง"
"แต่การเป็นเครื่องมือของฮาตาเคะมันยังดีกว่าพวกป่าเถื่อนอย่างนายเลย ขนาดกรมตำรวจอุจิวะแต่ละที่ยังไม่รู้จักพัฒนาตัวเองแล้วจะให้ตระกูลอื่นมาช่วยอีกหรอ?"
"ซากุระ....วันนี้ฉันจะไปอเมริกาเธอไม่ลองคิดหน่อยหรอว่าฉันอยู่ที่นั่นจะเป็นยังไง?"
"ฉันไม่คิด....เพราะนายเองก็มีว่าที่ภรรยาของนายอยู่แล้ว ถ้านายจะไปล่ะก็ฝากบอกคารินด้วยนะว่า 'ฉันไม่ได้แย่งของของเธอมา' ส่วนนาย....ฉันขอให้เราจบกันแค่นี้!!! ไม่มีอะไรทั้งนั้นแล้ว เราเป็นแค่เพื่อนห่างๆก็พอ"เขาก้มหน้าลง
"หึ...หึๆ ซากุระเธอรู้อะไรมั้ย?"ซาสึเกะขำในลำคอแล้วเงยหน้าขึ้นมาพร้อมแสยะยิ้มมาให้ฉัน
"..!!!!!!"ตาของเขาเปลี่ยนจากสีนิลเย็นชากลายเป็นสีเลือดที่ดูน่ากลัวมันทำให้ฉันยืนแข็งทื่อเหมือนโดนสะกดจิต
"กลัวอะไรหรอซากุระ?"เขาแสยะยิ้มพร้อมเดินมาหาฉัน ตาสีเลือดมองฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ฉันเจ็บนะ! ปล่อยฉัน!"ซาสึเกะจับข้อมือฉันลงบรรไดไปชั้นสามอย่างรวดเร็ว
"เจ็บหรอ?.....เธอรู้อะไรมั้ย?!ว่าเวลาที่เธอไปอยู่กับคนหลอกลวงอย่างคาคาชิฉันจะเป็นยังไง แล้วเธอรู้มั้ย?ว่าฉันอยู่คนเดียวมาตลอดฉันไม่ได้อยู่กับคารินด้วยซ้ำไปแล้วฉันยังถูกพี่ชายแท้ๆอย่างอิทาจิขู่ฆ่าฉันอีก แล้วยังถูก'เนตรวงแหวน' ครอบงำอีก เนตรที่ได้จากต้นตระกูล...คนที่มีเนตรนี้ได้มีแค่คนในอุจิวะเท่านั้นส่วนคนหลอกลวงอย่างคาคาชิมันเป็นแค่.....เศษสวะ!"
"พูดอะไรของนายซาสึเกะ!!!!"ฉันโกรธในสิ่งที่เขาพูดแต่มันก็จริงที่ฉันยังงงและสงสัยมาตลอดที่ผ่านมาเขามักจะมีผ้าปิดตาซ้ายอยู่ตลอดถึงไม่มีผ้าเขาก็มักจะใช้มือปิดไม่ก็หลับตาข้างซ้ายตลอด
"สิ่งที่เธอฟังต่อจากนี้คือความจริงทั้งหมด.....อุจิวะกับฮาตาเคะไม่ได้เป็นตระกูลที่ช่วยเหลือกันจริงๆอย่างที่ใครๆเห็น ความจริงอุจิวะกับฮาตาเคะเป็นคู่แข่งกันด้วยซ้ำผลัดกันนำและล้าหลังกันมานับไม่ถ้วนแต่ที่มาเป็นหุ้นส่วนกันได้คืออุจิวะขอยุติการแข่งทั้งหมดแล้วเซ็นสัญญาระหว่างตระกูลอุจิวะกับฮาตาเคะ ตอนแรกมันก็ดีๆอยู่แหละ แต่ดันพลาดท่าฮาตาเคะดันเห็นทายาทอุจิวะคนที่สองอย่างฉันกำลังคบกับลูกสาวของฮารุโนะที่เป็นตัวการที่จะฉุดให้สูงและฉุดให้อีกฝ่ายตกต่ำได้ ฮาตาเคะก็วางแผนที่จะครอบครองฮารุโนะ โดยส่งทายาทของตัวเองมานั่นก็คือ... ฮาตาเคะ คาคาชิ ถ้าคาคาชิได้ตัวเธอมาฮาตาเคะก็จะฉีกสัญญาทางอ้อมได้ง่ายๆ!"
"ฉันไม่เข้าใจกับสิ่งที่นายพูด!"
"แล้วนี่ก็คือความจริงที่ฉันต้องเลิกกับเธอ...อุจิวะกำลังล่มสลายเพราะฉะนั้นก็ต้องหาตระกูลอื่นมาช่วยแทนเพราะถ้าฮาตาเคะได้เธอไป ฮาตาเคะก็จะฉีกสัญญาแล้วได้เธอไปง่ายๆ อุจิวะก็ต้องสำรองตระกูลอื่นอยู่แล้วจริงมั้ย?" เขาทำให้ฉันหลงกับคำพูดและตาของเขาก็ทำให้ฉันคล้อยตาม
"...นะ...นายพูดความจริงหรอ?"เขาใช้มือไล้แก้มฉันแล้วเช็ดน้ำตาออก
"จริงสิ ฉันจะโกหกเธอทำไมอีกล่ะ....อีกอย่างนะ คนที่ทำให้เราต้องพรากจากกันไม่ใช่คาริน...ไม่ใช่พ่อฉัน แต่เป็น.........คาคาชิที่เธอเทิดทูนนักหนาว่าเป็นคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ต่างหาก....."
"ซะ...ซาสึเกะ....."เขาจูบที่แก้มฉันแล้วไล่ไปที่คอ....
"หืม? มีอะไรอีกซากุระ?"ฉันเริ่มคล้อยตามกับสิ่งที่เขาทำ ฉันจนมุมกับผู้ชายคนนี้จริงๆ.....
"........."
"เป็นอะไรไป?"ฉันกลับไม่พูดหรืออะไรทั้งนั้นฉันร้องไห้แล้วหลับตาอย่างเดียว ฉันขัดขืนเขาไม่ไหวจนต้องร้องไห้ซ้ำๆ
"ขอร้องล่ะ....ปล่อยฉันไปเถอะ"
"คำขอน่ะจะเป็นจริงแน่ถ้าเธอเป็นของฉันก่อน..."โรงเรียนที่เงียบสงบไม่มีเสียงของลมหรือคนเดินแม้แต่น้อย เพราะปิดเทอมที่2ต่างคนต่างไปพักผ่อนแม้แต่ภารโรงก็ยังกลับ
Writer ค่อยๆอัพไปนะคะเพราะwriteกำลังจะสอบปิดเทอมก็ยังมีกิจกรรมอีกแต่ถ้าว่างๆ ว่างมากๆเลยนะจะมาอัพรัวๆเลยจ้า เจอกันEp.หน้านะจ้ะ บาย~~♡♡
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ