RENNY WALLER

9.9

เขียนโดย Kendo_Jirawat

วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.51 น.

  1 CHAPTER
  8 วิจารณ์
  4,063 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 07.31 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) Merry Christmas

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          ผมชื่อ เรนนี่ วอลเลอร์ เรนนี่ที่แปลว่า ตัวเล็กแต่แข็งแรง เเละนามสกุล วอลเลอร์ ที่แปลว่าผู้ทรงอำนาจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมไม่ได้แข็งแรงและไม่ได้ดูทรงอำนาจสมกับชื่อของผมเอาเสียเลย เพราะผมทั้งตัวเล็กทั้งร่างกายบอบบางและอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม 
 
 
          ว่ากันด้วยวันหยุดช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี1986 โรงเรียนประจำในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะปิดทำการเรียนการสอนและนักเรียนจะเดินทางกลับไปหาพ่อแม่เเละครอบครัว เพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ และโรงเรียนของผมก็เป็นโรงเรียนส่วนน้อยนั้นที่ยังคงเปิดให้มีการสอนหลักสูตรภาษาอยู่ในช่วงวันหยุดยาวนี้ ผมเลือกที่จะลงเรียนในช่วงวันหยุดนี้เพราะมันคือสวรรค์ของนักเรียนของโรงเรียนประจำอย่างพวกเราเลยล่ะ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่นักเรียนประจำอย่างเราจะได้ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่
 
 
          หลังเลิกเรียนเวลาสี่โมงเย็น ผมและรูมเมทของผมทั้งอดัม ริชาร์ด แม็กซ์ และ มาร์คัส รีบกลับมาที่ห้องพักของพวกเรา เพื่อเตรียมแผนหนีเที่ยวในคืนคริสต์มาสอีฟของพวกเรา
 
 
          “อดัมนายคิดว่าคืนนี้พวกเราจะพ้นสายตาของศาสตราจารย์ไซม่อนได้ยังไงกัน?”
 
 
          ผมถามด้วยความกังวลเพราะถ้าเราถูกจับได้ขึ้นมาจริงๆ โทษของพวกเราคราวนี้คงต้องโดนไล่ออกสถานเดียวแน่ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราแอบหนีเที่ยวกัน พวกเราแอบหนีไปเที่ยวกันนอกโรงเรียนแบบนี้ทุกปี และเราก็เคยโดนจับได้มาแล้วถึงสามครั้ง แต่ถ้าจะถามว่าพวกเราเข็ดไหม? คำตอบคือไม่เลยครับ พวกเราเรียน Year13 แล้ว ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้ทำเรื่องสนุกๆและท้าทายเเบบนี้เพราะเราใกล้ที่จะเรียนจบกันแล้ว
 
           “ฉันมีวิธี” อดัมเอ่ยขึ้นมา
 
 
          “ช่วงวันหยุดแบบนี้หลายคนก็กลับบ้านกันหมด ศาสตราจารย์ไซม่อนต้องจับตาดูพวกเราเป็นพิเศษแน่ๆ เราต้องใช้ตัวช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ”
 
 
          “ยังไง?”
 
          แผนของอดัมคือเราจะให้ ลาน่าแฟนสาวของอดัมเอาจดหมายที่พวกเราเขียนไปให้กับศาสตราจารย์ เอลลี่ ผู้ดูแลบ้านพักหญิงดาร์เลเน่ โดยเนื้อหาด้านในเที่พวกเราเขียนคือ ศาสตราจารย์ไซม่อนมีเรื่องสำคัญอยากที่จะให้เธอออกไปพบที่หอประชุมเวลาสามทุ่ม และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าศาสตราจารย์ทั้งสองแอบกิ๊กกันอยู่ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องไปตามนัดอย่างแน่นอน และต่อไปคือการหลอกให้อาจารย์ไซม่อน ไปที่หอประชุมแล้วก็ทั้งสองคนขังไว้ในหอประชุมสักสองถึงสามชั่วโมง พอที่จะให้เรามีเวลานานพอให้เราได้ออกไปสังสรรค์กันข้างนอกโรงเรียน และตัวล่อที่จะไปหลอกศาสตราจารย์ไซม่อนก็คือ...ผมเอง  ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว ผมยืนอยู่ที่หน้าห้องของศาสตราจารย์ไซม่อน 
 
           “ก๊อกๆ” ผมเคาะประตู ก่อนจะหมุนลูกบิดประตูทองเหลืองแล้วก้าวเท้าเข้าไป
 
 
          “ขออนุญาตครับศาสตราจารย์”
 
 
          “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคุณวอลเลอร์”
 
 
          ผมไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากรีบยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ศาสตราจารย์ไซม่อน เนื้อหาในจดหมายก็เหมือนกับฉบับของศาสตราจารย์เอลลี่ คือศาสตราจารย์เอลลี่มีเรื่องสำคัญที่อยากจะให้เขาออกไปพบที่หอประชุมเวลาสามทุ่ม หลังจากยื่นจดหมายให้ศาสตราจารย์ไซม่อนแล้วผมก็รีบวิ่งออกมาจาห้องทันที แล้วตามไปสมทบกับเพื่อนๆที่บริเวณหอประชุม เวลาสามทุ่มตรงศาสตราจารย์เอลลี่เข้ามาที่หอประชุม และสักพักหนึ่งศาสตราจารย์ไซม่อนก็ตามเข้าไปในหอประชุมตามแผน พวกเรารีบล็อกประตูทางเข้าออกของหอประชุมทุกด้านทันที
 
           “พรุ่งนี้เช้าพวกเราซวยแน่”
 
 
          “เอาน่าอย่าคิดมากเลย มองในแง่ดีสิ เราช่วยให้ศาสตราจารย์มีเวลาส่วนตัวที่จะ....กันให้เต็มที่ไง”
 
 
          ภารกิจสำเร็จ มีความสุขกันให้เต็มที่นะครับศาสตราจารย์ พวกผมก็จะออกไปหาความสุขกันข้างนอกเช่นกัน พวกเราไปรวมตัวกันที่ประตูทางตะวันตกของโรงเรียนโดยมีลาน่าและกลุ่มเพื่อนของเธอรออยู่
 
           “เอาล่ะพวกเรามากันครบแล้วใช่ไหม ล่านาเธอได้กุญแจมาหรือเปล่า?”
 
 
          “อื้ม ส่วนเรื่องรถฉันเตรียมไว้แล้ว อยู่ข้างนอก”
 
 
          “เก่งจริงๆเลย ที่รัก” อดัมเอ่ย แล้วดึงลาน่าเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
 
          พวกเราเดินทางออกจากเมืองมาไกลพอสมควรจนมาถึงบ้านของลาน่าของ ลักษณะบ้านของเธอเป็นบ้านไม้ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ บริเวณรอบๆบ้านของเธอต้นไม้ทุกต้นถูกประดับประดาด้วยดวงไฟระยิบระยับหลากหลายรูปแบบ และปาร์ตี้ของของพวกเราก็เริ่มขึ้น
 
 
          สองชั่วโมงผ่านไปขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ในบ้านไม้หลังเล็กที่มีกลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้อง ผมแยกตัวเดินออกมาจากบ้านด้วยความมึนงงนิดๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าไปเพียงแค่สองแก้วเท่านั้น ก็ผมมันพวกคออ่อน ถึงจะเคยเจอสถานการณ์ที่ต้องลองดื่มดูบ้างแต่ผมก็ยังไม่ชินกับมันอยู่ดีล่ะนะ ผมเดินออกมานั่งอยู่ริมทะเลสาบคนเดียวเพื่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อย สักพักก็มีเสียงฝีเท้าเหยียบใบไม้ดังใกล้มาจนมาหยุดอยู่ด้านหลังของผม
 
           “มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้จ๊ะ พ่อคออ่อน”
 
 
          เจ้าของเสียงฝีเท้านั้นคือเบลินด้า เธอคือเพื่อนสาวสุดฮอตของลาน่า เป็นที่รู้กันดีว่าเธอไม่เคยสนใจนักเรียนฝั่งชายของโรงเรียนเราเลยแม้จะถูกรุมจีบอยู่หลายปีก็ตาม จนผมคิดว่าเธอต้องเป็นพวกหญิงรักหญิงแน่ๆ
 
 
          “คิดเรื่องเรื่อยเปื่อยน่ะ แล้วเธอล่ะ ปาร์ตี้ไม่สนุกเหรอถึงได้ออกมาข้างนอก”
 
 
          “ก็คงงั้น...นี่นายเอาสักมวนไหม?”
 
          เธอพูดพร้อมกับยื่นซองบุหรี่ให้ผม ถึงผมจะคอไม่แข็งแต่ถ้าเป็นบุหรี่ก็ยังพอได้อยู่ล่ะนะ
 
 
          “ขอบใจ”
 
          “แล้วตกลงเรื่องเรื่อยเปื่อยของนายน่ะ มันคือเรื่องอะไรล่ะ?”
 
 
          “ฉันก็แค่คิดว่าวันนี้พรุ่งนี้จะเอายังไงต่อเรื่องที่พวกเราแอบหนีออกมา แล้วยังขังศาสตราจารย์ไว้ในหอประชุมอีก”
 
         “ไม่ต้องคิดมากหรอก เราออกมาจนถึงที่นี่แล้วอะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยมันให้มันเกิด ฉันว่าคงจะไม่ถึงขั้นไล่ออกหรอกน่า อย่าคิดมากเลย พวกนายก็หนีเที่ยวแบบนี้ทุกปีไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กลับเข้าไปข้างในกันเถอะ”
 
         “นั่นสินะ...เธอเข้าไปก่อนเถอะ ฉันยังอยากคิดอะไรอีกสักพัก”
 
 
         “ถ้ายังไม่อยากเข้าไปงั้นฉันมีอะไรสนุกๆนายให้ทำ ตามมาสิ”
 
          เราเดินเลาะมาตามริมทะเลสาบ จนมาเจอโขดหินขนาดใหญ่ เบลินด้าปีนขึ้นไปบนโขดหินก้อนนั้น ก่อนจะตะโกนเรียกผมให้ตามขึ้นไป
 
          “เธอจะทำอะไร?”
 
          “ขึ้นมาสิ เดี๋ยวนายก็รู้”
 
          ด้านบนโขดหินสูงนี้ทำให้เรามองเห็นบริเวณรอบๆ ทะเลสาบและเงาสะท้อนของแสงจันทร์ที่ตกกระทบบนผิวน้ำนั้นมันสวยจริงๆ
 
 
          “สวยใช่ไหมล่ะ?”
 
          “อืม”
 
          “ฉันมาพักที่บ้านลาน่าทุกปีช่วงปิดเทอม เลยรู้ว่าที่นี่วิวสวยและบรรยากาศดี และยังรู้อีกเป็นจุดเล่นน้ำในทะเลสาบที่สนุกที่สุดด้วย”
 
 
          “เล่นน้ำ?”
 
 
          ผมพูดไม่ทันขาดคำ เบลินด้าก็ดึงผมกระโดดลงไปในทะเลสาบด้วยกัน ด้วยอุณหภูมิสามองศาเซลเซียส ความรู้สึกนั้นเหมือนโดดลงไปในถังน้ำแข็งที่อยู่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นเลยล่ะ แต่ก็นับเป็นสัมผัสที่แปลกใหม่ดีนะ เพราะผมก็เพิ่งเคยเล่นน้ำในทะเลสาบ ในคืนก่อนวันคริสต์มาสอย่างนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
 
 
          เราขึ้นมานั่งบนโขดหินอีกครั้ง ภายใต้แสงจันทร์เราจ้องหน้ากันสักพัก แล้วผมก็ดึงเบลินด้าเข้ามาจูบ สัมผัสแรกคือกลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากปากของเธอ เธอผละผมออก มันเป็นจูบแรกของผม ซึ่งผมทำอาจจะทำได้ไม่ดีนัก
 
 
          “ทำอะไรของนาย?”
 
          “ขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
 
 
         “ครั้งเเรกสินะ มานี่เดี๋ยวฉันจะสอนนายเอง”
 
 
          เบลินด้าดึงผมเข้ามาจูบอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและดุดัน ผมก็ไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งเสียงขอเบลินด้าปลุกผมขึ้นจากภวังค์
 
 
         “ต้องเเบบนี้สิ ดีขึ้นเยอะเลย เมื่อกี้มันจืดชืดไร้อารมณ์สิ้นดี”
 
 
         “ไปกันเถอะ ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วพวกเราต้องรีบกลับกันแล้ว เดี๋ยวนี้เลย”
 
 
         “อืม...ไปกันเถอะ”
 
 
          เราเดินกลับมาที่หน้าบ้านของลาน่า ภายในบ้านไม้หลังเล็กสภาพทุกคนตอนนี้เมาจนแทบจะไม่มีสติ มีเพียงแค่ผมกับเบลินด้าเท่านั้น ที่ยังคงมีสติสัมปชัญญะอยู่ครบถ้วน เราช่วยกันพยุงทุกคนขึ้นรถก่อนที่เบลินด้าจะยื่นกุญแจรถยนต์ที่เธอหยิบมาจากกระเป๋าเสื้อของอดัมให้กับผม
 
 
         “นายขับรถเป็นใช่ไหม?”
 
 
         “ไม่รู้สิ...ลองดูก็แล้วกัน”
 
 
         “หมายความว่ายังไง? ที่บอกว่าไม่รู้”
 
 
         “ฉันเคยลองขับรถของพ่อเมื่อสองปีก่อน และผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อก็เลยไม่เคยให้ฉันได้เเตะรถยนต์อีกเลยน่ะสิ”
 
         “จะไหวไหมเนี่ย?”
 
 
          วินาทีนี้ก็คงจะไม่มีใครให้เกี่ยงกันแล้วล่ะครับ สุดท้ายผมก็ต้องทำหน้าที่สารถีในครั้งนี้และหวังว่าทุกคนจะโชคดีตลอดการเดินทางไปกับสารถีคนนี้ก็แล้วกัน ผมขับรถส่ายไปส่ายมาตลอดทางโชคดีที่คืนนี้เป็นคืนคริสต์มาสอีฟ ผู้คนต่างฉลองกันอยู่กับครอบครัวของตนเอง ประกอบกับถนนเส้นนี้เป็นถนนสายชนบทด้วยซึ่งต่างกับลอนดอนอย่างลิบลับท้องถนนจึงโล่งมาก ขับมาได้สักพักจู่ๆ รถยนต์ก็เครื่องดับเอาเสียกลางทาง ผมค่อยๆบังคับรถจนมาหยุดจอดสนิทอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน
 
 
          “นี่นายรถเป็นอะไร?”
 
 
          “เอิ่ม...สงสัยน้ำมันจะหมดน่ะ”
 
 
          “แล้วเราจะยังไงกันต่อล่ะเนี่ย”
 
 
          “ข้างหน้าน่าจะมีปั๊มน้ำมัน ฉันว่าจะลองเดินไปตามมาคนช่วย”
 
 
          “นี่มันคืนคริสต์มาสอีฟนะ คงจะมีคนอยู่ให้นายขอความช่วยเหลือหรอกนะ”
 
 
          “ถ้าไม่มีก็ต้องช่วยตัวเอง เธอจะไปด้วยกันไหม?” ผมพูดพลางไปหยิบแกลลอนน้ำมันที่ท้ายรถ
 
 
          “แล้วพวกนี้ล่ะ จะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอ?”
 
 
          “เราไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้ล่ะ”
 
          ระหว่างทางเราเดินคุยกันเรื่อยเปื่อยทั้งเรื่องการเรียน งานอดิเรก สเป็คหนุ่มของเบลินด้ารวมถึงสเป็คสาวของผมด้วย
 
          “แล้วนายล่ะ ชอบผู้หญิงแบบไหน?”
 
 
          “คงจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขล่ะมั้ง”
 
 
          “แล้วนายคิดยังไงถึงได้จูบฉัน?”
 
 
          “ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกันนะ...จู่ๆฉันก็รู้สึกอยากจูบเธอขึ้นมา”
 
 
          “งั้นเหรอ นี่...ถึงแม้จูบแรกของนายไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกว่านายมีบางอย่างที่น่าค้นหา ที่ฉันไม่สนผู้ชายในโรงเรียนของเรา ก็เพราะพวกนั้นน่ะน่าเบื่อไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับฉันเลยสักนิด ฉันต้องการคนที่ทำให้ฉันไม่รู้สึกเบื่อ และมีอะไรบางอย่างที่น่าค้นหา แล้วฉันว่าฉันเจอแล้วล่ะนะ”
 
 
          เรามองหน้ากันอีกครั้งก่อนที่จะจูบกันอย่างดูดดื่ม ในคราวนี้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากกว่าครั้งที่แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับเบลินด้าจะเป็นยังไงต่อไป และไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ผมจะต้องเจอกับบทลงโทษอะไรบ้างจากเหล่าศาสตราจารย์ ถึงแม้การหนีเที่ยวของพวกผมในคืนคริสต์มาสอีฟปีนี้อาจจะวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียวกับจูบแรกของผมกับสาวฮอตประจำโรงเรียนอย่างเบลินด้า
 
 
          Merry Christmas 
 
 
          แล้วพบกันใหม่....
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา