ปริศนาแอนตาร์กติกา
เขียนโดย new235
วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.37 น.
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2559 15.46 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) วัสถุลึกลับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อเรือของทีมสำรวจแอนตาร์กติกาไปพบกับวัสถุที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไรพวกเขาต้องเจอกับความหน้าสะพรึงกลัวและเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขา มาติดตามกัน!
แสงเหนือสีรุ่งเรืองรองทอดตัวเป็นทิวยาวอยู่บนท้องฟ้า มันเริงระบำพลิ้วไหวอย่างงดงามน่าอัศจรรย์ทุกสิ่งที่นี้ล้วนเป็นสีขาวโพนบริสุทธิ์ ในอุณหภูมิระดับติดลบเวลาเหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เสียงพื้นน้ำแข็งแตกร้าวเพราะเรือเจาะน้ำแข็งที่ทำงานอย่างขะมักเขม้น มันเจาะน้ำแข็งได้เพียงวันละ 5 กิโล ด้วยความหนาของพื้นน้ำแข็งถึง 4.5 เมตรความช้าของมันทำให้เรือราวกับลอยอยู่นิ่งๆกลางทะเลน้ำแข็งอันไม่สิ้นสุด ผมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเพื่อดูวันที่และเวลานานแค่ไหนแล้วที่ผมต้องอยู่บนเรือลำนี้ สายลมจากพายุหิมะพัดลอดเข้าหน้าต่างเล็กๆของห้องฟังดูโหยหวน มันทำให้ผมรู้สึกเหงา ทุกๆชีวิตล้วนมีความทรงจำที่เศร้าและแสนสุข
"พ่อค่ะ กลับมาเร็วๆนะ" เสียงสาวน้อยวัยใสดังก้องในหัวผม มันเป็นดั่งคำสัญญาที่เธอขอจากผมแต่ ผมกลับทำตามที่เธอขอไม่ได้ ได้แต่มองรูปถ่ายที่พกติดตัวมาเท่านั้น ผมเป็นทีมสำรวจเดินทางมายังขั้วโลกใต้ มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานและเสี่ยงอันตราย
ก๊อก ๆๆๆ "คุณแอนโทนี่คับ ช่วยมาที่สะพานเดินเรือหน่อยคับ"
"คับ จะไปเดียวนี้" คงมีอะไร ถึงได้ให้คนมาตามผมถึงห้องพักกลางดึกแบบนี้ ผมอยู่บนเรือ เซมโพ065 สัญชาติฟินแลนด์ มันเป็นเรือเจาะน้ำแข็งขนาด 1500 ตัน มันเป็นเรือขนาดเล็กถ้าเทียบกับเรือเจาะน้ำแข็งทั่วๆไป พร้อมกับลูกเรืออีก 5 คน
"มีอะไรคับกัปตัน" เขาเป็นกัปตันวัยกลางคนที่มีประสบการณ์สูงผมให้ความนับถือเขามากเพราะเดินทางมาด้วยกันหลายครั้ง
"นายมาแล้วหรอ สภาพอากาศวันนี้แย่มากๆ พายุทำให้ทัศนวิสัยข้างหน้าแทบจะมองไม่เห็น เราคงต้องลดความเร็วลง ไม่งันมีหวังแล่นไปชนกับภูเขาน้ำแข็งแน่ๆ"
"กำหนดการของเราคงช้าลงไปอีกหลายวัน นี่ก็ใกล้จะเข้าหน้ามรสุมแล้ว ถ้าเราล้าช้าไปมากกว่านี้คง..."
"มันช่วยไม่ได้นะ แอนโทนี่ื จุดประสงค์สำคัญในถานะกัปตันของฉันคือลูกเรือต้องปลอดภัย"
"คับ กัปตัน" ผมไร้ข้อโต้แย้ง พายุแรงขนาดนี้เป็นผมก็ต้องตัดสินใจแบบนี้ต่อให้รีบร้อนแค่ไหนความปลอดภัยก็สำคัญที่สุด
โครม! "เกิดอะไรขึ้น!" ผมโซเซไปจับราวเหล็ก
ครืด...ครืด เสียงดังลั่นเหมือนใต้ท้องเรือครูดกับพื้นทรายเรือทั้งลำสั่นสะเทือน
"ให้ตายสิวะ" กัปตันสบถ มือทั้งสองข้างจับพังงาเรือแน่นพยายามบังคับทิศทางของเรือ เรือเริ่มเอียงเล็กน้อยและมันก็หยุดแล่น
"นิโคล แกยืนเซอทำไมรีบออกไปดูสิว่าเรือเราชนกับอะไร" กัปตันสั่งลูกเรือที่ยืนทำหน้า งงๆ อยู่เขารีบวิ่งออกไปที่หัวเรือและใช้ไฟฉายขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนหัวเรือส่องลงไปใต้ท้องเรือ
"พายุแรงขนาดนี้ผมเห็นไม่ถนัด แต่ใต้ท้องเรือมีอะไรบางอย่างไม่รู้"
"อะไรบางอย่าง มันคืออะไร นิโคล" ผมวิ่งตามออกไปดู มีวัสถุบางอย่างสีดำมันสะเทือนกับแสงไฟที่ส่องลงไปสีมันวาวคล้ายๆแผ่นหินแผ่นใหญ่อยู่ใต้ท้องเรือ "หินงันหรอ" ผมหันไปถาม นิโคล
"ไม่น่าใช่นะคับ เราอยู่กลางทะเลน้ำแข็งแอนตาร์กติกา ที่นี่ไม่หน้ามีหินโสโครกและเรือเราก็มีระบบโซน่า"
"เกิดอะไรขึ้นข้างล่าง" ลูกเรืออีกคนตระโกนลงมาจากดาดฟ้าเรือ
"เซต นายช่วยลงมานี่หน่อย เรือเราชนเข้ากับอะไรไม่รู้" นิโคล ตอบกลับไป
"เป็นไปได้ไง หน้าจอโซน่าก็ไม่เห็นแสดงอะไรเลย" กัปตันเอามือเคาะหน้าปัดโซน่าที่แผกควบคุม "นิโคล แกไม่ได้ทำอะไรกับโซน่าเรือใช่ไม"
"ถอยหลังได้ไมคับกัปตัน" ผมออกความเห็น
"ท้องเรือลำนี้เคยผ่านพื้นน้ำแข็งที่แข็งที่สุดมาแล้วเรื่องแค่นี้พวกแกไม่ต้องตกอกตกใจไป พวกแกหาที่ยึดดีๆละ ฉันจะถอยเรือเดียวนี้" กัปตัน โยกคันเร่งเครื่องเรือเพื่อที่จะถอยหลัง เรือค่อยๆเคลื่อนตัวถอยหลังช้าๆ เสียงใต้ท้องเรือเสียดสีกับวัสดุข้างใต้ฟังดูหน้ากลัวราวกับเรือจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
"หยุดก่อน! กัปตัน หยุด" เซตตระโกนลั่น
"มีอะไร เซต" ผมถาม
"แอนโทนี่คุณดูนั้น ข้างล่าง" เซตชี้มือไปใต้ท้องเรือที่ไฟส่องอยู่
"โอ พระเจ้า!" ผมถึงกับอุทาน ถึงแม้จะมองเห็นไม่ค่อยถนัดเพราะความมืดและลมแรง แต่เมื่อเรือถอยหลังออกก็เห็นได้ชัดว่า
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ