Inspiration of my story.

                                                                  Let it go, don’t think about it       

 ใครๆก็คิดว่าชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อสิ่งสวยงาม แต่ตามจริงแล้วชีวิตคนเราไม่ได้ดีในแบบที่เราคิด

 ฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้คิดในแง่นั้นมาตลอดและรู้ดีว่ามันไม่ใช่ จะมามัวนอนฝันเพื่ออะไรกัน ทำไมไม่ลุกขึ้นยืนและก้าวเท้าเดินหน้าต่อไป ทำไมเราจะต้องแคร์ด้วย

ความรู้สึกที่อยากจะท้าทายต่อสิ่งต่างๆบนโลก มันปรากฏเด่นชัดขึ้นมาในหัว พร้อมกับกล่อมให้เราลองสู้ดูสักตั้ง มันไม่สำคัญหรอกถ้าเราไม่ได้ลองทำมันขึ้นมาสักอย่างให้สำเร็จ มันสำคัญตรงที่ว่าเราใส่ใจมันมากแค่ไหน ที่จะพยายามลองทำต่อไป เราหยุดอยู่กับที่ไม่ได้นานๆหรอก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไป ถ้าหากเรามัวแต่ยืนอยู่กับที่ และทิ้งความฝันกองอยู่บนเท้าพร้อมกับเหยียบย่ำมันพลางหลอกตัวเองว่ามันคงไม่ใช่สำหรับเรา เมื่อเราสร้างฝันอย่างหนึ่งขึ้นมาแล้วคิดว่านั่นมันใช่ตัวเราจริงๆ ก็อย่าทอดทิ้งความเป็นตัวเองลงบนพื้นที่เราเริ่มต้นมันมาแล้ว เมื่อใจเราสั่งว่ามันคือสิ่งที่เรา ฉะนั้น จงอย่าละทิ้งความฝันของตัวเองนะ

[เรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งจากด้นสดล้วนๆ]

สายลมที่พัดเอื่อยๆปะทะเข้าใบหน้าที่กำลังนอนหลับตาพริ้มซึ่งกำลังตกอยู่ในห้วงของความฝัน เธอคนนั้นพบว่าตัวเองอยู่บนพื้นหญ้าที่เขียวขจี ล้อมไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรที่กำลังขับเสียงเพลงแห่งจินตนาการ เธอก้าวเท้าพลางกางแขนทั้งสองออกพร้อมกันแล้วเดินฝ่ามันไปพร้อมกับใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

ความอบอุ่นที่ได้สัมผัสจากแสงอาทิตย์ทำให้เธอเหมือนได้พลังกลับมา พลังแห่งความหวังที่เฝ้ารอคอยให้มันมาเติมเต็มชีวิตให้ก้าวหน้าเดินต่อไปอย่างไม่ท้อแท้ อย่างไม่สิ้นหวัง

บางคนอาจจะคิดว่าธรรมชาติ นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อเอาไว้ถ่ายรูปไว้ให้ดูเล่นในยามเหงา แต่ถ้าเราลองก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับการสัมผัสพลังแห่งธรรมชาติที่แท้จริง เราจะพบว่าทางแยกแห่งความฝันที่แท้จริงอยู่ใกล้แค่เอื้อม ละทิ้งความไม่แน่นอน ความเศร้า ความรู้สึกที่บั่นทอนให้คุณสิ้นหวังและลองก้าวเข้าไปสัมผัสสิ่งนั้น…ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงธรรมชาติ

แต่หมายถึง ตัวตนที่แท้จริงของคุณ ตัวตนที่คุณรู้สึกว่าใช่ ตัวตนที่คุณรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ตามหามานาน เพียงแค่นี้การมองโลกในแบบใหม่ที่ท้าทาย ที่หมดความสิ้นหวัง จะทำให้ชีวิตคุณนั้นคุ้มค่า คุ้มค่ายิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยทำมาก่อน…..

หญิงสาวคนนั้นแทบจะลืมความเจ็บปวดทุกอย่างที่กองอยู่บนบ่านั้นออกไปเกือบหมด ในเมื่อสิ่งที่เธอต้องการ คือความฝันเล็กๆที่คอยซึมซาบเข้ามาในห้วงความคิด และทำให้มันมีสีสันแห่งการใช้ชีวิต ภาพแห่งธรรมทำให้เธอรู้สึกดี สัตว์น้อยใหญ่ที่กำลังดำรงชีวิตของมันอยู่ไปวันๆเพราะมันต่างก็ไม่รู้ว่าชีวิตของมันจะจบลงเช่นไร

ฉะนั้น นึกถึงสิ่งนี้เข้าไว้ แล้วก้าวเข้าไปสัมผัสมันอย่างช้าๆและซึมซับสิ่งนั้นกลับมา ชีวิตดีๆที่คุ้นค่า ยังรอคอยคุณอยู่

หญิงสาวรับรู้ถึงความรู้สึกเป็นจริง ในโลกปัจจุบัน พร้อมกับภาพข้างหน้าที่เริ่มชัดขึ้น เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นนะพร้อมกับสภาพความเป็นจริง เธอรู้ว่าเธอกำลังนอนอยู่บนเตียง ร่างบางขยับตัวเบาๆแล้วเอี้ยวตัวลงจากเตียงที่อบอุ่น เดินเข้าไปหาแสงสว่างอยู่ที่บริเวณหน้าต่างบานนั้น ใครจะรู้ล่ะ ถ้าเราไม่ลองเปิดใจและเลือกที่จะเผชิญกับมัน

ฉะนั้นหญิงสาวจึงดึงผ้าม่านให้เลื่อนเปิดออก วินาทีนั้น แสงสว่างของเช้าวันใหม่ก็ทอแสงลำเล็กๆเข้ามา ความอบอุ่นเพิ่มขึ้นเมื่อที่เปิดบานกระจกที่ขวางกั้นไว้อยู่ ถึงแม้เราจะเปิดใจเราไปแล้ว แต่ที่แน่เราก็สิ่งเล็กๆบางๆที่ขวางกั้นอยู่ ดังนั้นจงเปิดมันออกอย่างช้าๆ

สายลมพัดเข้าแผ่วเบา ส่งผลให้ปอยผมท้าตามลู่ลมแล้วความรู้สึกของสิ่งที่เราจะพบในวันใหม่ คือเราพร้อมที่จะผจญมันไปพร้อมกับจิตใจของคุณ และมันไม่ยากเลย ถ้าเราลองแง้มหัวใจดวงเล็กๆของเราให้เปิดออกแล้วดึงตัวตนของคุณออกมา….

Open your heart and decided it what you want to be……..

That’s not hard to make it by yourself………………

I think you can do that……………………………… :D