top secret
8.3
เขียนโดย new235
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.45 น.
6 ตอน
3 วิจารณ์
8,478 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 09.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) ความจริงยากจะปรากฎ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทวีปแอนตาร์กติกา ศูยน์บัญชาการ
"จากเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ตอนนี้สามารถกู้ข้อมูลจากสมอง ดร.คาชา ได้บางส่วนเนื่องจากความเสียหายของสมองมีมากเกินไป คงเป็นเพราะตอนนำร่างกลับมาแต่หุ่นหมายเลข 3 ก็ทำได้ดีมาก"เสียง ดร. ท่านหนึ่งที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่และอุปกรณ์รอบๆห้องที่เต็มไปด้วยหลอดแก้วและสายไฟระโยงระยาง
"ดร.ไพรซ์ ผมหวังว่าคุณจะหาข้อมูลที่ผมต้องการสำเร็จ"
"คับ ผมขอสรุปสั้นๆนะคับท่านนายพล กรุณาดูที่จอมอนิเตอร์คับ" ดร.ไพรซ์ ดึงข้อมลูบางอย่างขึ้นหน้าจอมอนิเตอร์ "เราโชคดีที่สมองส่วน ซึรึบบัม ยังไม่เสียหายซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในการจดจำของสมองและผมก็ค้นพบสิ่งที่ท่านนายพลตามหาแต่อาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่หายไปคับ" ดร.ไพรซ์ ดึงข้อมูลพิมพ์เขียวออกจากข้อมูลที่ขึ้นยุ่งเยองซ้อนๆกันเต็มหน้าจอมอนิเตอร์และภาพพิมพ์เขียวขนาดใหญ่ก็ขึ้นมาที่หน้าจอเพียงภาพเดียว ทันทีที่ ภาพพิมพ์เขียวแสดงขึ้นมา สีหน้าของนายพลเซราฟก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที
"ในที่สุด ในที่สุด" นายพลเซราฟพูดพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นทั้งสองข้าง "ฉันก็ได้มันมา พิมพ์เขียวของเทคโนโลยีที่จะเปลื่ยนแปลงทุกสิ่งบนโลกนี้ ฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ๆ" นายเซราฟหัวเราะอย่างบ้าครั่ง
"เร่งมือ สร้างมันให้เสร็จโดยเร็ว เหล่าทหารทั้งหลาย"
"คับ ท่านนายพล" เหล่าบรรดาทหารทั้งหมดที่อยู่ในห้องนั้นต่างตระโกนออกมาพร้อมๆกันและทำท่าวันทยาหัตถ์
3 วันผ่านไป สถาบันนิติวิทยาลอนดอน
"ผลของ ดีเอ็นเอ ออกมาแล้วนะ แซม แต่มันไม่ได้ช่วยเรามากเท่าไรถึงเราจะมี ดีเอ็นเอ ของผู้บาดเจ็บ แต่ในการตามหาเจ้าของดีเอ็นเอนี่ยากกว่าขนาดฉันค้นในข้อมลูตำรวจลอนดอนแล้วนะ" โจนาธานใช้มือลูบคางของตัวเองขณะกำลังครุ่นคิด "อ๋อ แซม ฉันนึกออกแล้วว่าจะทำอย่างไร ฉันลืมผู้ช่วยสุดเปรืองของฉันไปได้ไง" โจนาธาน พูดจบแล้วก็เดินไปที่ โทรศัพท์
"ฮัลโหล ๆ โมนิก้า ช่วยเข้ามาหาผมที่แลปหน่อย ตอนนี้เลยนะ ผมมีงานให้ทำด่วนเลยนะผมรออยู่" โจนาธานวางโทรศัพท์ด้วยหน้าที่อมยิ้มซึ่ง แซม ก็สังเกตเห็น
"นายยิ้มอะไร โจนาธาน" แซมถาม
"เปล่านี่ เปล่า เมื่อกี้ฉันโทรตามผู้ช่วยของฉันอีกสครู่เธอคงมา นายจะกินกาแฟไมเดียวฉันไปชงให้"
"ไม่ดีกว่า ขอบคุณ"
"ไม่เอางันหรอ แต่ฉันไม่ไหวต้องขอตัวไปกินสักแก้ว เมื่อคืนนอนดึก ดูซีรี่ย์เรื่องโปรดเพลินไปหน่อย" โจนาธานอ้างปากกว้างหาวยกใหญ่
30 นาทีผ่านไป
เสียงประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิด หญิงสาวรูปร่างผอมสูงสวมแว่นตาเดินเข้ามาในมือถือเอกสารกับสะพานเป้ลูกใหญ่ดูท่าทางเงอะงะ
"ขอโทษ ขอโทษค่ะ ที่ฉันมาช้าพอดีรถติด" หญิงสาวยืนก้มหน้าขอโทษอยู่ตรงหน้าประตู
แซมเห็นแบบนั้นจึงทำหน้างงๆแล้วก็ตอบกลับไป
"ไม่เป็นไรคับ ผมไม่ได้รีบร้อนอะไร"
หญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของ แซม ก็เงอยหน้าขึ้นและใช้มือขยับแว่นตา
"คุณ คุณเป็นใคร" หญิงสาวถาม
" ผมชื่อ แซม เป็นเพื่อนของโจนาธาน" แซมตอบด้วยหน้ายิ้มๆเล็กน้อยเขาเข้าใจละว่าที่ โจนาธาน ยิ้มๆตอนว่างโทรศัพท์เพราะสาเหตุอะไร
"โมนิก้า เธอมาแล้วหรอ" โจนาธานเดินออกมาพร้อมกับแก้วกาแฟในมือ "ผมจะแนะนำเพื่อนผมให้รู้จักนะ นี่แซม"
"ไม่ต้องแล้วละฉันแนะนำตัวไปแล้ว" แซมพูด
"อ๋อ งันดีเลยเราจะได้เริ่มเรื่องกันเลย โมนิก้าผมมีเรื่องให้ช่วยหน่อยพอดีผมมี ดีเอ็นเอ ของคน คนหนึ่งให้ช่วยตามหาหน่อยว่าเป็นของใคร "
"ดีเอ็นเอ หรอค่ะ" โมนิก้าพูดพร้อมกับหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ตที่อยู่ในกระเป่าของเธอออกมา "ฉันของสำเนาด้วยค่ะ"
โจนาธานส่งสำนาน ดีเอ็นเอ ที่ถูกบันทึกลงแพตไดร์ ให้ โมนิก้า แพตไดร์ถูกเสียบเข้าคอมพิวเตอร์ทันที "โจ คุณลองเทียบดูในสำเนาของกรมตำรวจลอนดอนหรือยัง"
"ผมเทียบดูแล้ว ดีเอ็นเอ ไม่ตรงกับใครเลยแต่ส่วนมาก ดีเอ็นเอ ที่ทางตำรวจลอนดอนมีก็มีแต่พวกขี้ยากับอาชญากร ไม่งันผมไม่รบกวนคุณหรอก"
"ค่ะๆ ฉันจะช่วยอย่างเต็มที่แต่ไม่รับประกันนะว่าจะเจอ ว่าแต่พวกคุณกำลังตามหาใคร"
"มันเป็นคดีของผมเอง" แซมตอบ
"ทำไมคุณไม่ให้เจ้าหน้าที่ในกรมตำรวจค้นหาให้ละค่ะ ฉันว่าพวกเขาคงมีข้อมูลที่มากกว่านี้" โมนิก้าถาม
"เรื่องมันซับซ้อนคับ ผมจะอธิบายให้คุณฟังทีหลัง" แซมตอบ
"ถ้าเป็นแบบนั้น คงต้องแฮกเข้าไปดูในข้อมูลของกรมตำรวจแห่งชาติ เพราะฐานข้อมลูของพวกเข้าครอบคลุมทุกพื้นที่"
"แฮกหรอ" แซม หันมองหน้า โมนิก้า
"ใช่ค่ะ แฮก มันเป็นวิธีเดียวที่จะค้นข้อมลูเรื่องแบบนี้ได้ หรือคุณจะไม่ให้ฉันช่วย" โมนิก้าพูด
"ไม่ๆ แล้วแต่คุณเลย ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว"
โมนิก้ากดค้นหาด้วยความชำนาญซึ่งผิดกับตอนที่เธอเดินเข้ามาคนละคนทำเอา แซม ยืนตลึง
"คงต้องใช้เวลาสักชั่วโมงหนึ่ง กว่าจะหาเจอเพราะข้อมลูมันเยอะคุณคงเข้าใจนะ" โมนิก้า อธิบายให้แซมฟัง
ขณะที่โมนิก้ากับแซมกำลังค้นหาข้อมูลอยู่นั้น โจนาธานก็แยกตัวออกไปวิเคราะห์แท่งโลหะที่เป็นหลักฐานเพียงเช่นเดียวที่มีอยู่
"โอ ได้เรื่องละ" โจนาทาน อุทานขึ้นขณะกำลังวิเคราะห์องค์ประกอบของแท่งโลหะ "แซม ฉันรู้แล้วว่าแท่งโลหะนี่มันคืออะไร" โจนาทานเดินหน้าตาตื่นออกมาจากห้องวิเคราะห์ตัวอย่าง
"แล้วมันคืออะไร" แซมถาม
"ถ้าฉันไม่ผ่ามันดูและวิเคราะห์มันอย่างถี่ถ้วนมากกว่านี้เราคงจะพลาดเรื่องนี้ไป มันคือชิ้นส่วนของอุกกาบาตอย่างที่ฉันเดาไว้ อุกกาบาตลูกนี้ตกที่ บาคุบิลิโต ประเทศเม็กซิโก ความกว้างของมันน่าจะ 4 เมตรและหนักประมาณ 12 ตัน ตกมาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว เพราะแร่ที่ประกอบอยู่ในแท่งโลหะนี้ มีแต่แร่ พาราไซต์ แร่นี้เป็นแร่ที่หายากมากตั้งแต่มีการตกของอุกกาบาตที่คนเราเก็บได้ก็พบเพียง ลูกนี้ลูกเดียวเท่านั้นที่มีแร่ชนิดนี้ปนอยู่"
"ไม่เจอค่ะ ดีเอ็นเอไม่ตรงกับใครเลย" โมนิก้าพูดขึ้น
"ไม่เป็นไร โมนิก้าขอบคุณคับ โจนาธานเมื่อกี้นายบอกว่าอุกกาบาตมันมีแค่ลูกเดียวใช่ไม"
"ใช่แซม ตั้งแต่มีการค้นพบ"
"ฉันรู้แล้วละว่าเราจะสืบต่ออย่างไง ถึงแม้เรื่อง ดีเอ็นเอ จะไม่ได้อะไรคืบหน้า แตต่เรามีเบาะแสใหม่แล้ว คุณ ดมนิก้า ช่วยเช็คให้หน่อยว่าคนที่พบ อุกกาบาต ชื่่ออะไร"
"ค่ะ" โมนิก้า เสิร์ชหาข้อมุลในอินเตอร์เน็ต "ผุ้ค้นพบอุกาบาตที่ บาคุบิลิโต ประเทศเม็กซิโก นาย กิตเบิร์ต เอลลิศ และถูกซื้อต่อไปโดย พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาครีฟแลนด์ ของประเทศสหัฐอเมริกา ปันจบันยังจัดแสดงอยู่ ในอินเตอร์เน็ตมรข้อมูลแค่นี้ค่ะ"
"ทำไมนายเชื่อว่าต้องเริ่มสืบจากจุดนี้ แซม" โจนาธานถาม
"ก็มันเป็นของหายากใช่ไม คนธรรมดาคงไม่มีสิทธิครอบครองมัน ฉันก็เลยคิดว่าหน้าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับอุกกาบาตลูกนี้" แซมพูด
"อึมที่นายพูดก็มีเหตุผล ไหนๆก็ไม่มีเบาะแสอื่นนอกจากนี้เราคงต้องเริ่มสืบจากที่ พิพิธภัณฑ์ของอเมริกาจริงๆ" โจนาธานหันมองหน้าแซม
"นายอย่ามองหน้าฉันแบบนั้นสิ โจนาธาน นายคงจะไม่ให้ฉันไปคนเดียวใช่ไม"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ