Future control อนาคตฉัน เดิมพันด้วยรักของเธอ
5.6
เขียนโดย yasang
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 04.15 น.
12 ตอน
1 วิจารณ์
15.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 00.29 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) บทที่ 3 ลัก (RW)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ๓
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามายังห้องนอนของเด็กสาว เป็นอันทำให้ร่างบางต้องทำใจลุกจากที่นอน แม้ว่าจะอยากนอนต่อขนาดไหนก็ตาม เป็นดังที่คนโบราณพูดไว้ว่า สร้างบ้านต้องให้ห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออกเพื่อแดดตอนเช้าจะได้ส่องและทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกไปในตัว เด็กสาวหรี่ตาเล็กน้อยเพื่อเป็นการรับแสงสว่างนั้น แล้วจึงค่อย ๆลุกจากที่นอน
ไอริณทำงานที่ร้านอิจินิจิมาได้หนึ่งเดือนแล้ว โดยที่ทุก ๆ วันป้าและแม่ของสาวน้อยจะถามเสมอว่า "ไหวรึเปล่า...ถ้างานหนักก็อย่าฝืนเลย" สาวน้อยก็ได้แต่บอกไปว่า “ไหวมาก ๆ ค่ะ” พร้อมรอยยิ้ม เธอเข้าใจดีว่าป้าและแม่อดห่วงไม่ได้ที่เธอต้องออกไปทำงานพิเศษ ก็นี่มันเป็นครั้งแรกของสาวน้อย แม้ว่าจะต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งเวลาในการทำกิจกรรมในแต่ละวันก็ลดลง หากมันก็ทำให้เห็นว่าเวลาทุกนาทีมีคุณค่ามากขึ้น
มือบางเปิดประตูเข้ามาในร้าน เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น เห็นสาหร่าย อากิและพ่อครัว กำลังนั่งดูอะไรบางอย่างที่อยู่ในกล่องเก็บความเย็น ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"มาแล้วหรออเกนส์..." สาหร่ายกล่าวทักทายเมื่อเห็นสาวน้อยเดินเข้ามาในร้าน
"สวัสดีค่ะ ดูอะไรกันอยู่หรอค่ะ" ถามพลางเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสาม สแน๊กที่พุ่งออกมาจากมุมหนึ่งด้วยความเร็วสูง พร้อมน้องหมึกยักษ์ที่หนวดยั้วเยี้ยอยู่ในมือ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องการจะแกล้งให้สาวน้อยตกใจ หากก็ผิดคาดเพราะไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางของเด็กสาว
"เอ๊ะ! นี่ไม่ตกใจเลยหรอ" พูดพลางทำหน้าผิดหวัง
"คิดว่านี่ไม่ใช่เวลาเล่นนะ" สาหร่ายพูดเสียงเรียบพลางค้อนใส่สแน๊กหนึ่งวง
"เรากำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ปลาดิบกลับมาเป็นเมนูยอดนิยมของร้านเหมือนที่ผ่านมา"สาหร่ายเริ่มอธิบายถึงต้นสายปลายเหตุ
"อ้าว...แล้วตอนนี้คนไม่นิยมทานปลาดิบกันหรอคะ"
"พยาธิไงล่ะ...ช่วงนี้มีข่าวออกมาว่าแม้ปลาดิบจากญี่ปุ่นก็ยังไม่เว้น ถึงขนาดปรุงสุกแล้วพยาธิยังไม่ตายก็มี" พ่อครัวพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ความนิยมในการทานปลาดิบลดน้อยลง
"...หรอคะ" ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จึงไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาบางคู่ลอบมองเธออยู่เป็นพัก ๆ "...*การแช่แข็งก็ฆ่าพยาธิได้ใช่ไหมคะ"
"ถูกแล้ว แต่ว่ากว่าวัตถุดิบจะมาถึงที่นี่เราก็แช่มาแล้ว ดังนั้นเรื่องพยาธิที่นี่ก็เลยหายห่วง จะห่วงก็แต่ลูกค้าที่ไม่เช้าใจนี่แหละ" อากิอธิบายพลางใช้มือแกะดูวัตถุดิบที่อยู่ภายในกล่อง
"พวกเราก็เลยต้องมาคิดว่าจะเอายังไงต่อไป...เพราะทาง**ชิซุโอกะก็รู้ปัญหานี้และมีแผนจะให้เรางดการทำอาหารจำพวกปลาในระยะนี้ไปก่อน"
"ขนาดนั้นเลยหรอคะ" ทุกคนพยักหน้าแทนคำตอบ
เวลาจวนเลิกงานลูกค้าในร้านก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะน้อยลงเลย หากก็ไม่ได้แน่นร้านจนการบริการไปไม่ทั่วถึง ที่นี่เป็นร้านอาหารที่ไม่ได้เน้นเพียงรสชาติของอาหารเพราะว่าการให้ความใส่ใจต่อลูกค้าในทุก ๆ ด้านนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ความอ่อนน้อมของพนักงานทุกคนทำให้ลูกค้าแทบทุกช่วงวัยติดใจในร้านอิจินิจิ จึงไม่แปลกถ้าคุณเดินเข้ามาในร้านแล้วจะเห็นลูกค้าทั้งที่เป็นเด็ก ตลอดจนผู้สูงอายุ
อเกนส์จัดแจงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน การมาทำงานที่นี่ได้อะไรใหม่ ๆ หลายอย่างมาก และที่สาวน้อยค่อนข้างชอบใจก็คือ ชุดจิมเบของพนักงานหญิง ที่เมื่อใส่แล้วให้รู้สึกถึงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และนี่ก็น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้า
"อากิ..." เสียงใสร้องเรียกร่างสูงที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างภาชนะอาหารอยู่ในครัว
"หือ" ตอบเสียงเบา พร้อมหันหน้ามาทางเด็กสาว
"เออ...คือว่า ขอเวลาสักเดี๋ยวได้รึเปล่าอากิ"
"เรื่องอะไร บอกมาก่อน" พูดพลางเอื้อมมือหนาไปเช็ดกับผ้าที่แขวนไว้ข้างผนัง
"อเกนส์จะขอข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรักษาวัตถุดิบหน่อยน่ะ"
"...อเกนส์จะเอาไปทำอะไร" ถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะน้อย ๆ แล้วจึงเดินมาที่เคาน์เตอร์หน้าห้องครัวพร้อมมองไปยังสาวน้อยตรงหน้า
"จะศึกษาอะไรนิดหน่อยน่ะ แค่วันเดียวนะ"
ร่างบางยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มคู่สนทนาก็เดินหายไปในครัว สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารสองเล่มใหญ่ ที่มีภาษาญี่ปุ่นเขียนปะหน้าเอาไว้ พร้อมกับยื่นแฟ้มมาไว้ตรงหน้าสาวน้อย เธอหยิบแฟ้มมาเปิดดูแล้วก็พบว่าไม่ใช่เพียงหน้าปก แต่เนื้อหาข้างในยังเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลย
ร่างสูงเห็นคิ้วที่ขมวดของเด็กสาวก็ให้รู้สึกขำ หากก็พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มันเล็ดลอดออกมา
"เพราะแบบนี้ไง เลยถามว่าอเกนส์จะเอาไปทำอะไร" พูดพร้อมยกมือหนาขึ้นเท้าคาง และมองไปยังคู่สนทนา
"แล้วทำไมไม่มีภาษาไทยเลยล่ะอากิ แบบนี้พนักงานจะอ่านรู้เรื่องหรอ"
"...ก็ไม่ได้มีไว้ให้พนักงานทั่วไปดูน่ะสิ"
"อ้าว แล้วทำไมอากิถึงเอาออกมาได้ล่ะ" ถามด้วยความสงสัย พลางเพ่งพิศไปยังนัยน์ตาสีน้ำตาล
"ก็แอบเอาออกมาไง เห็นอเกนส์จะเอาให้ได้"
"ง...งั้นขอแค่เรื่องการเก็บรักษาพวกอาหารทะเลก็ได้"
ไม่ได้ตอบกลับใด ๆ หากก็เอื้อมมือหนามาหยิบแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่ทั้งสองเล่มไป “แล้วจะเอาภาษาอะไร” เมื่อเห็นใบหน้างุนงงของสาวน้อย อากิแทบจะหลุดขำ ก่อนพูดไปว่า "รู้แล้ว ๆ ภาษาไทยซินะ" พูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะกดยิ้มที่มุมปาก
สาวน้อยพยักหน้ารับคำ พลางก็คิดถึงท่าทีเงียบขรึมบ้าง เฮฮาบ้างของอากิที่มีให้เห็นได้ทุกวัน และดูเหมือนว่าสแน๊กจะเป็นคนสำคัญในการดึงอารมณ์หลากหลายรูปแบบออกมาจากเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลคนนี้
"ถ้าแช่แข็งเจ็ดวัน ต้องแช่ที่อุณหภูมิติดลบยี่สิบองศาเซลเซียส แต่ถ้าแช่ สิบห้าชั่วโมง หรือยี่สิบสี่ชั่วโมง ต้องแช่ให้เป็นน้ำแข็งก่อนแล้วนับต่อไปอีก สิบห้าหรือยี่สิบสี่ชั่วโมงตามลำดับ อ่อ...งั้นสามระดับที่อากิว่าเป็นแบบนี้เองงั้นหรอเนี่ย"
เอกสารเกี่ยวกับพยาธิวิทยาประมาณสิบแผ่นวางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของอเกนส์ รวมทั้งเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรักษาวัตถุดิบจำพวกอาหารทะเลของร้านอิจินิจิด้วย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"...ป้าหรอคะ รอเดี๋ยวนะคะ" มือบางรวบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ผู้เป็นป้า
"อเกนส์ทำอะไรอยู่ลูก ไปกินข้าวกันป้าเพิ่งทำเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ เลยจ้ะ" ผู้ที่อยู่ภายใต้หมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อนเอ่ยถามหลานสาว พร้อมสอดส่ายสายตามองไปยังโต๊ะเขียนหนังสือที่ดูจะเตะตาเป็นที่สุด เอกสารวางอยู่มากมาย ทำให้ผู้เป็นป้ารู้ทันทีว่าสาวน้อยกำลังทำอะไรอยู่
"พักบ้างก็ได้นะอเกนส์" มือของผู้สูงวัยยกขึ้นลูบหัวหลานสาว ที่ตอนนี้กำลังฉีกยิ้มเต็มที่
"อเกนส์พักแล้วค่ะ เดี๋ยวสักครึ่งชั่วโมงหนูจะลงไปนะคะ ป้ากับลุงทานก่อนก็ได้" ร่างบางย่อตัวลงไปเพื่อกอดผู้เป็นป้า ที่ดูจะรักและเป็นห่วงเธอไม่แพ้กับสกุลตราแม่ของเธอ
"ครึ่งชั่วโมงนะ! แล้วลงมากินข้าว" นิ่งไปครู่หนึ่งพร้อมมองหลานสาว "โอเคนะ เดี๋ยวป้ารอ"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูลงไป” เธอฉีกยิ้มให้ผู้เป็นป้า พร้อมพยักหน้ารับคำ
เมื่อป้าออกไปแล้วสาวน้อยก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ทำการจดรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ให้ง่ายต่อการเข้าใจ...
"ทั้งที่ไม่มีพยาธิ แล้วถ้าต้องงดการขาย มันก็คงน่าเสียดายแย่" สาวน้อยพึมพำเบา ๆ
เสียงกระดิ่งแขวนของบานประตูหน้าร้านดังขึ้น
"อ้าว...วันนี้วันหยุดไม่ใช่หรออเกนส์" พ่อครัวทักทาย เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาในร้านไม่ใช่ลูกค้า หรือพนักงานที่มีตารางงานในวันนี้
"เชฟดูนี่ค่ะ" สาวน้อยพูดพร้อมชูอะไรบางอย่างให้คู่สนทนาดู
"หอบอะไรมาพะรุงพะรังล่ะเนี่ย"
"วันนี้อเกนส์มาด้วยหรอ" สาหร่ายเลิกคิ้วถาม ด้วยข้อสงสัยเดียวกันกับพ่อครัว
"พี่สาหร่าย วันนี้หนูเอาแถลงการณ์สัตว์ทะเลมาให้ค่ะ" มือบางหยิบกระดานบอร์ดขนาด หนึ่งคูณหนึ่งเมตรให้สาหร่ายดู
"แถลงการณ์สัตว์ทะเล"
"โห...อเกนส์" สาหร่ายเอื้อมมือมารับกระดานบอร์ดไปพิจารณาอยู่พักหนึ่ง พบว่าข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องพยาธิถูกอธิบายไว้ให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งข้อมูลการเก็บรักษาวัตถุดิบของทางร้านที่น่าจะช่วยไขข้อข้องใจหรือคลายความกังวลของลูกค้าไปได้
"หนูคิดว่ามันจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในอาหารทะเลของร้านเราเหมือนเมื่อก่อน..."
"อ้าว วันนี้วันหยุดไม่ใช่หรออเกนส์" สแน๊กพูดพร้อมกับโผล่หน้าออกมาจากในครัว แล้วก็ได้เห็นบรรดาแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ "อะไรกันมีทั้งปลาหมึก ปลามากุโร่แล้วก็กุ้ง โอ้โห แล้วนี่อย่าบอกนะว่าอเกนส์ทำเองคนเดียว" เว้นช่วงเล็กน้อยเพื่อหันไปหาเด็กสาว ก่อนเธอจะพยักหน้ารับเป็นเชิงตอบว่าใช่
“ทำเองแน่นะ ไม่ได้จ้างแน่นะ”
“แน่สุด ๆ เลย ก็ดูจากแผลที่นิ้วนั่นสิ” สาหร่ายว่า พลางชี้ให้หนุ่มอารมณ์ขันดูที่นิ้วมือของสาวน้อย
“เออจริงด้วย ยังเจ็บอยู่มั้ยอเกนส์” สแน๊กถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรจ้า ไม่เจ็บแล้ว” ตอบพร้อมยิ้มบาง
“แต่ว่าตัดโฟมได้สวยมากเลยนะ” สแน๊กหยิบแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นสัตว์ทะเลไปพินิจพิจารณา และแล้วทุกคนก็ช่วยกันจัดแจงอุปกรณ์ทุกอย่าง เพื่อที่จะติดตั้งป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเล ไว้ที่หน้าร้านเพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้ว่าอาหารของร้านอิจินิจิปลอดภัยไร้พยาธิ
"ขาตั้ง ๆ อยู่ตรงนี้ อ่ะ! นี่ไง" หนุ่มอารมณ์ขัน กำลังง่วนอยู่กับการรื้อของภายในห้องเก็บของข้าง ๆ ห้องครัว อากิเดินเข้ามาเห็นจึงถามว่า
"ขาตั้งเหรอ จะเอาไปทำอะไร"
"อากิ วันนี้อเกนส์มาด้วยนะ เห็นบอกเอาป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเลอะไรสักอย่างมาให้ เจ้าตัวว่างั้นนะ" พูดพลางเอามือปัดหยากไย่ที่ติดอยู่กับขาตั้ง
"แถลงการณ์สัตว์ทะเล" เงียบไป แล้วขมวดคิ้วเหมือนกำลังครุ่นคิด จนสแน๊กสังเกตเห็น
"ก็นู้นไง นู้น ๆ" สแน๊กบุ้ยปากไปทางหน้าร้าน "แถมยังมีนี่ด้วยนะ" พูดพร้อมชูแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นปลาหมึกให้หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลดู
อากิยกปลาหมึกโฟมขึ้นมาพินิจพิจารณาบ้าง "อย่าบอกนะว่าเด็กนั่นทำคนเดียว"
"ใช่สิ...เมื่อกี้เห็นคุยกับเจ๊หร่ายว่ามันคงทำให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องอาหารทะเลของทางร้านมากขึ้นนะ ทำนองเนี่ย อากิเองก็ออกมาช่วยบ้างซิ อย่ามัวมานั่งหน้าแดงอยู่คนเดียว" ไม่รอให้คู่สนทนาตอบโต้เมื่อพูดจบสแน๊กก็รีบวิ่ง (อย่างรวดเร็วที่สุด) ออกไปหน้าร้านพร้อมกับขาตั้งสองอัน
อากิวางมือจากงานที่ทำแล้วเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ห้องครัว ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมทั้งเอามือขึ้นมาเท้าคาง นัยน์ตาสีน้ำตาลมองทะลุผ่านกระจกใส ไปยังเด็กสาวที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานหน้าร้าน แม้ทุกคนจะดูยุ่ง ๆ กับงานแต่ก็มีเสียงหัวเราะดังเข้ามาเป็นพัก ๆ
ไอริณก้มบ้างเงยบ้างอยู่หน้าร้าน พร้อมกับสาหร่ายที่กำลังช่วยกันติดตั้งป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเล ปอยผมที่สาวน้อยเปียเอาไว้หลวม ๆ ล่วงลงมาคลอเคลียบริเวณแก้มใส ชายหนุ่มผู้นั่งสังเกตการณ์อยู่ไม่ได้ละสายตาไปไหน จึงได้เห็นเธอทั้งพูด ยิ้ม หัวเราะ หรือแม้กระทั้งตอนขมวดคิ้วเพราะกำลังใช้ความคิด
"อา...กิ..." เด็กสาวเรียกชื่อชายหนุ่มพลางโบกมือให้ แล้วมันช่างยากนักที่เขาจะไม่โบกมือตอบ “เดี๋ยวเข้าไปหาน้า" เด็กสาวเอามือปล้องปากพูดก่อนจะปลีกตัวเข้ามาในร้าน
"เด็กติ๊งต๊อง" พึมพำ แต่ใบหน้ากลับเปื้อนรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เสียงประตูดังขึ้นเพราะเด็กสาวผลักมันเข้ามา พร้อมกับเดินตรงมาที่ร่างสูงซึ่งนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ห้องครัว
"อากิ ขอบคุณนะสำหรับเอกสารเมื่อวานนี้"
"นั่นผมควรพูดมากกว่ามั้ง" ดวงตาสีน้ำตาลของเขาเผลอมองเข้าไปยังแววตาของไอริณแวบหนึ่งในขณะที่สนทนา เขาจึงรีบเสมองไปทางอื่น
"แต่ก็ต้องขอบคุณอากิอยู่ดีนั่นแหละ"
"อืม เอาเป็นว่าอเกนส์ขอบคุณผม ผมก็ต้องขอบคุณอเกนส์" ร่างสูงลอบสังเกตท่าทีของเด็กสาวในขณะที่เขาพูด เห็นเพียงเธอเม้มปากน้อย ๆ เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะเกรงใจชายหนุ่ม จึงไม่ได้พูดอะไรออก “เพราะต่อให้ผมมีข้อมูลพวกนั้นอยู่ในมือ ก็ใช่ว่าผมจะตัดโฟมได้สวยเหมือนอเกนส์” รู้เพราะได้ยินและเห็นพลาสเตอร์ลายกระต่ายสีฟ้า ซึ่งติดอยู่บนนิ้วชี้ข้างซ้ายของสาวน้อย
“อ...เอ่อ แต่ว่าก็ต้องขอบคุณอยู่ดี ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล” พูดเสียงเบาพลางยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ผมบอกแล้วว่าคนละครึ่ง ผมมีข้อมูล อเกนส์มีความคิดสร้างสรรค์ดี ๆ ยังไงก็ต้องขอบคุณมาก ๆ” พูดเสียงเรียบแต่เด็ดขาด เขาละสายตาจากดวงตาของไอริณ มองไปยังนิ้วมือของเด็กสาว แล้วพูดว่า “แผลใหญ่พอสมควรเลยนะอเกนส์ เลือดถึงได้ซึมขนาดนั้น”
“อ่อ...นิดเดียวค่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
“ดูก็รู้ว่ามันไม่นิด”
ไม่ฟังคำทัดทานของสาวน้อย อากิลุกขึ้นแล้วเดินไปยังตู้ยาสามัญที่ติดอยู่ใกล้ ๆ ตู้เก็บจานแขวนพนัง เปิดแล้วหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลสีฟ้าล้วนออกมา กลับมานั่งที่เดิน คว้ามือไอริณมาไว้ตรงหน้า แกะ พลาสเตอร์อันเก่าออก เห็นเลือดที่ซึมกำลังจะแข็งติดบริเวณปากแผล ซึ่งยาวประมาณสองเซนติเมตร อากิเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ดูจะเริ่มเจ็บแผลเพราะเขาดึงพลาสเตอร์ออก
“เมื่อวานได้ล้างแผลมั้ย”
“ล้างค่ะ”
“ล้างด้วยอะไร” ถามพลางยื่นมือไปหยิบผ้าเปียกมาเช็ดรอบบริเวณแผล
“น้ำเกลือค่ะ”
“ทำไมไม่ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือไม่ก็ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์” ถามโดยไม่ได้มองหน้า
“มันแสบค่ะ” ตอบยิ้ม ๆ จนชายหนุ่มต้องหลุดขำ “อากิ เดี๋ยวอเกนส์ทำเองก็ได้”
“เรียบร้อยแล้ว” ร่างสูงเช็ดคราบเลือดที่แข็งตัวออกจนหมด แล้วจึงเตรียมปิดพลาสเตอร์ “ที่นี่มีแต่ พลาสเตอร์สีล้วนนะ ไม่มีลายกระต่าย” พูดแล้วก็ปิดพลาสเตอร์แผ่นใหม่ลงไปบนแผลที่ปราศจากคราบเลือด
“อากิพูดเหมือนอเกนส์เป็นเด็กน้อยไปได้ จะมีลายหรือไม่ ก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” พูดกลั้วหัวเราะ เพราะอดขำไม่ได้กับคำพูดของชายหนุ่ม สาวน้อยดึงมือตัวเองกลับไป ใช้นิ้วโป้งด้านขวาลูบแผลอย่างเบามือ แล้วว่า “ขอบคุณน้า อากิ”
"อ๊ากกก!" เสียงร้องของสแน๊กดังมาจากหน้าร้าน
"หมอนั่น ทำบ้าอะไรอีกล่ะเนี่ย" หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลพึมพำ ก่อนจะลุกและเดินออกไปหน้าร้าน พร้อมกับไอริณ
"เล่นอะไร สแน๊ก" อากิถามเมื่อมาถึงต้นตอของเสียง
สีหน้าของสาหร่ายและพ่อครัวทำให้ชายหนุ่มพอเดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
"อากิ ก...กาวร้อน กาวร้อนติดมือผม" สีหน้าดูไม่สู้จะดีนัก นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนเดินผ่านไปมา เขาคงจะปล่อยโฮไปแล้ว
"รีบช่วยโผมมม ผมไม่อยากเป็นโดเรม่อน"
อากิมองหน้าสาหร่าย พ่อครัว และไอริณสลับกันไปมา หากในใจอยากจะหัวเราะเต็มที แต่ก็สงสารเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ ที่กำลังถูกกาวร้อนรวบนิ้วทั้งสี่ติดไว้ด้วยกัน
"สแน๊กใจเย็น ๆ นะ เป็นโดเรม่อนก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่หรอก ทำใจซะเถอะ" พี่สาหร่ายพูดพลางเอามือตบไหล่สแน๊กเป็นเชิงยียวน มากกว่าการปลอบใจ
หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลนั่งลงข้าง ๆ สแน๊กพร้อมกับจับมือของเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กขึ้นมาดู
"เดี๋ยวอเกนส์ไปเอาน้ำร้อนมาให้นะคะ" ร่างบางวิ่งเข้าไปในร้าน ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับชามใบโตที่รองรับน้ำร้อนเอาไว้ "สแน๊กเอามือจุ่มลงไป กาวจะได้หลุดออกง่าย ๆ" พูดพลางเอาชามน้ำร้อนเลื่อนไปตรงหน้าหนุ่มอารมณ์ขัน ที่น้ำตาจสนจะเล็ด ชายหนุ่มมองชามน้ำร้อนสลับกับใบหน้าของสาวน้อย
"กาวร้อนมันก็ร้อนมากแล้ว ถ้าผมขืนเอามือจุ่มน้ำร้อนอีก มันจะดีหรออเกนส์ อากิช่วยผมด้วย..."
"แกจะจุ่มดี ๆหรือจะให้จุ่มให้" อากิพูดด้วยน้ำเสียงเข้มและดุดันกว่าปกติ
"ม่ายยย" สแน๊กส่ายหัวเป็นปฏิเสธอย่างสุดฤทธิ์
"งั้นหรอ? แน่ใจนะ" พี่สาหร่ายและอากินั่งลงข้าง ๆ สแน๊กอีกครั้งพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย และจากนั้น
"อ๊ากกก!!"
"ช่วงหนึ่งเดือนมานี้ ลูกค้าสั่งเมนูปลาและอาหารทะเลมากกว่าเมื่อก่อนเกือบเท่าตัวเลยนะ" สาหร่ายพูดขึ้นขณะที่บันทึกยอดขายสินค้าชนิดต่าง ๆ "คงเพราะแถลงการณ์สัตว์ทะเลของอเกนส์แน่ ๆ เลย"
"แถมช่วงนี้ลูกค้าก็เยอะขึ้นด้วย หลายครั้งเลยนะที่ผมเคลียร์โต๊ะแทบไม่ทัน แบบนี้อีกไม่นานคงได้ขยายร้านแล้วใช่ไหมเจ๊หร่าย" สแน๊กตั้งคำถาม
"เรื่องนั้นมันขึ้นกับผู้ใหญ่ที่ชิซุโอกะนู้น ฉันไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจซะหน่อย"
"แล้วเจ๊ได้ติดต่อไปบ้างรึป่าว...ทางนั้นอะไร ๆ เรียบร้อยดีมั้ย"
"อืม ก็นั่นแหละที่กำลังเป็นห่วง"
เมื่อเข้าเดือนใหม่ไอริณก็ทำงานได้ร่วมสองเดือนแล้ว จึงถึงเวลาที่สาวน้อยจะได้ลองทำงานผลัดบ่ายบ้าง เป็นการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกเดือนของพนักงาน ส่วนอินเพื่อนใหม่ของเธอ ยังคงทำผลัดงานช่วงเช้าต่อไปด้วยเหตุที่ว่า บ้านเธอค่อนข้างไกล การจะขับรถกลับในช่วงเวลาดึกสงัดคงจะไม่เป็นการดีนัก งานช่วงบ่ายจะเริ่มตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็นไปจนห้าทุ่มโดยประมาณ การทำความสะอาดของผลัดบ่ายถือว่าเป็นงานสำคัญ เพราะจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับวันถัดไป
"เดี๋ยวอเกนส์เอาไปทิ้งให้เองค่ะเชฟ" มือบางรวบรัดถุงขยะสีดำใบใหญ่ให้แน่น ก่อนจะค่อย ๆ ยกเพื่อนำออกไปทิ้งหลังร้าน
"งั้นฝากด้วยน๊า"
"ค่ะ"
"อเกนส์...ไหวรึเปล่า" สาหร่ายท้วงขึ้นเมื่อเห็นสาวน้อยเดินออกมาพร้อมถุงขยะใบเขื่อง
"ผมเอาไปทิ้งให้ดีกว่านะ อเกนส์พึ่งเคยอยู่ช่วงบ่ายวันแรกคงยังไม่เคยไปหลังร้านซินะ นี่มันดึกแล้วหลังร้านน่ากลัวนะ” สแน๊กลุกจากเก้าอี้หมายจะมาหิ้วถุงขยะไปทิ้งให้
"ไม่เป็นไรจ้า งานของสแน๊กก็มีอีกตั้งเยอะ ทางนี้ให้อเกนส์ทำเถอะนะ สบายมากไม่ต้องเป็นห่วง"
"หรอ...งั้นก็รีบทิ้งแล้วรีบมานะ" สแน๊กมองหน้าเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
“จ้า”
ที่ทิ้งขยะของทางห้างจะแบ่งไว้สามจุด คือริมสุดอาคารทั้งสองด้านแล้วก็ตรงกลางอาคาร ข้างหลังร้านจะมีถนนเล็ก ๆ สำหรับรถเก็บขยะของทางห้างที่จะมาเก็บทุกเช้า แต่ว่าข้างหลังนี่มืดเหมือนที่สแน๊กว่าจริง ๆ เพราะมีไฟแค่สองสามดวงในขณะที่ตึกยาวไม่น่าจะต่ำกว่าสามร้อยเมตร
"ฮึบ!!" ไอริณใช้แรงนิดหน่อยในการเหวี่ยงถุงขยะใบใหญ่ให้ลงไปยังจุดทิ้งขยะ ที่จะมีแนวเหล็กสูงประมาณเมตรกว่ากั้นเอาไว้
"แค่นี้ก็เรียบร้อย รีบกลับเข้าร้านดีกว่า" สาวน้อยพึมพำคนเดียว พลางก้าวกระโดดยาว ๆ เพื่อจะได้กลับเข้าไปในร้านเร็ว ๆ บรรยากาศข้างนอกนี่น่ากลัวยังไงชอบกล
"เดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหนจ๊ะ"
ร่างบางผงะกับเสียงที่ดังขึ้นตรงหน้า ด้วยความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นเจ้าของเสียงแต่แสงสลัว ๆ ทำให้พอดูออกว่าเป็นเงาของชายร่างใหญ่สองคน
"ดึก ๆ แบบนี้ใครใจร้ายใจดำปล่อยให้สาวน้อยออกมาทิ้งขยะคนเดียวละนี่" ชายคนหนึ่งพูดขึ้นคำพูดของสแน๊กอยู่ ๆ ก็ลอยเข้ามาในหัวของเธอ "นี่มันดึกแล้ว หลังร้านน่ากลัวนะ"
หมับ! เด็กสาวหลุดจากความคิดเพราะมือของชายคนหนึ่งเข้ามากระชากข้อมือของเธอเอาไว้
"แกอย่าส่งเสียงดังไป ไม่งั้นแกโดนดีแน่"
ไอริณตั้งตัวไม่ทันกับการกระทำของชายฉกรรจ์ทั้งสอง ความตกใจในตอนแรกหายไปเกือบหมด หากก็มีความกลัวที่ยากจะพรรณนาประดังประเดเข้ามาแทนที่ เสียงที่อยากจะร้องออกมาให้คนช่วย ก็เหือดแห้งหายไปแทบไม่เหลือ ความรู้สึกจุกที่หน้าอกทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดคำพูดออกมาได้
คนพวกนี้เป็นใครกัน แล้วต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ดวงตาที่เคยเปื้อนด้วยรอยยิ้ม และความมุ่งมั่น แต่ตอนนี้กลับเป็นที่อยู่ของน้ำตาที่รื้นขอบตาออกมา โดยเจ้าตัวไม่อาจบังคับหรือควบคุมได้
จะทำยังไงดี
"เชฟครับ ผมวางออเดอร์ล็อตหน้าไว้ตรงนี้นะ"
"ขอบใจมากนะอากิ"
"ครับ" หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลถาม มือก็พลางปลดผ้ากันเปื้อนที่คาดอยู่ที่เอวออก มองไปรอบร้าน แต่ไม่เห็นผู้ที่กำลังมองหา จึงเอ่ยปากถาม “แล้วนี่ เห็นอเกนส์ไหมครับ"
"เมื่อกี้เห็นบอกจะเอาขยะไปทิ้งนะ แล้วนี่ยังไม่กลับมาหรอ" พ่อครัวหันมาตอบคำถาม พร้อมทั้งคำถามในคราวเดียวกัน
"วันนี้อยู่ดึกวันแรกซะด้วย หรือว่าจะรีบกลับไปแล้ว" อากิพูดขณะเดินไปยังล๊อคเกอร์เก็บของ ก่อนจะเปิดดูช่องเก็บของของสาวน้อย "กระเป๋าก็ยังอยู่นี่นา..." ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบา
"สแน๊ก!! เห็นอเกนส์หรือเปล่า" ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมตะโกนถาม สีหน้าฉายแววเป็นกังวล
"ฮะ ยังไม่มาหรอเนี่ย" ตอบพร้อมวางมือจากการเช็ดโต๊ะ
"หมายความว่ายังไง เด็กนั่นยังไม่กลับเข้ามาหรอ"
"ก็เมื่อกี้อเกนส์เอาขยะไปทิ้ง"
"นานเท่าไหร่แล้ว" ถามด้วยเสียงดังยิ่งขึ้น
"น...นานแล้วอากิ ผมลืมไปซะสนิทเลย" สีหน้าหลังตอบคำถามของสแน๊กถอดสีลง
"ไม่ดีแล้ว ดึก ๆ แบบนี้เด็กนั่นคงไม่ไปเดินเล่นที่ไหนต่อแน่ ๆ ไปเร็ว!"
_________________________
*การแช่แข็งฆ่าพยาธิ FDA's Food Code recommends these freezing conditions to retailers who provide fish intended for raw consumption. แปลว่า FDA (อย สหรัฐ) แนะนำดังนี้
วิธีแช่ 7 วัน
- ควรแช่เนื้อดิบ ที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า -20 องศา c เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
วิธีแช่ 15 ชม.
- แช่ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า -35 องศา c จนเนื้อนั้นแข็งกลายเป็นน้ำแข็งเสียก่อน เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ให้นับจากตอนนั้น แช่ไปอีก 15 ชั่วโมง
วิธีแช่ 24 ชม
- แช่ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า -35 องศา c จนเนื้อนั้นแข็งกลายเป็นน้ำแข็งเสียก่อน เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ลดความเย็นลงเหลือ -20 องศา c แช่ต่อไปอีก 24 ชม
ถ้าสันนิษฐานด้วยสุมมติฐานว่า ความเย็นจัดขนาดนี้เท่านั้น ที่ฆ่าไข่พยาธิได้ เราไม่ควรเลือกทานปลาดิบ จากร้านที่ไม่มั่นใจว่า ได้ปลาดิบมาจากการขนส่งที่ไม่มีคุณภาพ หากจะทานปลาดิบนั้น ต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้เท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.pendulumthai.com/smf/index.php?topic=4006.0
**ชิซุโอกะ เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ (ส่วนกลางของประเทศ) เมืองเอกใช้ชื่อเดียวกันคือเมืองชิซุโอกะ (静岡市 Shizuoka-shi) จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งขอภููเขาไฟฟูจิ (富士山 Fuji-san) และมีชื่อเสียงของการปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดชิซุโอกะ
_____________
Yasang
01062559
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามายังห้องนอนของเด็กสาว เป็นอันทำให้ร่างบางต้องทำใจลุกจากที่นอน แม้ว่าจะอยากนอนต่อขนาดไหนก็ตาม เป็นดังที่คนโบราณพูดไว้ว่า สร้างบ้านต้องให้ห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออกเพื่อแดดตอนเช้าจะได้ส่องและทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกไปในตัว เด็กสาวหรี่ตาเล็กน้อยเพื่อเป็นการรับแสงสว่างนั้น แล้วจึงค่อย ๆลุกจากที่นอน
ไอริณทำงานที่ร้านอิจินิจิมาได้หนึ่งเดือนแล้ว โดยที่ทุก ๆ วันป้าและแม่ของสาวน้อยจะถามเสมอว่า "ไหวรึเปล่า...ถ้างานหนักก็อย่าฝืนเลย" สาวน้อยก็ได้แต่บอกไปว่า “ไหวมาก ๆ ค่ะ” พร้อมรอยยิ้ม เธอเข้าใจดีว่าป้าและแม่อดห่วงไม่ได้ที่เธอต้องออกไปทำงานพิเศษ ก็นี่มันเป็นครั้งแรกของสาวน้อย แม้ว่าจะต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งเวลาในการทำกิจกรรมในแต่ละวันก็ลดลง หากมันก็ทำให้เห็นว่าเวลาทุกนาทีมีคุณค่ามากขึ้น
มือบางเปิดประตูเข้ามาในร้าน เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น เห็นสาหร่าย อากิและพ่อครัว กำลังนั่งดูอะไรบางอย่างที่อยู่ในกล่องเก็บความเย็น ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"มาแล้วหรออเกนส์..." สาหร่ายกล่าวทักทายเมื่อเห็นสาวน้อยเดินเข้ามาในร้าน
"สวัสดีค่ะ ดูอะไรกันอยู่หรอค่ะ" ถามพลางเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสาม สแน๊กที่พุ่งออกมาจากมุมหนึ่งด้วยความเร็วสูง พร้อมน้องหมึกยักษ์ที่หนวดยั้วเยี้ยอยู่ในมือ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องการจะแกล้งให้สาวน้อยตกใจ หากก็ผิดคาดเพราะไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางของเด็กสาว
"เอ๊ะ! นี่ไม่ตกใจเลยหรอ" พูดพลางทำหน้าผิดหวัง
"คิดว่านี่ไม่ใช่เวลาเล่นนะ" สาหร่ายพูดเสียงเรียบพลางค้อนใส่สแน๊กหนึ่งวง
"เรากำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ปลาดิบกลับมาเป็นเมนูยอดนิยมของร้านเหมือนที่ผ่านมา"สาหร่ายเริ่มอธิบายถึงต้นสายปลายเหตุ
"อ้าว...แล้วตอนนี้คนไม่นิยมทานปลาดิบกันหรอคะ"
"พยาธิไงล่ะ...ช่วงนี้มีข่าวออกมาว่าแม้ปลาดิบจากญี่ปุ่นก็ยังไม่เว้น ถึงขนาดปรุงสุกแล้วพยาธิยังไม่ตายก็มี" พ่อครัวพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ความนิยมในการทานปลาดิบลดน้อยลง
"...หรอคะ" ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จึงไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาบางคู่ลอบมองเธออยู่เป็นพัก ๆ "...*การแช่แข็งก็ฆ่าพยาธิได้ใช่ไหมคะ"
"ถูกแล้ว แต่ว่ากว่าวัตถุดิบจะมาถึงที่นี่เราก็แช่มาแล้ว ดังนั้นเรื่องพยาธิที่นี่ก็เลยหายห่วง จะห่วงก็แต่ลูกค้าที่ไม่เช้าใจนี่แหละ" อากิอธิบายพลางใช้มือแกะดูวัตถุดิบที่อยู่ภายในกล่อง
"พวกเราก็เลยต้องมาคิดว่าจะเอายังไงต่อไป...เพราะทาง**ชิซุโอกะก็รู้ปัญหานี้และมีแผนจะให้เรางดการทำอาหารจำพวกปลาในระยะนี้ไปก่อน"
"ขนาดนั้นเลยหรอคะ" ทุกคนพยักหน้าแทนคำตอบ
เวลาจวนเลิกงานลูกค้าในร้านก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะน้อยลงเลย หากก็ไม่ได้แน่นร้านจนการบริการไปไม่ทั่วถึง ที่นี่เป็นร้านอาหารที่ไม่ได้เน้นเพียงรสชาติของอาหารเพราะว่าการให้ความใส่ใจต่อลูกค้าในทุก ๆ ด้านนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ความอ่อนน้อมของพนักงานทุกคนทำให้ลูกค้าแทบทุกช่วงวัยติดใจในร้านอิจินิจิ จึงไม่แปลกถ้าคุณเดินเข้ามาในร้านแล้วจะเห็นลูกค้าทั้งที่เป็นเด็ก ตลอดจนผู้สูงอายุ
อเกนส์จัดแจงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน การมาทำงานที่นี่ได้อะไรใหม่ ๆ หลายอย่างมาก และที่สาวน้อยค่อนข้างชอบใจก็คือ ชุดจิมเบของพนักงานหญิง ที่เมื่อใส่แล้วให้รู้สึกถึงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และนี่ก็น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้า
"อากิ..." เสียงใสร้องเรียกร่างสูงที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างภาชนะอาหารอยู่ในครัว
"หือ" ตอบเสียงเบา พร้อมหันหน้ามาทางเด็กสาว
"เออ...คือว่า ขอเวลาสักเดี๋ยวได้รึเปล่าอากิ"
"เรื่องอะไร บอกมาก่อน" พูดพลางเอื้อมมือหนาไปเช็ดกับผ้าที่แขวนไว้ข้างผนัง
"อเกนส์จะขอข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรักษาวัตถุดิบหน่อยน่ะ"
"...อเกนส์จะเอาไปทำอะไร" ถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะน้อย ๆ แล้วจึงเดินมาที่เคาน์เตอร์หน้าห้องครัวพร้อมมองไปยังสาวน้อยตรงหน้า
"จะศึกษาอะไรนิดหน่อยน่ะ แค่วันเดียวนะ"
ร่างบางยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มคู่สนทนาก็เดินหายไปในครัว สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารสองเล่มใหญ่ ที่มีภาษาญี่ปุ่นเขียนปะหน้าเอาไว้ พร้อมกับยื่นแฟ้มมาไว้ตรงหน้าสาวน้อย เธอหยิบแฟ้มมาเปิดดูแล้วก็พบว่าไม่ใช่เพียงหน้าปก แต่เนื้อหาข้างในยังเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลย
ร่างสูงเห็นคิ้วที่ขมวดของเด็กสาวก็ให้รู้สึกขำ หากก็พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มันเล็ดลอดออกมา
"เพราะแบบนี้ไง เลยถามว่าอเกนส์จะเอาไปทำอะไร" พูดพร้อมยกมือหนาขึ้นเท้าคาง และมองไปยังคู่สนทนา
"แล้วทำไมไม่มีภาษาไทยเลยล่ะอากิ แบบนี้พนักงานจะอ่านรู้เรื่องหรอ"
"...ก็ไม่ได้มีไว้ให้พนักงานทั่วไปดูน่ะสิ"
"อ้าว แล้วทำไมอากิถึงเอาออกมาได้ล่ะ" ถามด้วยความสงสัย พลางเพ่งพิศไปยังนัยน์ตาสีน้ำตาล
"ก็แอบเอาออกมาไง เห็นอเกนส์จะเอาให้ได้"
"ง...งั้นขอแค่เรื่องการเก็บรักษาพวกอาหารทะเลก็ได้"
ไม่ได้ตอบกลับใด ๆ หากก็เอื้อมมือหนามาหยิบแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่ทั้งสองเล่มไป “แล้วจะเอาภาษาอะไร” เมื่อเห็นใบหน้างุนงงของสาวน้อย อากิแทบจะหลุดขำ ก่อนพูดไปว่า "รู้แล้ว ๆ ภาษาไทยซินะ" พูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะกดยิ้มที่มุมปาก
สาวน้อยพยักหน้ารับคำ พลางก็คิดถึงท่าทีเงียบขรึมบ้าง เฮฮาบ้างของอากิที่มีให้เห็นได้ทุกวัน และดูเหมือนว่าสแน๊กจะเป็นคนสำคัญในการดึงอารมณ์หลากหลายรูปแบบออกมาจากเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลคนนี้
"ถ้าแช่แข็งเจ็ดวัน ต้องแช่ที่อุณหภูมิติดลบยี่สิบองศาเซลเซียส แต่ถ้าแช่ สิบห้าชั่วโมง หรือยี่สิบสี่ชั่วโมง ต้องแช่ให้เป็นน้ำแข็งก่อนแล้วนับต่อไปอีก สิบห้าหรือยี่สิบสี่ชั่วโมงตามลำดับ อ่อ...งั้นสามระดับที่อากิว่าเป็นแบบนี้เองงั้นหรอเนี่ย"
เอกสารเกี่ยวกับพยาธิวิทยาประมาณสิบแผ่นวางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของอเกนส์ รวมทั้งเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรักษาวัตถุดิบจำพวกอาหารทะเลของร้านอิจินิจิด้วย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"...ป้าหรอคะ รอเดี๋ยวนะคะ" มือบางรวบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ผู้เป็นป้า
"อเกนส์ทำอะไรอยู่ลูก ไปกินข้าวกันป้าเพิ่งทำเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ เลยจ้ะ" ผู้ที่อยู่ภายใต้หมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อนเอ่ยถามหลานสาว พร้อมสอดส่ายสายตามองไปยังโต๊ะเขียนหนังสือที่ดูจะเตะตาเป็นที่สุด เอกสารวางอยู่มากมาย ทำให้ผู้เป็นป้ารู้ทันทีว่าสาวน้อยกำลังทำอะไรอยู่
"พักบ้างก็ได้นะอเกนส์" มือของผู้สูงวัยยกขึ้นลูบหัวหลานสาว ที่ตอนนี้กำลังฉีกยิ้มเต็มที่
"อเกนส์พักแล้วค่ะ เดี๋ยวสักครึ่งชั่วโมงหนูจะลงไปนะคะ ป้ากับลุงทานก่อนก็ได้" ร่างบางย่อตัวลงไปเพื่อกอดผู้เป็นป้า ที่ดูจะรักและเป็นห่วงเธอไม่แพ้กับสกุลตราแม่ของเธอ
"ครึ่งชั่วโมงนะ! แล้วลงมากินข้าว" นิ่งไปครู่หนึ่งพร้อมมองหลานสาว "โอเคนะ เดี๋ยวป้ารอ"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูลงไป” เธอฉีกยิ้มให้ผู้เป็นป้า พร้อมพยักหน้ารับคำ
เมื่อป้าออกไปแล้วสาวน้อยก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ทำการจดรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ให้ง่ายต่อการเข้าใจ...
"ทั้งที่ไม่มีพยาธิ แล้วถ้าต้องงดการขาย มันก็คงน่าเสียดายแย่" สาวน้อยพึมพำเบา ๆ
เสียงกระดิ่งแขวนของบานประตูหน้าร้านดังขึ้น
"อ้าว...วันนี้วันหยุดไม่ใช่หรออเกนส์" พ่อครัวทักทาย เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาในร้านไม่ใช่ลูกค้า หรือพนักงานที่มีตารางงานในวันนี้
"เชฟดูนี่ค่ะ" สาวน้อยพูดพร้อมชูอะไรบางอย่างให้คู่สนทนาดู
"หอบอะไรมาพะรุงพะรังล่ะเนี่ย"
"วันนี้อเกนส์มาด้วยหรอ" สาหร่ายเลิกคิ้วถาม ด้วยข้อสงสัยเดียวกันกับพ่อครัว
"พี่สาหร่าย วันนี้หนูเอาแถลงการณ์สัตว์ทะเลมาให้ค่ะ" มือบางหยิบกระดานบอร์ดขนาด หนึ่งคูณหนึ่งเมตรให้สาหร่ายดู
"แถลงการณ์สัตว์ทะเล"
"โห...อเกนส์" สาหร่ายเอื้อมมือมารับกระดานบอร์ดไปพิจารณาอยู่พักหนึ่ง พบว่าข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องพยาธิถูกอธิบายไว้ให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งข้อมูลการเก็บรักษาวัตถุดิบของทางร้านที่น่าจะช่วยไขข้อข้องใจหรือคลายความกังวลของลูกค้าไปได้
"หนูคิดว่ามันจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในอาหารทะเลของร้านเราเหมือนเมื่อก่อน..."
"อ้าว วันนี้วันหยุดไม่ใช่หรออเกนส์" สแน๊กพูดพร้อมกับโผล่หน้าออกมาจากในครัว แล้วก็ได้เห็นบรรดาแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ "อะไรกันมีทั้งปลาหมึก ปลามากุโร่แล้วก็กุ้ง โอ้โห แล้วนี่อย่าบอกนะว่าอเกนส์ทำเองคนเดียว" เว้นช่วงเล็กน้อยเพื่อหันไปหาเด็กสาว ก่อนเธอจะพยักหน้ารับเป็นเชิงตอบว่าใช่
“ทำเองแน่นะ ไม่ได้จ้างแน่นะ”
“แน่สุด ๆ เลย ก็ดูจากแผลที่นิ้วนั่นสิ” สาหร่ายว่า พลางชี้ให้หนุ่มอารมณ์ขันดูที่นิ้วมือของสาวน้อย
“เออจริงด้วย ยังเจ็บอยู่มั้ยอเกนส์” สแน๊กถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรจ้า ไม่เจ็บแล้ว” ตอบพร้อมยิ้มบาง
“แต่ว่าตัดโฟมได้สวยมากเลยนะ” สแน๊กหยิบแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นสัตว์ทะเลไปพินิจพิจารณา และแล้วทุกคนก็ช่วยกันจัดแจงอุปกรณ์ทุกอย่าง เพื่อที่จะติดตั้งป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเล ไว้ที่หน้าร้านเพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้ว่าอาหารของร้านอิจินิจิปลอดภัยไร้พยาธิ
"ขาตั้ง ๆ อยู่ตรงนี้ อ่ะ! นี่ไง" หนุ่มอารมณ์ขัน กำลังง่วนอยู่กับการรื้อของภายในห้องเก็บของข้าง ๆ ห้องครัว อากิเดินเข้ามาเห็นจึงถามว่า
"ขาตั้งเหรอ จะเอาไปทำอะไร"
"อากิ วันนี้อเกนส์มาด้วยนะ เห็นบอกเอาป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเลอะไรสักอย่างมาให้ เจ้าตัวว่างั้นนะ" พูดพลางเอามือปัดหยากไย่ที่ติดอยู่กับขาตั้ง
"แถลงการณ์สัตว์ทะเล" เงียบไป แล้วขมวดคิ้วเหมือนกำลังครุ่นคิด จนสแน๊กสังเกตเห็น
"ก็นู้นไง นู้น ๆ" สแน๊กบุ้ยปากไปทางหน้าร้าน "แถมยังมีนี่ด้วยนะ" พูดพร้อมชูแผ่นโฟมที่ถูกขึ้นรูปเป็นปลาหมึกให้หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลดู
อากิยกปลาหมึกโฟมขึ้นมาพินิจพิจารณาบ้าง "อย่าบอกนะว่าเด็กนั่นทำคนเดียว"
"ใช่สิ...เมื่อกี้เห็นคุยกับเจ๊หร่ายว่ามันคงทำให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องอาหารทะเลของทางร้านมากขึ้นนะ ทำนองเนี่ย อากิเองก็ออกมาช่วยบ้างซิ อย่ามัวมานั่งหน้าแดงอยู่คนเดียว" ไม่รอให้คู่สนทนาตอบโต้เมื่อพูดจบสแน๊กก็รีบวิ่ง (อย่างรวดเร็วที่สุด) ออกไปหน้าร้านพร้อมกับขาตั้งสองอัน
อากิวางมือจากงานที่ทำแล้วเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ห้องครัว ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมทั้งเอามือขึ้นมาเท้าคาง นัยน์ตาสีน้ำตาลมองทะลุผ่านกระจกใส ไปยังเด็กสาวที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานหน้าร้าน แม้ทุกคนจะดูยุ่ง ๆ กับงานแต่ก็มีเสียงหัวเราะดังเข้ามาเป็นพัก ๆ
ไอริณก้มบ้างเงยบ้างอยู่หน้าร้าน พร้อมกับสาหร่ายที่กำลังช่วยกันติดตั้งป้ายแถลงการณ์สัตว์ทะเล ปอยผมที่สาวน้อยเปียเอาไว้หลวม ๆ ล่วงลงมาคลอเคลียบริเวณแก้มใส ชายหนุ่มผู้นั่งสังเกตการณ์อยู่ไม่ได้ละสายตาไปไหน จึงได้เห็นเธอทั้งพูด ยิ้ม หัวเราะ หรือแม้กระทั้งตอนขมวดคิ้วเพราะกำลังใช้ความคิด
"อา...กิ..." เด็กสาวเรียกชื่อชายหนุ่มพลางโบกมือให้ แล้วมันช่างยากนักที่เขาจะไม่โบกมือตอบ “เดี๋ยวเข้าไปหาน้า" เด็กสาวเอามือปล้องปากพูดก่อนจะปลีกตัวเข้ามาในร้าน
"เด็กติ๊งต๊อง" พึมพำ แต่ใบหน้ากลับเปื้อนรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เสียงประตูดังขึ้นเพราะเด็กสาวผลักมันเข้ามา พร้อมกับเดินตรงมาที่ร่างสูงซึ่งนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ห้องครัว
"อากิ ขอบคุณนะสำหรับเอกสารเมื่อวานนี้"
"นั่นผมควรพูดมากกว่ามั้ง" ดวงตาสีน้ำตาลของเขาเผลอมองเข้าไปยังแววตาของไอริณแวบหนึ่งในขณะที่สนทนา เขาจึงรีบเสมองไปทางอื่น
"แต่ก็ต้องขอบคุณอากิอยู่ดีนั่นแหละ"
"อืม เอาเป็นว่าอเกนส์ขอบคุณผม ผมก็ต้องขอบคุณอเกนส์" ร่างสูงลอบสังเกตท่าทีของเด็กสาวในขณะที่เขาพูด เห็นเพียงเธอเม้มปากน้อย ๆ เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะเกรงใจชายหนุ่ม จึงไม่ได้พูดอะไรออก “เพราะต่อให้ผมมีข้อมูลพวกนั้นอยู่ในมือ ก็ใช่ว่าผมจะตัดโฟมได้สวยเหมือนอเกนส์” รู้เพราะได้ยินและเห็นพลาสเตอร์ลายกระต่ายสีฟ้า ซึ่งติดอยู่บนนิ้วชี้ข้างซ้ายของสาวน้อย
“อ...เอ่อ แต่ว่าก็ต้องขอบคุณอยู่ดี ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล” พูดเสียงเบาพลางยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ผมบอกแล้วว่าคนละครึ่ง ผมมีข้อมูล อเกนส์มีความคิดสร้างสรรค์ดี ๆ ยังไงก็ต้องขอบคุณมาก ๆ” พูดเสียงเรียบแต่เด็ดขาด เขาละสายตาจากดวงตาของไอริณ มองไปยังนิ้วมือของเด็กสาว แล้วพูดว่า “แผลใหญ่พอสมควรเลยนะอเกนส์ เลือดถึงได้ซึมขนาดนั้น”
“อ่อ...นิดเดียวค่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
“ดูก็รู้ว่ามันไม่นิด”
ไม่ฟังคำทัดทานของสาวน้อย อากิลุกขึ้นแล้วเดินไปยังตู้ยาสามัญที่ติดอยู่ใกล้ ๆ ตู้เก็บจานแขวนพนัง เปิดแล้วหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลสีฟ้าล้วนออกมา กลับมานั่งที่เดิน คว้ามือไอริณมาไว้ตรงหน้า แกะ พลาสเตอร์อันเก่าออก เห็นเลือดที่ซึมกำลังจะแข็งติดบริเวณปากแผล ซึ่งยาวประมาณสองเซนติเมตร อากิเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ดูจะเริ่มเจ็บแผลเพราะเขาดึงพลาสเตอร์ออก
“เมื่อวานได้ล้างแผลมั้ย”
“ล้างค่ะ”
“ล้างด้วยอะไร” ถามพลางยื่นมือไปหยิบผ้าเปียกมาเช็ดรอบบริเวณแผล
“น้ำเกลือค่ะ”
“ทำไมไม่ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือไม่ก็ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์” ถามโดยไม่ได้มองหน้า
“มันแสบค่ะ” ตอบยิ้ม ๆ จนชายหนุ่มต้องหลุดขำ “อากิ เดี๋ยวอเกนส์ทำเองก็ได้”
“เรียบร้อยแล้ว” ร่างสูงเช็ดคราบเลือดที่แข็งตัวออกจนหมด แล้วจึงเตรียมปิดพลาสเตอร์ “ที่นี่มีแต่ พลาสเตอร์สีล้วนนะ ไม่มีลายกระต่าย” พูดแล้วก็ปิดพลาสเตอร์แผ่นใหม่ลงไปบนแผลที่ปราศจากคราบเลือด
“อากิพูดเหมือนอเกนส์เป็นเด็กน้อยไปได้ จะมีลายหรือไม่ ก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” พูดกลั้วหัวเราะ เพราะอดขำไม่ได้กับคำพูดของชายหนุ่ม สาวน้อยดึงมือตัวเองกลับไป ใช้นิ้วโป้งด้านขวาลูบแผลอย่างเบามือ แล้วว่า “ขอบคุณน้า อากิ”
"อ๊ากกก!" เสียงร้องของสแน๊กดังมาจากหน้าร้าน
"หมอนั่น ทำบ้าอะไรอีกล่ะเนี่ย" หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลพึมพำ ก่อนจะลุกและเดินออกไปหน้าร้าน พร้อมกับไอริณ
"เล่นอะไร สแน๊ก" อากิถามเมื่อมาถึงต้นตอของเสียง
สีหน้าของสาหร่ายและพ่อครัวทำให้ชายหนุ่มพอเดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
"อากิ ก...กาวร้อน กาวร้อนติดมือผม" สีหน้าดูไม่สู้จะดีนัก นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนเดินผ่านไปมา เขาคงจะปล่อยโฮไปแล้ว
"รีบช่วยโผมมม ผมไม่อยากเป็นโดเรม่อน"
อากิมองหน้าสาหร่าย พ่อครัว และไอริณสลับกันไปมา หากในใจอยากจะหัวเราะเต็มที แต่ก็สงสารเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ ที่กำลังถูกกาวร้อนรวบนิ้วทั้งสี่ติดไว้ด้วยกัน
"สแน๊กใจเย็น ๆ นะ เป็นโดเรม่อนก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่หรอก ทำใจซะเถอะ" พี่สาหร่ายพูดพลางเอามือตบไหล่สแน๊กเป็นเชิงยียวน มากกว่าการปลอบใจ
หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลนั่งลงข้าง ๆ สแน๊กพร้อมกับจับมือของเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กขึ้นมาดู
"เดี๋ยวอเกนส์ไปเอาน้ำร้อนมาให้นะคะ" ร่างบางวิ่งเข้าไปในร้าน ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับชามใบโตที่รองรับน้ำร้อนเอาไว้ "สแน๊กเอามือจุ่มลงไป กาวจะได้หลุดออกง่าย ๆ" พูดพลางเอาชามน้ำร้อนเลื่อนไปตรงหน้าหนุ่มอารมณ์ขัน ที่น้ำตาจสนจะเล็ด ชายหนุ่มมองชามน้ำร้อนสลับกับใบหน้าของสาวน้อย
"กาวร้อนมันก็ร้อนมากแล้ว ถ้าผมขืนเอามือจุ่มน้ำร้อนอีก มันจะดีหรออเกนส์ อากิช่วยผมด้วย..."
"แกจะจุ่มดี ๆหรือจะให้จุ่มให้" อากิพูดด้วยน้ำเสียงเข้มและดุดันกว่าปกติ
"ม่ายยย" สแน๊กส่ายหัวเป็นปฏิเสธอย่างสุดฤทธิ์
"งั้นหรอ? แน่ใจนะ" พี่สาหร่ายและอากินั่งลงข้าง ๆ สแน๊กอีกครั้งพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย และจากนั้น
"อ๊ากกก!!"
"ช่วงหนึ่งเดือนมานี้ ลูกค้าสั่งเมนูปลาและอาหารทะเลมากกว่าเมื่อก่อนเกือบเท่าตัวเลยนะ" สาหร่ายพูดขึ้นขณะที่บันทึกยอดขายสินค้าชนิดต่าง ๆ "คงเพราะแถลงการณ์สัตว์ทะเลของอเกนส์แน่ ๆ เลย"
"แถมช่วงนี้ลูกค้าก็เยอะขึ้นด้วย หลายครั้งเลยนะที่ผมเคลียร์โต๊ะแทบไม่ทัน แบบนี้อีกไม่นานคงได้ขยายร้านแล้วใช่ไหมเจ๊หร่าย" สแน๊กตั้งคำถาม
"เรื่องนั้นมันขึ้นกับผู้ใหญ่ที่ชิซุโอกะนู้น ฉันไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจซะหน่อย"
"แล้วเจ๊ได้ติดต่อไปบ้างรึป่าว...ทางนั้นอะไร ๆ เรียบร้อยดีมั้ย"
"อืม ก็นั่นแหละที่กำลังเป็นห่วง"
เมื่อเข้าเดือนใหม่ไอริณก็ทำงานได้ร่วมสองเดือนแล้ว จึงถึงเวลาที่สาวน้อยจะได้ลองทำงานผลัดบ่ายบ้าง เป็นการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกเดือนของพนักงาน ส่วนอินเพื่อนใหม่ของเธอ ยังคงทำผลัดงานช่วงเช้าต่อไปด้วยเหตุที่ว่า บ้านเธอค่อนข้างไกล การจะขับรถกลับในช่วงเวลาดึกสงัดคงจะไม่เป็นการดีนัก งานช่วงบ่ายจะเริ่มตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็นไปจนห้าทุ่มโดยประมาณ การทำความสะอาดของผลัดบ่ายถือว่าเป็นงานสำคัญ เพราะจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับวันถัดไป
"เดี๋ยวอเกนส์เอาไปทิ้งให้เองค่ะเชฟ" มือบางรวบรัดถุงขยะสีดำใบใหญ่ให้แน่น ก่อนจะค่อย ๆ ยกเพื่อนำออกไปทิ้งหลังร้าน
"งั้นฝากด้วยน๊า"
"ค่ะ"
"อเกนส์...ไหวรึเปล่า" สาหร่ายท้วงขึ้นเมื่อเห็นสาวน้อยเดินออกมาพร้อมถุงขยะใบเขื่อง
"ผมเอาไปทิ้งให้ดีกว่านะ อเกนส์พึ่งเคยอยู่ช่วงบ่ายวันแรกคงยังไม่เคยไปหลังร้านซินะ นี่มันดึกแล้วหลังร้านน่ากลัวนะ” สแน๊กลุกจากเก้าอี้หมายจะมาหิ้วถุงขยะไปทิ้งให้
"ไม่เป็นไรจ้า งานของสแน๊กก็มีอีกตั้งเยอะ ทางนี้ให้อเกนส์ทำเถอะนะ สบายมากไม่ต้องเป็นห่วง"
"หรอ...งั้นก็รีบทิ้งแล้วรีบมานะ" สแน๊กมองหน้าเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
“จ้า”
ที่ทิ้งขยะของทางห้างจะแบ่งไว้สามจุด คือริมสุดอาคารทั้งสองด้านแล้วก็ตรงกลางอาคาร ข้างหลังร้านจะมีถนนเล็ก ๆ สำหรับรถเก็บขยะของทางห้างที่จะมาเก็บทุกเช้า แต่ว่าข้างหลังนี่มืดเหมือนที่สแน๊กว่าจริง ๆ เพราะมีไฟแค่สองสามดวงในขณะที่ตึกยาวไม่น่าจะต่ำกว่าสามร้อยเมตร
"ฮึบ!!" ไอริณใช้แรงนิดหน่อยในการเหวี่ยงถุงขยะใบใหญ่ให้ลงไปยังจุดทิ้งขยะ ที่จะมีแนวเหล็กสูงประมาณเมตรกว่ากั้นเอาไว้
"แค่นี้ก็เรียบร้อย รีบกลับเข้าร้านดีกว่า" สาวน้อยพึมพำคนเดียว พลางก้าวกระโดดยาว ๆ เพื่อจะได้กลับเข้าไปในร้านเร็ว ๆ บรรยากาศข้างนอกนี่น่ากลัวยังไงชอบกล
"เดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหนจ๊ะ"
ร่างบางผงะกับเสียงที่ดังขึ้นตรงหน้า ด้วยความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นเจ้าของเสียงแต่แสงสลัว ๆ ทำให้พอดูออกว่าเป็นเงาของชายร่างใหญ่สองคน
"ดึก ๆ แบบนี้ใครใจร้ายใจดำปล่อยให้สาวน้อยออกมาทิ้งขยะคนเดียวละนี่" ชายคนหนึ่งพูดขึ้นคำพูดของสแน๊กอยู่ ๆ ก็ลอยเข้ามาในหัวของเธอ "นี่มันดึกแล้ว หลังร้านน่ากลัวนะ"
หมับ! เด็กสาวหลุดจากความคิดเพราะมือของชายคนหนึ่งเข้ามากระชากข้อมือของเธอเอาไว้
"แกอย่าส่งเสียงดังไป ไม่งั้นแกโดนดีแน่"
ไอริณตั้งตัวไม่ทันกับการกระทำของชายฉกรรจ์ทั้งสอง ความตกใจในตอนแรกหายไปเกือบหมด หากก็มีความกลัวที่ยากจะพรรณนาประดังประเดเข้ามาแทนที่ เสียงที่อยากจะร้องออกมาให้คนช่วย ก็เหือดแห้งหายไปแทบไม่เหลือ ความรู้สึกจุกที่หน้าอกทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดคำพูดออกมาได้
คนพวกนี้เป็นใครกัน แล้วต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ดวงตาที่เคยเปื้อนด้วยรอยยิ้ม และความมุ่งมั่น แต่ตอนนี้กลับเป็นที่อยู่ของน้ำตาที่รื้นขอบตาออกมา โดยเจ้าตัวไม่อาจบังคับหรือควบคุมได้
จะทำยังไงดี
"เชฟครับ ผมวางออเดอร์ล็อตหน้าไว้ตรงนี้นะ"
"ขอบใจมากนะอากิ"
"ครับ" หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลถาม มือก็พลางปลดผ้ากันเปื้อนที่คาดอยู่ที่เอวออก มองไปรอบร้าน แต่ไม่เห็นผู้ที่กำลังมองหา จึงเอ่ยปากถาม “แล้วนี่ เห็นอเกนส์ไหมครับ"
"เมื่อกี้เห็นบอกจะเอาขยะไปทิ้งนะ แล้วนี่ยังไม่กลับมาหรอ" พ่อครัวหันมาตอบคำถาม พร้อมทั้งคำถามในคราวเดียวกัน
"วันนี้อยู่ดึกวันแรกซะด้วย หรือว่าจะรีบกลับไปแล้ว" อากิพูดขณะเดินไปยังล๊อคเกอร์เก็บของ ก่อนจะเปิดดูช่องเก็บของของสาวน้อย "กระเป๋าก็ยังอยู่นี่นา..." ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบา
"สแน๊ก!! เห็นอเกนส์หรือเปล่า" ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมตะโกนถาม สีหน้าฉายแววเป็นกังวล
"ฮะ ยังไม่มาหรอเนี่ย" ตอบพร้อมวางมือจากการเช็ดโต๊ะ
"หมายความว่ายังไง เด็กนั่นยังไม่กลับเข้ามาหรอ"
"ก็เมื่อกี้อเกนส์เอาขยะไปทิ้ง"
"นานเท่าไหร่แล้ว" ถามด้วยเสียงดังยิ่งขึ้น
"น...นานแล้วอากิ ผมลืมไปซะสนิทเลย" สีหน้าหลังตอบคำถามของสแน๊กถอดสีลง
"ไม่ดีแล้ว ดึก ๆ แบบนี้เด็กนั่นคงไม่ไปเดินเล่นที่ไหนต่อแน่ ๆ ไปเร็ว!"
_________________________
*การแช่แข็งฆ่าพยาธิ FDA's Food Code recommends these freezing conditions to retailers who provide fish intended for raw consumption. แปลว่า FDA (อย สหรัฐ) แนะนำดังนี้
วิธีแช่ 7 วัน
- ควรแช่เนื้อดิบ ที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า -20 องศา c เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
วิธีแช่ 15 ชม.
- แช่ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า -35 องศา c จนเนื้อนั้นแข็งกลายเป็นน้ำแข็งเสียก่อน เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ให้นับจากตอนนั้น แช่ไปอีก 15 ชั่วโมง
วิธีแช่ 24 ชม
- แช่ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า -35 องศา c จนเนื้อนั้นแข็งกลายเป็นน้ำแข็งเสียก่อน เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ลดความเย็นลงเหลือ -20 องศา c แช่ต่อไปอีก 24 ชม
ถ้าสันนิษฐานด้วยสุมมติฐานว่า ความเย็นจัดขนาดนี้เท่านั้น ที่ฆ่าไข่พยาธิได้ เราไม่ควรเลือกทานปลาดิบ จากร้านที่ไม่มั่นใจว่า ได้ปลาดิบมาจากการขนส่งที่ไม่มีคุณภาพ หากจะทานปลาดิบนั้น ต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้เท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.pendulumthai.com/smf/index.php?topic=4006.0
**ชิซุโอกะ เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ (ส่วนกลางของประเทศ) เมืองเอกใช้ชื่อเดียวกันคือเมืองชิซุโอกะ (静岡市 Shizuoka-shi) จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งขอภููเขาไฟฟูจิ (富士山 Fuji-san) และมีชื่อเสียงของการปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดชิซุโอกะ
_____________
Yasang
01062559
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ