เงินมันเยอะขยะเลยแยะ

8.8

เขียนโดย Srithon

วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.08 น.

  1 ตอนที่ ๑
  1 วิจารณ์
  3,308 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2558 14.37 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เงินมันเยอะขยะเลยแยะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          เรื่องขยะเป็นปัญหาใหญ่ ไม่เพียงระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติของเราเท่านั้น แต่มันคือปัญหาระดับโลกเชียวหละคุณเอ้ย  ฉันเห็นบ้านเราชอบพูดกันปาวๆให้ช่วยรณรงค์แยกขยะ ลดขยะ ให้เอาขยะกลับมาใช้ใหม่ แต่แล้วก็เงียบหายไปเฉยๆ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่เลย พอเกิดปัญหาขึ้นมาทีก็เริ่มกันใหม่อีก ฉันหละเพลียใจจริงๆ
          เวลาคิดจะแก้กันทั้งทีมันต้องแก้กันตั้งแต่ต้นตอของปัญหาซิเจ้าค่ะ อย่างเช่นว่าจะทำยังไงไม่ให้ขยะมันเกิดเยอะๆ ไม่ใช่ไปส่งเสริมให้มันเกิดขึ้นมาแล้วก็มานั่งหลังขดหลังแข็งลดมันหรือว่าเอามันไปใช้หมุนเวียนรีไซเคิลให้สิ้นเปลืองพลังงานเข้าไปซะอีก ฉันหละเหนื่อยใจจริงๆ ขอบ่นหน่อยเถอะ
          แต่เอาเหอะ.. ไม่อยากจะบ่นแล้ว ทุกวันนี้ตัวฉันก็แก่จะแย่อยู่แล้ว บ่นมากๆเดี๋ยวเนื้อหนังฉันมันจะยิ่งเหี่ยวยิ่งย่นไปซะมากกว่านี้อีก ไหนไหนก็ไหนไหน ฉันจะเอาเรื่องที่คนในเมืองนอกแถวประเทศอเมริกาเขาศึกษาและหาวิธีเพื่อช่วยกันลดขยะที่มันจะกลายมาเป็นของเสียว่าทำกันอย่างไร ทำยังไงให้เกิดมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนในชาติที่มันไปมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและกระเป๋าสตางค์ของเขา ซึ่งฉันก็ยังหวังว่าจะมีคนเอามาปรับใช้กับบ้านเมืองเราบ้าง ไปดูกันว่าเขาแนะนำให้ทำกันยังไง
          ฉันจะขอเริ่มด้วยเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยเงินทองที่พวกเราใช้ๆกันอยู่ซะก่อนดีกว่า มันเห็นเร็วดี ทำได้เร็วก็ได้เงินกลับเข้ามาอยู่ในกระเป๋าเร็ว แล้วก็ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากอีกด้วย
          ทุกวันนี้เวลาพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆทองๆก็ทำให้ต้องนึกไปถึงธนาคาร ฉันกล้าพูดเลยว่าทุกคนจะต้องมีเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธนาคารแน่ๆ ถึงจะไม่ทุกวันก็เกือบทุกวันจริงไหม ไม่ฝากก็ถอน ไปกู้เงินเขามาใช้บ้าง ไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือแม้แต่โอนเงินให้ลูกหลานที่อยู่กันไกลๆก็ต้องเกี่ยวข้องกับธนาคาร
          ที่เมืองนอกเขาออกไปสำรวจและพบว่า แหล่งที่ก่อกำเนิดหรือทำให้เกิดสิ่งที่เรี่ยราดระเกะระกะใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือ กระดาษสลิปจากตู้เอทีเอ็ม เขาเปรียบเทียบว่ามันถูกผลิตและโยนทิ้งออกมามากพอๆกับกระดาษที่ใช้ห่อหมากฝรั่งของคนอเมริกันที่เคี้ยวกันอยู่ทั้งประเทศ (แต่ถ้าเป็นบ้านเราคงเป็นพลาสติกห่อลูกอมซะมากกว่าฉันว่า)
          ในประเทศอเมริกาเขายังพบว่าคนอเมริกันแยงกี้จะเดินมาทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มทั่วทั้งประเทศมากถึง ๘ พันล้านครั้งต่อปีและคิดเป็นจำนวนเงินที่ทำผ่านตู้เอทีเอ็มเหล่านี้ถึง ๖ แสนล้านเหรียญเชียวนะคุณ ฉันกำลังคิดว่าถ้าทุกคนโยนกระดาษสลิปที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็มที่ว่าเนี่ยทิ้ง มันจะเยอะขนาดไหน มันคงจะมากจนเอามาทับบ้านทุกหลังในหมู่บ้านที่ฉันอาศัยอยู่เป็นแน่เลย คิดแล้วปวดหัวใจจริงๆ
          นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้เช็คที่เป็นกระดาษแทนเงินสดเกือบ ๔ หมื่นล้านฉบับต่อปี เช็คที่พูดถึงนี้มันถูกเขียนและจ่ายออกโดยธนาคารและประชาชนในประเทศของเขาเท่านั้น ในขณะเดียวกันกับที่ธนาคารก็มีเศษกระดาษที่ถูกใช้แล้วและต้องมากลายเป็นกระดาษขยะออกมาอีกมากมายเป็นพันล้านแผ่นต่อปี ทำไมมันต้องใช้กันมากมายขนาดนี้ แล้วต้นไม้กี่แสนกี่ล้านต้นที่ต้องโดนโค่น เพื่อให้เขาเอามาทำเป็นกระดาษกันหละพ่อเอ๊ยแม่เอ๊ย!
           ส่วนเรื่องการจับจ่ายใช้สอยด้วยเงินก็ถูกเปลี่ยนไป ฉันเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยหรือคนเกือบทั้งโลกรู้จักบัตรเครดิตกันดี และมักจะชอบใช้จ่ายเงินสำหรับการชำระค่าสินค้าทั้งหลายแหล่ด้วยบัตรเครดิต คุณทั้งหลายคงรู้อยู่แล้วว่า ทุกครั้งที่มีการรูดบัตรเครดิตก็จะต้องเกิดกระดาษจากการรูดบัตรออกมาด้วยทุกๆครั้ง อย่างน้อยก็ต้องมี ๒ ใบใช่ไหม ใบหนึ่งคุณเอากลับมา ส่วนอีกใบหนึ่งเจ้าของร้านค้าหรือสินค้าจะเก็บไว้เช่นกัน
          พวกที่เขาไปสำรวจมานั้นได้ประมาณว่า โดยเฉลี่ยแต่ละครอบครัวของคนอเมริกันจะมีการใช้บัตรเครดิต ๔ ใบ และนั่นก็หมายถึงว่าจะมีเจ้าบัตรพลาสติกแบนๆเล็กๆพวกนี้หมุนเวียนอยู่ในประเทศเสรีของเขาถึงประมาณ ๔๐๐ ล้านใบ (ประชากรคนอเมริกันมีราว ๓๑๕ ล้านคน) คราวนี้ถ้านึกสนุกไปเอาบัตรพลาสติกแต่ละใบมาวางเรียงต่อๆกัน เชื่อมั้ยคุณว่ามันจะได้ระยะทางที่ยาวมากกว่า ๓ หมื่นกิโลเมตรเสียอีก ถ้าให้ฉันมโนภาพแบบไทยๆจากเหนือสุดแม่สายจนใต้สุดเบตง หนึ่งพันหกร้อยกว่ากิโลเมตร บัตรพลาสติกพวกนี้จะวางเรียงยาวได้ถึง ๒๐ แถวเชียวนะท่านทั้งหลาย
          พวกบัตรเครดิตหรือบัตรพลาสติกเหล่านี้ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในเรื่องของขยะพลาสติก แต่พวกเขาพบว่าทุกๆเดือนจะมีการส่งใบสรุปค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์ มาทางจดหมายตามมาถึงที่บ้านอีก แม้ว่าบางครั้งจะเห็นว่าใบสรุปค่าใช้จ่ายพวกนี้มันก็มีแค่เพียงใบเดียว แต่คุณๆของอีฉันเคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่า ถ้าช่วงที่มันถูกส่งมาเป็นช่วงของเทศกาลใหญ่ๆ เช่น ปีใหม่ คริสต์มาส จำนวนแผ่นของใบสรุปค่าใช้จ่ายพวกนี้จะมากขึ้นอีก ๒-๓ เท่าตัว แล้วค่าใช้จ่ายของกระดาษที่ส่งมาให้เราดูเหล่านี้มันไม่ใช่ราคาถูกๆนะ มันมากมายมหาศาลทีเดียว อีกทั้งยังยิ่งชีช้ำกะหลำปลีเมื่อเห็นค่าใช้จ่ายและหนี้สินในกระดาษที่เขาส่งมามันเยอะแบบนี้ แล้วยิ่งทำให้คนรับรู้สึกเจ็บปวดจากการเป็นหนี้มากขึ้นไปอีกหละคุณเอ้ย เรียกว่าเสียทั้งเงินเสียทั้งสุขภาพจิตด้วย
          ยังไม่หมด ยังมีกระดาษที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมในตลาดหุ้นหรือว่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ซึ่งมีประมาณเกือบ ๒ หมื่นล้านหุ้นที่ได้มีการซื้อ-ขายในแต่ละวัน โดยมีมูลค่าของหุ้นทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๒๐ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเอามาแปลงเป็นเงินสกุลบาท น่าจะประมาณได้กว่า ๖๐๐ ล้านล้านบาท ตัวเลขเยอะแยะขนาดนี้พาลจะทำให้ตัวฉันปวดหัวตาลายซะมาก
          คราวนี้ฉันอยากให้คุณๆมาลองมาจินตนาการดู ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าพวกคุณทั้งหลายเป็นคนลงทุนหรือที่จริงก็คือคนลงเงินไปในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าคุณมีโอกาสเลือกได้ (จริงๆแล้วพวกคุณก็เลือกกันได้อยู่แล้ว) ฉันอยากขอร้องให้พวกคุณเลือกซื้อหุ้นกับบริษัทที่มันมีนโยบาย มีการทำงานและมีการดำเนินธุรกิจแบบที่ว่าช่วยปกป้องโลกมนุษย์ ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม เป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและทรัพยากรจริงๆ อย่างน้อยก็จะเป็นการสนับสนุนให้บริษัทที่เขามีความตั้งใจทำดีได้ดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์กับมนุษย์และโลกต่อไปได้อีกนานๆ
          ฉันเล่าเรื่องขยะที่มันเกิดมาจากเรื่องเงินให้ได้รู้กันพอสมควร ฉันก็ยังหวังว่าพวกคุณๆคงพอจะรู้แล้วว่าปัญหาขยะเยอะของเสียแยะที่ไปเกี่ยวกับธุรกิจและงานด้านการเงินเกิดมาจากอะไรบ้าง คราวนี้ฉันจะพาไปดูว่าพวกฝรั่งเขามีวิธีคิดและจัดการกับมันยังไงบ้าง เอาแบบง่ายๆก่อนไม่ต้องมีอะไรซับซ้อนให้ต้องปวดหัว หรือต้องใช้งบใช้เงินมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้มันยุ่งยาก สามารถเริ่มได้เลย เริ่มจากตัวเราก่อนได้เลย แต่ยังไงซะก็ยังหวังว่าจะได้เห็นคนที่เกี่ยวข้องในบ้านเราเมืองเราจะได้คิดและริเริ่มเอามาทำกันบ้าง

๑. ไม่เอาใบเสร็จหรือกระดาษสลิปที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็ม :

     กระดาษสลิปที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็มคือหนึ่งในหลายๆสิ่งที่เป็นภาระเกลื่อนกลาดออกมามากที่สุดบนโลกใบนี้ก็ว่าได้ เขาบอกว่าถ้าทุกคนในอเมริกาไม่เอากระดาษสลิปจากตู้เอทีเอ็มเลย มันสามารถจะช่วยประหยัดกระดาษเหล่านี้ที่จะมีความยาวมากกว่า ๒ พันล้านฟุต หรือยาวกว่า ๖ แสนกิโลเมตร หรือถ้าเอามันมาพันโลกตรงเส้นศูนย์สูตรซึ่งเป็นส่วนที่ป่องหรือกว้างที่สุดของโลก ก็จะสามารถพันโลกได้ถึง ๑๕ รอบเลยนะ

๒. ฝากและโอนเงินด้วยระบบอัตโนมัติ :

     การฝากและโอนเงินด้วยระบบอัตโนมัติไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณได้รับเงินไปใช้เร็วขึ้น แต่มันยังช่วยลดเวลาและค่าน้ำมันรถที่คุณจะต้องจ่ายเพื่อการเดินทางไปที่ธนาคาร เชื่อมั้ยว่าในแต่ละปีมีคนอเมริกันแห่กันเขียนเช็คออกมาเพื่อใช้จ่ายแทนเงินมากกว่า ๗ พันล้านฉบับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันสามารถจะถูกแทนได้ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติของธนาคาร ถ้าทำได้อย่างที่ว่านี้ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันจะช่วยให้ประหยัดเงินมากกว่า ๖.๕ หมื่นล้านเหรียญ (ถ้าคิดเป็นเงินไทย ก็มากกว่า ๒ ล้านล้านบาทเลยนะ) ที่จะต้องหมดไปกับการจ่ายเป็นค่าน้ำมันและค่าเสียเวลาที่ต้องไปธนาคารทุกครั้ง

๓. บอกรับใบแจ้งหนี้ของธนาคารแบบไม่ใช้กระดาษ :

     การบอกรับใบแจ้งหนี้ของธนาคารเป็นแบบไม่ใช้กระดาษหรือบางทีเขาก็ใช้คำว่า paperless bank statements หรือ e-statements นั้น ในอเมริกามีบางธนาคารที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่บอกรับใบแจ้งหนี้แบบไม่ใช้กระดาษและต้องส่งให้ทางจดหมายนี้ มีบางธนาคารเช่นกันที่จะนำเงินค่าใช้จ่ายที่ลดลงไปบริจาคเพื่อสาธารณกุศล
     คราวนี้ถ้าทุกบ้านยกเลิกการส่งใบแจ้งหนี้แบบนี้ ประเทศเขาก็จะสามารถประหยัดเงินค่าส่งจดหมายเป็นจำนวนไม่น้อยเลยหละคุณ ซึ่งเงินจำนวนนี้พวกเขาคำนวณแล้วว่าจะมากพอส่งให้กับเด็กที่จบชั้นมัธยมให้สามารถเรียนต่อจนจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของรัฐได้มากกว่า ๑ หมื่น ๗ พันคนเลยนะ นับเป็นบุญเป็นกุศลจริงๆ
          สำหรับหน่วยงานของรัฐในบ้านเราที่ตัวฉันเห็นอยู่เป็นประจำ แล้วฉันต้องเข้าไปเกี่ยวด้วยทุกปีก็เห็นจะมีกรมสรรพากรหน่วยหนึ่งนี่แหละ ที่เขาเอาระบบอิเลคโทรนิคมาใช้ในการยื่นแบบเสียภาษี ฉันว่ามันสะดวกดี รวมถึงเวลาที่ฉันจะส่งหลักฐานไปให้เขา ฉันก็ส่งเป็นอิเลคโทรนิคไฟล์ ไม่ยุ่งยากอะไรเท่าไหร่นะ แต่ฉันดูแล้วก็คิดว่ามันยังทำเรื่องประหยัดได้อีกนะเจ้าค่ะ เช่นเวลาจ่ายเงินภาษีคืนนั่นยังไง ท่านเจ้าขาจะต้องสั่งจ่ายเป็นเช็คธนาคารแล้วใส่ซองส่งมาให้ฉันทางจดหมายอีก ฉันเห็นว่ามันเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายไปเปล่าๆ ฉันจะยกให้ดูตั้งแต่ท่านแจ้งให้ฉันรู้ว่าท่านจะคืนเงินภาษีของฉันมาให้
          ๑. ตั้งตารอรับจดหมายจากกรมสรรพากร พอได้รับปุ๊บ ฉันก็ฉีกซองปั๊บ ดึงเอาส่วนที่เป็นเช็คออกมาจากรอยปุๆ ส่วนกระดาษที่เหลือและซองจดหมาย ฉันก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไม โยนทิ้งลงขยะเลย – เสียที่ ๑ เสียค่ากระดาษเช็ค กระดาษจดหมาย หมึกพิมพ์ ซอง และค่าไปรษณีย์ส่งจดหมายมาให้ฉัน
          ๒. ดีใจได้เช็คเงินคืนภาษีมา ฉันก็ต้องรีบขับรถไปธนาคารเพื่อเอาเช็คไปเข้าบัญชีไว้ก่อน เพราะถ้ามัวชักช้าฉันก็จะได้เงินของฉันคืนช้าไปอีก – เสียที่ ๒ เสียค่าน้ำมันรถ เสียเวลาต้องมายืนต่อคิวยาวเหยียด ยิ่งแก่ๆอย่างฉันยืนนานๆแล้วมันปวดหลังปวดขา พอกลับถึงบ้านก็ต้องเสียค่ายานวดอีก
          ๓. พอธนาคารได้รับเช็คไปแล้ว กว่าจะโอนเงินใส่บัญชีของฉันก็ต้องเสียเวลาอีกสามวันเจ็ดวัน เพราะคุณธนาคารเขาต้องนำส่งเช็คกลับไปส่วนกลางหรือจะกลับไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยรึเปล่า เรื่องนี้ฉันไม่แน่ใจ – เสียที่ ๓ เสียเวลา เสียโอกาสที่ฉันจะเอาเงินออกมาใช้ เพราะถ้าฉันเอาเงินออกมาใช้หมุนเวียนเร็ว เศรษฐกิจก็จะได้ขยับเขยื้อนไปได้เร็วด้วยใช่ไหม ฉันเคยเห็นคนที่มีความรู้มาพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ
          ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงบางส่วนที่พวกเราน่าจะนำมาใช้และช่วยกันได้ การลดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดขยะจากธุรกรรมทางการเงินด้วยการนำใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ทดแทนจึงเป็นหนทางหนึ่งของความพยายามลดขยะที่อยู่ใกล้ตัวพวกเรามากที่สุดอย่างหนึ่ง ฉันเห็นว่าไม่ต้องรอแล้ว เริ่มได้เลยนะคุณทั้งหลาย ตัวฉันเองก็ทำไปหลายอย่างและก็ทำมานานแล้ว ได้ผลดีแม่ศรีทรคอนเฟิร์มจ้า

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา