[ชีวิตจริง] ชีวิตวัยเรียน มันก็ประมาณนี้แหละ!!
-
เขียนโดย ๋Asmaluxt
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.37 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
11.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) บันทึกที่1 "ว่าด้วยเรื่องของการเลือกเข้า ม.ต้น"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบันทึกที่1 "ว่าด้วยเรื่องของการเลือกเข้า ม.ต้น"
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
==========================================
‣การตัดสินใจครั้งที่ยิ่งใหญ่สุดของเราๆในวัยย่างเข้าวัยรุ่นก็คือการเลือกที่เรียนต่อเรียน มัธยมต้นนั้นเอง
แต่ช่างน่าเสียดายคนส่วนใหญ่พ่อแม่มักจะเป็นคนเลือกให้
==========================================
‣ด้วยการที่ผมเรียนอยู่ในโรงเรียนเครือสาธิตทำให้มีโควต้าเรียนต่อโรงเรียนในเครือเดียวกันขณะที่นั่งอยู่ในคาบโฮมรูมเช้าเพื่อนด้านหน้าส่งกระดาษแผ่นหนึ่งมามันเต็มตัวอักษรสีดำที่เลือกโรงเรียนที่จะเรียนต่อว่าจะไปเด็กกิจกรรม หรือ เด็กเรียน เห็นแล้วรู้สึกเครียดผานทำให้การตัดสินใจของผมที่เลือกจะเป็นเด็ก กิจกรรมนั้นยากขึ้น
==========================================
‣ในช่วงนั้นการไปโรงเรียนเด็กเรียน ในตอนนนั้นเป็นเครื่องหมายของความฉลาดหลักแหลม จบไปแล้วมีงานทำ เจริญรุ่งเรืองประมาณว่าจบไปแล้วเป็น หมอจ้า!!รวยจ้า!!รวย
==========================================
‣การที่เลือกเข้าไปเรียนในโรงเรียนเด็กกิจกรรมสรุปได้ตรงๆเลยว่า เอ็งเรียนห่วยเรียนไม่ได้เรื่องแค่นั้น!จบ
==========================================
‣PARODY OF THE YEAR: "จะไปเรียน ___ เอ็งจะไปเป็นช่างตีเหล็กหรืออย่างไร"
(โรงเรียนกิจกรรมจะเน้นไปทางรำดาบ,โขน,รำถวายประกอบกับช่วงนั้นขุนศึกกำลังบูมสุดๆ)
==========================================
‣โอเค ขอยอมรับว่าผมอาจจะโคตรเรียนไม่เก่งมากแต่ผมก็ไม่ได้โง่ แล้วผมก็ไม่ได้
จะไปเป็นนักดาบหรือไปรำดาบร่วมกับ อ้ายเสมา ผมแค่ไม่ค่อยชอบเรียน วิทย์ คณิตเท่านั้น
บอกตรงๆตอนนั้นสมการ หรือการคำนวณค่าความดันอาการจากน้ำทะเลนี่ คิดทีไร
รู้สึกเหมือนไฟฟ้ามันช็อทในหัวแบบไม่มีSafty Cut
(ไม่มีการตัดก่อนสุกตายแหม่สนุกจริงอร่อยจริงเรื่องปิ้งจนไหม้และไม่มีการเตือนใดๆ)
แต่พวกวิชา ไทย คอมพิวเตอร์(LoL,Honไรเงี้ย)เก่ง อังกฤษ นาฏศิลป์เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า
==========================================
‣โอเคงั้นเลือกเป็นเด็กกิจกรรมเลย
==========================================
‣จบ
===========================================
‣พูดเล่น
===========================================
‣ไม่จบหรอกครับถ้าผมใจเด็ดขนาดนั้นคงไม่มานั้งเขียนนี่หรอกจนถึงตอนนี้หรอกครับ
คงจะไปรำดาบอยู่ที่ไหนสักแห่ง
===========================================
‣เรื่องจริงคือพอเริ่มตัดสินใจไปได้สักสองหรือสามวันมันก็เริ่มแกว่งเรื่องของเรื่องคือ
‣การตัดสินใจครั้งที่ยิ่งใหญ่สุดของเราๆในวัยย่างเข้าวัยรุ่นก็คือการเลือกที่เรียนต่อเรียน มัธยมต้นนั้นเอง
แต่ช่างน่าเสียดายคนส่วนใหญ่พ่อแม่มักจะเป็นคนเลือกให้
==========================================
‣ด้วยการที่ผมเรียนอยู่ในโรงเรียนเครือสาธิตทำให้มีโควต้าเรียนต่อโรงเรียนในเครือเดียวกันขณะที่นั่งอยู่ในคาบโฮมรูมเช้าเพื่อนด้านหน้าส่งกระดาษแผ่นหนึ่งมามันเต็มตัวอักษรสีดำที่เลือกโรงเรียนที่จะเรียนต่อว่าจะไปเด็กกิจกรรม หรือ เด็กเรียน เห็นแล้วรู้สึกเครียดผานทำให้การตัดสินใจของผมที่เลือกจะเป็นเด็ก กิจกรรมนั้นยากขึ้น
==========================================
‣ในช่วงนั้นการไปโรงเรียนเด็กเรียน ในตอนนนั้นเป็นเครื่องหมายของความฉลาดหลักแหลม จบไปแล้วมีงานทำ เจริญรุ่งเรืองประมาณว่าจบไปแล้วเป็น หมอจ้า!!รวยจ้า!!รวย
==========================================
‣การที่เลือกเข้าไปเรียนในโรงเรียนเด็กกิจกรรมสรุปได้ตรงๆเลยว่า เอ็งเรียนห่วยเรียนไม่ได้เรื่องแค่นั้น!จบ
==========================================
‣PARODY OF THE YEAR: "จะไปเรียน ___ เอ็งจะไปเป็นช่างตีเหล็กหรืออย่างไร"
(โรงเรียนกิจกรรมจะเน้นไปทางรำดาบ,โขน,รำถวายประกอบกับช่วงนั้นขุนศึกกำลังบูมสุดๆ)
==========================================
‣โอเค ขอยอมรับว่าผมอาจจะโคตรเรียนไม่เก่งมากแต่ผมก็ไม่ได้โง่ แล้วผมก็ไม่ได้
จะไปเป็นนักดาบหรือไปรำดาบร่วมกับ อ้ายเสมา ผมแค่ไม่ค่อยชอบเรียน วิทย์ คณิตเท่านั้น
บอกตรงๆตอนนั้นสมการ หรือการคำนวณค่าความดันอาการจากน้ำทะเลนี่ คิดทีไร
รู้สึกเหมือนไฟฟ้ามันช็อทในหัวแบบไม่มีSafty Cut
(ไม่มีการตัดก่อนสุกตายแหม่สนุกจริงอร่อยจริงเรื่องปิ้งจนไหม้และไม่มีการเตือนใดๆ)
แต่พวกวิชา ไทย คอมพิวเตอร์(LoL,Honไรเงี้ย)เก่ง อังกฤษ นาฏศิลป์เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า
==========================================
‣โอเคงั้นเลือกเป็นเด็กกิจกรรมเลย
==========================================
‣จบ
===========================================
‣พูดเล่น
===========================================
‣ไม่จบหรอกครับถ้าผมใจเด็ดขนาดนั้นคงไม่มานั้งเขียนนี่หรอกจนถึงตอนนี้หรอกครับ
คงจะไปรำดาบอยู่ที่ไหนสักแห่ง
===========================================
‣เรื่องจริงคือพอเริ่มตัดสินใจไปได้สักสองหรือสามวันมันก็เริ่มแกว่งเรื่องของเรื่องคือ
เราเป็นเด็กเพียงไม่กี่คนที่เป็นเด็กกิจกรรมท่ามกลางเพื่อนๆที่เป็นเด็กเรียน
คือมันเป็นเรื่องมันจะเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องเสียสละเพื่อนสนิทไปอีกหลายคน
เพราะไปถามใครๆก็เลือกที่จะเป็นเด็กเรียนกันทั้งนั้น ถามว่าและมันสำคัญยังไง?
มันสำคัญตรงที่เราจะหลุดออกจากโลกใบเดิมเป็นการพลัดพลาดจากเพื่อนครั้งใหญ่
ตอนนั้นผมคิดภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง หรือจะเนียนๆไปเป็นเด็กเรียนดี เพื่อเรียน
จบสูงๆจะได้มีงานทำดีๆมาช่วยที่บ้านไม่ก็นั้งคิดไปคนเดียวว่าสักวันไพอาร์กำลังสอง,เปอร์เซ็นท์ มันต้องมาตอบแทนบุญคุณเรา
คือมันเป็นเรื่องมันจะเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องเสียสละเพื่อนสนิทไปอีกหลายคน
เพราะไปถามใครๆก็เลือกที่จะเป็นเด็กเรียนกันทั้งนั้น ถามว่าและมันสำคัญยังไง?
มันสำคัญตรงที่เราจะหลุดออกจากโลกใบเดิมเป็นการพลัดพลาดจากเพื่อนครั้งใหญ่
ตอนนั้นผมคิดภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง หรือจะเนียนๆไปเป็นเด็กเรียนดี เพื่อเรียน
จบสูงๆจะได้มีงานทำดีๆมาช่วยที่บ้านไม่ก็นั้งคิดไปคนเดียวว่าสักวันไพอาร์กำลังสอง,เปอร์เซ็นท์ มันต้องมาตอบแทนบุญคุณเรา
===========================================
‣ตอนนั้นผมนี่รู้สึกว่าไม่แฟร์มากๆ
===========================================
‣เย็นวันหนึ่งเพื่อนมาถาม"แกเป็นบ้าอะไรเนี่ยพึมพำๆอยู่คนเดียวทั้งวัน"
===========================================
‣จบ
===========================================
‣อันนี้จบจริงคือหลังจากโดนด่าว่าบ้าเราเลยเริ่มคิดได้ เห้ย!เบอร์ติดต่อเราก็มี
ดีไม่ดีโรงเรียนมันน่าจะใกล้กันด้วย(แต่ไม่รู้ทำไมตอนนั้นมันรู้สึกดราม่ามากๆ)
เลยตัดสินใจเป็นเด็กกิจกรรมแอบเหลือบๆดูมีรายชื่อไปโรงเรียนเดียวกับเราทำไมมันเยอะจังวะ?
===========================================
‣สรุปเราโดนเพื่อนหลอก
===========================================
‣วันประกาศ คนเลือกไปเรียนไปเป็นเด็กกิจกรรมเยอะเกินจำนวนที่ต้องการ
อาจารย์ต้องสุ่มนักเรียน 3 คนไปเป็นอีกโรงเรียนหนึ่ง
===========================================
‣1ใน3คนนั้นคือผมและเพื่อนอีกสองคน ขณะที่เซ็นต์ยอมรับข้อตกลงเสร็จนี่
รู้สึกเหมือนเพลงของ Amagedon มันโหมขึ้นมาเลยครับวางปากกาออมสิน(ได้ฟรีมาจากธนาคาร)
อย่างสโลว์โมชั้นและหันไปมองพระอาทิตย์เหนือเสาธงอย่างช้าๆพร้อมกับคิดว่าชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว..
===========================================
‣หลังจากจากเปิดเทอมขึ้น ม.ต้นปี1 ได้ไม่นานก็ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนทั้งสองได้ลาออกไปเรียนต่างประเทศแล้ว..
===========================================
‣จบ...
‣ตอนนั้นผมนี่รู้สึกว่าไม่แฟร์มากๆ
===========================================
‣เย็นวันหนึ่งเพื่อนมาถาม"แกเป็นบ้าอะไรเนี่ยพึมพำๆอยู่คนเดียวทั้งวัน"
===========================================
‣จบ
===========================================
‣อันนี้จบจริงคือหลังจากโดนด่าว่าบ้าเราเลยเริ่มคิดได้ เห้ย!เบอร์ติดต่อเราก็มี
ดีไม่ดีโรงเรียนมันน่าจะใกล้กันด้วย(แต่ไม่รู้ทำไมตอนนั้นมันรู้สึกดราม่ามากๆ)
เลยตัดสินใจเป็นเด็กกิจกรรมแอบเหลือบๆดูมีรายชื่อไปโรงเรียนเดียวกับเราทำไมมันเยอะจังวะ?
===========================================
‣สรุปเราโดนเพื่อนหลอก
===========================================
‣วันประกาศ คนเลือกไปเรียนไปเป็นเด็กกิจกรรมเยอะเกินจำนวนที่ต้องการ
อาจารย์ต้องสุ่มนักเรียน 3 คนไปเป็นอีกโรงเรียนหนึ่ง
===========================================
‣1ใน3คนนั้นคือผมและเพื่อนอีกสองคน ขณะที่เซ็นต์ยอมรับข้อตกลงเสร็จนี่
รู้สึกเหมือนเพลงของ Amagedon มันโหมขึ้นมาเลยครับวางปากกาออมสิน(ได้ฟรีมาจากธนาคาร)
อย่างสโลว์โมชั้นและหันไปมองพระอาทิตย์เหนือเสาธงอย่างช้าๆพร้อมกับคิดว่าชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว..
===========================================
‣หลังจากจากเปิดเทอมขึ้น ม.ต้นปี1 ได้ไม่นานก็ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนทั้งสองได้ลาออกไปเรียนต่างประเทศแล้ว..
===========================================
‣จบ...
===========================================
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ