The Hacker.
9.8
เขียนโดย katzee
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.02 น.
2 chapter
5 วิจารณ์
5,723 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 13.32 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘เกิดเหตุประท้วงสิทธิมนุษยชนของเหล่าบรรดาประชาชนที่ได้ถือป้ายประท้วงต่อหน้าทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่มีนักแฮกเกอร์คนหนึ่งได้เผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดขององค์กรนาซ่าที่เก็บเอาไว้มานับ 1 ศตวรรษ ผู้คนเหล่านั้นต่างออกปากปกป้องให้กับเขาที่ตอนนี้กลายเป็นฮีโร่สำหรับพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังไปคุ้มกันเจ้าหน้าที่ที่ทำงานภายในทำเนียบให้ปลอดภัย หากมีความคืบหน้าจะกล่าวรายงานอีกครั้งหนึ่งคะ’
“ให้ตายสิ นายนี่มันกลายเป็นคนดังไปซะแล้ว” มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นอยู่ข้างตัวก่อนจะรู้สึกเหมือนแรงกระแทกบางอย่างปิดเสียงรายงานข่าวนั่น
“อือ”เจอเรมีกระพริบตาเพื่อปรับความพร่ามัวออกไป ก่อนจะตกใจผงะหัวไปชนเข้ากับประตูฝั่งที่เขานั่งเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากกำลังบังคับพวงมาลัยจดจ่ออยู่กับถนนข้างหน้า เวรอะไรอีกละเนี่ยเขาคิดอยู่ในใจพลางควานหาโทรศัพท์แต่ก็ต้องสบถลั่นเมื่อแผลที่สีข้างออกฤทธิ์อีกแล้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอก อยู่กับฉันปลอดภัยกว่า” เธอคนนั้นพลางชูมันให้เขาดูและเก็บไว้ในเสื้อตามเดิม
“กำลังพาผมไปไหน” เขาถามทั้งๆที่มือก็ยังกุมที่บาดแผล
“กรุงวอชิงตัน ดีซี พวกของฉันรออยู่ที่นั่น”
เมื่อรถถูกเบรกกะทันหันทำให้เจอเรมีมองเหตุการณ์อยู่ตรงหน้าที่มีเจ้าหน้าที่มากันประชาชนให้ออกไปและยิงโต้ตอบกันราวกับไม่ได้เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
“ลงมาเร็วเข้า” เธอคนนั้นบอกพลางชักปืนรอเขาอยู่ข้างรถ เมื่อเขารีบลงมาเธอก็ดันเขาไปอีกทางที่อ้อมมาด้านหลังก่อนจะมุดเข้าที่ประตูหนึ่ง ด้านในบรรยากาศคล้ายๆทางลัด เธอคนนั้นเดินเข้าไปกดอะไรบางอย่างตรงข้างกำแพงเป็นแผงตัวเลขถ้าให้เดาคงจะเป็นรหัสผ่าน
ตึง มีบางอย่างเคลื่อนขึ้นมาจากด้านล่าง มันคงจะเป็นลิฟท์ที่มักใช้กันในองค์กรลับเขาเดินตามเข้าไปก่อนที่เธอคนนั้นจะกดสวิทช์มันก่อนจะมีเสียงสั่นแปลกๆก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดลงหลุม เจอเรมีรีบหาที่จับก่อนที่ลิฟท์นั่นจะกระแทกหยุดเมื่อชั้นที่ต้องการ
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือเหล่าผู้คนที่กำลังวิ่งสับกันไปมากลุ่มหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นต่างหยุดการกระทำของตนพลางมองเขาที่มีสภาพไม่จืดเท่าไหร่
“ยินดีต้อนรับพ่อหนุ่ม ฉันชื่อจอร์จ เลวิท”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจับที่ไหล่เขาก่อนจะยื่นมือเพื่อขอเช็คแฮนด์
“ผมเจอเรมี แจ็คสัน”เขาตอบกลับพลางเขย่ามือ
“อา ฉันรู้ มาทุกคน ตอนนี้เราได้ฮีโร่ของเราครบทุกคนแล้ว เราจะได้จบภารกิจนี้ซะที”ทุกคนปรบมือให้นั่นทำให้เจอเรมียืนงงพลางรีบหันไปมองผู้หญิงที่พาเขามาได้เดินลับหายไป
“มาเจอเรมี ฉันจะพานายไปรู้จักกับเพื่อนคนอื่น พวกเขากำลังรอนายอยู่” จอร์จพูดพลางดันหลังเขาเดินผ่านกลุ่มคนที่นั่งทำงานกันวุ่น เท่าที่เขาเห็นส่วนมากจะเห็นพวกเขามีแต่ภาพกาแล็คซี่ต่างๆและสัตว์ประหลาดรวมถึงภาพคนทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาแต่พอเขาจะมองให้ถนัดก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อถูกดึงเข้าไปในห้องๆหนึ่งที่มีผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเขาทั้งหมด 5 คน
“ไง”หนึ่งในนั้นเอ่ยทักทายเขาก่อนจะก้มหัวลงง่วนอยู่กับคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อ
“ไม่ต้องสงสัย ฉันอยากให้เธอมาช่วยแกะรหัสลับรหัสหนึ่งแล้วแปลงเป็นข้อมูลให้เรา” จอร์จพูดพลางเดินนำเขาไปยังโต๊ะว่างโต๊ะหนึ่งที่มีอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์เพียบ
“แล้วผมจะทำมันไปทำไม ได้อะไร”เจอเรมีถามพลางกระแทกนั่งลงกับเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานจำเป็นของเขา
“ได้ช่วยโลกไว้ยังไงละ 100ปีมานี้โลกเราเจอปัญหามามากซึ่งนั่นก็มีส่วนที่มนุษย์เป็นคนทำแต่พวกเราดันไปเจอกับสัญญาณแปลกๆมันถูกเข้ารหัสไว้หลายชั้นมาก ซึ่งเราต้องพึ่งคนเก่งอย่างเธอและคิดว่ามันคือคำตอบที่จะได้รับรู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับอะไร”
“พวกเราเชื่อว่า มันเป็นฝีมือเพื่อนร่วมกาแล็คซี่ของเรา”เธอคนนั้น ได้เปลี่ยนชุดเป็นเครื่องหนังสีดำเอ่ยขึ้นจากข้างหลังเขา
“อา นี่คือ อลิซ เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ผันตัวมาเป็นสายลับให้กับเรา”จอร์จเอ่ย
“คุณกำลังหมายถึง พวกมนุษย์ต่างดาวจ้องจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โลกเราทั้งใบงั้นเหรอ”เจอเรมีกล่าวด้วยความตกใจ
“ใช่แล้ว”อลิซตอบ พลางหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่เธอเผลอติดมาด้วยก่อนจะเปิดเสื้อดูแผลของเขา
“อลิซจะเป็นช่วยเธอนะเจอเรมี เดี๋ยวฉันแวะมาหาอีกครั้งเมื่อได้ข่าวดี” จอร์จพูดพลางเดินออกไปจากห้องเจอเรมีมองตามก่อนจะเผลอร้องออกมาเมื่อเห็นอลิซแตะสำลีที่ชุ่มไปด้วยแอลกอฮอลล์ล้างแผลบนแผล
“ดีนะ ที่แผลไม่ลึกมาก แค่กินยาเท่านั้นแต่ฉันแนะนำให้ฉีดยาเลยจะดีกว่า เพราะนายมีหน้าที่ช่วยเรากอบกู้โลก เราต้องการข้อมูลนั้นให้เร็วที่สุดก่อนมันจะสายเกินไป” อลิซกล่าวพลางเดินหายไปกลับมาพร้อมกับเข็มฉีดยา
“โอ้ย” เจอเรมีร้องอีกรอบเมื่อเข็มถูกดึงออกหลังจากฉีดเข้าที่แขนพับ
“ฉันจะให้พยาบาลมาพันแผลให้นาย หลังจากชั่วโมงหนึ่งเราจะมาลุยงานกัน”อลิซกล่าวพลางเดินถือกล่องปฐมพยาบาลหายไปอีกรอบ
“กอบกู้โลกเหรอ ฉันไม่ใช่ฮีโร่ใน ดิ อเวนเจอร์สซะหน่อย”เขาพึมพำ
“ใช่ เราตอนนี้ก็คล้ายพวกชิลด์นั่นแหละ ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันใช่ไหมละ และฉันคิดว่าอลิซคงจะเป็นแบล็ค วินโดว” ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับโต๊ะเขา หันมาตอบพลางขยิบตาใส่ ก่อนจะรีบง่วนอยู่กับงานตัวเอง เมื่อเห็นอลิซเดินมาพร้อมกับแฟ้มบางอย่างสองสามแฟ้ม
ผมคิดว่าพวกเขาก็เป็นคนดีนะ แต่บุ่มบ่ามมากเกินไปหน่อย ทำให้ผมกลัวตายมากขึ้นไปอีกขณะที่ตอนนี้คนทั้งโลกก็อยู่ในกำมือของผม พวกเขาให้ความหวังกับผม
เชื่อมั่นในฝีมือของผม ผมอยู่ที่นี่มาสองวันแล้วพลางโดนยัดข้อมูลใส่หัวตลอดเวลาที่คุณๆคิดว่าโลกนี้จะถึงจุดจบหรือไม่ เป็นบางครั้งที่เราจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองอย่างแน่นอนในชีวิตนี้ เมื่อมันเกิดย่อมต้องมีตาย
เปรียบเสมือนการกำเนิดดาวเคราะห์ที่มันมีเกิดก็ต้องมีแตกดับตามกฎของเอกภพที่วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีจบสิ้น ผมรู้ว่าเราไม่ได้มีศัตรูเพียงคนบนโลกแต่รวมถึงศัตรูที่อยู่นอกโลกด้วยซึ่งเราต่างก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาดีหรือร้าย
นั่นเราสรุปกันไม่ได้หรอก แต่พวกเขาก็มีพรรคพวกเหมือนพวกเราแถมฉลาดกันด้วยซ้ำซึ่งข้อพิพาทนี้เราควรจะคิดปลอบใจตัวเอง
และผมก็ยังนั่งปวดหัวกับรหัสตรงหน้าที่แล่นผ่านหน้าตาจนผมชักจะเวียนหัวแต่เพราะผมมีกำลังใจดีๆจากประชาชนทั่วโลก เราไม่สามารถทำนายได้ว่าโลกนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี้
“เย้ ฉันได้แล้ว ทุกคน ผมทำได้แล้ว” เจอเรมีกระโดดลุกขึ้นจากโต๊ะตะโกนร้องลั่นหลังจากนั่งจมปลักอยู่กับมันมาราวๆหนึ่งอาทิตย์
“ขอฉันดูหน่อย” จอร์จเดินเข้ามาดูตรงหน้าคอมพิวเตอร์ที่มีสายระโยงระยางต่างๆเชื่อมต่อกันจนแทบจะเป็นปม
“โอ ไม่นะ” จอร์จเอ่ยขึ้นเบาๆ
“มีอะไรหรือ” อลิซเอ่ยถามพลางแทรกคนที่อยู่ในห้องเข้ามา
“ฉันดูแล้วได้ ตัวเลข 5 14 4 นายเก่งมากเลยเจอเรมี” จอร์จตบบ่าพลางกอดเขา
“แต่มันดูแปลกๆนะ รหัสแบบนี้” อลิซพูดพลางนั่งดูสำรวจและอัพโหลดข้อมูลที่ถูกเปิดผนึกออกมาโดยฝีมือของเจอเรมี
“ทำไมเหรอ” เจอเรมีรีบเข้าไปดูพลางเห็นอลิซจดตัวอักษรแปลกๆยาวเหยียด
“ตรงนี้ให้อลิซจัดการ ฉันว่าเธอควรจะดีใจ มีใครคนหนึ่งที่สำคัญมากมาพบเธอ” จอร์จดันตัวเขาออกมาทั้งๆที่สายตาของเจอเรมียังจดจ้องอยู่กับอลิซที่มีใบหน้าเคร่งเครียดจากรหัสซึ่งเขาแปลงออกมาได้
เขาเดินออกไปจากห้องเพื่อไปยังห้องเจ้าหน้าที่ที่รวมกันอยู่ที่นั่นทำให้เขาเห็นร่างอันคุ้นเคยกับสีผมที่ไม่ต่างไปจากเขา
“เจอร์” นาตาชาโผเข้ามากอดน้องชายสุดที่รักของตัวเองด้วยความคิดถึง
“นาตาชาผมคิดถึงพี่มากเลยรู้ไหม” เจอเรมีกระชับอ้อมกอดแน่นพลางดันตัวเธอออกเมื่อเห็นลุคที่แปลกไปจากธรรมดาของเธอ
“คงจะรู้คำตอบแล้วใช่ไหมว่าพี่ทำงานอะไร” นาตาชาตอบยิ้มๆ
“สวัสดีครับ คุณนาตาชา แจ็คสัน เราเห็นผลงานคุณมามากรวมถึงน้องชายคุณด้วยเขาฉลาดและช่วยโลกไว้มาก” จอร์จเดินเข้าแนะนำตัวและเอ่ยปากชม
“ขอบคุณคะ ถ้าคิดจะยืมตัวน้องชายฉัน ก็ขอกันดีๆก็ได้นะคะ ” นาตาชายังมีน้ำเสียงไม่พอใจแต่ก็ตามฉบับของเธอที่ยังคุมความเย็นชาไว้
“พวกเขาเป็นคนดี ผมเห็นถึงความจริงใจของพวกเขา” เจอเรมีพูดแทรกเพื่อไม่ให้เกิดสงครามประสาท
“แต่ถ้าขาดเธอไป โลกนี้ก็ยังเป็นปริศนากับพวกเรา” จอร์จหันมายิ้มให้กับเขา
“ถึงเราจะแก้ปริศนาได้ แต่ดูออกมาไม่ค่อยแฮปปี้เอนดิ้งเท่าไหร่นะสิ” อลิซเอ่ยขึ้นจากข้างหลัง สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าเป็นเรื่องทุกข์ใจระดับภัยร้ายแรงต่อโลก
“มีอะไรหรืออลิซ เธอได้คำใบ้ว่ายังไง”
“ตามฉันมา” อลิซบอกจอร์จพลางรีบเข้าไปที่ห้องทำงานของเขา
“คนพวกนั้น พี่ให้ทางองค์กรจัดการแล้ว แถมยังสกัดกั้นข้อมูลที่เธอแฮกมาได้ทัน” นาตาชาเอ่ยขึ้น
“ดีแล้วครับ ผมว่าบางทีคนทั้งโลกก็ควรจะได้รับการปกป้อง”คำพูดนั่นทำให้เจอเรมีเบี่ยงเบนความสนใจจากอลิซมาได้
หลังจากไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อลิซกับจอร์จต่างเดินออกมารวมกันที่ห้องโถงใหญ่ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ประจำทุกโต๊ะต่างลุกขึ้นมาเพื่อที่จะมาดูการวางแผนครั้งใหม่ของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น” นาตาชาพึมพำเมื่อขอพาน้องชายกลับไม่ได้จนติดแหงก พลางมองอลิซรัวแป้นพิมพ์อยู่ชั่วครู่ ก็มีภาพบางอย่างปรากฏอยู่ที่จอยักษ์พวกเขา ซึ่งมันเป็นภาพที่โลกของพวกเราปรากฏอยู่ที่ถูกถ่ายจากที่ไกลแสนไกล
“โอ พระเจ้า โลกเราจะเกิดสงคราม” เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างพูดกันดังระงมและมีสีหน้าไม่ตกกับรหัสลับจากศัตรูนอกโลก
“ฉันแปลงมันได้เป็นอักษรตรงตามภาษาของเรา ก็คือ ตัว E N D ฉันตรวจหลายรอบแล้วและคิดว่ามันคงมีปัญหาใหญ่ตามมา”
“จุดจบงั้นเหรอ แล้วจะเอายังไงต่อกับมัน” เจอเรมีถามอลิซ ทุกสายตาต่างจดจ้องไปที่เขา
“สู้ ฉันจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งทุกองค์กรเพื่อขอความร่วมมือ” เพียงคำเดียวของเธอทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงเมื่อผลที่ตามมามันต้องเกิดปัญหาครั้งใหญ่หรือการกวาดล้างโลก
“พวกคุณกลับบ้านได้ ทางเราขอขอบคุณจากความร่วมมือของพวกคุณ” จอร์จเข้ามาพลางเอ่ยลาก่อนจะสวมกอดเจอเรมีเป็นครั้งสุดท้าย
“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยอีก ก็บอกผมได้” เจอเรมีกล่าว
“เราขอเธอมามากแล้วพ่อหนุ่มน้อย เรายินดีตอบแทนคำขอบคุณของพวกเรา” นาตาชาพยักหน้าพลางรีบพาเจอเรมีออกปากที่นี่
หลังจากครั้งสุดท้ายในวันที่ที่เขาจากมา ทุกอย่างที่เขาก่อยังปิดเป็นความลับ รวมถึงข่าวยังไม่รั่วไหลในเรื่องของปัญหาครั้งใหญ่จากรหัสคำว่าจุดจบ บัญชีของเขาถูกมีเงินมหาศาลมากมายพร้อมกับมีพัสดุส่งมาแสดงคำขอบคุณจากจอร์จหัวหน้าองค์กรที่เขาได้ไปช่วย
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร โลกของเราก็ต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ที่กำลังตามมาในอนาคต เทคโนโลยีจะเติบโตขึ้น ตอนนี้เพียงรอคอย พวกเรายินดีที่จะสู้พร้อมกับหายนะ เพราะเขารู้ดี
……………………..100ปีจากนี้……………………..โลกของเราคงไม่เหมือนเดิม……………….
“ให้ตายสิ นายนี่มันกลายเป็นคนดังไปซะแล้ว” มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นอยู่ข้างตัวก่อนจะรู้สึกเหมือนแรงกระแทกบางอย่างปิดเสียงรายงานข่าวนั่น
“อือ”เจอเรมีกระพริบตาเพื่อปรับความพร่ามัวออกไป ก่อนจะตกใจผงะหัวไปชนเข้ากับประตูฝั่งที่เขานั่งเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากกำลังบังคับพวงมาลัยจดจ่ออยู่กับถนนข้างหน้า เวรอะไรอีกละเนี่ยเขาคิดอยู่ในใจพลางควานหาโทรศัพท์แต่ก็ต้องสบถลั่นเมื่อแผลที่สีข้างออกฤทธิ์อีกแล้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอก อยู่กับฉันปลอดภัยกว่า” เธอคนนั้นพลางชูมันให้เขาดูและเก็บไว้ในเสื้อตามเดิม
“กำลังพาผมไปไหน” เขาถามทั้งๆที่มือก็ยังกุมที่บาดแผล
“กรุงวอชิงตัน ดีซี พวกของฉันรออยู่ที่นั่น”
เมื่อรถถูกเบรกกะทันหันทำให้เจอเรมีมองเหตุการณ์อยู่ตรงหน้าที่มีเจ้าหน้าที่มากันประชาชนให้ออกไปและยิงโต้ตอบกันราวกับไม่ได้เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
“ลงมาเร็วเข้า” เธอคนนั้นบอกพลางชักปืนรอเขาอยู่ข้างรถ เมื่อเขารีบลงมาเธอก็ดันเขาไปอีกทางที่อ้อมมาด้านหลังก่อนจะมุดเข้าที่ประตูหนึ่ง ด้านในบรรยากาศคล้ายๆทางลัด เธอคนนั้นเดินเข้าไปกดอะไรบางอย่างตรงข้างกำแพงเป็นแผงตัวเลขถ้าให้เดาคงจะเป็นรหัสผ่าน
ตึง มีบางอย่างเคลื่อนขึ้นมาจากด้านล่าง มันคงจะเป็นลิฟท์ที่มักใช้กันในองค์กรลับเขาเดินตามเข้าไปก่อนที่เธอคนนั้นจะกดสวิทช์มันก่อนจะมีเสียงสั่นแปลกๆก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดลงหลุม เจอเรมีรีบหาที่จับก่อนที่ลิฟท์นั่นจะกระแทกหยุดเมื่อชั้นที่ต้องการ
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือเหล่าผู้คนที่กำลังวิ่งสับกันไปมากลุ่มหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นต่างหยุดการกระทำของตนพลางมองเขาที่มีสภาพไม่จืดเท่าไหร่
“ยินดีต้อนรับพ่อหนุ่ม ฉันชื่อจอร์จ เลวิท”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจับที่ไหล่เขาก่อนจะยื่นมือเพื่อขอเช็คแฮนด์
“ผมเจอเรมี แจ็คสัน”เขาตอบกลับพลางเขย่ามือ
“อา ฉันรู้ มาทุกคน ตอนนี้เราได้ฮีโร่ของเราครบทุกคนแล้ว เราจะได้จบภารกิจนี้ซะที”ทุกคนปรบมือให้นั่นทำให้เจอเรมียืนงงพลางรีบหันไปมองผู้หญิงที่พาเขามาได้เดินลับหายไป
“มาเจอเรมี ฉันจะพานายไปรู้จักกับเพื่อนคนอื่น พวกเขากำลังรอนายอยู่” จอร์จพูดพลางดันหลังเขาเดินผ่านกลุ่มคนที่นั่งทำงานกันวุ่น เท่าที่เขาเห็นส่วนมากจะเห็นพวกเขามีแต่ภาพกาแล็คซี่ต่างๆและสัตว์ประหลาดรวมถึงภาพคนทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาแต่พอเขาจะมองให้ถนัดก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อถูกดึงเข้าไปในห้องๆหนึ่งที่มีผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเขาทั้งหมด 5 คน
“ไง”หนึ่งในนั้นเอ่ยทักทายเขาก่อนจะก้มหัวลงง่วนอยู่กับคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อ
“ไม่ต้องสงสัย ฉันอยากให้เธอมาช่วยแกะรหัสลับรหัสหนึ่งแล้วแปลงเป็นข้อมูลให้เรา” จอร์จพูดพลางเดินนำเขาไปยังโต๊ะว่างโต๊ะหนึ่งที่มีอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์เพียบ
“แล้วผมจะทำมันไปทำไม ได้อะไร”เจอเรมีถามพลางกระแทกนั่งลงกับเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานจำเป็นของเขา
“ได้ช่วยโลกไว้ยังไงละ 100ปีมานี้โลกเราเจอปัญหามามากซึ่งนั่นก็มีส่วนที่มนุษย์เป็นคนทำแต่พวกเราดันไปเจอกับสัญญาณแปลกๆมันถูกเข้ารหัสไว้หลายชั้นมาก ซึ่งเราต้องพึ่งคนเก่งอย่างเธอและคิดว่ามันคือคำตอบที่จะได้รับรู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับอะไร”
“พวกเราเชื่อว่า มันเป็นฝีมือเพื่อนร่วมกาแล็คซี่ของเรา”เธอคนนั้น ได้เปลี่ยนชุดเป็นเครื่องหนังสีดำเอ่ยขึ้นจากข้างหลังเขา
“อา นี่คือ อลิซ เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ผันตัวมาเป็นสายลับให้กับเรา”จอร์จเอ่ย
“คุณกำลังหมายถึง พวกมนุษย์ต่างดาวจ้องจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โลกเราทั้งใบงั้นเหรอ”เจอเรมีกล่าวด้วยความตกใจ
“ใช่แล้ว”อลิซตอบ พลางหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่เธอเผลอติดมาด้วยก่อนจะเปิดเสื้อดูแผลของเขา
“อลิซจะเป็นช่วยเธอนะเจอเรมี เดี๋ยวฉันแวะมาหาอีกครั้งเมื่อได้ข่าวดี” จอร์จพูดพลางเดินออกไปจากห้องเจอเรมีมองตามก่อนจะเผลอร้องออกมาเมื่อเห็นอลิซแตะสำลีที่ชุ่มไปด้วยแอลกอฮอลล์ล้างแผลบนแผล
“ดีนะ ที่แผลไม่ลึกมาก แค่กินยาเท่านั้นแต่ฉันแนะนำให้ฉีดยาเลยจะดีกว่า เพราะนายมีหน้าที่ช่วยเรากอบกู้โลก เราต้องการข้อมูลนั้นให้เร็วที่สุดก่อนมันจะสายเกินไป” อลิซกล่าวพลางเดินหายไปกลับมาพร้อมกับเข็มฉีดยา
“โอ้ย” เจอเรมีร้องอีกรอบเมื่อเข็มถูกดึงออกหลังจากฉีดเข้าที่แขนพับ
“ฉันจะให้พยาบาลมาพันแผลให้นาย หลังจากชั่วโมงหนึ่งเราจะมาลุยงานกัน”อลิซกล่าวพลางเดินถือกล่องปฐมพยาบาลหายไปอีกรอบ
“กอบกู้โลกเหรอ ฉันไม่ใช่ฮีโร่ใน ดิ อเวนเจอร์สซะหน่อย”เขาพึมพำ
“ใช่ เราตอนนี้ก็คล้ายพวกชิลด์นั่นแหละ ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันใช่ไหมละ และฉันคิดว่าอลิซคงจะเป็นแบล็ค วินโดว” ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับโต๊ะเขา หันมาตอบพลางขยิบตาใส่ ก่อนจะรีบง่วนอยู่กับงานตัวเอง เมื่อเห็นอลิซเดินมาพร้อมกับแฟ้มบางอย่างสองสามแฟ้ม
ผมคิดว่าพวกเขาก็เป็นคนดีนะ แต่บุ่มบ่ามมากเกินไปหน่อย ทำให้ผมกลัวตายมากขึ้นไปอีกขณะที่ตอนนี้คนทั้งโลกก็อยู่ในกำมือของผม พวกเขาให้ความหวังกับผม
เชื่อมั่นในฝีมือของผม ผมอยู่ที่นี่มาสองวันแล้วพลางโดนยัดข้อมูลใส่หัวตลอดเวลาที่คุณๆคิดว่าโลกนี้จะถึงจุดจบหรือไม่ เป็นบางครั้งที่เราจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองอย่างแน่นอนในชีวิตนี้ เมื่อมันเกิดย่อมต้องมีตาย
เปรียบเสมือนการกำเนิดดาวเคราะห์ที่มันมีเกิดก็ต้องมีแตกดับตามกฎของเอกภพที่วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีจบสิ้น ผมรู้ว่าเราไม่ได้มีศัตรูเพียงคนบนโลกแต่รวมถึงศัตรูที่อยู่นอกโลกด้วยซึ่งเราต่างก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาดีหรือร้าย
นั่นเราสรุปกันไม่ได้หรอก แต่พวกเขาก็มีพรรคพวกเหมือนพวกเราแถมฉลาดกันด้วยซ้ำซึ่งข้อพิพาทนี้เราควรจะคิดปลอบใจตัวเอง
และผมก็ยังนั่งปวดหัวกับรหัสตรงหน้าที่แล่นผ่านหน้าตาจนผมชักจะเวียนหัวแต่เพราะผมมีกำลังใจดีๆจากประชาชนทั่วโลก เราไม่สามารถทำนายได้ว่าโลกนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี้
“เย้ ฉันได้แล้ว ทุกคน ผมทำได้แล้ว” เจอเรมีกระโดดลุกขึ้นจากโต๊ะตะโกนร้องลั่นหลังจากนั่งจมปลักอยู่กับมันมาราวๆหนึ่งอาทิตย์
“ขอฉันดูหน่อย” จอร์จเดินเข้ามาดูตรงหน้าคอมพิวเตอร์ที่มีสายระโยงระยางต่างๆเชื่อมต่อกันจนแทบจะเป็นปม
“โอ ไม่นะ” จอร์จเอ่ยขึ้นเบาๆ
“มีอะไรหรือ” อลิซเอ่ยถามพลางแทรกคนที่อยู่ในห้องเข้ามา
“ฉันดูแล้วได้ ตัวเลข 5 14 4 นายเก่งมากเลยเจอเรมี” จอร์จตบบ่าพลางกอดเขา
“แต่มันดูแปลกๆนะ รหัสแบบนี้” อลิซพูดพลางนั่งดูสำรวจและอัพโหลดข้อมูลที่ถูกเปิดผนึกออกมาโดยฝีมือของเจอเรมี
“ทำไมเหรอ” เจอเรมีรีบเข้าไปดูพลางเห็นอลิซจดตัวอักษรแปลกๆยาวเหยียด
“ตรงนี้ให้อลิซจัดการ ฉันว่าเธอควรจะดีใจ มีใครคนหนึ่งที่สำคัญมากมาพบเธอ” จอร์จดันตัวเขาออกมาทั้งๆที่สายตาของเจอเรมียังจดจ้องอยู่กับอลิซที่มีใบหน้าเคร่งเครียดจากรหัสซึ่งเขาแปลงออกมาได้
เขาเดินออกไปจากห้องเพื่อไปยังห้องเจ้าหน้าที่ที่รวมกันอยู่ที่นั่นทำให้เขาเห็นร่างอันคุ้นเคยกับสีผมที่ไม่ต่างไปจากเขา
“เจอร์” นาตาชาโผเข้ามากอดน้องชายสุดที่รักของตัวเองด้วยความคิดถึง
“นาตาชาผมคิดถึงพี่มากเลยรู้ไหม” เจอเรมีกระชับอ้อมกอดแน่นพลางดันตัวเธอออกเมื่อเห็นลุคที่แปลกไปจากธรรมดาของเธอ
“คงจะรู้คำตอบแล้วใช่ไหมว่าพี่ทำงานอะไร” นาตาชาตอบยิ้มๆ
“สวัสดีครับ คุณนาตาชา แจ็คสัน เราเห็นผลงานคุณมามากรวมถึงน้องชายคุณด้วยเขาฉลาดและช่วยโลกไว้มาก” จอร์จเดินเข้าแนะนำตัวและเอ่ยปากชม
“ขอบคุณคะ ถ้าคิดจะยืมตัวน้องชายฉัน ก็ขอกันดีๆก็ได้นะคะ ” นาตาชายังมีน้ำเสียงไม่พอใจแต่ก็ตามฉบับของเธอที่ยังคุมความเย็นชาไว้
“พวกเขาเป็นคนดี ผมเห็นถึงความจริงใจของพวกเขา” เจอเรมีพูดแทรกเพื่อไม่ให้เกิดสงครามประสาท
“แต่ถ้าขาดเธอไป โลกนี้ก็ยังเป็นปริศนากับพวกเรา” จอร์จหันมายิ้มให้กับเขา
“ถึงเราจะแก้ปริศนาได้ แต่ดูออกมาไม่ค่อยแฮปปี้เอนดิ้งเท่าไหร่นะสิ” อลิซเอ่ยขึ้นจากข้างหลัง สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าเป็นเรื่องทุกข์ใจระดับภัยร้ายแรงต่อโลก
“มีอะไรหรืออลิซ เธอได้คำใบ้ว่ายังไง”
“ตามฉันมา” อลิซบอกจอร์จพลางรีบเข้าไปที่ห้องทำงานของเขา
“คนพวกนั้น พี่ให้ทางองค์กรจัดการแล้ว แถมยังสกัดกั้นข้อมูลที่เธอแฮกมาได้ทัน” นาตาชาเอ่ยขึ้น
“ดีแล้วครับ ผมว่าบางทีคนทั้งโลกก็ควรจะได้รับการปกป้อง”คำพูดนั่นทำให้เจอเรมีเบี่ยงเบนความสนใจจากอลิซมาได้
หลังจากไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อลิซกับจอร์จต่างเดินออกมารวมกันที่ห้องโถงใหญ่ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ประจำทุกโต๊ะต่างลุกขึ้นมาเพื่อที่จะมาดูการวางแผนครั้งใหม่ของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น” นาตาชาพึมพำเมื่อขอพาน้องชายกลับไม่ได้จนติดแหงก พลางมองอลิซรัวแป้นพิมพ์อยู่ชั่วครู่ ก็มีภาพบางอย่างปรากฏอยู่ที่จอยักษ์พวกเขา ซึ่งมันเป็นภาพที่โลกของพวกเราปรากฏอยู่ที่ถูกถ่ายจากที่ไกลแสนไกล
“โอ พระเจ้า โลกเราจะเกิดสงคราม” เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างพูดกันดังระงมและมีสีหน้าไม่ตกกับรหัสลับจากศัตรูนอกโลก
“ฉันแปลงมันได้เป็นอักษรตรงตามภาษาของเรา ก็คือ ตัว E N D ฉันตรวจหลายรอบแล้วและคิดว่ามันคงมีปัญหาใหญ่ตามมา”
“จุดจบงั้นเหรอ แล้วจะเอายังไงต่อกับมัน” เจอเรมีถามอลิซ ทุกสายตาต่างจดจ้องไปที่เขา
“สู้ ฉันจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งทุกองค์กรเพื่อขอความร่วมมือ” เพียงคำเดียวของเธอทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงเมื่อผลที่ตามมามันต้องเกิดปัญหาครั้งใหญ่หรือการกวาดล้างโลก
“พวกคุณกลับบ้านได้ ทางเราขอขอบคุณจากความร่วมมือของพวกคุณ” จอร์จเข้ามาพลางเอ่ยลาก่อนจะสวมกอดเจอเรมีเป็นครั้งสุดท้าย
“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยอีก ก็บอกผมได้” เจอเรมีกล่าว
“เราขอเธอมามากแล้วพ่อหนุ่มน้อย เรายินดีตอบแทนคำขอบคุณของพวกเรา” นาตาชาพยักหน้าพลางรีบพาเจอเรมีออกปากที่นี่
หลังจากครั้งสุดท้ายในวันที่ที่เขาจากมา ทุกอย่างที่เขาก่อยังปิดเป็นความลับ รวมถึงข่าวยังไม่รั่วไหลในเรื่องของปัญหาครั้งใหญ่จากรหัสคำว่าจุดจบ บัญชีของเขาถูกมีเงินมหาศาลมากมายพร้อมกับมีพัสดุส่งมาแสดงคำขอบคุณจากจอร์จหัวหน้าองค์กรที่เขาได้ไปช่วย
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร โลกของเราก็ต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ที่กำลังตามมาในอนาคต เทคโนโลยีจะเติบโตขึ้น ตอนนี้เพียงรอคอย พวกเรายินดีที่จะสู้พร้อมกับหายนะ เพราะเขารู้ดี
……………………..100ปีจากนี้……………………..โลกของเราคงไม่เหมือนเดิม……………….
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ