NNN...1 แฟนหายในวันเปิดเทอม
เขียนโดย บัทเตอร์
วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.04 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 18.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) แก้ไขบทความครั้งที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความNNN...1
ณ โรงเรียนเสนานิคม หลังจากเริ่มต้นเดือนพฤษภาคม เหล่าบรรดาเด็กน้อยที่จบจากชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ต่างก็พากันเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้...เพราะเป็นโรงเรียนเอกที่มีชื่อเสียงในด้านการศึกษา
“พลอยจังไปซื้อขนมกันดีกว่า”
“ได้เวลาเข้าห้องเรียนแล้วนะ เธอยังจะไปซื้อขนมนมเนยอยู่อีกหรอ...?”
“ก็คนมันหิว”
“หิวมากๆ ระวังความอ้วนถามหานะแฟ เมื่อเช้าก็ทานข้าวต้มผักตั้งสี่ห้าจานไม่ใช่เหรอ...?”
“ก็ได้ๆ เข้าห้องเรียนก็ได้”
...
ณ ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ห้องที่ ๑ แห่งโรงเรียนเสนานิคม ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาห้องชื่อว่าอาจารย์ กนก อายุ ๒๔ ปี...เดินเข้ามาในห้องเรียน เพื่อเช็คชื่อและทำความรู้จักกับเหล่านักเรียนใหม่ทั้งหลาย
“เลขที่ ๑๕ เสาวลักษณ์”
“สวัสดีค่ะ หนูจบมาจากโรงเรียนวิริยะวิทยา ชื่อพลอย อายุ ๑๓ ปี ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“คนต่อไป...เลขที่ ๒๓ มัลลิกา”
“สวัสดีนะ หนูจบมาจากโรงเรียนวิริยะวิทยาเหมือนกันกับพลอยจัง มีชื่อว่าแฟ อายุยัง ๑๒ ปีอยู่เลย...ยะยินดีที่ได้รู้จักกันนะ”
“เป็นการแนะนำตัวที่ดีนะ”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์กนก”
“เอาล่ะคนต่อไป เด็กชายสิริพัฒน์ เลขที่ ๒๕”
“ชื่อเนย จบจากโรงเรียนพระนครวิทยา ยินดีที่ได้รู้จักนะพวกแก” สิริพัฒน์...เด็กหนุ่มที่มีสีหน้าราวปีศาจ ผมสีขาว ดวงตาสีแดงเข้ม ยืนขึ้นประกาศนามตัวเองแบบโคตรเถื่อน
“เอิ้ม พูดแนะนำตัวให้มันดีกว่านี้มีบ้างไหม...?” อาจารย์กนกและนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็ไม่พอใจในวาจาของพ่อหนุ่มคนที่ชื่อสิริพัฒน์เลยสักนิด
“เธออ่ะพูดจาคิดให้มันดีๆ หน่อย...ที่นี่มันโรงเรียนนะ”
“เอ่อ...”
“ดีล่ะ ออกไปยืนนอกห้องคนเดียวเลย ถ้าเธอพูดไม่สุภาพแบบนี้”
“เอ่อ...” สิริพัฒน์ลุกขึ้นจากโต๊ะนั่งท้ายสุดติดริมหน้าต่างแล้วก็เดินออกไปนอกห้อง...ส่วนเสาวลักษณ์เด็กสาวเริ่มเกิดความสงสัยกับคำพูดคำจาที่ฟังแล้วมาเข้าหูของสิริพัฒน์ ในขณะที่ดวงตากลมโตสีดำขลับคู่นั้นของเธอกำลังจ้องมองไปยังสิริพัฒน์ที่กำลังจะเดินออกนอกจากห้องไปอย่างช้าๆ
“เขาเป็นคนไม่ดีหรือเปล่านะ...? ทำไมเขาถึงพูดจาไม่เคารพอาจารย์แบบนั้น... เป็นเรา...เราไม่กล้าปากดีขนาดนี้เลยนะเนี่ย”
“พลอยจัง...สนใจคนแบบนั้นด้วยเหรอ...?” มัลลิกาเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เคยเรียนในโรงเรียนเดียวกันมาก่อน...ตอนสมัยที่เธออยู่ชั้นประถมศึกษา
“ฉันเปล่าสนใจอะไรเขาเลยนะแฟ”
“จะจริงเหร่อ...?”
“ทำไมกันนะ? เขาดูไม่เหมือนกับนักเรียนธรรมดาทั่วไปเลย”
“ไหนบอกว่าไม่ได้สนใจเขาคนนั้นไงพลอย...?”
...
“เอาล่ะทุกคน...มาแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ในห้องได้รู้จักกันต่อดีกว่า” อาจารย์กนกพูดตัดบท หลังจากเชิญนักเรียนที่ท่าทีนิสัยไม่ดีออกจากห้องไป
“ฉันจะคอยดูน้ำตาที่หลั่งไหลของแก” นอกห้องเรียน...สิริพัฒน์เด็กหนุ่มได้กล่าวขานถ้อยคำในจิตใจออกมาราวกับปีศาจที่กระหายน้ำอัดลม ๕๕๕+
“เอ๋...เมื่อกี้ใครพูด”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ อาจารย์...?”
...
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนทุกคนเริ่มหิวข้าว หลังจากที่ตั้งอกตั้งใจมาเรียนเขียนอ่าน...แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรกก็ตาม
“อาจารย์ค่ะ...หนูหิวข้าวแล้วนะคะ” มัลลิกาพูดขึ้นหลังจากดูเวลาว่ามันเลยเที่ยงมา ๑๕ นาทีแล้ว
“งั้นเรียนภาคเช้าเราพอแค่นี้นะ...เอาล่ะ ทุกคนไปพักรับประทานอาหารที่โรงอาหารได้”
“ขอบคุณครับ/ค่ะ อาจารย์” นักเรียนทุกคนกล่าวขอบคุณอาจารย์กนก แล้วพากันเดินออกจากห้องเรียนไป แต่มีเพียงสิริพัฒน์ที่ยังนั่งในห้องเรียนและกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่...?
...
ทางด้านเสาวลักษณ์และมัลลิกาต่างก็พากันกลับมายังห้องเรียน...หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว
“อาหารที่โรงอาหารไม่เห็นจะอร่อยเลย” มัลลิกาพูดขึ้นมาหลังจากที่ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าห้องเรียน เสาวลักษณ์ฟังเพื่อนรักพูดแบบนั้น เธอก็อดนึกถึงอาหารที่เคยรับประทานในโรงอาหารของโรงเรียนเก่าไม่ได้
“เอาอย่างนี้ดีไหมแฟ...? วันหลังเราสองคนห่อข้าวมากินที่โรงเรียนกัน”
“มันจะดีเหรอพลอยจัง...?” ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่หน้าห้องนานพอควรจวนปวดขา เสาวลักษณ์และมัลลิกาจึงตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องเรียน
“นะ! นายไม่ไปกินข้าวเหรอ...?” เสาวลักษณ์พูดขึ้นมาด้วยความตกใจราวกับเจอผี
“หือ...?” สิริพัฒน์ที่กำลังนั่งเขียนหนังสือลงในสมุดหันมองคนถาม
“พลอยจัง แน่ใจนะว่าจะคุยกับเขารู้เรื่องง่ะ” มัลลิกาสะกิดแขนเสาวลักษณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พวกเธอเป็นใครกัน...?”
“ก็เพื่อนร่วมห้องของนายไง” เสาวลักษณ์ตอบ ส่วนมัลลิกาได้แต่แอบยืนอยู่หลังเพื่อน...เพราะความกลัวในสีหน้าและแววตาของสิริพัฒน์
(แววตาและสีหน้าของเขาราวกับกำลังจะเขมือบตัวเราเข้าไปทั้งตัวงั้นแหละ) นี่คือสิ่งที่มัลลิกาคิด...
“เพื่อนร่วมห้องเหรอ...? ฉันจำไม่ได้ว่ามีเพื่อนเป็นปีศาจอย่างเธอ”
“ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจ...?” มัลลิกาที่เอาแต่หลับอยู่ข้างหลังของเสาวลักษณ์ดันเผลอพูดขึ้นมา แล้วรีบเอาไปแอบอยู่หลังเพื่อนตามเดิม...
(งานเข้าแล้วสิเรา...ดันเผลอหลุดปากพูดออกไปได้) และนี่คือสิ่งที่มัลลิกาคิดในตอนนี้...
“นายยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ หรือว่าไม่มีเงินซื้อ...?” เสาวลักษณ์ยังคงเปิดประเด็นถาม...ถามสิริพัฒน์ต่อไป
“เรื่องอะไรฉันต้องบอกยัยปีศาจอย่างเธอด้วยวะ” สิริพัฒน์พูดจบ...เขาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือต่อ
“พลอยจัง...ฉันว่าเลิกไปยุ่งกับมันเถอะ”
“อืมม”
...
ช่วงบ่ายอาจารย์กนกก็เข้ามาสอนไปเรื่อย นักเรียนทุกคนก็ตั้งใจเป็นพิเศษ...เพราะใกล้จะถึงเวลากลับบ้าน พอถึงวิชาภาษาไทยชั่วโมงสุดท้าย อาจารย์กนกก็พาพวกนักเรียนทั้งหลายแต่งกลอน...ก่อนจะให้จดงานจากหนังสือลงในสมุดอีกหลายหน้ากระดาษ
“เอาล่ะทุกคน...แต่งกลอนเสร็จแล้วใช่ไหม...? ต่อไปจดงานจากหนังสือภาษาไทยหน้า ๕ ถึงหน้า ๑๖ ลงในสมุดนะ”
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนในห้องพร้อมใจกันตอบ...แม้ว่างานที่อาจารย์กนกสั่งจะเยอะเกินไปก็ตาม แต่นักเรียนใหม่ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาเขียนงานที่อาจารย์กนกสั่งลงในสมุดอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า...!
“อาจารย์...นายคนที่นั่งอยู่ท้ายห้องริมขอบหน้าต่างตรงนั้น เห็นเขานั่งหลับมาตลอดคาบเรียนช่วงบ่ายเลยนะคะ”
“แล้วทำไมไม่รีบบอก...?”
“หนูลืมบอกคะ”
“อ้าว...” หลังจากที่นักเรียนสาวคนหนึ่ง...ยกมือขึ้นฟ้องอาจารย์กนกไปว่ามีคนแอบหลับในห้องเรียน สีหน้าของคนฟ้องดูเมื่อจะดี๊ด๊าเป็นพิเศษ ส่วนทางด้านสิริพัฒน์ก็นั่งหลับจริงๆ ไม่มีการเสแสร้งมาผสม อาจารย์กนกเมื่อรู้ว่าสิริพัฒน์แอบหลับอยู่ในห้องเรียนจริง...ก็เดินมายังโต๊ะของเขาทันที
“ถ้ามายุ่งกับฉัน...แล้วแกจะเสียใจ” สิริพัฒน์พึมพำในระหว่างที่กำลังหลับ...ทำให้อาจารย์กนกสาวสวยถึงกับสะดุ้งนิดๆ ก่อนที่อาจารย์ท่านฉุดคิดแล้วพูดออกไปว่า...
“เธอที่นี่มันห้องเรียนไม่ใช่ห้องนอนมาหลับได้ไง แล้วไหนที่อาจารย์สอนได้จดเอาไว้เปล่า...?” อาจารย์กนก...เปิดดูสมุดของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับ ก่อนที่จะเดินกลับไป...!
“อ้าว...? อาจารย์ไม่มีการลงโทษเขาเหรอคะ” เด็กสาวคนที่ยกมือขึ้นฟ้องศาลเตี้ยถึงกับงงกับการเดินจากไปของอาจารย์ ...เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ไงเนี่ย...? ที่อาจารย์ท่านไม่เอาความสิริพัฒน์ที่ตอนนี้ก็ยังนอนหลับไม่ไปไหนอยู่เช่นเดิม
“ก็ส่วนตัวอาจารย์เองไม่ลงโทษลูกศิษย์ที่ทำงานตามที่อาจารย์สั่งเสร็จแล้วหรอก”
“ได้ไงค่ะคุณอาจารย์กนก ก็เขาคนนั้นหลับมาตลาดเลยนะคะ”
“เมื่อกี้อาจารย์ไปดูสมุดจดงานของเขาแล้ว...ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมสมุดของเขาถึงได้มีงานที่อาจารย์พึ่งสั่งไปเมื่อครู่นี้ได้” เสาวลักษณ์เด็กสาวได้ฟังอาจารย์กนกพูดก็นึกถึง...ตอนที่เธอเดินเข้ามาถามสิริพัฒน์ ตอนนั้นเขากำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุด
“แท้ที่นายคนนั้นก็เขียนก่อนที่อาจารย์ท่านสั่งงานอีกเหรอ...? ทำไมเขาถึงรู้ล่ะว่าอาจารย์จะให้เขียนอะไรยังไง...?” เสาวลักษณ์เอ่ยพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
...
“เอาล่ะ ใครทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้” อาจารย์กนกพูดขึ้นหลังจากใกล้ถึงเวลา ๔ โมงเย็นของวันเปิดเรียนวันแรก
“โหยอาจารย์ให้จดงานตั้งเยอะ ใครจะไปทำเสร็จ...?” นักเรียนชายคนหนึ่งโวยวายขึ้น
“งั้นเอาอย่างนี้...ใครยังไม่เสร็จไปทำต่อเป็นการบ้าน สำหรับวันนี้แยกย้ายได้”
“อาจารย์ใจดีจังเลยครับ”
“เอิ้ม...ม่ะกี้ยังโวยวายอยู่ไม่ใช่เหรอ...?” เหล่านักเรียนใหม่ทั้งหลาย...เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์กนก ต่างพากันกักเก็บสมุดลงในกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้ในห้องมีเพียงสิริพัฒน์ที่ยังนอนหลับยาวจากบัดนั้นจนถึงบัดนี้...และอาจารย์กนกก็กำลังหากุญแจอันใหม่ที่พึ่งซื้อมาในกระเป๋าเพื่อทำการปิดห้องเรียน
“อาจารย์กำลังเจ้าตัวนี้อยู่หรือเปล่า...?” สิริพัฒน์ชูกุญแจขึ้น...
“มันไปอยู่ที่เธอได้ไง...?”
“ก็ไม่รู้สิ...ว่าแต่เลิกเรียนแล้วคุณอาจารย์คนสวยไปหาแฟนเถอะ แฟนอาจารย์มารอแล้วนะ” สิริพัฒน์พูดอย่างสุภาพกับอาจารย์กนกเป็นครั้งแรก...แต่คำพูดนั้นของเขามันแฝงอะไรบางอย่างที่เลวร้ายไว้อยู่เบื้องหลัง
“เธอรู้ได้ไงว่าวันนี้แฟนอาจารย์จะมารับ...?” อาจารย์กนกสาวสวยถามด้วยความสงสัยอีกตามเคย
“ฉันจะปิดห้องเอง แกไปได้แล้ว” อาจารย์กนกสาวสวยได้ฟังประโยคคำพูดนี้ถึงกับขนหัวลุก และเมื่อเห็นสีหน้าของสิริพัฒน์ที่ยิ้มแบบไม่เกรงใจใคร...อาจารย์สาวจึงรีบเดินออกจากห้องไปในทันที
...
อาจารย์กนกเดินลงมาด้านล่างของอาคารเรียนที่ ๑ เพื่อมายังแฟนที่นั่งรอในรถเก๋งสีดำ...ก่อนที่แฟนของอาจารย์สาวจะออกรถมุ่งหน้ากลับบ้าน
...แต่ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ออกจากหน้าโรงเรียนเสนานิคม สายตาของอาจารย์กนกแลไปเห็นสิริพัฒน์ที่จ้องมองเธออยู่ข้างทางหน้าโรงเรียน...!
“อะไรกันเด็กคนนั้น...ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้...?”
“เป็นอะไรเหรอ...?” แฟนของอาจารย์กนกเอ่ยถาม...
“อะอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก” อาจารย์กนกตอบด้วยแววตาและสีหน้าอันแสนจะตกใจ แต่เมื่อเธอหันไปมองสิริพัฒน์อีกครั้ง...อาจารย์สาวกลับมองไม่เห็นเงาของเขาเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่รถก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าเรื่อยๆ จวนจะข้ามถนนแล้วก็เลี้ยวซ้ายตรงเบื้องหน้า แต่ยังไม่ทันได้เลี้ยวเลย...
โครม...มมม
รถบรรทุกขนาดใหญ่ขับอย่างเร็วรวด...เข้ากระแทกอย่างเต็มแรงทางที่นั่งฝั่งคนขับ ทำให้แฟนของอาจารย์สาวดับคาที่...!
...
เสียงดังโครมเมื่อกี้รู้ไปถึงสิริพัฒน์ที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องคนเดียว...ก่อนที่เขาจะพึมพำออกมาเป็นคำพูดที่แสนกินใจไปว่า
“ว้าว...น่าเสียดายเหมือนกันแฮะ ที่ไม่ได้ไปดู” ว่าแล้วสิริพัฒน์ก็ลุกขึ้นปิดห้อง...ก่อนที่จะเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข และพอๆ กับที่รถโรงพยาบาลแล่นผ่านไป...เพื่อมารับอาจารย์กนกที่อาการบาดเจ็บสาหัสและเต็มไปด้วยความทุกข์...
โปรดติดตามตอนหน้า
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ