นิทานก่อนตาย

9.2

เขียนโดย ศรีสระหลวง

วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.25 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  6,477 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เพื่อนบ้าน ที่ไม่เคยอยู่บ้าน? (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ผมชื่อ "บุญทุย โอลิเวอร์" ลูกครึ่งขอนแก่น ร้อยเอ็ด เมื่อครั้งที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพ สิ่งแรกที่ผมจะต้องทำก่อนการออกหางานทำ ก็คือ "การหาที่ซุกหัวนอน" ใช่ครับ มันไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่จะต้องออกตะลอน ๆ หาห้องเช่าดี ๆ ราคาถูก ๆ ได้ในเมืองใหญ่ ๆ แบบนี้ เพราะที่นี่ผมไม่รู้จักใครเลย ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน และเงินที่มีอยู่ก็มีจำนวนจำกัด ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือใช้วิธีบ้าน ๆ โดยการเดินเท้าหาป้ายที่เขียนว่า "ห้องว่างให้เช่า" เท่านั้น
 
ผมนั่งรถไฟมาจากต่างจังหวัด แล้วคิดอยู่นานว่าจะลงที่สถานีไหนดี ที่คนจะไม่พลุกพล่านมากจนเกินไป เพราะผมเป็นโรคประหม่า เวลาที่ต้องอยู่กับผู้คนมากมายที่เบียดเสียดกัน ผมจะเหว๋อ และทำอะไรไม่ค่อยถูกทุกที เอาล่ะ... ผมเห็นแล้วว่าสถานีนี้ไม่ค่อยมีผู้คนจอแจสักเท่าไหร่ ผมจึงลงจากรถไฟที่สถานีรถไฟรังสิตนี่แหละ! ผมลงจากรถไฟด้วยย่างก้าวแรก ที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ว่าจะได้มีงานทำหาเลี้ยงปากท้องได้ แต่ท้องที่หิวกระหายของผมก็ร้องครวญครางเสียเหลือเกิน 
 
หลังจากที่ผมได้ข้าวผัดกะเพราหมูหนึ่งจาน และน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ผมก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินต่อไป เพื่อตามหาที่ซุกหัวนอนของผม ผมเดินไปไม่กี่เมตรก็ได้เจอกับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีบ้านชั้นเดียวอยู่หลายหลังติด ๆ กัน ผมจึงทำการเดินหาบ้านที่กำลังปล่อยเช่า ท่ามกลางอากาศที่ร้อนเหลือหลายของเดือนเมษา
 
เมื่อเดินมาจนเมื่อย ฝ่าทั้งหมาที่แสนจะดุร้าย และแสงแดดที่แผดเผา ผมก็เจอเข้าอยู่หลังหนึ่ง เป็นบ้านปูนชั้นเดียว พื้นที่ไม่ใหญ่อะไร ก็เพียงพอให้ไอ้หนุ่มบ้านนอกเข้ากรุงอย่างผมซุกหัวนอนได้อย่างสบาย แต่บริเวณรอบ ๆ ก็รกไปด้วยหญ้า วัชพืช หยากใย่ และฝุ่น ที่หน้าบ้านก็มีป้ายแขวนอยู่ เขียนด้วยปากกาเคมีสีน้ำเงินตัวโต ๆ ว่า "บ้านว่าง ให้เช่า ราคาถูก สนใจติดต่อ เจ๊แวว 089-xxx xxxx" นั่นประไร! ในที่สุดก็เจอจนได้ ผมจึงไม่ลังเลที่จะควักโทรศัพท์ออกมาโทรติดต่อขอเช่าบ้านทันที!
 
เจ๊แวว : ฮาโหลค่า า า...
 
บุญทุย : เอ่อ... สวัสดีครับ ผมชื่อบุญทุยนะครับ พอดีว่าผมเห็นป้ายให้เช่าบ้านที่หมู่บ้านที่รังสิตน่ะครับ ก็เลยสนใจอยากจะขอเช่าอยู่น่ะครับ
 
เจ๊แวว : (แกเงียบไปซักพัก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงใส่แจ๋วกว่าเดิม) อ๋อ อ อ อ ค่ะ ๆ ๆ ค่าเช่าเดือนละ 3000 บาทนะคะ แต่มีน้ำประปา ไฟฟ้า แอร์ พร้อมเลย ยังสนใจอยู่หรือเปล่าคะ?
 
บุญทุย : (ผมประหลาดใจอยู่นิด ๆ ที่ว่าทำไมบ้านในกรุงเทพถึงได้ราคาถูกแบบนี้ จริงอยู่ที่มันอาจจะเล็ก และรกรุงรังไปบ้าง แต่ถ้าทำความสะอาดดี ๆ มันก็ถือเป็นบ้านที่น่าอยู่เลยทีเดียว แต่ผมก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ แล้วสลัดมันทิ้งไปในที่สุด จะคิดอะไรมากมาย บ้านดี ราคาถูก ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่เอาบ้านหลังนี้ ก็ไม่รู้ว่าผมต้องเดินอีกกี่กิโลเมตรกว่าจะเจออีกหลัง) ครับ ๆ สนใจครับ แล้วต้องชำระเงินที่ไหนยังไงครับ?
 
หลังจากนั้นผมกับเจ๊แววแกก็ตกลงเรื่องราคา การโอนเงิน เลขที่บัญชีของเจ๊แก ซึ่งเจ๊แกบอกว่า พอโอนเงินปุ๊บ ก็จะตรงดิ่งมาหาผมที่บ้านปั๊บ เพื่อให้กุญแจ และทำสัญญาเช่าให้เสร็จสรรพ ผมตกลงว่าอยู่บ้านหลังนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะยังไม่มีแผนที่จะย้ายไปไหน แกจึงไม่เอาเงินมัดจำ และค่าเช่าล่วงหน้า จะว่าไปแกก็ใจดีนะ 
 
ผมเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อแถว ๆ นั้น ซึ่งมีตู้ ATM อยู่ พอโอนเงินเสร็จแล้ว เจ๊แววก็มาหาผมตามที่บอก ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที แกบอกว่าบ้านแกอยู่แถวนี้ เลยใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก แกเอากุญแจบ้านให้ผม แล้วให้เซ็นต์ชื่อในสัญญาเช่า ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี แต่ผมก็สังเกตเห็นว่า เจ๊แววแกมักจะเหลือบไปมองบ้านข้าง ๆ อยู่บ่อย ๆ ด้วยสายตาที่พิลึกพิลั่น และดูลุกลี้ลุกลนตั้งแต่วินาทีแรกที่แกมาหาผม
 
ผมจึงมองไปตามสายตาของเจ๊แก ก็เห็นเป็นบ้านชั้นเดียวเหมือนกันกับบ้านที่ผมเช่า แลดูสะอาดสะอ้าน ตกแต่งจุกจิกแต่เป็นระเบียบ เหมือนเป็นบ้านของผู้หญิง แต่ไม่เห็นว่ามีใครอยู่บ้านเลย ประตูถูกปิด และลงกลอนจากด้านนอก ทว่าต้นไม้ยังคงเขียวชอุ่ม ไม่มีวัชพืชตามพื้น ก็แสดงว่าบ้านนี้มีคนอยู่นั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่บ้าน ผมจึงหันกลับมาถามเจ๊แวว
 
บุญทุย : เจ๊ครับ... เจ๊มองอะไรเหรอครับ?
 
เจ๊แววสะดุ้งนิด ๆ แล้วหันมามองหน้าผม พร้อมกับยิ้มแหยง ๆ
 
เจ๊แวว : ไม่มีอะไรหรอก แค่ไม่ค่อยถูกกับคนบ้านนั้นน่ะ ก็เลยย้ายออกมา เจอกันทีไรนะ ทะเลาะกันทุกที! เลยต้องคอยดูว่าเขาอยู่บ้านหรือเปล่าเท่านั้นเอง!
 
บุญทุย : แล้วเจ้าของบ้านนั้นเขาเป็นใครเหรอครับ?
 
เจ๊แวว : อ๋อ เป็นสาวนักศึกษาน่ะ หน้าตาดี สวย แต่ไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก เช้าก็ไปเรียนหนังสือ พอเย็น ๆ ค่ำ ๆ กลับถึงบ้านซักพักก็เปลี่ยนชุดออกไปข้างนนอกอีกแล้ว ดึก ๆ ตีสองตีสามโน่นแหละถึงจะกลับเข้าบ้านอีกที คงเป็นสาวมหา'ลัยนักเที่ยวทั่วไปแหละ เธอเซ็นต์เสร็จแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นเจ๊ไปก่อนนะ ยังไงก็ดูแลบ้านให้ดี ๆ ล่ะ
 
ผมยิ้มรับคำเจ๊แววอย่างสุภาพ ก่อนจะมองเจ๊แกที่ค่อย ๆ ขี่รถออกไปจนไกลสายตา จากนั้นก็หันไปมอง "บ้านข้าง ๆ" แล้วความคิดผมก็แล่นขึ้นมา เออ จะว่าไปเราก็โสดอยู่นี่หว่า แล้วนักศึกษาสาวสวยด้วย แหม มันช่างน่ายัดเยียดความเป็นผัวให้เสียจริง ๆ เลยเชียว!

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา